เจ้าแม่กวนอิม คือ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร จริงหรือ?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย เอกอิสโร, 29 ตุลาคม 2009.

  1. Namushakamunibutsu

    Namushakamunibutsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,347
    ค่าพลัง:
    +2,618
    สาธุๆ คุณภราดรภาพครับ ผมต่างหากที่ต้องขออภัยคุณ
    ผมเด็กกว่าคุณเยอะครับ ล่วงเกินอะไรก็ให้อภัยกันนะครับ
    ผมทำไปเพราะไม่อยากให้ใครเข้าใจผิด
    คุณลองแปลคำว่า กวนชืออิน ที่ผมพิมพ์ไว้สิครับ
    ความหมายเดียวกันกับอวโลกิเตศวรเลย แปลด้วยพจนานุกรมจีนฉบับไหนก็ได้ครับ

    และอันที่จริง การเรียกพระโพธิสัตว์ ว่า เจ้าแม่ ถือว่าไม่สมควรอย่างมาก
    ควรจะเรียกท่านว่าพระโพธิสัตว์กวนอิม หรือเรียกว่า พระแม่กวนอิมก็ได้ครับ

    สาธุๆๆ ท่านทรงอารมณ์เมตตาเสมอครับ ยังเฝ้ารอวันพ้นทุกข์ของลูกๆทั้งหลาย
    จะพระโลเกศวร อวโลกิเตศวร พระกวนชืออิน ท่านก็คือองค์เดียวกัน
    พระโพธิสัตว์ที่ได้รับพระธารณีจากพระสัทธรรมวิทยาตถาคต
    พระโพธิสัตว์ผู้เมตตาหาที่สุดมิได้ โพธิสัตว์ผู้นอบน้อมแด่พระอมิตาภะพุทธเจ้าด้วยเศียรเกล้า บุญรักษาครับ
     
  2. Jexxy

    Jexxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    228
    ค่าพลัง:
    +437
    ถึงว่าสิ พี่ภราดร มะเช้า ป่ะป๊า มา พร้อม กัน 2 องค์ --* หมุนด้าน นึง อวโลกิเตศวร อีกด้าน เป็น ศิวะ

    -- วันนี้ มา หมุน อยู่ บน หัวหนู เนี่ยะ --* แต่เช้า
     
  3. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ตาดีจริงๆ ยอดๆ อย่าลืมวันนัดพบกันนะครับ อยากให้หาเพื่อน และญาติธรรม เขารอเราอยุ่
     
  4. Jexxy

    Jexxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    228
    ค่าพลัง:
    +437

    พี่ค๊ะ อย่าง งี้ นี่ ท่านประธาน หนู มา แล้ว ใช่มั้ย ค๊ะ

    --* จิต บอกว่า ท่านประธาน มา

    มาทีไร หนูจะ พูดกับ ใคร ไม่ได้เลย
    ปาก ไม่ขยับ คุยได้แต่ เรื่อง งาน เท่า นั้น --*
    แล้ว ก็ จะฟังแต่บทสวด
    แถม วันนั้น จะ ไม่ได้กินเนื้อสัตว์ ด้วย --*

    วันนัดพบ อยากไป แต่มีธุระ ค่ะ ไว้โอกาสหน้า ล่ะกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2009
  5. Jexxy

    Jexxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    228
    ค่าพลัง:
    +437

    อ้าว ลุงคนนี้ ยัง ไม่ หยุด นิ ^_^
     
  6. wt

    wt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2009
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +315
    ข้อความนี้ไงตัวตรงเลยเข้าใจง่ายไม่ต้องสงสัยอยู่
     
  7. สมรปราง

    สมรปราง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2008
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +263
    เราก็บอกแล้วว่าไม่สันทัดอ่านหนังสือและ...ท่านก็บอกว่าอยากรู้ก็หยิบมนต์และแปลดู...เปนอย่างนั้นแหละคุณหนู...ช่วงหลังก็มาแบ่งภาคแยกกันไปโปรดสัตว์ไม่งั้นไม่ทันการณ์จ้า...
    ...คุณหนูก็เลยต้องงัดมนต์ขึ้นมาเคยแต่เปิดแผ่นCDอย่างเดียวไม่ค่อยได้สวดหรอกเพราะตัวขี้เกียจเกาะอยู่แปลเยี่ยงนี้แหละท่าน..เหอ..เหอ..

