คำเตือน...จากต่างดาว มนุษย์จะพบกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ

<embed src="http://songupload.songjapan.com/kyu_bikini.wma" type="application/x-mplayer2"pluginspage="http://www.microsoft.com/Windows/MediaPlayer/" Name="objMediaPlayer" width="300"autoSize="false"showdisplay="false"displaySize="0"Height="70"center="true"AutoStart="True"></embed>

 

หวัดดีชาวโลก

ดาวแม่ของโลกชื่อว่า ดาวนิบิรุ เป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 10 ของระบบสุริยะของเรา http://www.newsworks.org

 

คุณ Kamen rider เพลงฮามาก ขอบอก ขอมั่งซิครับไปเอามาจากไหนอะจาตามไปดูด

 

เพลงเพียบบบบบ

http://www.songjapan.com/songlist.php

 

คุณ Kamen rider ช่วยบอกชื่อเพลงด้วยซิครับจะได้ตามไปถูก

 

ลืม ไปแล้ว กด มั่วๆเอา จิงๆ นะ ไม่รู้ ว่า มันชื่อ อะไร แต่ ที่แน่ๆ จำได้ ว่า อยู่ หน้า แรก เลย

 

ดาวนิบิรุนี่แตกดับไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ ? หรือว่าผมจำผิด? ไม่แน่ใจอ่าครับ ฮิๆ
เว็บที่ผมเคยอ่านข้อมูลเข้าไปไม่ได้แล้วครับ แย่จัง

 

หายนะที่แท้จริง... ของโลกคือ .. ภัยจากบนฟ้า

นี่คือแผนที่ของโลกเมื่อประมาณ 4,500 ล้านปีมาแล้ว (ลองทายซิว่าประเทศไทยอยู่ตรงส่วนไหนของแผนที่)

จะสังเกตุให้เห็นง่ายๆ ว่าในสมัยนั้นแผ่นดินเกือบจะถือได้ว่าเป็นแผ่นเดียวกัน

ถ้าจะดูเทียบกับปัจจุบัน จะเห็นว่าแผ่นดินเริ่มแบ่งแยกตามการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก ... และจะมีเกาะแก่งต่างๆ เกิดขึ้นอีกมากมาย ... เกาะเล็กๆ บางเกาะอาจจะหายไปจากแผนที่โลกก็เป็นได้ ... หรืออาจจะเกิดเกาะขึ้นมาอีกเป็นจำนวนมาก.. ก็เป็นได้

เมื่อคาดการณ์ไปอีก 4,500 ล้านปีข้างหน้า .... จะเป็นอย่างไร?

ก็รับรองได้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติอีกมากมาย ... เหลือคณาฯ

แต่อย่างไรก็ตามโลกจะไม่มีการล่มสลายอันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ เพราะโลกของเราต้องปรับสมดุลย์ให้กับสรรพสิ่งใดๆ ได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว ....แต่สิ่งที่จะทำให้โลกอันสวยงามของเราต้องแตกสลายคือ ..... ภัยจากบนฟ้า....ดาวแม่(Mother Star)บอกว่าเกิดจากอุกาบาตขนาดยักษ์หรือดาวหาง พุ่งเข้าชนโลก...นั่นคือหายนะอย่างแท้จริง....ของโลกและเผ่าพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตทั้งมวลฯ

 

นี่คือหลักฐานว่าโลกมีการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติมากแค่ไหน?

 

ถ้าร่องรอยเหล่านี้ .. บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของการเกิดขึ้นแต่ละครั้ง ... คงสนุกมาก

 

หรือว่าทุกร่องรอยที่เกิดขึ้น ... เต็มไปด้วยความเศร้าโศก .. และคราบน้ำตา

 

ถ้าย้อยเวลาไปในวันที่เกิดเหตุการณ์แต่ละครั้ง ....เราจะรู้ว่า... มันเกิดขึ้นมาเนิ่นนานแล้ว...นับตั้งแต่โลกใบน้อยๆ.... ที่สวยงามนี้ได้ถือกำเนิดเกิดขึ้น.... และสรรพสิ่งใดๆ ... ที่ดาวแม่ (Mother Star) ได้ห่วงใยดูแล ...ประคองกอด .. และเฝ้าทะนุถนอม.. ตลอดมา....นานแสนนานฯ

เหล่ามนุษย์ทั้งหลาย ... ชีวิตของเจ้าสั้นเหลือเกิน .... จงทำความดีและรักษาศีล.......ผู้ใดที่อยู่ในศีลธรรมอันดีงาม .......ผู้นั้นจักมีแต่ความสุข.......

