พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    เออ...ใช่ครับ ละเอียดถี่ถ้วนดีแท้ ... ผมเองก็พึ่งสังเกตุเห็น หุหุ

    ข้างรูปหล่อบรมครูฯ คือรูปหล่อ...ฐานเขียนว่า "หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี ถ้ำคูหาสวรรค์ อ.โขงเจียม จ.อุบล" ไม่ทราบเหมือนกันว่าหลวงปู่ทั้งสองมีความเกี่ยวข้องอะไรกันกับวัดแห่งนี้ แต่เคยได้เอกสารจากวัดนี้ ...

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1090259.jpg
      P1090259.jpg
      ขนาดไฟล์:
      102.3 KB
      เปิดดู:
      34
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2010
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 107 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 105 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, sittiporn.s+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สวัสดีครับ พี่


    .
     
  3. deejaimark

    deejaimark เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +16,511
    ขอคั่นรายการหน่อยนะ.....


    อยากชวนทำบุญถวายตู้พระไตรปิฎกชุดใหญ่และ CD เสียงอ่านพระไตรปิฎก ถวายหลวงปู่บุญญฤทธิ์...
    (10 เมษายน 2553..เวลา 11.30 น.) ด้วยกัน...

    อันนี้ร่วมทำกับเพื่อนๆๆ สมาชิกเวปพลังจิตค่ะ...ตั้งใจจัดขึ้นมาเอง....บุญใหญ่ บารมีมาก ทำคนหรือสองคน ไม่ดีแน่..
    เลยอยากขอเชิญชวนทุกท่าน ที่ผ่านมาเห็นข้อความนี้ มาร่วมสร้าง และสะสมปัญญาบารมีร่วมกันค่ะ.......

    ท่านสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์นี้นะคะ....

    บันทึกบาปและกรรมของข้าพเจ้า ห้องกฏแก่งกรรม เขียนโดย ปานโสม
    http://palungjit.org/threads/%E0%B8....89898/page-90
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    งานวันสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 4 พระองค์ , พระบรมสารีริกธาตุ องค์พระปัจเจกพุทธเจ้า , พระธาตุพระอรหันต์(สมัยพุทธกาล)(ประมาณ 38องค์) , พระธาตุหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ , ธาตุสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี , พระบูชา พระศรีอาริยเมตตรัย , หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร(คณะโสณะ-อุตระ) ประจำปี 2553

    ในวันงาน นอกจากงานสรงน้ำแล้ว ผมยังมีพระวังหน้า(และพระวังหลวง) ไปให้ชมกัน และเลือก(พร้อมทั้งทำบุญ)กัน ผมจะนำไปเป็นพันองค์นะครับ จะได้ร่วมกันศึกษาเรื่องของพระวังหน้ากันด้วยครับ

    โมทนาสาธุครับ
    http://palungjit.org/threads/พระวัง...โลกอุดรเสก-ถ้าต้องการที่จะได้.22445/page-1874

    PaLungJit.com - ชมรม รักษ์พระวังหน้า


    .
     
  5. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ปัญหาการที่หน้าจอ Webboard ไม่พอดีหน้า

    - เกิดจาก การที่ไป Copy จาก Web Page อื่นมา Paste ใน Board เลย
    - แก้ไข โดยการจัดหน้า จัดรูปให้พอดีหน้าก่อน ค่อย Post
    - กรณี Font เพี้ยน ก็ให้ Copy ข้อความจาก Web อื่นมาแปะ (Paste) ใน Notepad (Start > Run > Notepad) ก่อน
    - แล้วค่อย Select All (เลือกทั้งหมด หรือใช้ fn = Ctrl+A, Copy) มาลงที่ Board
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คณะกองทุนหาพระถวายวัด ได้อัญเชิญพระบูชา หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า หน้าตัก 9" ฝากให้พี่สิทธิพร เป็นผู้ที่ถวายแทนคณะกองทุนหาพระถวายวัด

    พี่สิทธิพรได้มอบให้ลูกน้อง เป็นผู้ที่ไปถวายแทนคณะกองทุนหาพระถวายวัด ถวายที่วัดพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐมครับ

    [​IMG]

    [​IMG]


    มาโมทนาบุญร่วมกันครับ


    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • sititporn1.JPG
      sititporn1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      69.1 KB
      เปิดดู:
      625
    • sititporn2.JPG
      sititporn2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      73.5 KB
      เปิดดู:
      531
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ภัยข่มขืน ต้องรู้ทัน เพื่อป้องกันตัวเอง
    ข่มขืน ภัยสังคม : รู้เท่าทัน ภัยคุกคามทางเพศ การ อนาจารทางเพศ เพื่อป้องกันตนเอง


    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="50%"><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle width=60>[​IMG]</TD><TD vAlign=top>วิธีหนี การถูกข่มขืน
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width="50%"><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle width=60>[​IMG]</TD><TD vAlign=top>แนะสาวเช่าหอพัก เลือกอยู่อย่างไร..ให้พ้นภัยโจร!?!
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="50%"><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle width=60>[​IMG]</TD><TD vAlign=top>เตือนภัย : ภัยแท็กซี่
    เตือนภัย : ภัยแท็กซี่
    [​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width="50%"><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle width=60>[​IMG]</TD><TD vAlign=top>เตือนภัย : อย่ารับกระดาษจากคนแปลกหน้า
    อย่ารับกระดาษจากคนแปลกหน้า
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="50%"><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle width=60>[​IMG]</TD><TD vAlign=top>ตีสนิท ลวงข่มขืน ถ่ายรูปแบล็คเมล์ เรื่องจริงควรบอกต่อ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width="50%"><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle width=60>[​IMG]</TD><TD vAlign=top>มันมากับฝน! ภัยมืดที่สาวๆ ต้องระวัง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="98%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>วิธีหนี การถูกข่มขืน

    ภัยข่มขืน วิธีหนีการถูกข่มขืน

    </TD></TR><TR><TD>
    [​IMG]

    [​IMG]1. คนร้ายจะซุ่มรอทีเผลอ ที่โดนบ่อยๆ คือ ล็อคแขนไขว้หลัง มืออุดปากแล้วกระชาก หรือลากเข้าข้างทาง ถ้าเตรียมตัวมาดีก็อาจจะมีอาวุธจี้เพื่อไม่ให้เหยื่อขัดขืน แน่นอนว่าน้อยคนที่เห็นมีด ปืน แล้วจะกล้าใช้แท็คติคที่เรียนมา

    [​IMG]2. เมื่อโดนลากเข้าข้างทาง คุณก็จะโดนต่อยท้องเพื่อให้จุก จนไม่มีแรงดิ้น และโดนตบปากหรือต่อยหน้า เพื่อให้กลัวเจ็บ หรือกึ่งๆ หมดสติ จากนั้นถ้าคนร้ายหื่นแบบชาญฉลาดก็จะหาของมาอุดปากคุณไว้ ถ้าโชคร้ายคุณนุ่งกระโปรงมาอาจจะเจอ กกน.ตัวเอง


    [​IMG]3. เมื่อคนร้ายเห็นคุณไม่มีแรงดิ้น ก็จะทำการถลกส่วนล่างคุณออก โดยท่าที่นิยม คือ นั่งคร่อมเอว เอาเข่ากดแขนส่วนบนคุณไว้ทำให้ไม่มีแรงมากพอจะผลักแถมยังจุกอยู่อีกตะหาก


    [​IMG]4. จากนั้นเมื่อฐานยิงโล่งโจ้ง คนร้ายก็จะงัดจรวดออกมาเตรียมปฏิบัติการ จังหวะนี้ถ้าคุณโชคดียังมีสติอยู่ให้พยายามเซฟแรงไว้รอข้อต่อไป


