โลกร้อนใกล้ถึงจุดวิกฤติอุณหภูมิเฉียด3ล้านปีก่อน-น้ำทะเลท่วมแผ่นดิน!!

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 27 กันยายน 2006.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,489
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>โลกร้อนใกล้ถึงจุดวิกฤติอุณหภูมิเฉียด 3 ล้านปีก่อน น้ำทะเลท่วมแผ่นดิน!!</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>27 กันยายน 2549 14:51 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>โลกร้อนขึ้นทุกวัน น้ำแข็งขั้วโลกกำลังละลายหนัก ไม่เว้นแต่เจ้าหมีขั้วโลกที่เดือดร้อนเพราะไม่มีก้อนน้ำแข็งจะให้เกาะ หมีเหล่านี้อาจต้องจมทะเลขั้วโลกตายสักวัน และจากนักมนุษย์อย่างพวกเราก็จะจมน้ำไปตามกัน เพราะเมื่อน้ำแข็งขั้วโลกละลาย น้ำก็ย่อมไหลเพิ่มปริมาณตามมหาสมุทรต่างๆ มากขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ธารน้ำแข็งที่เคยเป็นแหล่งท่องเที่ยวสวยงาม กุดด้วนเสียแล้ว</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เมืองใหญ่แหล่งก่อก๊าซเรือนกระจกที่หยุดยั้งไม่ได้</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>น้ำมันเชื้อเพลิงอีกตัวการสำคัญทำให้โลกร้อน</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>พลังงานสะอาดอย่างพลังงานลมเป็นอีกทางเลือกสำคัญในการแก้ปัญหา</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เอเจนซี - ผู้เชี่ยวชาญเตือนหากมนุษย์ไม่หยุดยั้งการแพร่กระจายก๊าซเรือนกระจก อุณหภูมิโลกอาจพุ่งสูงถึงระดับเดียวกับเมื่อหลายล้านปีก่อน โดยเฉพาะในบางส่วนของมหาสมุทรแปซิฟิก แหล่งกำเนิดปรากฏการณ์เอลนิโนตัวร้าย

    จากข้อมูลของทีมวิจัยที่นำโดยเจมส์ แฮนเซน (James Hansen) นักอุตุนิยมวิทยา แห่งสถาบันกอร์ดดาร์ด (Goddard Institute) เพื่อการศึกษาอวกาศขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) ในนิวยอร์กซิตี้ ที่ตีพิมพ์อยู่ในวารสารโปรซีดดิงส์ ออฟ เนชันแนล อะคาเดมี ออฟ ไซนส์ (Proceedings of the National Academy of Sciences) ฉบับวันที่ 26 ก.ย. ระบุว่าปรากฏการณ์เอลนิโนเป็นปัจจัยสำคัญในการติดตามตรวจสอบภาวะโลกร้อน

    รายงานดังกล่าวระบุว่า เพราะเอลนิโนสามารถผลักดันให้อุณหภูมิสูงขึ้นกว่าปกติ ดังที่เกิดขึ้นในปี 1998 ซึ่งเรียกกันว่า 'ซูเปอร์เอลนิโน' ที่ทำให้อุณหภูมิโลกร้อนเป็นประวัติการณ์ ประเด็นสำคัญที่นักวิจัยทีมนี้ค้นพบก็คือ ในปีที่ผ่านมา อุณหภูมิโลกอยู่ในระดับเดียวกับปี 1998 และอาจถือเป็นปีที่อากาศร้อนที่สุด โดยปราศจากสัญญาณว่า ผิวน้ำบริเวณแนวเส้นศูนย์สูตรด้านตะวันออก ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของเอลนิโน ร้อนขึ้นแต่อย่างใด

    ขณะนี้ น้ำในแนวเส้นศูนย์สูตรทางแปซิฟิกตะวันตกอุ่นกว่าด้านตะวันออก และความแตกต่างของอุณหภูมิผิวน้ำระหว่างสองบริเวณนี้ อาจทำให้อุณหภูมิผันผวนรุนแรงขึ้นระหว่างสภาพอากาศปกติกับเอลนิโน ที่สำคัญปรากฏการณ์โลกร้อนในขณะนี้กำลังส่งผลต่อผิวน้ำบริเวณแปซิฟิกตะวันตกก่อนซึมซับลงสู่น้ำทะเลด้านล่าง

