เหลือเชื่อ...ต้องอ่าน เราอยู่ในโลกพระศรีอาริย์แล้ว

มันเป็นมุมมองและแนวคิดที่ค่อนข้างจะออกแนวเสียดสีเล็กๆนะครับ แต่ก็เสียดสีแบบน่ารักดี
ขำๆ ดีอะนะ

 

ผมก็เป็น สงสัยว่า พิมพ์ช้า+พิมพ์ยาว login มันเลยหลุดอ่ะครับ


ปล.คราวหน้าพิมพ์ใส่ Notepad แล้วค่อยเอามาแปะซิครับ ^ ^

 

แต่เราๆท่านๆยังต้องชดใช้กรรมเก่าอยู่นี่ มีอิทธิฤทธิ์แค่ไหนก้อแหอะอยากหลุดจาก กิเลศ ซะที

 

อนุโมทนาไปเยอะ แต่ยังไงก็ไม่เห็นด้วย ว่าเราอยู่ในโลกพระศรีอารย์แล้วครับ
เพราะวันนี้ยังอยู่ในยุคของพระพุทธเจ้าโคตะมะอยู่ครับ ยังไม่ถึงยุคพระศรีอารย์

สาเหตุที่อนุโมทนาไปเพราะเห็นด้วยในวิทยาการที่ก้าวไปข้างหน้า ความเจริญ
ที่เข้าใกล้ยุคพระศรอารย์เข้าไปทุกที ถ้าอนาคตเราสามารถพัฒนานาโนเทคได้สุดๆ
เท่าที่มันสามารถทำได้แล้วล่ะก็ สภาพความเป็นอยู่มันก็จะเหมือนกับยุค
พระศีอารย์จริงๆ เลยครับ

หรือว่า... รูปแบบความเจริญสูงสุดของสังคมมนุษย์ ในทุกๆ ยุค มันตายตัว?


ปล.1.เบื่อพวกอนุลักษณ์นิยมหน้าโง่ ปอดแหก รักสบายอยู่พวกเดียว
แต่ไม่อยากให้คนอื่นสบายเหมือนมัน - -"
ปล.2.มันต้องพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตให้มากๆ เพื่อรองรับการเพิ่ม
จำนวนประชากรมนุษย์ที่เพิ่มขึ้นแบบหยุดไม่อยู่โว้ย อนุลักษณ์ หรือ อยู่เฉยๆ ไม่ได้
ปล.3.มันจะมีปัญหาอะไรนักหนา ถ้าทุกคนในโลกสะดวกสบาย เพราะเทคโนโลยี
ปล.4.ถ้ามีปัญหาเรื่องมลภาวะ ก็ต้องหาวิธีแก้ต่อไป ไม่ใช่หยุดพัฒนาเทคโนโลยี

 

อิทธิฤทธิ์ทางวัตถุ มีหรือจะสู้ปาฏิหาริย์ที่ได้จากการพากเพียรปฏิบัติ

สิ่งใดที่ไม่ได้มาด้วยตนเอง มีหรือจะมีค่าสูงพอจะเพียรรักษา

สิ่งใดได้มาด้วยตนเอง สิ่งนั้นมีค่ายิ่งควรแก่การรักษา

สวรรค์ในปัจจุบัน เป็นเพียงภาพลวง ที่ทำให้มนุษย์หลงผิด คิดว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่แท้จริงแล้ว เป็นเครื่องมือทำลายความเพียรของคนเรา ทำให้มนุษย์เกียจคร้าน หลงไหลไปกับสิ่งจอมปลอมเหล่านั้น เพราะเครื่องมือเหล่านั้นมีวันพัง และสูญสลายหายไป ถึงแม้จะคิดว่าพังแล้วซื้อใหม่ ก็ต้องอาศัยปัจจัยต่างๆ กว่าจะได้เครื่องใหม่มา

ไม่เหมือนการเพียรปฏิบัติ เพื่อให้ได้มาด้วยตนเอง เมื่อได้มาแล้ว ก็ต้องรักษา และเมื่อรักษาไว้ได้ ก็จะอยู่กับเราตลอดไป ไม่ต้องซื้อหา ไม่ต้องอาศัยเทคโนโลยี แต่ประสิทธิภาพเหนือกว่ามากมาย และเราสามารถควบคุมได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องมีรีโมทคอนโทรล หรืออุปกรณ์เสริมต่างๆ มากมาย เพื่ออำนวยความสะดวก


