ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรกับเวปไชต่อไปนี้

www.samyaek.com
ท่านรู้สึกอย่างไร กับการที่พระรับการถวายเงิน?
แล้วท่านคิดอย่างไร กับวัตถุมงคล
การมีศาลเจ้าเป็นส่วนทำให้ศาสนาเสื่อมจริงเหรอ

ในส่วนตัวข้าพเจ้าคิดว่ากำลังใจนั้นสำมะคัญ ข้าพเจ้าแขวนพระไม่ใช่เพราะขลัง หรือมีอิทธิฤทธิ์คุณวิเศษใด ๆ แต่เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ให้รู้ ให้คิดก่อนจะทำอะไร แล้วพวกท่านคิดยังไงกันนโยบายของเวปข้างต้นนี้

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=O7zJ1aT59sA&feature=player_embedded]YouTube - ภาพเหตุการณ์ปลุกเอาพระพุทธเจ้าให้กลับคืน 3 2[/ame]#

ห้ามพระรับเงินเหมือนเช่นเดิม ท่านคิดเห็นอย่างไร

ข้าพเจ้าลองจิตนาการนะ สมมุติว่าข้าพเป็นพระ แล้วต้องเดินทางไปโดยขึ้นรถโดยสาร แล้วคิดว่าคนเก็บตังเขาจะทำบุญโดยการให้พระขึ้นรถฟรีหรือเปล่า หรือจะต้องเดินเท้าเปล่าจากภาคใต้ สู่ภาคเหนือ

 

แนวคิดของเขาถูกทางแล้ว แต่การลงมือทำผิดวิธีไปหน่อย

 

ทุกวันนี้อะไรๆก็ต้องใช้เงิน
ขนาดจะสร้างถาวรวัตถุทางพระพุทธศาสนายังต้องใช้เงิน
การไม่ถวายเงิน มันดูสุดโต่งเกินไป
พิจารณาดูเอาเถิด ว่าควรหรือไม่ควร

 

ไม่สร้างสรรค์
เมื่อมีอคติ ใจก็มุ่งแต่ทำลาย ทำร้ายกัน

 

แรง และกฏระเบียบมากมาย อาจเป็นนิกายใหม่ก็เป็นได้

 

กฏที่เข้มงวด ถ้าไม่มีสิ่งจูงใจ แล้วใครจะเข้าบวช แล้วศรัทธาจะอยู่ที่ใด เมื่อความเชื่อมาคู่กับความศรัทธา และความศรัทธาย่อมนำพาความเชื่อถือ

 

อ่านกระทู้ดีหรือยัง ลองเข้าไปดูเวปที่ขึ้นไว้ให้หรือยัง กรุณาดูให้ดีก่อนจะตอบ

 

ท่านรู้สึกอย่างไร กับการที่พระรับการถวายเงิน?
ไม่ดีครับ
แล้วท่านคิดอย่างไร กับวัตถุมงคล
ดีครับ
การมีศาลเจ้าเป็นส่วนทำให้ศาสนาเสื่อมจริงเหรอ
ไม่จริงครับ
อนุโมทนา สาธุครับ

 

อย่างพระรับเงินรับต่ำแหน่งอะไรแบบนี้ผมไม่เห็นด้วยนะ
เรื่องตำแหน่งก็มีมาตั้งแต่สมัยพุทธองค์แล้ว
ต่ำแหน่งเลิศกว่า ตำแหน่งเอตทัคคะ


การมีศาลเจ้าเป็นส่วนทำให้ศาสนาเสื่อมจริงเหรอ
ศาลเจ้าไม่ได้ทำให้ศาสนาเสื่อม แต่เป็นหูเป็นตา
คอยจดบันทึกบุญบาป รายงานสวรรค์
สวรรค์จะคัดแยกบัญชีบาปส่ง สำนักพยายม

เครื่องรางของขลังหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง
ก็มีดีอยู่ในตัว เอาไว้ป้องกัน เดรฉานชั้นต่ำ

อย่างคนที่คิดว่าเก่งๆ ไม่ต้องใช้เครื่องรางของขลังก็ได้
จิตเรามี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ตายมามากต่อมากแล้ว

คนที่ไม่ประมาท มีเครื่องรางของขลังไว้เป็นเกาะกำบังตัว
จากหนักก็เบาลง ถึงขนาดหลบหลีกก็ได้
ถ้าท่านที่สร้างมีจิตที่ดี จิตเข้มแข็ง

หลวงปู่กวย ท่านจะอธิษฐาน พรของท่าน
ขอให้อย่าอด อย่าอยาก อย่ายาก อย่าจน
อย่าต่ำกว่าคน อย่าจนกว่าเขา

 

น่าจะปรับตัวเข้าตามโลกบ้าง ตามโลกแต่อย่าให้โลกครอบงำเรา น่าจะเพียงพอแล้ว:boo:

 

ไม่ขอแสดงความคิดเห็นนะค่ะ

 

