ปริศนา “หมอกฤษฏ์” กับ บริเฉท 7 ดารา ตอน "ตำราเทวดา หรือ ตำนานขี้โม้!"

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 21 พฤศจิกายน 2009.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,173
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=right></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>"อาจารย์พัฒนา พัฒนศิริ" หมอดูผู้คร่ำหวอดในวงการโหราศาสตร์มากว่า 34 ปี </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>นาทีนี้ถ้าพูดถึงหมอดูชื่อดัง คงไม่มีใครเกิน "หมอกฤษฏ์ คอนเฟิร์ม" ศุภกฤษฏ์ ปทุมศรีวิโรจน์ อีกแล้ว เพราะที่ผ่านมาเขามีผลงานสะเทือนวงการบันเทิงหลายเรื่อง ไล่มาตั้งแต่คอนเฟิร์มว่า วิลลี่-เยลหลี แมคอินทอช จะสูญเสียลูกน้อยจากการแท้ง แนน อมิตดา ชินสำเร็จ ไม่ได้ท้อง คู่รักอย่าง ทาทา ยัง - เปรม บุษราคัมวงศ์ และ พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ – โดม ปกรณ์ ลัม ยังไงก็ต้องเลิกกัน ฟลุค เกริกพล มัสยวานิช ต้องเลิกรากับ แป้ง อรจิรา แหลมวิไล โดยมีผู้หญิงชื่ออักษรย่อ พ. จะเข้ามาเป็นมือที่สาม และอีกหลายต่อหลายเรื่อง โดยผ่านศาสตร์การดูดวงที่เขาเรียกขานมันว่า "บริเฉท 7 ดารา"

    ด้วยลีลาการทำนายที่แข็งกร้าว ดุดัน และมั่นใจเกินร้อย บวกกับที่ผ่านมาเขาสามารถทายดวงชะตาผู้คนได้อย่างแม่นยำประดุจดั่งตาเห็น ทำให้คนทั้งประเทศอยากรู้ว่า "หมอดูผู้นี้เป็นใคร ?" กระทั่งมีการสืบสาวราวประวัติ จึงได้รู้ว่า "หมอกฤษฏ์" คนนี้ เป็นหมอดูที่ทำนายดวงดาราลงคอลัมน์หนึ่งในหนังสือพิมพ์บันเทิง "สยามดารา" และด้วยความที่เขามีความใกล้ชิดกับ "สื่อบันเทิง" เป็นเหตุให้เจ้าตัวถูกพูดถึงอย่างหนักว่า เพราะเหตุนี้หรือเปล่า เขาถึงได้รู้ข้อมูล "ดารา" อย่างอินไซด์ กลายเป็นเสียงสะท้อนอีกด้าน ที่เซ็งแซ่ไม่แพ้ชื่อเสียงของเขาที่นับวันระบือไกล

    แม้กระทั่ง "มดดำ คชาภา ตันเจริญ" พิธีกรและนักจัดรายการวิทยุชื่อดัง ผู้ชื่นชอบในการดูดวงเป็นชีวิตจิตใจ เรียกว่าที่ไหนแม่น ศาสตร์ไหนเจ๋ง เขาลองของมาหมดแล้ว ยังเคยออกปากเหน็บกลางอากาศมาแล้วว่า ไม่เคยได้ยินชื่อบริเฉท 7 ดารา แถมยังปรามาสด้วยว่าจะแม่นขนาดนั้นเลยเหรอ ประกอบกับคำว่า "คอนเฟิร์ม" ที่หมอกฤษฏ์ใช้ ยังไปสัมพันธ์กับคำว่า "ฟันธง" ซึ่งเป็นโลโก้ประจำตัวของหมอดูรุ่นพี่ที่โด่งดังมากๆ อย่าง "หมอลักษณ์ ฟันธง" จนเจ้าตัวเคยโดนแขวะว่าลอกเลียนแบบ ทำให้หลายคนตีความหมายไปโดยปริยายว่า นี่คงเป็นการประกาศวัดรอยเท้าหมอดูรุ่นพี่อย่างหมอลักษณ์ หรือไม่ก็คงอยากจะเกาะกระแสดันให้ตัวเองไปอยู่แถวหน้าด้วยการ คอนเฟิร์ม!

    แม้ว่าจะมีกระแสโจมตีหนักหน่วงแค่ไหน แต่หมอกฤษฏ์ก็ใช้ความโด่งดังฝ่าแรงต้านนั้นมาได้ เขากลายเป็นที่สนใจ รายการชื่อดังหลายๆ รายการต่างต้องการอยากเชื้อเชิญให้ไปออกรายการ เพื่อเรียกเรตติ้ง เรียกว่าปีที่แล้วชื่อของ "หมอกฤษฏ์ คอนเฟิร์ม" เข้ายึดพื้นที่รายการดังๆ แทบทุกช่องเลยทีเดียว และที่ฮือฮาไปกว่านั้นก็คือ เขาถูกยกย่องว่าเป็นหมอดูชื่อดังที่อายุน้อยที่สุดในประเทศไทย เพราะในขณะนั้นเขามีอายุแค่ 23 ปีเท่านั้นเอง

    แต่ที่ทำให้หมอกฤษฏ์โด่งดังทะลุเพดาน ก็ตอนที่เขาถูก "นางศันสนีย์ วนาไชยเกียรติ" แม่ของนักร้องสาว "ลีเดีย ศรัณย์รัตช์ วิสุทธิธาดา" บุกด่ากลางงาน แถมยังสั่งให้กราบเท้าขอโทษ เหตุไม่พอใจที่หมอกฤษฏ์ไปคอนเฟิร์มว่านักร้องสาวมีเกณฑ์ตั้งครรภ์ ซึ่งจากเหตุการณ์วันนั้น เรื่องของหมอกฤษฏ์ก็กลายเป็น ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ฉาวกระฉ่อนไปทั้งประเทศ

    แต่ถึงจะฉาวระดับประเทศแต่ชื่อเสียงของหมอกฤษฏ์ก็โด่งดังระดับประเทศจากเหตุการณ์นี้เช่นกัน ส่งผลให้ผู้คนเกิดความสนใจอยากรู้ประวัติเรื่องราวชีวิต รวมไปถึงเกิดคำถามต่างๆ ตามมาถึงความแม่นยำในการทำนายว่าเขามีของดีอะไร ถึงได้กล้าคอนเฟิร์มดวงคนอื่นแบบสายฟ้าฟาด อีกทั้งยังทรนงในศักดาความแม่นของตัวเอง โดยที่ไม่กลัวว่าจะหน้าแหกเลยแม้แต่น้อย

    ความดังที่แซงหน้าคนอื่น นอกจากกลายเป็นเป้าให้คนภายนอกจับตามองแล้ว วงการหมอดูด้วยกันเองก็ยังมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงอย่างกว้างขวางว่า หมอกฤษฏ์เป็นลูกศิษย์ใคร ไปร่ำเรียนวิชา “บริเฉท 7 ดารา” มาจากไหน เพราะไม่เคยได้ยินชื่อวิชานี้อยู่ในสารบบตำราหมอดู!!!

    ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าเจ้าตัวไปให้สัมภาษณ์ที่ไหน ก็จะบรรยายถึงความมหัศจรรย์ของวิชาบริเฉท 7 ดารา ศาสตร์ประจำตัวที่เขาอ้างว่า เป็นตำราที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคนของ "พระครูวินัยธรรม(อินทร์ ปัญฺญาทีโป)" หรือที่ชาวบ้านขนานนามว่า "พระครูอินทร์เทวดา" โหรระดับปรมาจารย์แห่งเมืองราชบุรี ที่เคยสร้างปาฏิหาริย์ที่ท้องสนามหลวง ด้วยการทำนายดวงแบบแม่นยำชนิดไม่รู้ว่าคนคนนี้เป็นใคร ไม่ต้องใช้วันเดือนปีเกิด แต่สามารถทายรูปร่าง ทายอาชีพ ทายดวงชะตาได้อย่างถูกต้องตรงเผง จนเป็นที่กล่าวขานสร้างความฮือฮาลงหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งในสมัยนั้น

    สอดคล้องกับวิธีการดูดวงของหมอกฤษฏ์ที่เคยกล่าวอ้างในพ็อกเก็ตบุ๊คของตนเอง "กฤษฏ์ คอนเฟิร์ม หมอดูจอมอหังการ” ถึงวิชาบริเฉท 7 ดาราว่า ศาสตร์นี้ไม่ต้องดูวันเดือนปีเกิด แต่ดูจากวันเวลาที่โทรมาหรือที่เจอกัน ก็สามารถทำนายได้เลยว่ามีไฝตรงไหน ใส่เสื้อสีอะไร ผมยาวผมสั้น

    ในขณะเดียวกัน หมอกฤษฏ์ยังเปิดเผยอีกว่า ตำราโหราศาสตร์ของพระครูอินทร์เทวดามีอยู่ 3 วิชา นั่นก็คือวิชาโหราเลขศาสตร์พินิจนาที และ นิเวศวิรุฬหการณ์ ส่วนตำราอีกหนึ่งเล่มนั้นไม่มีชื่อ แต่จะมี "หมอหน้าบาก" หนึ่งในลูกศิษย์ของพระครูอินทร์เทวดา เป็นผู้ได้รับถ่ายทอดวิชาที่ไม่มีชื่อนี้มาแต่เพียงผู้เดียว

    ต่อมาหมอหน้าบากก็ได้นำเอาวิชานั้นมาสอนให้กับ "หลวงปู่" รูปหนึ่งซึ่งเป็นพระชราภาพที่หมอกฤษฏ์ไม่ยอมเอ่ยชื่อว่าเป็นใคร จำพรรษาที่วัดไหน บอกแค่ว่าอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นวัดเดียวกันกับที่หมอกฤษฏ์เคยไปบวชเณรเมื่อหลายปีก่อน หลังจากนั้นหลวงปู่ปริศนาท่านนี้ก็ได้ถ่ายทอดวิชาดังกล่าวให้กับหมอกฤษฏ์ และเป็นลูกศิษย์ที่มารับช่วงต่อเป็นรุ่นสุดท้ายแต่เพียงผู้เดียวเช่นกัน

    การที่หมอกฤษฏ์ชอบทำตัวลึกลับ ปกปิดประวัติส่วนตัว ไม่เคยเปิดเผยแม้กระทั่งวันเดือนปีเกิด ไม่บอกว่าครูบาอาจารย์ที่ถ่ายทอดวิชาหมอดูเป็นใคร ขนาดบวชที่วัดไหน ไปได้วิชาดูดวงมาจากวัดไหน ก็ยังปิดงำเป็นความลับ ประกอบกับตำราบริเฉท 7 ดาราที่เจ้าตัวกล่าวอ้างว่า เป็นตำราที่ถ่ายทอดมาจากพระครูอินทร์เทวดา ก็ไม่เป็นที่รู้จักในวงการโหรจนถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่ว ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า
    หมอกฤษฏ์ได้ร่ำเรียนวิชาดังกล่าวมาจริงหรือไม่ ?
    และวิชาบริเฉท 7 ดาราที่ว่านี้มีจริงหรือไม่ ?

    และถ้ามีจริงทำไมจะต้องปกปิดชื่อครูบาอาจารย์ วัดที่ตัวเองไปบวชจนกระทั่งได้ร่ำเรียนวิชานี้ ทำไมจะต้องปกปิดทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้สืบสาวไปถึงที่มาที่ไปของตนเองและวิชาดังกล่าว

    นี่เป็นแค่การหวงวิชา หรือจงใจปกปิด บิดเบือนอะไรบางอย่างกันแน่ ? กลายเป็นคำถามที่ ASTV บันเทิงผู้จัดการออนไลน์ต้องหาคำตอบต่อไป

    3 ปรมาจารย์ด้านโหรศาสตร์ไทย เปิดคัมภีร์ "บริเฉท 7 ดารา" ตำราเทวดา หรือ แค่ตำนานขี้โม้ !

    "อาจารย์พัฒนา พัฒนศิริ" หมอดูผู้คร่ำหวอดในวงการโหราศาสตร์มากว่า 34 ปี เผย “บริเฉท 7 ดารา” ก็คือการดูดวงทั่วไป เป็นการดูแบบ “จับยามทาย” ซึ่งตนเองก็ดูได้ ไม่ได้พิสดาร แขวะไม่เคยได้ยินตำรานี้มาก่อน คงต้องมีบุญจัดถึงจะได้ร่ำเรียนวิชานี้
    “ตำราการดูดวงมันมีหลายแบบ แต่ถ้าจะเอาใหญ่ๆ ที่คนไทยรู้จักก็มีประมาณ 3-4 แบบ อย่างดวงไทยก็มีแบบโหราศาสตร์ไทยแท้ๆ แล้วก็โหราศาสตร์สากล แล้วก็โหราศาสตร์ยูเรเนียน ก็มีประมาณ 3 รูปแบบ อย่างแบบที่อาจารย์ดูคือแบบไทยแท้ๆ คือใช้ปฏิทินสุริยยาตร์ หรือถ้าเป็นของคนอื่นก็จะใช้ปฏิทินของต่างประเทศเอามาตัดเวลาให้เป็นไทย ส่วนยูเรเนียนจะเป็นอีกศาสตร์นึง ที่ดูดวงดาวที่เขาเรียกว่าดาวทิศ เป็นทิศพยากรณ์ นอกนั้นก็จะเป็นโหราศาสตร์ย่อยๆ ออกไป”

    “ส่วนศาสตร์ไหนแม่นกว่ากัน ตรงนี้ยังไม่มีรายการไหนมาแข่งกัน จริงๆ น่าจะแข่งกันสักทีก็ดีเหมือนกัน ตั้งโจทย์มาแล้วมาแข่งกันดู ผมว่าคนที่จะดูแม่นๆ มันต้องเป็นนักเลือกช้อยส์ที่เก่งด้วย เพราะบางทีมันมี 5คำตอบ แต่เพราะทำไมเราถึงตอบหนึ่งในห้าที่ถูกต้อง อันนี้พูดยาก มันอาจจะไม่ใช่วิชา แต่คือสิ่งที่คนเรามองไม่เห็นคอยกระซิบบอกเรา หรือที่เราเรียกว่าองค์ ผมเชื่อว่าสิ่งนี้มีจริง ซึ่งไม่ใช่ว่าจะมีกันทุกคน หมอดูที่สามารถดูได้แม่นแต่ไม่มีเซนส์เหล่านี้ก็มี เพราะวิชาหมอดูสามารถเรียนรู้ได้ และขึ้นอยู่กับว่าคุณเอาไปใช้ประโยชน์ได้ดีแค่ไหน”

