เรื่องเดียวกัน....

เรามีปัญหาที่บางครั้งเหมือนผงเข้าตา ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตนเอง ทั้งๆ ที่ครูบาอาจารย์ท่านก็มาตั้งปริศนาให้ค้นหาในบางอย่าง แต่กิเลสบางๆ ที่เคลือบเปลือกนอกอยู่สำหรับความเป็นมนุษย์ที่ยังไม่สามารถขจัดกิเลสได้ ก็ยังคงดำเนินไปอยู่อย่างนั้น คำตอบสำหรับปริศนานั้นจึงยังไม่ชัดเจน จนจะเคลียร์ได้ จึงได้รบกวนน้องแบงก์, คุณบอล และ อาจารย์อนงค์วรรณ ทั้งสามท่านพูดเป็นเสียงเดียวกันในหลายเรื่อง เรื่องแรกคือสุขภาพที่บอกถึงกรรมทำให้เกิดอาการที่เป็นอยู่ กรรมที่ไม่มีทางลบให้หมดได้ แต่ทำให้เบาลงได้โดยการแก้ไขให้ถูกจุด เราปวดช่องท้อง และ ปวดศีรษะลงมาถึงบ่า ปวดน่อง ทั้งสามท่านก็ทักได้น่าอัศจรรย์ใจ เรื่องที่สองคือเรื่องเกี่ยวกับการแท้งเด็ก ซึ่งทั้งสามท่านก็ถามเราว่าเคยทำอะไรเกี่ยวกับเด็กหรือเปล่า เราก็ถามว่าคืออะไรหรือที่ว่าเกี่ยวกับเด็ก ทั้งสามท่านถามเหมือนกันว่า เราเคยคิด ช่วย หรือทำเองเกี่ยวกับการทำแท้งหรือเปล่า เราตอบท่านทั้งสามว่า เราในชาตินี้ไม่เคยแม้แต่จะคิดเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เลย ทั้งสามท่านก็ตกใจว่าเห็นวิญญาณเด็กอยู่กับเราและแม่ของเรา แต่เรากลับบอกว่าไม่ได้ทำอะไร แล้วที่เห็นคืออะไร เราก็เลยถามท่านทั้งสามไปว่า ถ้าการแท้งนั้น เกิดจากแม่ของเรา คนที่แท้งไปเป็นพี่ของเรา ที่จะมาเกิดก่อนเราเกือบ 10 ปี มีหลายเหตุผลที่ทำให้แม่ต้องแท้งพี่คนนี้ไป แล้ว.....เราไปเกี่ยวอะไรด้วยหรือ เกี่ยวกัน และเป็นเรื่องเดียวกันคือ “ทายาทกรรม” เพราะเรามาทางปฏิบัติ บุญที่เราพอมี และ สายเลือดร่วมท้องเดียวกัน ปัจจุบันเราดูแลแม่และครอบครัว เหตุจากตรงนั้น ทำให้ผลที่เกิดขึ้นต้องเกิดร่วมกันตลอดเวลา ชีวิตติดขัด อุปสรรคมากมาย จนบางครั้งท้อ และเบื่อหน่ายความเป็นมนุษย์ จนวันนี้ได้พูดคุยกับทั้งสามท่าน ความกระจ่างตรงนี้ เหมือนแสงสว่างส่องทางที่เคยมืดมิด แบบหาคำตอบไม่เจอว่า เราก็เป็น “คนดี” ในสังคม แต่ทำไมชีวิตถึงเหมือนละครทีวีมากขนาดนี้ ท่านทั้งสามก็เปิดกรรมช่วยแก้ไขให้ดีขึ้น สำหรับแม่นั้น แม่ทำบุญให้พี่มาตลอด สร้างพระให้ ทุกครั้งที่สวดมนต์ นั่งสมาธิ แม่ก็ส่งบุญกุศลให้ตลอด ไม่น่าเชื่อว่า เรื่องของแม่จะมาเป็นเรื่องของเราเหมือนกัน.......
วันนี้ทั้งสามท่านบอกถึงหนทางแก้ไขให้ เราพร้อมปฏิบัติตาม และบอกกล่าวสิ่งเหล่านี้ให้แม่ฟังเหมือนกัน ด้วยว่าสิ่งที่แม่ทำน่ะดีแล้ว แต่ยังไม่ถูกซะทีเดียว เพราะ.....แม่ไม่เคยตั้งชื่อให้กับลูกที่แท้งไป แม่เพียงแต่บอกว่า ลูกของแม่ที่แท้งไปแม่ได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้นะลูก สำหรับอาจารย์อนงค์วรรณนั้นบอกเราว่า ให้แม่ตั้งชื่อให้พี่ก่อน แล้วบอกกล่าวชื่อแก่เขา เมื่อไรที่ทำบุญกุศล ก็เอ่ยชื่อของเขา ให้เขาได้รับ

