ความสุขที่ถูกมองข้าม

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย Jeerachai_BK, 3 พฤศจิกายน 2009.

  1. Jeerachai_BK

    Jeerachai_BK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +821
    โดยพระไพศาล วิสาโล<o></o>
    <o></o>
    คุณเป็นคนหนึ่งหรือไม่ ที่เชื่อว่ายิ่งมีเงินทองมากเท่าไรก็ยิ่งมีความสุขมากเท่านั้น ความเชื่อดังกล่าวดูเผินๆ ก็น่าจะถูกต้องโดยไม่ต้องเสียเวลาพิสูจน์ แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ประเทศไทยน่าจะมีคนป่วยด้วยโรคจิตน้อยลง มิใช่เพิ่มมากขึ้น ทั้งๆ ที่รายได้ของคนไทยสูงขึ้นทุกปี<o></o>
    <o></o>
    ในทำนองเดียวกัน ผู้จัดการก็น่าจะมีความสุขมากกว่าพนักงานระดับล่างๆ เนื่องจากมีเงินเดือนมากกว่า แต่ความจริงก็ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป ไม่นานมานี้ มหาเศรษฐีคนหนึ่งของไทยได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ว่าเขารู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตเขาพูดถึงตัวเองว่า ชีวิต (ของผม) เริ่มหมดค่าทางธุรกิจลึกลงไปกว่านั้นเขายังรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความหมายเขาเคยพูดว่าผมจะมีความหมายอะไรก็เป็นแค่... มหาเศรษฐีหมื่นล้านคนหนึ่ง<o></o>
    <o></o>
    เมื่อเงินหมื่นล้านไม่ทำให้มีความสุข เขาจึงอยู่เฉยไม่ได้ในที่สุดวิ่งเต้นจนได้เป็นรัฐมนตรี ขณะที่เศรษฐีหมื่นล้านคนอื่นๆ ยังคงมุ่งหน้าหาเงินต่อไปด้วยความหวังว่าถ้าเป็นเศรษฐีแสนล้านจะมีความสุขมากกว่านี้ คำถามก็คือเขาจะมีความสุขเพิ่มขึ้นจริงหรือ?<o></o>
    <o></o>
    คำถามข้างต้นคงมีประโยชน์ไม่มากนักสำหรับคนทั่วไปเพราะชาตินี้คงไม่มีวาสนาแม้แต่จะเป็นเศรษฐีร้อยล้านด้วยซ้ำ แต่อย่างน้อยก็คงตอบคำถามที่อยู่ในใจของคนจำนวนไม่น้อยได้บ้างว่าทำไมอัครมหาเศรษฐีทั้งหลาย รวมทั้งบิล เกตส์ จึงไม่หยุดหาเงินเสียทีทั้งๆ ที่มีสมบัติมหาศาล ขนาดนั่งกินนอนกินไป ชาติ ก็ยังไม่หมด<o></o>
    <o></o>
    แต่ถ้าเราอยากจะค้นพบคำตอบให้มากกว่านี้ ก็น่าจะย้อนถามตัวเองด้วยว่าทำไมถึงไม่หยุดซื้อแผ่นซีดีเสียที ทั้งๆ ที่มีอยู่แล้วนับหมื่นแผ่น ทำไมถึงไม่หยุดซื้อเสื้อผ้าเสียที ทั้งๆ ที่มีอยู่แล้วเกือบพันตัว ทำไมถึงไม่หยุดซื้อรองเท้าเสียที ทั้งๆ ที่มีอยู่แล้วนับร้อยคู่ แผ่นซีดีที่มีอยู่มากมายนั้นบางคนฟังทั้งชาติก็ยังไม่หมด ในทำนองเดียวกัน เสื้อผ้าหรือรองเท้าที่มีอยู่มากมายนั้นบางคนก็เอามาใส่ไม่ครบทุกตัวหรือทุกคู่ด้วยซ้ำ มีหลายตัวหลายคู่ที่ซื้อโดยไม่ได้ใช้เลย แต่ทำไมเราถึงยังอยากจะได้อีกไม่หยุดหย่อน<o></o>
    <o></o>
