พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ตอนนี้ ปรับกลยุทธ์ใหม่

    มีชุดพระกริ่ง 3 เส้นๆละ 7 องค์

    ต้องเวียนใส่อย่างน้อย 1 - 2 สัปดาห์ต่อเส้น

    ขอดูผลที่เกิดขึ้นด้วยตนเองครับ

    ที่รู้แน่แล้ว 1 เส้น พลังอิทธิคุณ เรื่องของ บารมี , อำนาจ และเมตตามหานิยม สุดยอดจริงๆครับ
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ่า ผิดอีกแล้ว

    ขอบคุณคุณเพชรครับ จำได้ว่า คุณเพชรเคยบอกมาแล้ว
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ถ้าไม่ใช่สายของหลวงปู่ ไม่นานก็จะออกไปครับ

    ผมเห็นมาหลายท่านแล้ว

    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ถึงแม้ว่าแต่ก่อนจะไม่ใช่

    ปัจจุบันสร้างได้

    สร้างอย่างไร ผมเคยอธิบายไว้แล้ว

    แต่ในวันงาน ผมจะกระซิบให้อีกนะครับ อย่าลืมเตือน

    เพราะวันงาน น่าจะยุ่งๆกัน

    หรือ โทร.มาสอบถามได้เช่นกัน
     
  5. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    จริงอย่างที่ท่านกล่าวไว้ครับ "พระท่านเลือกคน"
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พี่ใหญ่บอกผมมาว่า น่าจะใช่

    เพราะบารมีพระสังฆราช

    การเป็นพระสังฆราช จริวัตรต้องเป๊ะๆๆๆและเป๊ะ

    ขอขอบพระคุณพี่ใหญ่ ที่แนะนำในหลายๆเรื่องครับ
     
  7. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    อยากขออนุญาตอธิบายให้เห็นภาพดังนี้ โดยขอยกตัวอย่างขึ้นมาเทียบเคียงเพื่อสามารถพบผลแห่งความดีนั้นจะได้เกิดความมั่นใจ เข้าถึง"กระแสโลกอุดร" เป็นที่สุด...

    ครั้งหนึ่งหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านเคยได้กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า..

    ขอแจ้งให้ทราบว่าทุกคนที่ต้องการเป็นศิษย์ ไม่ต้องขออนุญาต ขอให้ปฏิบัติตามนี้ อยู่ที่ไหนไม่เคยเห็นหน้ากันเลยก็รับเป็นศิษย์ คือ


    ๑.ศิษย์ชั้น ๓ พยายามรักษาศีล ๕ ได้เสมอ อาจจะขาดตกบกพร่องบ้าง แต่ก็พยายามรักษาให้ครบถ้วนมากที่สุดที่จะทำได้ อย่างนี้ขอรับไว้เป็นศิษย์ชั้น ๓ คือศิษย์ขนาดจิ๋ว

    ๒.ศิษย์รุ่นกลาง มีปฏิปทาดังนี้ มีศีลบริสุทธิ์เป็นปกติ พยายามรักษาอารมณ์ให้ทรงสมาธิเสมอตามสมควร ไม่ละเมิดศีลเป็นปกติ อย่างนี้ขอรับไว้เป็นศิษย์รุ่นกลาง

    ๓.ศิษย์เอก มีปฏิปทาดังนี้
    (ก)รักษาศีล ๕ ครบถ้วนเป็นปกติ
    (ข)เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ไม่สงสัยในความดีของท่าน มีอารมณ์ตั้งมั่นว่า ถ้าตายไปจากคนชาตินี้ ขอไปนิพพานจุดเดียว พยายามละความโลภ ความโกรธ ความหลงเป็นปกติ

    ถ้าปฏิบัติได้ตามที่กล่าวมานี้ มาพบหรือไม่มา ขออนุญาตเป็นศิษย์ หรือไม่ขออนุญาตก็ตาม ให้ทราบว่าอาตมารับเป็นศิษย์แล้วด้วยความเต็มใจ

    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง อุทัยธานี


    เวลานี้แม้หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านจะละสังขารไปแล้วก็ตาม แต่คำสั่งของท่านก็ยังเป็นที่ยึดถือเคารพ นับถือ ปฏิบัติในหมู่ศิษย์กันอยู่ ไม่ได้สำคัญ ว่าคนนั้นจะมาทัน หรือไม่ทัน มาก่อน หรือมาหลัง หรือไม่ ล้วนไม่ใช่สาระสำคัญ ความสำคัญอยู่ที่สามารถเข้าถึงความตั้งใจ หรือคำสั่งของท่านหรือไม่ หากเข้าถึง นอกจากจะทรงศีลบริสุทธิ์แล้ว ยังได้ชื่อว่า เป็นลูกท่าน หรือลูกศิษย์ตามชั้นที่ท่านกำหนด ไม่เป็นที่โต้เถียงกันเลย ไม่มีความลังเลสงสัยในคำสั่งเลย ทำไม่ดีก็ต้องกลับไปปรับปรุง ทำดีก็ต้องรักษาไว้....