    ในการศึกษาของแฮนเซนพบว่า อุณหภูมิโลกสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เฉลี่ย 0.4 องศาฟาเรนไฮต์ (0.2 องศาเซลเซียส) ต่อทศวรรษตลอดช่วง 30 ปีที่ผ่านมา และหากอุณหภูมิโลกขยับขึ้นไปอีกเพียง 1.8 องศาฟาเรนไฮต์ (1 องศาเซลเซียส) ก็จะเท่ากับอุณหภูมิสูงสุดที่เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายล้านปีก่อน

    "หลักฐานนี้บ่งชี้ว่า เรากำลังเข้าใกล้ระดับมลพิษจากฝีมือมนุษย์ที่อันตรายอย่างยิ่ง" แฮนแซนระบุในรายงาน

    แฮนเซน ซึ่งเป็นคนแรกที่เตือนถึงอันตรายของการเปลี่ยนแปลงของชั้นบรรยากาศเมื่อหลายทศวรรษที่แล้ว กล่าวว่าก๊าซเรือนกระจกที่มนุษย์ก่อขึ้น โดยเฉพาะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ กลายเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ชั้นบรรยากาศเปลี่ยนแปลง รวมถึงมีอิทธิพลต่อปรากฏการณ์เอลนิโนและพายุโซนร้อน เนื่องจากก๊าซเรือนกระจกจะกักความร้อนไว้ในชั้นบรรยากาศ ทำให้ผิวโลกร้อนขึ้น

    "ผลต่อความถี่ในการเกิดปรากฏการณ์เหล่านั้นยังไม่ชัดเจน เนื่องจากขึ้นกับปัจจัยอีกหลายอย่าง แต่ระดับความรุนแรงอาจเพิ่มขึ้น ตามการแพร่กระจายก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มมากขึ้น ในทางกลับกัน การชะลออัตราขยายตัวของก๊าซเรือนกระจกจะช่วยลดความเป็นไปได้ในการเกิดปรากฏการณ์เอลนิโนและพายุโซนร้อนที่มีความรุนแรงสูงสุด"

    เดือนนี้ร่องรอยของปรากฏการณ์เอลนิโนปรากฏขึ้นจางๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อน และอาจพัฒนาสู่ระดับปานกลางในฤดูหนาว ทั้งนี้ จากข้อมูลขององค์การบริหารด้านสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ

    แฮนเซนสำทับว่า สภาพภูมิอากาศในโลกขณะนี้คล้ายคลึงอย่างมากกับในช่วงที่อุ่นที่สุดระหว่างยุคน้ำแข็ง แต่หากอุณหภูมิโลกสูงขึ้นอีก 2-3 องศาเซลเซียส โลกจะเปลี่ยนไปกลายเป็นดาวเคราะห์ที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน

    "ครั้งล่าสุดที่โลกร้อนขนาดนั้นคือในช่วงกลางของยุคไพลโอซีน (middle Pliocene) เมื่อราว 3 ล้านปีที่แล้ว ที่เชื่อกันว่าระดับน้ำทะเลสูงกว่าในขณะนี้ 25 เมตร"

    นอกจากนี้ ทีมนักวิจัยยังได้อ้างอิงรายงานในวารสารเนเจอร์ (Nature) ที่ว่า ต้นไม้ สัตว์ และแมลง 1,700 สายพันธุ์ อพยพไปทางแนวทิศเหนือเข้าหาขั้วโลกซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่า ในอัตราเฉลี่ย 6 กิโลเมตรต่อทศวรรษในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20 และถ้าหากเรายังไม่ลดการแพร่กระจายก๊าซเรือนกระจก ก็เท่ากับว่าเรากำลังผลักไสไล่ส่งสัตว์หลายสายพันธุ์ให้สูญหายไปจากโลก

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right height=10>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR vAlign=baseline><TD vAlign=top width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD class=hit align=left height=19>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>ไทยรับผล
     
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *******************************
    สรรพภัยทั้งปวงกึ่งพระพุทธกาล...กำลังจะอุบัติ
    *******************************


    การแก้ปัญหาโลกร้อน...ไม่ทันแล้ว
    การใช้ ระเบิดนิวเคลียร์....ยิ่งส่งผล เร่งเร็ว และ รุนแรง !!!