    [​IMG]5. เมื่อคนร้ายพยายามสอดใส่ ให้คุณรวบรวพลังที่มี "ขมิบ" ไว้ครับ คนร้ายก็จะเริ่มเสียสมาธิ เพราะจ้องจะข่มขืนอย่างเดียว ให้คุณอาศัยจังหวะนี้ซึ่งคนร้ายมักจะเผลอลืมกดแขน คว้าลูกป๋องแป๋งเลยครับ โดนลูกเดียวไม่เป็นไร อย่าตกใจปล่อยมือเพื่อกำใหม่ให้โดนสองลูก เดี๋ยวจะหมดโอกาส จากนั้นบีบให้เต็มที่เลยคับ เอาเล็บจิกด้วยยิ่งดี ร้อยทั้งร้อยไม่มีใครคิดจะฆ่าคุณในตอนนี้หรอก รับรองร้องเสียงหลง จนลืมทุกสิ่งทุกอย่าง


    [​IMG]6. หลังจากนั้น อ๊ะๆ อย่าเพิ่งคิดหนีครับ พิจารณาดูคนร้ายให้ดีก่อน รีบประเมินสถานภาพคนร้ายว่า ที่เราทำลงไปหยุดเขาได้ไหม ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ตายตอนโดนข่มขืน แต่จะมาตายตอนนี้แหละครับ เพราะจะหนีอย่างเดียว ตัวเองก็วิ่งไม่ไหว คนร้ายก็ยังลุกขึ้นมาตามทุบหัวเอาได้ ดังนั้นหากเห็นว่าคนร้ายหมดสภาพแน่ๆ และชุมชนอยู่ไม่ไกลจึงค่อยหนีครับ


    [​IMG]7. ทีนี้ถ้าคนร้ายแค่เสียจังหวะ คือ อาจจะลงไปนอนตัวงออยู่แป๊บเดียว และมีทีท่าจะลุกขึ้นมา สิ่งที่คุณต้องทำ คือ รีบหาอาวุธให้เร็วที่สุดคับ ไม้ ก้อนหิน ปากกา (ใช้เสียบได้) คัตเตอร์ สเปรย์ ปืน ครกที่จะเอาไปจำนำฯลฯ ถ้าไม่มีจริงๆ ก็ฝ่าเท้านี่แหละครับ หวดเข้าไปที่บริเวณลูกป๋องแป๋งเลยครับ แต่ส่วนใหญ่จะทำไม่ได้ เพราะคนร้ายมักจะกุมไว้ คนตัวโตๆ ตายเพราะฝ่าเท้าผู้หญิงมีเยอะครับ ยิ่งใส่ส้นสูงด้วย อู๊ย.... หรือไม่ก็เสยที่ กกหู ขมับ ทุบรัวๆ เลยครับ (ไม่แนะนำท้ายทอยหรือคาง เพราะโดนยาก) ถ้ามีก้อนหินโตๆ ทุบกลางหน้าแข้งเลยครับ รับรองเดี้ยง ร้องสามบ้านแปดบ้าน


    ที่สุดท้าย อาจจะโหดหน่อย แต่ถ้าทำได้ เวิร์คครับ "นิ้วเท้า" โดยเฉพาะนิ้วเล็กๆ ตั้งแต่นิ้วกลางถึงนิ้วก้อย ใช้หินทุบผัวะเข้าไป อย่าใจอ่อนครับ เอาให้เละไปเลย ถ้าทำดีคนร้ายอาจจะเจ็บถึงสลบครับ จากนั้นรีบจัดเครื่องแต่งกาย คว้าสิ่งของมีค่าพาตัวเองออกไปให้ไวที่สุดครับ


    นี่สำหรับเจอตัวต่อตัวนะครับ ถ้ามากกว่าสอง ให้แนะนำว่า "ทำใจครับ" โดนแน่ๆ หนักหรือเบา แล้วแต่บุญแต่กรรม ข้อมูลเหล่านี้หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับสาวๆ ไม่มากก็น้อยครับ



    ข้อมูลจาก Forward Mail
    ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="98%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>แนะสาวเช่าหอพัก เลือกอยู่อย่างไร..ให้พ้นภัยโจร!?!

    </TD></TR><TR><TD>ภัยข่มขืน แนะสาวเช่าหอพัก เลือกอยู่อย่างไรให้พ้นภัยโจร!?!


    [​IMG]


    ตกเป็นข่าวครึกโครมสะเทือนขวัญกันอีก ระลอกหนึ่งสำหรับเหตุการณ์นักศึกษาสาวโชคร้ายตกเป็นเหยื่อโจรโรคจิตฆ่าข่มขืนหมกหอพักย่านคลองตันเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สร้างความสลดใจแก่ผู้รับฟังข่าวสารเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ หญิงสาวที่พักอาศัยอยู่ในหอพักเพียงคนเดียวคงขวัญหนีดีฝ่อไปตาม ๆ กัน หากถึงคราวซวยโจรร้ายบุกเข้าห้องจะทำอย่างไร ?!?.....

    มีเหตุผลหลายประการที่ทำให้เราต้องเช่า หอพัก อพาร์ตเมนต์ คอนโดมิเนียม ก็เพื่อความสะดวกในการเดินทางไปทำงานหรือไปเรียนหนังสือ เพราะราคาถูกกว่าเช่าบ้านหรือซื้อบ้าน แต่สำหรับหญิงสาวควรจะมองถึงเหตุผลด้านความปลอดภัยเพิ่มขึ้นด้วย พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) และโฆษก บช.น. บอกถึงแนวทางการเลือกเช่าหอพักให้ปลอดภัยว่า ควรตรวจสอบว่าหอพักนั้นเจ้าของมีระบบการป้องกันภัยอย่างไร เช่น มี รปภ. มีระบบคีย์การ์ดสำหรับผู้เช่าห้องหรือมีกล้องวงจรปิดหรือไม่

    "ตรวจเช็กดูว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมีการเข้มงวดเรื่องการเข้า-ออกของบุคคลภายนอกมากน้อยเพียงใด มีการขอบัตรประชาชนหรือเซ็นชื่อบุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่อขอเข้าหอพักไว้หรือไม่ เพราะอาจมีมิจฉาชีพแอบแฝงเข้ามาก่อเหตุร้ายได้ สำหรับภายในห้องพักการเลือกควรดูที่ประตูหน้าห้องว่ามีกล้องตาแมวติดไว้ให้เราส่องดูผู้ที่มาหาหรือไม่เพื่อความปลอดภัย ส่วนประตูด้านหลังระเบียงต้องตรวจสอบด้วยว่าลูกบิดล็อกประตูมั่นคงหรือไม่ ที่สำคัญควรมีกลอนประตูให้ด้วย"

    หากเป็นหญิงสาวพักอยู่ห้องคนเดียวควรตรวจสอบว่าระเบียงด้านหลังห้องอยู่ติดกับข้างห้องมากไปหรือไม่ ควรเลือกที่อยู่ห่างกันและไม่สามารถปีนข้ามมาถึงกันได้ ทั้งนี้เมื่อตัดสินใจเลือกเข้าพักที่หอพักแล้วควรจะต้องหมั่นสังเกตถึงพฤติกรรมของบุคคลที่ร่วมพักอาศัยว่ามีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่ พยายามหาผ้าม่านมาปิดหน้าต่างหรือประตูห้องด้านหลังเพื่อไม่ให้บุคคลภายนอกมองเข้ามาเห็นภายใน เพราะอาจจะตกอยู่ในเป้าสายตาของพวกมิจฉา ชีพ ถือเป็นการป้องกันเหตุร้ายได้ดีในระดับหนึ่ง

    สำหรับสถิติการถูกประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกาย และเพศ, ประทุษ ร้ายต่อทรัพย์ที่เกิดขึ้นในเคหสถาน ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2551- 31 ธันวาคม 2551 ของกองบัญชาการตำรวจนครบาลพบว่าเหตุเกิดในเคหสถาน คอนโดฯ อาคารชุด แฟลต แมนชั่น อพาร์ตเมนต์ รวมเป็นคดีที่ได้รับแจ้งทั้งหมด 3,432 ราย จับได้ 1,256 ราย รวมผู้ต้องหา 1,529 คน แบ่งเป็นข้อหาข่มขืน 321 ราย ทำร้ายร่างกาย 676 ราย พยายามฆ่า 46 ราย ฆ่าโดยไม่เจตนา 7 ราย ฆ่าโดยเจตนา 62 ราย ปล้นทรัพย์ 62 ราย ชิงทรัพย์ 43 ราย วิ่งราวทรัพย์ 10 ราย ลักทรัพย์ 2,087 ราย กรรโชกทรัพย์ 14 ราย ทำให้เสียทรัพย์ 146 รายและรับของโจร 5 ราย