    เมื่อนำมาเทียบเคียงกับกรณีของหลวงปู่ทั้ง ๕ พระองค์ นอกจากทรงศีลบริสุทธิ์แล้ว มีความเคารพในพระพุทธเจ้า พระธรรมคำสอน และพระอริยสงฆ์แล้ว อาจจะต้องมาพิจารณาคำสอนของหลวงปู่ทั้ง ๕ พระองค์ผ่านศิษย์ของท่านที่เรายอมรับนับถือว่ามีความเข้าถึงกระแสแห่งโลกอุดรจริงๆ นั่นก็คืออาจารย์ปู่ประถม อาจสาครนั่นเอง ทั้งนี้เพื่อหาหนทางเพื่อปฏิบัติเพื่อเอาดีให้เข้าถึงกระแสนั้นให้ได้ครับ...

    ปล. อาจารย์ปู่เคยพบเคยเห็นมาแล้ว ต้องลองสอบถามปู่นะครับ หากพบบุคคลที่เราเองศรัทธา และนับถือ และสามารถทำได้เช่นนี้แล้ว แต่ไม่สอบถาม ไม่ขอคำแนะนำในฐานะของลูกหลาน แบบนี้ก็เป็นที่น่าเสียดายเวลา และโอกาสมากครับ...
     
  8. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    คงต้องขอใช้บันไดลิงไต่ขึ้นไปทีละขั้นๆละครับ เริ่มจาก ศิษย์ชั้น3
     
  9. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    อย่าว่าแต่ศิษย์ชั้น ๓ เลยครับ อยู่ในนรก หากทำตามนี้ก็ยังได้ ก็ยังทันนะ ว่าแต่จะมีเวลาให้คิดจะทำหรือเปล่า แหลมก็แหลม ร้อนก็ร้อน ร้องโอดโอยอย่างนั้น..
     
  10. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    อิ่มเดียวหลับเดียว

    เมื่อซักครู่ผมพึ่งได้รับ FW: Mail จากเพื่อนใน Office มาเป็นเรื่องเกี่ยวกับธรรมะในในหลวงของเรา จึงอยาก upload ให้อ่านกัน...กับคำว่า "อิ่มเดียว หลับเดียว" ที่จริงนั้นคืออะไร? :cool:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    สุดยอดเลยพี่สมบัติ สั้นๆแต่ได้ใจความ
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คุณ Sriaraya5 ตอบผมมาทาง pm แล้วครับว่า

    พระอริยทุกหมู่เหล่าท่านเป็น บุคคลที่เข้าสู่สังคมก็อ่อนน้อมถ่อมตน เป็นผู้ว่านอนสอนง่าย จะไม่ชูงวง ยกตนข่มผู้อื่น

    ถ้าผมครั้งหน้าจะเอาชื่อท่านนี้อ.จเร แปะติดไปกับรูปพระครูโลกอุดรทุกครั้ง

    พระธรรมของพระพุทธเจ้าทุกองค์เป็นอารมณ์ทางธรรมะหาที่สุดหาประมาณมิได้

    สมบัติศาสนา ถ้าเป็นไปทางลิขสิทธิ์นั่นไม่ใช่ธรรมของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย แต่เป็นการแสดงในความยึดมั่นถือมั่น แม้แต่วิมุตติ พระองค์ยังต้องละ แล้วจิตที่คิดไม่ดีจะทำไมไม่ละ

    ผมเองตอบไปว่า เรื่องของพระศาสนา ไม่มีลิขสิทธิ์อยู่แล้ว

    แต่รูป ต้องมีตามกฎหมาย ไม่ได้ยกตนข่มผู้อื่น

    ไม่อย่างนั้น ทั่วโลกจะออกกฎหมายเรื่องลิขสิทธิ์ออกมาทำไมครับ และยังมีเรื่องของ พรบ.คอมพิวเตอร์ปี 2550 ด้วย

    แล้วจะมีการละเมิดลิขสิทธิ์กันไปหมด หากอยู่ร่วมกันในสังคม ต้องยอมรับในกติกาของสังคม การยอมรับในกติกาของสังคมนั้น จะอยู่ในพระธรรมที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมีพระเมตตาสั่งสอนและเผยแพร่อยู่ครับ

