ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

การบังคับคดี ถ้าหลักทรัพย์นั้น มีจำนวนเงินมากกว่า<O</O
จำนวนเงินกู้ เช่น ที่ดินแปลงนี้ ราคาประเมิน
อยู่ที่ 1 ล้านบาท แต่กรมบังคับคดีเคาะขายแล้ว
ปรากฏว่ามีผุ้ซื้อไปในราคา 500,000 บาท
แต่มูลค่าหนี้จริง ๆ หลังจากศาลสั่งแล้ว
มีเพียง 300,000 บาท ดังนั้น เงินส่วนที่เกิน
200,000 บาทนี้ถึงจะตกเป็นส่วนของคนที่กู้ร่วม
หรือค้ำประกันไป แต่ถ้ากรมบังคับคดี ขายทีดิน
<O</O
ได้แค่ 200,000 บาท เงิน 100,000 บาท ทางศาล
ก็จะบังคับคนที่กู้เงินและผู้ค้ำประกัน bank
ไปหาเงินมาใช้คืน bank ในส่วนที่ขาด
เพราะฉะนั้น พิจารณาดูให้ดี ๆ ว่า เรื่องราว
มันเป็นอย่างไร พวกเขาถนัดนักที่จะ
เอาดีเข้าตัว เอาชั่วโยนใส่คนอื่น<O</O

 

คนที่เขารู้จริง ๆ นะ เขารู้ขั้นตอนตามกฎหมายดี
แล้วเผอิญไอยทำงานด้านนี้อยู่ รวมทั้งประสบการณ์
ที่สะสมมาเป็นสิบปี เพราะฉะนั้น พอเขาเขียน
เรื่องนี้ขึ้นเวปมาไอยก็นั่งขำ ๆ เฮ้อ หลอกคนอื่น
นะอาจจะหลอกได้ แต่หลอกตัวเองนะมันหลอก
กัน<O</Oไม่ได้หรอกนะ คนอ่านที่เขามีความรู้
มีปัญญา แค่อ่านแค่นี้ เขาก็รู้ทันกันแล้ว<O</O
แต่เขาเลือกที่จะไม่พูดออกมากันทั้งนั้น
เพราะเขาอยากดูตัวโง่ ที่เขากะลา<O</O
ชอบพูดว่าคนนั้น คนนี้กันต่างหาก<O</O
<O</O

เพราะฉะนั้น การที่จารวรรณ เลือกซื้อที่ดิน
ตรงนี้ ก็ต้องการที่จะช่วยพวกเขาต่างหาก<O</O
ไม่ใช่เป็นเพราะพวกเขา เห็นแก่จารวรรณ
หรือตามที่เขาอ้างกันในเวป<O</Oใด ๆ เลย <O</O

 

2. จาการซื้อที่ดินตรงนี้ รวมทั้งบริจาคเงิน
เพื่อสร้างสถานธรรม จารวรรณต้องหมดเงิน
ไปสองล้านกว่าบาท เกือบสามล้าน ซึ่ง
จารวรรณเองนั้นหลังจากสามีเสียชีวิตแล้ว
ก็ไม่มีรายได้อะไร จึงตัดสินใจที่จะขายที่ดิน
แปลงนี้บางส่วน ซึ่งปรากฏว่า พี่สุดใจมาแอบ
กระซิบกับจารวรรณว่าเงินที่ขายที่ดินแปลงนี้นั้น
เป็นเงินระบบ (เขากะลา) เพราะฉะนั้น
ระบบ (เขากะลา) ขอส่วนแบ่ง 50%

ซึ่งเรื่องนี้ ไม่มีใครทราบ เพราะมีแต่พวกเขา
กับจารวรรณที่รู้กัน และจารวรรณ พึ่งจะมา
บอกเรื่องนี้ หลังจากที่ออกจากเขากะลาแล้ว <O</O
ซึ่งทำให้พวกเราแปลกใจกันมากว่า
อ้าว ไหนว่าไม่ยึดติด ไหนว่าไม่ต้องการเงิน<O</O
แล้วมาเรียกร้องขอส่วนแบ่ง 50% โดยอ้างว่า
ระบบบอก

 

