พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>จริง? เท็จ? แผนเด็ดโฆษณา ฟิลเตอร์เทพ-แอร์ฆ่าหวัด09
    Quality of Life - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>25 กุมภาพันธ์ 2553 08:27 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> สถานการณ์หวัด 2009 ยังไม่คลี่คลายสักเท่าใดนัก และยังปรากฎผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่แทบทุกวัน โดยเฉพาะช่วงระบาดระลอกใหม่นี้ คนจำนวนไม่น้อยเกิดความวิตกไม่อยากให้ตัวเองและคนในครอบครัวต้องได้รับเชื้อ ต่างก็หาวิธีป้องกัน ไม่ว่าจะเป็นเจลล้างมือหรือหน้ากากอนามัย


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ด้านอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าที่ป้องกันเชื้อโรคดังกล่าว ต่างก็ผลิตสินค้าของตัวออกมาเป็นจำนวนมาก เพื่อสนองต่อความต้องการของลูกค้า ไม่เว้นแม้กระทั่ง “เครื่องปรับอากาศ” หลายยี่ห้อต่างก็แข่งกันโหมโฆษณานวตกรรมใหม่ๆ ของบริษัทตัวเองว่า กรองแบคทีเรียได้บ้างล่ะ หรือบางยี่ห้อถึงกับอวดอ้างว่าฆ่าเชื้อหวัด 2009ได้ด้วยซ้ำ!

    จริงหรือไม่จริงอย่างไร งานนี้ผู้บริโภคเองก็ไม่แน่ใจ แต่ก็มีไม่น้อยที่เชื่อในคำโฆษณาจนซื้อหาไปติดที่บ้าน ผศ.ดร.กอบชัย ภัทรกุลวณิชย์ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ให้ความกระจ่างในมายาภาพแห่งการโฆษณาว่า แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> “ที่ผมคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยก็เพราะฟิลเตอร์ที่กรองเชื้อโรคได้มันเป็นฟิลเตอร์เฉพาะมาก เรียกว่า เฮปป้าฟิลเตอร์ (HEPA) และราคาแพงมาก ราคาน่าจะเท่าเครื่องแอร์หรืออาจจะแพงกว่าด้วย ปกติฟิลเตอร์ชนิดนี้จะใช้ในห้องผ่าตัดหรือห้องเพาะเลี้ยงที่ใช้เพาะเชื้อ เพาะเนื้อเยื่อโดยเฉพาะที่ต้องการให้ปลอดเชื้อโรคจริงๆ เท่านั้น ผมเชื่อว่าไม่มีทางที่อุตสาหกรรมแอร์บ้านจะนำมาใส่ในเครื่องปรับอากาศแล้วขายในราคาปกติเท่านี้ได้”

    ผศ.ดร.กอบชัย
    กล่าวถึงประเด็นการฆ่าเชื้อโรคว่า ที่มีการโฆษณาว่าฆ่าเชื้อโรคได้ด้วยประจุไฟฟ้ายังไม่ยืนยันว่าสามารถทำได้หรือไม่ เพราะเท่าที่ศึกษา ยังหาเอกสารพิสูจน์ไม่ได้ และเอกสารการวิจัยที่มี ก็มีเฉพาะที่บริษัทวิจัยเองและรับรองตัวเองว่าสามารถทำได้เท่านั้น ยังไม่เคยเห็นเอกสารการวิจัยจากแหล่งอื่นๆ แต่เรื่องกรองไวรัสและแบคทีเรียได้นี่ เป็นไปไม่ได้แน่นอน

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> “ขนาดฝุ่นละอองเล็กๆนี่ยังกรองไม่ได้เลยครับ ส่วนเรื่องกรองหวัดหรือฆ่าหวัด 2009 ผมก็ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ หากโฆษณากันว่าได้นี่คงต้องขอดู เพราะในฟิลเตอร์ปกติอย่าว่าแต่แบคทีเรีย เชื้อหวัดซึ่งเป็นไวรัสที่เล็กกว่าแบคทีเรียตั้งหลายเท่านี้กรองไม่ได้แน่นอนครับ”

    ผศ.ดร.กอบชัย
    แนะนำวิธีการเลือกแอร์ด้วยเอาปัจจัยของการกรองสิ่งปนเปื้อนในอากาศเป็นประเด็นหลักในการเลือกว่า ดีที่สุดคือสอบถามผู้ขายถึงขนาดฟิลเตอร์ที่ใช้ในเครื่องปรับอากาศนั้นๆ

    “ต้องถามเลยว่าขนาดฟิลเตอร์เท่าไหร่ ที่กรองได้จริงๆ ต้องเล็กกว่า 1 ไมโครเมตร ถ้าฟิลใหญ่กว่านี้กรองไม่ได้”

    ผู้เชี่ยวชาญด้านจุลชีววิทยาจากรั้วสีชมพูอธิบายต่อถึงเรื่องที่หลายคนอยากรู้ไม่แพ้กันนั่นก็คือการเลือกซื้อ “เครื่องฟอกอากาศ” ว่าควรเลือกซื้อแยกชิ้นเป็นเครื่องปรับอากาศชิ้นหนึ่งกับเครื่องฟอกอากาศชิ้นหนึ่ง


    โดยหลักแล้วแอร์มีหน้าที่ทำความเย็น ผมแนะนำว่าควรจะดูประสิทธิภาพการทำความเย็น การประหยัดไฟ เพราะแอร์ธรรมดาราคาจะอยู่ระดับหนึ่ง แต่แอร์ที่มีเครื่องฟอกอากาศในตัวจะอีกราคาหนึ่ง แพงกว่า ถ้าอยากได้เครื่องฟอกอากาศก็ควรจะซื้อต่างหากเพราะจริงๆ แล้วมันเป็นคนละจุดประสงค์การใช้งาน ควรใช้แยกกันดีกว่า”

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจุลชีวะฯรายนี้กล่าวโดยสรุปว่า แม้อนาคตอาจมีการคิดค้นแอร์ที่มีฟิลเตอร์ฆ่าเชื้อโรคขนาดเล็กอย่างไวรัสได้จริงๆ แต่หากเราออกจากบ้านไปเจออากาศข้างนอกก็ยังคงเจอเชื้อโรคอยู่ดี

