การครอบครูกับการเป็นร่างทรง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Aejung18, 19 พฤศจิกายน 2009.

  1. Aejung18

    Aejung18 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +4
    พอดีว่าพึ่งจะทราบว่าตัวเองมีองค์เมื่อไม่นานมานี้ค่ะ
    ที่รู้ก็เพราะว่าท่านลงมาประทับร่าง แต่ยังไม่สามารถลงได้เต็มตัวและใช้ร่างดิฉันได้อย่างสมบูรณ์ แต่พอดีมีร่างทรงที่ดิฉันไปหาท่านบอกว่าตอนนี้ให้ทำพิธีครอบครู(ไม่แน่ใจว่าเรียกถูกหรือเปล่า) ก็เลยไม่มั่นใจว่าการครอบครูกับการรับขันธ์เหมือนกานหรือต่างกันยังไง และการครอบครูสำหรับคนมีองค์จะมีผลอย่างไรกับคนทำพิธีหรือเปล่าค่ะ
    แต่จากที่ถามมาการทำพิธีนี้ เพียงเพื่อไม่ให้ลงในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม
    รบกวนผู้รู้ในเรื่องนี้ตอบคำถามด้วยน่ะค่ะ เพราะว่าไม่เข้าใจจริงๆๆ


    ขอบคุณทุกข้อความน่ะค่ะ
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    อยากบอกว่าไม่แนะนำเลย.....พวกร่างทรง...รับขันธ์อะไรเนี่ย.....

    พวกนี้ท่านบอกว่าพวกมีกรรม....ขันธ์ตัวเองไม่หนักพอ....ไปเอาอย่างอื่นมาพวงหนักให้เป็นภาระ....

    ทุกคนมีองค์หมดหละครับ....อย่างน้อยก็เทวดาประจำตัว.....ไม่ใช่ฉันมีคนอื่นไม่มี.....เรื่องร่างทรงองค์จริงก็มีองค์ปลอมก็มีส่วนใหญ่องค์ปลอม.....

    ถ้าองค์จริง...ไม่ต้องไปรับขันธ์จากใคร....ท่านมาของท่านเอง.....ท่านมาแบบไม่เรียกร้องให้เราลำบากด้วย....แต่ไอ่นี่มาแล้วลำบากต่อขันธ์ทุกปีเท่านั้นเท่านี้....เรียกค่าอย่างนั้นอย่างนี้.....พวกนี้ผมไม่แนะนำ.....ถ้าจริงบอกไปเลยว่าฉันไม่รับ.....ถ้าจะให้รับฉันจะทำเอง.....ถ้าท่านเมตตาก็มาถ้าไม่เมตตามาทำให้เราลำบาก..ป่วยนั่นป่วยนี่(พวกนี้พวกเจ้ากรรมนายเวร)ก็นิมนต์ท่านไปเลย......แล้วคุณก็เข้าวัดไปปฏิบัติธรรม......เข้าหาครูบาอาจารย์ก็จบครับ.....

    คุณจำไว้ว่าไม่มีอะไรยิ่งใหญ่และทรงคุณค่ามากกว่าพระรัตนไตร......ถ้าอยู่กรุงเทพ ให้ไปหาหลวงแม่ทศพรนะ(จริงๆแล้วอยากบอกว่าอยู่ไม่อยู่กรุงเทพก็ไปเถอะ..วัดที่นอนเยอะคนเยอะ..สดวกสบาย..ใกล้ชิดท่านถามท่านได้)....ไปถามท่านเรื่องนี้....ไม่ก็อยู่ปฏิบัติเลย.....ท่านช่วยคุณได้...คือท่านช่วยมาเยอะแล้วพวกนี้....เข้าวัดดีกว่า...สร้างบุญสร้างกุศล....ทำให้ชีวิตเจริญขึ้นด้วยตัวเราเอง....

    ถ้าเรื่องนี้ได้มาจากเจ้าเข้าทรงทัก....คุณก็หยุดเลย....<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- sig -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2009
  3. กิตติรัตน์ นพต

    กิตติรัตน์ นพต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2008
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +363
    อย่าเลยครับพวกครอบครู/รับขันธ์เนี่ย ส่วนมากเป็นพวกผีที่ไม่ได้ไปผุดไปเกิดทั้งนั้นครับ พวกผีเห็นผีด้วยกันเองก็จะทักว่ามีองค์(เป็นองค์นั้นองค์นี้เยอะแยะไปหมด เป็นเจ้าพ่อนั่น เจ้าแม่นี่)ให้ไปรับขันธ์/ครอบครู (ผีตัวนั้นๆจะได้มาอยู่กับเจ้าของร่างได้อย่างเต็มตัว) มาอยู่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้ อาจจะดีช่วงแรก แต่ต่อไปชะตาชีวิตจะตกต่ำอย่างหาสาเหตุไม่ได้ เวลาเจ้าของร่างตายไปก็ต้องไปเป็นบริวารคอยรับใช้เจ้าตำหนักเขาอีก ให้คุณไปหาครูบาอาจารย์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ(เน้นปฏิบัติ)ดีกว่าครับ จะได้มีพระรัตนตรัยคุ้มครองตัวเราดีกว่ามีผี(องค์นั้นองค์นี้)คุ้มครองเราครับ
     