เราอยากจะบอกว่า การทำแท้งนั้นเป็นกรรมของผู้กระทำ หรือจะผู้ถูกกระทำก็ตาม เพราะหนึ่งชีวิตที่เขากำลังจะได้เกิดมา แต่เขาไม่ได้เกิด กรรมตรงนั้นส่งผลโดยตรงกับผู้ตั้งท้อง และ อาจจะ....มีผลกระทบถึงบุตรคนต่อมาของเขา....เช่นเราก็ได้ จึงอยากนำเรื่องนี้เล่าสู่กันฟัง เพราะเป็นตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงๆ กับชีวิตของแม่และเรา.... แม่เราทำบุญกุศลมามากมายเป็นเวลาหลายสิบปี แต่ชีวิตก็ไม่เคยจะมีความสุขเลย จะมีปัญหา และติดขัด รวมถึงอุปสรรคตลอดเวลา รวมถึงเราด้วย

หวังว่าเรื่องของเราจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับใครอีกหลายคนที่กำลังคิดจะทำค่ะ

อนุโมทนา สาธุ กับผู้นำสาร คือ คุณรักไร้พ่าย
อนุโมทนา สาธุ กับผู้สื่อสาร คือ น้องแบงก์, คุณบอล และ อาจารย์อนงค์วรรณ

ด้วยอำนาจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ด้วยอำนาจของพระธรรมคำสอน
ด้วยอำนาจของพระสงฆ์
ข้าพเจ้าขอเบิกบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำมา มากบ้าง น้อยบ้าง ขอส่งบุญนี้ให้แก่เทพเทวดาที่ปกปักษ์รักษา คุณรักไร้พ่าย น้องแบงก์ คุณบอล และอาจารย์อนงค์วรรณ ขอให้ท่านมีความสุข ปราศจากความทุกข์ และขอให้ท่านนำความสุข ความเจริญในธรรม บุญและบารมีที่สูงยิ่งขึ้นไป มอบให้แก่ทั้งสี่ท่านด้วยเทอญ สาธุ

 

ขอบคุณครับ ข้อความนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับคนอีกหลายๆคนนะครับ
อนุโมทนาครับ

 

อนุโมทนานะค่ะ ช่วงไม่นานมานี้เราได้รู้จักน้องคนหนึ่งเขาเล่าให้ฟังว่าเขาได้ทำแท้งสองครั้ง หลังจากนั้นชีวิตตกตำมาก แล้วเขาก้ได้ไปบวชชีพราหม์ น้องเขาเล่าว่า พระท่านบอกว่าลูกอยากให้เข้าวัดตลอดชีวิต ถ้าอยากได้อะไรให้ขอ หลังจากบวชไม่นานน้องเขาพบผู้ชายที่มีงานดีเงินเดือนสูงมาก ๆ อยากได้อะไรเขาก้จัดหาให้ทุกอย่าง น้องคนนี้เขาเข้าใจว่าเป้นเพราะวิญญาณของลูกที่เขาทำแท้งช่วย แต่ผุ้ชายที่เขาคบมีลูกมีเมีย แต่มาพบน้องคนนี้ผู้ชายก็ทำเรื่องหย่ากับเมีย เรื่องยังงี้มันก็เหมือนการทำบาปในศีลการผิดประเวณีหรือเปล่าก้ไม่รู้ แต่น้องคนนี้เขามีความมั่นใจมากค่ะว่าลุกจะช่วยทุกอย่างเขาบอกว่าจะขอให้ได้ทุกอย่างที่เขาอยากได้ เมื่อได้เขาก้จะไปบวชอีก เราฟังแล้ว มีความรู้สึกว่าน้องคนนี้มีแต่กิเลศ ความโลภ ไม่รุ้จักเพียงพอ และนำเรื่องการบวชมาใช้ในทางผิดนะ ว่าเขาอยากได้อะไรก้จะไปบวช ในความคิดส่วนตัวการบวชคือการลด ละ กิเลสไม่ใช่หรือค่ะ อันนี้ก้แล้วแต่ใครจะนำไปคิดอย่างไรนะค่ะ เล่าสู่กันฟังค่ะ