    เหตุการณ์เหล่านี้ ถูกกำหนด....เป็นชะตาลิขิต ของมวลมนุษย์

    ผู้ที่รอดพ้น...ภัยครั้งนี้ได้
    จะพบกับ โลกยุคใหม่ ดั่งดินแดนสวรรค์
    เป็นการเข้าสู่ ยุคพระศรีอาร

    ------------------------------------------------

    "โลก:eek:
    ดินฟ้าเป็นพยาน ศาสดากล่าวขานไว้
    ครบห้าพันปีไซร้ จึงสิ้นสุดพุทธกาล
    <O:p
    แม่พระปฐพีผืนดิน ทำลายสิ้นแหล่งเคยพาล
    เปลือกโลกขยับพล่าน จมบาดาลเกินคำทำนาย
    <O:p
    แม่พระดูแลน้ำ ร่วมสมเข้าพระแม่ลม
    ก่อคลื่นกวาดถลาโถม พัดใส่เจ้ามิรู้กรรม
    <O:p
    มนุษย์คิดครองโลก โศกมหันต์วิ่งหนีกรรม
    กว่ารู้สัจจะธรรม กรรมเกลื่อนกลบภพทรพี<O:p
    <O:p
    <O:p
    “แก้หนึ่งเดียว”<O:p
    อาทิตย์เริ่มปรากฏ สุดรันทดคนไร้ธรรม
    ความดีผู้เคยทำ มีผลนำสิ่งตอบแทน
    <O:p
    เหล่าประธานบ่ดีสิ้นท่า ไร้ใบหน้าไร้ดินถม
    ประชาด่าระงม เยี่ยงซากถมข้างหนทาง
    <O:p
    ทางแก้คือธรรมะ พึ่งโลกุตตระและสัจจะธรรม
    เมืองชาติจักพ้นกรรม จากไททำเมื่อวันวาน<O:p

    ------------------------------------------------

    เวลาปลอดภัยเหลือไม่มากนัก !!!

    รีบค้นหา "สัจจะธรรม" คำสอนของพระพุทธเจ้า
    ในกระทู้ "โอ้...ชะตาฟ้าลิขิต อนาคตไทยที่ถูกกำหนด "
    กระทู้ "ที่พึ่งสุดท้าย คือ สัจจะ...กับ....โลกุตตระ "
    กระทู้ "แก่นพุทธศาสนา...เท่าปลายเข็ม....สัจจะ"


    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กันยายน 2006
  3. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,489
    นาซาชี้โลกร้อนสุดในรอบล้านปี



    *ทีมนักวิทยาศาสตร์นาซาระบุโลกเข้าใกล้สู่ภาวะร้อนที่สุดในรอบหนึ่งล้านปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเป็นจุดเกิดเอลนีโญ เผยอุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 0.2 องศาเซลเซียสต่อทศวรรษในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา จวกปัญหาเกิดจากน้ำมือมนุษย์ที่จะยิ่งทำให้สภาพอากาศแปรปรวนหนัก*



    นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพภูมิอากาศประจำองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา) ของสหรัฐอเมริกา ชี้ว่า โลกอาจเข้าใกล้สู่ภาวะร้อนที่สุดในรอบหนึ่งล้านปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะพื้นที่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเป็นจุดที่เกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ หรือภาวะการอุ่นขึ้นอย่างผิดปกติของน้ำทะเล

    โดยนายเจมส์ ฮันเซน นักวิทยาศาสตร์ประจำสถาบันก๊อดดาร์ดเพื่ออวกาศศึกษาของนาซา กล่าวที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมาว่า ภาวะที่เกิดขึ้นไม่จำเป็นต้องหมายความว่าจะมีปรากฏการณ์เอลนีโญเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่อาจหมายความว่าภาวการณ์อาจจะทวีความรุนแรงเมื่อเกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ขึ้น

    ในงานวิจัยศึกษาของนายฮันเซนและทีมนักวิทยาศาสตร์ ที่ตีพิมพ์ในวารสาร "โพรซีดดิงส์ ออฟ เดอะ เนชั่นแนล อะคาเดมี ออฟ ไซเอ็นซ์" ระบุว่า ปรากฏการณ์เอลนีโญเป็นตัวแปรสำคัญในการเฝ้าสังเกตภาวะโลกร้อน สิ่งสำคัญคือ อุณหภูมิโลกในปี 2548 อยู่ในระดับเดียวกับในปี 2541 ซึ่งเป็นไปได้ที่ปีดังกล่าวอาจเป็นปีที่อากาศร้อนที่สุดเท่าที่เคยปรากฏมาโดยไม่มีสัญญาณของผิวน้ำทะเลในบริเวณเส้นศูนย์สูตรแปซิฟิกตะวันออกอุ่นขึ้นแต่ประการใด สิ่งสำคัญประการถัดมา กระแสน้ำบริเวณเส้นศูนย์สูตรแปซิฟิกตะวันตกอุ่นขึ้นกว่าบริเวณเส้นศูนย์สูตรแปซิฟิกตะวันออก และความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างสองพื้นที่ดังกล่าวจะส่งผลให้อุณหภูมิเกิดความแปรปรวนมากขึ้นระหว่างสภาพอากาศที่ปกติกับที่เกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ

