พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

หากวางไม่ถูกต้อง เทพเทวาที่อยู่ในองค์พระบูชา หรือองค์เทพ ก็ต้องลงมาเองโดยอัตโนมัติอยู่แล้วครับ

เทพเทวา จะรู้ศักดิ์ของแต่ละองค์เองว่า ท่านจะอยู่ตรงไหน หัวแถว กลางแถว หางแถว

.

 

"...เทพเทวา จะรู้ศักดิ์ของแต่ละองค์เองว่า ท่านจะอยู่ตรงไหน หัวแถว กลางแถว หางแถว "

ขอบคุณครับลูกพี่ ว่าไปแล้วพลอยให้นึกถึงตอนที่เราห้อยพระหลายองค์ พระท่านจะจัดคิวของท่านเองโดยอัตโนมัติ ตามลำดับ ถูกมั๊ยครับ?

 

ใช่แล้วครับ

แต่














































หากว่า ห้อยพระที่พระสงฆ์อธิษฐานจิต รวมกับ พระฤาษีหรือเทพ กระแสก็จะมีการขัดกันอีกเช่นกัน

เช่น การห้อยพระ ชุดเบญจภาคี ครับ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อีพู่สือหาน : อุ่นหนึ่งวัน เย็นสิบวัน
China - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>11 พฤศจิกายน 2552 10:20 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> 一暴十寒　

一 (yī) อ่านว่า อี แปลว่า หนึ่ง
暴 (pù) อ่านว่า พู่ แปลว่า รับแดด
十 (shí) อ่านว่า สือ แปลว่า สิบ
寒 (hán ) อ่านว่า หาน แปลว่า หนาวเย็น

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=260 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=260> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ที่มา www.findart.com.cn/</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>
เมิ่งจื่อ ปรัชญาเมธีในสมัยสงครามระหว่างรัฐ(จั้นกั๋ว) ซึ่งถือเป็นตัวแทนคนสำคัญที่สืบทอดและเผยแพร่แนวคิดปรัชญาของขงจื้อ หรือเรียกว่า "หรูเจีย" ในประวัติศาสตร์ของจีน

เมิ่งจื่อยึดถือหลักคิดเรื่อง "เมตตาธรรม" ที่เป็น แนวคิดหลักของขงจื้อ โดยเชื่อว่ามนุษย์ทั้งหลายมีความดีเป็นพื้นฐาน แต่ก็ต้องไม่หยุดที่จะส่งเสริมให้ความดีนั้นคงอยู่และเจริญงอกงามต่อไป โดยเมิ่งจื่อเสนอแนวคิดให้ผู้ปกครองบ้านเมืองต้องถือหลักเมตตาธรรม เน้นความสำคัญของประชาราษฎร์มากกว่าขุนนาง คนเป็นผู้ปกครองต้องได้รับการยอมรับสนับสนุนจากประชาชน นอกจากนี้ เมิ่งจื่อยังเป็นนักปรัชญาเมธีที่นิยมใช้การยกตัวอย่าง เพื่อเผยแพร่แนวคิดให้คนเข้าใจ

ครั้งหนึ่ง มีผู้กล่าวโทษว่าเหตุใดเมิ่งจื่อจึงไม่ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการช่วยอ๋องฉีเซวียนปกครองบ้านเมือง เมิ่งจื่อจึงกล่าวชี้แจงโดยการยกตัวอย่างเปรียบเปรยว่า

“ในโลกนี้ พืชพรรณไม้บางประเภทช่างเติบโตได้อย่างง่ายดาย แต่หากปล่อยให้ต้นพืชเหล่านั้นได้รับแสงแดดสัก 1 วัน จากนั้นตลอด 10 วันติดต่อกันต้องอยู่ในสภาวะหนาวเย็น ไร้แสงแดด เช่นนั้นแล้ว แม้ว่าจะเป็นพืชพรรณที่มีพลังชีวิตกล้าแข็งเพียงไร ก็ไม่อาจเจริญงอกงามได้อย่างเต็มที่
“ตัวข้านั้นโอกาสที่จะได้พบหน้ากับอ๋องฉีเซวียนมีไม่มาก ยามที่ไม่ได้พบหน้ากลับมีมากกว่า อีกทั้งยามที่มิได้พบหน้า ก็ย่อมมีผู้คนมากมายที่มีแนวคิดไม่ตรงกับข้า มีผู้คนมากมายที่เอาแนวคิดในทางมิชอบมาสุมใส่ให้พระองค์ ต่อให้แม้ว่าตัวท่านอ๋องเอง เดิมที่อาจจะมีความคิด จิตใจที่ดีงามอยู่ แต่ข้าเองก็จนปัญญาจะทำให้ความดีงามเหล่านั้นเพิ่มเติมขึ้นหรือแม้กระทั่งรักษาให้คงอยู่”