  4. jerajajen

    jerajajen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2008
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +267
    จริงๆ แล้วสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่วิถีพุทธเลย แต่ในเมื่อสถานการณ์มันมาถึงขนาดนี้แล้วควรควรทำตัวดังนี้ 1.ก็ทำให้ถูกต้องรับขันธ์ใหซะเพื่อร่างกายและจิตใจจะได้ปกติ ไม่กระวน กระวาย เทดาต้องมีเหตุอไรซักอย่างจึงลงมาอยู่กับเรา คนที่ทำเก่งพูดเก่งกว่าเทวดา เค้ายังไม่เคยเจอแบบเราจึงพูดได้
    2.การครอบครูก็คือการนำเศียรฤษีมาครอบหัว หลังจากรับขั้นธ์ทันที โทรมาคุยได้ครับ 08-68825158
     
  5. เฉยชา

    เฉยชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +103
    ครอบกับใครเทพองค์ไหนระดับไหนก็จะมีอำนาจในระดับนั้น
    ทำไมไม่เอาอำนาจระดับพระพุทะเจ้าละ จะไปพึ่งเทพทำไมกัน
     
  6. chatty26

    chatty26 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +87
    อย่าเลยคะ อย่ารับพานขันธ์ ๕ เลยคะ
    พระพุทธเจ้าท่านดีที่สุดแล่ว
    เพราะเคยถูก ๑๘มงกุฎหลอกให้ทำ เลยต้องเอาพานขันธ์ ๕ ไปลอยน้ำด้วยความไม่รู้

    สุดท้ายทุกวันนี้ก็ทำบุญเรื่อยๆๆ ปกติชอบทำบุญอยู่แล้ว แต่กว่าจะหมดเคราะห์ได้ แถบตายทั้งเป็น ซึ่งมันออกจากตัวเองไปหมดหมายถึง สิ่งที่ไม่ดี
     
  7. Darawun

    Darawun Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +52
    ขอนำเรื่องราวเหล่านี้บอกกล่าวเพื่อเป็นกุศลในชาติภพหน้าหากเกิดใหม่คงมีชีวิตที่ไม่ทุกข์ยากอยู่ห่างคนที่มีแต่อบายมุขทั้งหลายเทิญ
    มีผู้คนจำนวนมากถูกทักว่ามาองค์ เป็นช่องทางทำมาหากินของพวก มิจฉาชีพ อาสัยช่องทางของเรื่องลี้ลับมาหลอกลวงต้มตุ๋น แท้จริงแล้วมนุษย์เราเกิดมามีองค์เทพปกปักษ์รักษา อย่างน้อย 2 องค์ (อยู่ห่างจากเราเพียง 3 ศอก) ตำหนักทรง ร่างทรงต่างๆ หลอกให้ไปรับขันธ์ ล้วนแล้วแต่เป็นผี หรือสัมภเวสีทั้งสิ้น

    เนื่องจากผีเหล่านี้ร่อนเร่พเนจร ไม่มีสังขาร จึงมาอาศัยร่างมนุษย์เกาะกินบุญ ทำบุญไปเท่าไหร่สัมภเวสีพวกนี้เอาไปหมด ทำบุญมาก แต่ชีวิตก็ไม่ดีขึ้น มันจะดีได้อย่างไรในเมื่อท่านไปรับ ผีเข้าตัว บางขันธ์มีเป็นสิบวิญญาณ ขึ้นอยู่กับสำนักไหน สำนักที่เป็นเสือสมิง บรรดาที่ถูกหลอกรับขันธ์มาก็เป็นวิญาณเสือสมิงเข้าตัวทั้งนั้น ที่ผ่านมาปราบไปเป็นจำนวนมาก

    ร่างทรงต่างๆ ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นผี เข้าใจว่าเป็นเทพเจ้า อ้างตนเป็นเทพองค์ใหญ่ๆ เพราะถ้าบอกว่าเป็นผีนายมั่ง นางมี.. ก็คงไม่มีใครไปเชื่อถือ เลยอ้างตนเป็นพระแม่อุมาบ้าง ,เสด็จพ่อ ร.5 บ้าง (ท่านไม่มาดูหมอดูดวง หรือมายุ่งกับเรื่องผัวเมีย ทำนายทายทักอะไรเพระท่านไม่มีหน้าที่ เพราะเทพที่มีหน้าที่เค้ามีอยู่),บ้างก็อ้างเป็นกรมหลวงชุมพรบ้าง พระเจ้าตาก ก็วนเวียนกันอยู่แค่นี้ เพราะกษัตริย์ไทยดังๆ อยู่ไม่กี่องค์ หากินง่าย ยิ่งเป็น ร.5 มากที่สุดเพราะคนนับถือ เยอะ ..


    ผู้ที่รับขันธ์มา ส่วนใหญ่แล้วชีวิตอัปปาง วิบัติ ลมสลายเกือบทุกรายไป ที่ยังไม่ออกเหตุก็เพราะบุญยังเยอะ สุดท้ายจบลงด้วย โรคมะเร็ง เบาหวาน อัมพฤกา อัมพาต หรืออุบัติเหตุ แทบทั้งสิ้น รวมถึงเจ้าของตำหนักคนทรงก็ตามมักจะจบชีวิตด้วยเหตุนี้ โดนกัดกินอวัยวะภายในเจ็บป่วยในบั้นปลายชีวิต...บ้างก็ล้มตายด้วยอุบัติเหตุ..ไปเลย

