พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ่า 12 และ 05 เป็นหวยหรือเปล่าครับ แล้วตกลงต้องซื้อทั้งสองตัวใช่หรือเปล่า จะได้รีบไปหาล็อตเตอร์รี่ไว้สัก 2 - 3 คู่
     
  2. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 14 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 9 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, newcomer+, dragonlord+, psombat+, avatar7 </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 17 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 14 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, dragonlord+, psombat+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สวัสดีตอนเช้าครับ

    เป็นอย่างไรบ้างครับคุณnongnooo คุณน้องรัก , คุณลูกน้อง สำหรับรูปที่ผมส่งให้ชม

    ดีป่าวครับ แรงป่าวครับ อิอิ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo [​IMG]
    5555 ผมว่าอยู่ในซีรีส์เดียวกันครับ เพียงแต่ 12งามกว่า05มากครับ หุ หุ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ่า 12 และ 05 เป็นหวยหรือเปล่าครับ แล้วตกลงต้องซื้อทั้งสองตัวใช่หรือเปล่า จะได้รีบไปหาล็อตเตอร์รี่ไว้สัก 2 - 3 คู่<!-- google_ad_section_end -->

    กำลังหาเลขอยู่พอดีครับ ถ้าถูกคุณกูรูน้องนู๋งานเข้าแน่ๆ
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมมีข่าวงานบุญมาฝาก

    ขอเรียนเชิญท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า ,คณะพระวังหน้า ทุกๆท่าน

    เนื่องด้วยในวันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2552 ทางคุณเอื้อยได้นิมนต์หลวงปู่เสาร์ห้าไปที่บ้านพี่ใหญ่ ในการนิมนต์ไปฉันเพล หลวงปู่เสาร์ห้าได้ปรารภว่า ท่านจะหาผ้าห่ม ไปถวายตามวัดหรือสำนักสงฆ์ที่ขาดแคลนผ้าห่ม ทางพี่ใหญ่ได้ตอบตกลงและผมเองก็ยินดีที่จะช่วยเหลือในการหาผ้าห่มเพื่อที่จะถวายท่าน

    เมื่อวานเท่าที่คุยกับน้องอุ้ม ได้ทราบว่า งบประมาณที่จะใช้ซื้อผ้าห่ม ประมาณผืนละ 250 บาท จำนวน50 ผืน (ส่วนจำนวนเงินผืนละ 250 บาท เป็นการคาดการของผม)

    ผมขอเชิญชวนท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และคณะพระวังหน้าทุกๆท่าน ร่วมกันทำบุญในครั้งนี้ โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีผม ผมจะแจ้งเบอร์บัญชีผมให้ทุกๆท่านทราบเป็นรายท่าน(หากท่านใดสนใจที่จะร่วมทำบุญ)

    ส่วนท่านจะทำบุญจำนวนเท่าไหร่ แล้วแต่ความศรัทธาของแต่ละท่าน ผมไม่กำหนดจำนวนเงินที่จะร่วมทำบุญ

    แต่

    หากท่านใดร่วมทำบุญ 1,000 บาท ผมขอมอบพระสมเด็จ(กลักไม้ขีด รุ่นลงรัก) ให้ 1 องค์ มีจำนวน 10 องค์


    หากท่านใดร่วมทำบุญ 700 บาท ผมขอมอบพระสมเด็จ(กลักไม้ขีด ที่ไม่ลงรัก) ให้ 1 องค์ มีจำนวน 10 องค์

    หมายเหตุ

    1.หากเงินที่ร่วมทำบุญได้มามากเกินกว่าจำนวนเงินที่จะต้องซื้อผ้าห่ม ผมขอนำสมทบทุนในส่วนที่พี่ใหญ่เห็นสมควรว่าจะทำบุญอะไร

    2.ขอสงวนสิทธิ์เฉพาะสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และ คณะพระวังหน้า เท่านั้น

    3.เริ่มต้นการร่วมทำบุญและการโอนเงินร่วมทำบุญ ตั้งแต่วันนี้(วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2552) สิ้นสุดวันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม 2552

    โมทนาสาธุครับ

    พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

    กระทู้พระวังหน้าฯ หน้าที่ 1766

    PaLungJit.com - ชมรม รักษ์พระวังหน้า

    กระทู้ชมรมรักษ์พระวังหน้า หน้าที่ 6 กลุ่ม/ชมรมพระวังหน้า เว็บพลังจิต<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- sig -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2009
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมขอเริ่มนะครับ

    ผมและ ผบทบ.ผม ร่วมทำบุญจำนวน 1,000 บาทครับ

    .
     
