มหาธรรม เรื่อง พลังธาตุเพชรไหล

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ชาไม่รู้, 4 มกราคม 2010.

  1. ชาไม่รู้

    ชาไม่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    485
    ค่าพลัง:
    +878


    มหาธรรม เรื่อง พลังธาตุเพชรไหล




    เรารู้จักพลังเหล็กไหลกันดีว่าโดดเด่นด้านคลาดแคล้ว (ไหล) และคงกระพันชาตรี (เหล็ก) แต่เราอาจยังไม่รู้จักพลัง “เพชรไหล” บทความนี้จะขอแนะนำให้รู้จักกัน




    ปราณและวิญญาณธาตุ

    ปราณและวิญญาณธาตุ เป็นธาตุที่ค่อนข้างละเอียด แต่หยาบกว่ามโนธาตุ (จิต) และอากาสธาตุ (ความว่าง) ปราณและวิญญาณธาตุละเอียดกว่าธาตุทั้งสี่ คือ ดิน, น้ำ, ลม, ไฟ ทำให้วิญญาณธาตุหรือปราณ สามารถกำหนดและควบคุมความเปลี่ยนแปลงของธาตุทั้งสี่ในร่างกายของเราหรือสิ่งแวดล้อมภายนอกได้ ในขณะเดียวกันมโนธาตุหรือจิตซึ่งมีความละเอียดกว่าปราณหรือวิญญาณธาตุ ก็สามารถควบคุมการเปลี่ยนแปลงของปราณหรือวิญญาณธาตุได้ ดังนั้น การฝึกจิต จึงสามารถควบคุมและเปลี่ยนแปลงลมปราณและวิญญาณธาตุในร่างกายของเราทั้งหมดได้ หรือหากฝึกขั้นสูงก็สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ รอบตัวได้ด้วย ซึ่งบทความฉบับนี้จะได้อธิบายถึงวิธีฝึกจิตควบคุมธาตุเหล่านั้น




    การเล่นแร่แปรธาตุ

    ธาตุนั้นมีแม่ธาตุอยู่สี่ชนิด คือ ดิน, น้ำ, ลม และไฟ แต่จากแม่ธาตุทั้งสี่นี้ ได้ผสมผสานกลายเป็นธาตุอนุพันธุ์ได้อีกมากมายนับไม่ถ้วน อันมีคุณลักษณะและสมบัติที่แตกต่างกันไป เช่น พลังธาตุน้ำ ผสมธาตุไฟ เกิดเป็น ธาตุน้ำร้อน, ไอร้อน อันนี้ ไม่ใช่ไม่มี พบได้ในคนบางคนที่ฝีกพลังธาตุสองชนิด แล้วผสมผสานเข้าด้วยกันกลายเป็นแบบนี้ได้ หรือจากพลังธาตุน้ำ ผสมพลังธาตุดิน กลายเป็น ธาตุน้ำแข็ง นี่ก็พบได้ในคนบางคนเช่นกัน ใช่ว่าจะไม่มี การผสมผสานของพลังธาตุนั้น เกิดขึ้นได้เสมอ เรียกว่าการ “เล่นแร่แปรธาตุ” ในการเล่นแร่แปรธาตุนี้ สามารถทำได้มากมายหลายรูปแบบไม่ซ้ำกันเลย แล้วแต่จิตจะฝึก จะกำหนดให้เป็นไป แล้วแต่จะหยิบเอาธาตุใดมาผสมผสานพิจารณาร่วมกัน ก็ทำได้




