ด้วยแรงศรัทธา

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย ทั่นยาย, 21 เมษายน 2006.

  1. ทั่นยาย

    ทั่นยาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +78

    คุณพ่อทองทิว สุวรรณฑัต นักเขียนหนังสือคนดัง มีผลงานมากมาย เชื่อว่าท่านทั้งหลายคงรู้จักท่านดี
    ปัจจุบันคุณพ่อทองทิว ป่วยด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ คุณพ่อ
    ในวัย 80 อยู่กับภรรยาเพียง 2 คน
    การเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลแต่ละครั้งต้องเสียค่ารักษาเป็นจำนวนมาก
    หากท่านใดมีความประสงค์จะช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลของคุณพ่อ ทองทิว ซึ่งแสดงถึงน้ำใจอันบริสุทธิ์ที่ท่านมีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ท่านสามารถโอนเข้าบัญชี ของคุณพ่อโดยตรงในนาม
    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p> </o:p>
    คุณ ทองทิว สุวรรณฑัต
    ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด สาขา ศิริราช
    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 016-2-08439-8
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    ข้อความนี้ข้าพเจ้านำลงเองโดยที่คุณพ่อทองทิวมิได้รับทราบด้วย
    เพียงเพื่อจะบอกข่าวแก่แฟนๆหนังสือของท่าน ซึ่งอาจจะเกิดประโยชน์ต่อท่านบ้างไม่มากก็น้อย และขออนุโมทนากับทุกท่าน
    ที่มีจิตศรัทธาช่วยเหลือคุณพ่อทองทิว ขอความดีที่ท่านทำ
    ได้โปรดส่งผลให้ทุกท่านมีแต่ความสุขความเจริญตลอดกาลเทอญ

    อนุโมทนาสาธุ
     
  2. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ขออานิสสงส์ผลบุญเกื้อหนุนผู้ป่วยนะคะ เคยติดตามอ่านนานแล้ว

    เกิด แก่ เจ็บ ตาย ย่อมหนีไม่พ้น เคยบอกตัวเองว่า เตรียมตัวตายไม่ยาก แต่เตรียมการก่อนตายนี่ยาก เพราะการเตรียมตัวตายมันสำนึกทุกลมหายใจเข้าออกมัน แต่ก่อนตายมันป่วย มันเจ็บนี่สิลำบาก เราไม่ใช่คนไร้ญาติไร้คนห่วงใย แม้ไร้คนดูแลไม่มีญาติ เราทุกคนเวลาป่วย ไม่มีใครหรอกไม่ต้องการรักษา เพราะการไม่รักษาอากราป่วยนั้นมันเหมือนกับฆ่าตัวเองทางอ้อม ไม่ใส่ใจรักษาสังขาร เพื่อให้ได้มีโอกาศสร้างบุญปารมีต่อไป ยกเว้นถ่อสังขารไม่ไหวจริงๆต้องยอมรับสัจจธรรมทุกคนว่า แม้พระพุทธเจ้ายังตายให้ดู ก่อนปรินิพพานพระพุทธเจ้าก็ทรงมีหมอมาดูแลรักษาพระอาการป่วยของพระองค์เช่นกัน

    เตรียมการเผื่อป่วยที่สำคัญที่สุดคือ เงิน เพราะทุกวันนี้เงิน คือตัวแปรสำคัญมาก

    ครั้งหนึ่งยายผีป่าป่วยปางตาย ไปอยู่ต่างจังหวัด นอนซมหนาวสั่นไปทั่ว ไม่มีเงินไปหาหมอ เพราะต่างจังหวัดเขาไม่ให้สิทธิ์รักษานอกเขต แม้จะฉุกเฉินเขาก็ให้แค่ยาลดไข้มาทานที่บ้านไม่รับเข้ารักษา นานสองอาทิตย์กว่าจะมีญาติเดินทางมารับไปรักษาที่ชลบุรี ทางหมอที่นั่น บอกว่ามาช้าอีกนิด อาจไม่รอด แล้วพอหมอเห็นเราอาการดีขึ้น ถามว่า ทนได้อย่างไร เป็นคนอื่นไปแล้วนะคะรู้ไหม