    กรณีศึกษาชิ้นนี้ยังชี้ถึงเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ว่ามาจากภาวะโลกร้อนที่ส่งผลกระทบต่อผิวน้ำบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกก่อนที่จะกระทบต่อพื้นที่น้ำลึก ทั้งนี้ โดยภาพรวม อุณหภูมิโลกได้เพิ่มขึ้น 1 องศาเซลเซียส ซึ่งเชื่อว่าเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบหนึ่งล้านปีที่ผ่านมา ขณะที่การเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยของอุณหภูมิพื้นผิวโลกในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเฉลี่ยทศวรรษละประมาณ 0.2 องศาเซลเซียส

    ทีมนักวิทยาศาสตร์ชุดนี้ระบุด้วยว่า ปัญหาภาวะโลกร้อนเกิดขึ้นจากน้ำมือมนุษย์ โดยเฉพาะจากการปล่อยก๊าซภาวะเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศที่ทำให้โลกร้อนขึ้น อันจะส่งอิทธิพลต่อปรากฏการณ์เอลนีโญและพายุโซนร้อนด้วย (รอยเตอร์)


    Ref. http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01for01270949&day=2006/09/27
     
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,926
    ***************
    มนุษย์...ที่ขาดศรัทธา
    ***************

    มิอาจ ล่วงรู้ ถึงการจัดสรรน้ำจากทางช้างเผือกมาสู่โลก

    การเชื่อมั่น ยึดมั่นในตน ยึดติดกับตำราวิชาการ...จะพบทางตัน
    กำลังจะนำตนเองไปพบกับ ความพิบัติ หายนะ ใหญ่หลวง

    โอ้...ชะตาฟ้าลิขิต

    - "หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  5. kamakura

    kamakura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +210
    หากมัวโทษ ว่าฟ้า นั้นลิขิต
    จะมัวคิด อย่างอื่น ทำไมเล่า
    อย่าไปคิด อย่างอื่น เหมือนใครเขา
    ถ้ามัวเขลา เหมาว่าฟ้า จะทำลาย

    เป็นเพราะฟ้า หรือคน คิดดูใหม่
    ฟ้ากว้างใหญ่ ไม่เคยผลาญ ล้างพิภพ
    แต่เมื่อคน เกิดมา มิรู้จบ
    ทำพิภพ ปั่นป่วน ด้วยมือตน

    คนหนอคน อย่ามัว แต่โทษฟ้า
    จงตั้งหน้า มุ่งมั่น สร้างกุศล
    แม้จะเกิด อะไรขึ้น จงอดทน
    เกิดเป็นคน ต้องขยัน หมั่นทำดี
    ---------------------------------------
    "ตน เป็นที่พึ่ง แห่งตน"
     
  6. chatsiri

    chatsiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +195
    ถ้าไม่มีสิ่งมีชีวิตกรรมใด ๆ ย่อมไม่เกิด (อย่ากลัว)
     
  7. wong3210

    wong3210 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    553
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,392
    ภาพน้ำท่วมกรุงเทพครั้งแม่พลอย (อดีต ฮิฮิ...)


    [​IMG]
    ถนนราชดำเนินนอก


    [​IMG]
    พระบรมรูปทรงม้า


    [​IMG]
    อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ


    [​IMG]
    อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย



    [​IMG]



    บ้านเมืองก็เปลี่ยนแปลงไปเสมอเป็นกฎแห่งไตรลักษณ์ จากคนรุ่นหนึ่งสู่คนรุ่นหนึ่ง

    เมื่อเห็นภาพเหล่านี้ทำให้รู้สึกถึงคนในอดีตจริงๆ แล้วก็ย้อนดูตัวผมเองว่า " แล้วเราจะมอบอะไรไว้ให้คนรุ่นหลังชื่นชมบ้างแล้วหรือยัง ? " แล้วทุกๆท่านละทำแล้วหรือยังครับ ?
    (f) (f) (f) ​
     
  8. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ฟ้ากำหนด เหตุที่เป็น เช่นแบบนี้..
    ให้เวลา ต่อหนึ่งรอบ หกหมื่นปี (เพื่อกลับคืน)
    บัดนี้ล่วง เกินกำหนด ยืดโอกาส
    เที่ยวไม่กลับ เพลินงานวัด ก็ถึงคราว...