    หากจะใช้รูป ต้องแจ้งด้วยว่า ลิขสิทธิ์ของ อ.จเร แห่งบ้านดวงธรรม ครับ
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สมัยก่อน เวลาเครียดๆงาน ผมเองก็มักจะไปอ่านกระทู้ของคุณSriaraya5 ที่หมวดBlack Hole (หรือหมวดจักรวาลคู่ขนาน(เดิม) ) ที่โต้ตอบกับคุณเสือเผ่นป่าราบ และคุณiofeast ( ท่านรวิพันธุ์รู้สึกตัวแล้วจ้า) อ่านแล้วไม่ต้องตามคิดอะไร คลายเครียดได้เหมือนกัน

    ว่าไงครับคุณnongnooo เหอๆๆๆ
     
  14. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ไม่ว่าอารายครับ ก้อ คลายเครียดจริงๆครับ แต่อย่างว่าครับอาจจะเป็นอย่างเค้าว่าก็ได้ครับเป็นสิทธิที่ทุกท่านมีสิทธิจะได้รับความเมตตาครับ หุ หุ
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สามีฝรั่ง-เมียไทย หย่ากันได้อย่างไร ใช้กฎหมายไทยหรือกฎหมายเทศ/มังกรซ่อนกาย
    Life & Family - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>2 พฤศจิกายน 2552 16:56 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในสังคมไทยในปัจจุบันคู่สามีภรรยาต่างสัญชาติมีมากขึ้น และก็มีหลายคนสงสัยว่าหากเกิดความขัดแย้งกันขึ้นแล้วจะใช้กฎหมายแห่งประเทศใดเป็นข้อตัดสิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่สามีภรรยาไปจดทะเบียนกันที่ต่างประเทศแล้วย้ายมาลงหลักปักฐานกันที่ประเทศไทย เช่นนี้แล้วหากจะหย่ากันจะหย่ากันตามกฎหมายไทยได้หรือไม่ หรือต้องไปใช้กฎหมายของประเทศใด จึงได้ยกเอาตัวอย่างที่น่าสนใจมาเขียนถึง

    ข้อเท็จจริงก็คือ นายไมค์ เป็นคนอเมริกา ในรัฐจอร์เจีย มีอาชีพรับราชการทหารประจำกองทัพอากาศแห่งสหรัฐอเมริกา ส่วนนางดาวเป็นคนไทย ที่ไปทำงานที่อเมริกา ทั้งสองจึงได้พบรักกันที่จอร์เจีย และตกลงปลงใจจดทะเบียนสมรสกันที่รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2531 และได้อยู่กินกันเรื่อยมา โดยทั้งสองมีการย้ายที่อยู่หลายครั้ง และในหลายรัฐด้วยเหตุที่นายไมค์ต้องย้ายที่อยู่ตามฐานที่ประจำการ จนกระทั่งปี 2542 นายไมค์และนางดาวก็ได้ย้ายมาอยู่ที่ประเทศไทย นับตั้งแต่ทั้งสองได้สมรสกันก็มีความขัดแย้งกันในความแตกต่างของวัฒนธรรมของทั้งสองและด้วยเหตุอื่น ๆ มาโดยตลอด

    ต่อมาในปี 2543 นายไมค์เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางดาวเป็นจำเลยต่อศาลเยาวชนและครอบครัวในประเทศไทย ขอหย่าขาดจากนางดาวโดยอ้างเหตุว่านางดาวไม่สนใจเรียนรู้การปรับตัวทางด้านภาษาและการแต่งตัว มีนิสัยเกียจคร้านไม่ทำงานบ้านชอบแต่ความสบาย ไม่คบหาสมาคมกับผู้ใดไม่ชอบออกงานสังคมเว้นแต่งานที่จำเป็น ชอบแต่งานเลี้ยงไม่เป็นทางการที่สนุกสนาน ทำให้เกิดการโต้เถียงกันเป็นประจำ อีกทั้งนายไมค์ยังได้รับการกระทบเทือนทางด้านจิตใจ โดยนางดาวจะด่าว่านายไมค์เป็นภาษาอังกฤษแปลเป็นภาษาไทยว่า “ลูกหมาตัวเมีย” และ “...” (สัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่ง มักปรากฏเป็นข่าวว่าออกมาเดินในทำเนียบรัฐบาลเป็นบางช่วง-ทีมงาน Life & Family)

