พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรื่องของล็อกเก็ต

    นำรูปมาให้ชม สำหรับด้านหลังล็อกเก็ต

    ผงคลุกรัก ที่ใช้ทาด้านหลังล็อกเก็ต จะมีผงตามนี้

    1.ผงพระวังหน้า
    2.ผง(พระ)หลวงปู่ทวด
    3.ผงพระฤาษี (ผงชัยวรมัน)
    4.แป้งกระแจะ (ที่นำเข้าพิธีพุทธาภิเษก วันเสาร์ 5 เดือน เมษายน 2550)

    [​IMG]


    องค์ที่อยู่ซ้ายมือ(เวลาที่ท่านมองรูป) จะเป็นองค์ที่พิเศษ จะมีอยู่ทั้งหมด 10 องค์

    องค์ที่อยู่ขวามือ(เวลาที่ท่านมองรูป) จะเป็นองค์ธรรมดา จะมีอยู่ทั้งหมด 46 องค์



    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • lokget.JPG
      lokget.JPG
      ขนาดไฟล์:
      27.4 KB
      เปิดดู:
      4,352
  2. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 30 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 28 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, :::เพชร:::+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    อ่า แล้วตกลงว่า ดีป่าวครับ แรงป่าวครับคุณ:::เพชร:::
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  5. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ปัญหาอ้วนในเด็ก

    Daily News Online > เสาร์สปอร์ต > แรงงาน-สาธารณสุข > ปัญหาอ้วนในเด็ก


    [​IMG]


    ปัญหาโรคอ้วน นับเป็นปัญหาทางสุขภาพที่สำคัญ ซึ่งนับวันดูเหมือนจะทวีความรุนแรงมากขึ้นทั้งในเด็กและในผู้ใหญ่

    ปัจจัยสำคัญส่วนใหญ่ เกิดจากอาหาร การกิน และขาดการออกกำลังกาย มีความเข้าใจผิด ๆ หลายประการเกี่ยวกับโรคอ้วนในเด็ก ซึ่งหลายคนมองว่า เด็กอ้วนไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร ดูน่ารักดี หรือไม่ก็โตขึ้น เด็กจะผอมเอง หรือปล่อยให้อ้วนไปก่อน ค่อยไปลดน้ำหนักอีกทีตอนโต นอกจากนี้ บางคนก็ยังคิดว่าเด็กอ้วนต้องกินมากกว่าเด็กปกติ ทำให้รู้สึกสงสารเด็ก กลัวกินไม่อิ่ม จึงมีการให้ขนมหรืออาหารว่างเสริมจากมื้ออาหารปกติของเด็ก

    การทำอาหารรับประทานเองที่บ้าน ก็ถูกแทนที่ด้วยอาหารจานด่วนที่มักมีไขมันสูง ที่สำคัญคือ ลักษณะการใช้ชีวิตประจำวันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบัน รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ก็มีมากขึ้น การใช้ชีวิตแบบนั่ง ๆ นอน ๆ ไม่ต้องออกกำลังกาย รวมไปถึง การละเล่นของเด็ก ๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เช่น เปลี่ยนจากวิ่งเล่นในสนามเด็กเล่น เป็นการนั่งเล่นคอมพิวเตอร์วันละหลาย ๆ ชั่วโมงแทน

    จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ เหล่านี้ ที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร สำคัญ..ก็กลายเป็นต้นตอสำคัญของปัญหาใหญ่มากมายของการเป็น “โรคอ้วน” และจากจุดเริ่มต้นของการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ การใช้ชีวิตแบบนั่ง ๆ นอน ๆ ก็กลายเป็นนิสัยที่ติดตัวไปจนยากที่จะแก้ไข ทำให้มีผลกระทบมากมายหลายอย่างที่อาจคาดไม่ถึงในเด็กคนหนึ่งที่เป็นโรคอ้วน

    นอกจากรูปร่างภายนอกที่อาจถูกเพื่อน ๆ ล้อเลียน จนบางคนอาจมีความรู้สึกซึมเศร้าและมีผลกระทบทางด้านจิตใจ ผลกระทบต่อสุขภาพจากโรคอ้วนแล้ว ก็มีอีกมากมายนับไม่ถ้วน ทั้งน้ำหนักตัวที่กดลงบนกระดูกและกระดูกอ่อนของเด็ก จะทำให้ข้อที่รับน้ำหนักต่าง ๆ เช่น ข้อเข่ามีการผิดรูปและมีอาการปวดตามมา

    ผู้ที่เป็นโรคอ้วนมักจะมีภาวะไขมันในเลือดสูงด้วย ซึ่งไขมันเหล่านี้จะไปจับตามหลอดเลือดทำให้หลอดเลือดแข็งตัว เกิดเป็นโรคความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันได้ในอนาคต ไขมันที่สะสมตามเนื้อเยื่อรอบ ๆ ทางเดินหายใจ จะทำให้ผู้ป่วยมีภาวะทางเดินหายใจอุดกั้น และอาจแสดงอาการต่าง ๆ เช่น นอนกรน หยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งทำให้สมองได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ มีอาการง่วงซึมในระหว่างวัน ทำให้มีผลกระทบต่อการเรียน หากภาวะนี้ถูกละเลยและไม่ได้รับการแก้ไข จะทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับปอดและหัวใจตามมาด้วย นอกจากนั้น ผู้ป่วยโรคอ้วนอาจมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงหรือเป็นโรคเบาหวานได้ตั้งแต่ยังเด็ก

    ปัจจัยที่สำคัญที่สุดของการรักษาโรคอ้วนคือ ความร่วมมือของผู้ป่วยและ ผู้ปกครอง ที่มีความตั้งใจจะลดน้ำหนักอย่างจริงจังให้กับลูก ซึ่งนอกเหนือจากการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินไป แต่ก็ไม่ ใช่การอดอาหารแล้วการปรับเปลี่ยนลักษณะการใช้ชีวิตประจำวัน และการออกกำลังกาย ก็เป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไปด้วย โรคนี้จึงไม่จำเป็นต้องใช้ยาแพง ๆ หรือใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เพียงแต่ต้องมีความเข้าใจ และตระหนักถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นจากโรคอ้วน

    เท่าที่อ่านมา..เหมือนไม่มีอะไรแปลกใหม่ เพราะทุกคนก็คงพูดเหมือน ๆ กัน แต่ในทางปฏิบัติคงต้องมีวิธีการและเทคนิคต่าง ๆ ที่จะช่วยให้เด็กมีการปรับเปลี่ยนลักษณะนิสัยในการรับประทานอาหารและการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ท้าทายมากทีเดียว การเปลี่ยนแปลงนี้ต้องใช้เวลาและความตั้งใจอย่างมาก รวมไปถึงการให้กำลังใจจากคนรอบข้าง ซึ่งจะทำให้เด็กอ้วนคนหนึ่งกลับมาเป็นเด็กที่มีสุขภาพแข็งแรง สดใสสมวัย และปลอดภัยจากโรคร้ายที่เป็นผลตามมาจากโรคอ้วน

    ด้วยความตระหนักในโรคภัยที่อาจเกิดขึ้นจากปัญหาความอ้วนนี้เอง หน่วยโภชนวิทยา ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล จึงขอเชิญชวนผู้ปกครองที่มีบุตรหลานอายุ 10-18 ปี ที่มีปัญหาน้ำหนักเกิน เข้าร่วมกิจกรรมค่าย “วัยใส ใส่ใจสุขภาพ ครั้งที่ 8” ระหว่างวันที่ 22-26 มีนาคม 2553 เพื่อสร้างเสริมความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคอ้วน การรักษาและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสุขภาพที่ดีผ่านกิจกรรมกลุ่มต่าง ๆ ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2201-1775 หรือ ภายในวันที่ 18 มีนาคม 2553.

    พญ.อรพร ดำรงวงศ์ศิริ
    หน่วยโภชนวิทยา ภาควิชากุมารเวชศาสตร์
    คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>p -“พาย” อัศจรรย์การค้นหาตำแหน่งสุดท้ายร่วม 3,500 ปี
    Science - Manager Online

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>12 มีนาคม 2553 11:49 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>สัญลักษณ์พายในจานวงกลม ล้อมรอบด้วยค่าพาย 3.141592653...</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ขนมพายในงานฉลองวันพายที่มีสัญลักษณ์พายตรงกลาง ล้อมรอบด้วยค่าพาย (Delft University of Technology)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ลาร์รี ชอว์ ผู้ริเริ่มฉลองวันพาย (หมวกแดง)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>p - “พาย” เป็นค่าคงที่สำหรับหาความยาวเส้นรอบวงและพื้นที่วงกลม หรือในทางกลับกันเราหาค่าพายได้ด้วยอัตราส่วนของเส้นรอบวงต่อความยาวเส้นผ่านศูนย์กลาง ซึ่งควรจะได้ผลลัพธ์เป็น “ค่าคงที่” แต่ผ่านไปกว่า 3,500 ปี มนุษยชาติยังไม่อาจจุดสิ้นสุดทศนิยมของค่าพายได้ แม้ปัจจุบันเลขทศนิยมที่หาได้จะไปไกลถึงตำแหน่งที่ 2.7 ล้านล้านแล้วก็ตาม

    พายเป็นค่าคงที่ทางคณิตศาสตร์ที่มีความสำคัญต่องานคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ หลายๆ สูตรในสาขาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมต่างมีค่าพายเข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่ว่าวงกลมจะเล็กหรือใหญ่แต่อัตราส่วนระหว่างเส้นรอบวงต่อเส้นผ่านศูนย์กลางจะได้ค่าคงที่เท่ากันเสมอ ค่าคงที่ดังกล่าวคือค่าพาย

    ทั้งนี้ พายคือจำนวนอตรรกยะ (Irrational number) ซึ่งจำนวนอตรรกยะเป็นจำนวนจริงประเภทหนึ่งที่ไม่สามารถเขียนในรูปของเศษส่วน a/b ได้ เมื่อ a และ b เป็นจำนวนเต็ม โดย b ต้องไม่เป็น 0 และทศนิยมของจำนวนอตรรกยะสามารถเขียนได้ในรูปของทศนิยมไม่รู้จบหรือทศนิยมแบบไม่ซ้ำ และไม่มีการดำเนินการทางพีชคณิตกับตัวเลขจำนวนเต็มใดๆ ที่จะได้ค่าออกมาเท่ากับค่าพายที่แท้จริง

    ล่าตำแหน่งสุดท้ายของพาย
    อาร์คิมิดิส (Archimedes) นักคณิตศาสตร์ชาวกรีกผู้ยิ่งใหญ่ เจ้าของคำอุทาน “ยูเรกา” อันเป็นตำนาน เสียชีวิตขณะพยายามหยุดทหารโรมันที่เข้าโจมตีไม่ให้ทำลายภาพวงกลม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการหาอัตราส่วนที่แท้จริงของวงกลม พร้อมคำพูดสุดท้ายว่า “อย่าทำลายวงกลมของข้า” แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันที่เชื่อถือได้ว่าเขาตะโกนคำดังกล่าวออกมาจริงหรือไม่ หากแต่ผลงานที่แลกด้วยชีวิตนั้นกลับมีทศนิยมเพียงไม่กี่จำนวนที่ถูกต้อง