    เบื้องบนรู้ จิตมนุษย์ เป็นเช่นนี้
    เร่งส่งสาร แจ้งบอกกล่าว เพื่อกลับตัว
    เหตุภัยนั้น ตามเป็นเงา เข้าใกล้ตัว
    เกิดเพราะจิต พลังลบดำ เหล่าเจ้ากรรม..(ตามทวงคืน)


    คนมีส่วน เพราะหลงทาง ห่างทางธรรม
    หลงอุบาย เงามายา กว่าค่อนโลก
    ค้นปัญญา เปิดทางธรรม ความรู้แจ้ง
    ทางรอดเดียว จงตั้งมั่น "ทางนิพพาน"

    ลองแต่งกลอนดูบ้าง ยากใช่เล่นครับ
    เวปพลังจิตนี่ แต่งกลอนกันเก่งๆทั้งนั้นเลย..โมทนานะครับ..

    (verygood)(verygood)(verygood)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2006
  9. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,860
    ธรรมชาติส่งสัณญานมาแล้วนะครับ
    ยังพอมีเวลาเหลือสำหรับผู้ไม่ประมาท เร่งขวนขวายหาที่อยู่กันเองครับ
    คงอีกไม่เกิน ๑๐ ปี นี้แน่
     
  10. surad

    surad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2006
    โพสต์:
    386
    ค่าพลัง:
    +1,287
    ทราบแล้วครับผม
     
  11. kepokman

    kepokman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +337
    ก็พูดแล้วกฏหมายต่างๆก็มีผลบังคับใช้เพื่อแก้ปัญหาโลกร้อนมาก แต่ก็ไม่ใช่ประเด็นหลักทางเศรฐกิจหรือไม่ได้เป็นประเด็นหลักในการแก้ปัญหา
    โดยหลักตอนนี้ก็คือ แก้ไขการผลิตอาวุธนิวเคีลยร์ สงครามเลบานอนอิสราเอลและกลุ่มฮิสบอลเลาะ ผมก็เห็นใจรัฐบาลแต่ละประเทศก็ทำเต็มที่บ้างแล้วครับ แต่ยังไม่ได้ผลมากหรือได้ผล แต่ไม่ทันเสียแล้ว ก็เป็นเวรกรรมของพวกท่านที่แต่ก่อนไม่เห็นความสำคัญ
    ประชุมโลกร้อนแต่ละครั้ง ก็มีแค่การทำการเก็บภาษีแกะที่ตดให้แพงขึ้น คนก็ขึ้นราคาแกะ แล้วเขาก็ซื้อแล้วไปขายแพงๆก็มีคนซื้อมันจะช่วยแก้ปัญหาตรงไหน โดยแกะหรือสัตว์ตดนี่ก็มีผลต่อการทำโลกร้อนเหมือนกันนะครับ
     
  12. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    Underwater City
    เมืองใต้บาดาลที่เหล่าศิลปินวาดกันไว้ อนาคตคงจะคล้ายแบบนี้...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2006
  13. pong-sit

    pong-sit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,626
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,781
    อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด อนาคตไม่รู้ ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก็พอแล้ว
     
  14. {ผู้ชนะสิบๆทิศ}

    {ผู้ชนะสิบๆทิศ} เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +917
    จงเตือนตนเองเสมอว่า " อย่าประมาทในสิ่งทั้งปวง เพราะ สรรพสิ่งล้วนดำรงอยู่ใน กฎไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สาธุ
     
  15. kepokman

    kepokman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +337
    อืมๆแต่ผมว่า ถ้าผู้นำทั่วโลก พูดว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เราก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจากตาย ฉะนั้น คำนี้ผมไม่ค่อยอยากใช้เลย


    เป็นไงละครับ ผู้ใหญ่ในเมืองไทยรู้เปล่าว ติดอันดับ9ในการทำโลกร้อนครับ มีใครสนใจบ้างเอ่ย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2006
  16. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,489
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="100%"><TBODY><TR><TD>โลกยังน่าเป็นห่วง น้ำแข็งอาร์กติกละลายมากขึ้น

    คอลัมน์ โลกสามมิติ

    โดย บัณฑิต คงอินทร์ bandish.k@psu.ac.th

    [​IMG]
    </TD><TD vAlign=top align=right>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    ภาวะโลกร้อนส่งผลต่อการละลายของน้ำแข็งบริเวณแถบขั้วโลก ทั้งแอนตาร์กติกา ขั้วโลกใต้ เกาะกรีนแลนด์ และอาร์กติก ขั้วโลกเหนือรุนแรงยิ่งขึ้น ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ขององค์การนาซาพบว่า แผ่นน้ำแข็งตลอดปีในมหาสมุทรอาร์กติกลดลงมากขึ้น นอกจากนั้นปริมาณน้ำแข็งในฤดูหนาวก็ลดลงอย่างมากอีกด้วย