ว้าว พึ่งรู้ว่าระบบ (เขากะลา) ต้องใช้เงินด้วย
แล้วที่บอก ที่สอนคนอื่น ไม่ให้มีตัว ให้ละวาง
ทรัพย์สินเงินทอง มันเป็นของนอกกกาย
ทุกอย่างเป็นของระบบหมด พึ่งรู้นะค่ะเนี่ยว่า
ระบบนะต้องใช้ตังค์ แถมกินคำโตซะด้วย
โอโห ค่านายหน้าจากการขายที่ดิน
เขาเรียกกันแค่ 3% เอง อย่างนี้มันปล้น
เขากินกันแล้วละจ๊ะ ระบบเขากะลาจ๋า
<O</O
อะ..อะ...อย่ามาบอกว่า ที่ขอ 50% นะ คือ
ส่วนที่เขาจะได้จากการขายที่ให้ถูก ๆ นะจ๊ะ<O</O
มุขนี้มันแป๊กแล้วจ้า เรื่องขอส่วนแบ่ง
โดยอ้างระบบเขากะลายังมีอีก แต่กับคนอื่น
ใจเย็น ๆ นะค่ะ ขอเล่าตรงส่วนจารวรรณก่อน<O

 

3. ตามที่รู้กัน คุณบุญช่วยจะต้องไปบวชชี
ก็เลยหาพ่อแม่บุญธรรมให้กับเด็ก ๆ
ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ ก็ตามที่ไอยลงไป
นั้นแหละค่ะ แต่มีเรื่องหนึ่ง คือ คุณบุญช่วย
ผ่อนมอเตอร์ไซด์ไว้ ครั้นจะไปบวชชีก็ไม่มี
ใครส่งต่อ จะให้โดนยึดไปก็กระไรอยู่
เห็นบอกว่าผ่อนใกล้หมดแล้ว ก็เลยมีการ
พูดจาไปทางจารวรรณ ซึ่งตอนนั้นอยู่
เมืองนอก จารวรรณเลยให้เงินยืมมา
20,000 บาท โดยโอนเงินผ่านทาง คุณ No.9
หลักฐานการโอนเงินยังมีอยู่นะค่ะ รอจารวรรณ
มายืนยันก็ได้เพราะจารวรรณยินดีที่จะเอา
หลักฐานให้ดู แต่กลับมาปรากฏว่า มีข่าวว่า
มอเตอร์ไซด์<O</Oคันนี้ มีการบอกให้ทางคนที่อยู่
ภาคเหนือมาช่วยส่ง แต่ไอยก็ได้ยินข่าวว่า
มีคนหนึ่งในกทม. ก็ยื่นมามาช่วยอีกเช่นกัน <O</O

 

เอ ตกลงมอเตอร์ไซด์คันนี้ บอกบุญกันกี่คนแน่
<O</O
อยากให้คนที่ยื่นมาช่วยเรื่องค่ามอเตอร์ไซด์นี้
ออกมาชี้แจงหน่อยค่ะ
<O</O
(เรื่องนี้เป็นการบอกบุญกับคนที่ถูกขยาย
ในขั้นลึก ซึ่งตัวเขาจะยอมเปิดเผยมั้ยเนี่ย)<O</O
<O</O

แล้วอย่ามาตีขลุมเอาอีกนะค่ะว่า เขาช่วย
มอเตอร์ไซด์คันนั้น คันนี้ เพราะบ้านนี้<O</O
มีมอเตอร์ไซด์หลายคัน เดี๋ยวจะเอามา
อ้างอีก เพราะตามที่มีข้อมูลมานั้น<O</O
ที่ทุก ๆ คน ช่วยกันมีเพียงมอเตอร์ไซด์คันนี้
เท่านั้น นอกนั้นขับไม่ได้

<O</Oพูดค้างกันเรื่องมีการมุบมิบขอส่วนแบ่ง
ที่ไอยบอกว่ายังมีอีกคนที่โดนเรียกร้อง<O</O
ซึ่งเรื่องนี้ไอยได้ยินกับหูตัวเอง (อีกแล้ว) <O</O

 

ขออนุญาตพูดถึงจารพีทกันบ้างนะค่ะ
พระเอกของเรานี่แหละค่ะ เป็นเรื่องที่นึกไม่ถึงว่า
จารพีทจะโดนด้วย ถ้าไม่เกิดเรื่องนี้กันขึ้นมา

<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O< O< p>ก็ไม่มีใครรู้หรอกค่ะ เพราะต่างคนต่างปิดกันไว้

