กรณี Sriaraya5 VS iofeast โต้แย้งกัน... ขอลบออกทุกโพสต์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด, 28 กุมภาพันธ์ 2009.

?
  1. 1.ลบออกก่อน

    0 vote(s)
    0.0%
  2. 2.ไม่ต้องลบ

    0 vote(s)
    0.0%
  3. 3.ความเห็นอื่นๆ เชิญลงที่กระทู้นี้

    0 vote(s)
    0.0%
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ผู้เห็นภัย

    ผู้เห็นภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +476
    อนุโมทนาลบดีแล้วคับ

    ไม่ก่อประโยชน์

    ขัดแย้ง ทะเลาะกัน จะไช้อะไรมาอ้าง จะเป็นความรู้ด้านไหนก็ตาม ไม่ไช่สิ่งที่ดี

    ใครเขามาเห็น เข้ามาอ่าน เขาคงจะนึกนะ ที่นะหรือชาวพุทธ ผู้รักสันติ รักความสงบ

    นี่ขนาดแว้ดวงคนวัด ยังเป็นขนาดนี้
     
  2. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    กุศลา ก็ธรรมมา อกุศลา ก็ธรรมมา ....? โลกนี้มีเป็นคู่เสมอ เมื่อสิ่งนี้มันเกิดขึ้นแล้ว และพอทนดูได้ ดูด้านหนึ่ง ไม่ดูอีกด้านหนึ่ง ก็จะกลายเป็นยึดแต่ด้านเดียวไป แค่แสดงความเห็นครับ..ทวนกระแสดูบ้าง ขอเจริญในธรรม
     
  3. ผู้เห็นภัย

    ผู้เห็นภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +476
    เว็บพลังจิต ก็คือวัดดีดีนี่เอง แล้วมีคนมาทะเลาะ มาขัดแย้งกันในวัด ท่านจะรู้สึกอย่างไง

    คนเขาจะมาทำบุญ มาฟังเทศ มาฟังธรรมกัน ที่เว็บ หรือที่วัดพลังจิตกัน

    สถานที่นี้ ไม่ไช่ เวทีโต้วาทะ หรือแสดงวาทะกรรม

    สถานที่นี้ เป็นสถาที่ ไห้ความรู้ทางพระศาสนา ทั้งผู้มาไหม่และเก่า

    ที่เว็บพลังจิตมีทุกอย่าง อย่างทำบุญ อยากทำทาน อยากบริจาค ก็มีจัดไห้

    แล้วยังจะมา ทะเลาะกัน เถียงกัน หน้าดำ หน้าแดง มันไม่ไช่ ถูกไหมครับ

    อนุโมทนาครับ ถ้าจะเถียงกัน ขอเสนอแนะ ไห้จัดเวทีไหม่ น่าจะเหมาะกว่านะครับ
     
  4. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Sriaraya5 [​IMG]



    daruma เมื่อผมสึกออกมาแล้ว ผมได้นำบาตรผ้าไตรจีวร

    เก็บไว้ระยะหนึ่ง พอพิจารณาแล้วว่าสำควรจะมอบให้กับใครผมก็จะจัดถวายให้

    จีวรของผมตัดเย็บอย่างดี ระดับเจ้าอาวาสทั้งนั้นที่ท่านเมตตาตัดให้เป็นการส่วนตัว เพราะผมจะห่มจีวรตามตลาดไม่ได้

    เมื่อผมน่งห่ม ผมก็พิจารณาผ้านี้เป็นของสะอาด เมื่อมาแตะต้องร่างกายก็สกปรก จริงๆแล้วผ้าเป็นของที่ว่างจากอินทรีย์และตัวตน

    นุ่งหุ่มเพื่อประทังเวทนา ปกปิดร่างการที่ไม่น่าดู ไม่สวยงาม

    จีวรสังฆาฏิ ผมถวายให้กับ หลวงปู่แร่ คุณ daruma ไม่ใช่ผมไม่รักไม่เสียดาย
    แต่ผมรักพระสัพพัญญุตญาณมากกว่า ผมจึงสละให้หลวงปู่แร่ท่านได้

    ส่วนบาตผม ผมได้พิจารณาแล้วว่า อยากถวายให้กับพระที่ท่านจะบวชได้ตลอดชีวิต จึงนำไปถวายให้กับเจ้าอาวาสวัดช้างเผือกองค์ปัจจุบับท่านปรารถนาพุทธภูมิเช่นกัน
    ภายในบาตรผมได้เขียนข้อความและอธิษฐานจิต

    ในผู้อื่นความรอดไม่มีเลย ด้วยว่านามอื่นซึ่งให้เรารอดได้ ไม่ทรงโปรดให้มีใน<WBR>ท่ามกลางมนุษย์ทั่วใต้ฟ้า

    และจากคำบอกเล่าของลูกศิษย์หลวงพ่อทบ พูดกันว่าหลวงพ่อทบอธิษฐานให้ร่างท่านไม่เน่าไม่เปื่อย จนร่างเป็นหิน ก็เพื่อรอพระศรีอาริย์

    ผมได้ไปพิจารณาพระศพท่าน และ ก็ชักอนิจจาบังสกุลให้ท่าน

    ต่อมาวัดได้รับการบรรจุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีการ มีการบูรณะ<WBR>ปฏิสังขรณ์หลายอย่าง จนเจริญ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Sriaraya5 [​IMG]
    iofeastเมื่อไหร่มันจะเลิกบ้าหนอปัญญาอ่อนสมอง
    กวงมีแต่ขี้เรื้อยอย่ามาเที่ยวสอนผิดๆ
    เอาตัวของแกให้รอดก่อนเถิด
    มีแต่คนเค้าหลุดพ้นแล้วเค้าถึงมีเมตตาเพราะเขามีแต้มมากกว่า