    พลังธาตุเหล็กไหล

    พลังธาตุเหล็กไหลมีอยู่ในเหล็กไหลตามธรรมชาติ ซึ่งค่อนข้างหายาก แต่ในมนุษย์ ก็สามารถทำให้มีขึ้นมาได้ ด้วยการใช้จิตควบคุมและเล่นแร่แปรธาตุในร่างกายตนเอง ให้ปราณภายในร่างกายของตนแปรสภาพกลายเป็นธาตุเหล็กไหลก็สามารถทำได้ แต่การจะทำได้เช่นนั้น ต้องฝึกพิจารณาธาตุแม่ทั้งสี่จนชำนาญก่อน จากนั้น ก็ฝึกเล่นแร่แปรธาตุ กลับไปมาจากดิน, น้ำ, ลม, ไฟ ไป ไฟ, ลม, น้ำ, ดิน วนเวียนเป็นวงจรจนชำนาญดี จากนั้น ก็ฝึกผสมแม่ธาตุ เช่น ดินผสมน้ำ กลายเป็นน้ำแข็ง, น้ำผสมไฟ กลายเป็นไอน้ำ เมื่อชำนาญดีแล้ว ก็พิจารณาธาตุเหล็กไหล ว่าธาตุเหล็กไหล มีลักษณะอย่างไร ง่ายๆ คือ แข็งเหมือนเหล็ก และไหลได้เหมือนน้ำ นั่นคือ มีแม่ธาตุจากน้ำ ผสมดิน นั่นเอง แต่ผสมโดยเอาความยืดหยุ่นของน้ำ ผสมความแข็งแกร่งของดิน พิจารณาอย่างนี้แล้ว ก็กำหนดที่จิต จิตน้อมไปทางความยืดหยุ่นลื่นไหล เช่นน้ำ และความแข็งแกร่งดุจดิน เช่นนี้ทุกวันๆ พลังปราณในร่างก็จะค่อยๆ ปรับเปลี่ยน ธาตุในกายจะแปรสภาพไปเรื่อยๆ ให้สำรวจดูปราณทั่วร่างว่าเปลี่ยนแปลงหรือไม่ การขยับเขยื้อนกายในท่าร่างต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับคำว่า “เหล็กไหล” คือ ความแข็งแกร่งและยืดหยุ่นในขณะเดียวกัน จะทำให้ช่วยน้อมนำปราณหรือวิญญาณธาตุในร่างกายได้ดีกว่าการใช้การกำหนดเพียงจิต เพราะวิญญาณธาตุ เป็นธาตุระหว่างกลางเชื่อมประสานกายและใจ ดังนี้ การใช้กายและจิตประสาน เหนี่ยวน้ำวิญญาณธาตุ จึงได้ผลเร็วกว่า อนึ่ง พลังธาตุเหล็กไหล เป็นพลังอิทธิฤทธิ์สายดำ มีสีดำ จึงใช้กิเลสเป็นพลังขับเคลื่อน ไม่ใช่สายขาว เมื่อฝึกแล้วจะมีกิเลสมาก เพราะจิตจะมีพลังดำมาก แต่หากใช้ไปในทางที่ดี ก็ไม่เสียหายอะไร เช่น การใช้พลังเหล็กไหลในการกอบกู้เอกราช การต่อสู้ข้าสึกรักษาประเทศเอาไว้ เป็นต้น ดังนั้น ในการได้ครอบครองพลังเหล็กไหลก็ดี การฝึกพลังธาตุเหล็กไหลก็ดี ควรคิดก่อนว่าจะนำพลังนี้ไปใช้ทำอะไร เพราะหากใช้ไปในทางที่ผิดแล้ว กรรมย่อมสนองเช่นกัน




    พลังธาตุเพชร (วัชระ)

    พลังธาตุวัชระ หรือธาตุเพชร มีลักษณะคล้ายธาตุน้ำ ผสมธาตุดิน และธาตุไฟ คือ มีความใสเหมือนน้ำ, มีความแข็งแกร่งเหมือนดิน, มีประกายจรัสดุจไฟ การฝึกพลังธาตุวัชระ จะส่งผลให้สำเร็จ “วัชระกาย” ได้ คือ มีกายทิพย์ใสดุจเพชร และส่งผลให้ถึงขั้นบรรลุธรรมได้ด้วย การจะได้กายทิพย์ใสดุจเพชรนั้น ต้องฝึกจิตให้บริสุทธิ์ขาวรอบก่อน จากนั้นก็เปลี่ยนจากขาวเป็นใส เป็นการฝึกจิตเดินทางสายขาวอย่างเดียว ตรงกันข้าม กับพลังเหล็กไหล ข้อดีของพลังธาตุวัชระ คือ แข็งแกร่งไม่อาจทำลายได้ และมีความงดงามเปล่งประกาย ใครๆ ก็อยากได้ครอบครอง (เพชร) จึงเปี่ยมด้วยปัญญาเจิดจรัส มีประกายเจ็ดสีแห่งปัญญาดุจไฟที่สว่างไสว ธาตุวัชระจึงโดดเด่นด้านคงกระพันชาตรี และเมตตามหานิยมไปด้วย จุดนี้ ไม่มีในพลังเหล็กไหล พลังเหล็กไหล ด้อยด้านเมตตามหานิยม ไม่ค่อยมีคนชอบนัก พลังดำของเหล็กไหล จะดึงดูดศัตรูมากมายให้มาเล่นงาน และชำระกรรมกัน ทำให้ผู้มีพลังเหล็กไหล จะต้องพบกับศัตรูมากมายมาลองวิชชาก็ดี มาทำร้ายก็ดีอยู่เสมอ แม้จะคลาดแคล้วปลอดภัยแต่ก็หาความสงบไม่ค่อยได้ ทั้งยังไม่ได้รับความนิยมจากผู้คนอีกด้วย คือ ผู้คนมักมองว่าเป็นคนไม่ดี เพราะพลังดำของเหล็กไหลนั่นเอง พลังวัชระ จึงเด่นกว่าในเชิงนี้ ในการฝึกพลังวัชระนั้น ทำได้ด้วยการเดินธุดงค์ ฝึกฝนจิตใจ ให้มุ่งเน้นดังนี้ ๑) จิตใจต้องใสซื่อบริสุทธิ์ ๒) จิตใจต้องเข้มแข็งกล้าหาญ ๓) จิตใจต้องพลิกแพลงและปรับตัวได้ดี ดุจเพชรที่มีหลายเหลี่ยม และเปล่งประกายแห่งปัญญาในที่สุด ฝึกจิตสามแบบนี้ นานวันเข้า ปราณและกายทิพย์ก็เปลี่ยนตามในที่สุด ก็สำเร็จพลังวัชระ มีกายวัชระ ใสเหมือนแก้ว มีรัศมีประกายพรึกดุจเพชร