อย่างที่รู้กัน ๆ ในกระทู้ว่า จารพีทมีโครงการ
ทำนั่นทำนี่ ออกมามากมาย แต่ไฉนทำไม่สำเร็จ
ซะอย่าง ไอยถึงพึ่งจะทราบนี่แหละค่ะ
ว่าทางเขามีการ<O< b O<>ไปพูดกับจารพีทว่า
ถ้าจารพีทจะทำอะไรเกี่ยวกับ (เขากะลา)
ระบบ (เขากะลา) ขอส่วนแบ่ง 9% ไม่ว่าจะทำ
หนังสือ ทำเวปไซด์ ทำเสื้อยืด ฯลฯ โดยเฉพาะ

<O< O< p>ที่จารพีทจับโกหกคำโตได้ ก็คือ เรื่องการทำ
น้ำดื่ม ยี่ห้อ (เขากะลา) <O< font O<>
</O<></O<></O<></O<>

 

ซึ่งขอบอกเรื่องนี้มีที่มาที่ไป เกี่ยวเนื่องด้วยกับ
จารโม่ นี่แหละค่ะ เลยทำให้ไอย ได้ยิน ได้รู้
ได้เห็น เรื่องนี้คาหนังคาเขา จารพีทโทรมา
ปรึกษาจารโม่เรื่องว่า อยากทำธุรกิจน้ำดื่ม
จะใช้ยี่ห้อ (เขากะลา) จารพีทโทรมาปรึกษา
ว่าทำดีไหมจารโม่บอกว่า ทำไปได้เลย
ทางบ้านผม (บ้านจารโม่) รู้มั้ยว่าคุณพ่อผม
<O</O
ทำธุรกิจน้ำดื่ม แล้วได้การรับรองคุณภาพ
ไปเอาที่บ้านผมได้เลย ถ้าจารพีทอยากทำ<O</O
แล้วไม่ต้องมาแบ่งให้ผม ไม่ต้องมาแบ่งให้
เขากะลา เพราะระบบ (เขากะลา) ไม่ต้อง
ใช้เงิน จารพีทไปขนมาได้เลย จะเอาทั้งขวด
แล้วมาใส่ชื่อเขากะลา เลยก็ได้<O</O
เชื่อมั้ยจารโม่ไม่เคยเรียกร้องเงินทองซักบาท
และบอกว่าไม่ต้องเอามาให้ระบบ (เขากะลา)<O</O

 

เรื่องนี้ไอยได้ยินกับหูเอง ซึ่งเรื่องนี้จารพีท
โทรมาปรึกษาจารโม่หลาย ๆ ครั้ง และจารโม่
ก็ยินดีที่ช่วยเหลือจารพีท โดยไม่เรียกร้องใด ๆเลย
และจารพีทก็ไม่เคย<O></O>เล่าเรืองที่ว่า ระบบ
(เขากะลา) เรียกร้องส่วนแบ่ง จนกระทั่ง
เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา
<O</O
ซึ่งเป็นข้อมูลที่จารวรรณก็โดน จารพีทก็โดน
แต่พวกเขาไม่เคยบอกเราเลยซักครั้งเดียว<O</O
เพราะฉะนั้น ที่ใครต่อใครว่า ทุกคนโดนจารโม่
ครอบงำ คงจะคิดออกแล้วใช่มั้ยค่ะ<O</Oว่า
ถ้าทุกคนไม่เกิดเหตุการณ์นี้ และเก็บไว้ในใจ
เก็บไว้เป็นข้อมูล จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์<O</O
ต่าง ๆ ขึ้น ทุกคนจึงได้ตัดสินใจออกจาก
เขากะลาในทันที อย่าลืมว่า คนที่ก้าวขึ้นมา
<O</O
เป็นถึงอาจารย์กันได้ มันไม่ใช่โดนครอบงำ
ไปเสียหมด แต่อยู่ที่การใช้ปัญญา
ในการพิจารณา<O</Oถูกผิดดีชั่วต่างหาก
<O</O</O

 

ในที่สุดก็แสดงธาตุแท้และตัวตนที่แท้จริงออกมา

โกรธแค้นเคืองโกรธก็ด้วยเรื่องของ
ผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัวนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการที่ต้องอดตาหลับขับตานอนนั่งร้อยลูกประคำทั้งวันทั้งคืน เพื่อให้ได้มาซึ่งรายได้ของ....... ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโครงการพ่อแม่อาสา ซึ่งถูกสั่งปิดลงด้วยความไม่ชอบมาพากล