    แต่นี่อะไรธรรมะต่ำกว่าเด็กอนุบาล
    เที่ยวทำโอหังพองขนไปทั่วเห่าอยู่ได้

    เคยทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันบ้างเด็กเสเพ
    นอกจากวันๆ ลอยไปก็ลอยมาทำเป็นผีไม่มีศาล

    คิดเสียบ้างโตจนมาเลียตูดไม่ถึงแล้วคิดเป็นไหม
    ถ้าคิดไม่เป็น คิดมากๆ ซะมองจะได้โตไม่ได้โตแต่ตัว

    อ่านอีกครั้ง
    วันนี้ 02:45 PM
    ภัทรอังคาร
    ผีบ้า อย่ามาพูดจากวนประสาทนะ ยะโส โอหังเหลือเกินนะ ใครๆจะหลงไหลได้ปลื้มนาย ปากก็แบบนี้ หน้าตาก็อย่างงั้น ใครจะทนได้ ฮะ นึกว่าตัวเองหล่อเท่ห์สุดๆละสิ โธ่เ๊อ๊ย ต่อให้โลกใบนี้เหลือผีเน่าอย่างนายตนเดียว ก็ไม่เอามาทำยาหรอก

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ฮ่าฮ่าฮ่า เอ่อ..คือ ......ข.ไข่กับจ.จานบนแป้นพิมพ์มันติดกันอ่ะจ๊ะ และอีกอย่างเรายังไม่ได้บรรลุธรรม ไม่ได้ตรัสรู้แล้ว ไม่ได้รู้ทันพุทธวิสัย ไม่ได้เป็นญาณพระศาสดา ไม่ใช่พระศรีฯอีกด้วย จะเขียนผิดบ้าง สะกดผิดบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดาอ่ะจ๊ะ ..........................แต่อนิจจา ดาที่เที่ยวประกาศตนไปเรื่อยเปื่อย แต่เอาแต่ลอก แต่ก๊อปชาวบ้าน ข้อความต่างๆของสมาชิกเว็ปก็ไม่เว้น ของเราก็ไม่เว้นเพราะ ถูกถามแล้วตอบไม่ได้ ไปต่อไม่เป็น เพราะมักใช้อวัยวะอื่นแทนสมองอยู่เรื่อยๆเนี่ย ก็ลองเอามือลูบหัวตนดูว่า เขาบนหัวดามันงอกขาวไปถึงไหนแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า

    ฮ่าฮ่าฮ่า โอ๊ะโอ๋........ยังดีกว่าท่านหน่อยอ่ะนะ ที่ปากคาบแต่กระดูก ส่วนมือก็เที่ยวลอก ก๊อปปี้ บทความต่างๆ มาตัดต่อเซฟไว้ในเครื่องแล้วโพสต์ตอบ โพสต์สอนชาวบ้านแบบมั่วไปหมด ....ดูๆแล้ววิถีชีวะ ที่ท่านจะไปได้ คงต้องตัด มนุษย์ เทพ อสูรออกไปแล้วนะจ๊ะ ที่เหลือ คือ สัตว์เดรฉาน เปรต นิริยะสัตว์ นั่นแหละ เป็นที่ไปของดานะจ๊ะ ฮ่าฮ่าฮ่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2010
  5. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,949
    ค่าพลัง:
    +43,556
    [​IMG]

    อากาศร้อน
    จะปีใหม่ไทยแล้วนะ

    เล่นสงกรานต์กันเถ๊อะ....
     
  6. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815
    เอาแต่ลอก แต่ก๊อป ตัดต่อสอดไส้ข้อความต่างๆมาเป็นของตนแล้วยังขี้ฟ้องแบบเด็กๆอีก

    ฮ่าฮ่าฮ่า นอกจากดาจะเอาแต่ลอก ก๊อปปี้ ตัดต่อสอดไส้ข้อความต่างๆบทหน้าเว็ปมาเป็นของตนเยี่ยงขโมยแล้ว พอสู้ไม่ได้ ตอบคำถามเราไม่ได้ เรารู้ทัน พูดแทงใจดำ ไปไม่เป็น จะแถก็โดนเราดักไว้อีก ไม่รู้จะทำยังไงก็แสดงนิสัยแบบเด็กๆออกมาให้เห็นอีกตะหาก ...............เพิ่งรู้นะว่าดายังมีนิสัยขี้ฟ้องแบบเด็กๆอยู่อีก ฮ่าฮ่าฮ่า ตรัสรู้แล้ว...............บรรลุธรรมแล้ว ..............รู้ทันพุทธวิสัย............เป็นญาณพระศาสดา.............เป็นพระศรีฯอีกตะหาก.............ฮ่าฮ่าฮ๋า catt3


    <TABLE><TBODY><TR><TD align=middle>พระสูตร
    ทิฏฐิสูตร
    ว่าด้วย ทิฏฐิต่าง ๆ พระไตรปีฎกภาษาไทย ฉบับหลวง พ.ศ. ๒๕๒๕
    เล่ม ๒๔ ข้อ ๙๓ หน้า ๑๕๙ - ๑๖๒ ดูพระสูตรความย่อตอนเดียวกัน โดยคลิกที่ [​IMG]