    ในด้านความสัมพันธ์ทางเพศ นายไมค์ต้องการแต่นางดาวไม่ต้องการ ทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่สมัครใจที่จะมีเพศสัมพันธ์กันเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปีแล้ว ซึ่งเป็นสภาพที่ทรมานจิตใจของนายไมค์อย่างมาก

    นายไมค์ถือว่าการกระทำของนางดาวเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยากันอย่างร้ายแรงตามกฎหมายของรัฐจอร์เจียในเงื่อนไขการหย่า ข้อ 10 ที่ระบุว่าการปฏิบัติที่โหดร้าย ประกอบไปด้วยการทำร้ายที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดต่อกายและจิตใจ และ ข้อ 13 ที่ระบุการสมรสที่แตกร้าวจนเยียวยาไม่ได้

    นายไมค์จึงขอหย่าขาดจากนางดาว

    นางดาวให้การว่า นายไมค์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะศาลไทยไม่มีอำนาจพิจารณาเหตุหย่าตามกฏหมายแห่งรัฐจอร์เจีย ประเทศอเมริกาได้ การหย่าต้องเกิดจากการสมัครใจยินยอมของคู่สมรสเท่านั้น และเหตุหย่าที่นายไมค์อ้างว่านางดาวด่าว่านายไมค์นั้น ขณะทะเลาะกันนายไมค์ก็ด่าว่านางดาวกลับเช่นกัน และการที่ไม่มีเพศสัมพันธ์กันเป็นเวลา 2 ปีแล้วนั้น เกิดจากการที่ต่างฝ่ายต่างสมัครใจที่จะไม่มีความสัมพันธ์ทางเพศต่อกันอีกต่อไป เหตุความขัดแย้งทางด้านวัฒนธรรมที่นายไมค์กล่าวอ้างนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ 6 เดือนแรกที่แต่งงานกัน และเป็นเช่นนั้นมาตลอดจนถึงปัจจุบัน ข้ออ้างของนายไมค์จึงไม่ถือว่าเป็นเหตุหย่า

    นางดาวจึงขอให้ศาลยกฟ้อง

    กรณีตามปัญหาดังกล่าวประเด็นแรกที่ศาลต้องวินิจฉัยคือ เรื่องอำนาจฟ้องของโจทก์ ซึ่งกรณีนี้ต้องใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยการขัดกันแห่งกฎหมาย พ.ศ. 2481 มาตรา 27 วรรคหนึ่ง ที่บัญญัติว่า ศาลสยามจะไม่พิพากษาให้หย่ากัน เว้นแต่กฎหมายสัญชาติแห่งสามีและภริยาทั้งสองฝ่ายยอมให้หย่าได้ ซึ่งหมายความว่ากฎหมายของประเทศตามสัญชาติของคู่สมรสทั้งสองต้องมีบทบัญญัติกำหนดเงื่อนไข และหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการหย่า หรือเหตุหย่าไว้ ศาลไทยจึงจะมีอำนาจพิจารณาพิพากษาให้หย่ากันได้ มิใช่ต้องเป็นการหย่าโดยความยินยอมของคู่สมรสเท่านั้น เมื่อนายไมค์เป็นคนสัญชาติอเมริกัน ตามกฎหมายแห่งรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้กำหนดเงื่อนไขการหย่าไว้ และยอมให้หย่าได้ หากต้องด้วยหลักเกณฑ์การหย่าและตามบทบัญญัติของกฎหมายแห่งประเทศไทยซึ่งได้บัญญัติถึงเงื่อนไขการฟ้องหย่าไว้

    นายไมค์จึงมีอำนาจฟ้องหย่านางดาวได้

    แต่เหตุที่นายไมค์อ้างจะใช้เป็นเหตุหย่าได้หรือไม่นั้นต้องพิจารณาในประเด็นต่อไปว่านายไมค์มีเหตุฟ้องหย่าหรือไม่ ซึ่งตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการขัดกันแห่งกฎหมาย พ.ศ. 2481 มาตรา 27 วรรคสอง บัญญัติว่า เหตุหย่าให้เป็นไปตามกฎหมายแห่งถิ่นที่ยื่นฟ้องหย่า เมื่อนายไมค์ได้ยื่นฟ้องหย่านางดาวต่อศาลไทยจึงต้องใช้กฎหมายของประเทศไทยบังคับ ซึ่งต้องพิจารณาว่าสิ่งที่นางดาวได้ทำนั้นเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยากันอย่างร้ายแรงถึงขนาดที่อีกฝ่ายเดือดร้อนเกินควร