    “สิ่งที่จะทำให้หมอดูดูไม่แม่นคือ หนึ่งเราศึกษามาไม่ถ่องแท้ สองเราวิเคราะห์ไม่ถูก สามคือไม่แม่นจริงๆ คือเราดูแม่นแต่ไม่ถูก หมายถึงแม่นตามหลักการแต่ทายไม่ถูก เช่นว่าเรื่องนี้มีคำแปลอยู่ 5 เรื่อง แต่เราไปเลือกเรื่องที่ไม่ถูก นี่คือถูกตามหลักการแต่คุณหยิบเรื่องไม่ถูก เป็นที่วาสนาของผู้ทายด้วย อย่างอื่นก็อาจจะเป็นเพราะสมองบกพร่อง อาจจะเครียดหรืออดนอน บางทีขี้อวดรู้ไม่รู้แต่จะอวดภูมิ ทำเป็นรู้ไว้ก่อนก็เลยทายผิด สรุปแล้วคือหนึ่งโดยวิชา สองโดยวิเคราะห์ สามสุขภาพ สี่อยากอวดอ้าง”

    ยืนยันไม่เคยได้ยินตำรา “บริเฉท 7 ดารา” แต่บอกว่าตำราดังกล่าวมีลักษณะการดูดวงคล้ายกับการดูเลข 7 ตัว ซึ่งเป็นการดูดวงทั่วไปไม่ได้พิสดาร
    “ผมได้ยินบ่อยๆ คือคำว่าบริเฉท แต่คำว่า 7 ดารานี่ก็คือดาว 7 ดวง แต่ถ้าจะให้เราแปลก็คือการใช้ดาวพระเคราะห์ 7 ดวง คืออาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัสฯ ศุกร์ เสาร์ ไม่มีราหูเพราะราหูโหราศาสตร์ไทยเพิ่งจะมามีทีหลัง ส่วนคำว่าบริเฉทไม่ใช่ศาสตร์การดูดวงนะ เป็นเพียงคำศัพท์ธรรมดาที่แปลว่า การกำหนดข้อความที่รวบรวมเอามาเป็นตอนๆ พอรวมกับ 7 ดารา ที่มาจากดาว 7 ดวงก็น่าจะแปลว่าการแปลความหมายของดาวทั้ง 7 ดวง น่าจะแปลอย่างนั้นมากกว่า ไม่ได้พิสดารอะไร เพราะในการดูดาวทั้ง 7 ก็มีความหมายอยู่แล้ว เช่น อาทิตย์หมายถึงเกียรติยศ ชื่อเสียง พระมหากษัตริย์ พระราชา ส่วนจันทร์ก็หมายถึงประชาชน หมายถึงน้ำ ซึ่งคนที่เป็นหมอดูต้องเรียนคำแปลของดาวทั้ง 7 ดวงอยู่แล้ว ถ้าไม่เรียนก็ดูดวงไม่ได้”

    “คิดว่าเขาอาจจะเอาดวงดาวในทางโหราศาสตร์ ก็คือดาวพระเคราะห์ 7 ดวงไปใช้มากกว่า เพราะบริเฉท 7 ดาราฟังแล้วมันก็ดูเก๋ไก๋ดี เป็นการเปิดศัพท์ขึ้นมาให้มันเท่ห์ๆ เพราะมันสามารถแต่งคำได้อย่างอาจารย์ก็ชอบแต่งคำเรียกใหม่ๆ เพียงแต่ไม่เคยได้ยินคำนี้เท่านั้นเอง แต่ประเดี๋ยวคนที่เขาฟังอยู่จะคิดว่าผมไม่เคารพความคิด ไม่ใช่นะครับ ผมเคารพแต่ผมอาจจะมีความรู้น้อย แต่ถ้าจะให้ผมแปลก็คือการอธิบายถึงดวงดาว 7 ดวง”

    ส่วนที่ “หมอกฤษฏ์” บอกว่า “ตำราบริเฉท 7 ดารา” ไม่ต้องดูวันเดือนปีเกิด แต่ดูจากวันเวลาที่โทรมาหรือที่เจอกัน ก็สามารถบอกได้เลยว่ามีไฝตรงไหน ใส่เสื้อสีอะไร ผมยาวผมสั้นนั้น “อาจารย์พัฒนา” แย้งว่าตนก็ดูได้เช่นกัน เผยเป็นการดูแบบ “จับยามทาย” ซึ่งเป็นการดูดวงธรรมดา !
    “อันนี้อาจารย์ก็ทำได้ แต่ไม่ทำเพราะอาจารย์อยากจะดูดวง เพราะอันนี้มันของธรรมดา เขาเรียกว่าจับยามทาย แต่ไม่ใช่จับยามแบบที่เขาเรียนกัน คือวิธีการดูมันก็ใช้วิชาดวงเหมือนกัน แต่เราไม่ต้องมาตั้งดวง เป็นการทายที่รวดเร็วมาก การคำนวณในใจต้องจำแม่นมาก อย่างหมอดูคนอื่นๆ ก็ดูได้ถ้าเขาจะดู แต่แม่นไม่แม่นอีกเรื่องนึงนะ เพราะมันขึ้นอยู่กับความชำนาญในศาสตร์นั้นๆ เขาเรียนมาลึกหรือเปล่า”

    “แต่การดูแบบบริเฉท 7 ดารา ก็สามารถดูวันเดือนปีเกิดได้เหมือนกันเพราะ 7 ดาราก็ต้องเอาดวงดาวไปตั้ง คำว่าบริเฉท 7 ดาราอาจารย์ก็เพิ่งเคยได้ยิน แต่คำว่าบริเฉทมันก็เป็นคำที่ใช้ทั่วๆ ไป แล้วในแวดวงหมอดูเราก็มีการพบปะพูดคุยกันเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้มีการพูดถึงคำว่าบริเฉท 7 ดาราเลย และไม่มีใครรู้จักคำนี้”</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. joeycoles

    joeycoles เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    572
    ค่าพลัง:
    +457
    บางทีอาจใช้ญาณดูเนี่ยแหละ แต่ไม่กล้าบอกกลัวเป็นเรื่องงมงาย
     
  3. washiravit

    washiravit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    284
    ค่าพลัง:
    +290
    ไม่มั่นใจนะครับ เเต่ว่า ณ ตอนที่หมอเค้าออกรายการทีวีช่องไหนไม่รู็ เเต่ที่เเน่ๆเป็นเคเบิ้ล
    หมอเค้าก็ขอวันเดือนปีเกิดคนมาดูนะครับ

    เคยได้ยินมาว่าบริเฉท 7 ดารา คือศาสตร์เเห่งเลข 7 ตัวเเต่ไม่ต้องใช้วันเดือนปปี คือในยามของเวลานั้นๆมาทำนายกันเลยคับ

    เเต่เคล็ดลับของวิชาจะเป็นอย่างไรก็สุดเเท้เเล้วเเต่จะหยั่งถึง

    เพราะปรกติการจับยามจะใช้ในยามจำเป็นจริงๆเท่านั้น การจับยามถี่จนเกินไปจะทำให้ดวงออกมาเพี้ยนเรื่อยๆ

    หมอส่วนใหญ่ก็เลยจะใช้จับยามเเค่อย่างมากวันละครั้ง เเต่บังเอิญหหมอกฤษณ์ไม่ธรรมดาสิครับ เขาเลยอาจจะใช้ได้หลายครั้งก็ได้
     