    </TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]
    [​IMG] {น.๑๕๙}[๙๓] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล ท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดี ออกจากพระมหานครสาวัตถีแต่ยังวัน เพื่อเฝ้าพระผู้มีพระภาค ลำดับนั้น ท่านได้มีความคิดเช่นนี้ว่า มิใช่เวลาเพื่อจะเฝ้าพระผู้มีพระภาคก่อน เพราะพระผู้มีพระภาคยังทรงหลีกเร้นอยู่ มิใช่กาลเพื่อจะเยี่ยมภิกษุทั้งหลายผู้ยังใจให้เจริญ เพระพวกภิกษุผู้ยังใจให้เจริญยังหลีกเร้นอยู่ อย่ากระนั้นเลย เราพึงเข้าไปยังอารามของพวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชกเถิด ลำดับนั้น ท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีจึงเข้าไปยังอารามของพวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชก ก็สมัยนี้แล พวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชกกำลังร่วมประชุมกัน บันลือเสียงเอ็ดอึง นั่งพูดกันถึงดิรัจฉานกถาหลายอย่าง พอได้เห็นท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีเดินมาแต่ไกล ครั้นแล้วจึงยังกันและกันให้หยุดด้วยกล่าวว่า ท่านทั้งหลายจงเบาเสียงอย่าได้เปล่งเสียง อนาถบิณฑิกคฤหบดีคนนี้เป็นสาวกของพระสมณโคดม กำลังเดินมา อนาถบิณฑิกคฤหบดีนี้เป็นสาวกคนหนึ่ง บรรดาคฤหัสถ์ผู้นุ่งห่มผ้าขาว ซึ่งเป็นสาวกของพระสมณโคดม อาศัยอยู่ในพระนครสาวัตถี ก็ท่านเหล่านั้นเป็นผู้ใคร่ในเสียงเบา ได้รับแนะนำในทางเสียงเบา กล่าวสรรเสริญเสียงเบา แม้ไฉนเขาทราบบริษัทผู้เสียงเบา พึงสำคัญที่จะเข้ามาหา ลำดับนั้นปริพาชกเหล่านั้นได้นิ่งอยู่ ท่านอนากถบิณฑิกคฤหบดีเข้าไปหาปริพาชกเหล่านั้นถึงที่อยู่ ได้สนทนาปราศรัยกับพวกอัญญเดีนรถีย์ปริพาชก ครั้นผ่านการปราศรัย พอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
    [​IMG] ครั้นแล้ว อัญญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้นได้กล่าวกะท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดี{น.๑๖๐}ว่า ดูกรคฤหบดี ขอท่านจงบอก พระสมณโคดมมีทิฎฐิอย่างไร?
    อนาถบิณฑิกคฤหบดีตอบว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ทราบทิฎฐิทั้งหมดของพระผู้มีพระภาค
    ป. ดูกรคฤหบดี นัยว่า บัดนี้ท่านไม่ทราบทิฎฐิทั้งหมดของพระสมณโคดม ขอท่านจงบอก ภิกษุทั้งหลายมีทิฎฐิอย่างไร?
    อ. ข้าแต่ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ทราบทิฎฐิทั้งหมด แม้ของภิกษุทั้งหลาย
    ป. ดูกรคฤหบดี นัยว่า ท่านไม่ทราบทิฎฐิทั้งหมดของพระสมณโคดม ทั้งไม่ทราบทิฎฐิทั้งหมดของพวกภิกษุด้วยประการดังนี้ ขอท่านจงบอก ตัวท่านมีทิฎฐิอย่างไร?
    ข้าแต่ท่านผู้เจริญทั้งหลาย การที่ข้าพเจ้าบอกทิฎฐิของข้าพเจ้าว่ามีทิฎฐิอย่างใดนี้ไม่ยาก เชิญท่านทั้งหลายบอกทิฎฐิของตนเสียก่อน ข้าพเจ้าจึงจะบอกทิฎฐิของข้าพเจ้าว่ามีทิฎฐิอย่างใดในภายหลัง ซึ่งเป็นการทำไม่ยาก
    [​IMG] เมื่อท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีกล่าวอย่างนี้แล้ว ปริพาชกคนหนึ่งได้กล่าว กะท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีว่า ดูกรคฤหบดี เรามีทิฎฐิอย่างนี้ว่า โลกเที่ยง สิ่งนี้เท่านั้นจริง สิ่งอื่นเปล่า ปริพาชกอีกคนหนึ่งกล่าวกะอนาถบิณฑิกคฤหบดีว่า ดูกรคฤหบดี เรามีทิฎฐิอย่างนี้ว่า โลกไม่เที่ยง สิ่งนี้เท่านั้นจริง สิ่งอื่นเปล่า แม้ปริพาชกอีกคนหนึ่งได้กล่าวกะอนาถบิณฑิกคฤหบดีว่า โลกมีที่สุด... อีกคนหนึ่งพูดว่าโลกไม่มีที่สุด... อีกคนหนึ่งพูดว่า ชีพก็อันนั้น สรีระก็อันนั้น... อีกคนหนึ่งพูดว่า ชีพอย่างหนึ่ง สรีระอย่างหนึ่ง... อีกคนหนึ่งพูดว่า สัตว์เมื่อตายแล้วย่อมเป็นอีก... อีกคนหนึ่งพูดว่า สัตว์เมื่อตายแล้ว ย่อมไม่เป็นอีก... อีกคนหนึ่งพูดว่า สัตว์เมื่อตายแล้ว ย่อมเป็นอีกก็มี ไม่เป็นอีกก็มี... อีกคนหนึ่งพูดว่า ดูกรคฤหบดี เรามีทิฎฐิอย่างนี้ว่า สัตว์เมื่อตายแล้ว ย่อมเป็นอีกก็หามิได้ ย่อมไม่เป็นอีกก็หามิได้ สิ่งนี้เท่านั้นจริง สิ่งอื่นเปล่า
    [​IMG] เมื่อพวกปริพาชกกล่าวอย่างนี้แล้ว ท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีได้กล่าวกะปริพาขกเหล่านั้นว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ท่านผู้มีอายุได้กล่าวอย่างนี้ว่า ดูกรคฤหบดี เรามีทิฎฐิอย่างนี้ว่า โลกเที่ยง สิ่งนี้เท่านั้นจริง สิ่งอื่นเปล่า ทิฎฐิของท่านผู้มีอายุนี้ เกิดขึ้นเพราะเหตุแห่งการกระทำไว้ในใจไม่แยบคายของตน หรือเพราะโฆษณาของผู้อื่นเป็นปัจจัย ก็ทิฎฐินั้น เกิดขึ้นแล้ว อันปัจจัยปรุงแต่งแลัว อันปัจจัยก่อขึ้นแล้ว เกิดขึ้นเพราะอาศัยปัจจัย ก็สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นแล้ว อันปัจจัยปรุงแต่งแลัว อันปัจจัยก่อขึ้นแล้ว เกิดขึ้นเพราะอาศัยปัจจัย สิ่งนั้นไม่เที่ยง {น.๑๖๑} สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ ท่านผู้มีอายุนั้นเป็นผู้ติดสิ่งนั้นแหละ ท่านผู้มีอายุนั้นเข้าถึงสิ่งนั้นแหละ