    จากสถิติจะเห็นได้ว่าคดีลักทรัพย์เกิดขึ้นมากที่สุดถึง 2,087 ราย จึงเชื่อได้ว่าสาเหตุที่คนร้ายเข้าไปก็เพื่อหวังลักทรัพย์เป็นอันดับหนึ่ง แต่พบว่าเหยื่อเป็นหญิงสาวจึงคิดข่มขืนด้วย อาจเพื่อให้อับอายไม่กล้าแจ้งความ สำหรับสาเหตุที่ลงมือฆ่าด้วยนั้นอาจเป็นคนรู้จักกลัวหญิงสาวจดจำใบหน้าได้ แต่ตำรวจก็มีมาตรการการป้องกันเหตุคนร้ายประทุษร้ายต่อชีวิต และทรัพย์สินของผู้ที่พักอาศัยตามหอพัก ต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน พล.ต.ต.สุพร บอกว่า ตำรวจจะประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของหอพักต่าง ๆ ทำประวัติของผู้พักอาศัยพร้อมทั้งรูปถ่ายและหลักฐานบัตรประชาชนเพื่อเก็บเป็นข้อมูลรวมทั้งให้จัด รปภ. คอยสอดส่องดูแลความปลอดภัย ที่สำคัญควรจัดทำ ประวัติเจ้าหน้าที่ รปภ. ไว้ด้วยป้องกันกรณีเจ้าหน้าที่ รปภ. มีพฤติการณ์เป็นคนร้ายเสียเอง

    แนะนำเจ้าของหอพักติดตั้งกล้องวงจรปิดตรงบริเวณทางเดินหอพัก ทางเข้า-ออก หรือทางขึ้น-ลง เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการตรวจสอบและมีสมุดจดบันทึก หลักฐานผู้มาติดต่อหากไม่มีหลักฐานไม่ควรอนุญาตให้ขึ้นไปป้องกัน คนร้ายแฝงตัวมาขึ้นไปก่อเหตุ ประตูห้องควรมีกล้องตาแมวให้ผู้เช่าตรวจดูบุคคลที่มาพบและควรมีระบบคีย์การ์ด สำหรับผู้พักอาศัยเท่านั้นที่มีบัตรรูดเข้า-ออกได้ เป็นการป้องกันเหตุร้ายต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นภายหลัง

    สำหรับสาวนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษมที่เช่าหอพักอย่าง ฐิติภา พร จันทร์ เมื่อทราบข่าวว่าคนร้ายฆ่าข่มขืนหญิงสาวหอพักบ่อยครั้ง จึงทำให้รู้สึกกลัวไม่มั่นใจในการรักษา ความปลอดภัย จึงต้องระมัดระวังตัวเองมากขึ้น และยังฝากเตือนผู้เช่าห้องพักด้วยว่าถ้าเป็นไปได้อย่าไว้ใจคนแปลกหน้า เพื่อเป็นการป้องกันภัยร้าย ส่วนสาเหตุที่ทำให้ต้องอยู่หอพัก เธอบอกว่า บ้าน อยู่ไกลจากมหาวิทยาลัยและส่วนใหญ่มีเรียนตอนเช้า จึงตัดสินใจเช่าอพาร์ตเมนต์อยู่กับเพื่อนที่เรียน ด้วยกันใกล้ ๆ กับมหาวิทยาลัย ได้ 1 ปีแล้ว

    ส่วน ศิริมา ประกอบศรี หญิงสาววัยทำงาน เป็นอีกหนึ่งคนที่ใช้ชีวิตอยู่กับอพาร์ตเมนต์ มา 8 ปี บอกว่าปัจจุบันย้ายมาอยู่คอนโดฯ แล้วเพราะคอนโดฯ จะมีร้านขายของชำ ร้านซักรีด คนพลุกพล่านดี แต่ก็ไม่ใช่จะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ ครั้งหนึ่งมีคนมาเคาะห้องเราเผลอเปิดประตูออกไปพบชายในสภาพเมาอ้างว่ามาหาเพื่อนที่พักอยู่ห้องนี้ เรารีบบอกไม่มีแล้วปิดประตูห้องทันที ยิ่งระยะหลังมีข่าวฆาตกรรมภายในอพาร์ตเมนต์บ่อยครั้งถึงแม้อยู่มานานยังรู้สึกกลัว ทำให้เวลาอยู่ที่ห้องจะล็อกกลอนและลูกบิดตลอด ถ้ามีคนมาเคาะห้องถามแล้วไม่บอกว่าใครหรือเป็นคนไม่รู้จักจะไม่เปิดประตูให้อีกแล้ว

    ขอเตือนว่าภัยอยู่ใกล้ตัวเราเสมอ อย่าคิดว่าไม่มีอะไรเกิด ขึ้น ควรรู้จักหวาดหวั่นระแวงไว้อยู่ตลอดไม่ควรประมาท ที่สำคัญต้องมีสติ !?!


    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
    [​IMG]
    กรวิกา คงเดชศักดา
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="98%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>เตือนภัย : ภัยแท็กซี่

    ข่มขืน ภัยสังคม : รู้เท่าทัน ภัยคุกคามทางเพศ การ อนาจารทางเพศ เพื่อป้องกันตนเอง

    </TD></TR><TR><TD>
    [​IMG]
    ที่มาจาก Forward Mail :
    สวัสดีเพื่อน ๆ พี่ๆ ทุกคน


    ด้วยความเป็นห่วงเพื่อน ๆ พี่ ๆ ทุกคน โดยเฉพาะผู้หญิง หมวยมีประสบการณ์ภัยใกล้ตัวที่น่ากลัวและเมื่อนึกขึ้นทีไร ก็เป็นเรื่องน่ากลัวในจิตใจทุกที จึงอยากจะมาเล่าประสบการณ์ให้ได้รู้และได้ระวังกัน ในความชั่วร้ายของรถ Taxi เรื่องมีอยู่ว่า


    คืนวันพุธที่ 30 เม.ย. 2551 ที่ผ่านมา หมวยไปยืนรอรถ taxi ที่หน้าสนามกีฬาแห่งชาติ (ข้าง MBK) เวลาประมาณ 4 ทุ่มกว่า ๆ หมวยยืนรอ taxi อยู่นานมากๆๆ แต่ก็ไม่มี taxi คันไหนไปซักคัน (หมวยจะไปปิ่นเกล้า) ซักพักก็มี taxi (ยี่ห้อ toyota soluna รุ่นเก่า สีฟ้า ถ้าจำไม่ผิด) วิ่งมาจอดตรงหน้า และมันก็รับหมวยขึ้นรถไปโดยเส้นทางที่มันพาเราไปก็คืน วิ่งตรงไปตรงสะพานยศเส แล้วก็เลี้ยวขวาผ่านตรงตลาดโบ๊เบ๊ ก็นึกในใจว่าเราเป็นผู้หญิงคนเดียวขึ้น taxi1 ดึก ๆ คนเดียวก็อันตรายเหมือนกันนะ (นึกถึงเรื่องที่เคยอ่าน mail ว่ามีคนถูก Taxi รมยาสลบ ก็เลยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาแฟน ก็บอกแฟนว่า 'ขึ้นรถ taxi แล้วนะอีกประมาณครึ่งชั่วโมงคงถึงบ้านแล้วล่ะ' ในใจก็หันไปมอง กท รถที่เคยเห็นในรถ taxi ทั่วไปมีจะบอกแฟนว่าขึ้นรถ taxi กท อะไร ก็เห็นแค่ว่า ' ทพ ' แต่ไม่มีเลยทะเบียน ก็เริ่มเอะใจ 1 อย่างแล้ว แล้วในขณะที่หมวยพูดกับแฟน ไอ้คนขับ taxi ชั่ว มันก็เหมือนสะดุ้งตกใจ แล้วก็หันมามองเรา ...