ก็ไหนเคยบอกว่า ไอย เป็นบุคลลคนหนึ่งที่ระบบได้คัดเลือกแล้ว ว่าเป็น คนที่ปล่อยวางได้ในระดับหนึ่ง จึงได้รับการคัดเลือกให้นำลูกทั้ง 2 คนเข้ามาอยู่ในโครงการนี้ แต่ข้อเท็จจริงแล้ว คุณนีโม่ เป็นผู้คัดเลือกเอง และอ้างระบบจัดให้

นี่หรือคือบุคคลที่ระบบคัดแล้ว มีแต่ อัตตา แสดงให้ดูอยู่ทุกวัน

ถ้าจะขำคนอื่นละก้อ ขำการแสดงที่ตัวเองกำลังแสดงอยู่ด้วยนะ จะได้อารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง

 

แม้กระทั้งเรื่องจารพีท ได้รับการแต่งตั้งเป็น
วิปัสนาจารย์นั้น ไอยก็อยู่ในเหตุการณ์เช่นกัน
วันนั้นจารโม่ได้รับโทรศัพท์จากจารพีท ๆ
โทรมาคุยเรื่องธรรมะแบบนั้น <O</Oแบบนี้ใช่มั้ยครับ
จารโม่ ซักพักได้ยินจารโม่บอกว่า จารพีท
ผมได้รับข้อมูลว่าให้แต่งตั้งจารพีทเป็น
วิปัสสนาจารย์ ซึ่งตอนที่ได้รับข้อมูลนั้นเป็น
ช่วงสาย ๆ <O</Oสัก 10 โมง 11 โมง
พอคุยกับจารพีทเสร็จ ก็มาเล่าเรื่องจารพีท
ได้รับการแต่งตั้งให้ไอยฟัง ซึ่งจารโม่เองก็
บอกว่าคาดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าจะเป็นจารพีท<O</O
แต่มีข้อมูลมาแบบนั้น หลังจากนั้นก็โทรไปหา
พี่สุดใจ เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง พี่สุดใจเองก็พึ่งทราบ
จากปากจารโม่ เพราะไอยได้ยินคำพูดโต้ตอบ
ระหว่างกัน ถึงทำให้รู้ว่าพี่สุดใจไม่รู้เหมือนกัน
ว่าจารพีทได้รับแต่งตั้ง แต่ตีขลุมเอาทันที
เหมือนกันว่าข้อมูลเดียวกัน อ้าวไหนว่าระบบ
เดียวกัน ทำไมข้อมูลที่แจ้งมา จารโม่ถึงได้รับ
ก่อนพี่สุดใจเสียอีก ไหนว่าเป็นหัวหน้าหน่วย
ทหารไม่ใช่หรือ แล้วมารู้ทีหลังลูกกระจ๊อก<O</O
ได้อย่างไรเล่า นั้นแหละที่ทำให้ไอยเกิด
สะกิดใจขึ้นมาทันที แล้วเก็บข้อมูลตรงนี้เอาไว้ <O</O

 

พูดถึงเรื่อง ทหาร พูดถึงเรื่องการบังคับบัญชา
ถ้าลองย้อนอ่านดูจะเห็นได้ว่า ตอนที่เกิดเรื่อง
โครงการพ่อแม่บุญธรรม ระหว่างพี่สุดใจกับ
จารโม่เขาเขียนว่า เราทุกคน คือ มาทำหน้าที่
ช่วยเหลือเรื่องภัยพิบัติ เราต้องอยู่ภายใต้<O</O
บังคับบัญชาของหัวหน้าหน่วย เรามีระบบ
เราต้องทำตามข้อมูลของระบบ <O</O
อ้าว แล้วระบบลืมไปแล้วเหรอว่า ใครคือ
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ก็ระบบแต่งตั้ง<O</O
จารโม่เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดเอง
แต่ระบบกลับให้จารโม่ไปฟังคำสั่ง<O</O
หัวหน้าหน่วย แปลกดีเนอะ มันขัดแย้งมั้ย
กับคำพูดกลับกลอกไป กลับกลอกมา<O</O
แบบนี้ มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่า
พวกคุณเอาคำว่าระบบมาใช้อ้างเอาประโยชน์ตนทั้งสิ้น<O</O</O