    แม้ท่านผู้มีอายุรูปใดกล่าวอย่างนี้ว่า ดูกรคฤหบดี เรามีทิฎฐิอย่างนี้ว่า โลกไม่เที่ยง สิ่งนี้เท่านั้นจริง สิ่งอื่นเปล่า ทิฎฐิของท่านผู้มีอายุแม้นี้ ก็เกิดขึ้นเพราะเหตุแห่งการกระทำไว้ในใจไม่แยบคายของตน หรือ เพราะการโฆษณาของผู้อื่นเป็นปัจจัย ก็ทิฎฐินั้น เกิดขึ้นแล้ว อันปัจจัยปรุงแต่งแลัว อันปัจจัยก่อขึ้นแล้ว เกิดขึ้นเพราะอาศัยปัจจัย ก็สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นแล้ว อันปัจจัยปรุงแต่งแลัว อันปัจจัยก่อขึ้นแล้ว เกิดขึ้นเพราะอาศัยปัจจัย สิ่งนั้นไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ ท่านผู้มีอายุนั้นเป็นผู้ติดสิ่งนั้นแหละ ท่านผู้มีอายุนั้นเข้าถึงสิ่งนั้นแหละ
    แม้ท่านผู้มีอายุรูปใดกล่าวอย่างนี้ว่า ดูกรคฤหบดี เรามีทิฎฐิอย่างนี้ว่า โลกมีที่สุด... โลกไม่มีที่สุด... ชีพอันนั้น สรีระก็อันนั้น... ชีพอย่างหนึ่ง สรีระอย่างหนึ่ง... สัตว์เมื่อตายแล้ว ย่อมเป็นอีก... สัตว์เมื่อตายแล้ว ย่อมไม่เป็นอีก... สัตว์เมื่อตายแล้ว ย่อมเป็นอีกก็มี ไม่เป็นอีกก็มี... สัตว์เมื่อตายแล้ว ย่อมเป็นอีกก็หามิได้ ย่อมไม่เป็นอีกก็หามิได้ สิ่งนี้เท่านั้นจริง สิ่งอื่นเปล่า ทิฎฐิของท่านผู้มีอายุนี้ เกิดขึ้นเพราะเหตุแห่งการกระทำไว้ในใจไม่แยบคายของตน หรือเพราะการโฆษณาของผู้อื่น เป็นปัจจัย ก็ทิฎฐินั้น เกิดขึ้นแล้ว อันปัจจัยปรุงแต่งแลัว อันปัจจัยก่อขึ้นแล้ว เกิดขึ้นเพราะอาศัยปัจจัย ก็สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นแล้ว อันปัจจัยปรุงแต่งแลัว อันปัจจัยก่อขึ้นแล้ว เกิดขึ้นเพราะอาศัยปัจจัย สิ่งนั้นไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ ท่านผู้มีอายุนั้นเป็นผู้ติดสิ่งนั้นแหละ ท่านผู้มีอายุนั้นเข้าถึงสิ่งนั้นแหละ
    [​IMG] เมื่อท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีกล่าวอย่างนี้แล้ว ปริพาชกเหล่านั้นได้กล่าวกะท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีว่า ดูกรคฤหบดี พวกเราทั้งหมดบอกทิฎฐิของตนแล้ว ขอท่านจงบอก ท่านมีทิฎฐิอย่างไร?
    อ. ข้าแต่ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ก็สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นแล้ว อันปัจจัยปรุงแต่งแลัว อันปัจจัยก่อขึ้นแล้ว เกิดขึ้นเพราะอาศัยปัจจัย สิ่งนั้นไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ ข้าพเจ้ามีความเห็นสิ่งนั้นอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา
    ป. ดูกรคฤหบดี สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นแล้ว อันปัจจัยปรุงแต่งแลัว อันปัจจัยก่อขึ้นแล้ว เกิดขึ้นเพราะอาศัยปัจจัย สิ่งนั้นไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ ท่านเป็นผู้ติดสิ่งนั้นแหละ ท่านเข้าถึงสิ่งนั้นแหละ
    {น.๑๖๒} อ. ก็สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นแล้ว อันปัจจัยปรุงแต่งแลัว อันปัจจัยก่อขึ้นแล้ว เกิดขึ้นเพราะอาศัยปัจจัย สิ่งนั้นไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ ข้าพเจ้าเห็นสิ่งนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ทั้งรู้ชัดอุบายเป็นเครื่องสลัดออกซึ่งสิ่งนั้นอย่างยอดเยี่ยมตามเป็นจริง
    เมื่อท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีกล่าวอย่างนี้แล้ว ปริพาชกเหล่านั้นพากันนั่งนิ่ง เก้อเขิน คอตก ก้มหน้า ซบเซา โต้ตอบไม่ได้ [​IMG] ท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีทราบปริพาชกเหล่านั้นเป็นผู้นั่งนิ่ง เก้อเขิน คอตก ก้มหน้า ซบเซา โต้ตอบไม่ได้ แล้วลุกจากอาสนะเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแลัวได้กราบทูลถึงเรื่องที่สนทนากับอัญญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้นทั้งหมด แด่พระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบทุกประการ
    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดีละ ๆ คฤหบดี ท่านพึงข่มขี่พวกโมฆบุรุษเหล่านั้น ให้เป็นการข่มขี่ด้วยดี โดยการอันควร โดยชอบธรรมอย่างนี้แล
    ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงชี้แจงท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีให้เห็นชัด ให้สมาทาน ให้อาจหาญ ร่าเริงด้วยธรรมีกถา ท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีอันพระผู้มีพระภาคทรงชี้แจงให้เห็นชัด ให้สมาทาน ให้อาจหาญ ร่าเริงด้วยธรรมีกถาแล้ว ลุกจากที่นั่ง ถวายบังคมพระผู้มีพระภาค กระทำประทักษิณแล้วหลีกไป เมี่อท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีหลีกไปไม่นาน พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุใดแล เป็นผู้มีธรรมอันไม่หวั่นในธรรมวินัยตลอดกาลนาน ภิกษุแม้นั้น พึงข่มขี่อัญญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้น ให้เป็นการข่มขี่ด้วยดีโดยชอบธรรมอย่างนี้ เหมือนท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีข่มขี่แล้วฉะนั้น
     
