ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

ความรู้เกี่ยวกับเทศกาลตรุษจีน




​

ตรุษจีน หรือ เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ (ตัวเต็ม: 春節, ตัวย่อ: 春节, พินอิน: Chūnjíe ชุนเจี๋ย) หรือ ขึ้นปีเพาะปลูกใหม่ (ตัวเต็ม: 農曆新年, ตัวย่อ: 农历新年, พินอิน: Nónglì Xīnnián หนงลี่ ซินเหนียน) และยังรู้จักกันในนาม วันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติ เป็นวันขึ้นปีใหม่ตามประเพณีของชาวจีนในจีนแผ่นดินใหญ่และชาวจีนโพ้นทะเลทั่วโลก เทศกาลนี้เริ่มต้นในวันที่ 1 เดือน 1 ของปีตามจันทรคติ (正月 พินอิน: zhèng yuè เจิ้งเยฺว่) และสิ้นสุดในวันที่ 15 ซึ่งจะเป็นเทศกาลประดับโคมไฟ (ตัวเต็ม: 元宵節, ตัวย่อ: 元宵节, พินอิน: yuán xiāo jié หยวนเซียวเจี๋ย)
คืนก่อนวันตรุษจีน ตามภาษาจีนกลางเรียกว่า 除夕 (พินอิน: Chúxì ฉูซี่) หมายถึงการผลัดเปลี่ยนยามค่ำคืน
ในวันตรุษจีนจะมีการเฉลิมฉลองทั่วโลกโดยเฉพาะชุมชนเชื้อสายจีนขนาดใหญ่ และตรุษจีนถือเป็นวันหยุดที่สำคัญมากช่วงหนึ่งของชาวจีน และยังแผ่อิทธิพลไปถึงการฉลองปีใหม่ของชนชาติที่อยู่รายรอบ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี เมี่ยน ม้ง มองโกเลีย เวียดนาม ทิเบต เนปาล และภูฐาน สำหรับชาวจีนที่อาศัยอยู่ต่างถิ่นกันก็จะมีประเพณีเฉลิมฉลองต่างกันไป ในประเทศไทย​

วันตรุษจีนในปฏิทินสุริยคติ​

<TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD style="WIDTH: 10%" width="10%">ปี </TD><TD>วันที่</TD><TD style="WIDTH: 30%" width="30%"> วันที่</TD><TD style="WIDTH: 30%" width="30%"> วันที่ </TD></TR><TR><TD>ปีชวด </TD><TD>19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539 </TD><TD>7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 </TD><TD>25 มกราคม พ.ศ. 2563 </TD></TR><TR><TD>ปีฉลู</TD><TD> 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2540 </TD><TD>26 มกราคม พ.ศ. 2552 </TD><TD>12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 </TD></TR><TR><TD>ปีขาล </TD><TD>28 มกราคม พ.ศ. 2541 </TD><TD>14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 </TD><TD>1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 </TD></TR><TR><TD>ปีเถาะ </TD><TD>16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 </TD><TD>3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 </TD><TD>22 มกราคม พ.ศ. 2566 </TD></TR><TR><TD>ปีมะโรง </TD><TD>5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 </TD><TD>23 มกราคม พ.ศ. 2555 </TD><TD>10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 </TD></TR><TR><TD>ปีมะเส็ง </TD><TD>24 มกราคม พ.ศ. 2544 </TD><TD>10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 </TD><TD>29 มกราคม พ.ศ. 2568 </TD></TR><TR><TD>ปีมะเมีย </TD><TD>12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 </TD><TD>31 มกราคม พ.ศ. 2557 </TD><TD>17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2569 </TD></TR><TR><TD>ปีมะแม </TD><TD>1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546 </TD><TD>19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 </TD><TD>6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2570 </TD></TR><TR><TD>ปีวอก </TD><TD>22 มกราคม พ.ศ. 2547 </TD><TD>8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 </TD><TD>26 มกราคม พ.ศ. 2571 </TD></TR><TR><TD>ปีระกา </TD><TD>9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 </TD><TD>28 มกราคม พ.ศ. 2560 </TD><TD>13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2572 </TD></TR><TR><TD>ปีจอ </TD><TD>29 มกราคม พ.ศ. 2549 </TD><TD>16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 </TD><TD>3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2573 </TD></TR><TR><TD>ปีกุน </TD><TD>18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 </TD><TD>5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 </TD><TD>23 มกราคม พ.ศ. 2574 </TD></TR></TBODY></TABLE>