    แม้แต่นักฟิสิกส์อย่าง เซอร์ไอแซค นิวตัน (Sir Isaac Newton) ผู้มีบทบาทสำคัญต่อวิชาแคลคูลัสยังเป็นบุคคลหนึ่งที่พยายามค้นหาตัวเลขที่ใกล้เคียงกับค่าพาย แต่เขาสามารถหาทศนิยมที่ถูกต้องได้เพียง 15 ตำแหน่งเท่านั้น
    ความพยายามในการหาทศนิยมตัวสุดท้ายของค่าพายสืบทอดสู่นักคณิตศาสตร์รุ่นแล้วรุ่นเล่า ลูดอล์ฟ ฟาน คอลเลน (Ludolph van Ceulen) นักคณิตศาสตร์ชาวเยอรมัน ผู้มีชีวิตอยู่ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ใช้เวลาของชีวิตนานหลายปีทำงานที่บางคนมองว่าน่าเบื่อหน่าย เพื่อหาทศนิยมของค่าพาย และสุดท้ายได้ค่าพายที่ถูกต้องเพียง 35 ตำแหน่งเท่านั้น

    ถึงปี 1706 จอห์น มาชิน (John Machin) นักคณิตศาสตร์อังกฤษสามารถหาตำแหน่งที่ 100 ของค่าพายได้สำเร็จ แต่การหาทศนิยมสุดท้ายของค่าพายยังดำเนินต่อไป โดย วิลเลียม แชงก์ส (William Shanks) นักคณิตศาสตร์สมัครเล่นชาวอังกฤษ ได้หาตำแหน่งทศนิยมที่อ้างว่าหาได้จากการคำนวณด้วยมือถึง 707 ตำแหน่ง แต่เมื่อตรวจสอบพบว่าหลังตำแหน่งที่ 527 เป็นตัวเลขที่ผิดพลาดทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ถือว่าเขาประสบความสำเร็จมากที่สุดในศตวรรษที่ 19

    มาถึงยุคปัจจุบันการคำนวณหาค่าพายมีคอมพิวเตอร์และซูเปอร์คอมพิวเตอร์เป็นผู้ช่วยสำคัญในการหาค่าพาย และนักคอมพิวเตอร์ผู้คิดค้นอัลกอลิทึมในการเขียนโปรแกรมคำนวณหาค่าพาย กลายเป็นผู้มีบทบาทสำคัญต่อการหาตำแหน่งสุดท้ายของค่าคงที่แห่งวงกลมนี้ แม้ว่านักดาราศาสตร์ใช้ทศนิยมของค่าพายไม่เกิน 20 ตำแหน่ง เพื่อใช้ในงานด้านการค้นพบด้านดาราศาสตร์และทำความเข้าใจเอกภพ

    ล่าสุดการค้นหาค่าพายที่สร้างความฮือฮาที่สุดคงหนีไม่พ้นผลงานของ ฟาบรีซ แบลยาร์ (Fabrice Bellard) นักคอมพิวเตอร์ฝรั่งเศสจากสถาบันปารีสเทเลคอมเทค (Paris Telecom Tech) ผู้อาจหาญใช้คอมพิวเตอร์พีซีส่วนตัวเขียนโปรแกรมคำนวณหาค่าพายบนระบบปฏิบัติการลินุกซ์ “เรดแฮทเฟโดรา” (Red Hat Fedora) ซึ่งคำนวณค่าพายออกมาได้ 2.7 ล้านล้านตำแหน่ง เมื่อปลายปี 2009 ที่ผ่านมา ทำลายสถิติการคำนวณหาค่าพาย 2.6 ล้านล้านตำแหน่งที่อาศัยการทำงานของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีคนทำได้ก่อนหน้านั้น

    หากแต่แบลยาร์กลับให้ความสำคัญต่ออัลกอลิทึมที่เขาใช้เขียนโปรแกรมเพื่อหาค่าพาย มากกว่าสนใจตำแหน่งสุดท้ายของมัน โดยเขาใช้เวลาหาค่าพายทั้งสิ้น 131 วัน

    ทั้งนี้ แบลยาร์เป็นที่รู้จักในฐานะนักพัฒนาซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส (Open source) ซึ่งหลังจากสร้างสถิติโลกขึ้นมาใหม่ เขายังไม่มีแผนที่จะหาตำแหน่งทศนิยมของค่าพายเพิ่มในอนาคต แต่ก็เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะทำ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแรงจูงใจและความพร้อมของหน่วยเก็บข้อมูลที่ใหญ่ขึ้นและเร็วขึ้น ตอนนี้เขามีแนวโน้มที่จะเผยแพร่ซอฟต์แวร์ในเวอร์ชันสำหรับระบบลินุกซ์และวินโดวส์ เพื่อเปิดโอกาสให้คนอื่นๆ ที่สนใจสร้างสถิติใหม่แข่งกับเขา

    ท่องๆ ไปให้ถึงทศนิยมสุดท้ายของพาย
    นอกจากการแข่งขันเพื่อหาตำแหน่งทศนิยมที่มากที่สุดของค่าพายแล้ว ยังมีการแข่งขันท่องจำค่าพายซึ่งนักศึกษาปริญญาตรีชาวจีน ลู่ เชา (Lu Chao) ได้สร้างสถิติโลกเมื่อปี 2005 โดยใช้เวลา 1 ปีเพื่อท่องจำทศนิยมค่าพาย 100,000 ตำแหน่ง และสามารถท่องจำได้ 67,890 ตำแหน่ง ก่อนจะเริ่มท่องตำแหน่งที่เหลือผิด ซึ่งการแข่งขันครั้งนั้นใช้เวลาทั้งสิ้น 24 ชั่วโมง แต่หากจะท่องจำทศนิยมค่าพายที่แบลยาร์คำนวณได้เพื่อสร้างสถิติโลก ต้องใช้เวลากว่า 1,284,000 ปีเลยทีเดียว

    ถัดมาในปี 2006 อากิระ ฮารากูจิ (Akira Haraguchi) วิศวกรวัยเกษียณชาวญี่ปุ่นท่องค่าพายได้ถึง 100,000 ตำแหน่ง และมีการบันทึกวิดีโอการทำลายสถิติดังกล่าวไว้ด้วย โดยเขาใช้เวลาในการท่องจำตัวทั้งหมด 16 ชั่วโมง และยังเป็นการท่องที่ทำลายสถิติตัวเองที่เคยทำไว้ได้ 83,431 ตำแหน่ง หากแต่สถิติที่ทำได้นั้นยังไม่ได้รับการบันทึกจากกินเนสส์เวิรลด์เรคอร์ดส (Guinness World Records)

    “พาย” นอกตำราคณิตศาสตร์
    พายปรากฏอยู่ในทุกแห่ง ทางคณิตศาสตร์พายปรากฏตัวในสมการพื้นฐานต่างๆ ที่เกี่ยวกับวงกลม ในทางวิทยาศาสตร์พายคือสิ่งที่แยกไม่ออกจากการคำนวณในทุกสิ่งตั้งแต่คลื่นมหาสมุทรไปจนถึงความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เรายังพบพายในในการวัดมหาพีระมิดกิซา (Giza) อันยิ่งใหญ่ แม้แต่ในพระคัมภีร์ศาสนาคริสต์ยังมีผู้รู้ระบุว่า มีนัยว่าค่าพายเท่ากับ 3 ของการวัดวิหารโซโลมอน

    ในวงการบันเทิงเองยังมีพายเป็นวัตถุดิบสู่การดำเนินเรื่องของนิยายไซไฟ อย่างเรื่อง “คอนแท็กต์” (Contact) ใช้ค่าพายซ่อนสาส์นสำคัญจากผู้สร้างเอกภพ หรือนักเขียนเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมอย่าง วิสลาวา ซิมบอร์สกา (Wislava Szymborska) ได้เขียนบทกวีเกี่ยวกับพาย แม้แต่นักร้องเพลงป็อปอย่าง เคท บุช (Kate Bush) ยังมีเพลงชื่อ "พาย" ที่เธอขับร้องค่าพายถึง 100 ตำแหน่งในอัลบั้ม "แอเรียล" (Aerial)

    14 มี.ค. ฉลอง “วันพาย”
    วันที่ 14 มี.ค.ถือเป็นวันสำคัญสำหรับคนรักคณิตศาสตร์โดยเฉพาะผู้หลงใหลในค่าพาย เพราะวันดังกล่าวถือเป็น “วันพาย” (Pi Day) ทั้งนี้หากนับวันเวลาในรูปแบบ เดือน/วัน/ปี แล้ว จะเขียนตัวเลขแทนวันดังกล่าวได้เป็น 3/14 ซึ่งตรงกับ 3 ตัวแรกของค่าพาย

    ผู้ริเริ่มการฉลองวันพายคนแรกคือ ลาร์รี ชอว์ (Larry Shaw) นักฟิสิกส์จากพิพิธภัณฑ์สำรวจซานฟรานซิสโก (San Francisco Exploratorium) สหรัฐฯ ที่ได้ฉลองวันพายตั้งแต่ปี 1988 และในวันนั้นมีการเดินขบวนภายในพื้นที่วงกลมของพิพิธภัณฑ์ พร้อมทั้งฉลองด้วยการกินขนมพายผลไม้ แม้ทุกวันนี้ชอว์จะเกษียณการทำงานแล้วก็ตาม แต่เขายังคงติดตามการฉลองวันพายอย่างต่อเนื่อง

    เนื่องจากทศนิยม 7 ตำแหน่งแรกของพายคือ 3.1415926... ดังนั้นการฉลองวันพายมักถือฤกษ์เวลา 13:59:26 น. ที่เรียกว่า “วินาทีพาย” (pi second) ซึ่งเขียนในรูป am/pm ได้เป็น 1:59:26 pm หากแต่พิเศษสำหรับปี 2015 ซึ่งในปีนั้นวันพายจะตรงกับ 3/14/15 (ด/ว/ป) และการฉลองจะเริ่มในวินาทีพายที่ตรงกับ 09:26:53 น. เนื่องจากทศนิยมของค่าพาย 9 ตำแหน่งเขียนได้เป็น 3.141592653...