  7. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815
    <CENTER>__________________
    </CENTER>
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ...
    ขอบใจนะที่ช่วยพระศาสนาไว้ ขอให้ล้มคนที่มีความเห็นผิดให้ได้นะ ล้มในที่นี้หมายถึงช่วยให้เขาตื่น สาธุ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <CENTER>อาฬวกสูตรที่ ๑๒
    </CENTER> [๘๓๘] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับในที่อยู่ของอาฬวกยักษ์ เขตเมือง
    อาฬวี ฯ
    ครั้งนั้นแล อาฬวกยักษ์เข้าไปใกล้พระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นแล้ว
    ได้กล่าวว่า ท่านจงออกมา สมณะ ฯ
    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดีแล้วผู้มีอายุ แล้วก็เสด็จออกมา ฯ
    ยักษ์กล่าวว่า ท่านจงเข้าไป สมณะ ฯ
    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดีแล้วผู้มีอายุ แล้วก็เสด็จเข้าไป ฯ
    แม้ครั้งที่ ๒ ฯลฯ แม้ครั้งที่ ๓ อาฬวกยักษ์ได้กล่าวว่า ฯลฯ
    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ฯลฯ
    [๘๓๙] ครั้นครั้งที่ ๔ อาฬวกยักษ์ได้กล่าวว่า ท่านจงออกมา สมณะ ฯ
    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ผู้มีอายุ เราจักไม่ออกไปละท่านจะทำอะไรก็จง
    ทำเถิด ฯ
    สมณะ เราจักถามปัญหากะท่าน ถ้าท่านพยากรณ์แก่เราไม่ได้ เราจักทำ
    จิตของท่านให้ฟุ้งซ่าน หรือฉีกหัวใจของท่านหรือจักจับที่เท้าแล้วเหวี่ยงไปยังแม่น้ำ
    คงคาฝั่งโน้น ฯ
    อาวุโส เราไม่เห็นใครเลยในโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหม
    โลก ในหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดาและมนุษย์ที่จะพึงทำจิตของเราให้
    ฟุ้งซ่านได้ หรือขยี้หัวใจของเรา หรือจับเราที่เท้าแล้วเหวี่ยงไปยังแม่น้ำคงคาฝั่ง
    โน้น เอาเถิด อาวุโส เชิญถามปัญหาตามที่ท่านจำนงเถิด ฯ
    [๘๔๐] อาฬวกยักษ์ทูลถามว่า
    อะไรหนอ เป็นทรัพย์เครื่องปลื้มใจอันประเสริฐของคนใน
    โลกนี้ อะไรหนอที่บุคคลประพฤติดีแล้วนำความสุขมาให้
    อะไรหนอเป็นรสอันล้ำเลิศกว่ารสทั้งหลาย นักปราชญ์
    ทั้งหลายกล่าวชีวิตของผู้ที่เป็นอยู่อย่างไร ว่าประเสริฐสุด ฯ
    [๘๔๑] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
    ศรัทธาเป็นทรัพย์ อันประเสริฐของคนในโลกนี้ ธรรมอัน
    บุคคลประพฤติดีแล้ว นำความสุขมาให้ ความสัตย์แลเป็น
    รสอันล้ำเลิศกว่ารสทั้งหลายนักปราชญ์ทั้งหลายกล่าวชีวิตของ
    ผู้ที่เป็นอยู่ด้วยปัญญาว่าประเสริฐสุด ฯ
    [๘๔๒] อาฬวกยักษ์ทูลถามว่า
    คนข้ามโอฆะได้อย่างไรหนอ ข้ามอรรณพได้อย่างไร ล่วง
    ทุกข์ได้อย่างไร บริสุทธิ์ได้อย่างไร
    [๘๔๓] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
    คนข้ามโอฆะได้ด้วยศรัทธา ข้ามอรรณพได้ด้วยความไม่
    ประมาท ล่วงทุกข์ได้ด้วยความเพียร บริสุทธิ์ได้ด้วย
    ปัญญา ฯ
    [๘๔๔] อาฬวกยักษ์ทูลถามว่า
    คนได้ปัญญาอย่างไรหนอ ทำอย่างไรจึงจะหาทรัพย์ได้ คนได้
    ชื่อเสียงอย่างไรหนอ ทำอย่างไรจึงจะผูกมิตรไว้ได้ คน
    ละโลกนี้ไปสู่โลกหน้า ทำอย่างไรจึงจะไม่เศร้าโศก ฯ
    [๘๔๕] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
    บุคคลเชื่อธรรมของพระอรหันต์ เพื่อบรรลุนิพพาน ฟังอยู่
    ด้วยดีย่อมได้ปัญญา เป็นผู้ไม่ประมาท มีวิจาร คนทำเหมาะ
    เจาะ ไม่ทอดธุระ เป็นผู้หมั่น ย่อมหาทรัพย์ได้ คนย่อม
    ได้ชื่อเสียงเพราะความสัตย์ ผู้ให้ย่อมผูกมิตรไว้ได้ บุคคล
    ใดผู้อยู่ครองเรือนประกอบด้วยศรัทธา มีธรรม ๔ ประการนี้
    คือ สัจจะ ธรรมะ ธิติ จาคะ บุคคลนั้นแล ละโลกนี้ไป
    แล้วย่อมไม่เศร้าโศก เชิญท่านถามสมณพราหมณ์เป็นอัน
    มากเหล่าอื่นดูซิว่าในโลกนี้มีอะไรยิ่งไปกว่าสัจจะ ทมะ จาคะ
    และขันติ ฯ
    [๘๔๖] อาฬวกยักษ์กราบทูลว่า
    ทำไมหนอ ข้าพเจ้าจึงจะต้องถามสมณพราหมณ์เป็นอันมากใน
    บัดนี้ วันนี้ข้าพเจ้ารู้ชัดถึงสัมปรายิกประโยชน์ พระพุทธเจ้า
    เสด็จมาอยู่เมืองอาฬวี เพื่อประโยชน์แก่ข้าพเจ้าโดยแท้
    วันนี้ข้าพเจ้ารู้ชัดถึงทานที่บุคคลให้ในที่ใดมีผลมาก ข้าพเจ้า
    จักเที่ยวจากบ้านไปสู่บ้าน จากบุรีไปสู่บุรี พลางนมัสการ
    พระสัมพุทธเจ้าและพระธรรมซึ่งเป็นธรรมที่ดี ฯ
     
