ขอรบกวนท่านผู้รู้เรื่องศีล ๘

สวัสดีครับ...


คือว่า..วันนี้วันพระ แล้วผมได้ อาราธนาศีล ๘ และ เพิ่งสวดมนต์ เสร็จเมื่อครู่นี้


ผมยัง งงๆ กับ ศีล ข้อที่๗ ครับ ว่า...


เรา สามารถใช้โฟมล้างหน้า ได้มั๊ยครับ

แต่ครีมบำรุงผิวหน้า และ ครีมนวดผม อันนี้ผมรู้ว่าใช้ไม่ได้แน่นอนครับ


และวันนี้ผมเพิ่งถือศีล๘ เป็นครั้งแรกในชีวิต

หลังจากที่ผมสวดมนต์เสร็จ ผมก้พลั้งเผลอไปร้องเพลง ไป 2-3 คำครับ


แต่ว่า สติ ก็ได้เตือนผมครับว่า ร้องเพลงไม่ได้

ผมก้เลยรู้สึกผิดครับ....แต่ว่าวันนี้ผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำ

เพราะ ฉะนั้น ผมจะไม่ให้ความรู้สึกผิดนี้เข้าครอบงำ จิตใจผมในวันนี้ครับ

แต่ผมจะตั้งใจว่า เวลาที่เหลือในวันนี้ ผมจะรักษาศีล๘ ให้สมบูรณ์ที่สุดครับ





รบกวนท่านผู้รู้ ช่วยบอกกล่าว ให้ผมเข้าใจทีนะครับ...สาธุ

ขอขอบพระคุณ และ กราบอนุโมทนากับผู้ที่บอกกล่าวไว้ล่วงหน้าด้วยครับ

 

อนุโมทนาสาธุ ในความตั้งใจนะ
ถ้าไม่มีบุญมาจากชาติปางก่อน ไม่มีใครเขาคิดแบบนี้หลอกนะ
ในเมื่อตั้งใจทำแล้ว แล้วมีคนมาอนุโมทนาบุญให้แล้ว
จะได้มีกำลังใจทำ ถ้าวันไหนวันพระเกิดคิดว่าไม่อยากจะทำ
ก็จะรุ้สึกว่า เรานั้นผิดศิลไปหลอกลวงชาวบ้านว่าจะรักษาทุกวันพระ
ฉนั้น เมื่อตั้งใจรักษา ก็ขอให้ประสบกับความเจริญในธรรมด้วยนะครับ
และอย่าให้กิเลสมาหลอกให้ท่านกลัวในความดีนะครับผม..

 

วันนี้วันพระเจก็ตั้งใจถือศีล 8 ให้บริสุทธิ์ที่สุดเหมือนกันค่ะ
ยอมรับเลยว่ากิเลสเยอะจิงๆ
แต่เราตั้งใจแล้วต้องทำให้ได้

การใช้โฟมล้างหน้า
เป็นการชำระล้างร่างกาย...น่าจะได้ ไม่แน่ใจเหมือนกัน
แต่เจตนาแค่ชำระล้างไม่ได้เพื่อความสวยงาม...อันนี้ขอผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยค่ะ

จำได้วาครั้งแรกก็มีคิดถึงเพลงในใจ พอรู้รีบหยุดเลย
ตอนนี้นึกถึงเพลงแผ่เมตตาตลอด ^^

 

ขอบคุณที่ให้กำลังใจนะครับ




แต่ขอรบกวนผู้รู้ มาบอกหน่อยนะครับ

เพื่อชี้ทางสว่างและกระจ่างใจครับ




สาธุ ครับ

 

ศีลแปลว่าปรกติ ไม่ใช่ข้อห้าม
ศีลห้า ไม่สมาทาน ล่วงไปก็ผิด
ศีลแปด ศีลอุโบสถ สมาทานก่อน ล่วงไป จึงผิด

รักษาศีล ให้เข้าใจ ว่าศีลแปด คือการตั้งใจไม่ข้องแวะกามคุณนั่นเอง
เข้าใจ พิจารณาแต่ละข้อดูดีๆ ว่าสมาทานไปแล้ว เป็นไปเพื่อประโยชน์อันใด
กล่าวคือ มันเป็นภาวะที่สะดวกต่อการประพฤติ ประฎิบัติมากกว่าศีลห้านั่นเอง
จะล่วง ขาดหรือไม่ คุณดูใจคุณเองแล้วกัน ว่ามันเป็นไปเพื่ออันใด
วัตถุ สิ่งของที่เราบริโภคเข้าไป มันเกาะเกี่ยว มีอิทธิพลต่อใจไหม
เป็นไปเพื่อการปรุงแต่งตนให้ดูดีเพื่อเย้ายวนทั้งตนและคนอื่นให้หลงใหลหรือไม่
ถ้าไม่ ก็ดีแล้ว โมทนาสาธุ ถ้ายังเป็นอย่างนั้นอยู่ ก็หมั่นย้อน พิจารณาให้มากจนคลายความหลง ผมไม่ชี้ขาดว่าได้ หรือไม่ได้ เพราะของสิ่งเดียวกัน แต่กับต่างบุคคล มันก็มีผลไม่เหมือนกัน คือความมีผลต่อใจนั่นเอง

