มีคนมาเกลี้ยกล่อมให้เปลี่ยนศาสนา

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ไหน่ฮวย, 24 พฤษภาคม 2010.

  1. ไหน่ฮวย

    ไหน่ฮวย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +237
    ทำไงดีคะ แบบว่าเขาเข้ามาพูดเกลี้ยกล่อมแกมบังคับ ให้เอ่ยนามพระเจ้า แรกๆก็วางอุเบกขานะคะเดี๋ยวเขาก็ไปแต่ใจอยากอธิบายธรรมะ ให้เขาเปลี่ยนมานับถือพุทธบ้าง5555 แต่ก็ไม่มีความรู้มาก และก็ไม่มีวาทศิลป์ในการชักจูง ที่จะบอกให้รู้ว่า เรามีของดีแค่ไหน แล้วก็สงสารเขาด้วย แต่ไม่เป็นไรยังไงทุกศาสนาก็สอนให้เป็นคนดีอยู่แล้วแต่ว่าคราวหน้าถ้าเขามาอีกก็อยากจะเผยแพร่ธรรมะของพระพุทธเจ้าให้เขาฟังบ้าง เชื่อว่าเขายินดีรับฟังเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ แต่ไม่รู้จะพูดยังไงดี
     
  2. vergo shaka

    vergo shaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +835
    ถ้าเรามั้นใจ กับ ศาสนาที่เรานับถือ มีความเคารพและจะเป็นสาวกที่ดีของศาสดาของ
    ศาสนาที่เรานับถืออยู่ ไม่ต้องเปลี่ยนศาสนาหรอกครับ....ถึงเราเป็นคริสต์แต่ก็ไม่เห็นด้วย
    กับการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้....การเผยแพร่หรือการประกาศ ต้องกระทำตน
    เป็นแบบอย่างที่ดีตามที่ ศาสดาของศาสนาที่เรานับถืออยู่ แล้วคนทั่วไปจะเห็นชีวิตของเราเอง
    เท่านี้เราก็ประกาศไปแล้วว่าเราเป็นสาวกของศาสดาองค์ใด หลักสำคัญ ทำตามคำสอน
    จนเป็นนิสัย ที่ดีของเราเอง ครับ และพร้อมช่วยเหลือผู้อื่น ตามกำลังของเราเท่านั้นเองครับ
    ถ้าเราช่วยเขาไม่ได้เกินกำลังเรา...ก็ให้ อธิษฐาน หรือ ส่งจิตที่เมตตาต่อเขา
    จิตที่มีความเมตตา ย่อมนำสุขมาให้ ไม่สำคัญว่าเราจะนับถือศาสนาอะไร ...ครับผม
     
  3. Namushakamunibutsu

    Namushakamunibutsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,347
    ค่าพลัง:
    +2,618
    ก็ไม่ต้องสนเขาครับ... จริงๆแล้วผมก็เคยจะเป็นคริสต์นะ และตอนนั้นผมก็รู้เรื่องเกี่ยวกับคริสต์ดีมากเลย... แต่พอมาเจอพระสูตรปรัชญาปารมิตา ทำให้ผมพบเลย ว่าพุทธนี่สุดยอดที่สุดแล้ว (เพราะสมัยก่อนก็เชื่อตามแบบคนไทย ได้แต่เปลือก ไม่ได้คำสอนจริงๆเลย) พอมาเจออะไรที่สุดๆอย่างนี้ ก็นึกในใจว่า "ธรรมอะไรช่างอัศจรรย์จริงแท้" ผมก็เลยยึดมั่นในพระศาสนา ต่อให้คริสตชนมาชักชวนผม ผมก็โต้วาทะสยบเขา (ไม่ได้รุนแรงใส่เขานะครับ แต่เขาชอบหาเรื่อง ผมก็เลยอธิบายความปรัมปราของศาสนาเขาให้เขาฟัง และอธิบายความเป็นโลกุตตระของศาสนาพุทธ เขาก็เลยไม่กล้ายุ่ง เพราะศาสนาของเขาใช้แต่ศรัทธาปสาทะ แต่ไม่ใช่ให้เราไปดูถูกความเชื่อเขานะครับ... แต่ว่าเป็นระบบความเชื่อที่ปรัมปราเท่านั้นเอง ^^) ... ขอรับประกันว่าไม่มีศาสนาไหนจริงแท้เท่าศาสนาพุทธครับ...