    “ในอากาศปกติมันมีอยู่แล้ว ทั้งเชื้อโรค รา ไวรัส แบคทีเรีย แต่ตัวที่มันร้ายจริงๆ มีไม่มากนัก ถึงติดแอร์ในบ้าน ออกไปมันก็ต้องเจอเชื้อโรค ผมอยากให้ดูเป้าหมายจริงๆ ของแอร์มากกว่า ว่ามันทำให้อากาศเย็น ไม่ได้มีไว้ฆ่าเชื้อโรคโดยตรง มันเป็นเรื่องของการโฆษณา แอร์มันก็แค่ทำความเย็น ทุกบริษัททำได้ แต่ทำอย่างไรให้มูลค่ามันเพิ่ม ก็ต้องเพิ่มฟีเจอร์การใช้ต่างๆ ทำให้ราคาเพิ่มขึ้น ซึ่งผมว่ามันเป็นความฟุ่มเฟือยที่ไม่จำเป็น เหมือนเราใช้เครื่องซักผ้าปกติ ใส่ผงซักฟอก มันก็สะอาด และฆ่าแบคทีเรียระดับหนึ่ง แต่ถ้าเราเลือกแบบนาโนซิลเวอร์ที่กำจัดแบคทีเรียได้มากขึ้น แต่ราคาแพงกว่ามาก มันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรมากนักเพราะแบบธรรมดามันก็ใช้ได้อยู่แล้ว”


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ในขณะที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบโดยตรงอย่างสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) โดยรองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคอย่าง “นพปฎล เมฆเมฆา” กล่าวว่า 2-3 ปีที่ผ่านมามีการโฆษณาเครื่องปรับอากาศในลักษณะกรอง จับ หรือฆ่าเชื้อโรคได้เป็นจำนวนมาก ทางสคบ.ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ก็ได้ตรวจสอบผู้ผลิตหลายยี่ห้อ

    “เราให้เขาพิสูจน์ เขาก็มีผลการวิจัยมาให้ แต่เท่าที่พบก็คือมันเป็นการวิจัยของบริษัทแอร์เอง พื้นที่ทดลองในห้องวิจัยก็ไม่มาก ทดลองในพื้นที่จำกัด พอจับเชื้อได้4-5ตัวก็โฆษณาว่าจับเชื้อโรคได้ แต่พอเอามาใช้กับแอร์ซึ่งมีพื้นที่กว้างกว่าเราก็เกรงผู้บริโภคเข้าใจผิด จึงให้เขาใส่คำในโฆษณาด้วยว่าเป็นผลการทดลองจากห้องทดลอง ถ้าไม่ใส่ก็ถือว่ามีความผิด ปกปิดรายละเอียดสำคัญ ซึ่งถ้าเจตนาทำจะมีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 50,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนเคสที่ทำป้ายใหญ่แต่คำชี้แจงรายละเอียดเล็กเราก็เชิญมาคุย ขอให้ปรับปรุง เพราะเชื่อว่าคนขับรถผ่านไปมาคงอ่านไม่ทัน”


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> รองเลขาฯ นพปฎล กล่าวต่อไปอีกว่า ที่ผ่านมาในปี2549-2550 มีการโฆษณาประเภทนี้อยู่มาก ส่วนใหญ่จะโฆษณาว่ากำจัดต้นเหตุภูมิแพ้ ฆ่าเชื้อ H1N1 ซึ่งเป็นการโฆษณาที่ตรวจสอบแล้วว่าไม่เป็นความจริง ก็จับปรับไป 10 กว่าบริษัท

    “ปีนี้สคบ.ก็เชิญบริษัทแอร์มาคุยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ขอให้เน้นการโฆษณาไปที่ความคงทน ความประหยัดไฟ และประสิทธิภาพการทำงาน อย่าเน้นไปในเรื่องฆ่าเชื้อโรคอะไรมากนัก เขาก็บอกว่าบอกเขาช้าไป เขาทำโฆษณาไปแล้ว ผมก็เลยบอกไปว่า ถ้าทำออกมาเกินจริงก็ต้องดำเนินคดีนะ แล้วมันก็จะเหนื่อยกันทุกฝ่าย อยากฝากเตือนไปถึงผู้บริโภคด้วยว่า หากต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ทุกชนิด ควรทำการบ้านเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ซื้อก่อนจัดตัดสินใจ อย่าเชื่อคำโฆษณาโดยไม่หาข้อมูล” รองเลขาฯ นพปฎลทิ้งท้าย
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“ครีมกันแดด” เลือกอย่างไร ใช้อย่างไร
    Quality of Life - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>25 กุมภาพันธ์ 2553 08:27 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ปัจจุบันนี้ แสงแดดในหน้าร้อนทวีความเข้มข้นมากขึ้น เนื่องจากชั้นโอโซนถูกทำลายด้วยมลภาวะที่มีมากขึ้นทำให้ทุกวันนี้ “ครีมกันแดด” กลายเป็นของจำเป็นในชีวิตประจำวัน ทุกวันนี้ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย หรือเป็นคนที่ใส่ใจสุขภาพผิว ก็มักจะซื้อครีมกันแดดมาใช้ แต่เชื่อแน่ว่ายังคงมีคนรักผิวอีกเป็นจำนวนมาก ยังคงสับสนในข้อมูลรายละเอียด ตลอดจนวิธีดู วิธีเลือก รวมไปถึงวิธีใช้ครีมกันแดดที่ถูกต้องอย่างแท้จริง

    นพ.จิโรจน์ สินธวานนท์
    ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ไขสารพัดข้อข้องใจในประเด็นนี้ว่า แสงแดดเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก แต่ก็มีโทษอยู่ไม่น้อยเช่นกัน โดยเฉพาะสภาพแดดที่ร้อนขึ้นในยุคนี้