    เมื่อเอาสภาพ ฐานะ และความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภรรยามาคำนึงประกอบ ตาม ปพพ. มาตรา 1516 (6) หรือไม่นั้น จะเห็นได้ว่าเมื่อนายไมค์และนางดาวทะเลาะกัน นางดาวด่านายไมค์ นายไมค์ก็ด่านางดาวตอบกลับไปด้วยเช่นกัน อีกทั้งเรื่องเพศสัมพันธ์ แม้ช่วงแรกนางดาวจะไม่ต้องการมีเพศสัมพันธ์กับนายไมค์ แต่ต่อมาภายหลังทั้งสองก็ต่างสมัครใจที่จะไม่มีความสัมพันธ์ทางเพศกันอีก ซึ่งเป็นตามสมัครใจของทั้งสองฝ่าย และที่นางดาวไม่ยอมทำงานบ้าน ไม่ชอบออกงานสังคมยกเว้นที่จำเป็น แต่ชอบงานเลี้ยงไม่เป็นทางการที่มีการสนุกสนานนั้น ไม่ปรากฏว่ามีเหตุร้ายแรงอย่างอื่นอีกนอกจากเหตุดังกล่าว โดยทั้งนายไมค์และนางดาวก็ยังคงสถานะความเป็นสามีภรรยา และอยู่กินกันมานานถึง 12 ปีเศษ นายไมค์เพิ่งจะมาฟ้องคดีนี้ พฤติการณ์ของนางดาวตามที่นายไมค์กล่าวอ้างยังถือไม่ได้ว่านางดาวทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยากันอย่างร้ายแรง ถึงขนาดที่อีกฝ่ายหนึ่งเดือดร้อนเกินสมควรดังที่กฎหมายบัญญัติไว้ นายไมค์จึงไม่มีเหตุให้ฟ้องหย่านางดาวได้ ศาลจึงยกฟ้อง (เทียบเคียงคำพิพากษาฎีกาที่ 6625/2549)

    แม้โจทก์จะมีอำนาจฟ้องหย่าจำเลยต่อศาลไทยได้ แต่เมื่อเหตุหย่าที่โจทก์กล่าวอ้างไม่ต้องด้วยบทบัญญัติแห่งกฎหมายไทยตาม ปพพ.มาตรา 1516 (6) ศาลไทยก็ไม่อาจพิพากษาให้โจทก์และจำเลยหย่าขาดจากกันได้

    hiddendragon_2552@gmail.com
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คุณ Sriaraya5 ตอบผมมาทาง pm
    ขัพเจ้าข้ามเรื่องรูปนามไป แล้ว ท่านยังจะติดในสิ่งที่อริยะพากันทิ้ง
    07:42 PM Sriaraya5

    แล้วถ้าผมเอารูปอื่นที่ไม่ใช่รูปนี้คุณยังจะอ้างนั้นอ้างนี่อยู่ไหม และ ผมก็คิดว่าพระพุทธองค์ท่านตรัสรู้ธรรมะที่ทรงประทานให้กับเวไนยสัตว์ ก็เป็นของกลาง

    เป็นของโลกมีไว้โปรดโลก เมื่อพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ขึ้นในโลกก็มาใช้ ต่อเมื่อจะเข้านิพพานท่านก็คืนให้ไว้กับโลก

    ผมเองตอบไปว่า คนละเรื่องกันนะครับ

    เรื่องพระธรรม ก็เรื่องนึง

    เรื่องรูปก็อีกเรื่อง

    หากนำรูปอื่นไปใช้ ก็ไม่เป็นไร

    แต่ถ้าเป็นรูปนี้ ต้องแจ้งว่า เป็นลิขสิทธิ์ อ.จเร แห่งบ้านดวงธรรมครับ

    ขอบคุณครับ
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2009
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สธ.ฟันธง “หวัดใหญ่ 2009” ระบาดระลอก 2 แน่! ชี้เด็กต่ำ10-วัยทำงานเสี่ยง
    Quality of Life - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>2 พฤศจิกายน 2552 17:53 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> สธ.ฟันธงกลาง พ.ย.นี้ หวัดใหญ่ 2009 กลับมาระบาดระลอก 2 ในไทย ชี้เด็กเล็กต่ำกว่า 10 ปี วัยทำงานเป็นกลุ่มเสี่ยง เชื่อระบาดรุนแรงไม่มากกว่ารอบแรก เผย 4 เดือน คาดมีคนไทยติดเชื้อแล้วกว่า 6 ล้านคน คาดระลอก 2 ป่วยอีก 15 ล้านคน ขณะที่ “พล.ต.สนั่น” พอใจผลการควบคุมโรคของ สธ. พร้อมสั่งซื้อวัคซีนจากนอกเพิ่มอีก 3 ล้านโดส