ตรุษจีนในประเทศไทย
ชาวไทยเชื้อสายจีนจะถือประเพณีปฏิบัติอยู่ 3 วัน คือวันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยว
++วันจ่าย คือวันก่อนวันสิ้นปี เป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะต้องไปซื้ออาหารผลไม้และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ ก่อนที่ร้านค้าทั้งหลายจะปิดร้านหยุดพักผ่อนยาว ในตอนค่ำจะมีการจุดธูปอัญเชิญเจ้าที่ (地主爺 / 地主爷 ตี่จู้เอี๊ย) ให้ลงมาจากสวรรค์เพื่อรับการสักการบูชาของเจ้าบ้าน หลังจากที่ได้ไหว้อัญเชิญขึ้นสวรรค์เมื่อ 4 วันที่แล้ว

++วันไหว้ คือวันสิ้นปี จะมีการไหว้ 3 ครั้ง คือ
- ตอนเช้ามืดจะไหว้ "ไป่เล่าเอี๊ย" (拜老爺 / 拜老爷) เป็นการไหว้เทพเจ้าต่างๆ เครื่องไหว้คือ เนื้อสัตว์สามอย่าง (ซาแซ) ได้แก่ หมู เป็ด ไก่ หรือเพิ่มตับ ปลา เป็นเนื้อสัตว์ห้าอย่าง (โหงวแซ) เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทอง
- ตอนสาย จะไหว้ "ไป่แป๋บ้อ" (拜父母) คือการไหว้บรรพบุรุษ พ่อแม่ญาติพี่น้องที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว เป็นการแสดงความกตัญญูตามคติจีน การไหว้ครั้งนี้จะไหว้ไม่เกินเที่ยง เครื่องไหว้จะประกอบด้วย ซาแซ อาหารคาวหวาน (ส่วนมากจะทำตามที่ผู้ที่ล่วงลับเคยชอบ) รวมทั้งการเผากระดาษเงินกระดาษทอง เสื้อผ้ากระดาษเพื่ออุทิศแก่ผู้ล่วงลับ หลังจากนั้น ญาติพี่น้องจะมารวมกันรับประทานอาหารที่ได้เซ่นไหว้ไปเป็นสิริมงคล และถือเป็นเวลาที่ครอบครัวหรือวงศ์ตระกูลจะรวมตัวกันได้มากที่สุด จะแลกเปลี่ยนอั่งเปาหลังจากรับประทานอาหารร่วมกันแล้ว
- ตอนบ่าย จะไหว้ "ไป่ฮ่อเฮียตี๋" (拜好兄弟) เป็นการไหว้ผีพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว เครื่องไหว้จะเป็นพวกขนมเข่ง ขนมเทียน เผือกเชื่อมน้ำตาล กระดาษเงินกระดาษทอง พร้อมทั้งมีการจุดประทัดเพื่อไล่สิ่งชั่วร้ายและเพื่อเป็นสิริมงคล

++วันเที่ยว หรือ วันถือ คือวันขึ้นปีใหม่ เป็นวันที่หนึ่ง (初一 ชิวอิก) ของเดือนที่หนึ่งของปี วันนี้ชาวจีนจะถือธรรมเนียมโบราณที่ยังปฏิบัติสืบต่อกันมาถึงปัจจุบันคือ "ไป่เจีย" เป็นการไหว้ขอพรและอวยพรจากญาติผู้ใหญ่และผู้ที่เคารพรัก โดยนำส้มสีทองไปมอบให้ เหตุที่ให้ส้มก็เพราะส้มออกเสียงภาษาจีนแต้จิ๋วว่า "กิก" (橘) ซึ่งไปพ้องกับคำว่าความสุขหรือโชคลาภ (吉) [1] เพราะฉะนั้นการให้ส้มจึงเหมือนนำความสุขหรือโชคลาภไปให้ จะมอบส้มจำนวน 4 ผล ห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าของผู้ชาย เหตุที่เรียกวันนี้ว่าวันถือคือ เป็นวันที่ชาวจีนถือว่าเป็นสิริมงคล งดการทำบาป จะมีคติถือบางอย่าง เช่น ไม่พูดจาไม่ดีต่อกัน ไม่ทวงหนี้กัน ไม่จับไม้กวาด และจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่แล้วออกเยี่ยมอวยพรและพักผ่อนนอกบ้าน เป็นต้น

เกร็ด
สัญลักษณ์อีกอย่างของเทศกาลนี้ คือ อั่งเปา (ซองแดง) คือ ซองแดงใส่เงินที่ผู้ใหญ่แล้วจะมอบให้ผู้น้อย และมีการแลกเปลี่ยนกันเอง หรือ หรือจะใช้คำว่า แต๊ะเอีย (ผูกเอว) ที่มาคือในสมัยก่อน เหรียญจะมีรูตรงกลาง ผู้ใหญ่จะร้อยด้วยเชือกสีแดงเป็นพวงๆ และนำมามอบให้เด็กๆ เด็กๆ ก็จะนำมาผูกเก็บไว้ที่เอว