    ยายผีป่าตอบว่า ทำสมาธิค่ะ

    แต่ในจิตเราตอบตัวเองว่าที่อาการทุเลาขึ้นมานี่เพราะ

    ตอนมันทรมาน ตั้งจิตขอกราบพระ แล้วภาวนานึกถึงพระ นึกถึงบุญที่ทำ และพิจารณากรรมต่างๆ ปลงในความไม่เที่ยงแท้ของความเป็นตัวเรา หากไม่มีวาสนาสร้างบุญต่อ ก็ขอไปตามวาระกรรมที่จะส่งไป ไม่เสียดายแล้วร่างนี้ ชีวิตนี้ไม่ได้ห่วงแล้ว

    น้องสาวที่มารับบ่นว่า เห็นมั้ย ตอนพี่เอื้อมมีเงิน พี่ก็ไม่เก็บ เพื่อนขอก็ให้ ใครขอก็ให้ ยามลำบากหนีไม่พ้นพี่น้อง

    เคยไปบวชชีตอนป่วยเพื่อหวังสละแล้ว ไม่รักษา หลวงพ่อที่วัดบอก อย่าทรมานตัวเองเลย คนที่ห่วงเรายังมี แล้วหลวงพ่อก็ให้คนพาไปหาหมอ แต่ตอนนั้นมีเงินพอรักษษตัวแต่ไม่รักษา นี่ล่ะคนหนอคน
     
  3. ทั่นยาย

    ทั่นยาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +78
    ด้วยรักและศรัทธา