  5. พรสว่าง_2008

    พรสว่าง_2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +402
    ขอร่วมบุญด้วยคนครับ


    พี่หนุ่ม ผมและครอบครัว ร่วมบุญด้วยครับ 1,000 บาทครับ
     
  6. newcomer

    newcomer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,317
    ค่าพลัง:
    +3,934
    ขอร่วมบุญซื้อผ้าห่มไปถวายตามวัดหรือสำนักสงฆ์ที่ขาดแคลน จำนวน 250 บาท ครับ
    อนุโมทนา สาธุ ครับ
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    โมทนาสาธุครับ
     
  8. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ผมขอร่วมบุญด้วย 500บาทครับ รบกวนแจ้งบัญชีที่โอน ด้วยครับ
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    โมทนาสาธุครับ

    สำหรับท่านที่ร่วมทำบุญ หากทำบุญร่วมกับครอบครัว รบกวน pm ชื่อ - นามสกุลของบุคคลในครอบครัวมาให้ผมด้วย ผมจะได้เขียนลงในรายชื่ออย่างถูกต้องครับ

    .
     
  10. newcomer

    newcomer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,317
    ค่าพลัง:
    +3,934
    โอนแล้ววันที่ 30/11/2552 เวลา 13:00 น. จำนวน 250 บาท ครับ
    อนุโมทนา สาธุ ครับ
     
  11. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ผมขอร่วมทำบุญถวายผ้าห่มจำนวน 4 ผืน = 1,000 บาท
    ในความเห็นผม ถ้าเกิน 50 ผืนก็ขอให้ซื้อถวายไปทั้งหมดเถอะครับ ส่วนวาระอื่นๆ ค่อยระดมทุนใหม่ โมทนาสาธุกับทุกๆท่าน
    เอกสารแนบครับ ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2009
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    โมทนาสาธุครับ

    แต่ว่าสำหรับผ้าห่ม เมื่อบ่ายนี้ น้องอุ้มโทร.มาหาผม แจ้งว่า ได้สอบถามราคาผ้าห่มแล้ว มีราคา 500 บาท , 350 บาท และ 250 บาท ซึ่งเท่าที่คุยกันน่าจะอยู่ที่ 350 บาท แต่ทางร้านไม่ได้จัดส่งให้ด้วย น้องอุ้มจะลองหาร้านที่สามารถจัดส่งให้ได้ด้วยอยู่ครับ

    ข่าวความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะครับ

    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับวาระเร่งด่วนที่ผมส่งให้ทาง Email นั้น ปัจจุบันมีท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า ตอบกลับมาเพียง 5 ท่านเท่านั้น หากหลังจากวันที่ 9 ธันวาคม 2552 (คือนับตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2552) หากยังไม่มีการตอบกลับมามากกว่าจำนวนสมาชิกครึ่งหนึ่งของชมรม ผมขอยกเลิกเรื่องของวาระเร่งด่วนที่ผมได้จัดส่งไปให้

    ในเรื่องของวาระเร่งด่วน ผมจะดำเนินการเองในส่วนของผู้ที่มีความตั้งใจและศรัทธาโดยผมจะโทร.สอบถามกับสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้าเป็นบางท่านเท่านั้นครับ
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รักของผู้ติดเชื้อ รักที่ใจ มิใช่รักที่เลือด
    Daily News - Manager Online

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการรายวัน</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>1 ธันวาคม 2552 07:55 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>ความรักไม่เกี่ยวกับเอชไอวี</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>คลินิกนิรนาม</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>พญ.นิตยา ภานุภาค พึ่งพาพงศ์</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>รสรินทร์ เกรียงสินยศ</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ถอยคืนกลับไปประมาณ 20 ปี ครั้งที่องค์ความรู้ทางการแพทย์ เทคโนโลยี และการเข้าถึงยายังเป็นเรื่องเข้าไม่ถึง เมื่อภูมิคุ้มกันถูกทำลาย เอชไอวีในกระแสเลือดก่อการลำพอง เชื้อชวนโรคร้ายสารพัดเข้ากัดกิน ผู้ติดเชื้อเอชไอวีเสียชีวิตราวใบไม้แห้งร่วงหล่นกลางฤดูหนาว