หมวดเครื่องรางของขลัง กระดานวัดสามแยก ในส่วนที่อ้างอิงจากพระไตรปิฎก ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ถ้าผู้นั้นยังพึ่งเวทมนต์ - เครื่องรางของขลัง - หรือพึ่งหรือสรรเสริญรูปเคารพใดๆ อยู่แม้แต่พระพุทธรูปก็ตาม ต้องนำใจของตนออกไปให้พ้นจากสิ่งเหล่านั้น

อ้างอิงจาก
http://www.samyaek.com/

ในความคิดเห็นของข้าพเจ้านะ ก่อนอื่นต้องดูก่อนว่าผู้ใดเป็นผู้ศึกษาในพระไตรปิฎก
ข้าพเจ้าคิดว่า ข้อความอ้างอิงข้างต้น น่าจะเป็นหลังปฏิบัติของพระสงฆ์ เพื่อบรรลุขั้นต่อไป
ฆราวาสอย่างเรา ๆ คงไม่มีบารมีมากพอจะคุ้มกันตนเองจากสิ่งอันอัปมงคล นอกจากพึ่งกำลังใจจากเครื่องราง

 

เจ้าสำนักท่านต้องการสร้างศาสนาให้ถูกต้อง ตรงตาม หลักพระพุทธศาสนา พระวินัย ผมว่าดีน่าสนับสนุน ทั้งนี้ การที่ผู้อื่นปฏิบัติไม่ได้ แล้วต่อต้าน ก็เป็นเพราะท่านยังไม่พร้อม หรือ อวิชาก็ได้ .....เหมือนอย่างท่านโพธิรักษ์ ท่านก็เคยทำมาแล้ว แต่สู้เขาไม่ไหว

เราท่านทั้งหลายอยากเห็นพระอริยะสงฆ์ จะได้ทำบุญ กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ เป็นเนื้อนาบุญอันประเสริฐไม่ใช่หรือครับ น่าสนับสนุนหลักการนี้ คนที่อาศัยผ้าเหลืองหากินจะได้หมดไป ถ้าเราได้ทำบุญอย่างเต็มศรัทธา ใจเราไม่คิดเคลือบแคลงสงสัย ก็เป็นกุศลยิ่งใหญ่ ....

สมัยนี้พอรับซองกฐิน ผ้าป่า ใจมันไม่ค่อยเป็นกุศลเลย คิดเสียดายอยู่เรื่อย เพราะข่าวไม่ค่อยดีมันมีบ่อย ๆ คนไม่กลัวนรก แต่มันต้องทำอยู่แล้ว หากถ้าใจไม่ศรัทธา ........ก็เท่ากับ สูญเปล่า

ผมสนับสนุนวิธีการของท่านครับ.....เป็นสิ่งที่ดี แล้วอย่ายึด ดี จนกระทั่ง ยอมตายเพื่อดี นะครับ...........ดี มันแตกจะขม แล้วกลายเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจไป ปรับกลยุทธ์มาใช้ อย่าดึงดัน ถึงขั้นแตกหัก ถ้าแพ้แล้ว จะไม่มีคนมาสืบทอดเจตนา กลายเป็นคนเลวไปซะอีก...เสียดายครับ.

 

เท่าที่ฟังคำเทศน์ ท่านค่อนข้างมีจิตสัมผัสในโลกทิพย์สูงนะ



ท่านเข้าใจว่าอะไรเป็นแก่นแท้ แต่ทำอย่างไรดีละ เราต้องอยู่ร่วมกับคนทางโลก
บางทีการใช้ยาแรง ใช้ได้กับคนที่มีอินทรีย์พร้อม แต่แม้ว่าเราจะรู้ว่าอะไรถูกหรือผิด
บางครั้ง เรื่องในสังคม เราไม่อาจเปลี่ยนแปลง หรือบอกเขาได้ในทันที จำต้องรอ
โอกาสจังหวะเหมือนกันนะ ถูกต้องจริง แต่ถ้าแรงมากไป แทนที่จะได้ธรรม กลาย
เป็นทะเลาะกันได้น่ะสิ

 

ทำไมพระราชาไม่ใช่กุนซือ ทำไมกุนซือไม่ใช่พระราชา


การเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ต้องใช้คนบางลักษณะ แต่คนบางลักษณะนั้น
อาจต้องพึ่งพากุนซือ กุนซือรู้มาก มีปัญญามาก แต่ในแง่การจัดการนั้น
อาจต้องใช้วิธีของผู้นำ, ผู้ปกครอง ไม่ใช่วิธีแบบกุนซือ

 

ลองดูแง่มุมนี้บ้างไหมคะ?


ถาม : ควรให้เงินทองแก่พระสงฆ์หรือไม่?