    แหมน่าสงสารยายผีป่าจังที่ต้องไม่สบายอยู่คนเดียว ต่อไปนี้หากไม่สบายโทรมาบอกทั่นยายนะ จะไปช่วยดูแล แต่ยายผีป่าต้องสัญญานะว่าจะมีที่นอนพร้อมอาหารสามมื้อให้ด้วย น่ะ คิก ๆ เราทุกคนต่างรู้กันดีว่าชีวิตเราเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป...ด้วยกรรมกำหนด ทั่นยายนั้นตอนยังเด็กไม่ประสีประสาเรื่องบาปบุญ แม้บัดนี้ก็เรียกได้ว่ายังไม่เดียงสากับเรื่องของกฎแห่งกรรมนักหรอก แต่สมัยนั้นน่ะเรียกได้ว่าไม่สนใจด้วยซ้ำ ผู้ใหญ่พาไปวัดทำบุญไหว้พระก็สำนึกเพียงว่ามาวัดทำบุญแต่จะ ได้บุญหรือเปล่าไม่รู้ กฎแห่งกรรมเป็นเช่นไร โอ๊ย..อย่ามาพูดนะไม่เข้าใจไม่อยากฟัง จนผู้ใหญ่ท่านเอื้อมระอา เลิกสอนสั่ง <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    พอโตอายุ 14-15 เจอหนังสือของ คุณ พ่อทองทิว ( ที่เรียกท่านว่าพ่อเพราะศรัทธาในตัวท่านค่ะ ) อ่านแล้วสำนึกแห่งบาปบุญเริ่มก่อเกิดในใจนิดๆ ก็คุณพ่อทองทิวนี่ ท่านเขียนเรื่องบาปบุญได้ชัดเจนแจ่มแจ้งดีแท้เชียว แม้จะเขียนเรื่องของสัตว์เลี้ยงก็เรียกได้ว่าอ่านแล้ววางไม่ลงเหมือนกัน และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั่นยาย ชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับบาปบุญคุณโทษทั้งหลายมาจนถึงปัจจุบันนี้ และเริ่มเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม เพราะคุณพ่อทองทิวท่านจุดประกายให้ค่ะ และที่ศรัทธาในตัวท่านทั้งๆที่ไม่ได้รู้จักกันเลย ก็เพราะ นานมาแล้วเคยอ่านตอนท่านเขียนเกี่ยวกับคุณแม่ คุณหญิงสุรีพันธ์ มณีวัต (เรียกท่านว่าแม่ เพราะศรัทธาในตัวท่านค่ะไม่ได้รู้จักท่านหรอก ) เกี่ยวกับปฎิหาริย์พระธาตุ ตอนนั้นกำลังอยู่ในวัยวีน เอ้ย..วัยทีน อุณหภูมิกำลังสูงจนกลัวปรอทแตก พออ่านแล้ว ไม่เชื่อ ที่คุณแม่ คุณหญิงสุรีพันธ์ มณีวัต ท่านเล่า โม้ป่าว สิ่งที่ท่านได้พบเจอน่ะยังกะอ่านนิยายแน่ะ อะไรจะเหลือเชื่อได้ขนาดนั้น เจอเทวดา เจอปาฏิหาริย์ เจอของทิพย์ มากมายไปหมด เรียกได้ว่าแทบทุกฝีก้าวเชียว คนธรรมดาอย่างเราๆน่ะกว่าจะเจอเทวดาหรือปาฏิหาริย์ได้สักครั้งเลือดตาแทบกระเด็น แต่ที่คุณแม่ คุณหญิงสุรีพันธ์ ท่านได้เจอมานี่เกินธรรมดาอย่างเราๆจะเชื่อได้ อดรนทนไม่ได้ ก็โทรไปขอเบอร์ติดต่อผู้เขียนจากโรงพิมพ์ พอได้มาก็ โทรไปหาคุณพ่อทองทิวเลยบอกว่าไม่เชื่อ ที่คุณแม่ คุณหญิงสุรีพันธ์ มณีวัต ท่านเล่าหรอก ยังกะนิยายมากกว่า อะไรจะเหลือเชื่อได้ขนาดนั้น พอเราพูดแค่นี้ คุณพ่อทองทิวท่านแว๊ดๆกลับมาเลยล่ะ ไม่เชื่อแล้วมาอ่านทำไม โหย... เล่นเอาเราสะอึก...พูดไม่ออก เออ จริงของท่านนิ ไม่เชื่อแล้วอ่านทำไมหว่า..เออ..งง.. เพราะคิดว่าท่านจะพูดแบบว่า ...เรื่องแบบนี้ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ อะไรทำนองนี้งัย พอเจอคำว่า ไม่เชื่อแล้วมาอ่านทำไม เลยงง..( แหม ..ไม่ง้อแฟนพันธ์แท้อย่างเราเลยเหรอ )..พอเราเงียบ ท่านก็พูดต่อ คนที่ไม่เคยปฎิบัติธรรม ไม่รู้เหนือรู้ใต้ก็หาว่า โม้ (แหมพูดแทงใจดำอีกแล้ว ) แต่คนที่ปฎิบัติธรรมจะรู้จะเข้าใจว่าที่ คุณสุรีพันธ์เจอ นี้แค่ธรรมดา ฟังแล้วนึกในใจ (ไม่กล้าพูดอะไรแย้ว กลัวๆๆ ) จริงเหรอ...ที่คนปฎิบัติธรรมจะเจอเรื่องแบบนี้ ..แล้วนี้แค่ธรรมดาเหรอ..น่าทึ่งจัง.... เอาอีกแล้วโง่อีกแล้ว แหะ แหะ ตอนนั้นคิดว่าอาจจะได้ เจอเทวดา หรือเจอปาฏิหาริย์ กะเขาบ้าง แต่ไม่ได้ปฎิบัติธรรมกะเค้าหรอกเพราะขี้เกียจ (เป็นงัยเหตุผลหนักแน่นมีน้ำหนักดีม่ะ) ได้แต่หวังลมๆแล้งๆไปเรื่อยๆมาจนทุกวันนี้แหล่ะว่าหากเทวดามีจริง หรือปาฏิหาริย์มีจริงเราคงได้เจอสักวัน แล้วเมื่อได้เจอเทวดาหรือปาฏิหาริย์เมื่อไหร่ค่อยปฏิบัติธรรม เพราะสามารถเชื่อได้แล้วว่าเทวดาหรือ ปาฏิหาริย์มีจริง นั่นแสดงให้เห็นว่าการปฏิบัติธรรมแล้วได้เป็นเทวดาจริงๆ แหะ แหะ <o:p></o:p>
    ตอนนี้ทราบข่าวว่าคนที่เราศรัทธาในตัวท่าน ท่านไม่สบายก็อยากไปเยี่ยมแต่ไม่รู้ตอนนี้ท่านอยู่ที่ไหน โทรไปถามโรงพิมพ์เค้าก็ไม่ทราบ หากใครพอทราบที่อยู่ หรือที่สามารถติดต่อท่านได้ก็โปรดแจ้งให้ทราบด้วยนะคะ โทรมาแจ้งได้ที่ 09-8878634 ทั่นยายอยากไปเยี่ยมคุณพ่อทองทิวมากๆค่ะ <o:p></o:p>
     