    ......นำมอนอลากินซี หมายถึง การคุ้มครองคนดี นักปราชญ์
    รูปพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ปรากฏเปนพระไวโรจนะพุทธเจ้าเปนองค์ธรรมกาย...
    ...มอซี มอซีลีทอยิน มอซี หมายความว่า ได้มีอิสระทันทีปฏิบัติจนได้วชิรธรรมกายได้อาสน์ดอกบัว
    รูปพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ปรากฏเปนพระอมิตาภะพุทธเจ้า...
    ...มีตีลีเย หมายความถึงมหากรุณา
    รูปพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ปรากฏเปนพระศรีอริยะเมตไตรย์โพธิสัตว์แนะนำสรรพสัตว์ปฏิบัติมหากรุณาธรรม
    ...พอลูกิตตี หมายความถึง พระอวโลกิเตศวรผู้นำพาสรรพสัตว์เข้าสู่สุขาวดีพุทธภูมิ
    รูปพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ปรากฏเปนมัญชูศรีโพธิสัตว์นั่งอยู่บนหลังสิงหอาสน์....


    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2010
  8. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    [​IMG]

    พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร เปล่งรัศมี เนื้อสำริด ศิลปะบายน อายุราว พ.ศ. 1720-1750 องค์นี้ เป็นพระโพธิสัตว์ ที่เราสามารถพบได้ ในปราสาทหิน แบบศิลปะร่วมแบบเขมรในประเทศไทย เช่น ปราสาทเมืองสิงห์ จังหวัดกาญจนบุรี ปราสาท บายน เมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นคติความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ ลัทธิไศวนิกาย ที่ยกเอาพระศิวะเป็นเทพสูงสุด ในคัมภีร์พระเวท เป็นทั้งผู้สร้างโลก และสร้างเทพเจ้าองค์อื่น ๆ เช่น พระพรหม พระนารายณ์ ซึ่งพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร เปล่งรัศมี นี้ เชื่อกันว่า เป็นร่างอวตารร่างหนึ่งของพระศิวะ ที่เสด็จลงมา ปลดปล่อย ทุกเข็ญ ของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายในโลก ลวดลายที่เปล่งออกมา เป็นอานุภาพที่แสดงให้เห็นถึง พลังอันยิ่งใหญ่ และพรอันประเสริฐที่พระองค์ทรงประทานแก่มวลมนุษย์
     
  9. porntips

    porntips เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,410
    ความเป็นทิพย์จะเหนือคำบรรยาย อยากรู้ก็ทาน ศีล ภาวนา และระลึกถึงองค์ท่าน ก็ไม่ต้องมาเถียงกันด้วยเรื่องนี้ เราเองสัมผัสท่านได้แต่ไม่ได้ด้วยตาแต่ด้วยใจ
     
  10. ksriuta

    ksriuta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,051
    ค่าพลัง:
    +2,970

    แม่ศรีคือใครหรือครับ
     
  11. ตามมาฮา 555

    ตามมาฮา 555 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +6
    คือเอ่อ...มิทราบค่ะ
     
  12. ใครค่ะท่าน

    ใครค่ะท่าน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +0
    อนุโมทนาสาธุ๊ธุ๊ ค่ะะ
     
  13. จอมพล GAY

    จอมพล GAY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    244
    ค่าพลัง:
    +219
    ค่ะ ก่อนอื่นเราต้องเป็นมนุษย์ข้ามเพศ ให้ได้ก่อนค่ะ (k)
     