    ผ่านมา 20 ปี การรณรงค์ป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีในประเทศไทยถือได้ว่าประสบความสำเร็จในระดับที่โลกชื่นชม ปัจจุบัน เรามีผู้ติดเชื้อประมาณ 6 แสนคน และมีอัตราผู้ติดเชื้อใหม่ราว 1-1.5 หมื่นคนต่อปี ซึ่งส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงยาและองค์ความรู้ในการดูแลตนเอง พร้อมๆ กับทัศนคติของสังคมต่อผู้ติดเชื้อได้รับการปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้น มิได้เห็นผู้ติดเชื้อเป็นสิ่งมีชีวิตน่ารังเกียจเหมือนอดีต

    แต่เอชไอวีก็ยังคงเป็นเอชไอวี ไม่มีสิ่งใดที่มนุษย์จะหวาดกลัวเท่ากับความตาย กำแพงแห่งอคติและความกลัวจึงยังดำรงอยู่ เพียงแต่มันอาจจะบางลงและไม่แข็งกร้าวเท่าเดิม

    นั่นหมายความว่าเรายังสามารถกร่อนเกลาให้มันบางลงได้อีก

    ณ ที่แห่งนี้เคยพูดถึงความรักของผู้พิการและยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ไม่มีกำแพงชนิดใดแข็งแกร่งพอจะห้ามปรามความรัก ไม่ว่ามนุษย์จะมีตำแหน่งแห่งที่อยู่ ณ ชายขอบหรือศูนย์กลางของสังคม ความรักคือความเท่าเทียมที่ทุกคนสามารถมีได้

    เช่นเดียวกับผู้ติดเชื้อ ยังมีอคติบางประการที่เชื่อว่า ผู้ติดเชื้อไม่ควรมีรัก...

    ทำไมไม่หยุด?

    “ผู้ติดเชื้อจะถูกตั้งคำถามเรื่องการมีคู่ใหม่ จะถามว่ายังมีเซ็กซ์อยู่เหรอ มีคู่ใหม่เหรอ ทำไมไม่หยุดคิดเรื่องนี้ อีกแบบคือในกรณีที่ติดเชื้อทั้งคู่ แล้วคิดถึงเรื่องการมีลูก ก็จะถูกถามว่าทำไมยังท้องอยู่ ทำไมไม่หยุด ทำไมไม่คิดถึงลูก นี่คือปัญหาที่จะเจอ” นิมิต เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ อธิบายถึงคำถามที่ผู้ติดเชื้อมักต้องเผชิญ

    ปัญหาอีกรูปแบบหนึ่งคือการที่ผู้ติดเชื้อไม่กล้าเปิดเผยผลเลือดแก่คู่ของตน ซึ่งในกรณีนี้มีรายละเอียดที่แตกต่างระหว่างชาย-หญิง ถ้าผู้ติดเชื้อเป็นฝ่ายชาย มีความรู้และความรับผิดชอบ เขาย่อมสามารถป้องกันคู่ของตนจากการติดเชื้อได้ง่ายกว่า ขณะที่หากฝ่ายหญิงเป็นผู้ติดเชื้อ การต่อรองในเรื่องการป้องกันจะน้อยกว่า สุดท้าย ก็กลายเป็นความรู้สึกผิดที่ติดตัวไปตลอด หากคู่ของตนพลอยติดเชื้อไปด้วย

    “เรื่องความรักของคนสองคน สังคมต้องเรียนรู้และปรับเปลี่ยน ไม่ใช่ปรับเฉพาะเมื่อรู้ว่าคุณติดเชื้อ โจทย์ใหญ่ในทัศนะเรื่องเพศก็คือการพูดคุยกันในเรื่องความสัมพันธ์ทางเพศของคนสองคน ไม่ว่าคุณจะติดเชื้อหรือไม่ การพูดคุยสื่อสารถึงประสบการณ์ทางเพศของแต่ละฝ่ายเป็นเรื่องสำคัญ จะเป็นไปได้ยังไงที่จะเกิดการสื่อสารแบบนี้ หรือในเบื้องต้น ถ้ายังไม่พร้อมจะสื่อสาร เราก็ต้องอาจต้องมีสมมติฐานข้อหนึ่งไว้ก่อนว่า แต่ละคนที่มาเจอเรา น่าจะมีประสบการณ์ทางเพศมาแล้ว เพราะฉะนั้น ไม่ต้องถามก็ได้ แต่ต้องเริ่มต้นด้วยการป้องกัน คือเราต้องหาช่องให้ตัวเอง ถ้าคิดว่าไม่กล้าถาม เพราะถ้าไม่ทำอย่างนี้ พอเหตุมันเกิดขึ้นก็สายไปแล้ว”

    ฟังดูยุ่งยากใช่ไหม? ฟังดูแล้วรู้สึกว่าผู้ติดเชื้อควรไปบวช ไม่ต้องยุ่งกับเรื่องรักใคร่หรือเปล่า?