จากตำนานดังกล่าว ต่อมาจึงเกิดสำนวนที่ว่า “อีพู่สือหาน” หรือ “อุ่นหนึ่งวัน เย็นสิบวัน” ความหมายคือ แม้จะเป็นพรรณไม้ที่ทรหดอดทน เติบโตง่ายเพียงใด แต่หากได้รับแสงแดดอบอุ่นแค่เพียง 1 วัน จากนั้นต้องอยู่ในความหนาวเย็นจัดติดต่อกันถึง 10 วันย่อมไม่สามารถเจริญเติบโตได้ ใช้เปรียบเทียบได้กับการเรียนหรือการทำงานที่ขยันขันแข็งเพียงชั่วครู่ชั่วยาม จากนั้นเอาแต่เกียจคร้าน ขาดความสม่ำเสมอ ย่อมไม่พบความสำเร็จ

สำนวนนี้ใช้ในตำแหน่งภาคประธาน ส่วนขยายนาม หรือกรรมของประโยค

ตัวอย่างประโยค
为学要有耐心,不能一暴十寒。　
การศึกษาต้องใช้ความอดทน จะ ~ ไม่ได้
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

โห แม่เจ้า มีอย่างนี้ด้วยหรือครับ
เพิ่งเคยเห็นจริงๆๆๆ

 

<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 37 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 34 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>แหน่ง, sithiphong+, psombat </TD></TR></TBODY></TABLE>

หวัดดีตอนเย็นๆๆครับท่านเลขาฯ และท่านสมบัติ

 

สวัสดีครับคุณ
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->sithiphong<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2601690", true); </SCRIPT>
ผมได้รับหนังสือปู่เล่าให้ฟังแล้วครับ

 

คดีเก่าๆยังสางไม่เสร็จ พี่ท่านก็ขยันเปิดขุดประเด็นเดิมๆที่เป็นปัญหากันอยู่กับหลายกลุ่มมาอีกแล้ว...555555 เดี๋ยวก็จะเจอคำตอบว่า รุ่นแรกออกเมื่อปีพ.ศ. 2530 ก่อนหน้านั้นไม่มีจตุคามรามเทพกันหรอกนะท่าน...อันนี้ต้องเตรียมเนื้อหาข้อมูลชี้แจงกับกลุ่มต่างๆกันนะครับ...

 

ช่างรู้ใจจริงๆนะครับว่า ชอบอารายครับ หุ หุ

 

ฮิฮิฮิฮิ ก็อย่างที่บอกครับตั้งเองอาจจะไม่ครบถ้วน นาครับ ฮิฮิฮิฮิฮิฮิ
อย่างที่ผมเสนอสนใจมั้ยครับผมว่าน่าจาดีนาครับ
ได้ท่านอาจารย์เพชร ท่านลุงข้างบ้าน ท่านเลขา เป็นกุนซือ แล้วไซร้
ความเจริญรุ่งเรืองจาไปไหนเสีย ฮิฮิฮิ จริงมั้ยครับ แค่เหมาลำ เอง
เงินทองหาเมื่อไหร่ก็ได้นะครับอย่าเสียดายเลย ส่วนพวกผมก็ถือซะว่าไปช่วยยกของครับดีมั้ยครับ คุณ แหน่ง พี่เบิ้ม คุณศรุต และอื่นๆอีกหลายคน
ที่ไม่ได้เอ่ยชื่อผมต้องขออภัยด้วยนะครับ ฮิฮิฮิฮิฮิฮิ

 

จะฟังเข้าหูมากครับ หากไม่มีคำนี้...ผมยังเป็นนักเรียนอยู่เลยทุกวันนี้ คำอาจารย์นี่ต้องยกให้อาจารย์ปู่ประถมท่านจริงๆ...

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 53 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 51 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>พรสว่าง_2008 </TD></TR></TBODY></TABLE>

ไปไหนกันหมดแล้วครับ

 

กล่าวถึงตาลุงข้างบ้านจะ ไม่มีพระหายากมาโชว์ได้อย่างไรครับ ต้องโชว์พระระดับ 1000ปีขึ้นครับ หุ หุ

 

โมทนาสาธุครับท่านพี่
ว่าแต่วันนั้นขากลับใช้เวลากี่นาทีครับ
อย่าขับเร็วมากนะครับ ช้าเร็วถึงจุดหมายเหมือนกันครับท่านพี่
ช้าๆๆ ได้พร้าเล่มงามครับ

 

แต่ผมก็เพิ่งพบกับตาตอนเข้ามาชมรมรักษ์วังหน้านะครับ
ไม่งั้นคงเชื่อเสี้ยนไปแล้วครับ ฮ่าๆๆ