    “หากตากแดดมากๆ ก็ส่งผลเสียได้ ระยะสั้นทำให้ดำลง เกรียมแดด แต่ถ้าตากมากๆ บ่อยๆ สะสมเอาไว้ ก็มีสิทธิเป็นมะเร็งผิวหนัง เวลาเราตากแดดมากๆ เราจะเกรียมแดด ซึ่งเป็นผลที่สืบเนื่องมาจากรังสียูวีหรืออัลตร้าไวโอเลต ที่ในแสงแดดมีทั้งยูวีชนิดเอและยูวีชนิดบี ชนิดเอจะทำให้ผิวคล้ำขึ้นในขณะที่ชนิดบีจะทำให้เกรียมแดด แต่สองชนิดนี้กระตุ้นให้เกิดมะเร็งผิวหนังทั้งคู่โดยจะเสริมฤทธิ์ของกันและกัน แสงยูวีชนิดบีจะมีช่วงคลื่นอยู่ระหว่าง290-320 นาโนเมตร และชนิดเออยู่ที่ 320-400 นาโนเมตร ชนิดบีจะทำปฏิกิริยากับผิวชั้นตื้น ในขณะที่ชนิดเอจะยาวและทำลายได้ลึกกว่า ยูวีทั้งสองชนิดนี้จะมาพร้อมกันเป็นแถบเลยเวลาแดดออก”


    แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังรายนี้อธิบายต่อไปอีกว่าเมื่อก่อนนี้การศึกษาวิจัยและการพัฒนาการผลิตครีมกันแดดนั้นเข้าใจกันว่าเฉพาะรังสียูวีชนิดบีเท่านั้นที่ก่อให้เกิดมะเร็ง และคิดว่ายูวีชนิดเอทำให้ผิวคล้ำลงเท่านั้น ชาวตะวันตกที่มักจะชอบย้อมผิวเป็นสีแทนด้วยการอาบแดดจึงผลิตแต่ครีมกันแดดที่ป้องกันยูวีชนิดบีเท่านั้น ไม่ได้ผลิตแบบป้องกันชนิดเอเพราะยังนิยมทำผิวแทนในความเชื่อว่ายูวีชนิดเอไม่ส่งผลให้เกิดมะเร็ง

    “แต่หลังจากการศึกษาที่พบว่ายูวีชนิดเอก็ก่อมะเร็งได้ จึงมีการคิดผลิตครีมกันแดดที่ป้องกันยูวีชนิดเอด้วย แต่ก็ใหม่มาก เพิ่งเริ่มมาได้ประมาณสิบปีนี้เอง ดังนั้นในขณะนี้จึงมีทั้งครีมกันแดดที่มีทั้งชนิดที่ป้องกันยูวีบีแต่เพียงอย่างเดียว และมีที่แบบป้องกันได้ทั้งชนิดเอและบีด้วย”

    นพ.จิโรจน์กล่าวต่อถึงสิ่งที่หลายคนยังสงสัยคือค่า Sun Protection Factor หรือที่ได้ยินบ่อยๆ ในโฆษณาและหน้าฉลากผลิตภัณฑ์ว่า “ค่าSPF” ว่า ค่านี้คือค่าการปกป้องผิวจากแสงแดด ยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งป้องกันแสงได้มากเท่านั้น

    “วิธีการหาค่า SPFในห้องปฏิบัติการแบบคร่าวๆ ที่อธิบายง่ายๆ ก็คือ สมมติว่าหากผิวปกติไม่ทาครีมแล้วไปตากแดดประมาณ 50 มิลลิจูน ผิวจะแดง ในการทดลองค่า SPF ของครีมกันแดดนั้นๆ ก็จะนำครีมมาทาผิว แล้วกลับออกไปตากแดดในปริมาณเท่ากัน สมมติว่าคราวนี้ได้ 150 มิลลิจูนถึงจะแดง ก็เอา 150 มาหารผลครั้งแรกคือ 50 ก็จะได้ออกมาเป็นค่า SPF ในกรณีนี้ก็คือค่าเท่ากับ3”


    แต่ที่ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนังเป็นห่วงอยู่ในขณะนี้ก็คือ ตามปกติแล้วการทดลองหาค่า SPF ในห้องปฏิบัติการนั้น จะมีมาตรฐานการทาครีมให้หนาตามกำหนด แต่ในชีวิตจริงๆ ของการใช้ทั่วไปของประชาชนจะทาบางกว่ามาก

    “ในแล็ปจะมีข้อกำหนดให้ทาครีมหนาค่อนข้างมาก คือประมาณ 2 มิลลิกรัม ซึ่งในวิถีประจำวันของคนไม่ได้ทาหนาขนาดนั้น เพราะมันจะขาววอกไปทั้งหน้า เราจะทาแค่พอบางๆ ซึ่งนั่นจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของครีมกันแดดลดลง เช่นถ้า SPF ข้างขวดเขียนไว้ 40 มันคือ 40 ที่การทาหนา 2 มิลลิกรัมบนพื้นผิว เมื่อเราทาบางมันอาจจะเหลือแค่ 10 หรือแค่8 อันนี้ต้องระวัง ทางออกก็คือทาบ่อยๆ ยิ่งเดี๋ยวนี้อากาศร้อน เหงื่อไหลออกมาลบครีม แนะนำว่าควรจะทาครีมกันแดดทุก 3 ชั่วโมง หรือทาเช้า เที่ยง แต่จะดีมากหากได้ทาตอนเย็นด้วย”

    นพ.จิโรจน์กล่าวว่า ในสภาพอากาศและแดดแรงอย่างเมืองไทย ครีมกันแดดถือเป็นผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวที่ค่อนข้างจำเป็น โดยเฉพาะคนที่ต้องตากแดดบ่อยๆ โดย ค่า SPF ที่เหมาะสมที่จะใช้ทั่วไปสำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศหรือคนที่ทำงานในร่มและต้องออกแดดเป็นบางครั้งอยู่ที่ 20-30 ในขณะที่ SPF สำหรับคนที่มีกิจกรรมกลางแจ้งความจะสูงประมาณ 40-50