    อย่างไรก็ดี ยังมีอีกหลายวันที่สามารถร่วมฉลองวันพายและวันประมาณค่าพายได้ และสำหรับตัวเลขประมาณค่าพายซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ 22/7 จึงมีวันประมาณค่าพายตรงกับวันที่ 22 ก.ค. ซ่งเหมาะกับประเทศที่มีรูปแบบวันเวลา ว/ด/ป ซึ่งไม่มีวันที่ 31 เม.ย.ให้ฉลองในรูป 31/4 ได้

    สำหรับการฉลองวันพายมีอยู่หลากหลายวิธี แต่ที่นิยมมากคือการฉลองด้วยขนมพายในถาดวงกลม เพื่อเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างค่าพายกับวงกลม บางคำแนะนำเสนอว่าในวันนั้นควรแต่งกายด้วยเครื่องประดับทรงกลมและสวมเสื้อที่มีสัญลักษณ์ของพาย และบางคำแนะนำเสนอให้ท่องค่าพายในวันฉลอง

    วันนี้ทศนิยมของค่าพายวิ่งไปถึงตำแหน่งที่ล้านล้านและยังไม่มีทีท่าว่าตำแหน่งสุดท้ายของค่าพายจะหยุดอยู่ที่ใด หากแต่ระหว่างทางของการค้นหาที่ไม่จบสิ้นเสียทีนี้ได้ก่อเกิดองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่นำไปต่อยอดสู่วงการอื่นๆ ได้

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ย้อนตำนานหาค่าประมาณ “พาย”
    Science - Manager Online

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>12 มีนาคม 2553 11:49 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ภาพอาร์คิมิดิสกำลังครุ่นติดหาค่าพาย (Domenico Fetti)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>การประมาณค่าพาย p มีวิวัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงมานานพอสมควร นักวิชาการบางคนแบ่งช่วงวิวัฒนาการของค่าพายออกเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงที่มีการใช้ค่าพายเพื่อศึกษาเชิงเรขาคณิต ช่วงยุคคลาสสิกที่มีการวิวัฒนาการเรื่องแคลคูลัสในยุโรปราวๆ ศตวรรษที่ 17 และยุคของคอมพิวเตอร์

    หลักฐานยุคแรกๆ ระบุว่า ในการสร้างพีระมิดของอียิปต์โบราณก่อนคริสต์ศักราช ใช้ค่าประมาณของพายเท่ากับ 3+ 1/7 ส่วนมหาพีระมิดในกิซาที่สร้างขึ้นช่วงปี 2550-2500 นั้นใช้อัตราส่วนของความยาว 1,760 คิวบิต (cubit) ซึ่งเป็นหน่วยวัดโบราณมีค่าประมาณ 18-22 นิ้ว ต่อความสูง 280 คิวบิต ซึ่งมีค่าประมาณ 2p

    นักคณิตศาสตร์อียิปต์โบราณ บาบิโลเนียน อินเดียและกรีก ต่างทราบดีว่าอัตราส่วนระหว่างเส้นรอบวงต่อเส้นผ่านศูนย์กลางนั้นเป็นอัตราส่วนคงที่ ไม่ว่าวงกลมจะเล็กหรือใหญ่ และมีค่ามากกว่า 3 เล็กน้อย ทั้งนี้มีหลักฐานการประมาณค่าพายในยุคแรกเริ่ม โดยชาวบาบิโลเนียนประมาณค่าพายเท่ากับ 25/8 ส่วนชาวอียิปต์ประมาณค่าพายไว้ที่ 256/81 ขณะที่ชาวอินเดียประมาณค่าเท่ากับ 339/108 แต่อาร์คิมิดิสได้รับการยอมรับว่าเป็นคนแรกที่ประมาณค่าพายได้ใกล้เคียงความจริงที่สุด โดยอาศัยรูปทรง 96 เหลี่ยมคำนวณหาค่าพายได้ 3.14185

    ผ่านไปกว่าสหัสวรรษหลังคริสตกาลการคำนวณหาทศนิยมของค่าพายยังแม่นยำน้อยกว่า 10 ตำแหน่ง หากแต่หลังจากการค้นพบวิชาแคลคูลัสก็ได้กลายเป็นก้าวกระโดดสำคัญของการประมาณค่าพาย จนถึงต้นศตวรรษที่ 18 จอห์น มาชิน ได้ปักหมุดการประมาณค่าพายด้วยตำแหน่งที่ 100

    สำหรับยุคคอมพิวเตอร์นักคณิตศาสตร์ใช้เครื่อง ENIAC คอมพิวเตอร์รุ่นแรกๆ คำนวณหาค่าพายได้ 2,037 ตำแหน่ง เมื่อปี 1949 และอีก 24 ปีต่อมาจึงมีผู้หาทศนิยมตำแหน่งที่ล้านของค่าพายได้ ตำแหน่งที่พันล้านถูกค้นพบในปี 1989 และล่าสุดคือผลงานของนักคอมพิวเตอร์ฝรั่งเศสที่หาตำแหน่งค่าพายได้ถึง 2.7 ล้านล้านตำแหน่ง และสถิติคงจะถูกทำลายลงตราบเท่าที่ยังมีคนพยายามหาตำแหน่งสุดท้ายของค่าพายกันอยู่

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR vAlign=baseline><TD vAlign=top width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD class=hit align=left height=19>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>พาย” อัศจรรย์การค้นหาตำแหน่งสุดท้ายร่วม 3,500 ปี</TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>นักคอมพิวเตอร์ฝรั่งเศสทำลายสถิติหาค่า p </TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>"พาย" p อัศจรรย์แห่งการค้นหาจตุรัสวงกลมร่วม 3,500 ปี</TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>22 ก.ค.วันประมาณค่าพาย p โอกาสแห่งการเรียนรู้คณิตศาสตร์</TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>พี่ยุ่นทำลายสถิติตัวเอง ท่องค่าพายแสนตัวใน 16 ชม.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>Traffy อาสารายงานจราจร-จุดปิดถนนของผู้ชุมนุม
    Science - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>13 มีนาคม 2553 23:20 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ตัวอย่างการรายงานสภาพจราจรผ่านเว็บไซต์ traffy</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ข้อมูลการจราจรจากป้ายจราจร</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ตัวอย่างสภาพการจราจรจากกล้อง CCTV</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ผู้ใช้ถนนร่วมรายงานสภาพการจราจรได้</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ระหว่างการชุมนุมของคนเสื้อแดงผู้ใช้รถ-ใช้ถนนสามารถตรวจสอบเส้นทางและสภาพการจราจรด้วยTraffy.in.th ผ่านอินเตอร์เน็ตและมือถือตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมข้อมูลป้ายจราจรอัจฉริยะและสดจากกล้อง CCTV 100 จุด ทั่วกรุงเทพฯ และการรายงานผ่าน twitter

    เว็บไซต์ www.traffy.in.th พร้อมรายงานสภาพจราจรแบบ Real-Time ผ่านทางอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือระบบ J2ME, Symbian OS และ Windows Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งการจราจรบนเส้นทางต่างๆ จะรายงานบนแผ่นที่ Google Map

    ทั้งนี้ มีการรายงานสภาพติดขัด 3 ระดับ ได้แก่ ติดขัดมากแทนด้วยเส้นสีส้ม-สีโทนแดง ติดขัดปานกลางแทนด้วยสีน้ำตาล และคล่องตัวแทนด้วยสีเขียว พร้อมข้อมูลสภาพจราจรจากป้ายจราจรอัจฉริยะ 40 ป้ายที่แสดงเส้นทางกว่า 330 เส้นทาง และข้อมูลจากกล้อง CCTV 100 แห่งทั่วกรุงเทพฯ พร้อมทั้งพยากรณ์สภาพการจราจรล่วงหน้า 10 และ 30 นาที และข้อมูลการจราจรอื่นๆ เช่น จุดเกิดอุบัติเหตุ จุดเสี่ยง จุดก่อสร้าง รวมถึงจุดที่มีการชุมนุมและปิดเส้นทาง เป็นต้น

    นอกจากนี้ยังตรวจสภาพการจราจรผ่านการติดตามทวิตเตอร์ของ traffy ได้ที่ http://twitter.com/traffy และผู้ติดตามยังสามารถส่งข้อความสั้นผ่านทวิตเตอร์ด้วยความยาวไม่เกิน 140 อักษร ซึ่งข้อความจะถูกส่งต่อไปยังผู้ติดตามของ traffy อีกทั้งยังสอบถามสภาพการจราจรได้ด้วยการพิมพ์ข้อความ dtraffy + เส้นทางที่ต้องการทราบ

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR vAlign=baseline><TD vAlign=top width=21 height=19></TD><TD class=hit align=left height=19>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>จราจรเมืองกรุงอัมพาต เช็คเส้นทางก่อนที่ traffy.in.th</TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>ก่อนกลับบ้านสงกรานต์นี้ เช็คสภาพจราจรกับ Traffy</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คู่มือติดตาม ป้องกันเด็กหาย


    ˹ѧ��;��������ʴ�͹�Ź� : �ú�ء�� ʴ�ء����ͧ==


    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    คนหายโดยเฉพาะเด็กเล็กเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่เนืองๆ จากสถิติจากศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อการต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา ระบุว่าระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ได้รับแจ้งคนหายทั้งสิ้น 1,631 ราย ติดตามคืนได้ 1,030 ราย

    มีทั้งเด็ก เยาวชน แม้กระทั่งผู้สูงอายุ สาเหตุมีได้หลายกรณี ไม่ว่าจะเป็น การหลอกลวงสนทนาทางโทรศัพท์ ทางอินเตอร์เน็ต ติดเกม การลักพาตัว และกรณีโรคสมองเสื่อม

    ขณะเดียวกัน ครอบครัวของบุคคลสูญหาย ส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าจะเริ่มต้นกระบวนการหาได้อย่างไร และแม้แต่ถึงกระบวนการแจ้งความเสร็จสิ้น ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป

    ส่งผลให้การติดตามเป็นไปด้วยความล่าช้า และหลายครั้งเลยเถิดไปถึงเหตุการณ์อันน่าสลดใจ

    หน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการติดตามคนหาย ทั้งจากศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อการต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา คณะผู้วิจัยจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จึงร่วมกันจัดทำ "คู่มือติดตามและป้องกันเด็กสูญหาย"

    เพื่อจะเป็นแนวทางในการติดตามคนหายในลักษณะต่างๆ ช่วยให้การทำงานของตำรวจสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น และคนที่ตามหาจะกลับมาสู่อ้อมกอดของครอบครัวเร็วตามไปด้วย

    พ.ต.อ.ศรายุทธ พูลธัญญะ รองผบก.กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ กล่าวว่า ปัญหาคนหายไม่ใช่เรื่องใหม่ของสังคมไทย ตำรวจมีแนวทางการปฏิบัติในคดีคนหายอย่างชัดเจน แต่ปัญหาคือเมื่อมีคดีคนหาย การติดตามจะเกิดขึ้นเพียงในช่วงแรกของที่เกิดคดีขึ้นเท่านั้น เมื่อระยะเวลานานไปความสนใจก็จะลดลงเรื่อยๆ
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    เมื่อมีคู่มือเล่มนี้แล้วจะช่วยให้การทำงานของตำรวจรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และมุ่งหวังว่าการทำงานของตำรวจต้องเข้าไปช่วยเหลือเหมือนคนในครอบครัว และคนในสังคมจะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเหลือให้เรื่องนี้เป็นจริง

    ขณะที่ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ประธานมูลนิธิกระจกเงา มองว่า การแก้ปัญหาคนหายที่ดีที่สุด ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรหน่วยงานต่างๆ แต่อยู่ที่ครอบครัวของคนหาย เนื่องจากไม่ว่าตำรวจ หรือหน่วยงานใดตามหา วันหนึ่งก็จะไม่มีแรงจูงใจในการหา และหมดแรงไป

