พระปรอทหลวงปู่ละมัยของแท้ยังมีให้เช่า ที่วัดนะคร้บ

อย่าไปกลัวเลยครับ

ดูที่ปัจจุบันที่นำมาพกนำมาติดตัวสิครับ ว่าผลเป็นอย่างไร

หากมีโอกาส จะเรียนถามท่านผู้รู้ให้นะครับ

 

อาการคล้ายตกภวังค์ วูบไปแล้วไม่มีตัวรู้อะไรอยู่ในนั้น คืออาการที่จิตเริ่มจะรวมแต่สติอ่อน จึงเป็นการวูบลงสู่ความหลับ แต่กระตุกคืนมาอีกก็ยังถือว่าดีกว่าประเภทวูบหายมิดไปเลย, สังเกตตรงที่กระตุกคืนมาให้ดี ตรงนี้แหละสำคัญที่สุด นี่แหละคือสติ พยายามเพิ่มตัวนี้ให้หนักแน่นติดต่อกันมากขึ้น
ด้วยการหายใจเข้าออกแรงๆแล้วค่อยๆปรับลมหายใจให้สบาย เพื่อให้เกิดความรู้สึกตัวทั่วพร้อม ไม่หลงลืมตัวว่ากำลังนั่ง ยืน เดิน หรือนอนอยู่

บัดนี้เธอกำลังทำอะไรอยู่?

กำลังหายใจเข้าหรือหายใจออก?

ตัวที่ระลึกได้ว่ากำลังทำอะไรอยู่นี่แหละคือตัวสติ
ตัวที่กระตุกคืนมาหลังจากวูบนี่แหละคือตัวสติ
ให้พยายามเจริญสติให้มาก ระลึกรู้ในคำภาวนา และลมหายใจเข้าออกให้มาก

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด​

เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๙​

ตั้งได้จิตขอให้มีหลักเกณฑ์เถอะ​

http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=4026&CatID=2

 

ผมขอถามให้ไปคิดกันนะครับ คุณคิดว่า คนธาตุไฟห้ามดื่มน้ำ ห้ามอาบน้ำ หรือไม่

เพราะข้อเสียของน้ำจะไปดับไฟ จึงห้ามคนธาตุไฟดื่มน้ำ ห้ามอาบน้ำ

ถ้า้คิดได้ ตอบได้ถูก ก็สามารถตอบคำถามข้างบนได้เช่นกัน

ลองคิดกันดูครับ

 

ยังไงก้อยังเชื่อและศรัทธาอยู่เหมือนเดิมเจ้าค่ะ
เพียงแค่สงสัย เป็นเจ้านู๋จำไม ก้อเท่านั้นเองนะเจ้าคะ อิอิ

 

ขอบคุณ คุณอินมากนะคะ .. กลัวที่หนายยยย เนาะ คุณอิน เนาะ อิอิ

 

อื้มมมม ....เข้าใจและอธิบายได้เห็นภาพมาก มาก เลยค่ะ
ขอบคุณมาก มาก นะคะ คุณ โอสถ

 

ผมก็มีชื่อว่าทองแท้ๆเลยครับ แต่ก็ไม่เห็นเป็นไรครับ ด้วยความรักและศรัทธาที่มีต่อหลวงปู่และปรอทครับ (คุณมะลิจะแจกของรือเปล่าครับเนี่ย)55555555++

 

คนเกิดปีมะโรงไม่ใช่คนธาตุทองเสมอไป
ไม่เชื่อไปเปิดตำราดูได้ครับ

คนเกิดปีมะโรงในธาตุต่างๆ::
ปีมะโรง ธาตุโลหะ พ.ศ. ๒๔๔๗ และ พ.ศ. ๒๕๔๓
ปีมะโรง ธาตุน้ำ พ.ศ. ๒๔๙๕ และ พ.ศ. ๒๕๕๕
ปีมะโรง ธาตุไม้ พ.ศ.๒๔๔๗ และ พ.ศ. ๒๕๐๗
ปีมะโรง ธาตุไฟ พ.ศ. ๒๔๕๙ และ พ.ศ. ๒๕๑๙
ปีมะโรง ธาตุดิน พ.ศ. ๒๔๗๑ และ พ.ศ. ๒๕๓๑