    ไอน์สไตน์เคยกล่าวว่า "ศาสนาพุทธมีคุณลักษณะอย่างที่เราคาดหวังจะให้เป็นศาสนาแห่งจักรวาล ศาสนาพุทธไม่ยึดติดกับพระเจ้า ไม่ส่งเสริมความเชื่องมงาย ไม่เกี่ยวข้องกับเทววิทยา ศาสนาพุทธเกี่ยวพันกับธรรมชาติและจิตวิญญาณ เป็นศาสนาที่มีพื้นฐานอยู่บนประสบการณ์ของสรรพสิ่ง ศาสนาที่แท้จริงไม่วางอยู่บนความกลัวชีวิต ความกลัวตาย และศรัทธาอย่างไม่ลืมหูลืมตา แต่ด้วยความพากเพียรตามความรู้ที่มีเหตุผล"

    เขาทิ้งปัญหาไว้... "คำถามที่สำคัญคือ หากว่าศาสนาพุทธไม่มีแนวคิดเกี่ยวกับพระเจ้า และไม่มีแนวคิดของเทววิทยาแล้ว เราจะสื่อสารและสร้างความเข้าใจในศาสนาแห่งจักรวาลนี้ ให้คนรุ่นหลังได้อย่างไร สำหรับข้าพเจ้าแล้วขอตอบว่า มันเป็นหน้าที่ของวิทยาศาสตร์ ที่จะต้องกระตุ้นให้สังคมได้รู้จักและสืบทอดศาสนานี้ต่อไป" อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์...นิวยอร์ก ไทม์
    *กล่าวคือคำสอนของศาสนาพุทธมีความเป็นนามธรรมลึกซึ้ง เป็นโลกุตตรธรรม

    เขายังกล่าวไว้อีกว่า "ความรู้สึกทางศาสนาแห่งจักรวาลเป็นแรงจูงใจที่แข็งแกร่งที่สุด และประเสริฐที่สุด สำหรับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์"

     
  4. Budratsa

    Budratsa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2009
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +607
    สวัสดีค่ะท่านเจ้าของกระู้ทู้ อย่าใจอ่อนน่ะค่ะ เราจะเล่าประสบการณ์ให้ฟัง มีคนมาชวนบ่อยๆมากๆ ยิ่งมาิยู่ต่างแดน ผู้หญิงไทยเปลี่ยนศาสนาตามสามี บ้างเพื่อนชวนบ้าง มีเพื่อนส่งเอกสารศาสนาเขามาให้(คนไทย) เราปฏิเสธ บอกว่าเรานับถือศาสนาพุทธ ไม่เปลี่ยนแน่นอน เคยไปหาหมอฝรั่งเกี่ยวกับกระดูก ไม่รู้ยังไงเขายื่นไม้กางเขนอย่างสวยเลยน่ะให้เราคล้ายๆจี้ เราปฏิเสธไม่รับ เพราะ้เราแขวนพระ สามีบอกรับไปเถอะไม่เป็นไรหรอก เราก็เอาไว้ในลิ้นชักหน้ารถ เชื่อใหมฝันเกือบทุกวันเป็นแสงจ้ามาก ไม่ร้อนน่ะแสงสว่่างนี้ บางวันเป็นบาทหลวงจ้องอยู่ปลายเท้า บางวันนั่งกรรมฐานหน้าประมุขทางศาสนามาให้เราเห็น เรากำหนด จนปรึกษาเพื่อนเพื่อนที่เมืองไทยไปถามคนมีญาณ จึงได้รู้ว่า เราเคยเป็นคนของเขา(ศาสนาและประเทศนี้มาก่อน) เขาเห็นเราสวดมนต์และปฏิบัติทุกวันเขาจึงจะมาเอาคนของเขาคืน เราจึงเอาของที่หมอให้มาไปคืน ให้กับคนที่เขานับถือ จุด16 ดอกขอ มาอยู่ประเทศนี้(สวิส) และขอนับถือศาสนาพุทธ ไม่กลับศาสนานั้น ขออาราธนาคุณพระรัตนตรัยคุ้มครอง วันสุดท้ายก็มาอีกแสงจ้ามากและบาทหลวงมาให้เห็น นับจากนั้นไม่เห็นอีกเลยค่ะ

    เกิดเป็นมนุษย์นั้นยาก ได้เจอพระพุทธศาสนานั้นยากยิ่ง ยิ่งยากสุดคือได้มีโอกาสปฏิับัติธรรมในพระพุทธศาสนา

    ตอนนี้เราอธิษฐานขอให้เกิดเป็นไทย นับถือศาสนาพุทธ และได้ทำทานศีลภาวนาได้โดยสดวกทุกภพทุกชาติค่ะฯลฯ

    มีเพื่อนฝรั่งสนใจการปฏิบัติธรรมกับเราด้วยค่ะ บอกเขาว่าศาสนาพุทธนี้ เป็นศาสนาเดียวที่สอนไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีกค่ะ
     