    แต่ครอบครัวนอกจากจะมีแรงจูงใจแล้ว ครอบครัวมีความใกล้ชิดกับคนสูญหาย และมีร่องรอยต่างๆ ที่จะนำไปสู่การพบคนหายได้ คู่มือนี้จึงจะเป็นตัวช่วยให้ครอบครัวสามารถตามหาได้อย่างรวดเร็วที่สุด เนื่องจากจะเป็นตัวเชื่อมโยงตำรวจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และครอบครัวคนหายเข้าด้วยกัน

    ภายในคู่มือติดตามและป้องกันเด็กสูญหาย มีรายละเอียดถึงสาเหตุของการหาย หรือพลัดหลงในหลายกรณี คือ การล่อลวง การพลัดหลง และเกิดจากปัญหาส่วนตัว โดยจะมีวิธีการติดตามหาคนหายจากประเภทต่างๆ อย่างละเอียดว่าต้องทำอย่างไร เช่น การติดตามจากการเล่นแช็ตหาเพื่อนคุยทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นสาเหตุการหายของเด็กวัยรุ่นอันดับต้นๆ
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    โดยคู่มือจะระบุว่า ต้องตรวจสอบข้อมูลพื้นฐานว่า ต้องสอบถามคนในครอบครัวว่าครั้งสุดท้ายที่พบใส่เสื้อผ้า สี รูปแบบ และชนิดใด เพื่อใช้เป็นจุดสังเกต

    รวมถึงหาเบาะแสจากห้องนอนของคนหาย เช่น เสื้อผ้า ทรัพย์สินของมีค่าต่างๆ หากมีการ เตรียมไปด้วย แสดงว่ามีการเตรียมการก่อนออกจากบ้านเป็นอย่างดี และสมุดบันทึก ที่บันทึกเรื่องราวประจำวันของคนหายไว้ หรืออาจจะมีจดหมายที่ทิ้งไว้ให้ครอบครัว โดยทั้งหมดจะเป็นข้อมูลในการตามหา และการสืบหาจากบุคคลแวดล้อม เช่น เพื่อนบ้าน เพื่อนคนหาย หรืออาจารย์ที่โรงเรียน เป็นต้น

    การลักพาตัวก็เป็นสาเหตุสำคัญของคนหาย โดยคู่มือระบุถึงลักษณะของเด็กที่เป็นเป้าหมายของแก๊งลักพาตัวว่า จะเป็นเด็กชายหรือหญิงที่มีผิวพรรณดี ดูมีฐานะ โดยการลักพาตัวจะใช้วิธีอุ้มขึ้นรถตู้ หรือใช้วิธีละมุนละม่อม ด้วยการเข้ามาตีสนิท อ้างว่าผู้ปกครองให้มารับแทน หรืออ้างว่าเป็นตำรวจ และกล่าวหาว่าได้ทำผิด และจะนำตัวไปสอบสวน

    สำหรับวิธีการติดตามคนหายในกรณีลักพาตัว จะต้องตรวจสอบการแต่งกาย และลักษณะโดยทั่วไปก่อนการหายตัวไป เพื่อง่ายต่อการติดตาม และสอบถามบุคคลแวดล้อม เพื่อให้รู้ว่าที่สุดท้ายที่พบเป็นสถานที่ใดเช่นเพื่อนบ้าน ร้านค้า ร้านอาหาร เป็นต้น

    สุดท้ายคือการเข้าแจ้งความตำรวจ จะต้องเตรียมเอกสารและข้อมูลต่างๆ ให้ครบถ้วน เพื่อความสะดวกและง่ายต่อการติดตาม

    นอกจากนี้ ในคู่มือยังมีกรณีการหายตัว และวิธีติดตามในลักษณะอื่น เช่น การหายเนื่องจากพลัดหลง ติดเกม หรือสมองเสื่อม

    รวมถึงมีคำแนะนำก่อนการไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ และข้อมูล หมายเลขโทรศัพท์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวของคนในครอบครัว เช่น โรงพยาบาลที่รักษาบุคคลที่มีความผิดปกติทางประสาท สถานสงเคราะห์ในจังหวัดต่างๆ และสื่อมวลชน เพื่อติดตามหาจะเป็นไปด้วยความรวดเร็ว

    สุดท้ายคือข้อแนะนำในการดูแลลูกหลาน หรือผู้สูงอายุว่าจะต้องทำอย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลเหล่านี้หายไปจากบ้าน ก่อนเกิดเหตุการณ์อันน่าเศร้าใจ

    หากสนใจคู่มือนี้ สามารถติดต่อขอรับได้ฟรีที่ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อการต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา หมายเลขโทรศัพท์ 0-2941-4194 ต่อ 104 หรือ 08-1987-0757

    ˹ѧ
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน

    คอลัมน์ พันธุ์แท้พระเครื่อง

    ˹ѧ��;��������ʴ�͹�Ź� : �ú�ء�� ʴ�ء����ͧ==

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ในบรรดาวัตถุมงคลคณาจารย์แต่โบราณ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน นับเป็นวัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมอย่างสูงเรียกได้ว่าไม่ตกยุค ตกสมัย และตกราคา ในขณะที่ท่านยังคงสภาวะกายอยู่ ได้สร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลไว้ เช่น ตะกรุด (ปัจจุบันหาได้ยาก) รูปเหมือน รูปหล่อโบราณ เนื้อทองเหลือง พระพิมพ์พระเจ้าห้าพระองค์ และพระพิมพ์ต่างๆ ถ้านับอายุการสร้างรุ่นแรกๆ จนถึงปัจจุบันก็น่าจะประ มาณ 100 ปีได้

    โดยเฉพาะรูปหล่อลอยองค์ พิมพ์นิยม-พิมพ์ชายติด พิมพ์ชายห่าง รูปหล่อลอยองค์ พิมพ์ขี้ตา-พิมพ์สามชาย พิมพ์สี่ชาย พิมพ์ห้าชาย เหรียญหล่อพิมพ์จอบเล็ก-พิมพ์แข็งตรง พิมพ์แข็งติด พิมพ์เท้ากระดก และพิมพ์ตาขีด และเหรียญหล่อ พิมพ์จอบใหญ่ (ไข่ปลา) ซึ่งปรากฏความศักดิ์สิทธิ์ในพุทธาคมของวัตถุมงคลอย่างครบครันจนเป็นที่เล่าขาน โดยเฉพาะด้านแคล้วคลาด อยู่ยงคงกระพันชาตรี และมหาอุด

    สำหรับรูปหล่อลอยองค์ รุ่นแรกของท่านนั้น เป็นเนื้อทองเหลือง ลักษณะองค์พระจะขรุขระ ผิวไม่เรียบ หรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า พิมพ์ขี้ตา โดยคณะกรรมการวัด เปิดให้เช่าบูชาองค์ละ 1 บาท เมื่อมีการจัดสร้างรูปหล่อลอยองค์ ในครั้งที่ 2 ได้ให้ช่างแก้ไขพิมพ์ให้มีความสวยงามขึ้น จึงเรียกว่า พิมพ์นิยมหรือพิมพ์เบ้าทุบ

    ต่อมามีการทำเพื่อให้ผู้หญิงและเด็กๆ ไม่ค่อยมีโอกาสได้นำมาบูชาติดตัว ทางคณะกรรมการวัดจึงจัดให้สร้างขึ้นเป็นครั้งที่ 3 เป็นเหรียญหล่อ พิมพ์จอบเล็ก กับเหรียญหล่อ พิมพ์จอบใหญ่ (ไข่ปลา)

    ทั้งหมดใช้กรรมวิธีการหล่อ "แบบโบราณ" โดยขึ้นหุ่นและพอกด้วยแม่พิมพ์ดินขี้วัว เทด้วยโลหะทองเหลืองผสมกับทองคำที่ชาวบ้านมีจิตศรัทธาร่วมกันบริจาคใส่ลงไป

    ดังนั้น ตามผิวพระ นอกจากจะปรากฏธรรมชาติของความเก่าโดยมีความแห้งจัดตามอายุของการสร้างแล้ว ยังมักจะปรากฏคราบขี้เบ้าที่มีสีดำอมน้ำตาลติดแน่นอยู่กับผิวพระหรือคราบของดินเบ้าติดในบางจุดอีกด้วย นับเป็น การพิจารณาพระอีกวิธีหนึ่ง เนื้อพระจะมองเห็นกระแสทองคำเป็นจ้ำๆ อยู่ติดในบางจุดซึ่งปนตามผิวของพระ เนื่องจากทองมีจุดหลอม เหลวแตกต่างไม่เท่ากันกับทองเหลือง เนื้อจึงดูไม่ค่อยเข้ากัน สีเหลืองของทองเหลืองในเนื้อพระส่วนใหญ่จะออกสีเขียวทอง และตามผิวขององค์พระจะมีรอยพรุนของฟองอากาศ และรอยจ้ำคล้ำๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ "ดินขี้วัว" นับเป็นหลักการขั้นพื้นฐานในการดูพระหล่อโบราณของหลวงพ่อเงิน

    ในรูปเหมือน จะมีลักษณะแบบเบ้าประกบ เวลาหลอมเทหยอดในทางก้นฐาน ดังนั้น ตามขอบข้างๆ องค์พระ จะปรากฏรอยตะเข็บที่เกิดจากการนำแม่พิมพ์มาประกบกันทุกองค์

    ให้ดูส่วนประกอบอื่นด้วย เช่น รอยตะไบเก่า ซึ่งจะเป็นรอยจางๆ ไม่มีประกายในร่องตะไบและไร้ทิศทาง ไม่เป็นเส้นขนานไปในทางเดียวกัน และจะปรากฏอยู่ห่างๆ กันไม่อยู่ติดกันเป็นแพ ถ้าติดเป็นแพหรือเป็นร่องลึกมากจนผิดสังเกตไม่ว่าตรงจุดไหนก็ตาม ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นรอยจากเครื่องเจียหรือเป็นรอยแทงจากตะไบใหม่ ซึ่งมักจะปรากฏอยู่ตามขอบหรือใต้ล่างของฐาน หรือด้านข้างขององค์พระ รวมทั้งการสังเกตรอยยุบของผิวเนื้อรอบๆ แกนเดือย ที่มักจะมีการหดตัวเป็นหน้าตังตามอายุของการสร้าง

    นอกจากนี้ ให้ดูกระแสเนื้อของโลหะ แยกให้ได้ว่า แห้งตามธรรมชาติ หรือเป็นโลหะเก่านำมาหลอมใหม่ ถ้าเป็นพระแท้จะมีความนุ่มซึ้งตาโดยแห้งจะไม่ค่อยมีประกายสู้ตาให้เห็น แต่ถ้าเป็นโลหะเก่าที่นำมาหลอมใหม่ จะแห้งแบบกระด้างตาขาดความนุ่มซึ้ง คือจะแห้งเฉพาะที่ผิวเปลือกนอก เนื้อจะย่นแบบผิดธรรมชาติ ถ้าสัมผัสเนื้อจะหยาบคายจนรู้สึกสากติดมือ