กลัวมากก็ไปขอเปลี่ยนจากเนื้อปรอทสดไปใช้เนื้อทองคำดำ สัตตะโลหะ หรือคตปรอท(ไม่กินทอง)ก็ได้ครับ
แต่ถ้าคิดให้ดีๆ สำหรับคนเกิดปีมะโรง ผมว่าใช้สิบสองราศรีปีมะโรงก็น่าจะได้นะครับ

พระปรอทกายสิทธิ์
นักสิทธิ์หรือวิทยาธรผู้สำเร็จเป็นผู้มีความรู้วิชาไสยศาสตร์ ในทางเล่นแร่แปรธาตุประการหนึ่งจนเป็นตำนาน อันดับทอปฮิตติดสเปอร์ของพระเวทย์สยามคือ สามารถทำปรอทซึ่งเป็นโลหะเหลวให้แข็งเป็นก้อนได้เรียกกันว่า "สำเร็จปรอท" อานุภาพของก้อนปรอทนี้ทำให้ผู้สำเร็จเหาะเหินเดินอากาศได้ ทั้งยังมีร่างกายเป็นหนุ่มอยู่ตลอดเวลา เมื่อสำเร็จแล้วก็ไม่สามารถในแดนมนุษย์ได้ อีกต่อไปเพราะเหม็นสาบมนุษย์

โดยแบ่งระดับขั้นของปรอทที่ทำสำเร็จนี้ออกเป็น ขั้นต่างๆกันโดยเมื่อสำเร็จชั้นสูงสุดจะเหาะเหินเดินอากาศได้และเป็นการ สู่ลำดับขั้นต่อไปก็คือการชุบตัวให้เป็นกายสิทธิ์ แถมมีความเข้มขลังอาคมระดับสุดๆ จนใครฆ่าไม่ตาย โดยผู้สำเร็จปรอทต้องเหาะไปยังป่าหิมพานต์ ครั้นไปถึงแล้วจะพบบ่อน้ำวิเศษบ่อหนึ่ง น้ำในบ่อนั้นมีสีขาวเหมือนน้ำนมบริสุทธิ์ มีนางเทพธิดาชื่อ "จันทรเทวี" เป็นผู้รักษาอยู่เมื่อ ผู้สำเร็จปรอทเหาะไปถึงที่นั่นจะตกลงไปในบ่อ ร่างกายที่เป็นรูปมนุษย์อยู่แต่เดิมจะ สูญสลายไปในทันทีแล้วเกิดเป็นฟองน้ำปุดขึ้นมาลอยบนผิวน้ำ

นางจันทรเทวีผู้รักษาบ่อน้ำจะคอยเอามือช้อนฟองน้ำนั้น บัดดลฟองน้ำจะเปลี่ยนสภาพเป็นเด็กอ่อนแล้วเติบโต โดยลำดับเป็นวิทยาธรมีความเชื่อเพิ่มเติมอีกว่า วิทยาธรที่ปรากฏตามจิตรกรรมฝาผนังมีแต่เพศชาย กล่าวกันว่ามีอิทธิฤทธิ์เหาะเหินเดินอากาศได้ ใครฆ่าก็ไม่ตาย แม้ต้องศาสตราวุธใดๆ ก็เป็นแต่สิ้นสติไปชั่วขณะหนึ่ง ครั้นลมพัดมาก็กลับฟื้นขึ้นได้ .มีอายุยืนอยู่คอยท่าพระศรีอาริยเมตไตรยซึ่งจะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต ความเชื่อเรื่องนี้จึงเกิดเครื่องรางรูปเทพยาธรที่ว่าเหนือกว่ากุมารทอง สำหรับคนที่ต้องการคบกับผู้ใหญ่มากกว่าคบเด็ก