    ใช่หรือไม่ว่าสิ่งที่เรามีอยู่แล้วในมือนั้นไม่ทำให้เรามีความสุขได้มากกว่าสิ่งที่ได้มาใหม่<o></o>
    <o></o>
    มีเสื้อผ้าอยู่แล้วนับร้อยก็ไม่ทำให้จิตใจเบ่งบานได้เท่ากับเสื้อ ตัว ที่ได้มาใหม่มีซีดีอยู่แล้วนับพัน ก็ไม่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นได้เท่ากับซีดี แผ่น ที่ได้มาใหม่ ในทำนองเดียวกัน มีเงินนับร้อยล้านในธนาคาร ก็ไม่ทำให้รู้สึกปลาบปลื้มใจเท่ากับเมื่อได้มาใหม่อีกล้าน<o></o>
    <o></o>
    พูดอีกอย่างก็คือคนเรานั้นมักมีความสุขจากการได้มากกว่าความสุขจากการมี มีเท่าไรก็ยังอยากจะได้มาใหม่เพราะเรามักคิดว่าของใหม่จะให้ความสุขแก่เราได้มากกว่าสิ่งที่มีอยู่เดิม บ่อยครั้งของที่ได้มาใหม่นั้นก็เหมือนกับของเดิมไม่ผิดเพี้ยน แต่เพียงเพราะว่ามันเป็นของใหม่ก็ทำให้เราดีใจแล้วที่ได้มา<o></o>
    <o></o>
    จะว่าไปนี่อาจเป็นสัญชาตญาณที่มีอยู่กับสัตว์หลายชนิด ไม่เฉพาะแต่มนุษย์เท่านั้น ถ้าโยนน่องไก่ให้หมา หมาก็จะวิ่งไปคาบ แต่ถ้าโยนน่องไก่ชิ้นใหม่ไปให้ มันจะรีบคายของเก่าและคาบชิ้นใหม่แทน ทั้งๆ ที่ทั้งสองชิ้นก็มีขนาดเท่ากัน ไม่ว่าหมาตัวไหนก็ตาม ของเก่าที่มีอยู่ในปากไม่น่าสนใจเท่ากับของใหม่ที่ได้มา<o></o>
    <o></o><o></o>
    ถ้าหากว่าของใหม่ให้ความสุขได้มากกว่าของเก่าจริง เรื่องก็น่าจะจบลงด้วยดี แต่ปัญหาก็คือของใหม่นั้นไม่นานก็กลายเป็นของเก่า และความสุขที่ได้มานั้นในที่สุดก็จางหายไป ผลก็คือกลับมารู้สึก เฉยๆเหมือนเดิม และดังนั้นจึงต้องไล่ล่าหาของใหม่มาอีกเพื่อหวังจะให้มีความสุขมากกว่าเดิม แต่แล้วก็วกกลับมาสู่จุดเดิม เป็นเช่นนี้ไม่รู้จบ น่าคิดว่าชีวิตเช่นนี้จะมีความสุขจริงหรือ? เพราะไล่ล่าแต่ละครั้งก็ต้องเหนื่อย ไหนจะต้องขวนขวายหาเงินหาทอง ไหนจะต้องแข่งกับผู้อื่นเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ ครั้นได้มาแล้วก็ต้องรักษาเอาไว้ให้ได้ไม่ให้ใครมาแย่งไป แถมยังต้องเปลืองสมองหาเรื่องใช้มันเพื่อให้รู้สึกคุ้มค่า ยิ่งมีมากชิ้นก็ยิ่งต้องเสียเวลาในการเลือกว่าจะใช้อันไหนก่อน ทำนองเดียวกับคนที่มีเงินมากๆ ก็ต้องยุ่งยากกับการตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวลอนดอน นิวยอร์ก เวกัส โตเกียว มาเก๊า หรือซิดนีย์ดี<o></o>
    <o></o>
    ถ้าเราเพียงแต่รู้จักแสวงหาความสุขจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว ชีวิตจะยุ่งยากน้อยลงและโปร่งเบามากขึ้น