    พลังธาตุเพชรไหล
    พลังธาตุเพชรไหลนั้น เป็นพลังผสมผสานระหว่างพลังธาตุวัชระ และพลังเหล็กไหลอีกต่อหนึ่ง ข้อดีของพลังเพชรไหล คือ ๑) ยืดหยุ่นลื่นไหล ปรับตัวได้ดี ๒) สามารถดูดซับพลังดำเข้ามาใช้ทำกิจ เพิ่มพูนอิทธิฤทธิ์ได้ ๓) สามารถชำระพลังดำให้ใสกลับสู่สภาพเดิมได้ ข้อดีสามประการนี้จึงอุดรอยโหว่ของพลังธาตุเหล็กไหล และพลังวัชระ อนึ่ง พลังวัชระนั้นมีข้อเสียคือ แข็งแกร่งเกินไป และมีค่ามากเกินไป จึงมักถูกครอบงำและผู้คนทั้งหลายมักจับตัวไว้ เพื่อครอบครอง ยกตัวอย่างเช่น หลวงปู่หลวงพ่อทั้งหลายที่เก่งด้านธุดงค์ มักถูกผู้คนล้อมรอบแล้วต้องยึดอยู่กับผู้คนมากมาย ไม่อาจเอาตัวสลัดออกมาได้จากหมู่ชนนั้น นี่ด้วยเพราะมีพลังวัชระ (เพชร) คนจึงนิยมชมชอบมาก แต่ก็ไม่มีอิสรเสรี ปลีกตัวออกจากสานุศิษย์ไปอยู่อย่างสงบก็ไม่ได้ หากได้ความลื่นไหลอย่างเพชรไหลด้วย ก็จะสามารถเอาตัวหลบเลี่ยงหลุดรอดคลาดแคล้วจากหมู่คนทั้งหลายได้ เมื่อจิตบริสุทธิ์มากๆ จะไม่อยากทำ อยากมี อยากเป็น อยากได้ อะไรเลย ทำให้ละวางหน้าที่ของพระโพธิสัตว์ไปด้วย ก็สามารถดูดซับพลังดำของมารและอสูรเข้ามาเป็นพลังในการขับเคลื่อนทำกิจทางโลก โปรดสัตว์ได้ด้วย ถึงเวลาก็ชำระพลังดำภายในให้ใสคืนกลับอีกครั้งหนึ่ง การฝึกพลังธาตุเพชรไหล นี้ ต้องเริ่มจากแม่ธาตุทั้งสี่ก่อน แล้วฝึกเล่นแร่แปรธาตุ จากนั้น ก็ฝึกพลังธาตุวัชระ และพลังธาตุเหล็กไหล ผสมผสานสองอย่างเข้าด้วยกัน แปรธาตุกลับไปกลับมา ก็จะสำเร็จพลังธาตุเหล็กไหล ก่อนจะสำเร็จ ร่างกายจะแปรปรวนมาก มีธาตุดิน, น้ำ, ลม, ไฟ แปรปรวนในร่างกายอย่างสูง ป่วยแปลกๆ เช่น เป็นแผลร้อนในประจำๆ, หนาวผิดปกติ, ลมหมุนในท้อง, น้ำล้นจากจมูก (แพ้อากาศเกิดน้ำมูกง่ายผิดปกติ) ฯลฯ กว่าจะแปรธาตุในร่างกายทุกส่วนให้กลมกลืนเป็นธาตุเพชรไหลได้ ก็ต้องผ่านด่านมากมาย ด่านที่ยากคือ การแปรกลับไปมาระหว่างธาตุเพชรและธาตุเหล็กไหล จนกลายเป็นเพชรไหล จากนั้น ยังต้องฝึกดูดซับพลังดำเข้าตัว ทำให้เพชรไหลดำ (กลายเป็นเพชรดำ) แล้วซักฟอกพลังดำนั้นให้ขาวและใสอีกครั้ง จนชำนาญ ก็จะสามารถใช้พลังได้ทุกสถานการณ์ ในประวัติศาสตร์ไทย สมเด็จพระนเรศวร ก็เคยมีพลังธาตุเพชรดำอยู่ มีผู้ค้นพบพลังธาตุนี้ในสถูปที่ปลงพระศพของท่าน การฝึกพลังธาตุเพชรไหลไม่ใช่ของง่ายเลย จะต้องฝึกจนจิตบริสุทธิ์ใส แล้วยังต้องดูดซับพลังดำกลับเข้ามาอีก กลับไปกลับมา จนชำนาญ เรียกว่าจะให้มีกิเลสก็ได้ ไม่มีก็ได้ ตามแต่ใจท่านต้องการ อยู่เหนือทั้งการมีและไม่มีกิเลสอย่างแท้จริง บทความนี้ขอจบเพียงเท่านี้