แบบไม่ยอมคบเด็กสร้างบ้านโดยเชื่อว่าเทพยธรนี้นี้จะคอยช่วย เหลือได้ผลดีมากกว่ากุมารทองเพราะมีความ เก่งกล้าทางอาคมมากกว่าและก็ไม่สามารถถูกทำลายด้วยอาคม ได้ง่ายๆอย่างกุมารทอง แต่ติดที่ออกจะร้อนที่อยู่หน่อยๆคือมักต้องเดิน ทางตลอดเนื่องจากวิทยาธร เหาะได้จึงชอบท่องเที่ยวมักพาเจ้าของเครื่องรางไปไหนมาไหนมาไหนอยู่บ่อยๆ ในป่าหิมพานต์มีต้นไม้วิเศษชนิดหนึ่งคือมักกลีผล หรือนารีผล ไม้ชนิดนี้มีผลเป็นรูปสตรี "งามนักดังสาวอันพึงใหญ่ได้ ๑๖ ปี แลฝูงผู้ชายได้เห็นก็มีใจรักกัน" (ไตรภูมิพระร่วง)

มักกะลีผล

พระราชสุทธิญาณมงคล
เมื่อสมัย​เป็น​เด็ก​ ​อาตมา​อยู่​กับ​คุณยาย​ ​ตอน​นั้น​อาตมา​ไม่​ได้​สนใจเรื่องบุญกุศล​ ​และ​เรื่องพระ​เวสสันดรแต่ประการ​ใด​ ​แต่คุณยายสนใจมาก​ใน​เรื่องเทศน์คาถาพัน​ ​และ​เทศน์มหาชาติ​ ​ฟังจบถือว่า​ได้​บุญมาก

คุณยายนิมนต์พระมา​ ๓ ​องค์​ ​องค์หนึ่งเดินพระคาถาพันจบหนึ่งพัน​ ​อีกสององค์ปุจฉาวิสัชนา​ ​แล้ว​ว่า​แหล่ว่าทำ​นอง​ด้วย​ ​ตั้งแต่บ่ายโมง​ถึง​ห้า​โมงเย็น​ ​ทุกรายการจบลง​ใน​วัน​นั้น​ ​ปีหนึ่งคุณยาน​จะ​ต้อง​มีคาถาพัน​ ๒ ​ครั้ง

อาตมา​เป็น​เด็กก็​ไม่​เข้า​ใจ​ ​ยาย​ให้​ฟังก็คอยรีบวิ่งไปเล่น​ ​ยาย​จึง​เอา​เชือกผูกขา​ไว้​กับ​เสา​ให้​จบหนึ่งพัน​ ​เลยฟังแย่​แลย​ ​ฟังส่งเดช​ไม่​รู้​เรื่อง​ ​ตอนมาบวช​จึง​ได้​ทราบข้อเท็จจริง​ ​ได้​ฟังเรื่องพระ​เวสสันดรจอมปราชญ์​ ​มีป่าหิมพานต์

พอดีคุณยายมาซักไซ้อาตมา​ ​จึง​ได้​บอก​กับ​คุณยายว่า​ ​เรื่องพระ​เวสสันดรโกหก​ ​ไม่​จริง​ ​ไม่​ยอมรับ​และ​ไม่​ยอมเชื่อ​ ​คุณยาย​จึง​ได้​เล่า​ให้​ฟังว่า

หลานเอ๋ย​ ​ตอนยาย​เป็น​สาว​ ​ๆ​ ​เคยทำ​ปิ่นโตไปส่งหลวงพ่อช้าง​ ​หลวงพ่อช้างเคยไปป่าหิมพานต์​ ​ท่าน​ได้​สำ​เร็จญานสมาบัติ​ ​เป็น​เจ้าอาวาส​อยู่​วัดตึกราชา​ ​อำ​เภอเมือง​ ​จังหวัดสิงห์บุรี​ ​ยายไปส่งปิ่นโตทุกวัน​ ​ท่านฉันข้าวเวลา​เดียว​อยู่​ใน​ป่าช้า