    “ส่วนวิธีการเลือกซื้อครีมกันแดด ควรซื้อที่มีทั้งการปกป้องผิวจากยูวีเอและยูวีบี ค่าที่ปกป้องยูวีบีคือ SPF แบบทั่วๆ ไป แต่ค่าปกป้องยูวีเอจะไม่เหมือนกัน หากเป็นยี่ห้อจากฝั่งอเมริกาจะเขียนว่าค่าPA+ ที่มีค่าสูงสุดจะมีเครื่องหมายบวก 3 อัน ส่วนยี่ห้อจากฝั่งญี่ปุ่นจะมีสัญลักษณ์เป็นรูปดาว โดยสูงที่สุดคือ 4 ดาว ดังนั้นผู้บริโภคควรจะสังเกตและสอบถามผู้ขายให้ดีก่อนซื้อว่าครีมกันแดดยี่ห้อนั้นๆ ป้องกันผิวได้มากน้อยแค่ไหน และสามารถป้องกันแสงยูวีได้ทั้ง 2 ชนิดหรือไม่”
    แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังทิ้งท้าย
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    วันอาทิตย์ที่ผ่านมา อาจารย์ผู้สอนได้แจก"ลูกรัก" ซึ่งปีนี้โชคดีที่มีตัวอย่างให้ดู ซึ่งก็คือต้นรักที่เรานำยางจากต้นรักมาทำการลงรักก่อนการปิดทองนั่นแหละครับ มาแจกให้ดูเป็นตัวอย่าง ผมเห็นว่าเพื่อนๆชมรมรักษ์พระวังหน้าคงอยากได้ไว้ปลูกบ้าง เอาไว้สืบตำนาน"รัก"(คุณหนุ่มไม่น่าพลาดรายการนี้นะ) ก็แจ้งความจำนงกันมานะครับ จะเก็บไว้ให้ แต่ช่วงนี้ขอตากแดดก่อนกันเชื้อราครับ

    เพื่อนท่านใดไม่มีสถานที่ปลูกก็อย่าขอกันมาเลย เพราะเหมาะกับเพื่อนๆที่มีพื้นที่ปลูกเท่านั้นครับ
     
  4. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    สู้ต่อไปครับ คุณหนุ่ม ไม่ว่าถนนเส้นนี้จะมีผู้ร่วมทางหรือไม่ แม้จะเหลือเพียงคนเดียวก็ต้องเดินต่อไป สู้ต่อไป...เป็นกำลังใจครับ

    :boo:................................................:boo::boo::boo::boo::boo::boo::boo:
     
  5. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    มีรุ่นพี่ท่านหนึ่ง คุยให้ฟังถึงแนวทางของหลวงพ่อองค์หนึ่ง บ้างเห็นด้วย บ้างไม่เห็นด้วย สุดท้ายก็เป็นไปตามโลกธรรม 8 ไม่ว่า จะเป็นฆราวาส หรือสงฆ์ก็ตาม...

    ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากหมู่ศิษย์รุ่นหลัง นำไปตีความ ขยายความกันเอง อาจจะเพื่อมุ่งหวังให้เกิดความเข้าใจมากขึ้นกว่าพระไตรปิฎก หากอ่านเข้าใจ คงจะอ่านกันทั่วบ้านทั่วเมือง เมื่ออ่านทั่วบ้านทั่วเมืองก็น่าจะเข้าใจ และไม่เกิดปัญหาขึ้น ที่เกิดปัญหาขึ้น จึงล้วนเกิดจากความไม่เข้าใจ ทางแก้ของปัญหาคือต่อสายตรงกับครูบาอาจารย์รุ่นแรกกันไปเลยจะดีกว่า เรียนอย่างที่เขาเรียนกันมา ไม่ต้องขยายความ ไม่ต้องตีความ พระพุทธเจ้าท่านให้เท่าไหร่ก็เท่านั้น นอกเหนือจากนั้น ล้วนเกินความจริง

    ครูบาอาจารย์ยุคหลวงปู่มั่น หลวงปู่แหวน หลวงปู่ขาว หลวงปู่เทสก์ หลวงปู่ตื้อ หลวงปู่สาม พ่อท่านลี หลวงปู่ดูลย์ จนมาถึงอรหันต์กลางกรุง ท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิตฯลฯ เหล่านี้ที่ยกตัวอย่างมานี้ หากเราท่านศึกษาคำสอนจากครูบาอาจารย์เหล่านี้จากบันทึก จากตำราที่ท่านเขียนขึ้น จากที่ท่านกล่าวไว้ หรือจากบันทึกเทปเสียงโดยตรง ก็ล้วนแต่ไม่มีปัญหา ความสงสัยไม่เกิด ไม่ต้องไปตีความให้มากเรื่อง

    หากเกิดความสงสัยจริงๆ ก็คงต้องยกขึ้นกล่าวว่า พระนิพพานเป็นภาษาปฏิบัติ ไม่ใช่ภาษาพูด เอาแต่พูด เอาแต่ซักถาม เอาแต่สงสัย จะไปบรรลุถึงไหนเล่า???...ไม่ใช่ธรรมโลกุตตระ โลกุตตระไม่สามารอธิบายเป็นภาษาสมมติได้ หากแสดงธรรมโลกุตตระก็ยิ่งห่างจากโลกุตระ...

    http://www.palungjit.org/smati/books/index.php?cat=141
     
  6. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ใจสู้เต็มร้อยครับ

    .
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ยินดีครับ

    ของผมจะปลูกลงกระถางครับ


    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ใครทำใครได้
    ใครกินใครอิ่ม

    ผมเชื่อเช่นนั้นครับ
    .
     
  10. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768

    ผมรบกวนสั่ง 4 ซ.ม. จำนวน = 10 โถ ครับ

    ขอบคุณมากครับ
     
  11. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    คิดลดลงแล้วหรือครับ หุ หุ
     
  12. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,438

    ความเหงาหรือครับ ... ในความคิดผม เกิดได้ ดับได้ (เกิดจากจิตของเราเอง) เกิดบ่อยๆ จับมันมาเป็นเืพื่อนเสียเลย กลายเป็นความเงียบ สงัด สงบในที่สุด หุหุ "You will never walk alone" เช่นกันครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2010
  13. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    แต่วันนี้ คุณหนุ่มเขา walk alone แถวเสาชิงช้าจริงๆนะ
     
