พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

เจ๋งเลยครับน้อง หุ หุ

 

ยินดีกับท่าน chant... ด้วยนะครับที่ Post ได้ตรงเวลาพอดี ผมเองติดธุระนัดกับช่างเพื่อขยายหิ้งพระบูชาก็เลยไม่มีเวลามาร่วมสนุกด้วย

พึ่งรู้นะเนี่ยว่ามีความสามารถในการแต่งกลอนเหมือนเพื่อนผมที่จะให้ไปหา เขาเกิดวัน/ปีเดียวกันกับท่านนะครับ(ส่วนวันที่ที่เกิดตรงกับดวงเมืองของกรุงเทพฯ) สมัยเป็นวัยรุ่นจนถึงยี่สิบต้นๆก็ให้เขานี่แหละช่วยแต่งกลอนจีบสาวมานักต่อนักแล้ว หุหุหุ...ยกตัวอย่างเช่น "ชีพนี้...ขอมอบให้นวลนาง เพราะพี่หวังนวลปรางค์..แนบเนื้อ ประสงค์สุขร่วมสร้าง...เป็นคู่...เคียงนา จักถนอมนาถไว้...ไป่ให้ใจตรม" ซึ่งบทกลอนนี้จำได้ลางๆ มีอีกหลากหลายในบันทึกของผมครับ

 

วันนี้ อีกสักพัก ผมต้องออกไปทำงานข้างนอก(อีกแล้วครับท่าน) กลับมาอีกครั้งน่าจะเป็นช่วงเย็นๆ เพราะต้องไปอีกหลายที่ครับ

 

<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 11 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 9 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>แหน่ง, psombat </TD></TR></TBODY></TABLE>
สวัสดีครับ ท่านสมบัติ

อากาศแถวนันเป็นงัยบ้างครับ

วันนี้แถวอยุธยา รู้สึกอากาศกำลังเย็นสบายเลยครับ

 

<TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ภูเขาแห่งความโกรธ ( ว.วชิรเมธี ) </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>
ครั้งหนึ่งช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ เมื่อสหรัฐอเมริกาโกรธทหารญี่ปุ่นที่เอาเครื่องบินมาทำกามิกาเซ่ เครื่องบินเรือรบของอเมริกาที่อ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ ความโกรธของอเมริกาครั้งนั้นทำให้อเมริกาเอาระเบิดนิวเคลียร์ไปถล่มเมืองนางาซากิ เมืองฮิโรชิมาของญี่ปุ่น คนตายทันทีทั้งสองแห่งกว่า ๔ แสนคน ฮิตเลอร์โกรธชาวยิว ฆ่าชาวยิวไปในสงครามโลกครั้งที่ ๒ กว่า ๖ ล้านคน พระเจ้าวิฑูทภะในประเทศอินเดีย โกรธที่ชาวศากยะซึ่งเป็นพระญาติของพระพุทธเจ้ามาดูถูกพระองค์ ทรงกรีธาทัพไปฆ่าชาวศากยะล้างโคตร จนตระกูลศากยะของพระพุทธเจ้าสูญหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ นี่คืออานุภาพการทำลายล้างของความโกรธ

เมื่อความโกรธเกิดขึ้นในใจของคนคนหนึ่ง ทุกสิ่งสามารถถูกนำไปเป็นอาวุธทำลายล้างกันได้ทั้งหมดเลย ยกตัวอย่างใกล้ตัวที่สุด หัวของเรานั้น ปกติก็เป็นที่อยู่ของมันสมอง สติปัญญา แต่เวลาเราโกรธกันขึ้นมา เราใช้หัวโขกหัวคนที่เราโกรธจนหัวแตกก็ได้ ตาของเราซึ่งเวลาเรารักกันนั้น เราสบตากันแล้วรู้สึกดีมาก เพราะว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของดวงใจ แต่เวลาโกรธ คนสองคนโกรธกันอาจจะใช้ดวงตาเผาไหม้อีกฝ่ายได้อย่างน่าประหวั่นพรั่นพรึงเป็นที่สุด


ฟันของเราปกติใช้บดเคี้ยวอาหาร ทำให้เราได้กินของอร่อยๆ พอเราโกรธกันขึ้นมา เราอาจจะกัดคนที่เราโกรธหูขาด คอขาด แขนขาด เลือดไหลทะลักออกมาก็ได้ทั้งนั้น