วันหนึ่งไปพบแขกคนหนึ่งมา​จาก​ไหน​ไม่​ทราบ​ ​ยายถามหลวงพ่อ​ ​ท่านบอกว่า​ ​แขกมันเหาะมา​จาก​ป่าหิมพานต์มาตกขา​แข้งหักไป​ไม่​ได้​ ​ท่าน​จึง​รักษา​ให้​ ​ยัง​อยู่​ด้วย​กัน​ที่นี่​ ​ยายก็รับฟัง​ ​เพราะ​ยาย​ยัง​เป็น​รุ่น​ ​ๆ​ ​สาว​ ​ไปส่งปิ่นโตแทนยายชวด

ใน​ที่สุดแขกหาย​แล้ว​ก็​เล่า​ให้​หลวงพ่อฟังว่า​ ​ตัว​เขา​เป็น​โยคี​ ​เหาะมา​จาก​ป่าหิมพานต์​ ​เหาะมา​ ๒ ​คน​ ​คนหนึ่งสำ​เร็จฌาน​ ​แต่​แขกคนนี้สำ​เร็จปรอท​จาก​พระ​โยคีที่สำ​เร็จฌาน​ ​ทำ​ปรอท​ให้​อม​ ​แล้ว​ก็​เหาะมา​ได้​ ​พอดี​เกิดมา​เถียง​กัน​ ​เลยปรอทหล่น​ ​แขกก็​เลยตากขาหัก​ ​เชื่อ​ไม่​เชื่อ​ไม่​เป็น​ไรนะ

ผลสุดท้ายแขกก็อ้อนวอนหลวงพ่อช้าง​ให้​ไปส่งที่ป่าหิมพานต์​ ​และ​บอกว่าที่ป่าหิมพานต์สนุกสนาน​ ​มี​ผู้​หญิง​ ​มี​ทั้ง​ต้นมักกะลีผล​อยู่​ปากทางที่​จะ​เข้า​ไปเฝ้าองค์พระ​เวสสันดรจอมปราชญ์​ ​ผู้​มีปัญญา​ ​อยู่​ที่ป่าหิมพานต์​โน้น​ ​เลย​เขา​หิมาลัย​ ๑๖ ​โยชน์​ ​แขกเล่า​ไว้​ชัด

หลวงพ่อช้างก็บอกว่า​ไม่​อยากไปรู้​ ​แต่​แขกก็อ้อนวอนมาตามลำ​ดับ​ ​ก็​เสียอ้อนวอนแขก​ไม่​ได้​ ​แขกบอกว่า​ถ้า​หลวงพ่อไปนะ​ ​ไปรับประ​เคนของใคร​ ​อย่าฉัน​ ​ถ้า​ฉัน​จะ​กลับ​ไม่​ได้​แน่นอน​ ​ถ้า​หลวงพ่อสำ​เร็จแค่ฌานสมาบัติ​ไม่​ให้​ฉัน

ใน​เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​หลวงพ่อช้างบอก​ไม่​ไป​ ​แขกบอกมีมักกะลีผล​ ​แขกก็คิด​ถึง​บ้าน​ใน​ป่าหิมพานต์ของ​เขา​ ​ก็​ให้​ตำ​ราปรอท​ ​ขอ​ให้​หลวงพ่อช้างทำ​ปรอท​ให้​ ​ใส่​ปากอมก็​เหินไป​ได้​ ​หลวงพ่อช้างก็บอกว่า​ยัง​งั้น​ได้​ ​ท่านสำ​เร็จฌานไป​ได้​องค์​เดียว​ ​แต่​เอา​แขก​ใส่​ย่ามไปคง​ไม่​ได้