  14. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,438
    :) หารักเจอใช่มั๊ยครับพี่หนุ่ม ... อย่าลืมตื้อปู่แทนน้องๆหน่อยนะครับ :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2010
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    วันนี้ผมลาพักร้อน นำรถไปซ่อมแถวๆพระสมุทรเจดีย์ ก็เลยนั่งรถเข้ามาที่ทำงาน เพราะว่าลูกค้าจะเอาเอกสารสำคัญ ผมก็เลยต่อไปที่วัดราชนัดดา ไปซื้อแผ่นทองเหลืองมา 300 แผ่น , ซื้อแผ่นทองคำเปลวแท้ 100 แผ่น แล้วก็เดินไปแถวๆวัดสุทัศน์ฯ ไปซื้อ รัก มา 1 กระป๋อง ,ซื้อฉัตร 9 ชั้น 1 คู่(ฉัตรเงินและฉัตรทอง) , อาสนะ (องค์หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า) และ ต้นไม้เงินต้นไม้ทอง อีก 1 คู่

    แล้วก็โทร.ไปหาน้อง MEA ฝากเรื่องพานบายศรีเทพฯ , ขันธ์ 5 และ พวงมาลัย ให้ช่วยดำเนินการให้ครับ

    หลังจากนี้ คงจะต้องไปที่พาหุรัด ไปซื้อผ้า(สีทอง) ไว้สำหรับการปูพื้น(ก่อนการวางอาสนะ)

    ส่วนวันพรุ่งนี้ ทางพี่สิทธิพร คงจะให้ลูกน้องนำล็อกเก็ตมาให้ผม และผมจะเดินทางไปที่ชลบุรีในวันอาทิตย์นี้ครับ


    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2010
  16. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,438
    โหงวเฮ้ง ศาสตร์โหงวเฮ้งกับงาน HR ความสำเร็จเจ้าสัว ซี.พี. ล้วงลึก... "ศาสตร์โหงวเฮ้งกับงาน HR" เคล็ด (ไม่) ลับ ความสำเร็จเจ้าสัว ซี.พี.

    วรวุธ เพ็งผลฉาย - เรื่อง
    ที่มา...http://www.matichon.co.th/prachachat/


    <table width="20%" align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5"> <tbody> <tr bgcolor="#f8b8cb"> <td>[​IMG]
    </td></tr></tbody></table>เป็นที่โจษจันกันมานานว่า กลุ่ม ซี.พี.ของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ นั้น ให้ความสำคัญกับศาสตร์เรื่องโหงวเฮ้งในการคัดเลือกบุคลากรเข้าทำงานมากเป็น อันดับต้นๆ ธุรกิจขององค์กรแห่งนี้จึงเติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะทีมงานคุณภาพขององค์กรแห่งนี้ไม่ใช่แค่เปี่ยมไปด้วยความรู้ความสามารถ แต่บุคลิกลักษณะยังเหมาะกับตำแหน่งงานอย่างลงตัว ทำให้องค์กรแห่งนี้มีพลังในการขับเคลื่อนธุรกิจ ไม่ว่าจะก้าวไปทางไหนความสำเร็จก็รออยู่ข้างหน้า

    วันนี้ต้องยอมรับ ว่า แม้ทุกคนจะรับรู้ว่าศาสตร์ในเรื่องโหงวเฮ้งนั้นมีพลัง และมีความสำคัญในการดำเนินธุรกิจ แต่ความรู้และความเชี่ยวชาญในเรื่องเหล่านี้ก็ยังจำกัดอยู่ในกลุ่มคนไม่กี่ กลุ่มเท่านั้น การเปิดการบรรยายพิเศษของ "อาจารย์ธวัชพงศ์ ธนิตลิมปะพงศ์" ที่ปรึกษา บริษัท ซี.พี. เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในหัวข้อ "โหงวเฮ้งกับงาน HR ศาสตร์แห่งการ คัดเลือกบุคลากร" ณ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เมื่อเร็วๆ นี้จึงเป็นเสมือนการเปิดประตูให้คนได้เข้าใจศาสตร์เรื่องโหงวเฮ้งลึกซึ้ง มากขึ้น

    ยิ่งในสภาวะเศรษฐกิจขาลง การคัดเลือกคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้ามาเสริมความแกร่งขององค์กรดูจะเป็น เรื่องจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกองค์กร เรื่องนี้จึงอยู่ในความสนใจของคนในสังคมเป็นอย่างมาก

    "สิ่งสำคัญใน การเลือกบุคลากรคือชะตาชีวิต เหมาะสมจะเริ่มต้นงานรึเปล่า เวลาคนมาสมัครงานอาจารย์จะถามวันเดือนปีเกิดโดยอาศัยหลักฮะ (เสริม สร้าง เกื้อกูล เพิ่มพูน) หลักชง (ทำลาย บั่นทอน ขัดแย้ง) เป็นตัวกำหนด

    ปีที่ผ่านมา 2551 ใครปีชวด ปีมะเมีย ปีเถาะ ปีระกา ปีที่แล้ว 4 ปีนี้ชงเปรียบเหมือนชีวิตเดินอยู่บนทางขรุขระ บางคนชงปะทะแรงๆ

    คำ ว่า ปะทะแรงๆ คือ ปีจะชง เดือนจะชง วันจะชง เพราะฉะนั้นหลักในการเลือกคนต้องอาศัยดวงชะตา เพราะว่าดวงชะตานั้นเปรียบเหมือนเส้นทาง ช่วงจังหวะการเปลี่ยนแปลง การงาน การเริ่มต้นนั้นเป็นช่วงที่ดี เหมือนทางที่ราบเรียบ เขามาอยู่กับเรา ดวงเขาดี เราก็ดีด้วยนั้นเป็นหลักหนึ่งในการเลือก

    ไม่เพียงเท่านั้น ยังจะต้องใช้วันเดือนปีเกิดของเขามาเทียบกับคนที่เขาจะอยู่ด้วย ตัวอย่างคุณปิยะวัฒน์ เกิด 3 มิถุนายน 2496 เดือนมะเส็ง เราเห็นคนมาสมัครงาน เราจะทำรายงานตรงถึงคุณปิยะวัฒน์ มะเส็งต้องฮะกับอะไร วอก ระกา ฉลู เอาปีที่ประสานเลือกส่งไปให้คุณปิยะวัฒน์ ต้องเลือกก่อนว่าต้องปีที่สัมพันธ์กับนาย คนจีนแบ่งออกเป็น หลักฮะ หลักซาฮะ หลักซาคา แล้วก็หลักชง"