    ซึ่งขณะนั้น taxi วิ่งผ่านตรงตลาดโบ๊เบ๊ พอรถเลี้ยวซ้ายเข้าตรง ธ.กรุงไทยสะพานขาว เพื่อที่จะมุ่งหน้าตรงไปสะพานผ่านฟ้า (ราชดำเนิน) ไอ้ taxi มันก็หันมามองหมวยอีกที แล้วมันก็หันกลับไป ทันใดนั้นมือที่มันจับที่เกียร์รถยนต์ก็เหลือแค่ 3 นิ้ว (กลาง นาง ก้อย) ส่วนอีก 2 นิ้ว (นิ้วชี้กับนิ้วโป้ง) มันไปกดอะไรบ้างอย่างที่เป็นเหมือนช่องแอร์พิเศษที่รถ taxi คันอื่น ไม่มี (เท่าที่เคยสังเกตได้)แล้วมันก็เร่งแอร์ขึ้น เราเห็นพฤติกรรมมันเราก็เริ่มเตรียมตัวแล้วว่าอาจจะเกิดอะไรขึ้น


    หลังจากนั้นไม่นาน เท่าที่จำความได้ประมาณ 1นาทีผ่านไป ก็รู้เลยว่าถูกไอ้ taxi ชั่วมันรมยาสลบแน่ๆ ความรู้แรกเลยคือ ความชามันเริ่มมาจากตรงท้อง ไล่มาตรงหน้าอก และสุดท้ายที่จำความรู้สึกได้คืนรู้สึกหน้ามืด หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก หายใจถี่ เหมือนจะหมดสติ ในทันใดแต่ก็ตั้งสติได้ก็บอกไอ้คนขับว่าให้จอดข้างหน้าเลย (ก่อนที่จะบอกคนขับให้จอด มือก็เปิดล็อกประตูแล้วก็ที่จะบอกมัน)


    แล้วมันก็ชะลอรถแล้วถามว่าทำไม หมวยก็บอกว่า ' จอดแล้วกัน หายใจไม่ออก ถ้าไม่จอดจะกระโดดลงแล้วนะ' มันก็ไม่ถึงกับจอดสนิท แต่หมวยก็ดันประตูรถออกมาแล้วก็กึ่ง ๆ กระโดดลงออกมาจากรถ และจากสติที่ใกล้จะหมดแล้วได้ยินมันพูดว่า ' จะลงทำไมล่ะครับ ผมไม่ได้ทำไรคุณนะ แอร์รถผมก็เย็น' แล้วก็เหมือนได้ยินมันทวงค่า taxi ก็เลยโยนให้มัน จำได้ว่า 50 บาท (ทุกคนที่ฟังเราเล่าบอกว่าไปให้มันทำไม) ในขณะที่กระโดดลงรถ ก็ลงมานั่งยองๆ เพื่อตั้งสติ มองเห็นอีกทีก็เห็นตัวเองอยู่กลางสี่แยกหลานหลวง และฝั่งตรงข้ามที่ลงมีป้อมเล็ก ๆ ที่ตอนแรกคิดว่าเป็นป้อมตำรวจ ก็แข็งใจวิ่งข้ามทางม้าลายไปตรงป้อมนั้น ปรากฎว่าเป็นแค่ป้อมจราจรที่ไม่ตำรวจอยู่เลย และแล้วก็มีชายคนนึงเดินผ่านหน้า ก็ร้องให้เค้าช่วย เค้าก็เข้ามาถามว่าเป็นอะไร ก็เล่าเหตุการณ์ให้เค้าฟัง เค้าก็นั่งเฝ้าเราซักฟักจนเราเริ่มมีสติ หมวยก็กด 191 ก่อนเลยเป็นอันดับแรก ไม่ต้องหวังเลยค่ะว่าจะโทรติด แต่ในขณะนั้นร่างกายอ่อนแรงมาก ๆ ผู้ชายคนนั้นก็เลยบอกว่าโทรหาแฟนคุณดีกว่าไม๊ ผมจะรอเป็นเพื่อน (จริง ๆ แล้วผู้ชายคนนั้นก็หน้าตาน่ากลัวเหมือนกัน) ก็เลยโทรหาแฟน
    แล้วก็กะว่าจะพาไปแจ้งความที่ สน.นางเลิ้ง (พื้นที่เกิดเหตุ)แต่สภาพหมวยตอนนั้นก็แย่มาก เพราะเหลือแค่สติอันน้อยนิด ส่วนร่างกายหมดแรงไปเลยและในที่สุดก็ไม่ได้ไปแจ้งความ เพราะหมวยก็จำ กท.รถไม่ได้เลย


    เช้าวันที่ 2 เมษายน เปิดทำงานหลังจากหยุดวันแรงงานไป 1 วัน ก็ได้มาเล่าเหตุการณ์ให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่ทำงานฟัง ทุกคนลงความเห็นว่าให้ไปแจ้งความ เพราะอาจมีวงจรปิดบริเวณแถวสี่แยกก็ได้ ก็กะว่าตอนเย็นจะไป พอตกเย็นก็นั่งเขียนเรื่องเตือนภัยนี้กะว่าจะส่งให้เพื่อน ๆ พี่ๆ ที่รู้จักอ่านเพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจ นายที่อยู่ในห้องได้ฟังเรื่องก็เลยอาสาพาไปแจ้งความ นายบอกว่ารู้จักกับรอง ผกก. ก็เลยไปแจ้งความในเย็นวันนั้นก็เล่าเหตุการณ์ให้รอง ผกก.ท่านนั้นฟัง ท่านก็ให้ร้อยเวรทำการบันทึกประจำวันไว้ให้ แล้วในขณะนั้นท่านก็เล่าให้ฟังว่ามีคนมาแจ้งความเรื่องแบบนี้บ่อยในช่วงนี้ ซึ่งก็เป็น taxiที่รับผู้โดยสารจากบริเวณเดียวกัน ท่านก็เห็นว่าเรื่องของหมวยน่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่น ท่านก็เลยต่อสายโทรศัพท์ไปยัง สถานีวิทยุรายการ สวพ.91 เพื่อที่จะให้หมวยเล่าประสบการณ์ออกรายการวิทยุ แต่พอดีวันนั้นฝนตกและการจราจรติดมาก ๆ เค้าไม่มีช่วงเวลาให้ออกรายการ ก็เลยไม่ได้เล่า ท่านก็เล่าว่าน่าเสียดายที่หมวยไม่ได้ไปแจ้งความตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ เพราะถ้ามาแจ้งความก็อาจจะพาไปตรวจร่างกายว่า ยาสลบที่คนร้ายใช้ เป็นยาสลบประเภทไหน จะได้เป็นข้อมูลให้ตำรวจต่อไป (เพราะยาสลบที่คนร้ายใช้ หมวยรู้สึกได้เลยว่ามันเร็วมากหลังจากที่มันเอื้อมมือไปกดยาประมาณแค่ไม่ถึง 1 นาที หมวยก็หมดแรงแล้ว ไม่อยากคิดต่อเลยว่า ถ้าหมวยตัดสินใจช้ากว่านั้น ไม่ตัดสินใจที่จะกระโดดลงมาก็คงหมดสติไปในทันใดแน่เลย)


    ก็เลยแอบเป็นห่วงเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่รู้จัก และช่วยบอก ๆ ต่อๆ เพื่อจะได้เป็นข้อเตือนภัยให้กับคนรู้จักต่อไป (เพราะที่หมวยรอดมาได้ก็เพราะจาก mail ที่ได้รับมาในทำนองนี้ที่เคยได้อ่านเหมือนกัน)
    ข้อสังเกตและข้อควรระวัง

    1. ถ้าไม่จำเป็นอย่าขึ้น taxi คนเดียว แต่ถ้าจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ก็ให้โทรหารคนรู้จัก แล้วก็บอกเลข กท taxi ที่เราขึ้นให้เค้าได้รู้