  14. jowpoy

    jowpoy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    326
    ค่าพลัง:
    +758
    อย่าหลงในตำรา แต่โปรดศึกษาที่จิต ผู้ที่รู้แจ้งในธรรมแล้ว จะไม่ถกเถียงกันในเรื่อง รูป นาม อย่ามองว่าท่านเป็นใคร ชายหรือหญิง แต่มองว่าท่านสอนอะไร ด้วยเหตุใดจะดีกว่า บางคนอ้างเจนจบในตำรา แต่ความจริงกับตำราอาจจะไม่ตรงกัน ข้าพเจ้าเองก็เป็นเพียงผู้เริ่มปฏิบัติเป็นผู้เยาว์ในวิชาทั้งหลาย ก็อยากให้ทุกท่านมองที่จุดหมาย มิใช่มองแค่ป้ายโฆษราข้างทาง
     
  15. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,611
    ค่าพลัง:
    +2,882
    เรื่องนี้เคยสงสัยเหมือนกันไม่มีใครบอกได้ดีที่สุด นอกจากตัวท่านเองจึงถามท่านได้ความว่า

    [​IMG]

    อยู่ในเพศชาย สังเกตุได้จาก
    - ไม่มีทรวงอก, เต้านม
    - เท้ามีขนาดใหญ่
    - ขึ้นชั้นพรหมไปลักษณะจะเหมือนทั้งชายและหญิง

    เป็นองค์เดียวกับ พระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์ ไม่ใช่พระแม่ศรีอุมาเทวีเจ้า ไม่ใช่พระสดาศิวะ ไม่ใช่พระศรีอาริย์
    ทรงดูแลพระพุทธศาสนาจนกว่าพระศรีอาริย์จะลงมา ท่านจะเข้านิพพานแล้วแต่ได้ยินเสียงเวไนยจึงไม่เข้า แบ่งภาคได้หลายองค์เป็นแสนๆ วันนี้มา 5 องค์ให้ดูเป็นตัวอย่าง
    อยากถามท่านหลายเรื่อง แต่ท่านน่าจะเห็นว่าไม่มีประโยชน์เพราะแค่คิดจะถาม ท่านก็ส่งกระแสจิตมาว่าไม่ให้ถาม

    ------------------------------------------------------------

    ปล. จะเรียกว่าอะไรก็ได้ แค่คิดถึงท่านก็ได้แล้ว

    ที่ชาวจีนเรียกว่าเจ้าแม่ แปลจาก กวนอิมเนี้ย เนี้ย = แม่ รักมากเหมือนแม่ตัวเอง

    ชาวคริสต์เจอที่ดุสิตเยอะมากๆ ส่วนมากจะเป็นผู้หญิง
     
  16. เทพธรรมบาล

    เทพธรรมบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +291
    ถ้่าไม่ได้ศึกษาเรื่องตรีกายก็ไม่มีทางเข้าใจ

    เจ้าแม่กวนอิมท่านเป็น สัมโภคกาย ของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์
    ท่าน นิรมานกายเป็นทุกรูปแบบ ตามจริตผู้ถูกโปรด เช่น เป็นพระ เป็นคนแก่ เป็นเด็ก เป็นคนบ้า เป็นทหาร เป็นวัยรุ่น ได้ทุกรูปแบบ



    ทั้งหมดนี้ต้องเข้าใจเรื่องตรีกายก่อน เพราะคำภีร์ ฝ่ายเถระวาท ไม่ครอบคลุมเรื่องนี้
    ฉะนั้นถ้าใช้ ตรรกกะ ตามคติเถรวาท ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี เรื่องนี้ ต้องศึกษามหายานเพิ่ม


    ถ้าเราจะปั้นรูปพระอวโลกิเตศวรเป็น ขอทาน เป็นคนบ้า ก็ไม่ผิด เพราะ เมตตากรุณา นิรมาน ทุกรูปแบบ พิจรณาเถิด
     