    "อาจารย์ธวัชพงศ์" เปิดฉากอธิบายถึงความสำเร็จของชีวิตคนที่มีความสัมพันธ์กับวันเดือนปีเกิด และขยายความในเรื่องหลักฮะต่อไปว่าหมายถึง การประสานกันของสรรพสิ่ง 6 ประการซึ่งก่อให้เกิดการเสริมสร้าง เกื้อกูล เพิ่มพูน ดังนี้

    - ประสานกับดวงจันทร์ (อิม) - ประสานกับดวงดาว
    <table width="20%" align="right" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5"> <tbody> <tr bgcolor="#f8b8cb"> <td>[​IMG]
    </td></tr></tbody></table>

    - ประสานกับดวงอาทิตย์ (เอี้ยง) - ประสานกันระหว่างครอบครัว

    - ประสานกับภูตผีปีศาจ - ประสานกับพลังแห่งที่ดิน (ตี่เล้ง)

    ปีเกิดที่ "ฮะกัน" คือ

    ปีชวดกับปีฉลู

    ปีขาลกับปีกุน

    ปีเถาะกับปีจอ

    ปีมะโรงกับระกา

    ปีมะเมียกับมะแม

    ปีมะเส็งกับปีวอก

    " ยกตัวอย่างเช่น คนที่ฮะกันไปไหนด้วยกันก็จะช่วยสร้างเสริม เกื้อกูลให้กันและกัน หรือใครที่ยังไม่ได้แต่งงานก็เลือกคนที่ฮะกับเรา แต่ถ้าคนแต่งงานไปแล้วถือว่าซื้อขาดกันแล้วไม่สามารถเปลี่ยนดวงได้ แต่ถ้าใครแต่งไปแล้วไม่ใช่กลับไปเลิกกับสามีภรรยา คือ คนที่แต่งงานกันต้องมีบุญเก่ารวมกัน ไม่ใช่แค่บุญอย่างเดียว กรรมด้วย เวรด้วย

    มันร่วมกันถึงจะแต่งงานกันได้งั้นเราไม่มีโอกาสแต่งงานกันหรอก"

    หลักซาฮะ "อาจารย์ธวัชพงศ์" ชี้ว่า ปีเกิดที่ "ซาฮะกัน" ประกอบด้วย

    * ชวด-มะโรง-วอก

    * ขาล-มะเมีย-จอ

    * เถาะ-มะแม-กุน

    * มะเส็ง-ระกา-ฉลู

    " ยกตัวอย่างเช่น พ่อปีชวด แม่ปีมะโรง ลูกปีวอก ในครอบครัวใดครบ 3 ซาฮะก็จะรุ่งเรืองได้ถึง 3 ชั่วคน คือ รุ่นท่าน ท่านจะได้รับเลย รุ่นลูกของท่าน จนถึงรุ่นหลานของท่าน ส่วนรุ่นต่อไปจะดีอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับดวงชะตาของรุ่นหลาน แต่มีข้อแม้ห้ามมีลูกปีอื่นมาชง 1 ใน 3 ปีนี้ เช่น พ่อปีขาล แม่ปีมะเมีย ลูกปีจอ และมีลูกอีกเป็นปีกุนไม่เป็นอะไร เพราะฮะกันกับขาล แต่มีลูกเป็นปีวอก วอกมาชงกับขาล ซาฮะจะแตกไม่มีพลัง จึงได้เกิดพิธีกรรมยกลูกบุญธรรมเกิดขึ้น เรียกว่ายกลูกบุญธรรมอะไรแบบนี้ หรือเวลาเราจะเลือกลูกน้อง คนงาน เอาเข้าหลักฮะไม่ได้ก็เอาซาฮะกับเราก็ได้"

    หลัก ซาคาหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า หลักสามขา "อาจารย์ธวัชพงศ์" บอกว่าสำคัญไม่แพ้หลักอื่นๆ หมายความว่า ถ้าบิดา มารดา และบุตรเกิดปีเดียวกันทั้ง 3 คน ครอบครัวนั้นจะมีความรุ่งเรืองได้ เช่น ชวด (หนู) 3 ตัว ขาล (เสือ) 3 ตัว ยกเว้นปีระกาปีเดียวที่คนในครอบครัวไม่ควรเกิดปีนี้ทั้ง 3 คน เพราะจะเกิดความขัดแย้งกันเอง ถ้าจะให้รุ่งเรืองต้องเป็นเลขคู่ เช่น ระกา (ไก่) 2 ตัว ระกา (ไก่) 4 ตัว

    "หลักซาคาปีเดียวกัน พ่อกุน แม่กุน ลูกกุน รุ่งเรือง ร่ำรวยมากๆ มะโรง 3 ตัว ขาล 3 ตัวยิ่งใหญ่มากๆ ยกเว้นอย่างหนึ่งว่า ระกา 3 ตัว ห้ามอยู่ในครอบครัวเดียวกัน พ่อระกา แม่ระกา ลูกระกา 1 ใน 3 จะขี้โรค ล้มป่วยอย่างไม่มีเหตุผล"

    มาถึงหลักชง "อาจารย์ธวัชพงศ์" แปลด้วยภาษาง่ายๆ ว่า คือการทำลาย การบั่นทอน ความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นได้กับคนที่เกิดปีชงกัน

    ปีเกิดที่ชงกันตามศาสตร์ของอาจารย์ธวัชพงศ์ คือ

    * ชวด-มะเมีย

    * ฉลู-มะแม

    * ขาล-วอก
    <table width="20%" align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5"> <tbody> <tr bgcolor="#f8b8cb"> <td>[​IMG]
    </td></tr></tbody></table>

    * เถาะ-ระกา

    * มะโรง-จอ

    * มะเส็ง-กุน

    " อาจารย์จะทำโน้ตไว้ข้างๆ พอคนมา สมัครงานแล้วดวงผู้บริหารเราต้องรู้ เพราะต้องเอาวันเดือนปีเกิดผู้บริหารเป็นตัวตั้ง ผู้บริหารคนนี้เกิดวันเดือนปีเกิดอะไรจะได้เลือกคนที่เหมาะสมส่งไปให้ได้ อาจารย์ต้องบอกไว้ก่อน