  5. ชัยธนันท์

    ชัยธนันท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    859
    ค่าพลัง:
    +1,488
    อนุโมทนาสาธุครับ ได้อ่านพุทธทำนายข้างบนรึยังครับ เมืองไทยเป็นที่แห่งเดียวในตอนนี้ที่ยังยึดมั่นในพระพุทธศาสนาอนาคตรอบบ้านจะทำสงครามกันเมืองไทยจะกระทบน้อยที่สุด คิดดูสงครามนิวเคลียร์อะไรประมาณนั้น และชาติไทยจะไม่ตกเป็นเมืองขึ้นใคร ขออย่างเดียวให้คนไทยรัก และสามัคคีกัน เทิดทูนบูชา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เรื่องแบนี้ฝรั่งไม่เข้าใจหรอกครับ เราได้รับสืบต่อมา รุ่นต่อรุ่น
     
  6. หนีนรก

    หนีนรก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +666
    ตอนที่น้องเราเรียนจบที่ม.สารคาม น้องเราจ้างรถขนของจากสารคามเพื่อขนของกลับบ้าน เราโดนโยนให้ไปนั่งหน้าเพื่อคุยเป็นเพื่อนคนขับ ชื่ออะไรไม่รู้ลืมแล้ว (เพื่อความปลอดภัยของน้องๆจะได้นอนอย่างสบายใจ) การสนทนาราว 4 ชั่วโมง เป็นปัญหาสะเทือนปัญญาแทบทั้งสิ้น เจอคำถามโดนใจที่เราอยากเอาจะโขกหัวตัวเองกับกระจกรถ คือ
    "ศาสนามีไว้ทำไม ทำอะไรได้บ้าง เรียนมาทำไมไม่รู้จักทำมาหากิน..บรา บรา บรา"
    เราเลยบอกว่า "วัดเหมือนโรงเรียนดันสันดาน ไอ้ความเรื่องมาก นี้ไม่ดีโน้นไม่ได้จะน้อยลง มีความอดทนมากขึ้น เลยทำให้ชีวิตเป็นสุขมากขึ้น ใจสบายขึ้น เรื่องเล็กเรื่องใหญ่เข้ามาก็จะจัดการได้ง่ายขึ้น ไม่ค่อยเป็นทาสของอารมณ์ถึงเป็นก็หาทางหยุดอารมณ์มากกว่าหาทางใช้อารมณ์ แต่ถ้าใจห่างวัดเมื่อไร่ไอ้นิสัยเสียๆก็จะหาทางกลับมาใหม่เหมือนกัน แล้วเราก็ต้องลำบากต้องทรมารตัวเองอีกรอบ(ทรมานจริงๆ) เพื่อสร้างนิสัยดีๆเพื่อคุณภาพชีวิตของเรา"
    แกถามว่าศาสนาต่างกันยังไง (เอาละสิ)
    เลยตอบไปว่า"แล้วแต่คนชอบ โดยส่วนตัวตามทัศนะของตัวเองนะ เป็นพุทธนี้แหละดีแล้ว"
    ถามอีกว่า "ทำไม"
    "ศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้าสอนมาเยอะแยะอะไรดีไม่ดีบอกหมด ว่าแต่จะมีปัญญาเรียนหมดรึเปล่า จะทำไม่ก็ไม่บังคับตามใจทุกอย่างใจดีสุดๆ จะรักดีรักชั่วขึ้นอยู่กับความเรา ไม่มาจ้ำจี้จำไช พ่อแม่ดีแค่ไหน ลูกเลวซะอย่างก็เท่านั้น ก็บอกอยู่แล้วทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว อยากได้อะไรก็ทำเอา ได้แล้วไม่ชอบใจก็อย่ามาโว้ยแล้วกันเพราะทำเองก็บอกแล้วไง"
    "ส่วนศาสนาคริสต์เคยเรียนโรงเรียนคริสต์พอรู้แต่ไม่มาก พระเจ้าเป็นสำคัญ อยากได้อะไรขอได้โดยสวดวิงวอนเอา(ใจดี) แต่พระเจ้าจะให้ไม่ให้อีกเรื่องนึง มีบัญญัติ 10 ประการเป็นข้อปฏิบัติ มีอะไรบ้างจำไม่ได้ แต่ไม่ห่างไกลกับศีล 5 หรอก มี10ข้อ ก็จริงแต่ทำง่ายกว่า ศีล5 ของเรามีน้อยแต่ละเอียด อีกอย่างที่น่าสนใจคือศาสนาคริสต์ทำบาปแล้ว สารภาพบาปเท่ากับล้างบาปได้ จริงเปล่าไม่รู้แต่ง่ายไป เลยไม่ชอบ เดี๋ยวจะทำบ่อย"
    "ส่วนอิสลามออกตัวว่าไม่รู้เลย แต่มีเมียได้ 4คน ต้องทำละหมาด 5เวลาของทุกวัน แต่เวลาไหนบ้างไม่แน่ใจ จำได้คราวๆว่า ตอนตี 5 ตอนเที่ยงๆ ตอนบ่ายแก่ๆ ก่อนเคารพธงชาติ หลังเคาพธงชาติ แล้วก่อนนอนประมาณ2ทุ่มมั้ง ทำนานขนาดไหนไม่รู้แต่เดาว่าน่าจะเกิน 1 ชม. แต่เวลาชัดเจนนะแต่จำไม่ได้ เป็นศาสนาที่เคร่งในการปฏิบัติมาก เพราะบังคับ"
    เราถามกลับว่า "ชอบแบบไหนละ"
    เขาเลยบอกว่า "พุทธแบบเดิมแหละดีแล้ว"
    เราเลยตอบว่า "งั้นอยากรู้อะไรก็ศึกษาเอา มีหมดแหละถ้าจะหาคำตอบท่านสอนทั้งทางโลกและทางธรรม"
    แต่ถึงยังไงเราก็รู้สึกเศร้ามาก ที่คนไทยแท้ๆเป็นพุทธโดยกำเนิดแต่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับศาสนาตัวเอง แต่ก็ไม่ได้คาดหวังหรอก แค่บอกพอให้แก่มีไว้ประดับความรู้เท่านั้นเอง
    ตอบไปตามความเข้าใจของเราแล้วกัน อย่าหวังผล ทำใจเป็นกลางเข้าไว้ ถ้าเราโดนจูงใจมากๆก็หนักแน่นเข้าไว้ใช้เหตุผลทัดทาน แค่ตอบว่าเราคิดยังไง ฟังแล้วตอบอย่าฟังอย่างเดียว มิฉะนั้นหูคุณอาจจะทำงานหนักได้ เก็บข้อมูลพอแล้วก็ตาเราบ้างซัดเลยเกี่ยวกับศาสนาเรา อย่าลึกมาก เอาเรื่องที่เข้าใจง่ายๆภาษาที่เอาพูดกัน ถ้าทางนั้นฉลาดเจาะลึกเลยแล้วกัน ทางที่ดีชวนเข้าวัดวิปัสสนากรรมฐานซะเลย ยิ่งที่ต้องนั่งในป่าช้านะ (แกหนีเลยแต่ดีไม่ดีอาจติดใจก็ได้) โฆษณาด้วยละ ของแบบนี้ต้องลองเองถึงจะรู้ แต่ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆนะ ต้องพิสูนจ์เอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 พฤษภาคม 2010
  7. พงษ์ศัลย์

