หลวงปู่มั่นเทศน์อัศจรรย์ครั้งสุดท้าย<หลวงตามหาบัวบันทึก>

ท่านหลวงตามหาบัวบันทึกเรื่องราวไว้ ดังนี้


วันมาฆบูชา วันเพ็ญเดือนสาม 2492 ก่อนหลวงปู่มั่นจะเริ่มป่วยเล็กน้อย วันนั้นท่านเริ่มเทศน์ตั่งแต่2 ทุ่มจนถึง6 ทุ่มเที่ยงคืน รวมเวลา4ชัวโมง อํานาจธรรมที่ท่านแสดงไว้วันนั้นเป็นความอัศจรรย์ใจของพระธุดงค์ที่มาร่วมอยู่เป็นจํานวนมาก ปะหนึงโลกธาตุดับสนิทไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย ปรากฎแต่กระแสธรรมท่านแผ่ครอบไปหมดทั่วโลกธาตุ

ในคําเทศน์ท่านยกพระอรหันต์1250องค์ที่ต่างมาเองสู่ที่ประชุม ณ พุทธสถาน โดยไม่มีใครอาราธนาหรือนัดแนะ ท่านวิสุทธิบุคคลล้วน ๆไม่มีกิเลสเข้ามาปนเลยแม้แต่คนเดียว

การแสดงโอวาทปาฎิโมกข์ของพระพุทธเจ้า ทรงแสดงเป็นวิสุทธิอุโบสถคือ อุโปสถในท่ามกลางบุคคลผู้บริสุทธิล้วนๆไม่เหมือนพวกเราซึ่งแสดงปาฎิโมกข์ในท่ามกลางแห่งบุคคลผุ้มีกิเลสล้วนๆไม่มีผู้สิ้นกิเลสสับปนเลยแม้คนเดียว

น่าสลดสังเวชที่พวกเราต่างเป็นศากยบุตรของพระองค์ องค์เดียวกัน ซึ่งเป็นความจริงแต่ชื่อ ไม่มีความจริงแฝงอยู่เลยเหมือนคนชื่อว่า พระบุญ เณรบุญ นายบุญ นางบุญ แต่เป็นคนขี้บาป หาบแต่โทษอาบัติใส่ตัวแทบก้าวเดินไปไม่ได้

ในครั้งพระพุทธกาล ท่านทําจริง จึงพบแต่ของจริง พระจริง ธรรมจริงไม่ปลอมแปลง ตกมาสมัยพวกเรากลายเป็นมีแต่ชื่อเสียงเรียงนามสูงส่งจรด

พระอาทิตย์พระจันทร์ แต่การกระทําต่ำกว่าขุมนรกอเวจี แล้วจะหาความดีความจริง ความบริสุทธ์มาจากไหน เพราะงานที่ทํามันกลายเป็นงานพอกพูนกิเลสและบาปกรรมไปเสียมาก มิได้เป็นงานถอดถอนกิเลสให้สิ้นไปจากใจ แล้วเป็น
วิสุทธิ์อุโบสกขึ้นมาได้อย่างไร

บวชเอาแต่ชื่อเสียงเพียงว่าตนเป็นพระเป้นเณร แล้วลืมตัวมัวแต่ยกย่องตนเป็นผู้มีศีลมีธรรม และศีลธรรมอันแท้จริงของพระของเณรตามพระโอวาทของพระองค์แท้ๆ นั้นคืออะไร ก็ยังไม่เข้าใจกันเลย โอวาทปาฎิโมกข์ท่านสอน อย่างไร นั้นแลคือองค์ศีลองค์ธรรมแท้ ท่านแสดงย่อเอาแต่ใจความว่า

การไม่ทําบาปทั้งปวงหนึ่ง การยังกุศลให้ถึงพร้อมหนึง การชําระจิตใจของตนให้ผ่องแผ้วหนึ่ง นี่แลเป้นคําสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
ลําดับต่อไปท่านแสดงเรื่องศีล สามธิ ปัญญา ตลอกวิมุตติ หลุดพ้นอย่างเต็มภูมิ และเปิดเผยไม่ปิดบังลี้ลับอะไรเลยในวันนั้น

ตอนสุดท้าย ท่านกล่างว่า "กัณฑ์นี้เทศน์ซ้ำเฒ่า ต่อไปจะไม่ได้เทศน์ทํานองนี้อีก" จากนั้นมาหลวงปู่ก็ไม่ได้เทศน์ทํานองนี้อีกเลย ทั้งเนื้อธรรมและการแสดงนานๆเช่นนั้น หลังจากนั้นอีกหนึ่งเดือนท่านก็เริ่มป่วย กระเสาะกระแสะ เรื่อยมา จนถึงวาระสุดท้ายแห่งขันธ์

 

satu satu satu

 

หลานศิษย์ กราบนมัสการพระอาจารย์ใหญ่ เจ้าค่ะ (-/|\-)

แม้ยังไม่ถึงซึ่งพร้อมในธุลีที่สอนสั่ง แต่จะหมั่นเพียรสร้างต่อไปไม่ท้อถอย ขอกุศลกรรมที่ได้สร้างไว้เป็นปัจจัยหนุนส่งให้ถึงฝั่ง ดังที่ปรารถนาอีกแรงเทอญ



.

 

กราบ กราบ กราบ หลวงปู่มั่น แม่ทัพธรรมกรรมฐานครับ
อนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ด้วยครับ

 

ขออนุโมทนา..สาธุค่ะ..

 

อนุโมทนา...สาธุ ขอบุญทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้ทำมาตั้งแต่กาลก่อนจนถึงปัจจุบันกาล จงช่วยหนุน นำทางข้าพเจ้าให้ถึงพระนิพพานด้วยเถิด

 

อนุโมทนา ขอบคุณครับ
ขอติงเรื่องการพิมพ์คำผิดนิดหนึ่งนะครับ คำบางคำพิมพ์ผิดไป ความหมายมันก็เปลี่ยนไปน่ะครับ

 

กราบนมัสการท่านหลวงปู่มั่นเจ้าค่ะ ร่วมอนุโมทนาอย่างสูงเจ้าค่ะ

 

อนุโมทนาครับ<!-- google_ad_section_end -->

พระเครื่อง | เครื่องรางของขลัง | ข่าวพระเครื่อง | บทความพระเครื่อง | ฝากรูป<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

ครูบาอาจารย์จะกราบทางกาย หรือกราบทางจิตก็กราบไม่เบื่อเลย

สาธุ กราบทางจิต....แจ่มนะครับไม่เชื่อลองดูครับ

 

อนุโมทนาสาธุค่ะ บังคับอะไรเราบังคับได้ บังคับความคิดตัวเองนี่มันยากเหลือเกิน แล้วเมื่อไหร่หนอจะหลุดพ้น