  4. จักรราศี

    จักรราศี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +1,086
    ใช้ญาณ(เป็นของเก่าติดตัวมา)แต่ไม่กล้าบอก
    ไม่เชื่อไปถามดูดิ เค้าบอกเค้าเห็นผีเห็นเทวดาได้ ตำราขีดๆเขียนๆที่ไหนมันจะเห็นได้ฟะ ถ้าไม่มีทิพจักขุญาณ

    แต่ช่วงหลังๆเริ่มไม่แม่นละ มดดำมันก็เลิกดูละกะหมอกิดเนี่ย
     
  5. sinsair tavada

    sinsair tavada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +14,550
    555555555555555555 โน คอมเม้นต์...........เเอทฃืเด็น รอลีเอะ
     
  6. nut1663

    nut1663 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    702
    ค่าพลัง:
    +2,691
    ผมว่า ข้อ 2 นะ อุอุ
     
  7. maythanu

    maythanu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +2,069
    ถ้าแม่นจริงๆทำไมลิเดียไม่ท้องหล่ะครับ อิอิอิ
     
  8. ลุงตุ๊

    ลุงตุ๊ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +159
    ผมว่าโม้นะ เห็นครั้งแรกก็รู้สึกได้เลยว่าไม่ใช่ของจริง แต่ก็ขอให้เจริญๆละกัน
     
  9. wanakonth

    wanakonth เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2009
    โพสต์:
    2,153
    ค่าพลัง:
    +5,775
    โม้ไม่โม้ก็อย่างมงายละกันครับ เอาพอดีๆ
     
  10. 1redstar

    1redstar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +1,366
    มอกฤษฏ์ คน fake
    ขี้โม้ อย่างไร้ศีลธรรม
    ออกรายการวูดดี้ แล้วโม้ว่าตนเองมีฌานทิพย์
    ทำทีเดินทางไปสำรวจวิญญาณที่ ซานติก้า
    ทำท่าทางปากขมุบขมิบ
    หันมาบอกว่ากำลังคุยกับวิญญาณ แถว ๆ นั้น
    แต่ไม่เห็นจะมีวิญญาณที่ทุกข์ทรมานใน ซานติก้า เลย


    ต่อมา โหร วาริน ก็ออกรายการวูดดี้ เหมือนกัน
    ก็เล่าให้ฟังว่าที่ซานติก้า มีวิญญาณที่ทุกข์ทรมานมากมาย
    ขนาดที่พระไปอุทิศส่วนกุศลแล้ว
    วิญญาณเหล่านี้ก็ยังไม่สามารถรับได้ จิตยังไม่เปิดรับ และยังสับสนอยู่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤศจิกายน 2009
  11. tax108

    tax108 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +86
    ปีที่แล้วลูกค้าผม90%เป็นหมอดูและร่างทรงครับ และที่เป็นทั้งสองอย่างในร่างเดียวกันก็มีแต่ที่น่าแปลกคือ คนพวกนี้เบื้องหลังชีวิตเขาเหล่านั้น บางอย่างก็สกปรกมาก แต่หน้าฉากต้องเด่นเรื่องการแต่งตัว การวางตัว คำพูดต้องดี ฯลฯ บางคนสร้างบ้านก็โดนเชิดเงินทั้งๆที่ดูทำเลที่ตั้งและดวงของผู้รับเหมาหมดแล้ว บางคนดูดวงชาวบ้านแต่ไม่ยอมดูดวงตนเองและลูกหลานหรือสอนแต่คนอื่นไม่สอนคนของตัวเอง บางคนจ้างทำงานแต่ไม่ยอมจ่ายค่าแรงอ้างว่าดังบ้าง มีงานให้ทำอีกเยอะบ้าง ทำงานให้เขามีกินตลอดบ้าง เวลาแก้ดวงให้คนอื่นก็แนะนำให้เช่าบูชาของๆตนที่แอบก็อปปี้บ้าง สารพัดอย่าง บางคนที่ไปส่งงาน บ้านไม่ต่างอะไรก้บร้านขายเทวรูปหรือแผงพระ ล่าสุดไปส่งงานหมอดู+ร่างทรงคนหนึ่งโดยกิริยาท่าทางคำด่าทอคนอื่นหรือการเหน็บแนมนั้นสุดๆ ถ้าไม่เห็นว่าเป็นลูกค้าหรือถ้าผมโดนด่าบ้างผมคง ต้องขอเลือดหมดดูซักถ้วยแถมฟันอีกซัก2-3ซี่เป็นแน่
    ทั้งหมดนี้ไม่ได้เหมารวมทุกคนนะครับหมอดูที่ดีก็มีมาก เช่นผมไปทำบุญถวายพระที่วัดแห่งหนึ่งเจ้าอาวาสดูดวงแม่นมากลูกศิษย์ลูกหาก็มาก ผมนั่งสังเกตุดู เวลาดูดวงเสร็จไม่มีใครใส่ซองค่าครูถวายท่ายเลย 5 บาท 10 บาทก็ไม่มี ท่านก็เมตตาทำนายไปแบบไม่มีอิดออดครับ เวลาเจอคนดวงไม่ดีท่านก็จะแนะให้ ไปดำน้ำเปลี่ยนวันเดือนปีเกิดครับ
    .........
     
  12. อรมณีจันทร์

    อรมณีจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    993
    ค่าพลัง:
    +499
    วิลลี่-เยลหลี แมคอินทอช จะสูญเสียลูกน้อยจากการแท้ง

    -->>> คนไม่รู้ความจริงก็พูดไปเรื่อยๆ เยลหลีเข้าทำผสมเทียมนะรู้กันบ้างเปล่า
    เด็กที่เกิดจากการผสมเทียม แถมตั้งครรภ์แฝด
    ไม่แข็งแรง ที่เมืองนอก ถ้าทำคลอดเด็กแฝดจากการผสมเทียมพวกหมอจะ กลัวมาก
    เพราะ ตายเยอะ บางคนก็ปอดไม่แข็งแรงหายใจลำบาก
    บางคนก็ หัวใจมีปัญหา เส้นเลือดไปเลี้ยงหัวใจตีบตันบ้าง ลิ้นหัวใจรั่วบ้่าง
    ถ้าไม่เชื่อลองไปดู ซีรีย์เรื่อง แพทย์มือใหม่หัวใจเกิน100 ได้ ขนาดดูแลครรภ์อย่างดี
    เด็กที่คลอดออกมายังไม่แข็งแรง


    เยลหลี ไม่ใช่สาวๆ แล้วท้องธรรมชาติยากพอควร
    เลยไปทำเด็กหลอดแก้ว พวกที่ทำผสมเทียมมักจะได้ลูกแฝดนะ
    บางคนใส่ไป 5 ฟอง แล้วไข่ติด 3 ฟอง แต่พอตั้งครรภ์จริงๆ แท้งไป 1 รอด 2 ก็มี

    บางคนหมอใส่ไป 5 ฟอง แล้ว เด็กคลอดออกมา 5 คนก็มี
    แล้วไม่ใช่ ลูกคนรวยด้วย ที่ได้ลูกที 5 คนรวด บางอย่างวิทยาศาสตร์ยัง
    หาเหตุผลมาอธิบายเรื่องนี้ไม่ได้ด้วย ว่าทำไมผู้หญิงแข็งแรง 2 คนตั้งครรภ์
    จากผสมเทียมในเวลาพร้อมกัน ท้องแฝด3เหมือนกัน อีกคนลูกรอดหมด
    อีกคนแท้งหมด ไม่รอดสักคน ( ทางพุทธ อธิบายได้นะ มันคือตัวเวร ตัวกรรมไง)