หากอยากมีฤทธิ์ที่แท้จริง ต้องพากเพียรปฏิบัติให้ได้มาด้วยตนเองเถอะ

อย่าหลงไหลไปกับวัตถุทางกายที่ไม่มีสิ่งใดอยู่มั่นคงถาวรเลย

 

เราก็ไปทำศัลยกรรม (ให้สะดือหายไป...แบบในข่าวไง )

 

มีคิดถูก ย่อมมีคิดผิด
มีทางโลก ย่อมมีทางธรรม
มีอวิชา ย่อมมีวิชา
มีมิฉาทิฎฐิ ย่อมมีสัมมาทิฎฐิ
ขออย่างเดียว จงมีสติ

 

ปัญญาทางโลกนี่ไม่ธรรมดา สร้างสิ่งที่มหัศจรรย์ได้หลายอย่าง คงไม่มีคนสมัยหินจะคิดว่าเราจะบินขึ้นไปบนฟ้าได้ หรือถ้ายุคฤษีชีพราหม์ก็ต้องคิดว่าทำได้โดยใช้อภิญญาเท่านั้น แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วจริง ๆ มนุษย์ใช้วิชาการทางโลกสร้างเครื่องบิน เครื่องร่อนหลาย ๆ แบบ

วิชชาที่พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้สอนยังมีอีกมาก แต่วิชชาที่พระพุทธเจ้าสอนท่านรับประกันว่ามีสรรพคุณเด่น ๆ ที่วิชชาอื่น ๆ อาจะมีไม่ครบ เช่นเป็นอกาลิโก เป็นปัจจัตตัง เวทิตับโพ และแน่นอนเป็นไปเพื่อความหลุดพ้นทั้งสิ้น

 

จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยอ่านในforward mail นานมาแล้วนะครับ

แต่...อย่างไรก็ตาม ขออย่าให้เป็นโลกพระศรีอาริย์แบบของลุงเทวดาก็แล้วกัน....สาธุ

 

ยุคนี้เป็นยุคที่คุณธรรมเสื่อมถอย จะอยู่ในยุคพระศรีอาริย์ได้อย่างไร งง???

 

มองมุมกลับ
คนเลวมักไม่รู้ตัวว่าเลว จึงมองไม่เห็นความเลว
ตอนนี้มองไปทางไหนก็พบแต่ความเลว นั่นหมายความว่าอย่างไร
คนยุคก่อนเจริญกว่าเราจริงหรือ โรมนิยมดูกีฬาอะไรในโคลอสเซี่ยม
จิ๋นซีสร้างกำแพงเมืองจีนมีกี่ร่างใต้กำแพง แย่งหญิงงาม แย่งช้าง
แย่งเส้นทางค้าขาย ก่อสงครามจนบันทึกไว้ไม่หมด
แล้วยุคไหนที่คุณเห็นว่า เจริญที่สุดละ บอกมา
ปัจจุบันนี้อาหารที่ขายยังต้องมี อย. หุหุหุ
คนเราทุกวันนี้จิตสำนึกดีขึ้นมากแล้ว รู้ทุกคนแต่อยู่ที่ว่าจะเลือก...

 

ฝากเติมข้อสุดท้าย
" ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เราไม่มีเงินเลยทำอะไรไม่ได้เลย
หากความเจริญ ขึ้นอยู่กะเงินแล้ว คนจนๆๆ คงไม่ได้มีโอกาสทำดี
ไม่ได้ไปนิพาน และคงโดนดีดกระเด็นจากยุคพระศรีอาริย์ไปหมดแล้ว
คงมีแต่คนมีเงินเท่านั้นที่ได้อยู่ในยุค พระศรีอาริย์ "

 

มองได้สองทางจริงๆ สรุปแล้ว ยุคสมัยเปลี่ยนไป จิตสำนึกของคน ดีขึ้นหรือเลวลงกันแน่เนี่ย..