    2. จากสถิติที่ได้นั่งคุยกับตำรวจ ถ้าเป็น taxi เก่าก็ควรระวัง และให้สังเกตป้าย กท. บนรถ ถ้าไม่มีให้พึงระวังว่าไม่ควรขึ้น

    3. จากการสังเกตเอง taxi ต้องสงสัยจะมีช่องแอร์พิเศษ อยู่บริเวณใกล้ ๆ เกียร์เพื่อเวลาเค้ากดยาแล้ว เราจะได้ไม่ทันสังเกต

    4. ขณะนั่งรถอยู่ถ้าคนขับมีปรับเร่งแอร์ หรือเร่งเครื่องยนต์ (ขณะที่รถติด) ให้ตั้งเป็นข้อสังเกตไว้ว่าไม่น่าไว้วางใจ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="98%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>เตือนภัย : อย่ารับกระดาษจากคนแปลกหน้า

    ข่มขืน ภัยสังคม : รู้เท่าทัน ภัยคุกคามทางเพศ การ อนาจารทางเพศ เพื่อป้องกันตนเอง

    </TD></TR><TR><TD>
    [​IMG]
    ที่มาจาก Forwad Mail
    นอกจากยาป้าย แล้วยังมียาอีกชนิด หนึ่งเพื่อนเราเคยเกือบโดนบนรถเมล์ สาย 47 เขานั่งอยู่คนเดียวกำลังจะกลับถึงบ้าน แล้ว รู้สึก แปลก ๆ เหมือนมีผู้ชายมองอยู่ข้างหลัง 2-3 คน พอถึงป้ายราชดำเนิน ผู้ชาย 1 ในนั้นก็เดินมาหาเค้าแล้วยื่นกระดาษที่พับไว้แผ่นนึงให้เค้าแต่ไม่ได้รับเพราะปกติเป็นคนขี้ระแวงอยู่แล้ว แต่ชายคนนั้นก็คะยั้นคะยอให้เค้ารับให้ได้แต่เค้าก็ไม่รับอยู่ดี กลุ่มคนพวกนั้นก็เลยรีบลงจากรถพร้อมกับมองขึ้นด้วยท่าทางที่หงุดหงิด



    พอกลับถึงบ้านเลยเล่าให้พ่อแม่ฟังว่าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นพ่อเค้าก็ตกใจว่าเคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น แล้วมันเกิดกับคนแถวๆบ้านนั้นหน่ะแหละ...คือโดนยื่นกระดาษเหมือนกันแล้วก็รับมาพอเปิดดูก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลยมารู้อีกทีก็อยู่สนามหลวง แต่ไม่มีของติดตัวเลย ทั้งกระเป๋าตังและสร้อยคอ ไปแจ้งความก็ทำอะไรใครไม่ได้



    สรุปได้ว่ามันเป็นยามึนชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นผง ๆ เมื่อเปิดมามันก็จะฟุ้งออกมาทันที ใครโดนยานี้จะคล้ายกับโดนยาป้าย
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ตีสนิท ลวงข่มขืน ถ่ายรูปแบล็คเมล์ เรื่องจริงควรบอกต่อ

    http://hilight.kapook.com/view/22107



    [​IMG]

    เรียบเรียงโดยกระปุกดอทคอม
    ข้อมูลจาก Forward Mail
    ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต

    สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกคน วันนี้เรามีเรื่องราวดีๆ ที่เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ (ภัยใกล้ตัว) มาฝากเพื่อนๆ กันอีกแล้ว เป็นข้อมูล Forward Mail จากสามีของผู้เคราะห์ร้ายที่ตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพ โดยเขาหวังว่าข้อมูลที่นำมาเล่าบอกต่อนี้ จะเป็นประโยชน์กับทุกๆ คน
    เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า... ประมาณสองสัปดาห์หลังปีใหม่ ภรรยาผมลางานเพื่อไปติดต่องานราชการ เสร็จแล้วจึงแวะซื้อหนังสือที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ย่านลาดพร้าว ระหว่างที่กำลังเลือกหาซื้อหนังสืออยู่นั้น ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งอายุประมาณสามสิบเข้ามาทักทาย บอกว่าชอบหนังสือแนวสืบสวนสอบสวนเช่นเดียวกันภรรยาผม และมีหนังสือที่น่าสนใจหลายเล่มที่น่าอ่านมาก การสนทนาก็เป็นไปอย่างมีมิตรไมตรีต่อกัน เพราะจากลักษณะท่าทางและการแต่งตัวดูเหมือนเป็นคนทำงานทั่วไป
    แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ให้นามบัตรภรรยาผมมา ส่วนภรรยาผมก็ให้เบอร์มือถือเธอไป เพราะเห็นว่าเป็นผู้หญิงด้วยกัน การติดต่อพูดคุยก็มีขึ้นเป็นระยะๆ และมีนัดเจอกันเพื่อให้หนังสือภรรยาผมมาอ่าน แล้วก็บอกว่าจะรีบไปทำงาน แต่หนังสือที่ให้มาเป็นหนังสือแนวสืบสวนธรรมดาที่ภรรยาผมเคยอ่านมาแล้ว จึงอยากจะคืนกลับไป การนัดเจอกันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้ผู้หญิงคนนั้นชวนทานข้าวเพราะเป็นช่วงเกือบเที่ยงวันแล้ว และได้แนะนำให้รู้จักผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งรออยู่ที่Food Center เธอบอกว่าเป็นเพื่อนที่ทำงาน และชอบอ่านหนังสือแนวนี้เช่นกัน
    ผู้ชายคนนั้นถามภรรยาผมและผู้หญิงคนนั้นว่า จะทานอะไรจะไปซื้อมาให้ ด้วยความเกรงใจจึงทานเหมือนกันเป็นก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู แต่ภรรยาผมก็พยายามจะขอตัวไปซื้อน้ำมาให้ แต่ทางผู้หญิงคนนั้น ชิงเดินไปซื้อมาให้ก่อน พอนั่งทานไปได้ประมาณครึ่งชามและดื่มน้ำไปหน่อย ภรรยาผมก็เกิดอาการมึนๆ และเริ่มง่วงนอน เพียงอีกไม่กี่นาทีต่อมา เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ผู้หญิงคนนั้นก็เข้ามาประคองตัวภรรยาผม แล้วพูดบอกผู้ชายว่า คงเป็นลมช่วยพาออกไปสูดอากาศข้างนอกหน่อย