    เมื่อกลางเดือนกันยายน 2006 นักวิทยาศาสตร์ขององค์การนาซา นำโดยซัน เนอแฮม จากห้องทดลองจรวดขับดัน (Nasa"s Jet Propulsion Laboratory) สถาบันเทคโนโลยีแห่งแคลิฟอร์เนียร์ ได้เผยผลการศึกษาสภาวะของน้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติกใน journal Geophysical Research Letters ว่า ในปี 2005 เพียงปีเดียวแผ่นน้ำแข็งตลอดปีในมหาสมุทรอาร์กติกลดลงถึง 14% กินพื้นที่เท่ากับขนาดของประเทศปากีสถานหรือประเทศตุรกีเลยทีเดียว

    น้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติกมีสองชนิดคือ ชนิดแรกเป็นแผ่นน้ำแข็งถาวรหรือตลอดปี (Perennial ice) แผ่นน้ำแข็งชนิดนี้มีความหนามากกว่า 3 เมตร และจะคงอยู่ตลอดทั้งปี โดยจะละลายไปบ้างในฤดูร้อนเพียงเล็กน้อยประมาณ 0.7% ต่อปี เท่านั้น อีกชนิดหนึ่งคือ แผ่นน้ำแข็งตามฤดูกาล (seasonal ice) แผ่นน้ำแข็งชนิดนี้มีความหนา 0.3 - 2 เมตร และจะคงอยู่เฉพาะในฤดูหนาวโดยจะละลายในฤดูร้อน และกลับกลายมาเป็นน้ำแข็งอีกครั้งหนึ่งในฤดูหนาว

    ทีมนักวิทยาศาสตร์ได้ใช้เครื่องมือ scatterometer ของดาวเทียมควิกส์แคท (Nasa"s Quikscat satellite) ซึ่งสามารถแยกแยะแผ่นน้ำแข็งทั้งสองชนิดได้สแกนน้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติก เพื่อวัดปริมาณและการกระจายตัวของน้ำแข็งทั้งสองชนิด ในระหว่างเดือนตุลาคม 2004-มีนาคม 2006 ซึ่งพบว่าแผ่นน้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติกลดลงอย่างสม่ำเสมอ แต่การกระจายตัวของน้ำแข็งเปลี่ยนแปลงไปมาก <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    โดยในระหว่างปี 2004-2005 แผ่นน้ำแข็งชนิดถาวรหดตัวถึง 730,000 ตารางกิโลเมตร ส่วนใหญ่เกิดทางตะวันออกของอาร์กติก (เหนือรัสเซียและยุโรป)และส่วนน้อยเกิดทางตะวันตกของอาร์กติก (เหนืออเมริกาและมหาสมุทรแอตแลนติก)

    อัตราการลดลงหรือหดตัวของแผ่นน้ำแข็งชนิดถาวรที่มหาสมุทรอาร์กติกโดยเฉลี่ยต่อทศวรรษอยู่ที่ 6.4% -7.8% เนอแฮมบอกว่า แต่สิ่งที่เป็นอยู่ในขณะนี้เกิดขึ้นภายในปีเดียวเท่านั้น และมากถึง 14% คิดเป็น 18 เท่าของอัตราก่อนหน้านี้

    นักวิทยาศาสตร์คาดว่า ถ้าหากน้ำแข็งยังคงลดลงเช่นนี้ต่อไป จะทำให้บริเวณรอบๆ มหาสมุทรอาร์กติกร้อนขึ้น ซึ่งจะเร่งให้น้ำแข็งละลายในฤดูร้อนมากขึ้น และยังจะทำให้การคืนสภาพของน้ำทะเลเป็นน้ำแข็งอีกครั้งในฤดูร้อนน้อยลงด้วย

    สาเหตุการละลายของน้ำแข็งอย่างรวดเร็วบริเวณขั้วโลกเกิดจากภาวะโลกร้อน อย่างไรก็ตาม ดาวเทียมพบว่า การไหลเวียนของกระแสลมทางตะวันออกของทะเลอาร์กติกผิดปกติ ปรากฏการณ์นี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่านี่อาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แผ่นน้ำแข็งละลายเร็วขึ้นด้วย

    ข้อมูลจากศูนย์พยากรณ์สภาพแวดล้อมแห่งชาติ (National Centers for Environmental Prediction) ชี้ว่ากระแสลมพัดได้พาแผ่นน้ำแข็งชนิดถาวรเคลื่อนที่จากตะวันออกของมหาสมุทรอาร์กติกไปยังตะวันตก บริเวณระหว่างกรีนแลนด์และหมู่เกาะสฟาลบาร์ ของราชอาณาจักรนอร์เวย์ ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุทำให้น้ำแข็งละลายมากกว่าการละลายตามปกติ แต่ก็เกิดผลเช่นเดียวกันคือ การลดลงของแผ่นน้ำแข็งชนิดถาวร