    ที่ผ่านมามีผู้ทนทุกข์ทรมานถอนขันธ์เป็นจำนวนมาก บางคนหมดเงินไปเป็นล้านๆ บางคนก็ถอนเองส่วนใหญ่จะทำไม่ถูกวิธี ..ทิ้งขันธ์ไป แต่วิญญาณในขันธ์นั้นยังเกาะอยู่เหมือนเดิม..!! เหลือแต่ขันเปล่าๆ ก็ยังมีแฝงอยู่ดี

    งานพิธีไหว้ครูต่างๆ เป็นการเต้นรำ บรรดาผีต่างๆ แต่งตัวมาเลียนแบบเทพ กันสนุกสนาน ท่านสังเกตุเกิดว่า พระแม่กวนอิมต้องมาฟ้อนรำกับกุมาร หรือพระศิวะ กุมารต่างๆ หรือมหาเทพอย่างพระแม่อุมา จะมาฟ้อนเต้นแร้งเต้นกากับผี หรือกุมารต่างๆ อย่างนั้นหรือ..!!

    เทพต่างๆ ล้วนอิ่มทิพย์ ไม่ต้องมาทรมานสังขารมนุษย์(มันเป็นบาป) นั่งสั่น หงายท้องหรือดูดบุหรี่ทีละ 5 มวน อันนั้นมันผีชัดๆ หรือพูดจาด่าทอสาปแช่งมนุษย์บรรดาเทพต่างๆ ไม่เสี่ยงกับการจกสววรค์ หากมีจิตใจไม่ดี หรือไม่มีศีลธรรมคงไม่เป็นเทพหรอกครับ. ยกเว้นพวกผี..ชั้นต่ำเท่านั้น..!!
    บางตำหนักทรงก็เป็นผี ชั้นดีต้องการสร้างบุญจริงๆ ไม่เก็บเงินใดๆ เอาไปทำบุญ แต่หากให้รับขันธ์ ก็ผิดอีกนั้นแหละ ไปเอาพวกผีด้วยกันมาใส่ตัวชาวบ้านให้ได้รับวามเดือดร้อนกัน...!!

    บางท่านไม่ได้รับขันธ์ แค่นั่งสมาธิก็โดนสัมภเวสีเข้าแทรก มีอาการแปลกๆ ดังที่เห็นได้ในงานพิธีสวดพานยักษ์ใหญ่ ของต่างๆ ที่ขี้นให้เห็นเพียงพรมน้ำมนต์ก็สงบลง แต่ไม่ออกนะครับ...ผลสุดท้าย วัดนั้นเพียงเอาเรื่องนี้มาทำมาหากิน ขายวัตถุมงคล

    มนุษย์เรา ไม่เข้าใจเรื่องของกฏแห่งกรรม ไปเอาวัตถุมงคลมาคุ้ม ถึงได้ผีเข้ากันมากมาย ใครรู้ตัวก่อนก็เป็นบุญเทวดาพามาให้เจอ..
    ความเข้าใจกรณีการรับขันธ์

    ขันธ์ 5 ของมนุษย์นั้น ประกอบไปด้วย รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์

    เทพ เป็นจิตวิญญาณ มีขันธ์เพียง 3 ขันธ์ คือ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ วิญญาณขันธ์ จึงต้องอาศัยการแต่งขันธ์ 5 ของมนุษย์ ที่จัดตบแต่งขึ้นมาเป็นตัวแทนของตน ว่าได้ยอมรับเป็นร่างให้กับเทพองค์นั้น ๆ และยังหมายถึงข้อตกลง ระหว่างเทพกับมนุษย์ผู้ตกลงปลงใจยอมรับหน้าที่เป็นสังขารขันธ์ให้กับองค์เทพผู้นั้นไว้ใช้ร่างของตนสร้างบารมี โดยมีองค์เทพผู้ทำพิธีมอบขันธ์ให้เป็นสักขีพยาน หากแม้นมีใครระหว่างเทพกับมนุษย์มีการผิดข้อตกลง ก็ต้องเดือดร้อนถึงผู้เป็นครูที่เป็นสักขีพยาน จะต้องทำหน้าที่ว่ากล่าวตักเตือนผู้กระทำผิดต่อไป

    ความหมายของขันธ์ต่างๆ

    ขันธ์ 5 หมายถึงการรับศีล 5 มาปฏิบัติโดยเคร่งครัด ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าเผลอไปรับเข้า มิฉะนั้นอาจถูกลงโทษได้

    ขันธ์ 8 หมายถึงการรับศีล 8 ซึ่งจะต้องประพฤติพรหมจรรย์ ห้ามร่วมหลับนอนฉันท์สามีภรรยา งดเว้นอาหารมื้อเย็น สวดมนต์ไหว้พระ เจริญสมาธิภาวนา เหมือนการถือศีลบวชพราหมณ์นั่นเอง

    ขันธ์ 9 หมายถึงการรับศีลอุโบสถ ถือศีล 8 เคร่งครัด เด็ดดอกไม้ก็ไม่ได้ ดมดอกไม้หรือเครื่องหอมก็ไม่ได้ กินแต่อาหารเจ หรือมังสวิรัติ

    ขันธ์ 10 หมายถึงศีลของสามเณรหรือสามเณรี ก็เท่ากับการถือบวชโดยถือสิกขาบท 10 ประการ