ในเทศกาลนี้ ชาวจีนจะกล่าวคำ ห่ออ่วย หรอคำอวยพรภาษาจีนให้กัน หรือมีการติดห่ออ่วยไว้ตามสถานที่ต่างๆ คำที่นิยมใช้กันได้แก่
新正如意 新年發財 / 新正如意 新年发财 (แต้จิ๋ว: ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ จีนกลาง: ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาฉาย) แปลว่า ขอให้ประสบโชคดี ขอให้มั่งมีปีใหม่
恭喜發財 / 恭喜发财 (จีนกลาง: กงฉี่ฟาฉาย)
เกียฮ่อซินนี้ ซินนี้ตั้วถั่น แปลว่า สวัสดีปีใหม่ ขอให้ร่ำรวยๆ
อีกฝ่ายก็จะกล่าวตอบว่า ตั่งตังยู่อี่ แปลว่า ขอให้สุขสมหวังเช่นกัน

ขอบคุณ wikipedia
​

​

​

 

www.ufokaokala.com เข้าไม่ได้เลยค่ะ เจอแต่หน้าหลัก แต่ไม่สามารถคลิ๊กเข้าไปอ่านน่ะค่ะ

 

ผมขออนุโมทนา..กับทุกๆกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมของกลุ่มเขากะลา ซึ่งทุกกิจกรรมล้วนมีแต่ผู้อุทิศแรงกายแรงใจโดยไม่มีความเหน็ดเหนื่อย และเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือมวลมนุษย์โลกด้วยเมตตาจิต ถึงแม้จะต้องต้านทานต่อคำครหาต่างๆนาๆ ก็ไม่เคยสนใจต่อคำครหาเหล่านั้น เพราะนั่นเป็นเพียงแค่ทดสอบ ผมขอเป็นแรงใจให้กับทุกๆท่านให้ปฎิบัติภาระกิจในภพชาตินี้สำเร็จลุล่วงดั่งที่ทุกท่านได้อธิฐานจิตลงมาเพื่องานอันสำคัญนี้ซึ่งไม่อาจรู้ได้เลยว่าเหตุการณ์ข้างหน้าจะต้องพบกับอุปสรรคอะไรบ้าง อย่างน้อยพวกเราก็ได้เห็นถึงความตั้งใจจริงของพวกท่านที่มุ่งมั่นเพื่อประโยชน์ของมนุษย์ร่วมโลกด้วยกันโดยที่พวกท่านไม่เรียกร้องหาสิ่งตอบแทนใดๆเลย....
ขอให้อานิสงค์นี้..ส่งผลให้พวกท่านบรรลุธรรมโดยเร็ววันเทอญ.....

 

อยู่ในขั้นดำเนินการอยู่ครับ คุณลินดา
คงต้องรอกลับจากเขาค้อมาก่อน
คุณเทพบุตรชาวดิน จะได้ดำเนินการต่อ
เพื่อเปิด เข้าไปหารายละเอียดได้ครับ

 

พุทธะ คือ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน

ผู้รู้ คือ รู้เหตุ รู้ภัยในวัฎฎสงสาร
ผู้ตื่น คือ ตื่นจากการหลงผิด ไม่มัวเมาหลับใหลอยู่ในสิ่งผิด
ผู้เบิกบาน คือ พบแล้วซึ่งความสุขอันนิรันดร์

ดังนั้น พุทธะ คือ ความหมายสากล ทุกชาติศาสนา ย่อมสามารถเข้าถึงได้
ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็ยังต้องอิงอาศัยอุบาย เพราะมนุษย์เราจริตไม่เหมือนกัน
อาจมองแล้วเหมือนผิดไปจาก ระเบียบบัญญัติไว้ในศาสนา
แต่จุดหมายปลายทางก็คือสิ่งเดียวกัน

มิต้องสงสัยเลยว่า ทำไม จึงปรากฏมีนิกายต่างๆ
หรือศาสนาต่างๆขึ้นมาบนโลกใบนี้
ทุกอย่างเกิดมาต่างกรรม ต่างวาระ
จึงย่อมมีสิ่งแตกต่างกันไปตามกรรม และวาระ

ไม่มีแตกแยก มีแตกต่างกันบ้าง ไปตามเหตุปัจจัยนั้นแล


รู้ที่ตน สำเร็จที่ตน คือหนทางแห่ง พุทธะ

 

ขอบคุณ คุณพี่ MOUNTAIN ค่ะ

 

" ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้"​

เทศกาลตรุษจีนปี 2553

ขอร่วม​

สวัสดีปีใหม่
กับทุก ๆ ท่านด้วยเช่นกันค่ะ​

​

 

