ผ้ายันต์หลวงพ่อกบวัดเขาสาริกา

ผ้ายันต์เก่าๆของหลวงพ่อกบและหลวงพ่อโอภาสีครับ

 

เงินขวัญถุงหลวงปู่กบ กับหลวงพ่อโอภาสีครับ

 

ยินดีด้วยครับที่เข้ามา พยายามแยกว่าสิ่งไหนของหลวงพ่อกบ,และสิ่งไหนของหลวงพ่อโอภาสี พอดีเขียนชื่อมาสองชื่อนะครับ แยกชื่อแยกของแต่ละท่านจะทำให้เข้าใจง่ายนะครับ สมาชิกจะได้ศึกษาด้วยครับ อนุโมทนาครับ (smile)

 

ผืนนี้เขียนขึ้นด้วยพู่กันครับ
ของหลวงปู่กบเสก

 

ส่วนกระดาษนี้เป็ของหลวงพ่อโอภาสีมาแจกที่วัดเขาสาริกาครับ
จะเป็นว่าได้ปั้มยันต์ใว้ด้วย
และมีจำนวนน้อยครับที่ปั้มแบบนี้
ส่วนมากจะไม่มีปั้ม

 

ครับขอบคุณครับคุณลูกลพ.เขาสาริกา และคุณsupachaisoo ที่เข้ามาเยี่ยมชมครับ

 

แผ่นนี้เป็นคาถาของหลวงปู่กบวัดเขาสาริกาครับ
ผมเคยเห็นเถ้าแก่ร้านขายแก๊สแถวสมุทรปราการแกมากราบหลวงปู่
พอดีคนข้างวัดชือ ตารอง เป็นพี่ชายของเจ้าอาวาสวัดเขาสะริกาองค์ปัจจุบัน
ตารองเป็นฝีฝักบัวที่หน้าท้องด้านขวาสูกใหญ่มาก เถ้าแก่ได้คุยกันอยู่ไม่นานแกก็ขอบารมีหลวงปู่แล้วใช้กลั้นหายใจบริกรรมคาถาใช้น้ำลายไต้ลิ้นศูนย์ฝี
ปรากฎว่าไม่นานฝีก็ปตกหนองใหลเป็นกระปํงนมเลยครับ
แล้วก็รักษาแผลไม่ถึงอาทิต แผลก็หายสนิท

 

รูปหล่อหลวงปู่กบ รุ่นแรกจัดสร้างโดยคณะศิษย์ที่วัดเขาสาริกา
สร้างจำนวน3000องค์ประมาณปี2530ครับ
เพื่อนำมาแจกให้ใว้บูชาไม่ได้จำหน่ายครับ

 

รุ่นที่2ครับ

 

เหรียญหลวงปู่กบสร้างโดยคณะศิษปี2506ครับ

 

วัตถุมงคลส่วนหนึ่งของหลวงพ่อโอภาสีครับ

 

ตัวเองนับถือท่านมากไม่รู้ว่า เพราะอะไร เหมือนกัน

 

ผมเคยอาศัยอยู่แถวบ้านเกริ่นกฐิน .....ฟังคนเถ้าคนแก่เล่าเรื่องหลวงพ่อกบ

คนรุ่นเก่าๆ 70 ขึ้นเล่าให้ผมฝังเมื่อสัก 14-15ปีมาแล้ว ถึงเรื่องใครเอาอะไรไปถวายท่านก็

เผา แล้วท่านก็นั่งภาวนาทองหนึ่งๆๆ..ไปเรื่อยๆ...

คนเถ้าคนแก่บอกว่าช่วงงานสำคัญอะไรสักอย่างผมจำไม่ได้มีผู้คนมากราบหลวงปู่จำนวน

มากมายโดยสารมาทางรถไฟ แถวนั้นเมื่อสมัยก่อนการดินทางคมนาคมไม่สะดวกมากนัก

อีกองค์ที่คนย่านนั้นนับถือก็หลวงพ่อก๋ง หลวงพ่อมี วัดเขาสมอคอน ..

หลวงพ่อสละวัดท้องคุ้ง แต่อยู่คนละฝากกัน...