    ส่วนคราบขี้เบ้านั้นก็จะเป็นลักษณะใหม่ยังดูสดอยู่ ในบางทีก็อาจจะเห็นผิวแบบกะไหล่ จากโลหะหลอมใหม่ ที่จะลอยขึ้นมาติดตามผิวพระ เพราะว่าเนื้อโลหะเก่ากับใหม่นั้นจะหลอมไม่ค่อยเข้ากัน

    ก็ขอให้รอดปลอดภัยได้พระแท้กันทุกคนทุกท่านแล้วกัน ครับผม
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับชาววังหน้า

    พระพิมพ์หลวงพ่อเงิน ที่หลวงพ่อเงิน วัดบางคลานมีพระเมตตาอธิษฐานจิต และเป็นพระวังหน้า มีอยู่เป็นจำนวนมาก หาได้ง่าย มีมากมายหลายเนื้อเช่นกัน เช่น เนื้อทอง เนื้อเงิน เนื้อทองเหลือง เนื้อผง(ขาว) เนื้อผง(ยาวาสนา) เนื้อผง(ใบลาน) เป็นต้น ครับ


    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พระจุลนาค วัดอนงคาราม กรุงเทพฯ

    คอลัมน์ เดินสายไหว้พระ

    ˹ѧ��;��������ʴ�͹�Ź� : �ú�ء�� ʴ�ء����ͧ==

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>"วัดอนงคาราม" เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่เลขที่ 1455 แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลอง สาน กรุงเทพมหานคร

    วัดอนงคาราม เดิมชื่อ วัดน้อยขำแถม สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยท่านผู้ หญิงน้อยในสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ (ทัต บุนนาค) ซึ่งเรียกว่าสม เด็จพระยาองค์น้อย และวัดนี้สร้างบนที่ดินสวนกาแฟ อันเป็นที่ดินของผู้สร้างเอง

    ครั้นสร้างเสร็จได้ถวายเป็นพระอารามหลวงในรัชกาลที่ 3 ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้พระราชทานนามใหม่ว่า "วัดอนงคาราม"

    "วัดน้อยขำแถม" มาจากคำว่า "น้อย" เป็นนามของท่านผู้หญิงน้อยผู้สร้างวัดนี้ ส่วนคำว่า "ขำแถม" เป็นนามเดิมของท่านเจ้าพระยาทิพากรวงศ์มหาโกษาธิบดี (ขำ บุนนาค) ซึ่งมีส่วนในการสร้างปฏิสังขรณ์วัดนี้ และท่านผู้หญิงน้อยยังมีศักดิ์เป็นอาสะใภ้ของท่านเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ด้วยท่านเป็นบุตรของสมเด็จเจ้าฟ้าพระยาบรมมหาประยุรวงศ์ (สมเด็จเจ้าพระยาองค์ใหญ่)

    วัดแห่งนี้จึงเป็นวัดสายตระกูลบุน นาค 2 สาย คือ สายบุนนาคบ้านบน (สมเด็จเจ้าพระยาองค์ใหญ่) สายสกุลบุนนาคล่าง (สมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อย) และเกี่ยวกับตระกูลโชโตด้วย

    พระอุโบสถที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 เป็นอาคารทรงไทย ก่ออิฐถือปูน หลังคามุงกระเบื้องเคลือบ ช่อฟ้า ใบระกา ลงรักประดับกระจก หน้าบันและซุ้มประตูหน้าต่างก็มีลวดลายลงรักปิดทองสวยงาม และยังมีพระพุทธรูปยืน 2 องค์ คู่กันหล่อด้วยโลหะปิดทองอยู่หน้าบุษบก

    ในพ.ศ.2456 จอมพลสมเด็จพระ บรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ทรงบูรณะบุษบกและสร้างโคมกึ่งไฟฟ้าติดประจำผนังอุโบสถ

    ส่วนหน้าพระวิหารวัดอนงคาราม มีความกว้าง 9.65 เมตร ยาว 17.90 เมตร ลักษณะทรงไทย ก่ออิฐถือปูน หลังคามุงกระเบื้องเคลือบ ช่อฟ้า ใบระกา ประดับกระจก หน้าบันและซุ้มประตูหน้าต่างเป็นลายปูนปั้น บานประตูหน้าต่างสลักลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ลงรักปิดทองประดับกระจก ผนังภายในและฝ้าเพดานทาสีปิดทองร่องชาด

    พระพุทธรูปประธานในพระวิหารวัด อนงคาราม มีพระนามว่า "พระจุลนาค" เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดใหญ่เกือบเต็มพระวิหาร หล่อด้วยโลหะลงรักปิดทองศิลปกรรมสมัยสุโขทัย ขนาดหน้าตักกว้าง 2.95 เมตร สูง 3.4 เมตร

    อัญเชิญมาจากเมืองสุโขทัย เมื่อปี พ.ศ.2492 คุณหญิงสว่าง พลเทพ สร้างฉัตรถวายและยังมีรูปพระสาวกหล่อด้วยโลหะปิดทองยืนอยู่ซ้ายขวา สมเด็จพระพุฒาจารย์ พุทธสรมหาเถระ เจ้าอาวาสวัดอนงคาราม ได้ถวายพระนามว่า "พระจุลนาค"

    นอกจากนี้ ยังมีพระพุทธรูปนั่งหล่อด้วยโลหะขัดเงา หน้าตักกว้าง 1.15 เมตร สูง 1.20 เมตร จำลองมาจากพระประธานวัดนางนอง กรุงเทพฯ โดยคณะศิษยานุ ศิษย์ มีหลวงบริหารหิรัญญราช เป็นหัวหน้า สร้างถวายสมเด็จพระพุฒาจารย์ พุทธสรมหาเถระ เจ้าอาวาสวัดอนงคาราม ครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็นพระโพธิวงศาจารย์

    พ.ศ.2481 ขนานพระนามว่าพุทธมังคโล

    อีกทั้งยังมีพระพุทธรูปปางถวายพระ เนตร หล่อด้วยโลหะขัดเงา สูง 5 ฟุต 10 นิ้ว พระนามว่า "พระจุมภฏพุทธังกูร" หม่อมเจ้าหญิงสมประสงค์ พระชายาในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต มัคนายกของวัดนี้ทรงสร้าง พ.ศ.2466

    กล่าวได้ว่า วัดอนงคารามเป็นสำนักที่เจริญด้วยการศาสนศึกษาด้านพระปริยัติธรรมทั้งนักธรรมและบาลีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 จนถึงปัจจุบัน

    โรงเรียนพระปริยัติธรรมมี 3 แห่ง จำนวนนักเรียนบาลี 148 รูป นักธรรม 87 รูป นอกจากนี้ ยังเป็นสถานที่รวมสอบนักธรรมชั้นตรี โท เอก และเป็นสถานที่รวมสอบบาลีประโยค 1-2 ของสนามหลวงซึ่งได้จัดสอบมาทุกปี

    วัดแห่งนี้ยังเป็นสำนักที่จัดสอนภาษาไทยมาตั้งแต่ พ.ศ.2432 (ร.ศ.108) โดยเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม พุทธสรมหาเถระ) สมัยเมื่อท่านเป็นพระอันดับ เรียกกันว่า พระอาจารย์นวม

    ได้เริ่มสั่งสอนศิษย์ของท่านเป็นส่วนตัว เมื่อพ.ศ.2432 จนเจริญรุ่งเรือง มีผู้เห็นประโยชน์ของการศึกษาได้นำบุตรหลานมาฝากเข้าเรียนมากขึ้นเป็นลำดับ จึงได้จัดตั้งเป็นโรงเรียน

    ในปี พ.ศ.2440 (ร.ศ. 116) กรมศึกษา ธิการ กระทรวงธรรมการ ในสมัยนั้น จึงได้รับโอนเป็นโรงเรียนในสังกัดของกระทรวงธรรมการ และโรงเรียนแห่งนี้เป็นต้นกำเนิดของโรงเรียนศึกษานารี และวิทยาลัยครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ในปัจจุบัน
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ภรรยา"พ.ต.อ.สมเพียร"เผยบ้านไม่เคยมีงานเลี้ยง สงสารเข้าป่ากินแค่ข้าวไข่ต้มปลาเค็มผจญทาก-ขาซีดเหมือนศพ

    Matichon Online: ˹ѧ��;������Ԫ��͹�Ź� : ˹ѧ��;�����س�Ҿ ����ͤس�Ҿ�ͧ������=

    หลังบ้าน"พ.ต.อ.สมเพียร"เปิดใจไม่เคยมีงานวันเกิดหรืองานปีใหม่ หุงข้าวไข่ต้มปลาเค็มให้ก่อนเข้าป่า ออกมาเท้าซีดเหมือนศพ-ขอบเอวมีแต่รอยทาก เผยความฝันสามีอยากเข้าเฝ้า"พระราชินี"สักครั้ง รับเป็นคนขอร้องให้ย้ายพื้นที่เอง พอรู้ผิดหวังน้อยใจกินข้าวไม่ลง

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>ภรรยา"พ.ต.อ.สมเพียร"เผยบ้านไม่เคยมีงานเลี้ยง [/FONT]

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]เมื่อวันที่ 13 มี.ค. นางพิมพ์ชนา ภูวพงษ์พิทักษ์ ภรรยา พ.ต.อ.สมเพียร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร (ผกก.สภ.) บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งถูกคนร้ายลอบกดระเบิดเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 มีนาคม กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าในพิธีบำเพ็ญกุศลศพที่ วัดคลองเปล ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่า ภูมิใจที่ผู้กำกับสมเพียรทำหน้าที่จนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต แต่เสียใจตรงที่ไม่ได้ย้ายไป ถ้าได้ย้ายคงไม่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ รู้สึกผิดหวังกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาก เพราะว่าสามีเป็นคนทำงาน คนแข็งแกร่งไม่เคยขออะไรเลย การเดินทางไปร้องเรียนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการโยกย้ายก็ล้าเต็มที่แล้ว [/FONT]

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]"ดิฉันเป็นคนขอต่อสามีว่าเวลาที่เหลืออีก 1 ปีเศษนั้นขอให้กับครอบครัว เพราะตลอดชีวิตพี่สมเพียร มีแต่งาน ครอบครัวไม่เคยมีงานปีใหม่ งานวันเกิดหรือสังสรรค์ร่วมกันเลย จึงขอให้สมเพียรย้าย แต่กลับไม่ได้รับการพิจารณา พล.ต.อ.อดุลย์ โทรศัพท์มาหาพี่สมเพียร เมื่อทราบว่าไม่ได้ย้ายออกนอกพื้นที่ พี่สมเพียรน้อยใจถึงกับกินอาหารไม่ลง" นางพิมพ์ชนากล่าว[/FONT]