    ขันธ์ 16 หมายถึงศีลของนักบวช 227 ที่มุ่งการบำเพ็ญสมาธิภาวนา กินอาหารมือเดียว งดเว้นของสดของคาว กินแต่ผลไม้ เผือกมัน ไม่เที่ยวเดินพลุกพล่าน อยู่ด้วยการสำรวมปฏิบัติ นั่งสมาธิเป็นที่เป็นทาง แทบจะทำตัวเหมือนนักบวช เพียงแต่เป็นการบวชใจไม่ได้บวชกายเท่านั้น
    ดังนั้นหากถือปฏิบัติตามที่กล่าวมาแล้วไม่ได้ ก็จงอย่าได้รับเลย หากแม้นมีใครแนะนำให้รับก็จงพิจารณาให้ถ้วนถี่เสียก่อน เพราะการรับขันธ์นั้นไม่ใช่เพียงนำมาบูชาเท่านั้น จะต้องปฏิบัติเป็นประจำด้วยก็คือ การสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ แผ่เมตตาถึงองค์เทพที่รับมาด้วยจึงจะถูกต้อง ไม่เช่นนั้นแล้วอาจสร้างปัญหาให้เดือดร้อนได้ เพราะถือว่าผิดสัจจะที่รับมา

    ลักษณะของชั้นเทพ

    ลักษณะของจิตวิญญาณในระดับต่าง ๆ ที่ลงมาประทับทรงหรือเข้าทรงมนุษย์นั้น หากเรารู้จักสังเกตุให้ดี ก็พอจะแยกได้ว่า เป็นเทพหรือเป็นผี โดยอาศัยหลักพิจารณาโดยสังเขปดังนี้

    1. ประทับทรงจากส่วนล่าง จิตวิญญาณใดที่ประทับทรงจากปลายเท้าขึ้นมา มักจะเป็นพวก สัมภเวสี หรือ วิญญาณมนุษย์ที่ตายไปแล้ว

    2. ประทับทรงจากด้านหลัง จิตวิญญาณใดประทับทรงจากด้านหลัง มักจะเป็นวิญญาณทั่วไปที่มีฤทธิ์อำนาจ ซึ่งมักจะเรียกขานกันว่า เจ้าพ่อ เจ้าแม่ เจ้าปู่ ฯลฯ

    3. ประทับทรงจากด้านหน้า จิตวิญญาณใดที่ประทับทรงจากด้านหน้า มักจะเป็นวิญญาณของมนุษย์ที่ไปเกิดเป็น เทวดาชั้นจาตุมฯ ที่อยู่ใกล้ชิดมนุษย์

    4. ประทับทรงจากทางบ่า จิตวิญญาณใดที่ประทับทรงจากทางบ่า มักจะเป็นเทพหรือดาบสที่มีฤทธิ์ ในระดับกลาง ๆ

    5. ประทับทรงจากกลางกระหม่อม จิตวิญญาณใดที่ประทับทรงจากส่วนศรีษะหรือกระหม่อม มักจะเป็นเทพในระดับสูง

    คำแนะนำ

    ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ จะมีองค์หรือไม่ก็ตาม ถ้าท่านหมั่นสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ แผ่เมตตาถึงครูบาอาจารย์ องค์เทพเทวาที่คุ้มครองรักษาตนเอง ก็น่าจะเพียงพอ เพราะการที่เทพมาอยู่กับเราก็ด้วยเหตุที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น คือปรารถนาจะได้ร่วมสร้างบารมี และช่วยเหลือผู้ที่เคยเกี่ยวข้องกันมาก่อน พาร่างสร้างบารมีทำบุญไหว้พระ สร้างแต่กรรมดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น

    ถ้าเราทำได้ดังนี้ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องไปรับขันธ์ เทพเป็นผู้ที่มีจิตเมตตา ประกอบด้วย หิริโอตตัปปะ คือความละอายและเกรงกลัวต่อบาป ย่อมไม่สร้างปัญหาใด ๆ ให้กับร่างที่จะมาอยู่ด้วย เพราะท่านกลัวบาป การที่จะทำให้เจ็บป่วยหนักหนาแสนสาหัส หรือลงโทษอะไรหนักหนาคงไม่มี นอกจากช่วยเหลือเท่านั้น แต่ที่มันเจ็บป่วยหรือมีปัญหาในหน้าที่การงาน การเงิน จนล้มละลาย มันเป็นเรื่องของวิบากกรรมที่ใครจะเข้าไปแก้ไขได้ นอกจากช่วยประคับประคองหรือดลจิตดลใจให้ไปหาผู้ที่สามารถแก้ไขวิบากรรมส่วนนี้ได้


    ข้อสังเกต

    มนุษย์ผู้ที่มีองค์เทพคุ้มครองอยู่นั้นสังเกตได้ด้วยตนเองไม่ยาก

    1. มึนศรีษะข้างเดียวเป็นประจำ บางทีทางการแพทย์ว่าเป็น “ ไมเกรน ”

    2. หนักต้นคอ บางครั้งหนักบ่าสองข้างเหมือนมีใครมาขี่คอ บางทีขับรถอยู่ดี ๆ ก็รู้สึกหนักบ่า

    3. แน่นหน้าอกเป็นบางครั้ง เหมือนคนหายใจไม่อิ่ม บางคนเป็นบ่อย จนหมอว่าเป็นโรคหัวใจ

    4. ฝันแม่นยำ มีลางสังหรณ์แม่นยำ บางทีเรียกสัมผัสที่หก หรือ “ ซิกเซ้นท์ ”

    5. ชอบฝันหรือตีเป็นตัวเลข เสี่ยงโชคได้ใกล้เคียง บางที ผิดแต้มเดียว กลับบนกลับล่าง กลับหน้ากลับหลัง ซื้อทีไรก็เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาเป็นประจำ แต่ถ้าไม่ซื้อเที่ยวบอกใคร เขาก็จะถูก