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> วันที่ 2 พฤศจิกายน ที่กระทรวงสาธารณสุข พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ ครั้งที่ 5/2552 โดยมีนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ผู้บริหาร สธ.และตัวแทนจากกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม เพื่อทบทวนสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

    พล.ต.สนั่น กล่าวภายหลังการประชุมว่า ขณะนี้สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้แพร่ระบาดไปทั่วโลก สำหรับประเทศไทยจากการเฝ้าระวังตั้งแต่ 28 เมษายน 2552 - 24 ตุลาคม 2552 พบผู้ป่วยที่ตรวจยืนยันได้ขยายตัวไปทุกจังหวัดทั่วประเทศ และเกือบทุกอำเภอ คาดมีคนไทยติดเชื้อและมีภูมิต้านทานโรคแล้วประมาณ 6 ล้านคน โดยพบผู้เสียชีวิต 182 ราย เป็นชาย 90 ราย หญิง 92 ราย พบมากในอายุ 31-40 ปี การเสียชีวิตมีแนวโน้มลดลง โดยสัดส่วนของผู้เสียชีวิตของไทยคิดเป็นร้อยละ 3 ของผู้เสียชีวิตทั่วโลก ทั้งนี้ จะมีการประชุมเตรียมความพร้อมอีกครั้งในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ เวลา 14.00 น.ที่รัฐสภา

    “ผลการทำงานของ สธ.ในการระบาดระลอกแรก ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ ไทยมีผู้ป่วยจำนวนมาก และมีผู้เสียชีวิตน้อย แต่การระบาระลอกใหม่ต้องมีมาตรการควบคุมที่เข้มข้นขึ้น และได้สั่งการให้กรมควบคุมโรคสั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคนี้ เพิ่มอีก 3 ล้านโดส รวมทั้งสิ้นเป็น 5 ล้านโดสด้วย” พล.ต.สนั่น กล่าว

    นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ. กล่าวว่า จากการคาดการณ์ของนักระบาดวิทยาเชื่อว่าการระบาดระลอก 2 ที่จะมาถึงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้น่าจะมีความรุนแรงน้อยกว่าการระบาดในครั้งแรก เนื่องจากปัจจัยแรก คือ การที่มนุษย์ได้รู้จักลักษณะ อาการ การติดต่อของโรคดังกล่าวเป็นอย่างดีแล้ว อีกทั้งมีประสบการณ์ในการรับมือโรคดังกล่าว ทราบถึงจุดอ่อนจุดแข็งมาแล้ว ซึ่งสามารถนำมาปรับปรุงกับมาตรการที่ใช้รับมือ และเชื่อว่าการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในระลอก 2 จะน้อยกว่าระลอกแรก

    รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิระดับ 11 กรมการแพทย์ กล่าวว่า จากการประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลรักษาโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา มีข้อสรุปทีสำคัญคือ พบว่า ในประเทศที่พัฒนาแล้วและยังไม่พัฒนา มีอัตราการป่วยไม่แตกต่างกัน คือ คือ ร้อยละ 90 มีอาการน้อย หายได้เอง และอีกร้อยละ 10 จะมีอาการหนัก โดยในกลุ่มที่มีอาการหนัก จะมีอาการหนักประมาณ 3-5 วันหลังจากที่ป่วย โดยพบผลการศึกษาวิจัยว่า หากผู้ป่วยได้รับยาเร็วจะลดอัตราการตายลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งขณะนี้ทั่วโลกอยู่ในภาวะการเตรียมความพร้อมรับมือต่อการระบาดระลอก 2 อย่างเต็มที่

    “ผมได้สอบถามไปยังประเทศที่มีลักษณะภูมิประเทศคล้ายไทย คือประเทศบราซิล อาร์เจนตินา ปารากวัย พบว่า สถานการณ์การระบาดเริ่มสงบแต่คาดว่าอีกไม่กี่สัปดาห์จะเกิดการะบาดระลอก 2 แน่นอน จึงมีการเตรียมตัวเช่นกัน โดยกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อในการระบาดระลอก 2 มีสัญญาณว่าการระบาดเข้าสู่กลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปีมากขึ้น และคนทำงาน ต่างจากการระบาดระลอก 1 ที่กลุ่มเสี่ยงเป็นเด็กอายุระหว่าง 10-16 ปี และกลุ่มวัยรุ่น” รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี กล่าว

    รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี กล่าวอีกว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมในการดูแลเด็กเล็กที่คาดว่าอาจจะเป็นกลุ่มที่มีการติดเชื้อเพิ่มในการระบาดระลอก 2 นั้น แม้ว่าประเทศไทยจะไม่ได้สั่งซื้อยาโอเซลทามิเวียร์แบบน้ำ ซึ่งมีราคาแพงขวดละ 1,000 กว่าบาทและยังไม่สามารถแบ่งได้ จึงมีการทดลองโดยการใช้ยาขนาดเล็กที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) จัดทำสำหรับเด็กมาผสมในน้ำเชื่อม เมื่อทดสอบพบว่า ตัวยามีความเสถียรสูงและไม่มีความเปลี่ยนแปลงมากนัก สามารถแช่เก็บในตู้เย็นได้เป็น 10 วัน ซึ่งมีการเผยแพร่ลงเว็บไซต์และสอบถามไปยังจังหวัดต่างๆ ก็พบว่าเภสัชกรสามารถผสมโดยวิธีดังกล่าวได้อย่างดี จึงไม่ค่อยน่าเป็นห่วงมาก” นพ.ทวี กล่าว

    นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิระดับ 10 กรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการประมาณการณ์จำนวนผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ตั้งแต่มีการระบาดในเดือนมิถุนายน-กันยายน ที่ผ่านมา เป็นเวลา 4 เดือนคาดว่ามีคนไทยติดเชื้อแล้วกว่า 6 ล้านคนจากประชากรทั่วประเทศกว่า 63 ล้านคน คิดเป็นประมาณ ร้อยละ 10 เท่านั้น ทั้งนี้ หากทั่วโลกมีการติดเชื้อประมาณ 1 ใน 3 ของประชากรทั้งโลกจะถึงระดับที่หยุดการแพร่ระบาด ซึ่งในไทยประมาณ 21 ล้านคน แต่ขณะนี้มี 6 ล้านคน ยังเหลืออีก 15 ล้านคนที่สามารถป่วยได้อีกในช่วงการระบาดระลอก 2 นี้

    ด้าน นายวิทยากล่าว่า ที่ประชุมได้มีการทบทวน 3 มาตรการหลักที่ใช้รับมือหลังโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ระบาดตั้งแต่เมษายน-ตุลาคม 2552 มาตรการแรกได้แก่ การเฝ้าระวังโรคทั้งในและนอกประเทศ โดยมีข้อสรุป ให้ยกเลิกการใช้เครื่องตรวจวัดอุณหภูมิหรือเทอร์โมสแกน(Thermoscan) ซึ่งใช้เฝ้าระวังโรคภายในประเทศและด่านสุวรรณภูมิ เนื่องจากเครื่องมือไม่สามารถป้องกันการระบาดของโรคได้ ซึ่งที่ผ่านมาตรวจผู้เดินทางทั้งหมด 6 ล้านคน แต่พบผู้ป่วยยืนยันเพียง 1 ราย ดังนั้นจึงจะใช้วิธีผลิตสื่อให้ความรู้กับผู้เดินทางแจกที่ด่านสุวรรณภูมิ เพื่อให้เกิดผลทางการปฏิบัติแทน

    นายวิทยา กล่าวว่า 2.การดูแลรักษาพยาบาล โรงพยาบาลทุกระดับเตรียมความพร้อม เช่น วัสดุ อุปกรณ์ ยา ครุภัณฑ์ การตรวจวินิจฉัยโรคที่รุนแรง การระบาดและการเสียชีวิต การจัดระบบโซนนิ่ง(Zoning) กำหนดพื้นที่รับผิดชอบ และการส่งต่อผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงรักษาต่อ โดยมีโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยเป็นที่ปรึกษา และ3. มาตรการทางสังคม ซึ่งจะช่วยในการป้องกันควบคุมโรคได้ดีขึ้น ให้สธ. ทบทวนคำแนะนำในกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ให้ทุกจังหวัดจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการของจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดและปศุสัตว์ เพื่อผลักดันให้ทุกหน่วยงานในแต่ละจังหวัดจัดทำแผนบูรณาการ

    นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในการจัดสรรวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ชนิดเชื้อตาย ที่ไทยสั่งซื้อจากบริษัทยาในประเทศฝรั่งเศสจำนวน 2 ล้านโดสและจะส่งถึงไทย 1 ล้านโดสในเดือนธันวาคมนี้ จะมีการเฉลี่ยให้กับคนใน 5 กลุ่ม คือ 1.เจ้าหน้าที่สาธารณสุข 2.หญิงตั้งครรภ์ 3.ผู้ที่มีน้ำหนักมากเกิน 100 กิโลกรัม 4.คนทั่วไปที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน และเกินกว่า 64ปีและมีโรคประจำตัว และ5.ผู้พิการทางสมอง ผู้ป่วยช่วยเหลือตนเองไม่ได้และเด็กเล็กในสถานเลี้ยงเด็ก แต่หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคในอนาคตมีแนวโน้มสูงขึ้นและประชาชนกลุ่มอื่นควรที่จะได้รับวัคซีนด้วย ก็พร้อมที่จะสั่งซื้อวัคซีนเพิ่มอีก 3 ล้านโดส ส่วนงบประมาณต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะใช้งบฯจากส่วนใด อาจจะขอสนับสนุนงบฯจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

    รายงานข่าวแจ้งว่า จากข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา ระบุว่าสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ (เอช 1 เอ็น 1) รายจังหวัด ในประเทศไทย พบว่า 10 จังหวัดแรกที่มีอัตราป่วยสะสมต่อประชากรแสนคนมากที่สุด ได้แก่ จ.เชียงใหม่ 131.41 ต่อแสนประชากร จ.เชียงราย 102.01 จ.สงขลา 93.58 จ.พะเยา 93.36 จ.ภูเก็ต 89.29 จ.นครนายก 82.95 จ.นนทบุรี 73.15 กทม. 71.25 จ.ตรัง 67.33 และจ.ลำปาง 65.66

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คุณ Sriaraya5 ตอบผมมาทาง pm
    งั้นผมก็ไม่สมาคมด้วยเพราะยังมีความคับแคบ

    ธรรมหยาบๆแค่นี้ยังมองไม่เห็น อย่าบอกว่าคนละเรื่องกับพระนิพพาน

    ผมเองตอบไปว่า ยินดีครับ

    โชคดีนะครับ

    เรื่องรูป ขอให้ไปแก้ไขด้วยนะครับว่า เป็นลิขสิทธิ์ อ.จเร แห่งบ้านดวงธรรม หรือ ลบรูปออกไป หากยังไม่ได้แก้ไข ผมคงจะแจ้งทางเว็บมาสเตอร์ก่อน

    หากว่าเว็บมาสเตอร์ ยังไม่ได้ทำอะไร ผมจะไปแจ้งทางกระทรวง ICT แล้วนะครับ


    คุณ Sriaraya5 ตอบผมมาทาง pm
    ผมเบื่อหน่ายกับพาลปุถุชนซะเหลือเกิน

    ผมจะลบให้หมดเลย

    อยู่ตรงส่วนไหนก็บอกมาที่จะให้ลบ
    เราจะเริ่มลบในส่วนที่เราเห็น

    ธรรมใดที่เราได้ตรัสรู้แล้วขออย่าได้เป็นผลกับพาลปุถุชนคนเขลาเบาปัญญา เพราะเหตุเนื่องตะหนี่ในธรรม

    ผมเองตอบไปว่า เท่าที่ผมเห็นจะเป็นในกลุ่มPaLungJit.com - ชมรมศิษย์พระธรรมเทพโลกอุดร น่าจะเป็นหน้าที่ 15 ให้ไปแจ้งว่า รูปเป็นลิขสิทธิ์ อ.จเร แห่งบ้านดวงธรรม

    คำว่า ตะหนี่ เขียนว่า ตระหนี่ ครับ

    ส่วนเรื่องอื่นผมไม่สนใจ

    ผมแจ้งทางเว็บมาสเตอร์ไปแล้วครับ

    ขอบคุณครับ

    คุณ Sriaraya5 ตอบผมมาทาง pm
    ผมก็ได้ลบไปแล้ว
    ส่วนเรื่องการศึกษา ผมไม่มีโอกาสเท่าๆ

    กับผู้ยังแสวงหากาม กิน เกียรต์

    เพราะผมเป็นลูกคนจน จึงไม่มีโอกาสเรียบจบสูงที่สุด ขั้นดร.

    แต่ผมคิดได้แต่เด็ก การเรียนทางโลกให้จบสูงแค่ไหนก็ยังเห็นแก่ตัว

    สู้จบโลกุตตระไม่ได้เรียบจบแล้วจบจริงๆ
    ไม่ใช่เรียนจบแต่ความจริงที่อุปโลกขึ้นเอง

    ผมเองตอบไปว่า ผมเห็นแล้วว่า ลบไปแล้วครับ ขอบคุณครับ

    และไม่ต้อง pm มาอีกนะครับ

    ขอบคุณครับ<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2009

แชร์หน้านี้

Loading...