    กอดแรงๆ ได้ไหม?

    เปล่าเลย...ความเป็นผู้ติดเชื้อมิใช่สิ่งที่แสดงออกชัดแจ้งเหมือนผู้พิการ พวกเขาไม่ต่างจากคนทั่วไป (ผู้พิการก็เช่นกัน) ผู้ติดเชื้อจำนวนมากมีครอบครัวที่อบอุ่นและระหองระแหงไม่ต่างกัน พวกเขาต้องการสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ไม่ต่างจากผู้คนในสังคม

    ปี 2527 เกิดเรื่องราวใหญ่โต เมื่อผู้ติดเชื้อหญิงคนหนึ่งเกิดตั้งครรภ์เป็นกรณีแรกที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ใหญ่โตขนาดว่า หัวหน้าภาควิชาสูติศาสตร์ต้องลงมาดูแลการทำคลอดด้วยตัวเอง จากเหตุการณ์นั้น ทำให้ผู้ติดเชื้อหญิงจำนวนไม่น้อยถูกโน้มน้าวจากบุคลากรสาธารณสุขให้ทำหมัน โดยที่บางคนไม่เคยมีโอกาสเป็นแม่คน

    พญ.นิตยา ภานุภาค พึ่งพาพงศ์ แพทย์ประจำศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย เล่าว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะรู้ว่าตนเองติดเชื้อก็ตอนที่ไปฝากครรภ์กับทางโรงพยาบาล จากเรื่องน่ายินดีที่จะได้ชีวิตใหม่ในอ้อมกอด พลิกกลับ 180 องศา เป็นกระชากความรู้สึก อย่างไรก็ตามปัจจุบันมียาที่สามารถลดการติดเชื้อจากแม่สู่ลูกได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์

    “ตอนแรกเราเข้าใจว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อคงไม่มีใครอยากท้องอีก เพราะไม่อยากผ่านช่วงที่ต้องลุ้นว่าลูกจะติดเชื้อหรือไม่หรือลูกจะได้รับผลข้างเคียงจากยาต้านไวรัสหรือเปล่า แต่ปรากฏว่าช่วงสองสามปีหลังจะมีเคสที่ท้องใหม่ ซึ่งทำให้เราเริ่มตระหนักและต้องถามคนไข้จริงๆ จังๆ มากขึ้น คนไข้เองก็เริ่มคุยกับเราว่าอยากมีลูกอีก แล้วตอนนี้ก็พร้อม หรือบางคนแต่งงานใหม่ สามีคนใหม่อาจจะทราบหรือไม่ทราบก็ได้ว่าฝ่ายหญิงติดเชื้อ แต่ฝ่ายสามีก็เรียกร้องว่าต้องมีลูก”

    อาจสงสัยว่าถ้าไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ตามธรรมชาติได้แล้วจะมีลูกได้อย่างไร มีคำอธิบายดังนี้-กรณีที่ฝ่ายหญิงเป็นผู้ติดเชื้อและฝ่ายชายไม่ติด คุณหมอนิตยาบอกว่ากรณีนี้ง่าย เพียงแต่รอช่วงที่ฝ่ายหญิงไข่ตกและร่างกายแข็งแรง เชื้อถูกกดไว้เต็มที่ แล้วจึงนำน้ำอสุจิของฝ่ายยชายฉีดเข้าไปในช่องคลอดเพื่อให้เกิดการปฏิสนธิ

    ถ้าฝ่ายชายเป็นผู้ติดเชื้อ กรณีนี้จะมีความยุ่งยากเล็กน้อย โดยจะต้องนำน้ำอสุจิของฝ่ายชายไปผ่านการล้างเชื้อหรือ สเปิร์ม วอช (Sperm Wash) เพื่อล้างเอาเชื้อเอชไอวีออก หลังจากนั้นก็ทำการตรวจสอบอีกรอบ ก่อนจะฉีดเข้าสู่ช่องคลอดของฝ่ายหญิง