สำหรับสามีภรรยาที่เคยรักกัน เวลารักกันเราก็จะตระกองกอดกันอย่างมีความสุข สองมือนี้อาจจะคอยประคองสองแก้มของคนที่เรารัก แต่เชื่อไหมว่า สองมือที่เคยตระกองกอดเราก็ดี เคยประคองสองแก้มของเราด้วยความชื่นชมก็ดี มือเดียวกันนี่แหละ ที่ถ้าโกรธแล้วสามารถตบเราให้หน้าคว่ำหน้าหงายได้

สำหรับพ่อแม่ลูกที่อยู่ด้วยกันในบ้าน ตอนที่ยังดีๆ กันอยู่ เคยไปเลือกซื้อข้าวของเครื่องประดับมาไว้ในบ้าน จัดมุมโน้น จัดมุมนี้อย่างสวยงาม ด้วยความสมัครสมานสามัคคี แต่เชื่อไหมว่าเวลาทะเลาะกัน ข้าวของที่เราเคยช่วยกันซื้อระหว่างพ่อแม่ลูก สามีภรรยานั่นแหละ เวลาโกรธกันขึ้นมา ต่างฝ่ายต่างก็หยิบขึ้นมาขว้างปากันจนหัวร้างข้างแตก เครื่องประดับกลายเป็นอาวุธทำร้ายคนที่เรารักไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ

สำหรับคู่สามีภรรยาที่นอนเตียงเดียวกัน เวลาโกรธกันขึ้นมา โคมไฟบนหัวเตียงอาจจะกลายเป็นกระบองชั้นดีทุบอีกฝ่ายหนึ่งจนเลือดอาบก็ได้

สำหรับช้อน ส้อม ซึ่งเราใช้กินอาหารอยู่ทุกวัน เวลาทะเลาะกันในวงข้าว อีกฝ่ายหนึ่งอาจจะหยิบมันมาเสียบคอของคู่ต่อสู้ หรือปักไปในดวงตาของคนที่ทำให้เราโกรธทันทีทันใดก็ได้

สำหรับพระที่ขาดสติ หากทะเลาะกันขึ้นมา บาตรที่เคยใช้ใส่ข้าวอยู่ทุกเช้า อาจจะกลายเป็นอาวุธที่ทุบหัวของอีกฝ่ายหนึ่งให้กะโหลกแตกกระจายก็ได้

ความโกรธเมื่อเกิดขึ้นแล้วทำให้บ้านแตกก็ได้ ทำให้ครอบครัวแตกก็ได้ ทำให้สำนักงานแตกก็ได้ ทำให้เพื่อนแตกจากเพื่อนก็ได้ ทำให้ข้าวของแตกกระจายก็ได้ ทำให้พรรคแตกก็ได้ ทำให้ประเทศแตกก็ได้ และทำให้โลกนี้แตกก็ได้ เหนืออื่นใดก็คือ ทำให้ชีวิตของเราแตกดับก็ได้

ที่กล่าวมานี้ก็เป็นอันตรายของความโกรธแค่ย่อๆ เท่านั้นเอง อาตมาเชื่อว่าทุกคนต้องเคยโกรธมาแล้ว และรู้ดีว่าความโกรธทำให้เราเจ็บปวดแค่ไหน

ถ้าความโกรธเกิดขึ้นจงอย่าวิ่งตามความโกรธ แล้วก็อย่าเก็บความโกรธใส่ไว้ในขวดโหลเหมือนเราดองผลไม้ไว้ในขวดโหล
ดังนั้นเมื่อความโกรธเกิดขึ้นเราต้องจัดการมันก่อน เพราะถ้าทิ้งไว้เราจะถูกมันจัดการ ​

"ว.วชิรเมธี"


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

ขอบคุณธรรมจักรดอทเนต​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เตือน ห้องนอนบ่อเกิดภูมิแพ้ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบอินเตอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>ใครจะทราบบ้างว่า ห้องนอนเป็นสาเหตุของการทำให้เป็นโรคภูมิแพ้ได้ วันนี้มีเรื่องนี้มาฝากกันค่ะ...