    ตอนนั้นภรรยาผมบอกว่าไม่สามารถพูดอะไรได้ ร่างกายยืนแทบไม่ไหว ระหว่างเดินผ่านตัวห้างมาลานจอดรถ เห็นผู้ชายโทรศัพท์เพียงไม่ถึงหนึ่งนาที รถตู้สีขาวก็มาจอด แล้วทั้งคู่ก็พาภรรยาผมขึ้นรถ วินาทีนั้นภรรยาผมบอกว่าเธอพยายามขัดขืน แต่ทั้งคู่ก็ใช้กำลังพาเธอขึ้นรถแล้วปิดประตูรถ บนรถมีผู้ชายสองคนนั่งมาในรถด้วย เมื่อรถวิ่งออกจากห้างภรรยาผมพยายามร้องขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่มีเสียงและผู้ชายที่นั่งอยู่บนรถเอามือมาปิดปากเธอไว้
    พอรถวิ่งออกมาระยะหนึ่งผู้ชายที่เจอกันที่ Food Center เริ่มปลดเสื้อผ้าภรรยาผม เธอพยายามร้องขอความช่วยเหลือและต่อสู้ แต่ก็ไม่มีเรี่ยวแรง ผู้ชายอีกสองคนที่นั่งรออยู่บนรถก็ช่วยกันถอด สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปคงไม่ต้องบรรยายกันอีก... โดยมีผู้หญิงเป็นคนเก็บภาพเป็นระยะๆ เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่ทราบ รู้สึกตัวอีกที่ภรรยาผมถูกนำมาทิ้งที่ห้องน้ำหญิงของปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งแถวสุขาภิบาล 2 ย่านบางกะปิ...
    ผมไปรับเธอแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น เธอไม่พูดอะไรได้แต่ร้องไห้และไม่ไปทำงานอีกเลย นั่งซึมอยู่กับบ้าน สามวันต่อมาคุณแม่ของภรรยาโทรมาบอกว่ามีจดหมายลงทะเบียนส่งมาที่บ้าน ให้ไปรับผมก็ไปรับ แล้วเปิดออกดู มีภาพถ่ายพร้อมขอเงินสดสี่แสนบาทเป็นค่าฟิล์มและภาพถ่ายทั้งหมด ผมพูดไม่ออก ทุกความรู้สึกวิ่งพุ่งเข้ามาในใจ สับสน เสียใจ แค้นใจ เจ็บใจ ผมปรึกษาเรื่องนี้กับคุณพ่อและเพื่อนท่านที่เป็นนายตำรวจ มีความเห็นเหมือนกันว่าต้องแจ้งความกับตำรวจ เพราะเงินสี่แสนครอบครัวเราคงหามาให้ได้ยาก ผมกับภรรยาเป็นเพียงลูกจ้างกินเงินเดือนเท่านั้น
    ... ในวันส่งเงินตามนัดหมาย ตำรวจกองปราบวางแผนอย่างดีและสามารถจับพวกเดนสังคมได้สองคน ได้ฟิล์มและภาพจำนวนหนึ่ง และตำรวจกำลังตามจับพวกที่เหลืออีกสามคน แต่ก็ไม่แน่ใจว่าภาพถ่ายยังคงมีเหลืออยู่อีกหรือเปล่า ซึ่งหลังจากพวกมันถูกจับ ผมก็ได้รับโทรศัพท์ขู่ว่าจะเอาภาพลง internet สองครั้ง ทุกวันนี้ภรรยาผมไม่ได้ทำงานอีกแล้ว อยู่บ้านด้วยอาการซึมเศร้าและไม่ต้องการพบปะกับใครเลย ส่วนผมก็ไม่กล้าออกไปไหนเช่นกัน ทำงานเสร็จก็กลับบ้าน ชีวิตความเป็นอยู่มีแต่ความกลัว ระแวง คิดมาก เหมือนเป็นโรคประสาท ผมจึงอยากฝากบอกเรื่องราวของผมให้เป็นข้อมูลกับทุกคน
    ทุกวันนี้การหากินบนความทุกข์ร้อนของคนอื่นกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วครับ ขอบุญกุศลในการให้ข้อมูลนี้ ทำให้ชีวิตครอบครัวผมดีขึ้นด้วยเถอะ อย่าลืมบอกต่อๆ กันไปด้วยครับ... พ. ศรีฯ
    <!-- google_ad_section_end --><!-- / message --><!-- sig -->
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มันมากับฝน! ภัยมืดที่สาวๆ ต้องระวัง

    http://hilight.kapook.com/view/23603



    [​IMG]

    เคยรู้สึกกลัวเวลาที่ต้องกลับบ้านคนเดียวมืดๆ ระแวงเวลาที่ต้องเดินออกจากออฟฟิศคนเดียว หรือผวาเวลาที่ต้องนั่งรถแท็กซี่กลับบ้านดึกๆบ้างหรือเปล่า

    ไม่ผิดหรอกที่จะรู้สึกแบบนั้น และไม่ต้องกังวลด้วยว่าคุณจะกลายเป็นสาวพารานอยด์จนเกินเหตุ หากว่ายังติดตามข่าวหน้าหนึ่งที่มีคดี ปล้น จี้ หรือทำร้ายร่างกายจากหนังสือพิมพ์หัวสีแทบทุกวัน แต่ถ้าใครยังคงคิดว่าเรื่องแบบนี้ยังห่างไกลและมีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง กรุณาหยุดดูแผนภูมิสถิติเกี่ยวกับคดีอาชญากรรมข้างล่างสักนิด

    สถิติของคดีอาชญากรรมตั้งแต่เดือนเมษายน-มิถุนายน 2550

    [​IMG]

    คงเห็นกันแล้วว่าช่วงปลายฤดูร้อนย่างเข้าฤดูฝนมีสถิติอาชญากรรมร้ายๆกับผู้หญิงค่อนข้างสูง ไหนจะฟ้าฝนที่ไม่เป็นใจให้ต้องใส่เสื้อผ้าเปียกๆตากฝน ท่ามากลางอากาศมืดมัวสลัวครึ้มล่อตาล่อใจมิจฉาชีพ ไหนจะการจราจรติดขัดทำให้ต้องกลับบ้านดึกดื่น รู้ตัวอย่างนี้แล้วเรานี่แหละต้องรู้จักป้องกันตัวเองดีกว่ารอคนอื่นมาช่วยแล้วต้องเสียใจทีหลัง
    ต่อไปนี้คือบางส่วนจากนิตยสารที่เราหยิบยกขึ้นมา เพื่อเตือนสาวๆ ให้ระวังภัยมืดใกล้ตัวคุณ!!!
    [​IMG]


    ไม่อยากเสี่ยงควรเลี่ยง 10 ซอยอันตราย

    [​IMG] ซอยลาดพร้าว 21 เขตจตุจักร
    [​IMG] ซอยวิภาวดี 64 เขตหลักสี่
    [​IMG] ซอยจรัลสนิทวงศ์ 37
    [​IMG] ซอยจรัลสนิทวงศ์ 89
    [​IMG] ซอยสวนผัก 11 เขตตลิ่งชัน
    [​IMG] ซอยภิรมย์ เขตสัมพันธวงศ์
    [​IMG] ซอยเจริญนคร 23 หรือ ซอยอู่ใหม่ เขตคลองสาน
    [​IMG] ซอยวิมุตยาราม เขตบาง
    [​IMG] ซอยร่วมรักษา เขตห้วยขวาง
    [​IMG] ซอยวัดมะกอก ถนนราชวิถี ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
    [​IMG]
    วิธีปฏิบัติตัวเมื่อต้องนั่งแท็กซี่คนเดียว

    สาวๆ จ๋า เมื่อหน้าฝนมาเยือนการเดินทางย่อมไม่สะดวกสบายเหมือนฤดูอื่นๆ แต่เรียกแท็กซี่ได้แล้วก็อย่างเพิ่งดีใจ อย่าเผอเรอนั่งสบายๆ ในแอร์ชุ่มช่ำจนลืมนึกถึงความปลอดภัยละ

    1. เริ่มตั้งแต่ก่อนขึ้นรถ เวลาเปิดประตูบอกที่หมายให้สังเกตว่าในรถมีทะเบียนรถที่เป็นแผ่นเหล็กติดอยู่ที่บริเวณประตูหรือไม่ และสังเกตว่าคนขับหน้าตา ท่าทาง ดูน่าไว้วางใจหรือไม่ มีอาการมึนเมารึเปล่า

    2. เมื่อขึ้นไปนั่ง ควรจำทะเบียนรถทันทีหรือจดใส่กระดาษไว้ ดูชื่อคนขับ และดูรูปบัตรที่ติดในรถกับคนที่ขับว่าตรงกันหรือไม่ แต่จะให้ดีที่สุดควรโทรศัพท์หาคนที่กำลังจะไปหา แล้วบอกไปเลยดังๆ ให้คนขับได้ยินว่า " ฉันขึ้นรถ TAXI เขียว-เหลือง ป้ายทะเบียน กทม. มจ.xxxx กำลังจะไปแล้วนะ เดี๋ยวเจอกัน” ไม่ต้องอายเพราะความปลอดภัยของเราใครจะรับผิดชอบ จริงไหม

    3. ถ้าโดยสารคนเดียวควรเลือกนั่งเบาะหลังที่นั่งคนขับ โดยนั่งให้ชิดประตูเพราะจะทำให้การพยายามทำอันตราย ต่อผู้โดยสารโดยตรงเป็นไปได้ยากขึ้น แต่เวลาจะลงรถควรลงทางประตูด้านซ้ายเพราะจะได้เป็นการกันไม่ให้คนขับลงจากรถแล้วมาทำอันตรายในระยะประชิดได้