 

<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 63 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 60 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>แหน่ง, sithiphong+ </TD></TR></TBODY></TABLE>
ดีครับท่านเลขาฯ
รูปที่ท่านโพสสวยๆ ทั้งนั้นเลยครับ
เคยเห็นแต่เขาโจมตีกันไป โจมตีกัน เรื่องการสร้าง
ณ บัดนี้เริ่มสว่างขึ้นแล้วครับ
ขอบพระคุณมากครับที่คอยเปิดหูเปิดตาให้กับกระผมและ
สมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้าทุกๆๆคน
โมทนาสาธุครับ

 

ตาลุงข้างบ้านนี่เขาต้องเล่นเนต ต่อคอมเก่งแน่เลย..อิ..อิ...

 

จริงคือเท็จ เท็จคือจริง ล้วนต้องเจอะเจอกันในพระวังหน้า พระที่ดูสกปรก ไม่น่าดูอย่างสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าลงรักพม่าที่หลายต่อหลายท่านดูแคลน มีทั้งของจริง และของปลอม พระบุทองที่คุณหนุ่มพบเจอมา บอกว่ามีทั้งของจริง และของปลอม สอบถามหนักๆเข้า ทราบว่า เป็นทองจริง แต่เป็นพระเก๊ แบบนี้ใครเล่าจะเชื่อ ไม่ค่อยถูกตรรกะเลยนาท่าน อุปมาว่าท่านมู(ริญโญ่)มีต้นทุนในการเดินทางไปทำงานที่บริษัท ไหนเลยจะค่าน้ำ ค่าไฟที่บ้าน ค่ากับข้าว 3 มื้อ ของทั้งครอบครัวรวมๆแล้วเดือนละ 40,000 บาท แต่กลับไปเรียกค่าตัวเพียงเดือนละ 15,000 บาท ราคาทองถูกขนาดไหนเชียว ถึงขยันเอามาทำพระปลอม สงสัยได้สัมปทานสายแร่ทองคำ ถึงใจดี ใจถึง เอาทองคำมาถลุงทำพระปลอม...คิดๆเท่าไหร่ก็ไม่เข้าใจความนัยนี้....

ภาพนี้เป็นอุทธาหรณ์ที่ดีที่จะให้เรามีความเข้าใจ และระมัดระวังตรวจสอบให้ละเอียดถี่ก้วน อย่าเพิ่งเชื่อสายตาตัวเอง อย่าเพิ่งฟังข้อมูลด้านเดียว อย่ามั่นใจในความสามารถในการตรวจจับกระแสพลังของเรา

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร:::
ที่ท่านเลขาฯบอกว่า ทำได้ คือทำได้จริงๆครับ เนียน และเหมือนมากด้วย สมัยก่อนผมได้บูชาจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่งองค์ละ 5,000 บาท ก่อนจะรู้จักกระทู้พระวังหน้านานมากเลยทีเดียว ผมเลยอยากจะนำมาให้ดูกันอีกรอบว่า องค์ไหนองค์จริงสำหรับพระสมเด็จหลังเบี้ย ของวังหน้า ช่างต่างกันมากเลยครับ ระหว่างองค์ละ 5,000 กับ องค์ละ 3 บาท (สั่งของปลอมมากๆ เขาลดให้เหลือองค์ละ 2 บาท)....


<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ตอบถูกจะมอบพระสมเด็จหลังประทุนให้กันฟรีท่านละ 1 องค์ครับ แต่ไปชำระหนี้สงฆ์กันเอาเองนะครับ..<!-- google_ad_section_end -->

จำได้ว่า ตอบไปเพียง 3 ท่าน คำตอบมีครบครับ 555555

 

ลูกสาวบุญธรรมผมไม่ต้องไปสอบทางรูป และทางนาม ดูมุมไหน ดูยังไงก็น่ารัก และไร้เดียงสา ไม่มีมารยา ไม่หลอกลวง ดูง่ายกว่าพระพิมพ์เป็นไหนๆครับ ....

ภาพลูกสาวผมสงวนลิขสิทธิ์นะครับ...

 

ปล่อยแก๊งค์บัวใต้น้ำไปเหอะ เดี๋ยวก็รู้เอง อยู่แค่ไม่เกินอายุ 80 ไว้สัก 50 กว่าๆ ก็จะเริ่มรู้แล้วว่า อะไรเป็นอะไร พอตายไป ก็ชัดเจนเองครับ

สำหรับคุณนรภัทร เป็นผู้ที่ชื่นชอบองค์จตุคามรามเทพ เป็นอย่างมาก เก็บไว้มาก หมดเงินก็หลายล้านอยู่ครับ

ยังคิดถึงคุณนรภัทร อยู่นะครับ