ตอบ :




พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า ที่พร้อมจะได้นิพพาน ไม่มีบุญบารมีจะรับเงินทองจ๊ะ แต่พระสงฆ์ที่ไม่ใช่สาวกบริวารของพระพุทธเจ้าองค์นี้นั้น มีบุญเก่ามากเยอะแยะเลย คิดดูสิ พระพุทธเจ้าปกติมีบุญบารมีมาก อายุก็เป็นพันเป็นหมื่นปีกันทั้งนั้น พระที่บวชมาหลังกึ่งพุทธกาลนี้ ก็ไม่ใช่บริวารของพระสมณโคดมพุทธเจ้าแต่เป็นบริวารของพระพุทธเจ้าองค์อื่นที่มีบุญมากกว่าพระโคดมมากนัก ดังนั้น พระโคดมย่อมสอนสาวกของท่านให้สมถะ อย่ารับเงินทอง เพราะท่านทำบุญมาแค่นั้น แต่ถ้าเป็นบริวารของพระศรีอาริยเมตตรัยซึ่งยังไม่ได้นิพพานในสมัยนี้ละก็ รับได้เลยนะ รับแล้วผิดศีล ก็ไปปลงเสียว่าตนนั้นยังไม่ได้นิพพานในศาสนายุคนี้ ไปรอเอานิพพานยุคหน้า เช่น ยุคพระศรีอาร์ฯ เงินทองนั้น รับได้ ทำไมจะไม่ได้ แต่ต้องเข้าใจว่ารับแล้วผิดศีล ไม่ได้นิพพาน ถ้ายอมละนิพพานในยุคนี้ได้ก็เอาสิ แต่อย่าไปหลอกลวงชาวบ้านเขาว่าฉันได้นิพพานแน่ๆ ฉันอรหันต์แน่นอน ทั้งๆ ที่ยังรับเงินทองชาวบ้านอยู่ เพราะคนที่จะได้นิพพานในสมัยพระโคดมนี้ ไม่มีบุญจะรับเงินทองเลย ถ้ารับก็ไม่ได้นิพพาน ถ้าไม่เอานิพพานก็รับได้ ผิดศีลแค่นี้ มันไม่ต้องสึกหรอก ไม่ได้ผิดปาราชิกสี่นี่นา ยังเป็นพระได้โดยปกติ กล่าวอย่างนี้แล้วก็ไปพิจารณาเอาเองว่าควรให้เงินทองแก่พระสงฆ์หรือไม่ มันบอกตายตัวไม่ได้ดอก เพราะพระแต่ละรูปก็ต่างกัน




อนึ่ง พระสงฆ์ที่รู้ตัวว่าตนมีกรรมมาก คือ กรรมชั่วก็มาก รับไปมากแล้ว กรรมดีก็มาก แต่ยังไม่ยอมรับกรรมดีนั้น จะไม่ได้นิพพานเอา เพราะกรรมทุกอย่างไม่ว่าดีหรือชั่ว เราต้องรับ ต้องเสวยให้หมด ไม่สร้างกรรมใหม่แล้วก็จริง แต่ต้องรับวิบากกรรมเก่าให้หมดด้วย จึงจะนิพพานได้ ทั้งกรรมดีและชั่ว ดังนั้น พระสงฆ์บางรูปถ้าจะเอานิพพาน ต้องเสวยบุญให้มาก เช่น สึกไปเป็นพระเจ้าจักรพรรดิก่อนชาติหนึ่ง หมดบุญจากนั้นแล้วจึงนิพพานได้ โดยเฉพาะจิตภาคแบ่งของพระศรีอาริยเมตตรัยนั้น มีบุญมากทุกภาคแบ่ง ถ้าภาคแบ่งไหนต้องการนิพพานในยุคพระโคดมนี้ ให้ไปเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ค้ำพระศาสนา ไม่ต้องทำกิจการ หรือก่อกรรมอะไรทั้งดีและชั่ว โดนเขาขวางหมด ทำไม่ได้เลย แล้วเสพสุข เสวยกรรมอย่างเดียว พอหมดแล้วทั้งส่วนดีและชั่ว นั่นแหละ ถึงจะพร้อมนิพพานได้

link

 

ถ้าการรับเงินทอง ทำให้ไม่ได้นิพพาน


แล้วพระสงฆ์ที่รับเงินทอง ทั้งยังแสดงตนว่าตนอรหันต์ ได้นิพพานแน่นั้น
ท่านจะเข้าข่าย "ปาราชิก" ไหม เพราะข้ออวดอุตริมนุษยธรรมนั่นเอง


พระที่ท่านศรัทธามากๆ เลยยังรับ "ทอง" อยู่ ด้วยเราถูกทำให้เชื่อว่าท่าน
อรหันต์และได้นิพพานแน่นอน อย่างนี้ ท่านก็รับรองธรรมตัวเองด้วยว่าท่าน
ได้อรหันต์ที่ไหน เมื่อไร มีบันทึกมาให้อ่านกันด้วย


จะผิดศีลปาราชิก ข้อ อวดอุตริมนุษยธรรมหรือเปล่าคะ?

 

VS

 

ปรามาสพระรัตนตรัยโทษมันหนักมากนะจ๊ะ คุณๆทั้งหลาย