    อันที่จริงความพอใจในสิ่งที่เรามีนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ที่เป็นปัญหาก็เพราะเราชอบมองออกไปนอกตัวและเอาสิ่งใหม่มาเทียบกับของที่เรามีอยู่ หาไม่ก็เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เมื่อเห็นเขามีของใหม่ก็อยากมีบ้าง คงไม่มีอะไรที่จะทำให้เราทุกข์ได้บ่อยครั้งเท่ากับการชอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น การเปรียบเทียบจึงเป็นหนทางลัดไปสู่ความทุกข์ที่ใครๆ ก็นิยมใช้กัน นิสัยชอบเปรียบเทียบกับคนอื่นทำให้เราไม่เคยมีความพอใจในสิ่งที่ตนมีเสียที<o></o>
    <o></o>
    แม้มีแฟนที่ดีก็ยังไม่พอใจเพราะรู้สึกว่าแฟนของคนอื่นสวยกว่า หล่อกว่า หรือเอาใจเก่งกว่า แม้มีลูกที่น่ารักก็ยังไม่พอใจเพราะรู้สึกว่าสู้ลูกของคนอื่นไม่ได้ แม้จะมีหน้าตาดีก็ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่สวยเพราะไปเปรียบเทียบตัวเองกับดาราหรือพรีเซนเตอร์ในหนังหรือโฆษณา<o></o>
    <o></o>
    การมองแบบนี้ทำให้ขาดทุนสองสถานคือนอกจากจะไม่มีความสุขกับสิ่งที่มีอยู่แล้วยังเป็นทุกข์เพราะไม่ได้สิ่งที่อยากพูดอีกอย่างคือไม่มีความสุขกับปัจจุบันแถมยังเป็นทุกข์เพราะอนาคตที่พึงปรารถนายังมาไม่ถึง<o></o>
    <o></o>
    ไม่มีอะไรที่เป็นอุทาหรณ์สอนใจได้ดีเท่ากับนิทานอีสปเรื่องหมาคาบเนื้อ คงจำได้ว่ามีหมาตัวหนึ่งได้เนื้อชิ้นใหญ่มา ขณะที่กำลังเดินข้ามสะพานมันมองลงมาที่ลำธารเห็นเงาของหมาตัวหนึ่ง (ซึ่งก็คือตัวมันเอง) กำลังคาบเนื้อชิ้นใหญ่เนื้อชิ้นนั้นดูใหญ่กว่าชิ้นนั้นกำลังคาบเสียอีก ด้วยความโลภ (และหลง) มันจึงคายเนื้อที่คาบอยู่เพื่อจะไปคาบชิ้นเนื้อที่เห็นในน้ำ ผลก็คือเมื่อเนื้อตกน้ำชิ้นเนื้อในน้ำก็หายไป มันจึงสูญทั้งเนื้อที่คาบอยู่และเนื้อที่เห็นในน้ำ<o></o>
    <o></o>
    บ่อเกิดแห่งความสุขมีอยู่กับเราทุกคนในขณะนี้อยู่แล้ว เพียงแต่เรามองข้ามไปหรือไม่รู้จักใช้เท่านั้น เมื่อใดที่เรามีความทุกข์ แทนที่จะมองหาสิ่งนอกตัว ลองพิจารณาสิ่งที่เรามีอยู่และเป็นอยู่ ไม่ว่ามิตรภาพ ครอบครัว สุขภาพ ทรัพย์สิน รวมทั้งจิตใจของเรา ล้วนสามารถบันดาลความสุขให้แก่เราได้ทั้งนั้น ขอเพียงแต่เรารู้จักชื่นชม รู้จักมอง และจัดการอย่างถูกต้องเท่านั้น แทนที่จะแสวงหาแต่ความสุขจากการได้ ลองหันมาแสวงหาความสุขจากการมีหรือจากสิ่งที่มีอยู่<o></o>
    <o></o>
    ขั้นต่อไปคือการแสวงหาความสุขจากการให้
    กล่าวคือยิ่งให้ความสุขก็ยิ่งได้รับความสุข<o>

    </o>
    สุขเพราะเห็นน้ำตาของผู้อื่นเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม และสุขเพราะภาคภูมิใจที่ได้ทำความดีและทำให้ชีวิตมีความหมาย<o></o>
    <o></o>
    จากจุดนั้นแหละก็ไม่ยากที่เราจะค้นพบความสุขจากการไม่มี
     
  2. Darawun

    Darawun Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +52
    อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
     

แชร์หน้านี้

Loading...