    พงษ์ศัลย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +365


    อนุโมทนาครับ เคยเป็นเหมือนกันเลยครับ ตอนเด็กๆเรียนโรงเรียนคริสต์ ก็เลยไม่ค่อยชอบพุทธ คิดว่างมงาย คิดว่าคริสต์ดีกว่าเยอะ ใจกว้าง ไม่เหมือนพุทธที่ค่อนข้างโหด(เรื่องของกรรมที่ใครทำเช่นไรก็ได้ผลเช่นนั้น ซึ่งไม่สามารถล้างกรรมที่ทำไปได้) แต่พอมารู้แก่นแท้จริงก็ชัดเลยครับ เพชรแท้จริงๆ ผมถึงกับเคยเอ่ยปากว่าให้ตายหรือใครเอาปืนมาจ่อหัวขู่เอาชีวิตก็ไม่เปลี่ยนศาสนาเลยทีเดียว ส่วนคนมาชวนก็เจอครับ เจอบ่อยมากเพราะเรียนมหาวิทยาลัย ก็จะเจอคนเยอะ แต่ก็ไม่หวั่นไหว กลับมั่นคงในพระพุทธศาสนามากขึ้น เพราะสิ่งที่คนศาสนาอื่นที่มาชวนนั้นเพียงแต่ปลูกศรัทธาให้เกิดจิตที่จะะทำความดีเท่านั้น แต่พระพุทธศาสนาของเรานั้น สอนให้รู้จักการใช้ปัญญาประกอบกับศรัทธาด้วย ซึ่งจะทำให้เราไม่งมงาย ฟุ้งเฟ้อตามกระแสโลกมากเกินพอดีจนทำให้เกิดทุกข์
     
  8. toomdoi

    toomdoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +839
    อนุโมทนา

    ศาสนาพุทธ สอนให้คนหลุดพ้น ให้เห็นแก่นแท้ของชีวิต ไม่กลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก เชื่อผลกรรมใครทำอะไรไว้ก็รับผลของกรรมนั้น ไม่ยึดมั่นถือมั่นในพระเจ้า เทวสถานหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ศาสนาพุทธเป็นศาสนาเอกของโลก สอนในหลักความเป็นจริง
     

แชร์หน้านี้

Loading...