 

เรื่องตีขลุมเอาคนนั้น คนนี้เข้ามาเป็นพรรค
เป็นพวก เข้ามาสมอ้าง เอาประโยชน์เข้าตัว
เอาชั่วใส่คนอื่น เป็นงานที่เขาถนัดนักล่ะ
ดังจะเห็นได้จากหน้าเวปว่ามีการไปแวะหา
คนนั้น คนนี้ คนนู้น ไม่เว้นแม้กระทั่งพระสงฆ์
องค์เจ้า <O</Oเอาเรื่องราวคนนั้นคนนี้มาใส่ประกอบ
กับเรื่องของตัว <O</Oแล้วก็ตีขลุมเอาแต่เรื่องดี ๆ ใส่ตัว
ให้คนอ่านเข้าใจว่าบุคคลที่เข้าไปหานั้น<O</O
หรือเอาเรื่องราวของเขามาอ้างในกระทู้
เป็นคนที่ยอมรับพวกเขา
<O</O
หึ...หึ...แต่หารู้ไม่ว่า พวกเขาพูดกันไม่ออก
บอกไม่ถูก กับการกระทำมั่วนิ่มเอาแต่ได้
ของพวกเขา ไอยเองเห็นการกระทำของเขา
แล้ว บอกได้เลยว่าสมเพชเอามาก ๆ กับการ
ชอบหลอกใช้คนอื่น เพื่อเอาประโยชน์ตัว
(ตามแบบที่เขาชอบพูดกันนั้นแหละ)

 

แล้วบังเอิญ ไม่รู้ว่าเป็นความโชคดีหรือโชคร้าย
ของไอยที่ทุกคนรู้เบอร์ไอยกันหมด
เพราะเป็น center แจ้งเบอร์โทรหน้าเวป <O</O
ดังนั้น คนที่เขาอ้าง ๆ กันในกระทู้นั้น ไอยได้รับ
แจ้งมาว่า เขาไม่รู้เรื่องด้วยเลย อยู่ดี ๆ เอาชื่อ
เขามาใส่ ไปแวะหาเขา ทำเป็นไปเยี่ยมเยียน
ทักทาย ซึ่งตามมรรยาทแล้ว เขาก็ปฏิเสธไม่ได้
แต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะเอาเรื่องราวไปลงในกระทู้
ทำเสมือน<O</Oหนึ่งว่ายินดี หรือรับรองพวกเขา
นั้นเอง ซึ่งบุคคลท่านต่าง ๆ เหล่านี้ คือ
ผู้ปฏิบัติธรรมครั้นจะไปชี้แจงรายละเอียด
ก็กระไรอยู่ พูดง่าย ๆ ก็คือว่า มัดมือชกพวก
ท่านทั้งนั้นซึ่งคนอ่านนำไปพิจารณาเองนะค่ะ
ว่าสิ่งที่ไอยพูดเป็นจริงหรือไม่
<O</O</O

 

ได้เข้ามาอ่านในกระทู้ เห็นมีข่าวท่าน
ดร. เทพพนม ว่ามีความเมตตาต่อพวกเขามาก
<O</O
ดูเสมือนให้การรับรองเขาไปในตัว แหม ทำไม
ไม่เล่าเรื่องตั้งแต่ต้นเลยละค่ะว่าท่าน ดร. มี
ความเมตตา กรุณา และมีบุญคุญอันยิ่งใหญ่
ต่อลูกหลานพ่อเชิดต่อครอบครัวนี้อย่างไรบ้าง
เดี๋ยวไอยจะเล่าความจริงให้ฟัง อย่างที่รู้กัน
หลัง ๆ พ่อเชิดท่านป่วยหนัก มีหลายโรครุมเร้า
โดยเฉพาะโรคไต<O</Oซึ่งต้องใช้เงินในการรักษา
ตัวอย่างมาก แต่ในขณะนั้น ครอบครัวนี้
ไม่มีเงิน ไม่มีความสามารถในการที่จะหา
เงินมารักษา เลยไปพบ ดร. เทพพนม
เพื่อนำเงินมารักษาพ่อตัวเอง โดยท่าน ดร.
ก็ช่วยเงินทองในการรักษาไปมาก คือ
พูดง่าย ๆ ว่า ไม่มีเงิน ก็วิ่งไปหาท่าน
แทบทุกครั้ง และ ท่าน ดร. ก็ช่วยทุกครั้ง
และไม่เคยไปเล่าหรือลงโฆษณาตามหน้าเวป
หรือ หนังสือพิมพ์ หรือบอกเล่าเก้าสิบให้ใครรู้เลย