วันนี้ ​

วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2553​

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ​

ได้มีกิจกรรม สแกนกรรม และรักษาผู้ป่วย
ที่เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
ในขณะนี้คณะอาจารย์ของกลุ่มฯ กำลังอยู่ระหว่างการเดินทางออกจากกรุงเทพฯ
และนัดหมายพบกันที่จุดนัดพบ ร้านคืนชีวิตให้แผ่นดิน ที่เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์​

ขอขอบคุณ....ผ.อ.วรวิทย์ ที่ได้จัดสถานที่ และให้การรับรองคณะอาจารย์ในครั้งนี้
และ ขอขอบคุณ ... คณะอาจารย์ฯ สแกนกรรม รักษาผู้ป่วย ทุก ๆ ท่าน
รวมถึงอาจารย์โคมฉาย อาจารย์ชยา ที่ให้เกียรติร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
และเพื่อน ๆ สมาชิกที่เดินทางเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ทุก ๆ ท่าน​

ขอขอบคุณ และขออนุโมทนาด้วยอย่างยิ่งค่ะ​

มีหลายท่านอยากชม MV. เพลง ฉันมาไกล ประกอบภาพการรักษาผู้ป่วย
ของคณะอาจารย์ที่อุตรดิตถ์อีกครั้ง ​

เนื่องจากในชุดแรก ได้ชมเพียงครึ่งเดียวไม่จบชุดเนื่องจากไฟล์ใหญ่เกินไปโหลดไม่ได้​

ดังนั้น จึงแปลงไฟล์ให้เล็กลง และนำมาให้ชมกันอีกครั้งหนึ่ง
ก่อนที่จะมีการทำกิจกรรม สแกนกรรม และรักษาผู้ป่วยอีกครั้ง
ในเย็นนี้ที่เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ค่ะ​

[VDO]http://palungjit.org/attachments/a.863870/[/VDO]​

.......​

 

พอดีไปเจอคลิปอะไรแปลกๆ เลยโหลดเอามาตัดเล่น แปะเพลง แล้วอัพลงมาใหม่

อาจจะดุโหดไปหน่อย ไว้จะพิจารณาลบอีกทีค่ะ

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=EWTFDxuyW6A]YouTube - end of the world?[/ame]

 

<object width="640" height="505"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/UQfhwBGRtfs&hl=en_US&fs=1&color1=0xcc2550&color2=0xe87a9f"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/UQfhwBGRtfs&hl=en_US&fs=1&color1=0xcc2550&color2=0xe87a9f" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="640" height="505"></embed></object>
​

 

เฮง เฮง เฮง ทุกๆท่าน

 

แต่ที่ศึกษากลุมนี้มานานปรากฎว่า การทำงานของระบบไม่มีใครบอกว่ามาจากกฏแห่งกรรม
ตัวเราได้สนทนากับอาจาร์ยระบบหลายๆคนมา

ว่าขันธ์ของเรานั้นเมื่อตัวท่านคือคนของระบบท่านก็ต้องทำงานระบบเพื่อช่วยเหลือมวลมนุษย์
การช่วยเหลือมวลมนุษย์อันนี้ขอโมทนา

แล้วสิ่งที่ท่านต้องทำเพื่อละวางอัตตา
บางท่านละวางถูกต้องตามหลักศาสนาพุทธ ขอโมทนา

แต่บางท่านรู้สึกจะเข้าใจแบบผิดๆอันนี้น่าเป็นห่วง

แต่ในระบบที่หลายๆคนที่เคยเห็นและก็แยกย้ายกันไปบ้าง
ปรากฏว่า ระบบที่เห็นอยู่นี้ คือระบบอ้าง หรือ อ้างระบบ

ท่านทังหลายเกิดมาเพื่อ ขันธ์5 เป็นอุปกรณ์ของระบบ
ท่านต้องมีงานทำที่ลำบากลง หรือท่าน จะบอกว่าทำงานเหมือนไม่ได้ทำ
เป็นเพราะระบบ จัดสรรไว้ ตามสมาพันแห่งจักรวาลนี้
แต่ไม่มีใครพูดว่า อุปกรณ์นี้เกิดมาจากกรรม
เกิดมาเป็นอุปกรณ์ แล้วมีไอ้จิตรู้ติดอยู่
ท่านก็มาดูการทำงานของขันธ์

แต่ถ้ามีคนถามว่า ทำไมท่านยังติดระบบ ยังต้องทำงานอยู่
ท่านก็บอกว่าท่านไม่ได้ติดขันธ์5มันทำงาน
แล้วที่พูดนั้นไม่ใช่ขันธ์5 หือ.........