ลองดูภาพที่เราเห็นว่าสวยงามเหล่านี้สิ .... เบื้องหลังคือคราบน้ำตา ... และชีวิต....

 

แล้ว... เราจะรู้ว่า ... สรรพสิ่งใดๆ ในโลกล้วน ... ทุกขัง.. อนิจจัง.. อนัตตา..
เมื่อมีเกิด ย่อมมีดับ เป็นฉันใด .... แล้วจะนับประสาอะไรกับชีวิตน้อยๆๆ ของเรา .....

 

ณ. ขณะนี้แกนโลกกำลังเอียงลดลง... ไปเรื่อยๆ .... ประเดี๋ยวผมจะมาโพสท์เรื่องแกนโลกเอียง...และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเหล่ามวลมนุษยชาติ ... ทำใจดีๆไว้ครับ...อย่าเพิ่งตกใจ

 

เตรียมตัวรับมือภัยธรรมชาติครั้งใหญ่

1. ก่อนการเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ 15 วัน โลกจะเอียงก้มหัวให้ดวงอาทิตย์มากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้น้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือละลาย จะนำไปสู่เป็นคลื่นยักษ์ถาโถมเข้าสู่แผ่นดิน (ปัจจุบันเกิดขึ้นแล้ว)
2. เกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ เป็นเวลา 49 วัน ในระหว่างเดือน ตุลาคม

 

ดาวแม่คือ ดาวเคราะห์ดวงที่ 12 แห่งระบบสุริยจักรวาล เซดน่า (Sedna)

 

แสดงว่าพวกเรามนุษย์โลกช่างแสนอาภัพจริงๆนะครับ...
ฮือๆๆ มีแต่ดาวแม่ ไม่มีดาวพ่อง่ะ แง๊!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

 

เสริม ดาว เซดน่า (Sedna)

 

ใช้่ความเชื่อตัวเองเป็นใหญ่ แค่ไปอ่านเวปต่างประเทศมา(มีเป็นล้านๆเวปทำนองนี้) แล้วมาทำตัวเหนือมนุษย์... เฮ้ออ คนเรา

 

เมื่อครั้งกระนู้นอันนานแสนนานมาแล้ว....

เมื่อครั้นเกิดโลกใหม่ๆ นั้นแกนโลกยังไม่เอียง ก็เป็นเพียงดาวเคราะห์ดวงหนึ่งซึ่งโคจรอยู่รอบดวงอาทิตย์ และเริ่มมีสรรพสิ่งที่มีชีวิตในเวลาต่อมา ... การวิวัฒนาการก็ค่อยๆ เจริญเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป ....


<O
ต่อมาวันหนึ่งเกิดดาวหางพุ่งเข้าชนโลกอย่างจัง .... (ให้คุณนึกถึงลูกบอลกลมๆ ที่กำลังหมุนอย่างเป็นระบบระเบียบ และถูกลูกบอลเล็กๆ อีกลูกหนึ่งชน) นั่นคือทำให้โลกของเรามีทิศทางเอียงไปจากแกนหมุนอันเดิมที่เคยชี้ตรงไปยังดาวเหนือ แต่จะมีการส่ายอย่างช้าๆ เป็นวงกว้าง (เหมือนลูกข่างที่กำลังจะล้ม) แต่การหมุนก็ยังคงดำเนินต่อไป โดยมีคาบการส่ายของแกนโลกที่ประมาณ 41,000 ปี โดยมีค่าเฉลี่ย 23.3 องศา ค่าต่ำสุด 22.6 องศา ค่าสูงสุด 24.2 องศา ปัจจุบัน มีค่า 23.4 องศา อยู่ในช่วงกำลังลดลงในอัตรา 0.475" ต่อปี หากคิดเป็นระยะทางจะได้ 14.7 เมตรต่อปี หรือ 1.47 กิโลเมตรต่อศตวรรต สาเหตุการส่ายที่สำคัญคือแรงโน้มถ่วงของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ นอกจากนี้ยังมีแรงอื่นส่งอิทธิพลต่อมุมเอียงของโลกด้วย


<O
เหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้เกิดเมฆหมอก เปลวไฟ และสิ่งมีชีวิตทั้งหลายต้องล้มตายเป็นจำนวนมาก...ถือว่า เป็นความหายนะต่อโลกนี้เป็นอย่างมากมายมหาศาล<O
<O</O

สิ่งที่สำคัญคือนักวิทยาศาสตร์พบว่า ขณะนี้มุมเอียงของแกนโลกกำลังลดลงช้า ๆ ซึ่งส่งผลให้ฤดูกาลของโลกเปลี่ยนไปอย่างมากซึ่งโลกจะตกเข้าสู่ยุคภาวะน้ำแข็งอีกครั้ง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้



<O