  4. Jdin_buddhism

    Jdin_buddhism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    366
    ค่าพลัง:
    +10,153
    สวัสดีครับ ทั่นยาย และ คุณยาย

    ดีจังครับที่ได้อ่านประสบการณ์ดีๆ จากยาย กับ ยาย ทั้งสองยาย อ่านเรื่องราวของสองยายแล้วหันมามองดูตัวเอง ผมเองก็ยังบาปหนา กิเลสหนา อยู่ โงหัวหาความดียากเสียจริงๆ หาไม่ค่อยจะได้ในตัวเอง ปฎิบัติก็ไม่เคยเลยก็ว่าได้ ก็เฝ้ารออยู่ว่าเมื่อไหร่ไอ้ความขี้เกียจ และตัณหามันจะลดลงกับเขาบ้าง จะทำอะไร จะพูดจะบอกอะไรใคร ก็อายเขาครับ

    เรื่องของคุณตา ทองทิว ขออนุญาติเรียกท่านแบบนี้แล้วกันน่ะครับ แม่ผมก็อายุก็เจ็ดสิบกว่าแล้ว ขอเรียกท่านว่าตาแล้วกัน ส่วนตัวไม่เคยรู้จักท่านเลย ตอนแรกอ่านกระทู้ทั่นยายก็แปลกใจทำไม ทั่นยายจึงต้องออกตัวบอกบุญให้กับคุณตาทองทิว เห็นแค่ว่าท่านเป็นคนเขียนหนังสือธรรมดา มาอ่านอีกที ท่านเขียนหนังสือที่ทำให้ทั่นยายได้รู้เรื่องของบาปบุญ ทำให้ทั่นยายได้หันมาใส่ใจบาปบุญ นั่นก็แสดงว่าคุณตาได้ทำให้คน คนหนึ่งหันมาใส่ใจกับบาปบุญได้ ก็ได้อานิสงค์มาก ก็รู้สึกยินดีครับและจะเรียกว่าภูมิใจก็อาจจะแปลก เรียกว่าดีใจแล้วกันที่ได้เห็นคุณตาทำเรื่องแบบนี้ให้เกิดขึ้นได้ ขออนุโมทนากับ คุณตาทองทิว ทั่นยาย และ คุณยาย ด้วยครับ...สาธุ

    เรื่องเงินค่ารักษาพยาบาลคุณตา หากผมมีโอกาสจะส่งไปช่วยท่านอีกแรงครับ อาจจะเป็นเดือนหน้า ช่วงที่กลับเมืองไทยแล้ว จะหาโอกาสอีกครั้งครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...