ตามหลัก คือ ศีล สมาธิ ปัญญา

แต่เขากะลา มีปัญญาเลยจากเวฟ

บางท่านเคยกล่าวว่าไม่จำเป็นต้องทำสมาธิก็ได้

แล้วปัญญาจะเกิดได้อย่างไร

การเอานิพพานมาอ้างโดยไม่มีใครกล่าวเรื่อง

มรรคผล๔ นิพพาน๑
มรรคผลนี้ พระพุทธองค์ทรงจำแนกไว้อยู่ ๔ ขั้นด้วยกัน คือ มรรค ๔ ผล ๔ คือ ๑. โสดาปัตติมรรค โสดาปัตติผล ๒. สกิทาคามิมรรค สกิทาคามิผล ๓. อนาคามิมรรค อนาคามิผล ๔. อรหัตตมรรค อรหัตตผล แล้วจึงจะถึงพระนิพพาน ทั้งหมดนี้รวมเป็น ๙ ขั้นด้วยกัน คือมรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑

นิพานหน่ะของสูงนะคุณ

โดยการอาศัยว่า
เมื่อมีคนที่มีจิตใจอันเป็นเมตตามีพลังพุทธานุภาพ

เมื่อพวกสัมผัสได้ของท่านก็ว่า นั้นคือคนระบบ
เป็นอุปกรณ์ของต่างดาว
เขาก็เชื่อเพราะเขามีใจอันเป็นเมตตาอยากช่วยเหลือ
พอเขามีความสามารถหน่อย ท่านก็ว่าอาจาร์ยระบบ
พอเขามีพลังหน่อยท่านก็ว่านั้นคือเวฟ

แต่ถ้ามันไม่ใช่ขึ้นมาท่านก็ว่าการพูดของขันธ์5คือ
สักแต่ว่าพูดสักแต่ว่าคิด

ท่านโดนระบบครอบงำ

พอมีคนไม่เชื่อระบบ

ท่านก็บอกว่าแจ้งเพื่อทราบ
แต่ถ้ามีคนเขาเริ่มสงสัยท่านก็บอกนั้นคือเวฟ

พวกท่านทุกคนโดนชักใยโดยระบบ ที่ไม่ใช่คน
โดยที่พวกท่านไม่เกี่ยว
ท่านทำไปด้วยความเมตตา
ขออณุโมทนากับการช่วยเหลือภัยพิบัติอันใกล้
แม้แต่ ท่านสุดใจก็ไม่เกี่ยวท่านมีความเมตตา

แต่ระบบที่ว่ามีคนเคยพบเคยเจอเคยเห็น
มันไม่เป็นอย่างเก่าแล้ว
มันเป็นอะไรที่น่าสงสัย
และไม่ใช่มนุยษ์และไม่ใช่ต่างดาว

การที่ละวางอัตตาตาแบบผิดหลักการ
ก็จะไม่มีอะไรยึดเหนี่ยวใจทั้งที่ใจไม่ใช่ทางนิพพาน
ขณะที่ท่านเคว้งก็จะโดนครอบงำ
และเพลิดเพลินกับการทำงานโดยไม่รู้ตัว
สุดท้ายระบบจะกลายเป็น สรณะ

นรกมีจริง กรรมมีจริง


ขอเลียนแบบคำว่าแจ้งเพื่อทราบนะ

ส่วนเรื่องการช่วยเหลือภัยพิภัย
ทั้งก่อน ขณะเกิด และหลัง
ข้าพเจ้าขออณุโมทนา

ขอให้นองไล้ พิจรณา อย่าไปลึกกว่านี้

สาธุ

 

มีตะเกียง
สองดวง ที่ช่วง โชติวาว
ส่องแสง แพรวพราว
ให้ความ สว่าง สดใส
ดวงหนึ่ง สว่าง
อยู่ที่ ณ ถิ่น แดนไกล
ดวงหนึ่ง สดใส
อยู่ใน วิมาน เมืองแมน
..ดวงหนึ่ง เพิ่มบรร ยากาศ
ดวงหนึ่ง ส่องสาด
เพราะขาด สิ้นแสง สุรีย์
คุณค่า ที่มี
เพียงต่าง ที่วาง
และสิ่ง มุ่งหวัง
...ผู้คน
ที่ห่าง กันทั้ง สองทาง
ต่างก็ มุ่งหวัง
ในชี วิตและ จุดหมาย
เปลวเทียน ลับล่วง
แท่งเทียน ก็มอด มลาย
คุณค่า ความหมาย
ได้มอบ สิ่งใด
ทิ้งไว้ แทนตน
Solo 12 Bars
.>>>มนุษย์ ทั้งหลาย
มากมาย สุดแสน สับสน
ยอกย้อน เวียนวน
เข่นฆ่า แก่งแย่ง แข่งขัน
มองข้าม ความรัก
ไร้รัก ให้กัน และกัน
โลกแปร เปลี่ยนผัน
ไร้สุข มีทุกข์ ไม่คลาย
...ผู้คน
ที่ห่าง กันทั้ง สองทาง
ต่างก็ มุ่งหวัง
ในชี วิตและ จุดหมาย
เปลวเทียน ลับล่วง
แท่งเทียน ก็มอด มลาย
คุณค่า ความหมาย...
ได้มอบ สิ่งใด
ทิ้งไว้ แทนตน