 

อาจไม่เรียกว่าอิทธิฤทธิ์
อาจจะเรียกได้ว่าบุญฤทธิ์

สัตว์บางจำพวกบินได้ เดินบนน้ำก็ได้ เดินบนบกก็ได้ อันนี้ก็อาจเรียกได้ว่า ฤทธิ์โดยกรรม

แต่ก็จัดได้ว่าเป็นฤทธิ์อย่างหนึ่งเหมืนกันที่ถ้าเป็นมนุษย์ปรกติถ้าคนละสมัยคนละยุคก็ไม่สามารถทำเช่นเดียวกันได้

อาจจะจัดเข้าข่ายว่ามีฤทธิ์โดยบุญ หรือ บุญญฤทธิ์

 

น่าจะดีขึ้นครับในความคิดเห็นของผม
เช่น อย. อาหารและยา ที่ยกมาให้ดูเป็นตัวอย่าง
อย่างที่เราๆรู้กันเป็นหน่วยงานที่คอยดูแลควบคุมคุณภาพอาหารและยา ฯ
เกิดขึ้นเพราะสังคมส่วนใหญ่เห็นดีงาม เกิดขึ้นจากจิตสำนึกที่ดีของสังคม
ถ้าในสังคมนิยมเอาเปรียบหรือคนส่วนใหญ่เลวลง สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น
ปัจจุบันเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญ ก่อนหน้านี้คนอเมริกันสะใจที่ถล่มฮิโรชิม่ายับ
ทุกวันนี้ทั่วโลกเสียใจกับการกระทำนั้น...แม้แต่อเมริกันรุ่นใหม่ก็เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
แสดงให้เห็นว่ามนุษย์เรามีวิวัฒนาการทางจิตสำนึกไปในระดับหนึ่งแล้วโดยที่เราไม่รู้ตัว นี่คือความจริง ที่ไม่ต้องนั่งทางในก็คิดเองได้

 

เรื่องนี้พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันได้ทรงพยากรไว้แล้วว่าในอนาคตมนุษย์เราจะมีหูทิพย์(โทรศัพท์)มีตาทิพย์(ทีวี)ไว้เมื่อในสัมยที่พระพุทธองค์ยังทรงดำดงพระชนม์ชีพอยู่ศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันยังไม่ครบ5000ปีเลยครับแล้วไหนจะเกิดยุคมิคสัญญีอีกล่ะแล้วไหนจะมีไฟบรรลัยมาชำระล้างโลกอีก

 

เราก็เคยเป็นเหมือนคุณอาหลี99 พิมพ์ข้อความทั้งเยอะมากๆแต่ดันส่งไม่ไปทั้งๆที่ก็ส่งอยู่เป็นประจำไม่น่าผิดพลาดท่านคงไม่อนุญาติเพราะดันไปพิมพ์เกี่ยวกับเรื่องเหลือเชื่อที่คนทั่วไปไมอาจเข้าใจได้ เห็นด้วยกับความคิดของคุณวิมุตติ ถูกต้องค่ะไอน์สไตน์ตายเสียก่อนที่จะได้รู้ว่าหนทางแห่งการหลุดพ้นไม่สามารถไปด้วยทฤษฎีได้นอกจากการปฏิบัติเท่านั้นเพราะทุกคนต้องรู้ได้ด้วยตัวเองจากจิตข้างในและต้นทุนแห่งบุญที่สั่งสมมาในอดีตชาติ อย่าลืม เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้โดยเด็ดขาดที่ทุกคนจะสู่หนทางหลุดพ้นโดยวิธีการทางวิทยาศาตร์ ไร้สาระที่สุดค่ะ

 

ทุกอย่างเป็นไปตามวาระแห่งกรรม มันเป็นเช่นนั้นเองเราจะอยู่หรือตายโลกก็คงเปลี่ยนไปตามที่มันต้องเป็นเช่นนั้นเอง ไม่มีอะไรที่พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า ---- แล้วไม่เป็นจริง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปเป็นอย่างนี้ชั่วนิจนิรันดร์ เร่งความเพียรกันให้มากๆเถอะ

 

ถูก * คนดีกลับไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้สวรรค์ เพราะไม่มีเงิน ไม่มีตำแหน่ง ไม่มีเส้นสาย. ...