ใน​ที่สุดก็​ให้​ยายของอาตมา​ไปซื้อปรอท​ ​ซื้อยาซัด​ ​อาตมา​ยัง​ได้​ตำ​รา​ไว้​ ​ณ​ ​บัดนี้​ ​ซัดปรอท​แล้ว​ก็​ไปส่งแขกที่ป่าหิมพานต์​ ​ไปพบมักกะลีผลก็มา​เล่า​ให้​ยายฟัง​ ​ตอน​นั้น​อาตมา​ยัง​เป็น​เด็ก​ ​เวลาต่อมายายอายุ​ ๙๙ ​ก็​ถึง​แก่​ความ​ตาย​ ​อาตมาก็ฝังใจเรื่องนี้ตลอดมา

เคยเห็นรูปที่​ เหม​ ​เวชกร ​เขียน​ไว้​ที่ฝาผนังวัดพระปรางค์มุนี​ ​เขียนต้นมักกะลีผลเหมือนของจริง​ด้วย​ ​ใบเหมือนใบมะม่วง​ ​มีลูกพวงหนึ่ง​ ๕ ​ผล​ ​แต่อาตมาก็​เชื่อแน่​ไม่​ได้​ว่าต้นไม้ออกลูก​เป็น​คน​ ​เสพสังวาส​ได้​เหมือนคนเรา​ ​ก็​ไม่​ยอมเชื่อ​ด้วย​ประการ​ใด

ใน​เวลาต่อมา​ ​อาตมามาบวช​ ​จิตสำ​นึกเดิมมัน​ยัง​นึก​ถึง​เรื่องนี้​อยู่​ ​เพราะ​ยายเล่าทุกวัน​ ​เล่าละ​เอียด​ด้วย​ ​เพราะ​มีคาถาพันปีละ​ ๒ ​ครั้ง​ ​มีพระ​เทศน์ปุจฉาวิสัชนา​ ​ว่าทำ​นอง​ด้วย​ ​ยายว่า​ได้​ครบ​ทั้ง​ ๑๓ ​กัณฑ์​ ​ตั้งแต่ทศพร​ถึง​นครกัณฑ์​ ​ยาย​ไม่​ค่อยรู้หนังสือแต่ว่า​ได้​ ​เพราะ​จำ​พระ​เทศน์​ได้

ปรอทเพชร สายวังหน้า

เป็นปรอท ผสมกับ ผงตะไบเงินหรือทองคำ ปั้นให้เข้ากันด้วยอาคม ถ้าไม่ขลังหรือจิตไม่เข้าขั้นก็จะร่วนแตกไม่แข็ง่เป็นก้อน ความแข็งก็จะขึ้นอยู่กับระดับชั้นของอาคมขั้นสูงสุดแข็งดุจเพชร ตกไม่แตก ตะไบไม่เข้า ต่างจากการหลอมขึ้นมา
พิสูจน์ได้จะไม่ลื่นมือ ไม่ดำเมื่อถูกับสิ่งใด เพราะปรอทถูกฆ่าพิษหมดแล้ว ลูกนี้เก่าแก่ชัดเจน เคยพบลักษณะแบบนีอยู่ลูกนึงพบในวัดแห่งหนึ่งกับประคำงาและน้ำมันแต่งทัพ เป็นของสายอุปราชวังหน้าเพราะต้องเก่งเรื่องรนณรงค์สงครามต้องเชี่ยวชาญเรื่องอาคมเครื่องรางและสรรพวิชานาๆ
ปรอทลูกนี้ได้หลังจากที่ได้เห็นลูกที่กล่าวมาถึง ๕ ปี และได้ค้นหาและติดตามมาโดยตลอดจนมีวาสนาได้ครอบครอง นำมาให้ชมกันเผื่อได้เจอให้เก็บรักษาไห้ดีเชียว
สัณฐานแบบนี้จะมีขั้นสูงสุดคือปรอทสำเร็จ ชาตินี้คงไม่มีวาสนาแน่ๆเพราะเป็นของสูงสร้างจากผู้ได้อภิณญา กายสิทธิ์เช่นเดียวกับเหล็กไหลในตำนาน การพิสูจน์ถ้าใช่ให้นำใส่ปากขึ้นที่สูงถ้าเหาะได้แสดงว่าใช่ครับลองทำดู
<TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=smalltext align=left colSpan=2><HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1></TD></TR></TBODY></TABLE>

http://www.watkositaram.com/forum/index.php?topic=5370.0

 