 

วิญญาณไม่น่ามีอิทธิฤทธิอะไรขนาดนั้น (เด๋วไอ้พวกใจบาปมาอ่าน มันจะไปทำแท้งตาม เพื่อหวังให้ผีช่วย ครานี้ละวุ่น) เราว่าตอนนี้เค้าคงกินบุญเก่าอยู่น่ะ โดยไม่คิดจะสร้างบุญต่อ เหมือนที่คุนว่านั่นแหล่ะ *** มีความรู้สึกว่าน้องคนนี้มีแต่กิเลศ ความโลภ ไม่รุ้จักเพียงพอ และนำเรื่องการบวชมาใช้ในทางผิดนะ***
เห็นๆอยู่แล้วว่า ทำแท้งมาสองหน ชีวิตตกต่ำมาก พอมาบวชชี (คงบวชเพราะล้างซวย ไม่ได้บวชเพราะมีจิตใจใฝ่ ธรรม ) ชีวิตดีขึ้น ยังไม่สำนึกว่า พระ ท่านให้โอกาสสร้างบุญ กลับฉกฉวยโอกาสนี้ ทำสิ่งไม่ถูกทำนองครองธรรม คนอย่างนี้ปล่อยเค้าไปเถอะค่ะ ให้บาป ตัดสินเค้าเถอะ

 

เห็นด้วยกับคุณนะค่ะ และไม่ขอสนับสนุนให้ทำบาปนะค่ะ ผู้อ่านโปรดพิจารนาด้วย

คนที่ทำแท้งแล้วบอกว่าเดียวไปบวชก้หาย นี่คือความคิดทีผิดอย่างมากๆๆ โปรดใช้สติในการ กลั่นกรองความคิด นะค่ะ

 

ขอบคุณ ที่ได้เล่าสู่กันฟัง เหตุผลที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมา คือ ต้องการให้คนที่กำลังคิดจะทำ ได้เห็นตัวอย่างจริงที่เกิดขึ้น เพราะกรรมเดี๋ยวนี้ติดจรวด ไม่ต้องรอไปเกิดใหม่แล้วถึงจะเสวยกรรม เพราะบางคนกรรมเก่าที่สร้างมาในอดีต กรรมบางอย่างยังไม่ลดลง แล้วไหนจะกรรมใหม่ที่สร้างขึ้นมาอีก มีหรือที่เขาจะไม่เร่งเวลาให้ได้ชดใช้กัน ส่วนเรื่องของการบวชแล้วบอกว่าบวชแล้วขอลูกแล้วลูกช่วย เราก็คิดเช่นเดียวกันว่า เขาคงเสวยบุญเก่าอยู่ แต่เมื่อใดที่บุญเก่าหมดไป กรรมที่รออยู่ก็จะโถมเข้าหาแบบทวีคูณ ศีลข้อ ๑ ที่เคยทำยังรออยู่ ศีลข้อ ๓ ที่กำลังทำผิด (กายผิด ใจคิดผิด) อยู่ แล้วยังจะนำเอาคำสอนของพระพุทธเจ้ามาใช้ในทางที่ผิด แค่คิดตามก็หนาวหลังแล้ว เพราะแค่ศีล ๒ ข้อนั้นก็หนักหนาแล้ว นี่แหละมนุษย์ ยิ่งมีกิเลสปกคลุมเปลือกนอก หนาเท่าไหร่ แสงแห่งสติก็ไม่สามารถเข้าถึงจิตใจได้เลย ...... แล้วที่ไปบวช ..... จะได้อะไรกลับมา ....... อนุโมทนา สาธุ