อนุโมทนากับท่านเซาะปากดงด้วยครับที่นำภาพวัตถุมงคลมาให้ชมครับผมจะได้ทบทวน

ความจำเก่าๆด้วยครับ

 

หลวงพ่อโอภาสี เป็นอดีตพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่า ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งใน “พระดี-พระแท้” ที่ยึดมั่นในแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนในการ “บูชาไฟ” ถวายเป็นพุทธบูชา ซึ่งสืบทอดตามครูบาอาจารย์ของท่านคือ สมเด็จพระบรมครู หลวงพ่อเขาสาริกา หรือ หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ที่ยึดแนวการบูชาไฟถวายเป็นพุทธบูชามาจวบจนมรณภาพ
หลายคนอาจสงสัยว่า การเผาทุกสิ่งทุกอย่างที่ญาติโยมนำมาถวาย ไม่เว้นทรัพย์สิน เงินทอง หมายความว่าอย่างไร จากการสอบถามผู้รู้และศิษย์ใกล้ชิด (สมัยยังมีชีวิตอยู่) ซึ่งเป็นศิษย์สายตรงได้อธิบายว่า เป็นอุบายธรรมอย่างหนึ่งของหลวงพ่อกบ และหลวงพ่อโอภาสี สะท้อนให้เห็นการเผากิเลสในใจของมนุษย์ หากคนเราไม่ยึดติดกับสิ่งใด ๆ รวมทั้งเงินทอง ข้าวของมีค่า แล้วก็ย่อมพบทางสว่างแห่ง “ธรรมะ” ได้โดยง่ายนั่นเอง เพราะมนุษย์ส่วนใหญ่มีกิเลส คือ โลภ โกรธ หลง อยู่ในจิตใจ การสละของรักของหวงอย่างไม่อาลัยอาวรณ์เป็นสิ่งที่ทำได้ยากเย็นยิ่งนัก
สมัยหลวงพ่อโอภาสีมีชีวิตอยู่ ท่านไม่เคยยินดียินร้ายกับทรัพย์สิน เงินทอง ลาภยศ สรรเสริญ แต่ประการใด วัตถุมงคลส่วนใหญ่ของท่านลูกศิษย์จะทำไปให้ท่านปลุกเสกทั้งสิ้น
หนึ่งในของขลัง-ของดีของหลวงพ่อโอภาสีที่ได้รับความนิยมกันมากในยุคต้น ๆ ก็คือ ยันต์พุทธมนต์ หรือยันต์กันภัย (ภาษาชาวบ้านเรียกสมัยนั้น) ต้นกำเนิดเกิดขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 (พ.ศ.2482-2485) ตอนนั้น หลวงพ่อโอภาสี ออกจากวัดบวรนิเวศไปจำพรรษาที่วัดพิชัยญาติย่านฝั่งธนบุรี อาศัยหลับนอนในห้องเล็ก ๆ บนพระปรางค์ในวัด ด้วยแนวประพฤติปฏิบัติที่ไม่เหมือนใคร เป็นที่ฮือฮาให้ชาวบ้านย่านใกล้เคียงมาก ช่วงสงครามมีเครื่องบินมาทิ้งระเบิดฝั่งธนบุรีและฝั่งพระนคร ชาวบ้านไปนิมนต์หลวงพ่อไปหลบภัยที่อื่น
ท่านบอกว่า “จะกลัวไปทำไม มนุษย์เกิดมาแล้วถึงเวลาก็ตายเหมือนกัน” และไม่ยอมออกจากวัด เครื่องบินก็บินมาทิ้งระเบิดทุกวัน จนชาวบ้านพาไปขอของดีจากท่าน ท่านก็เมตตาเขียนคาถาประจำตัวของท่านคือ “อิติสุคะโต อะระหังพุทโธ มะโมพุทธายะ ปะฐะวีคงคง พระภุมมะเทวา ขะมามิหัง” ใส่เศษกระดาษทองคำเปลวให้ไปแจกกันและกำชับให้หมั่นท่องหมั่นสวดทุกวัน จะแคล้วคลาดปลอดภัย เป็นที่ฮือฮากันมาก ย่านนั้นไม่โดนระเบิดเลย เครื่องบินบินเลยไปทิ้งฝั่งพระนครกันหมด ชาวบ้านเชื่อว่า บารมีหลวงพ่อช่วยปัดลูกระเบิดไปที่อื่นได้ จึงเป็นที่มาของ “ยันต์กันภัย” แต่บัดนั้น ส่วนใหญ่เขียนด้วยลายมือหลวงพ่อทั้งสิ้น
ต่อมาลูกศิษย์ต้องการกันมาก เจ้าของโรงพิมพ์ที่เป็นลูกศิษย์ (น่าเป็นเจ้าของโรงพิมพ์ที่พิมพ์หนังสือชวนภาษิตทั้ง 7 ครั้ง ย่านถนนข้าวสาร) จัดพิมพ์ใบคาถานี้มาให้ท่านไว้แจกผู้ศรัทธา (ประมาณปี 2485 เป็นต้นมา) จำนวนไม่แน่นอน ยุคแรกเป็นกระดาษสีน้ำเงิน (สีเดียว) ก่อนจะเปลี่ยนเป็น 2 สี คือ สีแดงและน้ำเงิน สีแดงก็มีแต่น่าจะเป็นยุคหลัง ๆ ก่อนท่านมรณภาพไม่นานนัก ด้านหน้าเป็นคาถา “อิติสุคะโต อะระหังพุทโธ มะโมพุทธายะ ปะฐะวีคงคง พระภุมมะเทวา ขะมามิหัง” คาถาประจำตัว ด้านหลังมีทั้งภาษาไทย จีน อังกฤษ แขก มอญ ซึ่งได้รับความนิยมกันมากในสมัยนั้น
นอกจากนี้ยังมีลูกศิษย์เจ้าของโรงงานพลาสติกและเจ้าของโรงหล่อทำคาถาแบบพลาสติก (สีแดง) และโลหะ (ทองแดง ตะกั่ว) มาถวายเพิ่มเติมในภายหลังอีกจำนวนหนึ่งด้วย มีไม่มากนัก ส่วนใหญ่ประเภทพลาสติกแจกเฉพาะคนใกล้ชิดและกรรมการวัดเท่านั้น