  8. Ukie

    Ukie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +594
    อ่านะ อือ................... อืม........................- -*
     
  9. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815
    ฮ่าฮ่าฮ่า ท่านผู้เจริญทั้งหลาย หากคิดว่าข้าฯทำไปด้วยความโกรธ อาคาต นั้นเป็นการเข้าใจผิด เปรียบดั่งผู้ใหญ่ที่รู้อยู่แก่ใจว่า มีเด็กไม่ดี ลามปามผู้ที่ไม่ควรตีเสมอ หลงตัวเองอย่างสุดๆ ทั้งที่ปัญญายังต่ำอยู่ เป็นปัญญาที่อิงไปด้วยสัญญา หาได้มีปัญญาเป็นของตัวเองไม่ บทความต่างๆที่โพสต์ตอบ โพสต์สอนชาวบ้านล้วน ลอก ก๊อปปี้ มาจากแหล่งต่างๆทางหน้าเว็ป มาตัดต่อ สอดไส้ แล้วเซฟไว้ในเครื่องทั้งสิ้น สุดท้ายก็ตู่ว่าเป็นของตน กระทำด้วยอาการแห่งขโมย วันดีคืนดีก็สอนชาวบ้านแบบผิดๆ มั่วไปเรื่อยเปื่อย ผู้ใหญ่เห็นเข้า รู้ทัน เข้าไปหยอก ทรมานเด็กน้อย อย่างน้อยก็ให้เด็กน้อยตนนี้ และผู้ที่พบเห็น ได้รับรู้ว่าปัญญาเด็กน้อยยังต่ำอยู่มาก ที่ผ่านมาเด็กน้อยคิดหลงตัวเองไปอย่างนั้น ก็เพราะยังเป็นกบในกะลา ไม่เคยรับรู้ว่าภายนอกเป็นเยี่ยงไร และก็เพราะความเป็นเด็กชั่วที่มักจะไปลอก ไปก๊อปปี้ บทความต่างๆมาสอดไส้แล้วตู่เป็นของตนเยี่ยงขโมย โดยที่คิดว่าจะไม้มีใครรู้ทัน แต่เด็กน้อยยังไงก็ไม่มีทางรอดสายตาของผู้ใหญ่วันยังค่ำ จำนนด้วยหลักฐาน ถูกจี้ใจดำเด็กน้อยก็หน้าแตกแต๋วแตกอย่างที่เห็น เท่านั้นยังไม่พอเด็กน้อยพยายามจะแถ จะลามปามไปถึงพระสงฆ์ต่างๆ ยกพระสงฆ์ต่างๆขึ้นมาอ้างอิง พาดพิง ปรามาส ก็ต้องหน้าแตกยับเยินอีก เพราะเด็กน้อยคาดไม่ถึงว่า พระสงฆ์ หลายรูปที่เด็กน้อย แอบอ้าง อ้างอิง พาดพิง ปรามาส นั้น มีทั้งพระอาจารย์ มีทั้งพระสงฆ์ผู้ให้ความเมตตา มีทั้งพระสงฆ์ผู้มาชี้แนะมาโปรดผู้ใหญ่ที่รู้ทันคนนั้นทั้งโดยอภินิหารและโดยปาฎิหาร ผู้ใหญ่คนนั้นฟังแล้วย่อมรู้ได้ในทันทีว่าเด็กชั่วตนนี้แอบอ้างไปเรื่อยเปื่อย มั่วอีก โม้อีกตามฟอร์ม เด็กน้อยถูกกระชากหน้ากากอีกรอบ ก็ย่อมหน้าแตก แต๋วแตกอยู่ร่ำไป และเริ่มเก็บอาการไม่อยู่ วันดีคืนดีก็สาปแช่งผู้รู้ทันอีกตะหาก และเมื่อเป็นเรื่อง "ผู้ใหญ่หยอกเด็กน้อย" จะมีผู้ใหญ่ที่ไหน โกรธเข้าจริงๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องอาคาต ย่อมไม่มีเด็ดขาดแม้ชั่วขณะจิตเดียว