    4. พยายามอย่าบอกว่าไม่รู้หรือไม่ชินกับเส้นทาง ถึงแม้จะมาจากต่างจังหวัด ถ้าคนขับถามว่าไปทางไหนดี ควรบอกไปว่า “ไปทางไหนก็ได้......แต่ให้ดีเลือกทางที่รถไม่ค่อยติด และไม่เข้าซอยเปลี่ยว ” ถ้าไม่รู้ทางทั้งคนนั่งและคนขับ อาจเปลี่ยนรถคันใหม่ หรือถามทางกับคนแถวนั้น แต่ที่ที่จอดถามต้องปลอดภัย คนพลุกพล่าน

    5. หากคนขับแท็กซี่ชวนคุย ควรคุยเฉพาะเรื่องเส้นทางเท่านั้น ไม่ควรคุยเรื่องส่วนตัว เพราะจะเป็นการนำไปสู่การคุยเรื่องทะลึ่งลามกได้

    6. ขณะนั่งบนรถควรสังเกตอะไรบ้าง

    * เส้นทางตลอดเวลาที่ผ่าน อาทิ เช่น ป้ายบอกชื่อถนน ชื่อซอย ถ้ารู้สึกผิดปกติให้โทรหาญาติหรือเพื่อนโดยบอกเส้นทางที่ผ่านมาทุกระยะ

    * หากคนขับ ปรับกระจกมองข้างหลัง มาดูระดับขา หรือ ระดับหน้าอกของเรา ควรลงจากรถเพราะอาการเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าคนขับไม่ให้เกียรติต่อผู้โดยสารผู้หญิง และบ่งบอกว่าเขาอาจกำลังคิดอะไรที่ไม่ดีอยู่ แต่หากจำเป็นต้องนั่งต่อควรเอากระเป๋ามาปิดขาหรือเอามากอดอกไว้ ทำท่าทางให้ดูน่าเกรงใจ ที่สำคัญก่อนออกจากบ้านก็ควรจะดูแลตัวเองเบื้องต้นไว้บ้าง เช่น ไม่แต่งตัวโป๊เกินไป หรือมีเสื้อคลุมที่มิดชิดติดตัว

    * ควรสังเกตว่าคนขับขยับมือมาที่ช่องแอร์หรือฉีดสเปรย์ที่ช่องแอร์หรือไม่ ถ้าผิดสังเกต เริ่มรู้สึกมีอาการแปลกๆ เช่น รู้สึกปวดหัว คลื่นไส้จะอาเจียน รู้สึกเหมือนจะเป็นลม ไม่มีเรี่ยวแรง แสดงว่าคุณอาจโดนมอมยา ควรหาที่ปลอดภัยคนเยอะๆ สว่างๆ แล้วลงจากรถ รีบโทรหาญาติหรือเพื่อนทันที หากโชคดีควรหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เยอะๆ หาที่พิงแล้วจะค่อยๆ ดีขึ้น

    * ควรระวังคนขับบางรายที่ใช้วิธีช่วยขนสัมภาระ แล้วพยายามจะแตะเนื้อต้องตัวแบบไม่ตั้งใจ บางคนฉวยโอกาสนี้ป้ายยาสลบใส่โดยที่ผู้โดยสารไม่รู้ตัว

    7. สิ่งที่สำคัญที่สุดเวลานั่งแท็กซี่ คือ

    * อย่าคิดว่า “ คงไม่มีอะไร นั่งหลายครั้งแล้วไม่เห็นมีอะไรเลย” เพราะจะทำให้คุณปิดโอกาสในการระมัดระวังภัยของตัวเอง

    * อย่าเผลอหลับบนรถแท็กซี่เด็ดขาด ไม่ว่าจะเหนื่อย ไม่สบาย หรือเมาแค่ไหนก็ตาม

    8. ถ้าถูกพาไปที่เปลี่ยว อย่าเปิดโอกาสให้คนขับประชิดตัว ควรพยายามชิงหนีออกมาก่อน ถ้าไม่มีอาวุธป้องกันตัวให้เอารถเป็นที่กำบัง หรือ วิ่งรอบรถพร้อมกับ ร้องตะโกนให้คนช่วยเพื่อถ่วงเวลา ถ้านานแล้วยังไม่มีใครมาช่วย ให้ตะโกนดังๆ ว่า " ตำรวจมาแล้ว ตำรวจช่วยด้วย " ให้คนร้ายหันไปมอง แล้ววิ่งสุดชีวิต ถ้าฉวยจังหวะนั้นได้ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าอาจจะวิ่งห่างจากคนร้ายได้ประมาณ 100 เมตร

    9. ถ้าบอกให้จอดแล้วไม่ยอมจอดแต่ยิ่งขับเร็วขึ้น ก่อนอื่นต้องตั้งสติดีๆแล้วเปิดประตูด้านหนึ่ง (ควรเป็นประตูด้านซ้ายของเบาะผู้โดยสาร จำไว้ว่าเราต้องนั่งเบาะข้างหลังคนขับ) ให้สะบัดค้างไว้นอกรถเพื่อสร้างจุดสังเกต มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะมีคนสังเกตเห็นและช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
    [​IMG]
    ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ให้สกัด 7 จุดสำคัญ

    1. บริเวณศีรษะ

    จุดอ่อนสำคัญที่จะหยุดคนร้าย ได้แก่ ดวงตา หู จมูก ขมับ ท้ายทอย ปลายคาง โดยเลือกใช้สิ่งของที่มีลักษณะแหลมๆ แทงไปตรงจุดดังกล่าว หรือฉีดน้ำหอม/น้ำยาดับกลิ่นปากไปที่ตา รับรองคนร้ายไม่รอดแน่

    2. ลูกกระเดือก

    ควานหาของแหลมๆ เช่น กุญแจ แปรงสีฟัน หรือ มาสคาราก็ได้ แทงเข้าไปบริเวณนี้จะมีผลทำให้กระดูกอ่อนของกล่องเสียงโจรแตกจนถึงขั้นพูดไม่ได้ก็มี

    3. ลิ้นปี่

    ตรงกลางบริเวณท้องส่วนบน อาจจะใช้สมุดเล่มหนา แปรงสีฟัน หรือโทรศัพท์มือถือ กระทุ้งไปตรงจุดนี้ให้เต็มแรง คนร้ายจะเกิดอาการจุก ตัวงอและล้มลงได้

    4. เป้ากางเกง

    ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ และง่ายต่อการจู่โจม หากผู้ชายถูกกระแทกบริเวณนี้จะอ่อนแรงลง ยิ่งถ้าแรงมากจะส่งผลให้ลูกอัณฑะแตกถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว

    5. หน้าแข้ง

    วินาทีนี้แล้วคงไม่ต้องนึกเสียดายของกันแล้วละ หยิบของที่แข็งแรงพอจะเหวี่ยงได้เช่น กล้องดิจิตอล ฟาดสุดแรงเข้าที่หน้าแข้งไปเลยเพื่อสร้างความเจ็บปวดและทำให้เสียการทรงตัว เป็นโอกาสให้รีบวิ่งเอาตัวรอง

    6. หลังเท้า

    ถึงตอนนี้รองเท้าส้นสูงที่สาวๆ มักบ่นว่าปวดเมื่อยยามสวมใส่จะกลายเป็นประโยชน์ยามคับขัน เหยียบไปอย่างแรง ย้ำๆๆๆ จะยิ่งดีและถ้ายังมีโอกาสให้ตามด้วยยุทธศาสตร์ข้ออื่นอีกก่อนผละหนี

    7. นิ้วมือ

    อาจจะใช้ที่ดัดขนตาหนีบไปที่นิ้วมืออย่างแรงหรือหักนิ้วไหนก็ได้กลับอีกด้าน วิธีนี้ต่อให้คนร้ายตัวใหญ่แค่ไหน ก็ต้องสยบ



    ข้อมูลและภาพประกอบจาก
    [​IMG]

    ---------------------------

    <!-- google_ad_section_end --><!-- / message --><!-- sig -->
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    เห็นแล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้างครับ