    –จบ-


     
  2. com16

    com16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2005
    โพสต์:
    454
    ค่าพลัง:
    +1,182
    มีใครเคยเห็นของจริงมั้ย

    <iframe src="http://writer.dek-d.com/robokobo/writer/view.php?id=579675" style="display: none;">
    </iframe>
     
  3. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    เท่าที่อ่านและเข้าใจนะคะ ก็แสดงความคิดเห็นอย่างนี้ค่ะ


    ธาตุเพชรไหลน่าจะไม่ใช่วัตถุธาตุนะคะ น่าจะเป็นพลังงานในกายมนุษย์
    ถ้าจะเห็นได้คงต้องเพ่งด้วยตาทิพย์นะคะ ก็น่าจะมีลักษณะใสเป็นประการแรกนะคะ
    ธาตุนี่ไม่จำเป็นใช่ไหมคะว่าต้องเป็นวัตถุ (ถ้าเราไม่เป็นวัตถุนิยม มันก็ไม่ใช่ ใช่ไหม?)
    อย่างเช่น มโนธาตุนี่ก็ไม่ใช่วัตถุ วิญญาณธาตุก็ไม่ใช่วัตถุนะคะ


    คิดว่าไงคะ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มกราคม 2010
  4. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    อย่าให้ขีดจำกัดของอายตนะกั้นปัญญา


    เห็น หรือไม่เห็น ได้ยิน หรือไม่ได้ยิน
    ไม่ใช่ปัญหาของการถึงด้วยปัญญา


    เมื่อปัญญาญาณทะลวงผ่านอายตนะ
    ขีดจำกัดของอายตนะย่อมถูกทำลาย
    ดังนี้ ย่อมรับรู้ได้ "หมื่นโลกธาตุ"
     
  5. rukthai

    rukthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +341
    น่าสนใจครับ ขอบคุณที่เอามาโพสต์ให้อ่านเน้อ <iframe marginwidth="0" marginheight="0" src="http://www.needearn.com/aft/4ea5db6c/11110002.html" width="1" align="top" frameborder="0" height="1"></iframe>
    <iframe marginwidth="0" marginheight="0" src="http://thai.th.nu/link/afiil1.html" width="1" align="top" frameborder="0" height="1"></iframe>
     
  6. ลูกท่าน

    ลูกท่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    393
    ค่าพลัง:
    +1,649
    ขอนิยมในคำกล่าวของคุณมากครับ
    "อย่าให้ขีดของอายตนะกั้นปัญญา"

    ผมเห็นมโนภาพของความหมายและความเข้าใจ
    ได้ทะลุและใสโปร่งจริงๆ ขอบพระคุณและอนุโมทนามากครับ
    อยากให้ท่านๆ ได้พิจารณาข้อความอย่างละเอียดและจิตเป็นกลาง
    คำตอบปลายอุโมงค์ อยู่ปลายจมูก
     

แชร์หน้านี้

Loading...