    หากคนสติไม่ดีผู้นี้ยังไม่หยุดประกาศตนว่า ตรัสรู้แล้ว บรรลุธรรมแล้ว รู้ทันพุทธวิสัย เป็นญาณพระศาสดา เป็นพระศรีฯอีกตะหาก แต่ถึงจะประกาศเช่นนั้นก็ควรจะแสดงธรรมให้ประจักสมกับสิ่งที่ตนได้ประกาศไว้ โดยไม่ต้องไปลอก ไปก๊อปปี้มาจากไหน ให้เป็นที่ประจักสักครั้ง เอาแบบอ่านแล้วรู้ได้ทันทีเลยว่าคิดเองแต่งเองจากภูมิปัญญาของผู้ที่ ตรัสรู้แล้ว บรรลุธรรมแล้ว รู้ทันพุทธวิสัย เป็นญาณพระศาสดา เป็นพระศรีฯอีกตะหาก ไม่ใช่ถูกถามอะไรก็ไม่รู้ ตอบอะไรก็ไม่ได้ ถามเรื่องตอบอีกเรื่อง แล้วก็บ่ายเบี่ยง แถไปเรื่อยเปื่อยตามถนัด หากเป็นเช่นนี้ก็ถอนคำพูด แล้วก็หยุดเพ้อซะที แล้วก็หยุด แอบอ้าง อ้างอิง พาดพิง ปรามาส ผู้ที่ตนไม่มีสิทธิ์ด้วย
    ส่วนจะลบหรือไม่ลบก็สุดแล้วแต่เถิด ความสามารถอยู่กับตัว ปัญญาอยู่กับตัว ไม่ได้ไปลอก ไปก๊อปปี้ จากใครมาตัดต่อเซฟไว้ในเครื่องแบบดา ถึงจะไปลอกมาเราก็ให้เครดิต และแหล่งที่มาของบทความนั้นๆ มิได้กระทำด้วยอาการเยี่ยงขโมย จะให้พิมพ์ใหม่ โต้แย้งใหม่อีก กระชากหน้ากากดาอีกกี่รอบก็ย่อมทำได้ และถึงเราจะหยุดตอบโต้ ในวันข้างหน้าก็จะต้องมีคนแบบเดียวกับเราปรากฎตัวขึ้นมาหยอกเด็กน้อยอีกนั่นแหละจ๊ะ ฮ่าฮ่าฮ่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2010
  10. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815
    พักอ่านเรื่องขำๆก่อนนะจ๊ะ พี่น้องเอ๋ย

    ตามลิงค์นี้เลยจ๊ะ ฮ่าฮ่าฮ่า

    พระศรีอริยะเมตไตรยปรากฏตัวแล้วจริงหรือ ผู้แอบอ้างเป็นพระศรีฯคือคุณ "rawiphan"



    สำหรับผู้ที่ยังไม่รู้ ผู้ใช้ username rawiphan และ sriaraya5 เป็นคนๆเดียวกันนะจ๊ะ ฮ่าฮ่าฮ่า<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->
     
  11. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    เขาวงพระจันทร์
    อยู่ในเขตอำเภอห้วยโป่ง อำเภอโคกสำโรง
    ห่างจากตัวเมืองลพบุรีไปตามเส้นทางพหลโยธิน
    ประมาณ28กิโลเมตร เรื่องราวเกี่ยวกับเขาวง
    พระจันทร์นี้ คนรุ่นเก่าๆมักจะเล่าให้ลูกหลานฟังว่า
    บนยอดเขามียักษ์อยู่ ทำให้เด็กๆซึ่งไร้เดียงสา
    เชื่อฟังไม่ดื้อเพราะกลัวยักษ์จับไปกิน
    เรื่องยักษ์บนยอดเขาวงพระจันทร์นั้นมี่เรื่องเล่าว่า
    ท้าวกกขนาก เป็นยักษ์ที่มีฤทธ์มาก ได้รับพรมา
    จากสวรรค์ให้มีอายุยืนไม่มีวันตาย ท้าวกกขนาก
    เป็นยักษ์ตนสุดท้ายที่ต่อสู้กับพระราม พระรามทรง
    ใช้ศรที่คันศรทำด้วยเขากระต่าย สายทำด้วยหนวด
    เต่า และลูกศรทำด้วยต้นกกภายในสอดไส้ด้วยหญ้าปล้อง
    แผลงลูกศรไปปักอกท้าวกกขนาก ร่างของท้าวกก
    ขนากปลิวตามแรงของลูกศรไปตกที่ภูเขาเมืองลพบุรี
    แต่ท้าวกกขนากก็ยังไม่ตาย พระรามจึงทรงสาปเอา
    ไว้ให้ลูกศรปักท้าวกกขนากตรึงอยู่บนภูเขาตลอดไป
    จนกว่าพระศรีอาริย์ตรัสรู้ ลูกศรจึงจะหลุดออกมาจากร่างได้
    ท้าวกกขนากมีลูกสาวชื่อนาง นงพระจันทร์ ซึ่ง
    คอยดูแลบิดาและเชื่อว่าถ้าได้นำ้ส้มสาย
    ชูมาราดที่ลูกศร ลูกศรจะหลุด
     
  12. bungkerd

    bungkerd สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2010
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +18
    ลบออกแล้วแน่ใจนะว่าเค้า
    จะไม่ไปทะเลาะกันที่กระทู้อื่นต่อ

    เห็นท้าประลอง คารม กันอยู่ไม่ใช้หรอ
    เวทีนี้ ก็น่าจะดูดีที่สุดแล้ว จัดให้.....
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->iofeast<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3176924", true); </SCRIPT> VS <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Sriaraya5<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3165222", true); </SCRIPT>


    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 เมษายน 2010
  13. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    เสียงออกอากาศจากยานเกาะ เรื่องพระศรีอาริย์ที่มีในทุกๆศาสนา

    <CENTER>เสียงออกอากาศจากยานเกาะ เรื่องพระศรีอาริย์ที่มีในทุกๆศาสนา

    </CENTER>
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>http://www.3romphosri.com/modules.ph...98893c59f1798c
     
  14. ตถาตา.