อากาศ ที่หายใจเข้าไปทุกขณะ นับว่ามีความสำคัญต่อร่างกาย โดยเฉพาะเวลานอนหลับ บางครั้งเราอาจมองข้ามสิ่งที่เป็นตัวต้นเหตุสำคัญของอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง ไม่ว่าจะเป็นอาการภูมิแพ้ โรคทางเดินหายใจ หลอดลม ทั้งละอองเกสรก็ดี เชื้อรา ฝุ่น ควันบุหรี่ ขี้แมลงสาบ ไอระเหยของสารเคมีล้วนแต่สามารถกระตุ้นภูมิแพ้และส่งผลต่อการเจ็บป่วยของ ร่างกายในที่สุด


การดูแลห้องนอนให้อยู่ในสภาพที่ถูกสุขลักษณะและปลอดจากสิ่งกระตุ้นภูมิแพ้ ทำได้ง่ายๆ ดังนี้
- ห้องนอนเต็มไปด้วยฝุ่นหรือไม่ การได้หลับพักผ่อนในห้องนอนที่มีอากาศสะอาดปราศจากฝุ่น จะช่วยทำให้ร่างกายสดชื่นหรือฟื้นคืนจากการเจ็บป่วยได้เร็วขึ้น
- พื้นห้องปูด้วยพรมหรือไม่ นับเป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะพรมจะกลายเป็นแหล่งของไรฝุ่นที่เป็นตัวก่อภูมิแพ้ และดูแลทำความสะอาดได้ยากกว่าพื้นไม้หรือกระเบื้อง
- ชอบสูบบุหรี่ใช้น้ำยาหรือน้ำหอมปรับอากาศ สิ่งเหล่านี้นับเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง
- ซักและเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและเครื่องนอนบ่อยแค่ไหน ไม่ว่าจะผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้านวม ควรถอดซักได้และควรเปลี่ยนอยู่เสมอ ซักทำความสะอาดด้วยอุณหภูมิที่ไม่ต่ำกว่า 50 องศาเซลเซียส เพราะอุณหภูมิที่ต่ำกว่านี้จะไม่สามารถฆ่าไรฝุ่นในเครื่องนอนได้
- เลือกใช้อุปกรณ์เครื่องตกแต่งที่มีสารเคมีที่เป็นอันตราย ไม่ว่าจะเป็นผ้าม่าน สีทาผนัง ตู้ โต๊ะ พรม ควรพิจารณาเลือกซื้อชนิดที่ระบุว่าไม่ใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพใน การผลิต ปัจจุบันผู้ผลิตสินค้าบางประเภทเริ่มหันมาให้ความสำคัญต่อเรื่องดังกล่าว
- เปิดหน้าต่างบ้างหรือเปล่า บ้านไหนที่ใช้เครื่องปรับอากาศ ควรเปิดหน้าต่างให้อากาศในห้องได้ถ่ายเทบ้าง หรือหากปล่อยให้แสงแดดส่องเข้ามาบ้างสัปดาห์ละครั้งก็ยังดี และจะดีอย่างยิ่งถ้ามีเครื่องฟอกอากาศ หรือใช้แผ่นดักจับสิ่งแปลกปลอมในอากาศฟิลทรีตชนิดที่ใช้กับ เครื่องปรับอากาศ และต้องไม่ลืมคอยเปลี่ยนแผ่นกรองประจำตามสภาพการใช้งาน เพื่อรักษาประสิทธิภาพในการกรองอากาศให้ดีอยู่เสมอ


รู้อย่างนี้แล้ว ก็อย่าลืมดูแลรักษาห้องนอนให้สะอาดอยู่เสมอ จะได้ห่างไกลจากโรคภูมิแพ้.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>

จาก กรมอนามัย​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สวัสดีครับ อากาศทางนี้หนาวกำลังดีครับ...