    ในเวลาไล่เลี่ยกัน โจเซฟิโน โคมิโซ นักวิทยาศาสตร์นาซาของ NASA"s Cryospheric Sciences สาขากรีนเบลต์ แมรีแลนด์ เผยผลการศึกษาว่าปริมาณน้ำแข็งที่ทะเลอาร์กติกไม่ได้ลดลงเฉพาะในฤดูร้อนเท่านั้น แต่ยังลดลงในฤดูหนาวอีกด้วย <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=2><TBODY><TR bgColor=#ffffe8><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    การศึกษาก่อนหน้านี้ นักวิทยาศาสตร์พบว่า อุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้นทำให้น้ำแข็งบริเวณขั้วโลกละลายมากขึ้นในช่วงฤดูร้อน โดยเฉพาะในช่วง 4 ปีทีผ่านมา

    โคมิโซศึกษาปริมาณน้ำแข็งจากข้อมูลดาวเทียมย้อนหลังไปจนถึงปี 1979 สิ่งที่เขาพบก็คือ ปริมาณน้ำแข็งของทะเลอาร์กติกในฤดูหนาวปี 2005-2006 น้อยกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงเวลา 26 ปีที่ผ่านมา ถึง 6%

    การหดตัวของน้ำแข็งในฤดูหนาวในปี 2005-2006 มากกว่าค่าเฉลี่ยต่อทศวรรษซึ่งอยู่ที่ 1.5%-2% ในขณะที่ปริมาณน้ำแข็งในฤดูหนาวระหว่างปี 1979-2004 ยังคงเดิม

    "มันเป็นหลักฐานชัดเจนที่สุดว่าโลกร้อนที่อาร์กติก" โคมิโซกล่าว

    ในงานแถลงข่าว

    เขาเชื่อว่าการลดลงของน้ำแข็งในฤดูหนาวเป็นผลมาจากช่วงเวลาของฤดูหนาวที่สั้นลง และอุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างผิดปกติ

    ด้าน มาร์ค เซอเรส นักวิทยาศาสตร์ของศูนย์ข้อมูลน้ำแข็งและหิมะของสหรัฐ (US National Snow and Ice Data Center) ให้ความเห็นว่า มันเป็นเรื่องของความผันผวนของธรรมชาติอากาศที่รุนแรง และการอธิบายที่ดีที่สุดต่อปรากฏการณ์นี้ก็คือ เรากำลังเห็นสัญญาณที่เกิดจากปรากฏการณ์เรือนกระจก

    ปัจจุบันก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1 ใน 3 ของเมื่อ 250 ปีก่อนในยุคก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม นักอุตุนิยมวิทยาหลายคนคาดว่า เมื่อถึงปี 2050 ปริมาณของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของปี 1750 ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำแข็งในทะเลอาร์กติกหดตัวหรือลดลงมากกว่า 60%

    การลดลงของน้ำแข็งจำนวนมากในทะเลอาร์กติกจะมีผลต่อการแสน้ำในมหาสมุทรและระบบอากาศที่อยู่ไกลออกไปหลายพันไมล์

    แต่ขณะนี้ผลกระทบได้เกิดขึ้นกับหมีขั้วโลกแล้ว หมีขั้วโลกที่อ่าวฮัดสัน ของแคนาดาลดจำนวนลงถึง 21% จากจำนวน 1,200 ตัว ในปี 1989 เหลือเพียง 950 ตัว ในปี 2004

    ก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์ศึกษาพบว่า แผ่นน้ำแข็งที่มหาสมุทรอาร์กติกละลายในอัตราเร่งในช่วงปี 2002-2005 เป็นผลทำให้แผ่นน้ำแข็งเกือบ 7 ล้านตารางกิโลเมตร หดตัวเหลือเพียง 5.32 ล้านตารางกิโลเมตร ลดลงไปประมาณ 1.3 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงมาก

    และที่เกาะกรีนแลนด์อัตราการละลายของน้ำแข็งได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วงเวลาระหว่างปี 1996-2005 โดยธารน้ำแข็งได้ไหลลงมหาสมุทรแอตแลนติกเร็วขึ้น ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