    ความจริงแล้วตั้งครรภ์ธรรมชาติดีที่สุด เด็กจะออกมาแข็งแรง
    เด็กแท้งเองก็ยากด้วย ขนาดแม่ไปปีนเขา ไปวิ่งๆออกกำลังกายจะให้หลุดยังไม่หลุดเลย
    ส่วนไอ้คนระวังตัวแจอยากจะได้ลูกสะเทือนนิดก็หลุดแล้ว
    มีคนรวยแถวบ้านไปทำผสมหมดไปเป็นล้าน
    แท้งลูกไป 5 รอบ ไอ้ผสมเทียนนี่แหล่ะ เจ๊ไฮโซ เจ้าของโรงงานแถวบ้าน
    ผู้หญิงอายุ 45 ไปผสมเทียมแท้งเด็กไป 5 รอบ

    ที่เมืองนอกเขาหมอที่เก่งๆเขาจะ ไข่ลงไปในหลอดแก้วแค่3 ฟองแล้วค่อยฉีดใส่มดลูกผู้หญิงเพราะ การตั้งครรภ์เด็กมากกว่า 3 คน อันตรายมาก
    ถึง ไข่มันจะฝ่อไม่เหลือสักฟอง ก็ต้องยอมให้ฝ่อไป
    เพราะเคย ใส่ไป 5 ฟองแล้วมันดันติดทั้ง 5 ฟอง
    แต่ เด็กที่คลอดมา 5 คน ตายหมดเลย
    ส่วนใหญ่พวกจนๆเวลาทำผสมเทียม
    เด็กรอดนะ ไม่ค่อยจะตายหรอกคะ อ่านข่าวยังตกใจเลย
    ผู้หญิงจนนะแล้วเพี้ยนมากตัวเองก็ไม่มีสามี ให้หมอทำผสมเทียมได้ลูกตั้ง 9 คนจนลงได้กินเนสบุคส์ แต่ภายหลังบ้านโดนยึด ยายที่บ้าน
    บอกว่า หลานสติไม่ดี เรียนอยู่นิติยังไม่จบ
    ( คิดว่าข้อกฏหมายประเทศนั้น น่าจะหนุนเงินตรงนี้นะ ไม่งั้นคงไม่มีลูกเยอะๆเพราะว่า ผู้หญิงคนนี้มีแต่ตัว)


    แนน อมิตดา ชินสำเร็จ ไม่ได้ท้อง
    -->>> มีข่าวออกมานานแล้วว่าผู้ชายไม่ยอมรับเป็นพ่อเด็ก
    ท้่องจิงเปล่าไม่รู้นะ แต่ที่แน่ๆ คือหมดอนาคตวงการบันเทิง


    คู่รักอย่าง ทาทา ยัง - เปรม บุษราคัมวงศ์

    พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ – โดม ปกรณ์ ลัม

    ยังไงก็ต้องเลิกกัน ฟลุค เกริกพล มัสยวานิช ต้องเลิกรากับ แป้ง อรจิรา แหลมวิไล โดยมีผู้หญิงชื่ออักษรย่อ พ. จะเข้ามาเป็นมือที่สาม
    --->>> นักข่าวสายบันเทิงรู้กันนานแล้ว รู้ก่อน หมอดูอีก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤศจิกายน 2009
  13. deedeeman

    deedeeman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +258
    จะเปลี่ยนเป็นพ่อมด หมอผี หรือนักมายาจิตอะไรก็เป็นไปนะครับน้องกฤษณ์ แต่อย่าใช้คำว่าโหร พี่อายเค้าอิอิ
     
  14. mongkut

    mongkut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2008
    โพสต์:
    239
    ค่าพลัง:
    +251

    คุณอ.อรมณีจันทร์คนนี้สิ รู้ลึกรู้จริง.. 55 ชอบๆ อ.สบายดีนะครับ ดูแลสุขภาพบ้าง อากาศเย็นๆ แล้ว

    คำถามพวกที่มาที่ไปวิชานี้ ผมก็โดนถาม โดนซักอยู่เป็นประจำ เพราะวิชาดาวกระจกของผม มันมีกฏวิชาว่าห้ามเปิดเผยชื่อครูผู้มอบวิชา เพื่อให้ครูได้พักผ่อนจริงๆ หลังหมดอายุโหรแล้ว

    ใครยังไม่ได้อ่าน เชิญที่ลิงค์นี้ โหราศาสตร์เพื่อธุรกิจ คืออะไร ?

    ตัววิชามีอยู่จริง จนเปิดรับศิษย์สอนเป็นรุ่นๆ ได้เลย
    เห็นข่าวแบบนี้แต่ละวัน ฟังแล้วเศร้า เนอะ
     
  15. atnarak

    atnarak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2005
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +318
    ถ้าจะไม่เปิดเผยครูอาจารย์ก็บอกมาสิครับว่าบอกไม่ได้
    ไม่ใช่หาเรื่องมาโกหกครับ
     
  16. mongkut

    mongkut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2008
    โพสต์:
    239
    ค่าพลัง:
    +251
    อ่ะนะ คุณ atnarak กล่าวมาชัดเจน เปลี่ยน...
    ยิ่งเห็นข่าว ยิ่งเศร้า
     
  17. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    ไปทำนายลูกสาวเค้าสุ่มสี่สุ่มแปดประกาศให้คนทั้งประเทศฟัง
    เพื่อหาตังค์ หากิน เพื่อชื่อเสียงโด่งดัง ของตัวเอง
    เอาดวงลูกสาวเค้าไปหากิน


    มิหนำซ้ำฟ้องแฟนเค้ากะเจ้าตัวอีก

    คำพิพากษาศาลยกฟ้อง


    เค้าจะรู้สึกอายตนเองไหมเนี่ย

    ช่างไม่มีวิจารณญาณ เอาซะเลย ไปมีเรื่องกะหลานสาวเจ้าสัวใหญ่ของประเทศอีกเช่นนี้

    บุญยังดีนะเนี่ยที่รอดมาจนทุกวันนี้
     
  18. อรมณีจันทร์

    อรมณีจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    993
    ค่าพลัง:
    +499
    การเป็นคนดัง นี่ไม่ดีเลยนะ