 

ยินดีด้วยนะ ครับ

 

"ธรรมะทูเดย์" ท่าน ว.วชิรเมธีเปิดตัวเปิดวัดออนไลน์


ว.วชิรเมธี
เผยแผ่ธรรม

ธรรมาภิวัตน์! ว.วชิรเมธีเปิดตัวเว็บไซต์ "ธรรมะทูเดย์" ดึงคนเข้าวัดบนโลกออนไลน์ เผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เข้าถึงคนมากที่สุด เปิดช่องทางใหม่ให้แสวงหาคำตอบของชีวิต ด้วยรูปแบบนำเสนอแปลกใหม่ จำลองห้องธรรมะในโลกเสมือนสามมิติ

เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สถาบันวิมุตตยาลัย ร่วมกับเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย และกลุ่มบริษัทไอทีชั้นนำ เปิดตัวเว็บไซต์ "ธรรมะทูเดย์" www.dhammatoday.com เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสารธรรมะกับคนรุ่นใหม่ เผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเข้าถึงผู้คนจำนวนมากด้วยความรวดเร็วทันใจ ภายใต้เนื้อหาสาระที่ครบถ้วนสมบูรณ์ และมีรูปแบบการนำเสนออย่างมีชีวิตชีวาเสมือนการเข้าวัดบนโลกออนไลน์ที่เรียกว่า วัดบนเว็บ

พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย พระนักเทศน์ชื่อดัง กล่าวภายในงานเสวนาเรื่องธรระกับไอทีว่า ปัจจุบันธรรมะไม่ได้จำกัดขอบเขตหรือผูกขาดการเผยแพร่เฉพาะภายในวัดวาอารามเท่านั้น หากแต่ยังสามารถนำความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมารับใช้พระพุทธศาสนา ดั่งเช่นท่านพุทธทาสภิกขุแห่งวัดสวนโมกข์ได้กล่าวไว้น่าสนใจใคร่ครวญว่า ถ้าวันนี้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังคงมีชีวิตอยู่ ก็อาจได้เห็นพระองค์ใช้คอมพิวเตอร์เผยแพร่คำสอนภายในกุฏิก็เป็นไปได้ "แม้ว่าเทคโนโลยีจะล้ำหน้าไปไกลสักเพียงใด แต่ก็ไม่อาจหักล้างคำสอนของพระพุทธเจ้าได้ เช่น อริยสัจ 4 ที่พระองค์ตรัสไว้เมื่อสองพันปีก่อน ทุกวันนี้ยังคงเป็นเช่นนั้น เราไม่สามารถไปตัดทอนหรือเพิ่มเติมได้ เพราะธรรมะของพระองค์คือความจริงที่เป็นสากล ไม่ขึ้นกับกาลเวลาและสถานที่ ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะเห็นพระสงฆ์ใช้ไอทีมาเผยแพร่หลักธรรม"

ว.วชิรเมธีบอกว่า มีคำถามพระภิกษุสงฆ์-สามเณรใช้คอมพิวเตอร์เหมาะสมหรือไม่ ก็ตอบได้ว่า ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานว่าเป็นคนดีหรือคนชั่ว หากพระใช้เพื่อสร้างสรรค์ก่อเกิดแสงสว่างทางปัญญาก็ไม่ผิด แต่ถ้าพระไม่ดีมาใช้ก็แน่นอนว่าจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง เช่น เปิดเว็บไซต์ลามก เป็นต้น ดังนั้น ผู้ใช้ต้องมีสติปัญญา รวมทั้งเยาวชนและคนทั่วไปก็ต้องรู้จักการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคมส่วนรวม

พระนักเทศน์ชื่อดังกล่าวถึงเว็บไซต์ธรรมะทูเดย์ว่า เป็นอีกก้าวหนึ่งของการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนเพื่อประโยชน์สุขของมวลมนุษยชน และเปิดเส้นทางให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงพระพุทธศาสนาได้ง่ายเพียงปลายนิ้วมือสัมผัส อาจจะเห็นแค่หน้าจอเล็กๆ แต่เข้าถึงธรรมะอย่างลึกซึ้ง ทุกครั้งที่อาตมาเทศน์บรรยายธรรมะที่ไหน ก็จะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางเว็บไซต์ และจะดูซ้ำกี่ครั้งก็ได้เพื่อให้คนเรียนรู้ธรรมะมากที่สุด