 

ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้เรื่องนี้กันมากนัก เพราะ
ท่านเองเป็นผู้ปฏิบัติธรรม รู้จักกับพ่อเชิด
มาเป็นสิบ ๆ ปี ในเมื่อทางนี้เดือดร้อน เพราะ
ต้องใช้เงินไปรักษาพ่อท่านก็ยินดีช่วยด้วย
ความเต็มใจ และปิดทองหลังพระมาตลอด <O</O
แต่จะเห็นได้จากหน้าเวป ว่าเขากะลากำลังถูก
เรื่องราวต่าง ๆ มาเปิดเผยเลยแจ้นไปหา
คนนั้น คนนี้ โดยเฉพาะคนที่มีชื่อเสียงทาง
สังคม เพื่อมายืนยันว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์
แต่อย่างที่บอก ยิ่งดิ้นก็ยิ่งรัด ยิ่งมัดก็ยิ่งแน่น<O</O
เพราะการกระทำที่ผ่านมา เพียงแค่ต้องการ
กลบเกลื่อนหลักฐานที่ไอยมีเท่านั้น<O</O

 

ไม่เฉพาะแต่คนอื่น ๆ ที่โดนกล่าวอ้าง เพื่อลาก
เอามาเป็นพวกตามที่เขาถนัดซึ่งบุคคลต่าง ๆ
เหล่านี้ ทุกคนช่วยพวกเขาด้วยหลักเมตตาธรรม
ยกตัวอย่างพระภิกษุ ถึงแม้ท่านจะรู้ได้โดยญาณว่า
เงินที่มีผู้บริจาคทำบุญคนนั้น นำมาให้มาจาก
เงินที่ทำการหากินด้วยความทุจริต ท่านก็ไม่
สามารถที่จะปฏิเสธ ไม่รับเงินนั้นได้
เฉกเช่นเดียวกัน ถึงแม้ผู้ปฏิบัติธรรมอย่างแท้จริง
จะมีใครมาพบปะ<O</Oมาเยี่ยมเยียนท่าน มาทำ
ความรู้จักกับท่าน ทุก ๆ คนที่มาหาท่าน
<O</O
ไม่ว่าจะเป็นคนดีหรือคนเลว ท่านก็ไม่สามารถ
ปฏิเสธได้ แต่คนเหล่านั้นต่างหากที่มาหา
ผลประโยชน์กันท่านเอง อย่างปฏิเสธไม่ได้
<O</O
พระพุทธองค์ ถึงแม้มารจะมาใส่ร้ายป้ายสี
ท่านนับพันครั้งถึงแม้ท่านจะถูกกระทำ
ไม่รู้กี่ร้อย กี่พันครั้ง จิตใจของพระองค์ท่าน
มีแต่ความเมตตา กรุณา ต่อทุกสรรพสัตว์
ไม่ว่าจะเป็นเทพ หรือมารก็ตาม
<O</O

 

สิ่งที่ไอยนำมาพูดต่าง ๆ ในกระทู้นี้ เป็นเรื่องที่
ไอยได้รับคำบอกเล่าจากแต่ละคน รวมทั้ง
จากบุคคลอื่น ๆ ที่อยู่ในแวดวงธรรมะด้วยกัน
ทั้งนั้น <O</Oเพราะฉะนั้น ยืนยันว่าเรื่องต่าง ๆ
เป็นเรื่องจริงทั้งหมด แต่พูดไป ก็ดูเหมือน<O</O
พูดเข้าข้างตัวเองฝ่ายเดียว ฉะนั้น ไอยเลือก
ที่จะไม่พูดออกไป เพื่อรอเวลาให้เหตุการณ์
ต่าง ๆ มันพร้อม ดูตัวอย่างในเวปซิค่ะ
ขนาดไอยเอาหลักฐานทางการเงินอย่างชัดเจน
ยังมีคนหลง ยังมีคนเอาสีข้าง<O</Oแถไปจนได้
แล้วนับประสาอะไรกับการพูดด้วยลมปากอย่างเดียว
<O</O
ไอยถึงได้เงียบมาตลอด แล้วเอาสภาวะต่าง ๆ
เหล่านี้เป็นธรรมะสอนตัวเอง แต่เมื่อมาถึงวันนี้
ไอยยอมรับไม่ได้ กับการที่ผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็น
จารโม่ จารวรรณ โดยเฉพาะจารจอห์นนี่ด้วยแล้ว<O</O
กลับถูกลากเอามาต้มยำทำแกงอยู่หน้าเวป
ซึ่งบุคคลต่าง ๆ เหล่านี้ทุ่มเทให้กับพวกเขา
ทั้งแรงกาย แรงใจ ทุนทรัพย์ และทุก ๆ อย่าง
ที่มีทั้งหมด เพื่อทำงานให้พวกเขา เพื่อทำงาน
ให้กับสังคม