  17. 431240

    431240 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +643
    ผมไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับมหายานนะครับ เลยขออนุญาติแสดงความคิดเห็นแบบว่าผิดพลาดยังไงก็ขออภัยด้วย เป็นเพียงมุมหนึ่งในการแสดงความคิดเท่านั้นไม่เกี่ยวกับถูกผิดนะครับ...
    อย่างแรกผมเองต้องทำความเข้าใจคำว่าโพธิสัตว์ ต้องทำจิตเข้าสู่จิตที่เป็นสากลไม่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับศาสนาใดๆ แล้วจึงพิจารณา จึงเห็นคำว่าโพธิสัตว์นั้นคือภาวะของจิตที่สำเร็จจิตสำเร็จธรรมในระดับชั้นของจิตนั้น ๆ ความหมายคือ เมื่อผู้ในปฏิจิตจนเข้าถึงภาวะโพธิสัตว์ ก็จะเป็นโพธิสัตว์เหมือนกัน เหมือนทำงานแล้วได้เลื่อนชั้นเป็นผู้ว่าก็ได้เป็นผู้ว่าเหมือนกัน เพียงแต่จิตชั้นสูงที่เข้าถึงภาวะนี้จะไม่มีการติดในชื่อเสียงเรียงนามและรูปลักษณ์ ดังนั้นคำว่าอวโลติเกศวร จึงนับเป็นการบอกถึงตำแหน่งทางจิต คือมหาโพธิสัตว์ใดที่มีภาวะจิตที่ค่อยสดับฟังเสียงของสรรพสัตว์ เพื่อที่จะปลดเปลื้องทุกข์ให้สรรพสัตว์ก็มีตำแหน่งที่เรียกขานตรงนี้ คือจะมีมากกว่าหนึ่ง ดังนั้นอาจมีผู้ปฏิบัติที่สามารถสื่อจิตกับโพธิสัตว์ที่ได้ตำแหน่งตรงนี้ถึงแม้จะอยู่คนละศาสนา แต่มีภาวะโพธิสัตว์เป็นอย่างเดียวกัน แต่ความโดดเด่นในวิธีการช่วยเหลือสรรพสัตว์นั้นจะแตกต่างกัน ทีนี้ขอพิจารณาการเข้าสู่ภาวะของพระแม่กวนอิม คือจิตทุกดวงล้วนมีที่มาและที่ไป ที่ไปของพระแม่กวนอิม คือการปลดเปลื้องทุกข์ให้สรรพสัตว์ แล้วที่มาละ คือภพชาติก่อนที่จะมาเกิดของท่านปรากฏว่ามีน้อยมากหาที่มาได้ยาก คือโพธิสัตว์องค์อื่นจะมีการผ่านภพชาติมาหลายภพเพื่อเกิดการเรียนรู้ในความทุกข์ของสรรพสัตว์ เพื่อที่จะช่วยสรรพสัตว์ได้ครบถ้วน ดังนั้นจึงต้องอาศัยจิตพิจารณาดูเห็นว่่ามีเพียงภพชาติที่เป็นชายก่อนมากำเนิดในภาวะแห่งโพธิสัตว์ ท่านสำเร็จธรรมชั้นสูง เข้าพุทธเกษตร จนถึงวาระแห่งการที่ต้องช่วยเหลือสัตว์โลก ท่านจึงลงมาจุติยังโลกมนุษย์จริงๆ มีตัวตนจริง เพียงแต่กำเหนิดในรูปของสตรี สาเหตุคือต้องการสอนให้มนุษย์เข้าใจว่าการสำเร็จธรรมนั้นไม่ได้อยู่ที่ความเป็นหญิงหรือชาย แต่การสำเร็จธรรมนั้นอยู่ที่จิต ในภพที่เป็นสตรีท่านจึงต้องมาบำเพ็ญเพื่อเข้าสู่ภาวะแห่งมหาโพธิสัตว์ ท่านต้องถูกขัดขวางทุกวิถีทางเพื่อทดสอบให้ท่านผ่านภาวะตรงนั้นไปได้โดยอาศัยจิตแห่งเมตตาอย่างยิ่งยวดที่จะผ่านภาวะตรงนั้นไป พระแม่กวนอิมท่านไม่ได้ผ่านภพมากมายเหมือนโพธิสัตว์ท่านคือ ท่านจึงอาศัยฝึกจิตเพื่อเข้าสู่ธรรมชาติ จนภาวะกลายเป็นธรรมชาติ แล้วท่านก็ใช้จิตท่านกลืนธรรมชาติ ในความหมายคือ ในธรรมชาตินั้นมีสิ่งใดบ้าง ก็คือทุกสรรพสิ่งในโลกใบนี้ อาทิ ต้นไม้ ภูเขา สัตว์ป่า และมนุษย์เป็นต้น เมื่อพระองค์ทำเช่นนั้นจึงไม่ต้องอาศัยการผ่านภพ แต่จะรู้และเข้าใจภาวะของสรรพสัตว์ที่อยู่ในห้วงทุกข์ได้ทั้งหมด จึงเกิดภาวะแห่งธรรมของมหาโพธิสัตว์เกิดขึ้นจิตของพระองค์ มนุษย์ทั้งหลายจึงเข้าว่าพระองค์มี มากมายถึง 84 ปาง จริงแล้วต้องบอกว่ามีมากมายกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ภูเขา คนแก่ หรือเด็ก เป็นพระ เป็นเทพ ฯลฯ ภาวะของพระองค์ผ่านมาหมดโดยการกลายเป็นธรรมชาติ นี้คือการสำเร็จจิตชั้นสูงของมหาโพธิสัตว์ และเมื่อใดที่ท่านดับธรรมชาติ จิตของท่่านจะกลายเป็นจิตที่อยู่เหนือธรรมชาติทั้งปวงไม่ต้องกลับลงมาเกิดยังภพภูมิใดๆ นอกจากภูมิของจิตของผู้ที่หลุดพ้นแล้ว สุดท้ายแล้วธรรมะก็คือธรรมชาติ ธรรมชาติไม่ได้ทำให้ใครหลุดพ้น แต่ธรรมชาติทำให้เกิดการเรียนรู้ เพื่อก่อให้เกิดความหลุดพ้น พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้อาศัยตำราใดๆ แต่อาศัยจิตที่เข้าถึงธรรมชาติ แล้วค้นพบถึงกฏแห่งไตรลักษณ์ด้วยตัวท่านเอง จึงได้เห็นถึงสัจธรรม คือความเป็นจริงของธรรมชาติ และยอมรับในกฏของธรรมชาติ ดังคำที่ว่าพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ล้วนเคารพพระธรรม เพราะสังขารของมนุษย์ไม่สามารถชนะธรรมชาติได้ สิ่งที่ชนะธรรมชาติได้ก็คือจิต พระองค์จึงได้ค้นพบหนทางแห่งการหลุดพ้น ก็ต้องหลุดพ้นด้วยดวงจิต ดังนั้นการจะกล่าวว่าธรรมชาติคือตู้พระไตรปิกฏของแท้ ไม่ต้องอาศัยการจดจำด้วยสมอง แต่เรียนรู้ด้วยจิต เห็นด้วยจิต สัมผัสด้วยจิต เข้าถึงด้วยจิต และหลุดพ้นก็ด้วยจิต เพราะธรรม คือ ธรรมชาติ ธรรมชาติ คือ ความเป็นจริง ความเป็นจริงต้องพิสูจน์ได้ ธรรมแท้ๆนั้นก็จะปรากฏขึ้นในจิตเกิดเป็นแสงธรรมขึ้นภายใน เปรียบเหมือนเราจะกลายเป็นสายน้ำที่ไม่หวนกลับ ไม่ต้องการกลับมาเกิดอีก พระองค์ท่านจึงบอกว่อย่าเพิ่งเชื่อแต่ให้มาพิสูจน์ด้วยการปฏิบัติจิต สุดท้ายถือเสียว่าผมเล่านิทานธรรมให้ท่านฟังดีกว่า เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่มีในตำรา ไม่อาศัยตำรา จึงไม่สามารถหาที่มาเพื่ออ้างอิงท่านได้ จึงอย่าได้เชื่อแต่ขอให้ปฏิบัติจิตให้เกิดกุศลจิต มีจิตที่เมตตาจนเปี่ยมล้น และรู้จักกาลแห่งการปล่อยวางเมื่อยังไม่ถึงเวลา ถ้าท่านใดมีบุญสัมพันธ์และเดินตามวิถีจิตที่พระแม่กวนอิมท่านเดิน สักวันท่านก็ต้องได้เจอะกระแสจิตอันบริสุทธิ์ของพระแม่กวนอิมท่านแน่นอน เรื่องที่ผมเล่ามามันเป็นเรื่องเกินเชื่อ เกินจริง จึงต้องบอกว่เป็นนิทานธรรมก็แล้วกัน ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการอ่านนิทานธรรมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2012
  18. Ganymede101