    “อย่างโครงการ Sperm Wash ช่วงแรก คนต่อต้านเราเยอะนะ บอกว่าทำไมไปสนับสนุนให้คนติดเชื้อมีลูก เราก็บอกว่าเราไม่ได้สนับสนุนให้เขามีลูก ไม่ได้ไปกระตุ้นให้เขาอยากมีลูก แต่คนที่อยากมีลูกอยู่แล้วตามธรรมชาติของสังคม ควรจะได้รับการป้องกันไม่ให้ติดเชื้อมันอยู่ที่มุมมองของคนว่าจะมองยังไง เราไม่ได้คิดคัดค้านผู้ติดเชื้อที่อยากจะมีครอบครัว”

    การทำหน้าที่พ่อแม่ไม่ได้เกี่ยวกับว่าคุณเป็นอะไร เอาล่ะ มันเป็นความรู้สึกที่เลี่ยงไม่ได้ ถ้าพวกเขาจะคิดว่าตนเองเป็นพ่อแม่ที่ไม่ดีอยู่บ้างที่ทำให้ลูกต้องเสี่ยง ทำให้ลูกมีชีวิตที่ไม่สมบูรณ์ แต่ความรู้สึกนี้แหละที่ผลักดันให้พวกเขาต้องทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เงื่อนไขในชีวิตจะพึงทำได้ จึงมีคำถามน่ารักๆ จากคนเป็นแม่ที่ห่วงลูกว่า

    ‘กอดลูกแรงๆ ได้ไหม? แล้วลูกจะติดเชื้อหรือเปล่า?’

    “บางคนมาถามว่าลูกอยากกอด เรากอดเขาได้มั้ย กอดแรงเป็นอะไรไหม หรือบางคนกินขนมอยู่ แล้วลูกมาแย่งไปจากปากแม่ไปกินลูกจะติดไหม มันเป็นความกังวลเล็กๆ น้อยๆ แต่มันไม่ติด”

    ‘...ก็รักที่เขา ไม่ได้รักที่เชื้อ’

    เปิ้ล เป็นช่างซ่อมรถและช่างไฟฟ้า อ้อ เป็นพนักงานนวดแผนไทย ทั้งคู่เจอกันในกิจกรรมกลุ่มของผู้ติดเชื้อ จากการโทรศัพท์พูดคุยขอคำปรึกษา พัฒนาเป็นความผูกพันทางใจระหว่างคนสองคน

    เอาเข้าจริงๆ การที่เรากำลังพูดถึงความรักของกลุ่มผู้ติดเชื้อ อาจเป็นการขยายความโดยใช้เหตุก็เป็นได้ อ้อบอกชัดถ้อยชัดคำว่า เอชไอวีกับการที่เราจะรัก จะอยู่กับใครสักคน มันไม่ได้เกี่ยวกันเลย เธอไม่เคยเอาเรื่องนี้มาคิดมากกว่าการที่คู่รักทั่วไปจะคิดเวลาสร้างครอบครัว เหมือนกับเปิ้ล เขาบอกว่า

    “เราไม่ได้คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ในชีวิต มันเป็นเรื่องธรรมดา อีกอย่างคือเราทำงานด้านนี้ด้วย เลยมองว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่เราจะต้องเอามากังวล”

    ชายรักชายอย่าง ต้อม ก็รู้สึกไม่ต่างกัน เรื่องของความรักไม่ได้เกี่ยวว่าคุณจะเป็นอะไร มันมีแค่คำถามง่ายๆ ที่ตอบยากๆ ว่าคุณรักคนคนนั้นจริงหรือเปล่า และคนคนนั้นรักคุณจริงหรือเปล่า

    “ไม่ว่าจะติดเชื้อหรือไม่ติดเชื้อ ผมว่ามันไม่เกี่ยวกับความรัก ความเข้าใจ การอยู่ด้วยกัน เป็นเรื่องของการดูแลกัน คนที่ไม่ติดเชื้อที่อยู่ด้วยกันมีปัญหากันก็เยอะ คนที่ติดเชื้ออยู่ด้วยกัน ดูแลกันก็เยอะ”

    ความรักกลับยิ่งทำให้พวกเขามีภูมิคุ้มกันและภูมิคุ้มใจที่แข็งแกร่งมากขึ้น ต่างเป็นนาฬิกาของกันและกัน เตือนกันว่าถึงเวลาต้องกินยาแล้วนะ ต่างเป็นหัวไหล่ให้กันและกัน ในยามเหนื่อยล้ากับชีวิตและต้องการที่ซบพิง