 

ยิ่งโดยเฉพาะจารจอห์นนี่ด้วยแล้ว เป็นคนที่มีแต่
ให้กับให้อย่างแท้จริง ลงทุนทำเปิดบ้านเป็น
สถานธรรม ลงทุนซื้อศาลาราคา 2 แสน
ลงทุนเช่าพระถึง จ. พิษณุโลก ลงทุนเลี้ยง
อาหารญาติธรรมทุก ๆ ท่านที่มา ลงทุน
ทำหนังสือธรรมะชุดแรกด้วยตัวเอง
ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ภาษาไทย ลงทุนเป็นเจ้าภาพ
ทุกงานที่จัดกิจกรรมที่ท่านได้ไปด้วย<O</O
ไม่ว่าจะจ่ายค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าน้ำมัน
พูดกันง่าย ๆ ว่าใครได้ไปกับจารจอห์นนี่
ไม่ต้องควักกันเลยสักบาท แถมไม่มีค่ารถ
กลับบ้านยังเมตตาให้เงินแถมไปอีก
แต่นี่กระไร ช่างไม่รู้จักคุณคน ไม่มีสามัญสำนึก
ว่าเขากะลาเกิดขึ้นมาได้ ท่านเป็นผู้ริ่เริ่มวาง
รากฐานอีกคนหนึ่งมีความสำคัญไม่น้อยกว่า
จารโม่ จารวรรณ <O</Oและจารวิจิตรเลย แต่กลับมา
ทำร้ายท่านในเวปอย่างไร้ซึ่งความยุติธรรม
ท่านเองก็ไม่มีสิทธิมาตอบโต้หรือชี้แจงใด ๆ<O</O
ได้เลย เพราะท่านเป็นคนไต้หวัน ไม่รู้ภาษาไทย
พูดได้เพียงอย่างเดียว
<O</O</O

 

เมื่อวานนี้ ไอยได้คุยกับกัลยณมิตรคนหนึ่ง
เกี่ยวกับเรื่องเขากะลา ซึ่งบุคคลนี้เป็นคนหนึ่ง
ที่พวกเราทุกคนรู้จักกันดี และก็เป็นบุคคลหนึ่ง
<O</O
ที่ได้รับฟังเรื่องราวต่าง ๆ ตั้งแต่ต้น ทั้งสองทาง
มาพร้อม ๆ กัน แต่ท่านเลือกที่จะฟังอีกฝ่าย
ด้วยเห็นว่า ไอยภูมิจิต ภูมิธรรมน้อยกว่า
<O</O
วัยวุฒิ คุณวุฒิน้อยกว่า เห็นว่าไอยไม่มีญาณ
หยังรู้ ไม่มีฤทธิอภิญญาใด ๆ สู้คนที่เขานับถือ
ไม่ได้ แต่พอไอยเปิดเผยหลักฐานทางการเงิน
ทั้งหมดลงในเวป เขาถึงได้เข้าใจว่า
สิ่งที่เขาพยายามถามไอยมาตลอด 2 เดือน<O</O
สิ่งที่ไอยพูดทั้งหมดกับเขามา 2 เดือน
เป็นเรื่องจริงทั้งหมด ตอนนี้เขาเข้าใจกระจ่าง
หมดแล้ว โชคดีที่เขาไม่โดนขยายขั้นลึก
ไม่งั้นคงไม่มีปัญญาในการมองสภาวะ
ตรงนี้ได้ออก ถ้าไอยไม่เอาหลักฐานมา
ยืนยัน เขาก็ยังเข้าใจผิดอยู่นั่นเอง