    Ganymede101 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +0
    ก็แล้วแต่จะเรียกว่าอะไร เจ้าแม่ พระแม่ ต่างๆนานา ทำไรไว้ก็ต้องใช้กรรมนะ มายา
     
  19. ต้า จง ฉือ

    ต้า จง ฉือ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +160
    หลายคนมักคิด ว่า ท่านยังไม่สำเร็จธรรมเป็นเเค่พระโพธิสัตว์ จึงมีหลายคนคิดว่า ท่านอยู่เเค่ภพที่จะต้องบำเพ็ญต่อไป เเต่ความจริงเเล้ว ท่านได้สะสมมหาบารมีมานานมากนับพันปี
    หากเเท้จริงตอนนี้ ท่านได้รับอริยฐานะ สำเร็จบรรลุเป็นพระพุทธะองค์หนึ่งไปเเล้ว พระนามว่า หนานไห่กู่ฝอ(พระพุทธเเห่งทะเลใต้) เเต่ ทว่าคนที่เคารพจะเรียกพระนามองค์ท่านว่า
    เจ้าเเม่ พระเเม่ พระโพธิสัตว์หรือนามอื่นใดก็ตามเเต่ หากจิตสื่อตรง ศรัทธาระลึกถึง ท่านรับทราบหมดครับ ไม่ยึดติดนามใดหรอกครับ

    ท่านมีมหาปณิธาน ว่าจะช่วยเหลือเหล่าสรรพสัตว์ ในทะเลทุกข์คนสุดท้ายให้หมดสิ้น หากไม่ฉะนั้น ท่านจะไม่ขอเข้าสูพระนิพพาน ตอนนี้ท่านก็สำเร็จบรรลุธรรมไปเเล้ว ด้วยจิตมหาปณิธานของท่าน
    เเม้ว่า ยังมีมนุษย์เเละสัตว์โลกเวียนว่ายอยู่อีกมากมาย หลายคนจึงปรามาสด้วยอคติ ว่า ท่านยังไม่สำเร็จเป็นเเค่ระดับ โพธิสัตว์เท่านั้น (จากประสบการณืคนที่รู้จักนะครับ)

    หากเเต่ส่วนใหญ่คนบนโลกนี้มักจะวอนขอหลายสิ่งจากท่านเพื่อให้ท่านช่วยเหลือ เเละส่วนใหญ่สมหวังเเละสำเร็จทุกคน เเต่เเท้จริง ท่านจะหวังให้พวกเราได้ปฎิบัติบำเพ็ญจิตเเละกายอย่างจริงจัง
    เพื่อให้เเต่ละคนได้บรรลุเข้าสู่พระนิพพานเช่นเดียวกับ ท่าน ซึ่งเป็นขั้นสูงกว่า ทางโลกที่เอาเเต่วอนขอ นี่ละคือการกตัญญูต่อพระองค์ท่านเเละเป็นการสานปณิธานท่านอย่างเเท้จริง
    เมื่อเราได้รับรู้ ศิษยานุศิษย์ของท่านที่ศรัทธาไม่ว่าจะบำเพ็ญธรรม สายไหน ขอให้ ถือศีล คุณธรรม บำเพ็ญจิต เเละปฎิบัติธรรม สะสมบารมีในทางกุศลให้ครบถ้วน ท่านจะเมตตาเเละคุ้มครอง
    (เเท้จริงท่านไม่เลือกปฎิบัติ ต่อให้ผู้นั้น เป็นคนเลว หรือไม่ดี ท่านก็เมตตานะครับ เพื่อหวังว่าสักวันหนึ่งคนเหล่านั้น จะรู้ตื่นจากจิตปุถุชน พ้นอวิชชาครอบงำ ให้เข้าใจจิตโพธิเดิมเเก่นเเท้ของตนได้ )<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2012

แชร์หน้านี้

Loading...