    เรื่องยากที่สุดมันอยู่ก่อนหน้านั้น มันคือการเปิดเผยความจริง

    ทั้งเปิ้ล, อ้อ และต้อม ผ่านการให้คำปรึกษาแก่เพื่อนผู้ติดเชื้อมามาก คำถามหลักข้อหนึ่งที่พวกเขาต้องเจอคือ ความกลัวที่จะบอกอีกฝ่ายว่าเป็นผู้ติดเชื้อ ในกรณีที่เจ้าตัวไม่รู้ว่าอีกฝ่ายติดเชื้อหรือไม่

    พวกเขากลัวว่า เมื่อใดที่อีกฝ่ายรู้ความจริง ความรักจะหนีหาย แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็ย้อนกลับไปสู่คำถามเดิมว่าความรักนั้นจริง-ลวงแค่ไหน ยอมรับสิ่งที่คนคนนั้นเป็นได้หรือเปล่า รักที่เลือดหรือรักที่ใจ ถ้าคำตอบคือรักที่ใจ ทุกอย่างก็จบ

    “ผมเคยถามคนที่ไม่ติดเชื้อ แต่มีแฟนเป็นผู้ติดเชื้อว่าทำไมถึงอยู่ดัวยกัน เขาตอบว่า ก็รักที่เขา ไม่ได้รักที่เชื้อ” ต้อมเล่า

    รสรินทร์ เกรียงสินยศ นักสังคมสงเคราะห์ ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย เธอคอยให้คำปรึกษาแก่ผู้ติดเชื้อที่แบกความกังวลเข้ามา จากประสบการณ์ของเธอที่มี เมื่ออีกฝ่ายรู้ว่า ‘ว่าที่เจ้าสาว’ ติดเชื้อ แผนการแต่งงานที่เตรียมไว้ก็ล้มครืนทันที
    อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยผลเลือด แม้จะยาก แต่ก็ดีกว่าการปิดบัง เพราะนั่นจะทำให้การใช้ชีวิตของผู้ติดเชื้อลำบาก ต้องคอยหลบซ่อนเวลากินยาต้องคอยหาข้ออ้างเมื่อมาหาหมอ หน้าที่ของเธออย่างหนึ่ง จึงเป็นการช่วยให้ผู้ติดเชื้อมีความมั่นใจที่จะบอกความจริงกับคู่ชีวิต โดยไม่ใช่การไปกดดันให้บอก แต่อธิบายข้อดีต่างๆ จากการบอกความจริง

    “คนที่มีความรักกัน ถ้าคิดให้ดี เรื่องนี้มันเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยมาก ถ้าเรามีความรักเป็นพื้นฐาน เพราะการใช้ชีวิตร่วมกันไม่ใช่เพื่อความสุขเท่านั้น แต่คือการร่วมทุกข์และร่วมสุข”

    ..........

    กำแพงแห่งอคติยังมีอยู่ บ่อยครั้ง มันเป็นทั้งกำแพงในความคิดและกำแพงในชีวิตจริง

    แต่อะไรคือข้อดีของกำแพง

    เปล่า, พวกเขาไม่ได้เป็นคนก่อสร้างมันขึ้น สังคมต่างหาก และมันมักใหญ่โตมากเสียด้วย แต่เมื่อใดที่ใครคนหนึ่งฝ่ากำแพงชนิดนี้เข้ามาได้ มันก็เป็นบทพิสูจน์ในระดับหนึ่งว่าความรักเป็นสิ่งมีค่าเพียงพอ

    ถึงที่สุด เราน่าจะลืมๆ เรื่องนี้ไปซะ เพราะการติดเชื้อหรือไม่ มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกันเลยกับความรัก

    *********

    เรื่อง : กฤษฎา ศุภวรรธนะกุล
    ภาพ : ทีมภาพ CLICK

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พบวัยรุ่นหญิงติดเอดส์มากกว่าชายเท่าตัว

    พบวัยรุ่นหญิงติดเอดส์มากกว่าชายเท่าตัว


    [​IMG]



    พบวัยรุ่นหญิงติดเอดส์มากกว่าชายเท่าตัว (เดลินิวส์)

    สธ.พบร้อยละ 84 ไม่ใช้ถุงยาง ระบุวัยรุ่นหญิงป่วยเอดส์มากกว่าชาย 1 เท่าตัว เหตุเพราะใช้ถุงยางน้อย

    เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแอริค จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย นายแพทย์ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ดร.ไมเคิล ฮาห์น ผู้ประสานงานโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย ร่วมเปิดงานรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เนื่องในวันเอดส์โลกซึ่งตรงกับ 1 ธันวาคม 2552 ภายใต้คำขวัญ "ทั่วถึง เท่าเทียม คือสิทธิมนุษยชน" (Universal Access and Human Right) เพื่อกระตุ้นเตือนสังคมให้ตระหนักถึงภัยคุกคามโรคเอดส์ ส่งเสริมความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคเอดส์

    นายมานิต กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาหลักที่ทำให้คนไทยติดเชื้อเอชไอวี มาจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย ไม่ใช้ถุงยางอนามัยพบมากถึงร้อยละ 84 ข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา ล่าสุดในเดือนตุลาคม 2552 ไทยมีผู้ป่วยเอดส์จำนวน 358,260 ราย เสียชีวิตแล้ว 95,983 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่ร้อยละ 92 อยู่ในวัยเจริญพันธุ์และวัยแรงงาน อายุระหว่าง 15-59 ปี กลุ่มอายุ 25-29 ปีพบร้อยละ 24 เฉพาะในกลุ่มวันรุ่นอายุ 15-19 ปี พบเพศหญิงป่วยเป็นเอดส์สูงกว่าเพศชาย 1 เท่าตัว อัตราป่วยโรคเอดส์เมื่อเทียบต่อประชากรทุกแสนคนในปี 2552 ภาคกลางพบมากที่สุดที่จันทบุรี ประมาณ 31 คน ภาคเหนือพบสูงสุดที่พะเยา ประมาณ 29 คน ภาคใต้พบมากสุดที่ระนอง ประมาณ 30 คน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากที่สุดที่เลย ประมาณ 21 คน

    ในปี 2553 กระทรวงสาธารณสุข เร่งประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัย 100 เปอร์เซ็นต์ มีเป้าหมายแจกถุงยางอนามัยจำนวน 30 ล้านชิ้น เพื่อสนับสนุนให้สำนักงานสาธารณสุขทั่วประเทศเป็นผู้แจกจ่าย ป้องกันการติดเชื้อในกลุ่มหญิงบริการ ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย แม่บ้าน วัยรุ่น ผู้ใช้แรงงานและพนักงานบริการ โดยตั้งเป้าลดการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ให้ไม่เกินปีละ 5,876 รายภายในปี 2554

    ด้านนายแพทย์ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ผลการเฝ้าระวังพฤติกรรมที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อเอชไอวี ของประชาชน โดยสำนักระบาดวิทยา ล่าสุดในปี 2551 พบว่าน่าห่วงโดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น เยาวชนอายุ 14-18 ปี ผลการเฝ้าระวังพบเด็กนักเรียนชั้น ม.2 ทั้งชายและหญิง มีแนวโน้มเคยมีเพศสัมพันธ์เพิ่มขึ้น ในชายเพิ่มจากร้อยละ 3.2 ในปี 2550 เป็นร้อยละ 3.7 ในปี 2551 ส่วนหญิงเพิ่มจากร้อยละ 1.9 เป็นร้อยละ 2.3 การใช้ถุงยางอนามัยครั้งแรกของนักเรียนชายเพิ่มจากร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 52 ส่วนนักเรียนหญิงแนวโน้มใช้ลดลงจากร้อยละ 50 เหลือร้อยละ 48 ในเด็กม.5 แน้วโน้มการเคยมีเพศสัมพันธ์เพิ่มขึ้นทั้งชายและหญิง ชายเพิ่มจากร้อยละ 21 ในปี 2550 เป็นร้อยละ 24 ส่วนผู้หญิงเพิ่มจากร้อยละ 13 เป็นร้อยละ 15

    ในระดับอาชีวะศึกษาปีที่ 2 พบการใช้ถุงยางอนามัยกับคู่นอนที่รู้จักผิวเผินและใช้กับหญิงบริการทางเพศร้อยละ 57 ใช้กับชายด้วยกันร้อยละ 52 จึงมีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีได้สูงและหากติดเชื้อตั้งแต่วัยเยาวชน จะทำให้ประเทศไทยสูญเสียแรงงานที่มีคุณภาพ และครอบครัวต้องเสียโอกาสในการทำงานหารายได้ให้ครอบครัวเนื่องจากต้องเสียเวลาดูแลผู้ป่วย



    ขอขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์
    [​IMG]
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    แพทย์สหรัฐชี้ทำสมาธิ ช่วยรักษาหัวใจ-หลอดเลือด