 

พอดีจำสูตรนิพพานถอดสแควรูท แก้รากไม่ได้

จึงยึดเอาสิ่งที่เจอว่าเป็นปัจจุบัน และไม่เที่ยง

ระบบใคร ของใคร จะบูชาอะไร เรื่องคนอื่นเค้าไป รู้ตัวเอาล่ะ ว่านั่นก็ไม่ใช่เรา

ระบบ ก็ระบบ เวฟก็เรื่องเวฟไป เพราะไม่ได้เข้าลัทธิบูชาเวฟ

เพียงแต่ทราบอะไรมาก็ถ่ายทอดออกไป เพราะไม่ได้เกิดจากความคิดที่มาจากตัวเอง

ก็แค่เป็นโทรศัพท์ ที่คอย แปล คลื่นออกมา -*-

เปลี่ยนซิมส์ ก็เปลี่ยนผู้ให้บริการ เพราะเกิดเป็นโทรศัพท์ เลือกซิมส์มาใช้เองคงไม่ได้ -*-

พอดีไม่มีความรู้เรื่องไตรยางค์บัญัติศัพท์ เลยขอละไปในฐานที่ยังไม่ถึงเวลาจะเข้าใจ

.......กล่าว

^-^

มีบอทมาอัพกระทู้ อย่างนี้สบายใจ จะขอตัวแวบไปทำคลิปวันเกิดพี่สุดใจแล้วจ๊า

 

วันที่29/01/2553 ที่บ้านผมที่พัทยา เวลาประมาณ4-5โมงเย็น เพื่อนผมชี้ให้ดูเมฆประหลาดรูปเหมือนดาบชี้ขึ้นฟ้า มีแสงอาทิตสะท้อนแล้วสวยดี ผมก้อมองดูแล้วก้อเกิดอาการละสายตาไม่ออกเพราะมันสวย ตอนนิเพื่อนผมมันก้อละสายตาไปทำอย่างอื่นแล้ว ส่วนผมก้อยังมองอยู่ ไม่รุจามองทำไมนักหนา แต่ก้อเหมือนอะไรจะดลใจนะครับ มองอยู่ซักพัก ด้านบนของเมฆรูปดาบนั่นก้อมีวัตถุส่องแสงสีส้ม ทรงกลมเล็กๆ จ้ามากๆยังกะแสงเลเซ่อ โผล่ออกมาให้เห็นจากกลีบเมฆที่อยู่สูงขึ้นไปอีก ประมาน5วินาที นาทีนั้นผมได้แต่อึ้งจ้องอยู่คนเดียวเลยเรียกเพื่อนมาดูไม่ทัน พอเรียกมาก้อหายเข้าไปในกลับเมฆแล้ว แต่ตอนที่ผมกะลังโวยวายให้เพื่อนฟังนั้น วัตถุนั้นก้อโผล่มาให้เห็นอีกครั้งนานกว่าเดิมนิดหน่อย เพื่อนผมค้างเลยครับ เลยกลายมาเป็นประเดนทอล์คออฟเดอะทาวให้คุยกะเพื่อนๆมันสเลยคับ ปล. แฟนผมบ่นว่าทำไมไม่วิ่งมาบอกให้ออกไปดูบ้าง พอดีเค้าอยู่ในห้องนอน ผมบอกแฟนผมว่ามันอึ้งจริงๆคับ วิ่งไปใหนมะออก เอาเปนว่าเห็นละจารู้เองครับ ฮี๊วว ดีใจๆ

 

๑๔ กุมภาพันธ์ Happy วันเกิด พี่สุดใจ ^^

เมื่อวานแวะไปดูโปรไฟล์พี่สุดใจเลยแวบมากับตา *-*

พอดีพี่จุกก็โทรมาด้วย โอเค งั้นตอนกลางคืนทำคลิปวันเกิด

ส่งเป็นของขวัญให้พี่สุดใจ ค่ะ^-^

-รอโหลดคุณภาพวีดิโออยู่ ช่วงแรกๆภาพจะยังไม่ชัดค่ะ รอสักครู่^^_

<object width="640" height="505">


<embed src="http://www.youtube.com/v/TkcKF4AJua0&hl=en_US&fs=1&" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="640" height="505"></object>
​