    น้ำแข็งที่ละลายจากธารน้ำแข็งในปี 1996 มีจำนวน 63 ลูกบาศก์กิโลเมตรต่อปี และเพิ่มขึ้นในปี 2005 เป็น 162 ลูกบาศก์กิโลเมตรต่อปี ซึ่งเมื่อรวมกับปริมาณของน้ำแข็งที่ละลายจากแผ่นน้ำแข็งและหิมะในช่วงเวลาเดียวกันแล้ว ทำให้น้ำแข็งของกรีนแลนด์ละลายในปี 1996 จำนวน 96 ลูกบาศก์กิโลเมตรต่อปีและเพิ่มเป็น 220 ลูกบาศก์กิโลเมตรต่อปี ในปี 2005

    นอกจากปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ ซึ่งเป็นตัวการทำให้โลกร้อนแล้ว นักวิทยาศาสตร์ยังกังวลว่า ปริมาณน้ำแข็งแถบขั้วโลกที่ลดลงอย่างมากจะทำให้โลกร้อนขึ้นด้วย เพราะน้ำแข็งจะสะท้อนพลังงานจากดวงอาทิตย์กลับไปยังอวกาศ ขณะที่น้ำทะเลจะดูดกลืนพลังงานจากดวงอาทิตย์ไว้

    จึงเป็นไปได้ว่าโลกอาจจะร้อนมากขึ้นและเร็วขึ้นกว่าที่เคยคาดกันไว้


    ที่มา: มติชน
    http://www.matichon.co.th/matichon/m...day=2006/09/30<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG]

    [​IMG]
    </FIELDSET>
     
  17. dhanvas

    dhanvas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2005
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +254
    วิณญาณไม่หายไปใหน สัตว์จะเปลี่ยนพันธุ์มากขึ้น กลายเป็นสัตว์ที่อยู่ได้ แต่จะเบียดบังสัตว์ที่อ่อนแอกว่า สังคมสิ่งมีชีวิตจะเปลียนไป มนุษย์สัตว์ที่ฉลาดกว่าจะต้องเปลี่ยนที่อยู่ตามดาวต่างๆ นี่คือกฏแห่งกรรม ท้ายสุดโลกนี้อาจจะมีแต่แบคทีเรียอยู่ ให้มนุษย์ศึกษาจากดาวอีกดวงทางกล้อง
     
  18. Snow

    Snow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    704
    ค่าพลัง:
    +2,381
    อ่านแล้วปลงค่ะ รู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของภัยภิบัติต่างๆที่เกิดขึ้น ล่วนแล้วแต่เป็นการเตือนจากธรรมชาติว่าใกล้ถึงเวลาที่.......
    ดิฉันเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ได้พบและเห็นผู้คนทั้งหลายมัวแต่ลุ่มหลงมัวเมากับกิเลสตันหาที่มาในรูปแบบต่างๆไม่เว้นแม้กระทั่งคนเท่าคนแก่ คนที่อยู่ในวัยกลางคน จนทุกคนคงลืมกันไปแล้วว่า แก่นแท้ของการเกิดมาเป็นคนนั้นไม่ได้เกิดมาเพื่อเสาะแสวงหาความสุขใส่ตัว แท้จริงแล้วเราทุกคนเกิดมาเพื่อชดใช้หนี้กรรม แต่ลองเตือนคนเหล่านั้นแล้วเค้ากลับเห็นว่าเราหัวโบราณและเพ้อเจ้อT_T อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด กรรมใครก็กรรมมันจริงๆมั้ง ส่วนใครที่อ่านกระทู้นี้ ขอให้นำกลับไปคิดพิจารณาและเร่งสร้างความดีกันเถอะค่ะ ยังไม่สายเกินไปที่จะทำอะไรให้กับเพื่อนมนุษย์และสัตว์ที่อาศัยอยู่ในโลกเดียวกับเรา "ชีวิตคนน่ะ แท้จริงแล้วแสนสั้นนัก"
     
  19. kamakura

    kamakura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +210
    ถ้าทั้งโลก หยุดการใช้พลังงานที่ทำลายธรรมชาติ แล้วชั้นบรรยากาศจะกลับมาเป็นปกติได้ป่ะครับ
     
  20. thaw7501

    thaw7501 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +101
    ถึงโลก จะนำท่วมก็ ไม่มี พระ ศรีอารย์ ครับ เพราะ ยังไม่ถึง ยุคของท่าน

    ยังคงมีแต่พวก แอบอ้าง ปัญญาอ่อน วิปลาส บ้าๆ เท่านั้นแหละครับ

    ยกตัวอย่างเช่น อ้าย หนุมาน ละ ก็ ไอ ทิดจ้อยอ่ะแหละ
     

แชร์หน้านี้

Loading...