    ไส้มีเท่าไหร่ โดนเอามาแฉหมด

    ล่่่าสุดในเวบพันทิพ จับประเด็นหมอกฤษณ์ ออกมาแฉ ต่อจากนาธานโอมานแล้วนะ

    ส่วนใน เวบผู้จัดการแฉ ไป 2 ตอนแล้ว
    Entertainment - Manager Online

    ปริศนา “หมอกฤษฏ์” กับ “บริเฉท 7 ดารา” ตอน 2“พลิกแผ่นดินตามหา หลวงปู่ปริศนา” บุคคลที่ “หมอกฤษฏ์” ไม่เคยเปิดเผย <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" valign="baseline" align="left">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" valign="baseline" align="left">22 พฤศจิกายน 2552 17:53 น.</td> </tr> </tbody></table> <table width="100%" border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr> <td valign="bottom" align="left" height="12">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td bgcolor="#cccccc"> <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="1"> <tbody><tr> <td valign="top" align="center" bgcolor="#ffffff"> <table width="100%" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="top" width="160" align="center"> <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="4"> <tbody><tr> <td valign="top" align="center"> <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="top" align="center"> <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" valign="baseline" align="center">คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</td> </tr> </tbody></table> <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td valign="baseline" align="center">วัดสัตตนารถ ที่ "หมอกฤษฏ์ ให้สัมภาษณ์ไว้ใน WHO ว่าเคยมาบวชที่นี่</td> </tr> </tbody></table>
    <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td valign="baseline" align="center"> “พระราชเมธาภรณ์" เจ้าอาวาสวัดสัตตนารถ</td> </tr> </tbody></table>
    <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td valign="baseline" align="center">"พระเมธีธรรมานุยุต" รองเจ้าอาวาสวัดสัตตนารถ</td> </tr> </tbody></table>
    <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td valign="baseline" align="center">กุฏิที่พระครูอินทร์เทวดาเคยอยู่</td> </tr> </tbody></table>
    <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td valign="baseline" align="center">ทีมงานสืบค้นทะเบียนบรรพชาไม่พบชื่อ "หมอกฤษฏ์"</td> </tr> </tbody></table>
    <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="middle" width="165" align="center" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> <td width="4" background="/images/linedot_vert3.gif">[​IMG]</td> <td valign="top" align="center"> <table width="100%" border="0" cellspacing="7"> <tbody><tr> <td valign="top" align="center"> <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" valign="baseline" align="left"> “หมอกฤษฏ์” ศุภกฤษฎ์ ปทุมศรีวิโรจน์ ได้ชื่อว่าเป็นหมอดูลึกลับคนหนึ่งที่ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว แม้กระทั่งชื่อวัดที่ไปบวชเรียนจนได้ศึกษาวิชาบริเฉท 7 ดารา เจ้าตัวก็ยังเก็บเป็นปริศนา บอกแค่ว่า เป็นวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี ส่วนชื่อ “หลวงปู่” ผู้เป็นอาจารย์ที่ถ่ายทอดวิชาก็ยังเก็บงำเป็นความลับเช่นกัน

    ประกอบกับตำราบริเฉท 7 ดาราที่หมอกฤษฏ์อ้างว่า ได้รับการถ่ายทอดมาจาก หลวงปู่ท่านหนึ่งที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ซึ่งหลวงปู่ท่านนี้ได้สืบทอดวิชามาจาก “หมอหน้าบาก” ลูกศิษย์ของ "พระครูวินัยธรรม(อินทร์ ปัญฺญาทีโป)" หรือที่ชาวบ้านขนานนามว่า "พระครูอินทร์เทวดา" โหรระดับปรมาจารย์แห่งเมืองราชบุรี ก็ไม่เป็นที่รู้จักในวงการ

    "อาจารย์พัฒนา พัฒนศิริ" หมอดูผู้คร่ำหวอดในวงการโหราศาสตร์มากว่า 34 ปี ,"อาจารย์ภิญโญ พงศ์เจริญ" นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ และประธานสภาโหราจารย์ และคลุกคลีอยู่กับวงการโหราศาสตร์มากว่า 50 ปี แม้แต่ “หลวงพ่อสุธน” เจ้าอาวาสวัดสุรชายาราม(วัดหลุมดิน) ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาการดูดวงมาจาก “พระครูเขมานันทมุนี” หรือ “หลวงปู่พรหม” แห่งวัดสัตตนารถปริวัตร ราชบุรี ซึ่งหลวงปู่พรหมท่านนี้เป็นพระหมอดูชื่อดังของราชบุรี และเป็นที่รู้จักกันดีว่า ได้รับการถ่ายทอดวิชาดูดวงจาก “พระครูอินทร์เทวดา” มาโดยตรง ต่างไม่เคยได้ยินชื่อตำรา “บริเฉท 7 ดารา” (ดังที่ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวไว้แล้วใน ปริศนา “หมอกฤษฏ์” กับ “บริเฉท 7 ดารา” ตอน “ตำราเทวดา หรือ แค่ตำนานขี้โม้”)

    การทำตัวลึกลับปกปิดข้อมูลของหมอกฤษฏ์ กับคำสัมภาษณ์ของปรมาจารย์ด้านโหราศาสตร์ทั้งสาม ทำให้หลายๆ คนสงสัยว่า แท้จริงแล้วเจ้าตัวไปบวช และได้เรียนวิชาที่ว่านี้จากวัดไหนในจังหวัดราชบุรี แล้วหลวงปู่ปริศนาที่เจ้าตัวอ้างว่าเป็นอาจารย์คือใคร และท้ายที่สุดแล้วตำราที่หมอกฤษฏ์ไปร่ำเรียนมา...ใช่ตำราของพระครูอินทร์ เทวดาจริงหรือไม่ จึงเป็นที่มาให้ ASTV บันเทิงผู้จัดการออนไลน์ ต้องพลิกแผ่นดินตามหาอาจารย์ของหมอกฤษฏ์เพื่อหาคำตอบดังกล่าว

    ถ้าย้อนไปอ่านบทสัมภาษณ์เก่าๆ จะพบว่า หมอกฤษฏ์อธิบายถึงประวัติของตัวเองค่อนข้างคลุมเครือเหมือนกันหมด นั่นก็คือไม่บอกชื่อวัดที่ตนเองไปบวชจนได้วิชาบริเฉท 7 ดารา ไม่บอกชื่อหลวงปู่ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ และบางครั้งยังให้ข้อมูลประวัติส่วนตัวแตกต่างกันออกไป

    นิตยสาร WHO ฉบับวันที่ 23 /12/51 ได้ลงตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ของหมอกฤษฏ์ว่า ในช่วงที่เขาอายุ 17 ปีได้ไปบวชเณรและได้เจอกับ “หลวงปู่รูปหนึ่ง” ซึ่งเป็นพระลูกวัดสัตตนารถปริวัตร และหลวงปู่ท่านนี้ก็ได้ถ่ายทอดวิชาบริเฉท 7 ดาราให้ หลังจากนั้นหลวงปู่ก็มรณภาพลงในปีพ.ศ.2548

    แต่ ในหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คของตัวเองที่ชื่อ "กฤษฎ์คอนเฟิร์ม หมอดูจอมอหังการ" กลับบอกถึงที่มาของการได้ตำราดูดวงแบบบริเฉท 7 ดาราว่า “ได้ไปศึกษาวิชานี้ขณะบวชเณรอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งในตอนนั้นวัดแห่งนี้ยังเป็นสำนักสงฆ์ ล้อมรอบไปด้วยภูเขา การเดินทางค่อนข้างลำบากเนื่องจากตั้งอยู่กลางป่า

    แต่ที่เลือกมาบวชที่วัดนี้ เพราะทางครอบครัวและป้านั้นสนิทสนม มาทำบุญที่วัดนี้อยู่บ่อยๆ จากนั้นก็ได้เจอกับ “หลวงปู่” พระชราภาพรูปหนึ่งอายุ 96 ปี ซึ่งเป็นพระลูกวัดและได้ทำนายดวงให้ว่า อนาคตจะเป็นหมอดูที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นคนที่ท่านรอมานานที่จะสืบทอดตำราการดูดวงให้