 

สวัสดีค่ะ ท่านสมาชิกทุกท่าน
สวัสดีค่ะ พี่สุดใจ หรือ อ.สุดใจ (ติดเรียกพี่ จากที่ตามอ่าน กท ช่วงแรกๆ พี่แทนตัวเองว่า พี่ น่ะค่ะ เลยขอเรียกด้วยคน) นานๆเห็นพี่เข้ามาโพสต์ที ดีใจค่ะ
สวัสดี น้องไล้ น้องสันโดษ อ.ไก่, อ.เม้า และอีกหลายๆท่านด้วยค่ะ วันนี้เป็นวันแห่งความรัก ขอให้ทุกคนมีแต่ความรัก ความหวังดีให้กันนะคะ
คุณวิถีคนจร อาจมีความเห็นเป็นของตนเอง และบอกกล่าวด้วยความหวังดี ก็ขออนุโมทนาด้วยค่ะ
ส่วนเรื่องระบบ กับวิบากกรรม เอคิดว่า อาจจะเป็นสิ่งเดียวกันนะคะ ตามประสาคนไม่รู้อะไรมาก อย่าว่ากันเลยนะคะ

 

เจลดูดซับกัมมันตรังสี

<TABLE border=0 cellPadding=10 width=788 align=center><TBODY><TR><TD height=94 width=782>

พอดีไปเจอค่ะ จากเว๊บ สทน (Thailand Institute of Nuclear Technology) หวังว่าจะมีประโยชน์บ้างนะคะ (มือใหม่หัดโพสต์ค่ะ)​

เจลดูดซับสูง (Supergel)
สำหรับทำความสะอาดการเปรอะเปื้อนของสารกัมมันตรังสี​

</TD></TR><TR><TD vAlign=top>

ปรารถนา คิ้วสุวรรณ สุชาดา พงษ์พัฒน์ และวรรณี ศรีนุตตระกูล
กลุ่มวิจัยและพัฒนานิวเคลียร์
สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)

​

</TD></TR><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 width=763><TBODY><TR><TD vAlign=top width=502>เมื่อมีการฟุ้งกระจายของสารกัมมันตรังสีในเมืองใหญ่ จะมีการเปื้อนของสารกัมมันตรังสีตามอาคาร หรือสิ่งก่อสร้างประเภท คอนกรีต หรืออิฐ ซึ่งยากต่อการกำจัด หรือทำความสะอาด เนื่องจากโครงสร้างของคอนกรีตมีลักษณะไม่เรียบและเป็นรูพรุน การกำจัดสารกัมมันตรังสีที่เปื้อนบนสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ มักใช้วิธี การทุบทำลายทิ้ง
แต่ในปัจจุบันมีกลุ่มนักวิจัยจาก Argonne National Laboratory ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้คิดค้นเทคนิคใหม่ ในการกำจัดการเปื้อนของสารกัมมันตรังสี ที่ติดอยู่บนผิวของคอนกรีตเหล่านี้ ซึ่งเทคนิคดังกล่าวสามารถใช้แก้ปัญหาการเปื้อนของสารกัมมันตรังสีได้ดี โดยไม่จำเป็นต้องทุบทำลายสิ่งก่อสร้างเหล่านั้น
นักวิจัยกลุ่มดังกล่าว ได้ออกแบบวัสดุโดยใช้เทคนิคนาโนเทคโนโลยี ร่วมกับการใช้เจลชนิดที่มีประสิทธิภาพในการดูดซับสูง ที่เรียกว่า Supergel สำหรับทำความสะอาดอาคารต่างๆ รวมทั้งอนุสาวรีย์ที่มีการเปื้อน ของสารกัมมันตรังสี
</TD><TD width=251>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top>Michael Kaminski หัวหน้าทีมวิจัยได้รายงานว่า “เมื่อมีการใช้อุปกรณ์ที่มีสารกัมมันตรังสีในที่สาธารณะ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก คือการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสี ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะทำให้ยากที่จะกำจัดออกจากอาคาร ที่ทำจากอิฐหรือคอนกรีตให้หมดไปได้ เนื่องจากโครงสร้างของอาคารที่เป็นรูพรุน ทำให้สารกัมมันตรังสีถูกดักจับอยู่ภายในรูพรุนได้ง่าย” </TD></TR><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 width=647><TBODY><TR><TD width=15> </TD><TD width=622>