เนื้อหาในเว็บไซต์แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ ส่วนแรกเป็นวัดบนเว็บ เมื่อคลิกเข้าไปจะทำให้ผู้ชมได้รับความรู้และความเพลิดเพลินจากห้องต่างๆ ที่จำลองเสมือนจริงในรูปแบบสามมิติ มี 3 แห่งคือ "ห้องไตร่ตรองมองตน" แหล่งรวบรวมข้อคิดคำคมจาก ว.วชิรเมธี "ห้องตื่นรู้อยู่กับปัจจุบัน" ให้เรียนรู้วิทยายุทธ์ในการตื่นรู้ดูใจ และ "ห้องแห่งแรงบันดาลใจ" นำเสนอภาพและผลงานบุคคลสำคัญระดับโลก พร้อมวรรคทองประจำตนมาให้ศึกษาจากชีวิตจริงของบุคคลเหล่านั้น

ส่วนที่สองเปรียบเสมือนห้องสมุดค้นคว้าความรู้ แบ่งเป็นประวัติ ผลงาน และเกียรติคุณ ว.วชิรเมธี สถาบันวิมุตตยาลัย โครงการและกิจกรรมต่างๆ วิดีโอและคลิปเสียงบรรยายธรรม ข่าวสารและความเคลื่อนไหวในแวดวงพระพุทธศาสนา หนังสือแจก หนังสือจำหน่าย และธรรมะบริการมีทั้งวันสำคัญทางศาสนา พระไตรปิฎก สมเด็จพระสังฆราช ครูบาอาจารย์ พุทธศาสนสุภาษิต และสังเวชนียสถาน เป็นต้น

"ธรรมะไม่กลับมาโลกาวินาศ ถ้าพระไม่ทำเว็บไซต์ดีๆ ฝ่ายอธรรมก็จะใช้มาครอบครองทั้งหมด เว็บไซต์ธรรมะทูเดย์จึงเป็นเครื่องมือให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่สังคม เป็นการทำงานเชิงรุก กล่าวได้ว่าเป็นธรรมาภิวัตน์ก็ได้ ปัญญาภิวัตน์ก็ดี พวกเราอย่าเพิ่งหมดหวังกับความเสื่อมถอยของพระสงฆ์ที่ออกนอกลู่นอกทางพระพุทธศาสนาในขณะนี้" ว.วชิรเมธีกล่าวสรุป.


ที่มา: เดลินิวส์

 

หวัด D ตอนสายๆ ก๊าบ....ทุกๆท่าน

 

ขอแสดงความยินดีกับคุณพ่อคนใหม่...ของน้องปุณณดาด้วยนะครับ

(ด. เป็นกาลกิณี แต่โดยรวมดีครับ)

 

ขอบคุณครับ คนคำนวณหรือจะสู้ฟ้าลิขิต ตอนแรกก็กะว่าจะผ่าคลอดก่อนหน้านี้ แต่คิดไปคิดมากับแฟนว่าลองคลอดเองดีกว่า คุณหมอกำหนดคลอด 24ธค นี้แล้วเมื่อคืนแฟนผมปวดท้องตอนตี2 ก็เลยมาโรงพยาบาลกัน เช็คไปเช็คมา สรุปผ่าคลอดตอนเช้าเลยครับ ลูกผมปลอดภัยน้ำหนักเอาการ 3.54กกครับ

 

วันนี้ Office ผมเปิดครึ่งวัน ประเดี๋ยวจะออกไปเตรียมการเรื่องขนบ้านในวันพรุ่งนี้ ... เตรียมรถพ่วงไว้หนึ่ง + สิบล้ออีกหนึ่ง รถเครนหนึ่ง ... อวยพรให้งานใหญ่นี้ราบรื่นไปได้ด้วยดีเถอะนะครับ Bye-bye!

 

ยินดีด้วยครับ น้ำหนักมากๆเลยครับของให้แข็งแรงทั้งแม่และลูกครับ หุ หุ

 

ขอแสดงความยินดีด้วยครับ

เยี่ยมมากกกกกกกกกกกกกก
.

 

ต้องราบรื่นแน่นอนครับ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แนะดื่มน้ำองุ่นปกป้องความจำ
Around the World - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>24 ธันวาคม 2552 16:25 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=333 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=333> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>น้ำองุ่นช่วยฟื้นความจำปกป้องการทำงานของสมอง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เดลิเมล์ – งานวิจัยระบุดื่มน้ำองุ่นช่วยลดหรือฟื้นความทรงจำที่สูญเสียไป เชื่อเป็นผลจากสารต่อต้านอนุมูลอิสระในเนื้อและน้ำองุ่น