ขออนุญาติพี่ๆบ้านปรอทตอบนะครับ

รุ่นนี้ อาจารย์หม่อม ที่อยู่เชียงใหม่ ลูกศิษย์ใกล้ชิดเป็นผู้สร้างครับเป็นเนื้อเงินชุบทองคำขาว ใต้ฐานบรรจุดินสังคเวชนีบสถานเเละ เกษาของหลวงปู่ละมัยท่าน แล้วปิดด้วยแผ่นเงินปั๊มยันต์สไตร์ของอ.หม่อม สร้างไม่มากครับ ซิ่งถือว่าเป็นรูปหล่อรุ่นแรกขนาดแขวนคอ

 

รูปหล่อขนาด 3 นิ้ว รุ่นสร้างพระธาตุเกศแก้วจุฬามณี พ.ศ.2549 จัดสร้างเพื่อนำเงินสมทบสร้างพระธาตุเกศแก้วจุฬามณี วัดแดนคงคาวนาราม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ วัดหลวงปู่บุณมา ถาวโร(มรณะแล้ว) อายุ 108 ปี 83 พรรษาลูกศิษย์ของหลวงปู่ละมัย ครับ(โชว์)

รุ่นนี้ลองสอบถามพี่แอ๋วดูครับเผื่อยังมี

 

รูปหล่อ

อันนี้ถ้านับแล้วถือเป็นรุ่น 3 สร้างเมือปี 2550สร้างกันในหมู่ลูกศิษย์ แล้วให้หลวงปู่ท่านอธิฐานจิตให้เป็นเนื้อเงิน หน้าฐานมีคำว่า เปสักกะ เป็นภาษาขอม สังฆาติ เป็นยันต์ธาตุทั้งสี่ (คนสามบ้านกินน้ำบ่อเดียว)ใต้ฐานบรรจุผงมวรสารเช่นยา 3ขนาน คตปรอท เส้นเกศาและจิวรของท่านสร้างเพียง 9 องค์ (โชว์)

 

สอบถามคุณ Ong หน่อยครับ
คืออยากทราบว่าตามรูปครับ กำลังปลุกเสกอะไรอ่ะ ครับ
แล้วหลวงปู่ที่อยู่ข้างๆ คือหลวงปู่อะไร ครับ

 

เมื่อปี 2550 ที่ 3 พระอริยะ ท่านเมตตา ซึ่งกันและ ณ. วัดสีลสุภาราม หลวงปู่สุภา กันตสีโล


หลวงปู่ละมัย , หลวงปู่นะ ,หลวงปู่สุภา ณ.วัดสีลสุภาราม ภูเก็ต เมื่อ 2550

 

สวัสดีอาจารย์ป้อง และสมาชิกทุกท่าน

<table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 9 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 4 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> <center"> [ แนะ นำเรื่องเด่น ] </center"></td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> Ong, balee, D-Dom, nut1663, ป้อง</td></tr></tbody></table>

 

งานอะไรครับ
มีวัถตุมงคลหรือเปล่า ครับ ฮิฮิ (deejai)(deejai)(deejai)

 

หลวงปู่ละมัยหลวงปู่นะและคณะ ได้ถวายพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธบาทจำลองแกะจากหินพระธาตุเขาสามร้อยยอด ให้หลวงปู่สุภาเมื่อเช้าวันนี้ที่วัดใหม่หลวงปู่สุภา ภูเก็ต ขอทุกท่านร่วมโมทนาบุญและชมภาพครับ สาธุ



ที่มา http://palungjit.org/threads/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%96%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89.78928/

 

ขอบคุณครับ

 

ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติ สวัสดีครับ วันนี้เงียบจัง