    6. บางครั้งหูจะได้ยินเสียงเรียกชื่อเบา ๆ เหมือนเสียงกระซิบก็มี เสียงดังก้องในหู ก็มี

    7. ไปตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หรือ มีอะไรที่ลี้ลับ จะรับรู้โดยการสัมผัส ขนลุกชันเย็นซ่าไปทั้งตัว

    8. บางครั้งสวดมนต์เป็นภาษาบาลีอยู่ดี ๆ ก็เปลี่ยนเป็นภาษาอื่นรัวเร็วขึ้นมา

    9. หากนั่งสมาธิจะได้หูทิพย์ ตาทิพย์ เร็วกว่าคนทั่วไป

    ดังนั้นอาการบางอย่างหาหมอก็แล้ว กินยาก็แล้ว มันไม่หาย ก็ให้ สวดมนต์นั่งสมาธิตามที่ว่าแล้วแผ่เมตตาบ่อย ๆ ทุกอย่างมันจะหายไปเอง เสี่ยงโชคลาภก็จะได้ เพราะบารมีที่ทำนี่แหละ แต่บางอย่างก็อาจจะเกิดจากสัมภเวสีได้เช่นกัน
    1. ปวดศรีษะเป็นประจำ บางครั้งปวดมากจนทนไม่ไหว หมอว่าเป็นความดันบ้างก็แล้วแต่ ก็ควรตรวจเช็คแก้ไข เพราะอาจถูกสัมภเวสีเกาะอยู่ในศรีษะได้

    2. ปวดไหล่เป็นประจำ หมอว่าเป็นเส้นเอ็นอักเสบ กินยาทายาก็แล้ว มันไม่หาย ตึงไปหมด ถือว่าผิดปกติ

    3. มือเท้าชาเป็นซีก จากไหล่ หรือตะโพก หัวเข่าก็ตาม

    4. แน่นหน้าอกมากผิดปกติ

    5. ป วดบริเวณกระเบนเหน็บ บางที่การแพทย์ระบุว่า หมอนรองกระดูกทับเส้น เว้นแต่กรณีการเกิดอุบัติเหตุ ลื่นหกล้มจนกระแทกพื้นอย่างแรง นั่นก็จะต้องพิจารณารายละเอียดเป็นกรณีไป

    อาการเหล่านี้อาจไม่เกี่ยวกับองค์เทพ แต่เป็นการแทรกซ้อนจากวิญญาณเร่ร่อนหรือสัมภเวสีที่ไม่มีที่อยู่นั่นเอง หากรักษาแล้วแก้ไขแล้วไม่ดีขึ้น ก็ลองติดต่อขอรับการสงเคราะห์หรือปรึกษากับ หลวงพ่อวัชระ วัดถ้ำแฝด กาญจนบุรี เพราะท่านอาจจะพอหาทางแก้ไขให้ได้

    ดังนั้นการที่ได้กล่าวพาดพิงถึง การรับขันธ์หรือองค์เทพ ก็เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้ใช้วิจารณญาณในการแก้ไขตนเองให้ถูกต้อง ไม่ใช่ใช้เงินแก้ไข เพราะวิบากกรรมเป็นของมนุษย์ที่กระทำกันมา ครูบาอาจารย์องค์เทพก็ตาม ก็ไม่อาจฝืนกฏแห่งกรรมได้ แต่อาจชี้ทางแก้ไขได้ เพราะการเจ็บป่วยหรือปัญหาต่าง ๆ ที่รุมเร้ามนุษย์นั้น มีกรรมเป็นต้นเหตุที่สำคัญ การแก้ไขเรามาแก้กันที่ปลายเหตุมันก็ไม่จบ ต้องรู้จักต้นเหตุ เพราะเหตุเกิดที่ไหนก็ดับที่นั่น
    ข้อมูลละเอียดดูที่
    สายสัญญาบารมี พระศรีอาริยะเมตไตรย &bull; View topic - การรับขันธ์อันตรายถึงชีวิต..!!!
     
  8. สิงหนวัติ

    สิงหนวัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    788
    ค่าพลัง:
    +2,107
    1.การระลึกถึงเทพเป็นเทวตานุสติ เป็นสิ่งที่ดี
    2.การบวงสรวงบูชาเทพ เป็นพิธีกรรมแบบพราหมณ์ เพราะพระพุทธเจ้าไม่ทรงสอน แสดงว่าไม่ใช่แบบพุทธ แต่ในที่นี้ไม่ได้บอกว่าทำผิดแต่ประการใด
    3.จงเป็นตัวของตัวเอง มีสติสัมปชัญญะ รู้ดี รู้ชั่ว ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน อย่าไปหวังพึ่งใคร
    4.ร่างทรง รับขันธ์ เป็นความเชื่อ ของลัทธิอะไรไม่ทราบ แต่ไม่ปรากฏมีในพระไตรปิฎก พระพุทธองค์ไม่ทรงตรัสไว้
    5.ขันธ์ 5 ไม่ต้องไปรับ เพราะทุกคนมีอยู่แล้ว ไปรับมาให้หนักอีกทำไม (ขันธ์ 5 ได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ)
    6.ขอสนับสนุนให้ปฏิบัติธรรมตามแนวทางของพระพุทธศาสนา ซึ่งมีให้เลือก 4 แนวทาง และหลายวิธี ทั้งนี้ ศึกษาให้ละเอียด ทดลองทดสอบ และเลือกปฏิบัติตามแนวที่ถนัดหรือชื่นชอบ

    โมทนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2009
  9. booonnum

    booonnum สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2008
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +3
    ร่างเทพ

    การที่เรารับองค์หรือรับขันธ์นั้นเป็นการที่องค์มาช่วยเหลือมนุษย์
    การรับขันธ์ นั้นไม่ผิดแต่อย่างไร แต่อยู่ที่การรับขันธ์นั้น รับถูกต้องหรือไม่
    อย่างผมรับถูกต้องทุกอย่างผมยังไม่เคยเป็นอะไร รับแล้วกลับดีอีกด้วย ผมเกือบโดนรถชนแต่ไม่โดนชนเหมือนมีอะไรสักอย่างมาดึงผมไม่ให้โดนรถชน
    แต่ถ้าคุณไม่รับขันธ์ หรือ ไม่รับองค์ แล้วคุณจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น รับแล้วดีขึ้น กับ ไม่รับแล้วคุณต้องเป็นโน้นเป็นนี้ คุณจะเลือกอย่างไหน การที่เรารับองค์นั้นเป็นการสร้างบารมีให้ตัวเราเอง น่ะครับ ความคิดของผม คุณควรน่าจะรับน่ะครับ แต่ควรจะเลือกที่รับหน่อยน่ะครับ
    (คติของครูผมน่ะครับ : เทพนี้มีจริงผีนี้มีจริงถ้ามีไม่จริงองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าจะบัญญัติบท สักเคกาเมจะรูเป ไว้ทำไมนี้คือบทอะไร คือบทชุมนุมเทพและเทวดาอย่างแท้จริงน่ะครับ ) เทพ หรือ องค์ ไม่ใช่ผีน่ะครับ ถ้าเทพเป็นผี พวกบรรดาร่างทรงองค์เทพ เขาไม่เข้าวัดน่ะครับ เพราะผีไม่เข้าวัด ให้คิดเป็นแนวทางน่ะครับ ... มีอะไรโทรหาผมได้น่ะครับ.082-342-9409 ต้อม ครับ
     
  10. เอก999

    เอก999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +143
    ผมเป็นเกือบทุกข้อเลยครับ ยกเว้นข้อแปด


    ทราบว่าเรื่องนี้มีจริง มีทั้งองค์จริง องค์ปลอม
    แต่ไม่สนใจครับ มีชีวิตปกติธรรมดาดีที่สุด

    จิตเป็นของเรา ใครก็ไม่สามารถมาครอบงำได้
    ร่างกายเลือดเนื้อพ่อแม่เราสร้างมา เอาไปให้คนอื่นครองได้ไง
     
  11. พระยา

    พระยา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +294
    การครอบครูกับการรับขัน ต่างกันครับ
    การครอบครูคือการ น้อมนำเอาครูที่ท่าน
    ครอบมาให้นั้นเป็นที่พึ่ง ยึดเหนี่ยว และบูชา
    เหตุที่ท่านครอบครูให้ก่อน คิดว่าองค์จริงประจำ
    ตัวคงยังไม่มา เลยต้องทำพิธีครอบครูไว้ก่อน
    เพื่อ รอองค์จริงครับ ป้องกันไม่ให้องค์อื่น
    หรือสิ่งอื่นที่ไม่ดีเข้ามาครับ บางคนเขาก็เอา
    พระพุทธรูป ยกเทินที่ศรีษะครับ เพื่อจะได้ไม่ต้อง
    เเป็นลูกศิษย์สำนักไหนครับ แล้วที่ท่านบอกว่าองค์มาประทับนั้น
    เข้าใจใหม่นะครับ องค์เทพไม่ลงมาประทับครับ
    เพราะ ร่างกายมนูษย์ไม่สามารถจะรองรับได้ครับ
     
  12. มุกไวด้า

    มุกไวด้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +264
    ปอเคยฝันเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางล้านนามาให้รับกระทงที่ท่านทัี้้งคู่ถือมาเมื่อปลายปีก่อน และปีนี้ท่านมาสอนให้เรามีศรัทธา ทำให้ปอเชื่อว่าเรื่องเหล่านี้มีจริง และทุกครั้งท่านจะผ่านญาณบารมีทางกระหม่อม แต่ตอนนี้อยากถามเรื่องการครอบเศียรครูค่ะ ว่ามีความจำเป็นไหม และถ้าครอบกับพระจะพอแนะนำที่ใหนได้บ้างค่ะ