    .
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“หัวบัวหิมะ” ผลไม้นำเข้าจากจีน
    Travel - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>30 มีนาคม 2553 17:55 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> สาวๆที่รักสวยรักงาม อาจจะพอรู้จัก "บัวหิมะ" หรือ "จง หัว ฟู เป่า" ที่เป็นผลิตภัณฑ์ ครีมทำให้ผิวพรรณ นวลเนียน เปล่งปลั่ง สดใส ดูอ่อนกว่าวัย กันอยู่บ้าง

    แต่ตอนนี้ “108เคล็ดกิน” จะพาไปรู้จักกับ “หัวบัวหิมะ” กันบ้าง ซึ่งเป็นพืชคนละชนิดกันแต่ชื่อพ้องตรงกัน ทั้งยังนำเข้าจากจีนเช่นเดียวกัน ซึ่งตอนนี้เริ่มมีการนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ตามแถบชายแดนทางภาคเหนือกันบ้างแล้ว

    หัวบัวหิมะ มีชื่อในภาษาจีนว่า “เสวี่ยเหลียนกว่อ” แปลตามตัวอักษรได้ว่า “ผลของบัวหิมะ” มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Smallanthus sonchifolius หรือในภาษาอังกฤษรู้จักกันในนามของ Yacon จัดเป็นพืชในตระกูล ทานตะวัน ความสูงของต้นประมาณ 2 - 3 เมตร เมื่อโตเต็มที่จะแทงดอกสีเหลืองเล็กๆ ที่จะลงหัวที่มีลักษณะภายนอกคล้ายหัวมันเทศมาก

    หัวบัวหิมะเริ่มปลูกกันมากขึ้นในมณฑลยูอิ๋นหนาน ของประเทศจีน เนื่องจากพบว่ามีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยกรดอะมิโน แร่ธาตุหลักและจุลธาตุอีกหลายชนิด โดยเฉพาะ แคลเซี่ยม แมกนีเซียม เหล็ก สังกะสี และซีลีเนียมที่มีอยู่ในสัดส่วนสูงเป็นพิเศษ

    มีสรรพคุณทางยาสมุนไพร ในการควบคุมปรับปรุงของเหลวในเลือด ลดน้ำตาล ไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือด เป็นการป้องกันและเยียวยาอาการของโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน ช่วยการทำงานของระบบขับถ่ายในกระเพาะลำไส้และทางเดินปัสสาวะได้ดี ช่วยย่อยอาหาร ช่วยระบายท้อง ป้องกันท้องเสีย สารก่อมะเร็งร้าย รสชาติของ เสวี่ยเหลียนกว่อ คล้ายคลึงกับผลสาลี่ ที่มีเปลือกบาง กรอบ รสออกหวาน ฉ่ำน้ำ นิยมกินกันสดๆ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    การเพาะบ่มต้นกล้าแห่งพุทธะที่ดีตั้งแต่ยังเยาว์ เป็นพื้นฐานให้คนรุ่นหลังเหล่านี้เข้าถึงกระแสแห่งธรรมได้อย่างแน่วแน่และมั่นคงสืบต่อไป หากดูแลได้อย่างต่อเนื่อง จนเขาสามารถเดินตามทางนี้ได้เอง พวกเราจะนอนตายตาหลับ

    สำคัญแต่ว่าสังคมอย่าได้ชักพาเขาไปสู่กระแสทางแห่งความทันสมัยกับทุนนิยมมากเกินไปนัก

    ชวนให้หวลคิดถึงวันวาน หากว่าพ่อ-แม่ไม่พาผมไปทำบุญที่วัดทุกๆเช้า ณ วันนี้ อาจไม่ใช่เหมือนที่เป็นอยู่นี้..สาธุ..สาธุ
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เมื่อวานนี้ ผมได้คุยกับพี่เปี๊ยก ผมบอกพี่เปี๊ยกว่า ผมเองยังมีพระบูชา "หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า"อยู่อีก พี่จะอัญเชิญไปถวายที่วัดไหน และกี่องค์ (ในใจผมเองจะให้พี่เปี๊ยก อัญเชิญไป 2 องค์) พี่เปี๊ยกบอกกับผมว่า จะอัญเชิญไป 2 องค์ ไปถวาย 2 วัด ใจตรงกันจริงๆเลย

    ส่วนอีก 3 องค์ ผมจะอัญเชิญให้กับลูกน้องผม เป็นผู้ไปถวายตามวัดต่างๆ

    แต่ผมเองยังมีพระบูชา (รัตนะ) 1 องค์ และพระบูชา "สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี" หน้าตัก 9" อยู่อีก 1 องค์ หากสมาชิกคณะกองทุนหาพระถวายวัด , สมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า หรือ สมาชิกคณะพระวังหน้า ต้องการอัญเชิญพระบูชาทั้งสององค์นี้ ไปถวายตามวัดต่างๆ แทนคณะกองทุนหาพระถวายวัด ผมยินดีนะครับ

    ท่านสมาชิกคณะกองทุนหาพระถวายวัด ,ท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า หรือ สมาชิกคณะพระวังหน้า ที่มีพระวังหน้าอยู่เป็นจำนวนมาก หากต้องการที่จะมอบให้กองทุนหาพระถวายวัด เพื่อที่จะไปถวายพระภิกษุตามวัดต่างๆ และหรือ บรรจุตามพระเจดีย์ต่างๆทั่วประเทศ ให้แจ้งความประสงค์เข้ามาได้

    แต่การที่จะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม พระพุทธกัสสปะ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า , พระธาตุพระอรหันต์ , พระบูชาต่างๆ หรือ พระวังหน้าพิมพ์ต่างๆ ไปถวายตามวัดต่างๆนั้น ต้องใช้หลักการในการพิจารณาเบื้องต้น คือ

    การต้องไปแจ้งความประสงค์กับเจ้าอาวาสวัดนั้นๆก่อน

    ต่อมาก็คือ

    1.ต้องดูว่า วัดที่เราจะไปถวายนั้น ต้องมีที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม พระพุทธกัสสปะ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า , พระธาตุพระอรหันต์ , พระบูชาต่างๆ หรือ พระวังหน้าพิมพ์ต่างๆ ที่เหมาะ ที่สมควร

    2.พระภิกษุหรือวัดที่เราจะไปถวาย พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม พระพุทธกัสสปะ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า , พระธาตุพระอรหันต์ , พระบูชาต่างๆ หรือ พระวังหน้าพิมพ์ต่างๆ ต้องไม่มีการปรามาสโดยเด็ดขาด

    3.ท่านผู้ที่ถวาย จะเป็นตัวแทนของคณะกองทุนหาพระถวายวัด ในการถวาย พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม พระพุทธกัสสปะ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า , พระธาตุพระอรหันต์ , พระบูชาต่างๆ หรือ พระวังหน้าพิมพ์ต่างๆ

    4.ท่านผู้ที่ถวาย ต้องบอกรายละเอียดเบื้องต้นของ พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม พระพุทธกัสสปะ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า , พระธาตุพระอรหันต์ , พระบูชาต่างๆ หรือ พระวังหน้าพิมพ์ต่างๆ ได้

    การถวายพระวังหน้าพิมพ์ต่างๆ จะมีอยู่ 2 กรณีก็คือ

    1.การถวายเพื่อบรรจุตามพระเจดีย์ หรือ ฐานพระพุทธรูป หรืออื่นๆ
    2.การถวายพระภิกษุ เพื่อไว้มอบให้กับผู้ที่ไปทำบุญที่วัดนั้นๆ หรือเป็นการแจกฟรีกับผู้ที่ไปทำบุญที่วัดนั้นๆ การถวายในข้อนี้ ควรมีเอกสาร(พิมพ์รายละเอียดของของพระพิมพ์ที่จะถวายด้วย)

    สิ่งต่างๆที่ผมได้บอกไปนั้น เพื่อป้องกันในการที่เราจะไปสร้างกรรมให้กับพระภิกษุ ที่อยู่ที่วัดนั้นๆ กรรมที่พระภิกษุกระทำ จะมากกว่ากรรมที่บุคคลธรรมดากระทำ มากกว่าเยอะเลย

    โมทนาสาธุครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2010
  19. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
  20. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446

แชร์หน้านี้

Loading...