    ˹ѧ

    แพทย์สหรัฐชี้ทำสมาธิ ช่วยรักษาหัวใจ-หลอดเลือด

    http://www.khaosod.co.th/view_news....ionid=TURNeU5nPT0=&day=TWpBd09TMHhNaTB3TVE9PQ==

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ผลการศึกษาในสหรัฐ อเมริกาพบว่า ผู้ป่วยโรคหัวใจที่ฝึกธรรมสมาธิ หรือ สมถกรรมฐาน (Transcendental Medi tation : TM) มีอัตราการเสียชีวิตจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย และโรคหลอดเลือดสมองลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง

    โรงเรียนการแพทย์แห่งรัฐวิสคอนซินและวิทยาลัยมหาฤาษี ในรัฐไอโอวา ประเทศสหรัฐ อเมริกา ศึกษาข้อมูลจากชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน 201 คน อายุเฉลี่ย 59 ปี ทุกคนมีปัญหาหลอดเลือดแดงตีบ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกให้ฝึกธรรมสมาธิวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 20 นาที กลุ่มหลังให้เปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตเรื่องอาหาร ออกกำลังกายและเข้าชั้นเรียนเรื่องปัจจัยเสี่ยง

    หลังจากเวลาผ่านไป 9 ปี พบว่า อาสาสมัครกลุ่มแรกเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายหรือโรคหลอดเลือดสมอง 20 ครั้ง กลุ่มหลังเกิด 31 ครั้ง ร้อยละ 80 ของกลุ่มแรกยังคงฝึกธรรมสมาธิอย่างน้อยวันละครั้ง แต่กลุ่มหลังยังคงดำเนินชีวิตเหมือนเดิม

    นอกจากนี้ ยังพบว่ากลุ่มแรกมีความดันโลหิตและความ เครียดลดลงมาก

    ทั้งนี้ วิธีการฝึกธรรมสมาธิ พัฒนาโดยมหาฤาษี มเหช โยคีในประเทศอินเดีย เมื่อปีพ.ศ.2498 กระทั่งกลายเป็นที่นิยมในโลกตะวันตกหลังยุคคริสต์ทศวรรษ 1960 เมื่อวงดนตรีชื่อดังก้องโลก "เดอะบีตเทิลส์" ของอังกฤษ เดินทางไปขอเป็นศิษย์ฝึกกรรมฐานกับมหาฤาษี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2009
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    โมทนาสาธุครับ
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรียนท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า

    คงรบกวนให้ท่านลงความเห็นของท่าน และส่งไฟล์วาระเร่งด่วนให้ผมทาง Email ภายในวันที่ 9 ธันวาคม 2552 นี้นะครับ

    ขอบคุณครับ
     
  19. พรสว่าง_2008

    พรสว่าง_2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +402
    แจ้งพี่หนุ่มโอนเงินร่วมบุญผ้าหุ่มแล้วนะครับ เมื่อวาน 30/11/2552 เวลา 18.45 A04376 KTB รายละเอียดทาง PM นะครับ
     
  20. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo [​IMG]
    ผมขอร่วมบุญด้วย 500บาทครับ รบกวนแจ้งบัญชีที่โอน ด้วยครับ

    ผมไม่กล้าข้ามหน้าท่านรองหรอกครับ ฮิฮิฮิฮิฮิฮิ
    เอาตามท่านรองน่าจะดีกว่าครับ ฮิฮิฮิฮิฮิฮิฮิ
    อย่างที่บอกครับผมแค่ตัวเล็กๆครับไม่เอามากมายเกินตัวครับ
    ผมร่วมเท่าท่านรองครับ 500 บาทนะครับ ( ผมมักน้อยครับ )
    คุณหนุ่มครับ เมลล์ผมใช้ได้แล้วนะครับรบกวนแจ้งมาที่เลขบัญชีมาที่
    เมลล์ผมที่บริษัทที่ผมทำงานอยู่นะครับถ้าจาเมตตาพ่วงของพี่ๆน้องๆในชมรมให้ผมด้วยนะครับ เพราะน้องเค้าลงเมลล์ให้ใหม่สุดยอดเลยครับของเก่าหายหมดเลย อิอิอิอิ

    *** ผมขอมอบหรืออุทิศบุญกุศลในการร่วมบุญครั้งนี้แก่พ่อและแม่ที่มีบุญคุณของผมและล่วงลับไปแล้วนะครับขอให้สำเร็จตามที่ผมปวารณาทุกประการด้วยเทอญ สาธุๆๆๆ ******

     

แชร์หน้านี้

Loading...