    รายหนึ่งที่อาจารย์เคยเป็นที่ปรึกษา วันแรกๆ ที่อาจารย์เข้าไปเป็นที่ปรึกษา อาจารย์จะเข้าไปอาทิตย์ละครั้ง ภรรยา ที่ปรึกษาเกิดปีมะเมีย เขาถามอาจารย์ว่า "อาจารย์พูดถึงหลักฮะ หลักชงแล้วหนูชงกับปีอะไร"

    อาจารย์ก็ตอบไปว่า "น้องชงกับปีชวดนะ"

    พูด แค่นี้ก็คุยเรื่องงานอะไรกันต่อและเขาก็บินไปต่างประเทศ อาทิตย์ถัดมาอาจารย์ก็เข้าไปและเขาก็กลับมาจากต่างประเทศแล้วเขาก็เข้าตรงมา คุยกับอาจารย์

    "อาจารย์หนูมีข่าวดีมาบอก คนปีชวดในโรงงานไม่เหลือแล้ว"

    ไล่ ออกหมดทุกคนไม่ว่าจะเป็นใคร อาจารย์ตกใจและก็เสียใจที่ไม่ได้บอกให้เขาเข้าใจ คนที่ชงกับเราแค่ไม่เจอกับเราโดยตรงถือว่าใช้ได้ ถ้ามีคนคั่น ลูกน้องคนนี้ ชงเรา หาคนคั่นสักคนถือว่าโอเค ไม่จำเป็นต้องไล่ออกทั้งแผนก คนเหล่านั้นมีลูก มีครอบครัว จะเป็นบาป บางคนชงกันรักกันมากก็มี อย่างการเลือกคู่คนที่เป็นสามี ภรรยากันดวงจะต้องปีเกิดกับเดือนเกิดประสานกันถึงจะดีที่สุด ถึงจะเป็นคู่กัน ปีเกิด เดือนเกิดไม่สัมพันธ์กันเลยในที่สุดครอบครัวจะเกิดความขัดแย้งกัน แต่มีข้อแม้ว่าได้ลูกมาฮะพ่อ แม่ก็พออยู่ได้" "อาจารย์ธวัชพงศ์" เล่าถึงประสบการณ์ในการทำงานที่สะท้อนให้เห็นว่าศาสตร์ในเรื่องโหงวเฮ้งนั้น มีรายละเอียดที่ต้องฟังก่อนปฏิบัติมากมาย

    นอกจากนั้นแล้ว ยังมีเรื่องของเดือน นักษัตร

    คนที่เกิดในช่วงวันที่ 5 กุมภาพันธ์- 4 มีนาคม จะอยู่เดือนขาล

    คนที่เกิดในช่วงวันที่ 5 มีนาคม- 4 เมษายน จะอยู่เดือนเถาะ

    คนที่เกิดในช่วงวันที่ 5 เมษายน- 4 พฤษภาคม จะอยู่เดือนมะโรง

    คนที่เกิดในช่วงวันที่ 5 พฤษภาคม- 4 มิถุนายน จะอยู่เดือนมะเส็ง

    คนที่เกิดในช่วงวันที่ 5 มิถุนายน- 4 กรกฎาคม จะอยู่เดือนมะเมีย

    คนที่เกิดในช่วงวันที่ 5 กรกฎาคม- 4 สิงหาคม จะอยู่เดือนมะแม

    คนที่เกิดในช่วงวันที่ 5 สิงหาคม- 4 กันยายน จะอยู่เดือนวอก

    คนที่เกิดในช่วงวันที่ 5 กันยายน- 4 ตุลาคม จะอยู่เดือนระกา

    คนที่เกิดในช่วงวันที่ 5 ตุลาคม- 4 พฤศจิกายน จะอยู่เดือนจอ

    คนที่เกิดในช่วงวันที่ 5 พฤศจิกายน- 4 ธันวาคม จะอยู่เดือนกุน

    คนที่เกิดในช่วงวันที่ 5 ธันวาคม- 4 มกราคม จะอยู่เดือนชวด

    คนที่เกิดในช่วงวันที่ 5 มกราคม- 4 กุมภาพันธ์ จะอยู่เดือนฉลู

    " เราจะเลือกลูกน้องต้องสัมพันธ์กับ เรา โดยเฉพาะปีเกิดสำคัญเป็นลำดับแรก ถ้าเดือนเกิดเขาสัมพันธ์กับเรา จะไขว้มาฮะกับเรา จะไขว้มาฮะเดือนเรา อย่างใด อย่างหนึ่ง เขาจะเกื้อกูลเราด้านการงาน เพื่อนเราที่รักกับเราเดือนเกิดจะต้องสัมพันธ์กัน ซึ่งจะเป็นเพื่อนรักที่ช่วยเหลือ กันอย่างจริงจัง แต่ถ้าสัมพันธ์กันโดยการ ชง มันจะมีอะไรที่ไม่ปกติ ในสามีภรรยา จะไม่มีลูกเลยหรือมีลูกแค่เพศเดียว คนเดียว"

    "อาจารย์ธวัชพงศ์" บอกว่า ทุกอย่างมีความหมายที่แตกต่างกันทั้งปีเกิด เดือนเกิด วันเกิด และเวลาเกิด

    ปีเกิด หมายถึง สุขภาพ ร่างกาย ความแข็งแรง

    เดือนเกิด หมายถึง อาชีพการงาน ความสำเร็จในการงาน

    วันเกิด หมายถึง ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชะตากับครอบครัว

    เวลาเกิด หมายถึง ความรัก ความสมหวังในรัก

    " หลายคนคิดว่าตอนนี้ปีฉลูแล้ว ไม่ใช่ตอนนี้ยังอยู่ในปีชวดอยู่ และสิ้นสุดปีชวดนั้นไม่ใช่ตรุษจีน แต่ตรุษจีนมันภาษาชาวบ้าน ตามโหราศาสตร์จะเปลี่ยนจากปีชวดเป็นฉลู วันที่ 4 กุมภาพันธ์ เที่ยงคืน 45 นาที ถ้าเกิดเปลี่ยนปีใครที่ชงก็จะพ้น ใครที่ไม่ชงก็เตรียมชง ฉลู มะแม จอ มะโรง 4 ปีนี้จะชง และตัวที่ชงแรงๆ คือ มะแม 100 เปอร์เซ็นต์ ฉลู 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนจอกับมะโรง 25 25 เล็กๆ น้อยๆ ไม่ต้องไปสนใจ ท่านที่จะไปหาซินแซ ไปหาหมอดูว่า ปีนี้ผมจะเปลี่ยนดีไหม ปีนี้หนูจะเริ่มธุรกิจดีไหม เขาดูจากตรงนี้เป็นตัววัด ปีชง เดือนชง เริ่มอะไรไม่ได้ อยู่ตรงไหนกอดเก้าอี้เอาไว้ให้แน่นๆ"

    "การเปลี่ยน แปลงในปีชงหรือเดือนชงนั้น อย่าลืมเดือนเกิดเราก็เป็นนักษัตร ถ้านักษัตรเราเป็นเดือนฉลู เราเกิดเดือนมกราคมหลังวันที่ 5 ปีหน้าปีฉลู เดือนเกิดเราเป็นฉลู เท่ากับเราชง ฉะนั้นเดือนเกิดเราชง เดือนเกิดคือการงานอาชีพ การเปลี่ยนแปลงยังไงก็ไม่ดี อยู่นิ่งๆ ดีที่สุด ปีไหนชง ใครมาชวนลงทุนทำอะไรบอกไปเลยว่าไม่ทำ แต่ละเดือนที่หมุนเวียนเข้ามาอย่างวันนี้วันที่ 22 มกราคม เรารู้เลยว่าเดือนนี้เป็นเดือนฉลู ใครที่เกิดเดือนกรกฎาคมจะเกิดความวุ่นวายใจในเรื่องการงาน เพราะเดือนนี้ชงกับเดือนเกิด ใครมาชวนทำอะไรใหม่ๆ ในเดือนนี้ไม่ทำ นั่นคือหลัก ท่านใช้หลักพวกนี้ในการเลือกสรรหรือใช้บริหารงาน HR บวกกับสิ่งที่ท่านรู้ ท่านจะคัดคนได้ดีทีเดียว"

    ทั้งหมดคือเคล็ดลับ ในการคัดเลือกคนที่ "อาจารย์ธวัชพงศ์" ใช้มาตลอด ท่านจึงเชื่อว่าหากนักบริหารทรัพยากรมนุษย์ ผู้นำองค์กรนำหลักการนี้ไปประยุกต์ใช้ในการคัดเลือกบุคลากร อนาคตขององค์กรย่อมเติบโตอย่างแข็งแกร่งแน่นอน

    ที่มา : http://www.tumsrivichai.com
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    เรียบร้อยครับ ได้รักมาแล้ว

    แต่หนักจริงๆ

    ที่ทำงานพอรู้ว่าผมจะไปแถววัดสุทัศน์ฯ ก็ฝากซื้อขนมปัง มนต์นมสด กันเยอะเลย หอบหิ้วพะรุงพะรังมา ก็เลยนั่งแท็กซี่กลับมาที่ทำงาน

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2010
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    หากพรุ่งนี้ไม่มีอะไรผิดพลาด จะนิมนต์พระบูชา "หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า" หน้าตัก 9 นิ้ว จำนวน 2 องค์ ฝากพี่สิทธิพรถวายเป็นสมบัติของสงฆ์ 2 วัด คือ

    1.วัดพระปฐมเจดีย์
    2.วัดพระอุปคุต (จ.เชียงใหม่)


    ผมจะใช้เงิน(บางส่วน)ของกองทุนหาพระถวายวัดครับ

    โมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ได้ร่วมกันบริจาคเงินเข้ากองทุนหาพระถวายวัดครับ


    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2010
  19. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    :cool::cool:
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    สำหรับท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และคณะพระวังหน้า ท่านใดมีความประสงค์ที่จะได้โถแก้ว รบกวนแจ้งผมด่วน ภายในวันพุธ (24 กุมภาพันธ์ 2553) นี้

    โดยให้โพสแจ้งในกระทู้พระวังหน้าฯนี้ หรือ โทร.บอกผมก็ได้ครับ

    ตอนนี้มีสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า จองมา 1 ท่าน จำนวน 10 โถแล้วครับ

    ท่านที่จอง ผมจะแจ้งหมายเลขบัญชีให้อีกครั้งนะครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    .


    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sittiporn.s [​IMG]
    โถแก้วทรงกลมจะมี 3 ขนาดคือ
    1. ขนาดเล็กวัดภายใน 3 ซม. ราคาประมาณ 60-80 บาท
    2. ขนาดกลางวัดภายใน 4 ซม. ราคาประมาณ 80-100 บาท
    3. ขนาดใหญ่วัดภายใน 5 ซม. ราคาประมาณ 120-160 บาท
    ที่ผมส่งไปให้คุณหนุ่มตามรูปเป็นขนาดใหญ่ครับ ราคาไม่แน่นอนขึ้นกับการนำเข้ามาในแต่ละครั้ง และขึ้นกับความพอใจหรืออารมณ์ของผู้ขาย แต่ทุกครั้งที่ผมใช้จะบอกยอดที่ต้องการเขาจะขายให้ผมในราคาต้นทุน บางครั้งเขาไม่คิดเงินผมต้องประมาณราคาเองและให้เขาครึ่งราคาพร้อมทั้งมอบพระบรมสารีริกธาตุ หรือพระธาตุพระอรหันต์ หรือพระวังหน้าให้เขาไว้บูชา เขาเป็นคนใจบุญและศรัทธาคณะหลวงปู่มาก
    ท่านใดต้องการขนาดใดกรุณาแจ้งยอดให้คุณหนุ่มรวบรวมบอกผมอีกครั้งผมจะได้ไปรับครั้งเดียว
    ขอโมทนากับความดีของคณะศิษยานุศิษย์คณะหลวงปู่ทุกท่านครับ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ผมขอรับแจ้งยอดสุดท้ายคือวันอาทิตย์ครับ

    วันจันทร์ผมจะได้ดำเนินการส่งยอดการจองโถแก้วให้พี่สิทธิพรครับ

    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...