 

ผมมีของหลวงพ่อกบ-หลวงพ่อโอภาสี ชิ้นนึงครับ

 

<TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width="85%" height="100%">สุดยอดครับ (ลูกศิษย์จะเรียกท่านว่า สมเด็จพระบรมครู หลวงพ่อเขาสาริกา หรือหลวงพ่อเขาสาริกา) ยุคนี้ วัตถุมงคล หายากทั้งนั้นครับ
ชิ้นนี้ของพี่สร้างยุคหลังครับ แต่เป็นของแท้ครับ
ถ้านับถือก็บูชาติดตัวได้ เพราะท่านเป็นพระอภิญญา ทันหรือไม่ทันก็ขลังเหมือนกันทั้งนั้น ขนาดเหรียญหลวงพ่อกบ หลวงพ่อโอภาสี และหลวงพ่อชื้น สร้างยุคหลัง ๆ ประมาณ 2525 กว่า ๆ ลูกศิษย์คล้องคอติดตัว รถทัวร์คว่ำยังไม่เป็นอะไรเลย

</TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ยันต์สามเหลี่ยมผืนนี้เรียกว่า ยันต์พระนารายณ์ปราบนนทก หรือยันต์นารายณ์ปราบนนทก หายากมากครับ

 

แผ่นนี้เนกระดาษยันต์ที่เขียนขึ้นของหลวงปู่กบครับ

 

มีกะเขาอยู่ 2 ผืน บูชาอยู่ที่ห้องพระครับ

 

สาธุๆ



เจอเจ้าสัวตัวจริงแล้ว ^_^

ขอบคุณคุณเซาะปากดง ที่ได้นำสมบัติพ่อให้(หลวงพ่อกบ หลวงพ่อโอภาสี) มาให้ลูกหลานหลวงพ่อได้เห็นเป็นบุญตา บุญใจ ขอบคุณครับ

ขออนุโมทนากับทุกๆ ท่านครับ
______________________________
hello9
กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจังหวัดเพชรบูรณ์
กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจังหวัดเพชรบูรณ์มาทำงานกัน