​

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD>

ลักษณะของ Supergel ที่คิดค้นโดยทีมนักวิจัยจาก Agronne National Labortory เพื่อใช้สำหรับกำจัดการเปื้อน ของสารกัมมันตภาพรังสี บนสิ่งก่อสร้างคอนกรีตหรืออิฐ​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top>ทีมวิจัยรายงานเพิ่มเติมอีกว่า การกำจัดการเปื้อนสารกัมมันตรังสีด้วยเทคนิคดังกล่าว ประกอบด้วยหลักการคล้ายกับการล้างรถแบบอัตโนมัติ มีขั้นตอนง่าย ๆ 3 ขั้นตอน โดย คือขั้นแรกจะฉีดพ่นสารลดแรงตึงผิว (wetting agent) ที่มีเจลที่มีประสิทธิภาพดูดซับสูงผสมอยู่ ลงไปบนผิวของวัสดุที่เปื้อนสารกัมมันตรังสี สารลดแรงตึงผิวนี้สามารถแทรกซึมเข้าไปในรูพรุน และจับกับสารกัมมันตรังสี ทำให้กระจายตัวและแขวนลอยอยู่ในสารลดแรงตึงผิว จากนั้นพอลิเมอร์เจลจะดูดซับสารลดแรงตึงผิวที่มีสารกัมมันตรังสีแขวนลอยอยู่ออกจากรูพรุน และเก็บกักไว้ในโครงสร้างของอนุภาคนาโน และขั้นตอนสุดท้ายพอลิเมอร์เจลนี้จะถูกดูดออกไป มีเหลือติดที่เนื้อคอนกรีตเพียงเล็กน้อยในปริมาณซึ่งไม่ก่อให้เกิดอันตราย ส่วนพอลิเมอร์เจล จะถูกนำไปแปรใช้ใหม่ (recycle) ต่อไป
</TD></TR><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 width=752 align=center><TBODY><TR><TD width=418>

​

</TD><TD width=324>

​

</TD></TR><TR><TD vAlign=top>

การฉีดพ่น Supergel บนพื้นผิวของคอนกรีต
โดยใช้เครื่องมือ ที่หาได้ในท้องตลาด​

</TD><TD>

การกำจัดเนื้อเจลด้วยแผ่นยาง ที่ใช้ทำความสะอาดพื้น ซึ่งสามารถซื้อ จากร้านทั่วไป ซึ่งผิวของคอนกรีต จะยังเปียกอยู่แต่ไม่มีเจลค้างอยู่ ​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top>Kaminski ได้อธิบายเพิ่มเติมอีกว่า พอลิเมอร์เจลที่ใช้นั้น สามารถดูดซับสารกัมมันตรังสีในลักษณะเดียวกับการดูดซับของเหลวของผ้าอ้อมเด็ก (diapers) เมื่อฉีดพ่นสารลดแรงตึงผิวลงไป พอลิเมอร์จะเกิดการเชื่อมโยง (crosslink) จากนั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายใน ทำให้เกิดเป็นรูพรุน คล้ายกับรูพรุนของโครงสร้างเนื้อเยื่อ ทำให้เจลสามารถดูดซับปริมาณของของเหลวได้ในปริมาณมาก และปริมาณของสารเปรอะเปื้อนที่เจลสามารถกำจัดออกได้นั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะของการเปื้อนนั้น ๆ เช่น ระยะเวลาที่สารกัมมันตรังสีติดอยู่ ชนิดของวัสดุที่เปื้อน พื้นผิวของวัสดุนั้นมีการมีการเคลือบของสีอยู่หรือไม่ และชนิดของสารกัมมันตรังสี โดยปริมาณที่ Supergel สามารถกำจัดการเปื้อนได้จะอยู่ในช่วง 80 – 100%
การใช้ Supergel ดังกล่าวนี้ สามารถช่วยรักษาพื้นผิวของอาคาร สิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ไว้ได้โดยไม่จำเป็นต้องสกัดผิว เพื่อลอกเอาสารกัมมันตรังสีที่เปื้อนออกไป หรือทุบทำลายสิ่งก่อสร้างทิ้ง
Supergel ทำความสะอาดดังกล่าว จะช่วยให้ประเทศต่าง ๆ สามารถเตรียมพร้อม สำหรับการโจมตีด้วย “dirty bomb” จากผู้ก่อการร้าย หรือการเกิดการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีจากอุปกรณ์ทางนิวเคลียร์ต่าง ๆ รวมทั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ด้วย
</TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD></TR><TR><TD vAlign=top>ถอดความจาก
</TD></TR><TR><TD vAlign=top>Nanoparticles, Super-absorbent Gel Clean Radioactivity From Porous Structures
http://www.cmt.anl.gov/Science_and_Technology/National_Security/supergel.shtml
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สุขสันต์วันเกิด กับพี่สุดใจด้วยนะคะ (ถึงไม่รู้ว่าวันไหนก็เถอะ)
มีความสุขมากๆนะคะ

 

วันนี้แหละจ๊ะ^-^

​