    ตถาตา. Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +30
    ลบไปเลยครับคนบ้าทะเลาะกันไร้สาระ
     
  15. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815
    ฮ่าฮ่าฮ่า ใครก็ตามที่ไม่ได้รับรู้ทั้งบริบทของเรื่องนั้นๆ จะด้วยเพราะโง่ ปัญญาไม่ถึง ปัญญามีจำกัด แต่คันปากอยากแสดงความคิดเห็นและตัวตนโง่ๆ แถมยังทะเล่อทะล่า แสดงความโง่ออกมา ด้วยคำพูดโง่ๆ มาพาดพิงข้าฯ เอาความโง่มาแปดเปื้อนข้าฯ ก็ควรกลับไปอ่านติดตามเรื่องราวทั้งบริบทของมัน ใช้สมองพินิจ พิเคราะห์ให้ดี ด้วยไม่มีอะไรที่ซับซ้อนเลย เป็นเรื่องที่ผู้ที่เข้าถึงแล้ว(จริง) รู้แล้ว สามารถโต้ตอบได้ในทันที กรุณาใช้สมองที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เป็นประโยชน์สักครั้งในชีวิตเถิด หากยังไม่รู้ ไม่เข้าใจ ก็โปรดเข้าใจด้วยว่า โง่ก็ไปอยู่ส่วนโง่ กรุณาอย่ามาพาดพิง อย่ามาวางฟอร์มกับข้าฯ เสล่อไม่เข้าเรื่องจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า
    และ เราก็ไม่เคยเชื่อเลยว่า ตาบ๊องตนนี้จะ บรรลุธรรมแล้ว ตรัสรู้แล้ว เป็นพระศรีฯ รู้ทันพุทธวิสัยอีกตะหาก ถึงขนาดบังอาจตีตนเสมอพระพุทธเจ้า ตามที่เจ้าตัวประกาศไว้ และการที่ข้าฯตามถามตาบ๊องตนนี้มาเป็นปีตั้งแต่เขาใช้ชื่อเก่า เพื่อพิสูจน์สิ่งที่เขาได้ประกาศไว้เอง หรือไม่ก็สะกิดให้ตื่น หรือช่วยไม่ให้คนฉลาดคนอื่นๆเข้าใจผิดไปกับคำสอนคำแนะนำผิดๆ ด้วยมันมีแต่ลอก แต่ก๊อป บทความต่างๆมาตัดต่อ แล้วใส่ชื่อตนเข้าไป พระพุทธพจน์ก็ไม่เว้น ไบเบิ้ลก็ไม่เว้น ฯลฯ กระทำด้วยอาการแห่งขโมย.............. ก็ไม่ทราบว่า มันไปเพิ่มน้ำหนักบนศรีษะใครเข้า หรือมันไปรบกวนสมองส่วนสั่งการของใครเข้าให้ หากไ่ม่ใช่ก็กรุณาอย่าสอด..... อย่ามาดัดจริตพาดพิงข้าฯอีก ...............กรุณาอย่ามาพาดพิงข้าฯด้วยการเห่าหอนให้เกิดความรำคาญ .....นิมนต์ไปไกลๆเลย กระทู้อื่นที่มีสาระ มีออกจะเยอะแยะ................ แล้วจะกรวดน้ำไปให้นะจ๊ะ ศาสนาเสื่อมเพระาคนประเภทนี้ไม่รู้เท่าไหร่แล้ว เข้าใจ๋ ฮ่าฮ่าฮ่า<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2010
  16. bungkerd

    bungkerd สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2010
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +18
    iofeast<!-- google_ad_section_end --> VS<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3182790", true); </SCRIPT> Sriaraya5

    ท่าประลองกันอยู่ไม่ใช่หรอ เวที่นี้
    ก็น่าจะดูดีนะ ถ้าคุณศรีฯSriaraya5 เจ๋งจริง
    ก็คงต้องตอบคำถาม iofeast ได้อย่างชนิด
    ที่ iofeast จะไม่กล้าโต้แย้งอีกเลย

    แล้วจะลบกระทู้ไปเพื่อไร ไม่ทะเลาะกันกระทู้นี่
    ก็ไปทะเลาะกันกระทู้อื่นอยู่ดีพี่น้อง ครับ ไม่จบ

    [​IMG] VS [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 เมษายน 2010
  17. bungkerd

    bungkerd สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2010
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +18
    แต่ก็มีข้อสังเกตอยู่อย่างว่า
    แล้วตีสอง แวะมาดูกระทู้ มินิคอนฯ แคท
    (13April2010 time : 01.59am)


    ทำไมประกาศเป็นพะศีฯ ระดับบรรลุธรรมขั้นสูงแล้ว
    ไม่น่าจะมาวิ่งตามกรี๊ดสาวๆๆ ตามขอบเวทีคอนฯนะ

    Sriaraya5 มันคืออะไรละ ช่วยตอบหน่อย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 เมษายน 2010
  18. Hillary

    Hillary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +338
    ท่านประธานที่เคารพ คำถามดีมาก :cool::cool:
     
  19. bungkerd

    bungkerd สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2010
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +18
    ตีสอง แวะมาดูกระทู้ มินิคอนฯ
    ช่วยตอบหน่อยท่าน Sriaraya5<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
     
  20. bungkerd

    bungkerd สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2010
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +18
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 เมษายน 2010
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...