     
  13. วรั-108window

    วรั-108window เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    346
    ค่าพลัง:
    +914
    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ boonnum45 อ่านข้อความ
    การที่เรารับองค์หรือรับขันธ์นั้นเป็นการที่องค์มาช่วยเหลือมนุษย์
    การรับขันธ์ นั้นไม่ผิดแต่อย่างไร แต่อยู่ที่การรับขันธ์นั้น รับถูกต้องหรือไม่
    อย่างผมรับถูกต้องทุกอย่างผมยังไม่เคยเป็นอะไร รับแล้วกลับดีอีกด้วย ผมเกือบโดนรถชนแต่ไม่โดนชนเหมือนมีอะไรสักอย่างมาดึงผมไม่ให้โดนรถชน
    แต่ถ้าคุณไม่รับขันธ์ หรือ ไม่รับองค์ แล้วคุณจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น รับแล้วดีขึ้น กับ ไม่รับแล้วคุณต้องเป็นโน้นเป็นนี้ คุณจะเลือกอย่างไหน การที่เรารับองค์นั้นเป็นการสร้างบารมีให้ตัวเราเอง น่ะครับ ความคิดของผม คุณควรน่าจะรับน่ะครับ แต่ควรจะเลือกที่รับหน่อยน่ะครับ
    (คติของครูผมน่ะครับ : เทพนี้มีจริงผีนี้มีจริงถ้ามีไม่จริงองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าจะบัญญัติบท สักเคกาเมจะรูเป ไว้ทำไมนี้คือบทอะไร คือบทชุมนุมเทพและเทวดาอย่างแท้จริงน่ะครับ ) เทพ หรือ องค์ ไม่ใช่ผีน่ะครับ ถ้าเทพเป็นผี พวกบรรดาร่างทรงองค์เทพ เขาไม่เข้าวัดน่ะครับ เพราะผีไม่เข้าวัด ให้คิดเป็นแนวทางน่ะครับ ... มีอะไรโทรหาผมได้น่ะครับ.082-342-9409 ต้อม ครับ


    คุณอธิบายได้ดีมากๆเลยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2012
  14. jesdath

    jesdath เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    3,209
    ค่าพลัง:
    +1,279
    ตำหนักที่ดีและไม่ดีก็จะมีผลต่ออนาคตเรา-- จะไม่รับก็ได้ ก็จุดธูปบอกอง์ในแบบส่วนตัวญาติไปรับมา ตั้ง6หมื่น ท่านบอกจะคืนให้ ก็ถูกหวยได้หลายหมื่นอยู่
    --อยากอยู้เงีบยบๆไม่ต้องเป็นร่างก็ได้ มีองค์สิดี ถ้าเราอยากรับใช้เทพ เทพก็จะจะช่วย้เรา เมื่อก่อนมีลุงคนนึงกหาบน้ำขาย เหนื่อยสุดๆ เป็นร่างแล้วเป็นมหาเศรษฐรี อยู่ที่สุพรรณ
    ปล.ผมเองมีองค์ปู้พิคฆเณศ ภรรยามีองค์พระกฤษณะ ไม่ขัดแย้งเพราะเทพทั้งสองเป็นสหายสนิทกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2012
  15. mod1

    mod1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +668
    ก็สุดแต่กรรมใคร กรรมมัน จะไปห้ามคงมิได้
     
  16. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ได้อ่านข้อความแล้วก็เห็นใจครับ ผมในฐานะที่เป็นสื่อแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอกล่าวแนะนำดังนี้ครับ

    1ควรคิดว่า เราต้องเดินตามรอยพระพุทธเจ้าเป็นหลัก ยึดเอาหลักธรรมคำสอน สร้างบารมีด้วย ยึดมั่นใน ทาน ศีล เจริญสมาธิ กรรมฐาน วิปัสสนา ปัญญา บูชาซึ่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นนิจ เป็นสรณะเอก

    2ควรดำริว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหลาย หากแม้นเคยเป็นผู้มีพระะคุณ บิดามารดา ครูอาจารย์ เรามาก่อน มีความดีแก่เรา เราก็ควรกตัญญุ เราควรสักการะบชา เป็นรอง

    3 หากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปราถนาแห่งการสร้างบารมีโดยให้เราเป็นสื่อ ก็ขอให้ท่านเป็นผู้นำทาง และเป็นผู้สอนเราในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม เพื่อสร้างบารมีร่วมกัน

    กรณีข้อ3 สำหรับผม ท่านจะมานำทำเองทุกอย่าง ทั้งพิธีกรรม พุทธ พราหม การบูชาต่างๆท่านจะมาบอกเองว่า ต้องทำอย่างไร การครอบ การรับขันธ์ท่านจะบอกเราเองหมด เราจะรู้ด้วยตัวเราเองหมดทุกอย่างไม่จำเป็นต้องไปหาคนโน้นคนนี้
    สุดท้ายเมื่อเรารับบูชาท่านร่วมสร้างบารมีไปด้วยกัน เราเองก็ต้องตั้งใจอยู่ในศีลธรรม
    ไม่ทำบาบทำผิดร้ายแรง เพราะท่านอาจจะลงโทษเราได้

    สำหรับนักปฏิบัติ ผู้สร้างบารมี ทั้งหลาย การเป็นสื่อกลาง การเป็นร่างทรง ทางสายนี้เป็นทางลัดแห่งการฝึกอิทธิฤทธิ์ อภิญญา เพราะอาศัยบารมีครูอาจารย์ช่วย มีทั้งดีและไม่ดี จิตใจต้องหนักแน่น และไม่ประมาท ต้องตั้งอยู่ในพระรัตนตรัยเป็นหลัก และต้องระวังเรื่อง กาม เรื่องเงิน เรื่องเกียรติ ให้มาก จะเป็นพยามารทำลายทุกอย่างครับ

    ความจริงแล้วยังมีเรื่องอีกมากของเส้นทางสายนี้ที่ไม่สามารถนำมากล่าวได้ แต่เราก็ควรพิจารณาให้แยบคายก่อนที่จะทำอะไรลงไปครับ เพื่อความไม่ประมาทครับสาธุ
     