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]นางพิมพ์ชนากล่าวว่า อยากจะขอให้การเสียชีวิตของ พ.ต.ท.สมเพียร เป็นสิ่งสะท้อนให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดูแลกำลังพลในจังหวัดชายแดนภาคใต้ดีกว่านี้ เพราะเคยไปดูการทำงานของตำรวจท้องที่อื่นๆ ความเป็นอยู่แตกต่างกันมาก [/FONT]

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]"ดิฉันเป็นแม่บ้านหน้าที่หลักเมื่อสามีเข้าป่า ต้องทำอาหาร หุงข้าวเหนียว หุงข้าว ต้มไข่ พริกกับเกลือ ปลาเค็ม เป็นอาหารที่ดีแล้ว เมื่อกลับจากป่าสิ่งที่พบคือเท้าซีดจนเหมือนซากศพ ตามศีรษะเอวขอบกางเกงในเต็มไปด้วยทากดูดเลือด เห็นชีวิต สามีแล้วรู้สึกสงสารอย่างมาก" นางพิมพ์ชนากล่าว และว่า สิ่งหนึ่งที่ พ.ต.อ.สมเพียรพูดมาตลอดคือหากมีโอกาสจะขอเข้าเฝ้าฯสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีสักครั้ง ในวันนี้ พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อัญเชิญพระราชเสาวนีย์ที่ทรงห่วงใยต่อครอบครัว ยังความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น[/FONT]

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]แห่โพสต์เว็บบอร์ด"ศชต."ร่วมอาลัย[/FONT]

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]ในเว็บบอร์ดของศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) มีประชาชนเข้าไปโพสต์ข้อความไว้อาลัย พ.ต.อ.สมเพียรจำนวนมาก อาทิ ผู้ใช้ชื่อ IISJ ตั้งกระทู้เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ว่า "เสียใจอย่างมาก" โดยโพสต์ข้อความว่า "เสียใจมากถึงมากที่สุดที่วันนี้ต้องสูญเสียผู้กำกับไป คำว่าวีรบุรุษ นักรบ ผู้กล้า คงเป็นคำที่ใช้ให้กับผู้ที่ได้จากไปแล้วหลายๆ ท่าน แต่สำหรับผู้กำกับสมเพียร แค่นี้คงไม่ได้เสี้ยวชีวิตของผู้กำกับที่ได้ทำมาเพื่อชาติ เพื่อ จ.ยะลานี้ คำทุกคำไม่อาจยกขึ้นมาเปรียบได้กับความดี ความกล้า ความเสียสละที่ได้ทำไป ฝนตกลงมาปรอยๆ เหนือฟ้ายะลา เหมือนสวรรค์เบื้องบนรับรู้การจากไปของนักรบผู้กล้าแห่งชายแดนใต้ ขอดวงวิญญาณท่านผู้กำกับสมเพียร จงสงบอยู่สรวงสวรรค์ ปิดตำนาน จ่าเพียรกระดูกเหล็ก...ไปชั่วนิจนิรันดร์"[/FONT]

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]ผู้ใช้ชื่อโกเอ๊าะ ตั้งกระทู้ "ขอไว้อาลัยแด่วีรบุรุษแห่งเทือกเขาบูโด" โดยโพสต์ข้อความว่า "ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียสละที่ยิ่งใหญ่ ผู้เป็นตำนานแห่งเทือกเขาบูโด พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา"[/FONT]

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]ขณะที่ในเว็บไซต์เฟซบุ๊คของกองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โพสต์ข้อความว่า "ขอไว้อาลัยให้กับ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา ยอดผู้กำกับฉายา "จ่าเพียรขาเหล็ก" กับ 20 ปีภารกิจดับไฟใต้ ตำนานแห่งความเสียสละ"[/FONT]

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]ผู้ใช้ชื่อ Macsaha โพสต์ว่า "ท่านจะไม่ได้ตายเปล่าแน่นอน ชื่อของท่านจะอยู่เพื่อเป็นแบบอย่างแก่เหล่าข้าราชการตำรวจสืบไป หลับให้สบายนะครับ ท่านเหนื่อยมามากแล้ว...ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ประชาชนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ขอบคุณจากใจ..." [/FONT]

    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width="95%" align=center bgColor=#ededed border=0 valign="top"><TBODY><TR><TD class=size13 vAlign=top align=left>อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=1 width="100%" align=center bgColor=#ffffff border=0 valign="top"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>[​IMG] นายกฯเป็นประธานสวดพระอภิธรรมศพ"พ.ต.อ.สมเพียร" </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=1 width="100%" align=center bgColor=#ffffff border=0 valign="top"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>[​IMG] พล.ต.อ.อดุลย์ เป็นประธานในพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พ.ต.อ.สมเพียร </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=1 width="100%" align=center bgColor=#ffffff border=0 valign="top"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>[​IMG] พท.โทษนักการเมืองใหญ่"ส.-ศ."จุ้นโผตร. ทำ"พ.ต.อ.สมเพียร"ตาย </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=1 width="100%" align=center bgColor=#ffffff border=0 valign="top"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>[​IMG] "มาร์ค"ส่ง"พงศพัศ"ปลอบใจครอบครัว"ผกก.บันนังสตา" "อดุลย์" ยกย่อง"ตายสมศักดิ์ศรี "ปทีป"เงียบ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=1 width="100%" align=center bgColor=#ffffff border=0 valign="top"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>[​IMG] "อดุลย์"ยกย่อง"สมเพียร"ตายสมศักดิ์ศรี ขอตร.ใต้เอาอย่าง-อย่าท้อ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=1 width="100%" align=center bgColor=#ffffff border=0 valign="top"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>[​IMG] "ปทีป"ปิดปากงดสัมภาษณ์ข่าว"พ.ต.อ.สมเพียร"อ้างไม่สะดวก </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=1 width="100%" align=center bgColor=#ffffff border=0 valign="top"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>[​IMG] ไว้อาลัย"พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา" ด้วยเพลง"บันนังสตา" ของลูกชายผู้มีนามว่า "ชุมพล เอกสมญา" </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ลูกจ้างชั่วคราว

    Daily News Online > หน้าบทความ > กฎหมายข้างตัว > ลูกจ้างชั่วคราว

    ท่านที่เป็นข้าราชการคงทราบดีว่า สมัยนี้รัฐปรับโครงสร้างอัตราตำแหน่งงานราชการให้เล็กลง

    เพื่อลดงบประมาณรายจ่ายบุคลากรที่เติบโตจนเหลืองบพัฒนาน้อยลงจนไม่ได้สัดส่วน

    งานยังมากเหมือนเดิม ตำแหน่งข้าราชการน้อยลง ส่วนราชการต้องใช้วิธีการจ้างลูกจ้างชั่วคราวเพิ่มมากขึ้น

    จึงมีปัญหามาจากลูกจ้างชั่วคราวท่านหนึ่งซึ่งเป็นแฟนประจำถามมาทางอีเมล

    ตอบช้าหน่อยด้วยความงุ่มง่ามของวัยรุ่นเมื่อสี่สิบกว่าปีมาแล้วอันควรเลี้ยงหลานในตอนนี้แต่ไม่เจียมตัวสะเออะมาใช้เน็ตกับเขาด้วย

    หวังว่าปัญหาของท่านคงแก้ไขได้ทันเวลา และขออนุญาตตอบทางกฎหมายข้างตัวเพราะกรณีน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับลูกจ้างชั่วคราวท่านอื่น

    ท่านผู้ถามแจ้งว่าเป็นลูกจ้างชั่วคราวอยู่ในหน่วยงานแห่งหนึ่ง มีหน้าที่ที่ท่านใช้คำว่า บริการประชาชน ซึ่งความไม่แจ้งว่าบริการอย่างไร

    ประชาชนก็ประชาชน เขาอ้างกันอย่างนี้ทั้งนั้น ขนาดท่านข้าราช การใหญ่ ๆ จะปรับปรุงห้องทำงานพร้อมเครื่องอัฐบริขารทั้งหลาย อาทิ แอร์คอนดิชั่น ทีวี ตู้เย็น เครื่องเล่นซีดี คอมพิวเตอร์ สารพัดเครื่องบำเรอความสุขท่าน

    ท่านก็ต้องยกการบริการประชาชนขึ้นมาอ้างของบประมาณหน้าตาเฉย

    แบบว่าอยู่ห้องร้อน ๆ โล่ง ๆ มันคิดงานเพื่อประชาชนไม่ออกน่ะ

    คนถามไปบริการประชาชนมาอีท่าไหนไม่ทราบ ได้รับคำสั่งเลิกจ้างซะงั้น

    ตรองดูแล้วการเลิกจ้างครั้งนี้น่าจะไม่ชอบด้วยระเบียบการจ้างของหน่วยงาน หรือหัวหน้างานมีอคติเป็นการส่วนตัว

    เนื่องจากต้องเสียเงินประกันสังคม จึงได้รับคำแนะนำจากท่าน ผู้รู้ว่าเป็นข้อพิพาทเรื่องพิพาทเกี่ยวกับแรงงานต้องฟ้องร้องเป็นคดีต่อศาลแรงงาน

    นี่แหละที่เป็นห่วงท่าน ถ้าตอบช้าไปหน่อยอาจจะเสียการได้ เพราะประเด็นน่าสนใจในเรื่องนี้เป็นกรณีที่อาจเป็นคดีปกครองมีผลต่อกำหนดระยะเวลาการฟ้องคดีได้

    ดังแนวคำวินิจฉัยตามคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดที่ ๒๗๔/ ๒๕๔๘ ที่ขอนำมากราบเรียนท่านผู้อ่านเป็นแนวทางต่อไป

    คดีนี้ ผู้ฟ้องคดีเป็นลูกจ้างชั่วคราวรายปีด้วยเงินประกันสังคมตำแหน่งเจ้าหน้าที่กู้ชีพในสังกัดโรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่ง

    วันดีคืนดีโรงพยาบาลมีคำสั่งเลิกจ้างผู้ฟ้องคดี

    ผู้ฟ้องคดีทำหนังสือขอความเป็นธรรมไปยังท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาลโต้แย้งว่าคำสั่งเลิกจ้างไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่ถูกต้องตามระเบียบกรมการแพทย์ว่าด้วยการจ้างลูกจ้างชั่วคราวด้วยเงินบำรุง พ.ศ. ๒๕๒๗

    ท่านผู้อำนวยการแจ้งผลการร้องเรียนกลับมาว่า กรมการแพทย์มีคำสั่งให้โรงพยาบาลต้นสังกัดจ่ายเงินค่าชดเชยค่าจ้างรวมสามเดือนพร้อมทั้งคืนของใช้ส่วนตัวให้ผู้ฟ้องคดี

    แปลว่าไม่จ้างต่อเหมือนเดิม

    ลูกจ้างชั่วคราวรายนี้จึงเป็นผู้ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง และแบบนี้ต้องเหมาเข่งทั้งโรงพยาบาล กรมการแพทย์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาล

    ขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งเลิกจ้าง และให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามร่วมกันรับผิดและชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ฟ้องคดี

    คดีนี้มีประเด็นถึงเรื่องสัญญาทางปกครองอย่างน่าสนใจ

    ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น สั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา

    เนื่องจากเป็นการฟ้องคดีพ้นกำหนดระยะเวลา หนึ่งปี นับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดี ตามมาตรา ๕๑ แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒

    เหตุใดจึงมีกำหนดระยะเวลาฟ้องคดีหนึ่งปีตามมาตรา ๕๑ แห่ง พ.ร.บ.ดังกล่าวเล่า

    ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยยืนตามศาลปกครองชั้นต้นว่า ข้อพิพาทในเรื่องนี้เป็นสัญญาทางปกครอง ตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๔) แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ จึงมีกำหนดระยะเวลาฟ้องคดีหนึ่งปีตามมาตรา ๕๑ ดังกล่าว

    สัญญาจ้างลูกจ้างชั่วคราวนี่น่ะเป็นสัญญาทางปกครอง ทุกทีเห็นมีแต่สัญญาจัดซื้อ จัดจ้าง

    ขอรับครับผม ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า ข้อพิพาทแห่งคดีนี้เป็นเรื่องการโต้แย้งเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการในตำแหน่งเจ้าหน้าที่กู้ชีพ

    ซึ่งเกี่ยวข้องกับ ภารกิจให้บริการด้านการรักษาพยาบาลของผู้ถูกฟ้องคดี ถือว่าเป็นสัญญาที่ให้เอกชนเข้าดำเนินงานหรือเข้าร่วมดำเนิน งานบริการสาธารณะอันเป็นสัญญาทางปกครอง

    อันเป็นข้อพิพาทตามสัญญาทางปกครอง ซึ่งไม่ต้องอุทธรณ์ตามขั้นตอนของมาตรา ๔๒ วรรคสอง จึงไม่ถือว่า วันได้รับหนังสือชี้แจงผู้อำนวยการโรงพยาบาลซึ่งยังไม่พ้นกำหนดหนึ่งปีนั้นเป็นวันที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดี

    เมื่อ วันที่ผู้ฟ้องคดีได้รับคำสั่งเลิกจ้างจนถึงวันฟ้องคดีนี้ต่อศาลปกครองพ้นกำหนดหนึ่งปี ดังกล่าว จึงมีคำสั่งไม่รับฟ้องยืนตามศาลปกครองชั้นต้น

    ปัจจุบันนี้ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๕๑ ตามมาตรา ๔ ขยายกำหนดระยะเวลาฟ้องคดีตามสัญญาทางปกครองออกไปเป็นห้าปีนับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดี

    ท่านผู้ถามคงใช้แนวคำวินิจฉัยคดีนี้ไปปรับใช้ตามข้อเท็จจริงของท่านต่อไปนะครับ.

    พิสิษฐ์ พลรักษ์เขตต์
    praepim@yahoo.com
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ใช้บังคับเฉพาะชาวบ้าน

    Daily News Online > หน้าบทความ > กฎหมายข้างตัว > ใช้บังคับเฉพาะชาวบ้าน

    มีท่านผู้อ่านเปิดดูมาตรา ๕๕ แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองซึ่งบัญญัติความว่า การบังคับทางปกครองไม่ใช้กับเจ้าหน้าที่ด้วยกัน เว้นแต่จะมีกฎหมายกำหนดเป็นอย่างอื่น

    เอ๊ะ สองมาตรฐานนี่หว่า

    ทีชาวบ้านละก็บังคับได้ บังคับดี ทีเจ้าหน้าที่กันเองทำเฉย ท่านจึงสั่งให้กฎหมายข้างตัวชี้แจงด่วน

    การบังคับทางปกครอง ครูบาอาจารย์ท่านสอนว่า หมายถึงการดำเนินการของเจ้าหน้าที่โดยใช้มาตรการบังคับทางปกครองกับประชาชนที่มีภาระผูกพันต้องปฏิบัติการตามหน้าที่เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งทางปกครอง ตามมาตรา ๕๖ วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติฉบับนี้

    แล้วด้วยเหตุใดจึงใช้บังคับเฉพาะชาวบ้านเล่า

    อย่าเพิ่งมีน้ำโห โปรดพิจารณาความเห็นตามบันทึกคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง เรื่อง แนวทางปฏิบัติในการใช้มาตรการบังคับทางปกครอง : กรณีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    ท่านว่า เจ้าหน้าที่มีความสัมพันธ์กับรัฐ สองสถานะ สถานะหนึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจหน้าที่ปฏิบัติงานให้กับรัฐกับอีกสถานะหนึ่งเป็นเอกชนคนหนึ่ง ดังนั้น คำว่า “เจ้าหน้าที่” ในมาตรา ๕๕ ที่การบังคับทางปกครองไม่ใช้บังคับหมายถึง เจ้าหน้าที่ในสถานะที่หนึ่ง ส่วนการรับผิดในการทำละเมิดในการปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่ต้องรับผิดเป็น การส่วนตัวจึงอยู่ในสถานะเอกชน คนหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นจึงสามารถ ใช้มาตรการบังคับทางปกครองกับเจ้าหน้าที่ ในกรณีนี้ได้ (เรื่องเสร็จที่ ๗๑๙/๒๕๔๖)

    เจ้าหน้าที่ก็ต้องรับผิดเหมือนกัน แต่ในฐานะราษฎรเต็มขั้นครับผม

    จึงมีคดีปกครองที่น่าสนใจในประเด็นนี้มาฝากตามธรรมเนียม โดยเฉพาะท่านที่เป็นข้าราชการแล้วเป็นกรรมการตรวจรับการจัดซื้อ จัดจ้างทั้งหลาย

    เห็นหลายท่านอยากเป็นกัน เขาว่าผู้รับเหมาเกรงอกเกรงใจ แต่เป็นแล้วสมัยนี้ต้องรอบคอบศึกษาทางหนีทีไล่ให้ดีจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องวินัย เรื่องคุกกันทีหลัง

    ป.ป.ช.สมัยนี้ของเขาแรงนะตัวเอง

    คณะกรรมการตรวจการจ้างคณะหนึ่งได้รับหนังสือจากมหาวิทยาลัยต้นสังกัดให้ชดใช้เงินแก่ทางราชการ ทั้งคณะแปดคนรับผิดคนละสองแสนกว่า

    ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ฐานกระทำละเมิดทำให้ทางราชการเสียหาย

    เนื่องจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตั้งข้อสงสัยว่างานยังไม่แล้วเสร็จแต่ตรวจรับงานงวดสุดท้ายไปเรียบร้อย

    คณะกรรมการผู้ถูกหวยชี้แจงว่างานก่อสร้างได้แล้วเสร็จมีครุภัณฑ์ครบถ้วนถูกต้องตามสัญญาแล้ว แต่เพื่อประโยชน์ของมหาวิทยาลัย จึงได้ขอให้ผู้รับจ้างปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงเพื่อความสวยงาม ความมั่นคง และประสิทธิภาพของการใช้งานในอนาคต โดยให้ผู้รับจ้างทำบันทึกข้อตกลงไว้ด้วยในวันตรวจรับงานงวดสุดท้าย

    ผลการสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการความรับผิดทางละเมิดก็สรุปผลคณะกรรมการชุดนี้ไม่ได้ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง

    บอกอย่างไรก็ไม่ฟังจะเอาตังค์ท่าเดียว จึงฟ้องมหาวิทยาลัยต่อศาลปกครองขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ชำระเงินและระหว่างการพิจารณามหาวิทยาลัยผู้ถูกฟ้องคดีเร่งรัดให้ชำระเงินภายในสิบห้าวัน

    หาไม่จะใช้ มาตรการบังคับทางปกครองยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้ฟ้องคดีทั้งแปดออกขายทอดตลาดเอามาชำระหนี้

    ทั้งบ้านทั้งรถยังผ่อนไม่หมดนะเฟ้ย ยึดไปยุ่งทั้งเอ็งทั้งข้า อย่ากระนั้นเลยมีคำขอให้ศาลกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาโดยระงับการดำเนินการใช้มาตรการบังคับทางปกครองนั้นไว้

    ศาลปกครองชั้นต้นมี คำสั่งอนุญาต ตามคำขอของผู้ฟ้องคดีให้ระงับการใช้มาตรการบังคับทางปกครองของผู้ถูกฟ้องคดีไว้ก่อน

    ผู้ถูกฟ้องคดีอุทธรณ์คำสั่ง

    ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า คำขอของผู้ฟ้องคดีระงับการใช้มาตรการบังคับทางปกครองโดยการยึดอายัดทรัพย์สินออกขายทอดตลาด เป็นคำ ขอให้ศาลมีคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษา ตามมาตรา ๖๖ แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ ประกอบข้อ ๗๕ และข้อ ๗๗ แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ฯ ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๓ และมาตรา ๒๕๔ และมาตรา ๒๕๕ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

    เมื่อพิจารณาคำขอของผู้ฟ้องคดี ประกอบข้อเท็จจริงจากคำฟ้อง พยานบุคคล และพยานเอกสารในสำนวนคดีแล้วเห็นว่า เหตุแห่งการฟ้องคดีนี้มีมูลที่ศาลจะรับไว้พิจารณา ได้

    เนื่องจากผู้ฟ้องคดีทั้งแปดเห็นว่าในการปฏิบัติหน้าที่ทั้งคณะกรรมการตรวจการจ้างและการเป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้างได้ตรวจรับงานไว้ถูกต้องตามสัญญาแล้ว

    เหตุที่ สตง. ตั้งข้อสังเกตว่างานยังไม่แล้วเสร็จนั้น เป็นรายการที่ตรวจรับไว้ถูกต้องแล้ว แต่เพื่อประโยชน์ของมหาวิทยาลัยจึงขอให้ผู้รับจ้างปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงเพื่อความสวยงามและประสิทธิภาพของการใช้งานในอนาคต

    โดยผู้รับจ้างได้ทำบันทึกไว้ด้วยในวันตรวจรับงานงวดสุดท้าย ผลการสอบของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดก็สรุปผลว่าไม่ต้องรับผิด

    หากให้ผู้ถูกฟ้องคดีใช้มาตรการบังคับทางปกครองจะทำให้ เกิดความเสียหายต่อผู้ฟ้องคดีอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลัง อีกทั้ง ไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐ หรือแก่บริการสาธารณะแต่ประการใด

    มีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น (คำสั่งที่ ๒๓๗/๒๕๔๘)

    เรื่องนี้ทางราชการยึดเอง ต้องขอให้ศาลช่วยด่วน.