นักวิจัยจากแผนกจิตเวช มหาวิทยาลัยซินซินเนติ สหรัฐฯ ได้ทำการทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง 12 คนอายุ 75-80 ปีที่เริ่มสูญเสียความจำ โดยแบ่งออกเป็นสองกลุ่มๆ หนึ่งกินน้ำองุ่นพันธุ์คองคอร์ด ซึ่งปลูกในแมสซาชูเสตส์ เข้มข้น 100% อีกกลุ่มกินน้ำองุ่นปลอม

ทั้งสองกลุ่มต้องทำการทดสอบความจำเป็นประจำตลอดช่วงเวลา 3 เดือน โดยเป็นการทดสอบภารกิจทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับคำ อาทิ การท่องรายชื่อต่างๆ หรือการจำตำแหน่งของสิ่งของ

นักวิจัยพบว่าผู้ที่ดื่มน้ำองุ่นเป็นประจำมีความจำดีขึ้นเรื่อยๆ ตลอดระยะเวลาการทดลอง

ดร.โรเบิร์ต เคอร์โคเรียน แกนนำการศึกษา ได้แสดงผลการวิจัยต่อที่ประชุมอินเตอร์เนชันแนล โพลีฟีนอลส์ แอนด์ เฮลท์ คอนเฟอเรนซ์ในแฮร์โรเกต นอร์ธยอร์กเชียร์ อังกฤษ เมื่อเร็วๆ นี้

“หลังการทดลอง เราพบว่ากลุ่มตัวอย่างที่ดื่มน้ำองุ่นคองคอร์ดสามารถเรียนรู้ในการจดจำคำต่างๆ ได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน และแนวโน้มนี้บ่งชี้ถึงพัฒนาการในปกป้องความจำช่วงสั้นและความจำเกี่ยวกับตำแหน่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับคำพูด

“ผลการศึกษาซึ่งเกี่ยวข้องกับน้ำองุ่นคองคอร์ดนี้น่าสนใจมาก และสมควรทำการวิจัยขยายผลต่อไป

“มาตรการแทรกแซงทางโภชนาการที่ไม่ซับซ้อนนี้ซึ่งช่วยปรับปรุงและป้องกันฟังก์ชันความจำของคนเรา เช่น การดื่มน้ำองุ่น อาจเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับประชากรสูงวัย”

การศึกษานี้ช่วยสนับสนุนทฤษฎีที่ว่าอาหารและเครื่องดื่มที่อุดมด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ อาจช่วยปกป้องการทำงานของสมอง และชะลอการสูญเสียความจำได้

ในการวิจัยที่ครอบคลุมกลุ่มตัวอย่างเกือบ 2,000 คนในปี 2006 นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลต์ เทนเนสซี สหรัฐฯ พบว่าการดื่มน้ำผลไม้และน้ำผักสัปดาห์ละ 3 ครั้งขึ้นไป ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ถึง 76% ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับคนที่ดื่มน้ำผักและผลไม้ต่ำกว่าสัปดาห์ละครั้ง

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขอแสดงความยินดีกับคุณพ่อคนใหม่...ด้วยคนครับ

 

ขอให้สมปรารถนาทุกอย่างครับท่าน

แต่เชื่อนะครับว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ท่านนับถืออยู่จะทำให้ทุกอย่างง่ายกว่าที่คิดไว้เยอะเลยครับ ผมเจอมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว

 

เรียนท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้าทุกท่าน

ผมเองมีพิมพ์ที่พิเศษอยู่ 1 พิมพ์ ซึ่งพิมพ์นี้หลายๆท่าน(รวมทั้งผม) จะเรียกว่า เป็นที่รักของสามโลก ผมจะมอบให้กับท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้าทุกๆท่านหากมีความใส่ใจในกิจกรรมของชมรม มีการให้ความร่วมมือกับชมรมด้วยดีตลอดมา(ต้องเข้าร่วมการประชุมทุกๆครั้งในวาระต่อๆไป) และผมจะขอดูจนถึงสิ้นปีหน้า( 2553 )

แต่หากใจร้อน ต้องการที่จะได้ก่อน ผมจะนำมามอบให้กับท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และคณะพระวังหน้า โดยร่วมบริจาคเข้าชมรม จำนวน 1,000 บาท ผมมอบให้ 1 องค์ครับ

โมทนาสาธุครับ