  17. meephoo

    meephoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +2,133
    ข้อแนะ
    คนเราเกิดมามีกรรมเป็นตัวกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ กรรมในอดีตชาติจะติดมาในชาติปัจจุบัน
    การครอบครู และการรับขันธ์เป็นร่างทรง เกิดจากกรรมในอดีต
    อดีตท่านเคยถวายตัวเป็นลูกศิษย์และสาบานหรือให้คำมั่นว่าจะรักษาและเป็นลูกศิษย์ทุกชาติไป
    เกิดมาชาตินี้ เจ้ากรรมเล่านั้นที่ท่านได้สาบานไว้จึงติดตามมา เพราะเราไม่สามารถจำอดีตได้ จึงมีอาการต่างๆ ออกให้รับรู้พื้นฐานก่อนเมื่อเขาตามเรามาเจอในชาตินี้ส่วนมากแล้วเป็นไปในทางที่ดี
    ท่านเป็นลูกหลานองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วยังจะเวียนว่ายตายเกิดอยู่ทำไมกัน จงรีบฝึกจิตตนตามแนวทางของพระพุทธองค์เพื่อหนีบ่วงกรรมนั้นเสียเถิด การหนีได้ด้วย เข้านิพานนั่นเอง
    ไม่แนะนำให้รับขันธ์ หรือครอบครูใด ๆทั้งสิน
    ทุกคนเกิดมาต้องเจ็บต้องตายอยู่แล้ว
    เกิดมา ตั้งอยู่ ดับไป
    โมทนาสาธุ
    ขอให้เจริญในธรรมและมีเมตตา
    ข้าพเจ้าเกิดมาต้องตาย ชีวิตไม่เที่ยง ความตายเป็นของเที่ยง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2012
  18. ttt2010

    ttt2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +905
    การรับขันธ์ คือสิ่งเตือนใจแห่งการตัดสินใจและความตั้งใจที่แน่วแน่ของเราที่จะประพฤติปฏิบัติในธรรม รักษาศีลในรอบหนึ่งปี(ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าไปรับ หรือถ้าทำแล้วไม่สำเร็จก็ต้องบอกกับครูบาอาจารย์ของเรา)ปฏิบัติได้ก็รับต่อไปไม่ผิดอะไร เป็นการดีเสียอีกที่เราประพฤติปฏิบัติตัวอยู่ในธรรมควบคู่กับการทำงาน ซึ่งการรับขันธ์ก็มักจะจัดขึ้นพร้อมๆกับการครอบครู ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดีและเป็นศิริมงคลกับตัวเรา ซึ่งผู้ที่เป็นครูบาอาจารย์ได้จัดทำและมอบให้กับเรา ท่านก็เป็นสงฆ์เป็นตัวแทนแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ซึ่งนำคำสอนแห่งธรรมที่พระพุทธเจ้าได้บัญญัติขึ้นมาสั่งสอนให้เราประพฤติปฏิบัติ พิธีกรรมนี้เป็นทั้งพุทธและพราหมณ์ ซึ่งพุทธและพราหมณ์ก็มีมาตั้งแต่พุทธกาลแล้ว

    ตามความคิดของผมครับ แต่ร่างทรงไม่มีความเห็นครับ
     
  19. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    สรรพสิ่งในโลกนี้ ล้วนมีทั้งดีและไม่ดี สำคัญตรงจิตใจเรานี่แหละ ขอให้เรามีจิตใจที่ดี
    ทำแต่ในสิ่งที่ดี ย่อมได้รับผลดี ขอให้ยึดหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า แล้วเราจะพบแสงสว่าง อันเป็นแสงสว่างที่ส่องไปยังแดนนิพพาน เป็นบรมสุขครับ

    สิ่งอื่นที่เราใส่ใจก็ขอให้สมควรแก่เหตุแก่ผลและความจำเป็น เพราะมนุษย์ที่ดีย่อมต้องมีความรับผิดชอบและรู้หน้าที่ของตน และสิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าอะไรคือทางสายเอกที่เราต้องเดิน อะไรคือเรื่องรองลงมาที่เราต้องทำ เพื่อความสมบูรณ์แห่งชีวิต บางครั้งเรื่องรองก็หนุนทางสายเอก สุดท้าย ความเป็นมนุษย์ย่อมต้องมีปัญญาที่กว้างไกลและลึกเพราะทุกอย่างในโลกนี้ย่อมเกื้อหนุนกัน มีสายกรรมที่ผูกพันธ์กัน ขอท่านทั้งหลายพึงไม่ประมาทในการปฏิบัติธรรมและการสร้างกุศลสร้างบารมีเพื่อความหลุดพ้นครับ สาธุ
     
  20. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    นี่คือการสร้างพันธะ ต่อใคร?

    และ ใคร? ที่สร้างพันธะผูกพัน ไปตลอดชั่วกาลนาน

    กาลนาน อย่างไร เกิดกี่รอบ ก่ยังมีอยู่

    เพราะ เวลาของผู้ผูกพันธะ ? ใช่เวลานิดเดียว

    แต่เวลาของรอบการเกิด หลายชาติมาก

    แต่เมื่อถึงเวลาอยากจะกลับบ้าน

    จะทำไม่ได้ เพราะ ครูลงขันธ์ อยู่ไหนไม่รู้

    ต้องรับภาระผูกพัน ไปตลอดชั่วกาลปาวสาน

    ชอบ ก่ ทำ

    เพราะการจะกลับบ้าน จะต้องไม่มีเครื่องผูก

    จะต้องไม่มีเครื่องเหนี่ยว

    มีเครื่องเหนี่ยวแล้ว จะไป ก็ไปไม่ได้

    เพราะหาคนตัดเครื่องเหนี่ยวไม่ได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...