    พิสิษฐ์ พลรักษ์เขตต์
    praepim@yahoo.com
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ย่นอายุความให้สั้นลง

    Daily News Online > หน้าบทความ > กฎหมายข้างตัว > ย่นอายุความให้สั้นลง

    เจ้าของทรัพย์ย่อมมีสิทธิเอาทรัพย์ของตนคืนได้เสมอ ไม่มีกำหนดเวลาจนกว่าจะได้ทรัพย์นั้นคืน

    ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๓๖

    เสาร์ที่แล้วได้กราบเรียนถึงคดีปกครองที่ชาวบ้านถูกทางราชการยึดรถยนต์ในคดียาเสพติด

    ฟ้องเรียกคืนได้แม้ล่วงเลยกำหนดระยะเวลาการฟ้องคดีปกครองตามกฎหมายดังกล่าว

    เอ๊ะ แบบนี้ประเดี๋ยวแฟน ๆ ที่เคารพเอาไปปักหลักสู้คดีปกครองในศาล จะเสียหายได้เพราะมันแล้วแต่เรื่องแล้วแต่ข้อเท็จจริง

    ต้องมาดูกันอีกคดีขอรับ

    บริษัทเอกชนผู้มีสัญญากับองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) รับจ้างตรวจสอบคุณภาพข้าวสารให้เป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงพาณิชย์ที่ฝากเก็บในคลังสินค้าภายในหกเดือน

    ตกลงรับทรัพย์เป็นค่าจ้างเกือบหกสิบล้านบาท แต่ถึงเวลาจ่าย อตก.ท่านจ่ายแค่หกล้านเศษ ที่เหลืออ้างว่าบริษัทตรวจไม่ได้มาตรฐาน แถมทำให้เกิดไฟไหม้อีก ไม่จ่ายซะงั้น

    บริษัทจึงฟ้อง อตก.เรียกร้องค่าจ้างที่เหลืออีกห้าสิบล้านเศษต่อศาลแพ่ง ระหว่างพิจารณาคดี อตก.โต้แย้งว่าเป็นคดีอยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลปกครอง

    ซึ่งต่อมา ศาลแพ่งได้สั่งจำหน่ายคดี หลังจากที่ศาลแพ่งและศาลปกครองพิจารณาแล้วเห็นพ้องกันว่า เป็นคดีอยู่ในเขตอำนาจศาลปกครอง

    จึงมายื่นฟ้องต่อศาลปกครอง แต่คดีนี้ในระหว่างพิจารณาคดีในศาลแพ่ง กำหนดเวลาการฟ้อง คดีปกครองครบกำหนดแล้ว ตามมาตรา ๑๓ วรรคสองแห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล พ.ศ. ๒๕๔๒ ที่ ต้องฟ้องภายในหกสิบวัน นับแต่วันที่ศาลแพ่งจำหน่ายคดี

    ศาลปกครองชั้นต้นสั่งไม่รับฟ้องเนื่องจากเป็นการฟ้องเมื่อพ้นกำหนดหกสิบวันดังกล่าว

    คดีจึงมีประเด็นอุทธรณ์ที่ยกให้ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า หนึ่ง การฟ้องคดีตามสัญญาจ้างดังกล่าว ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๙๓/๓๔ กำหนดอายุความสองปี คดีจึงยังไม่ขาดอายุความ การนำอายุความดังกล่าวมาปรับใช้เท่ากับเป็นการย่นระยะเวลาหรืออายุความให้สั้นลง ซึ่งไม่อาจทำได้ตามมาตรา ๑๙๓/๑๑ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ สอง การที่ศาลแพ่งสั่งจำหน่ายคดีโดยไม่ระบุในคำสั่งให้นำคดีมาฟ้องภายในหกสิบวัน ทำให้กำหนดระยะเวลาหกสิบวันยังไม่เริ่มนับ

    ประการสุดท้าย การที่ศาลแพ่งเลือกที่จะจำหน่ายคดีทั้งที่มีอำนาจในการโอนคดีไปยังศาลปกครองโดยไม่แจ้งให้ทราบถึงขั้นตอนและวิธีการฟ้องคดี จึงเป็นกรณีที่มีเหตุจำเป็นอันมิอาจก้าวล่วงได้

    ศาลปกครองจึงควรรับคดีนี้ไว้พิจารณาต่อไป

    ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า ศาลแพ่งจำหน่ายคดีภายหลังที่ระยะเวลาการฟ้องคดีตามสัญญาทางปกครอง ตามมาตรา ๕๑ แห่ง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลปกครองฯ ครบกำหนดแล้ว

    ผู้ฟ้องคดีจึงต้องฟ้องคดีต่อศาลปกครองภายในกำหนดหกสิบวันนับแต่วันที่ศาลแพ่งมีคำสั่งจำหน่ายคดีตามมาตรา ๑๓ วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการวินิจฉัยอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล พ.ศ. ๒๕๔๒ จึงเป็นการฟ้องคดีเมื่อพ้นกำหนดหกสิบวันนับแต่วันที่ศาลแพ่งมีคำสั่งจำหน่าย

    ประเด็นที่ว่าการนำอายุความมาปรับใช้เท่ากับการย่นระยะเวลาหรืออายุความที่สั้นลงซึ่งไม่อาจทำได้ตามมาตรา ๑๙๓/๑๑ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ นั้น

    เห็นว่าสัญญาพิพาทในคดีนี้เป็นสัญญาทางปกครอง ซึ่งอยู่ในอำนาจการพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง

    ผู้ฟ้องคดีจึง ต้องฟ้องคดีภายในกำหนดหนึ่งปี นับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดีแต่ไม่เกินสิบปีตามมาตรา ๕๑ แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ

    ไม่อาจนำอายุความสองปีซึ่งเป็นอายุความทั่วไปตามมาตรา ๑๙๓/๓๔ (๑) (๗) (๘) และ (๙) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาปรับใช้กับกรณีดังกล่าวได้

    ส่วนกรณีที่ว่า ศาลแพ่งสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความแต่มิได้ระบุไว้ในท้ายคำสั่งจำหน่ายคดีให้ผู้ฟ้องคดีนำคดีมาฟ้องภายในหกสิบวันตามมาตรา ๕๐ แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ จึงทำให้กำหนดระยะเวลาหกสิบวันยังไม่เริ่มนับนั้น

    เห็นว่า การแจ้งสิทธิในการฟ้องคดีตามมาตรา ๕๐ แห่ง พ.ร.บ. ดังกล่าว เป็นกรณีที่ใช้บังคับกับหน่วยงานทางปกครองที่ออกโดยหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐเท่านั้น

    มิได้หมายรวมถึงคำสั่งของศาลซึ่งใช้อำนาจตุลาการด้วย

    กรณีนี้จึงไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องปฏิบัติตามนัยกฎหมายดังกล่าวแต่อย่างใด

    ในกรณีที่อุทธรณ์ว่า การที่ ศาลแพ่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความแทนที่จะใช้อำนาจโอนคดีไปยังศาลปกครองทำให้ผู้ฟ้องคดีซึ่งไม่ทราบกำหนดระยะเวลาและขั้นตอนการดำเนินคดีต่อศาลปกครองต้องเสียสิทธิในการฟ้องคดีจึงถือได้ว่า เป็นเหตุจำเป็น ที่ศาลสามารถรับคำฟ้องนี้ไว้พิจารณาได้

    เห็นว่ากรณีที่ถือว่าเป็นเหตุจำเป็นอื่นตามมาตรา ๕๒ แห่งพ.ร.บ.ดังกล่าว ต้องพิจารณาจากเหตุอื่นใดที่ทำให้ผู้ฟ้องคดีไม่สามารถนำคดีมาฟ้องภายในกำหนดเวลาการฟ้องคดีเป็นสำคัญ ทั้งจะต้องมิใช่เหตุที่จะโทษผู้ฟ้องคดีได้

    การอ้างเพียงว่าศาลแพ่งมิได้แจ้งให้ทราบถึงกำหนดระยะเวลาและขั้นตอนการดำเนินคดีต่อศาลปกครองเท่านั้น โดย มิได้แสดงให้ศาลเห็นว่ามีเหตุจำเป็นอื่นใดที่ขัดขวางมิให้ผู้ฟ้องคดีสามารถฟ้องคดีภายในกำหนด จึงไม่ถือว่าเป็นเหตุจำเป็นอื่นตามมาตรา ๕๒ แห่ง พ.ร.บ.ดังกล่าว

    รวมทั้งการโอนคดีหรือจำหน่ายคดีของศาลแพ่งตาม มาตรา ๑๐ วรรคหนึ่งแห่ง พ.ร.บว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล พ.ศ. ๒๕๔๒ ถือว่า เป็นการใช้ดุลพินิจของศาล ตามที่เห็นสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมตามรูปคดี ผู้ฟ้องคดีจะอ้างความไม่รู้ข้อกฎหมายเพื่อโต้แย้งดุลพินิจของศาลหาได้ไม่

    มีคำสั่งยืน ไม่รับฟ้องไว้พิจารณา (คำสั่งที่ ๒๙๕/๒๕๔๙)

    เอาเครื่อง จี ที ๒๐๐ ไปตรวจหาเงินเองดีกว่า.

    พิสิษฐ์ พลรักษ์เขตต์
    praepim@yahoo.com
     
  19. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 30 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 27 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>psombat, jirautes, sithiphong+ </TD></TR></TBODY></TABLE>
    สวัสดีครับ เช้าวันนี้ 09:09 นาที เป็นเทวีฤกษ์ บ้านตรงข้ามใช้เป็นฤกษ์ในการอัญเชิญรูปจำลองเจ้าพ่อพะวอขึ้นประดิษฐาน ณ ตำหนัก(ศาล) เพื่อเคารพกราบไหว้บูชาเป็นศิริมงคล ซึ่งศาลเจ้าพ่อพะวอจะมีอยู่ทั่วไปในเขตจังหวัดตาก ท่านเป็นที่เคารพรักของชาวแม่สอดและอำเภอตามเขตชายแดน แม้คนต่างถิ่นเข้ามาพำนักพักอาศัย ณ ที่แห่งนี้ก็ให้ความเคารพรัก ยำเกรงท่าน ...เป็นนักรบชาวกะเหรี่ยง เป็นนายหน้าด่านยุคสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แม้จะมีกำลังเพียงน้อยนิด แต่ก็ต่อสู้ป้องกันข้าศึกที่จะเข้ามารุกรานประเทศไทยจนตัวตาย ทราบมาว่ามือท่านกำดาบเกอะเปื้อนเลือดข้าศึกแห้งกรัง จนแกะมือออกจากด้ามดาบแทบไม่ออก

    เพิ่มเติม... โจโรฤกษ์ แปลว่า โจร ผู้ปล้น ผู้ลักขโมย นักเลง ผู้ใช้กำลัง ผู้ทำลายล้าง ผู้กล้าหาญมีอำนาจ ผู้ว่องไว มีพระอังคารเป็นผู้รักษาฤกษ์ ฤกษ์บาททั้ง 4 ไม่รวมอยู่ในราศีเดียวกัน คาบเกี่ยวอยู่ 2 ราศีเป็น "ฉินทฤกษ์" คือ ฤกษ์ขาดแตก โดยเฉพาะบาทแรกของต้นราศีนั้น เป็นฤกษ์บาทที่ร้ายแรงมากกว่าบาทอื่น
     
  20. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    • ล็อกเก็ตท่าท่างจะครบเครื่องล้นเหลือ หุหุ :cool:
    • อย่าลืมนำพระพิมพ์หลวงพ่อเงินมาชมด้วยนะครับพี่ (ระหว่างเดินทาง หุหุ)
     

แชร์หน้านี้

Loading...