    โดยตำรานี้เป็นของพระครูอินทร์เทวดา ปรมาจารย์โหรในยุคโบราณประมาณปี 2450-2480 ซึ่งพระครูอินทร์ได้ถ่ายทอดมาให้หมอหน้าบาก และภายหลังหมอหน้าบากก็ได้ถ่ายทอดวิชามาให้กับหลวงปู่ท่านนี้อีกที นอก จากนั้นแล้วหมอกฤษฏ์ยังได้บรรยายลักษณะของหมอหน้าบากในพ็อกเก็ตบุ๊คอีกว่า หน้าจะบากเนื่องจากถูกมีดฟันตั้งแต่ประมาณกลางกระหม่อมเรื่อยลงมา จนถึงจมูกแล้วก็ยาวไปถึงหางหูทางด้านซ้าย

    หมอกฤษฏ์ยังกล่าวอีกว่า ตำราของพระครูอินทร์เทวดามี 3 ตำราคือ ตำราโหราเลขศาสตร์พินิจนาที และ นิเวศวิรุฬหการณ์ ส่วนอีกตำราไม่มีชื่อเพราะพระครูอินทร์เทวดาไม่ได้บอกหมอหน้าบากเอาไว้ว่า ตำรานี้ชื่ออะไร แต่ทางหมอหน้าบากได้สั่งหลวงปู่เอาไว้ว่า อย่าถ่ายทอดวิชานี้ให้กับใคร รอจนกว่าจะรู้ตัวว่ากำลังจะตาย “แล้วจะมีอาจารย์ของอาจารย์มาเอาวิชานี้ไปเอง” จากนั้นหลวงปู่ก็ถ่ายทอดตำรานี้ให้กับหมอกฤษฏ์เพียงผู้เดียว และหลังจากนั้นท่านก็มรณภาพไปเมื่อปีพศ.2548” นั่นคือสิ่งหมอกฤษฏ์แจกแจงในพ็อกเก็ตบุ๊ค

    จาก ข้อมูลที่หมอกฤษฏ์ให้สัมภาษณ์นั้นจะเห็นว่าแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในนิตยสาร WHO บอกว่า ได้เรียนรู้มาจากพระลูกวัดสัตตนารถปริวัตร ราชบุรี แต่ในพ็อกเก็ตบุ๊คกลับบอกว่า ร่ำเรียนมาจาก หลวงปู่อายุ 96 ปีซึ่งเป็นพระลูกวัดอยู่ในวัดแห่งหนึ่งของอำเภอจอมบึง ราชบุรี ดังนั้น ASTV บันเทิงผู้จัดการออนไลน์จึงต้องลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว โดยเริ่มที่วัดสัตตนารถปริวัตร จ.ราชบุรี ว่าหมอกฤษฏ์ได้มาบวชเณรและได้วิชาบริเฉท 7 ดาราจากพระลูกวัดที่นี่ จริงตามที่ให้สัมภาษณ์ไว้ในนิตยสาร WHO หรือไม่

    ปฏิบัติการพลิกแผ่นดินตามหา “หลวงปู่ปริศนา” ที่วัดสัตตนารถปริวัตร

    “พระราชเมธาภรณ์" เจ้าอาวาสวัดสัตตนารถฯ ยืนยันว่า “หมอกฤษฏ์” ไม่ได้มาบวช ไม่ได้เรียนวิชาบริเฉท 7 ดารากับพระในวัด สวนทางกับสิ่งที่หมอกฤษฏ์ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ในนิตยสาร WHO เพราะพระหมอดูที่วัดสัตตนารถฯที่สืบทอดตำราจากพระครูอินทร์เทวดามีรูปเดียว และมรณภาพไปตั้งแต่ปี 2525 ซึ่งหมอกฤษฏ์ยังไม่เกิด
    "อาตมาบวชจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้ตั้งแต่ พ.ศ. 2498 มาไม่ทันพระครูอินทร์เทวดา แต่ทราบว่าท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้จริง ซึ่งในยุคนั้นพระครูอินทร์เทวดาท่านดังในด้านโหราศาสตร์ ดูดวงแม่นเหมือนตาเห็น ชาวบ้านก็เลยเรียกกันว่า อินทร์เทวดา ส่วนรายละเอียดเรื่องตำราของท่านอาตมาไม่ทราบ เท่าที่รู้เห็นเขาบอกกันว่าหลังจากที่พระครูอินทร์ท่านมรณภาพไปแล้ว พระปฏิบัติที่คอยดูแลท่านจะเก็บเอามาเผาทิ้งไปแล้ว เขาว่ากันอย่างนั้นนะ”

    “ซึ่งพระปฏิบัติท่านนี้ชื่อพระครูสุนเป็นชาวเขมร ตอนหลังได้ไปเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดเขาถ้ำ แต่ตอนนี้มรณภาพไปนานมากแล้ว เรื่องตำราที่เคยเห็นบางสิ่งบางอย่าง อาจจะเป็นตำราที่พระครูอินทร์เทวดาท่านเขียนไว้เอง แต่ชื่อตำราอะไรเราไม่ทราบ อย่าว่าตำราเลย แม้แต่รูปถ่ายของท่านที่เป็นรูปใหญ่ๆ แขวนไว้ที่หน้ากุฏิเดิมของท่านในวัดนี้ก็ไม่รู้หายไปไหน หาสาเหตุไม่เจอ ที่ผ่านมามีคนมาติดตามถามหามากมาย ต้องการที่จะดูรูปท่าน แต่ค้นหาไม่เจอแล้ว”

    "ส่วน ลูกศิษย์ที่เคยร่ำเรียนวิชาจากพระครูอินทร์เทวดาเท่าที่เห็นในวัดนี้ก็มีพระ ครูเขมานันทมุนี หรือ หลวงปู่พรหมองค์เดียว อาตมามาทันได้เจอกับหลวงพ่อพรหมจึงรู้ว่า ท่านเป็นพระองค์เดียวในวัดนี้ที่เก่งทางด้านโหราศาสตร์ดูดวงแม่น แต่อาตมาก็ไม่เคยถามท่านว่าเรียนมามากน้อยแค่ไหน เรียนตำราอะไร รู้แต่ว่าท่านมาศึกษาตำราดูดวงกับพระครูอินทร์เทวดา ตั้งแต่หลวงปู่พรหมท่านบวชเป็นสามเณรและบวชพระ"

    "จนมรณภาพไปเมื่อ พ.ศ.2525 อายุประมาณ 80 กว่าได้ ในยุคนั้นอาตมาคิดว่าคนที่เป็นลูกศิษย์พระครูอินทร์ก็มีเพียงคนเดียว ก็คือหลวงปู่พรหม ซึ่งก่อนหน้าที่ท่านจะมรณภาพ หลวงปู่พรหมมีลูกศิษย์เป็นพระอีกองค์ชื่อพระสุธน แต่ตอนนี้ย้ายไปเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดสุรชายาราม (วัดหลุมดิน) และปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นพระดูดวงอยู่ ท่านจะเอามาจากตำรับตำราบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ แต่ที่วัดนี้พระที่ดูดวงเก่งๆ ก็มีพระครูอินทร์เทวดา,หลวงปู่พรหม”

    “หลวงปู่พรหมท่านมรณภาพไป 27 ปีได้แล้ว มากกว่าอายุหมอกฤษฏ์อีก แล้วจะมาเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่พรหมได้ยังไง ที่ผ่าน มามีคนมาถามหาตำรา ก็มีแต่คนอายุมากแล้วทั้งนั้น ไม่เคยเห็นใครอายุน้อยมาร่ำเรียนและก็ไม่เคยมีใครมาบวชเณร แล้วเรียนตำราโหราศาสตร์ มีแต่มาบวชเณรหน้าไฟกันซะส่วนใหญ่ และถ้าเขาจะเรียนการดูดวงจากพระลูกวัดรูปอื่นในวัดนี้ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะตั้งแต่มีวัดนอกจากพระครูอินทร์เทวดา ก็มีหลวงปู่พรหมรูปเดียวเท่านั้นที่เป็นพระหมอดูของที่นี่"

    ทางด้าน "หลวงพ่อสุธน" เจ้าอาวาสวัดสุรชายาราม(วัดหลุมดิน) ซึ่งเป็นพระหมอดูองค์เดียวในวัดสัตตนารถปริวัตร ที่ได้รับถ่ายทอดวิชาดูดวงจากหลวงปู่พรหม ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของพระอินทร์เทวดา ก่อนที่จะย้ายวัดมาจำพรรษาที่วัดอื่นได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า

    “อาตมาเคยจำพรรษาอยู่ที่วัดสัตตนารถปริวัตรและเป็นลูกศิษย์ของหลวง ปู่พรหม แต่ไม่ทันหลวงปู่อินทร์ หลวงปู่พรหมท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่ออินทร์เทวดา เรียนตั้งแต่สมัยยังบวชเป็นเณรเรื่อยมา ส่วนอาตมาเรียนกับท่านตั้งแต่พ.ศ.ห้าร้อยเศษๆ มาแล้วและท่านมาล่วงลับเอาปีพ.ศ. 2525 เรียนพอรู้คุยกับท่านบ้าง แต่เข้าใจว่าท่านอาจจะมีเคล็ดอะไรของท่านเราก็ไม่ได้ไปถาม พอตอนหลังท่านแก่มากเราไม่ได้ไปยุ่ง หลวงพ่อพรหมมีลูกศิษย์เยอะมีทั้งฆราวาส หรือพระก็มี ไม่รู้มีใครบ้างไม่ได้มาเรียนรวมกัน บางคนก็มาถามท่านเฉพาะเรื่องแล้วก็ไป”

    “แต่ลูกศิษย์ที่เป็นเณรไม่มี มีแต่เด็กข้างนอกที่เคารพนับถือมาคุยมาถามกันแต่ละเรื่อง ไม่ใช่มานั่งเรียนรวมกัน ต่างคนต่างมีตำราแล้วสงสัยเรื่องอะไรก็มาถามท่าน ไม่ใช่การถ่ายทอดกันแบบโบราณ ถ้าเป็นแบบโบราณต้องมีการสอนแบบตั้งเลขตั้งดวงกัน”

    จากข้อมูลที่ได้จากเจ้าอาวาสวัดสัตตนารถปริวัตรทำให้ทราบว่า เป็นไปไม่ได้ที่หมอกฤษฏ์จะมาบวชเณรและได้เรียนรู้วิชาบริเฉท 7 ดาราจากพระลูกวัดในวัดแห่งนี้ เนื่องจากตั้งแต่ตั้งวัดสัตตนารถฯขึ้นมา ก็มีพระหมอดูเพียงสองรูปนั่นก็คือ พระครูอินทร์เทวดา กับ หลวงปู่พรหม ซึ่ง ถ้าจะเรียนจากพระครูอินทร์เทวดาก็เป็นไปไม่ได้เพราะพระครูอินทร์เทวดามรณภาพ ไปเป็นร้อยปีแล้ว และถ้าจะเรียนจากหลวงปู่พรหมก็ไม่น่าจะใช่ เนื่องจากหลวงปู่พรหมมรณภาพไปตั้งแต่ปี 2525 ตั้งแต่หมอกฤษฏ์ยังไม่เกิด

    แต่เพื่อให้ข้อมูลดังกล่าวสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ASTV บันเทิงผู้จัดการออนไลน์ จึงได้สอบถามไปยัง"พระครูเมธีธรรมานุยุต" รองเจ้าอาวาสวัดสัตตนารถปริวัตร เพื่อขออนุญาตดูบันทึกการบรรพชาของพระและเณร ที่เคยบวชในวัดสัตตนารถฯ และได้ทำการตรวจสอบบันทึกดังกล่าวตั้งแต่ปี 2532 – 2550 ก็ไม่มีชื่อของหมอกฤษฏ์แต่อย่างใด
    "เท่าที่ทราบ หมอกฤษฏ์ คอนเฟิร์ม นี่ไม่เคยได้ยินชื่อ ถ้าเขามาบวชอยู่ที่วัดนี้จริงอาตมาก็ต้องรู้ เพราะเราเป็นรองเจ้าอาวาสจะมีหน้าที่ดูแลเรื่องการบวชพระบวชเณร ใครที่มาบวชที่วัดนี้ทุกคนจะต้องมีเอกสารรายชื่อของการบรรพชาทุกคน"

    "ที่ผ่านมามีคนมาบวชที่วัดนี้เพื่อเรียนธรรมวินัยมี แต่ไม่เคยเห็นใครมาบวชเพื่อที่จะเรียนวิชาหมอดูนะ เพราะไม่มีใครที่จะสอนได้รับรองได้ หลวง ปู่อินทร์เทวดามรณภาพไปตั้งแต่เจ้าอาวาสองค์ที่ 7 ยังเป็นเณรเล็กๆ เอง แล้วก็หลวงปู่พรหมท่านมรณภาพไปเมื่อพ.ศ.2525 อาตมายังบวชพระได้แค่ปีสองปีเอง แล้วพระที่ได้ถ่ายทอดตำราหมอดูจากท่าน ก็มีพระรูปเดียวท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดหลุมดิน ส่วนหมอกฤษฏ์เกิดทันซะที่ไหนทุกวันนี้มีคนมาแอบอ้างเยอะบอกตรงๆ นอกจากหลวงปู่พรหมแล้วที่วัดสัตตนารถฯไม่มีหมอดูแล้ว”

    เป็น อันว่า "หมอกฤษฏ์" ไม่ได้มาบวชและเรียนวิชาที่วัดสัตตนารถฯ เหมือนที่ให้สัมภาษณ์ไว้ในนิตยสาร WHO อย่างแน่นอน แล้วที่เคยเขียนไว้ในพ็อกเก็ตบุ๊คว่าไปบวชที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอจอมบึง จนได้วิชาบริเฉท 7 ดารา จะเป็นจริงหรือไม่

    โปรดติดตาม ปริศนา “หมอกฤษฏ์” กับ “บริเฉท 7 ดารา” ตอน 3 "ปฏิบัติการเคอิโงะ พลิกแผ่นดินตามหาอาจารย์ของหมอกฤษฏ์ ที่วัดใน อ.จอมบึง" ในวันพรุ่งนี้

    ปริศนา “หมอกฤษฏ์” กับ บริเฉท 7 ดารา ตอน 1"ตำราเทวดา หรือ ตำนานขี้โม้!"


    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  19. joeycoles

    joeycoles เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    572
    ค่าพลัง:
    +457
    วิชาบางวิชาก็หาคำตอบไม่ได้เช่นกัน บางอย่างอยู่ที่ความเชื่อ ต้องพิจราณาดูไปเรื่อย ๆ ก่อนถึงจะหาข้อสรุปครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...