การรักษาศีลเป็นสิ่งที่ดี เป็นบาทฐาน ให้เกิดสมาธิและปัญญา แม้หมั่นตรวจตรา
พิจราณาเรื่องศีล ข้อวัตรที่ตนรักษา ก็ยังเป็นการละลึกเป็นอนุสติ คือศีลานุสตินั่นเอง ส่วยจักได้ประโยชน์เท่าใดนั้น ก็แล้วแต่บุคคล แต่จนที่สุด ก็คือทำให้ถึงมรรค ผล นิพพานได้นั่นเอง

 

สาธุอนุโมทนาค่ะ

คุณSERAPHIM อธิบายถูกต้องค่ะ

 

โฟมล้างหน้า ... ถ้าใช้เพื่อชำระล้างใบหน้า ไม่ผิดครับ

แต่ ถ้าใช้เพื่อให้ผิวหน้านุ่มนวล เพื่อบำรุงผิวหน้า ... ผิดครับ

ส่วนเพลงที่เผลอร้อง

ต้องระวังเพราะศีล ๘ อุโบสถ ถ้าขาดเพียงข้อเดียว ข้ออื่น ๆ ก็จะขาดไปด้วย

ศีล ๘ ต่างจากศีล ๘ อุโบสถ


.

 

ขออนุโมทนากับคุณเป็นที่สุดค่ะ
ครูบาอาจารย์บอกว่า
"ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน"
"เจตนานั้นแหละเป็นกรรม"
หากว่าไม่ใช่เจตนา การเผลอร้องเพลง ซึ่งขาดเจตนา คิดว่าศีลยังไม่ขาดนะคะ เพียงแต่ด่างพร้อยไป
การใช้โฟมล้างหน้าก็คล้ายกับการใช้สบู่และยาสระผม ขึ้นอยู่กับเจตนาเหมือนกัน ถ้าคุณอยากสบายใจ ก็ลองหาโฟมที่มีกลิ่นหอมอ่อนหรือไม่มีกลิ่นมาใช้นะคะ

ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ

 

ผมก็เห็นว่าไม่ผิดครับ แต่ลองพิจารณาดู จำเป็นมากน้อยแค่ใหน ไม่ใช้ได้หรือไม่

 

ขอบพระคุณนะครับ

ที่ให้กำลังใจผม

 

แรกจะยาก พอเริ่มมีสติ ทุกอย่างจะชินเอง
อนุโมทนาด้วยจ้าที่เริ่มตั้งใจรักษาศีล8

 

อนุโมทนาในบุญนี้นะครับ
ผมก็เจอแบบนี้เหมือนกันเลย = ="

เรื่องร้องเพลงเนี่ย แต่ผมร้องไปได้ตั้งท่อนสองท่อน สติถึงจะกลับมาเตือนได้T^T


ขอถามท่านผู้รู้ด้วยนะครับ
คือผมอยากรู้ว่า งดเว้นจากการดูสิ่งบันเทิง รวมถึงการดูหนังมั้ยครับ

 

หนัง ภาพยนตร์ ... เป็นการแสดง การละเล่น เป็นการสร้างความบันเทิงใจ

ดังนั้น ถ้าดูเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ แก้เครียด คลายเหงา ... ก็ดูไม่ได้ ควรงดเว้น

 

วิธีการรักษาศีล
โดย หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ
วัดป่าบ้านค้อ
ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี


ศีลข้อที่ ๗ นัจจคีตวาฑิตะ-มาลาฯ

ตามปกติแล้วเป็นศีลคนละข้อกัน แต่นักปราชญ์เจ้าทั้งหลายพิจารณาเห็นสมควรเอามารวมกัน วิธีรักษาก็ใกล้เคียงกัน การรักษาศีลข้อนัจจคีตวาฑิตะฯ นั้น ห้ามมีการเล่นเพื่อความเพลิดเพลิน ให้เกิดความสนุกสนานร่าเริงอันเป็นเหตุเกิดความลืมตัว เช่น ร้อง รำ ทำเพลง ดีด สี ตี เป่า เป็นต้น


คำว่า ร้อง คือตะโกนเสียงยาวๆ ทำเป็นเสียงเล็กเสียงใหญ่ เรียกว่าร้องโห่
คำว่า รำ คือ เต้นรำในท่าต่างๆ หรือรำเป็นบทเป็นกลอน เพื่อความสนุกเพลิดเพลินหรือเรียกว่าหมอลำ
คำว่า ทำเพลง คือร้องเพลงในบทเพลงต่างๆ ที่เห็นกันในที่ทั่วไป
คำว่า ดีด คือดีดพิณหรือกีตาร์
คำว่า สี คือสีซอ
คำว่า ตำ คือ ตำฆ้อง ตีกลอง ตีระนาคฆ้องวง เป็นต้น
คำว่า เป่า คือ เป่าขลุ่ย เป่าแคน เป่าปี่ หรือเป่าอะไรก็ตาม
ถ้าเพื่อความเพลิดเพลินไม่ได้เลย ข้อห้ามในศีลข้อนี้ คือห้ามทำอะไรเป็นสื่อเพื่อความสนุกรื่นเริงนั่นเอง



บทข้อ มาลาคันธวิเลปนะฯ

การรักษาศีลในบทนี้ คือห้ามแต่งตัวประดับประดา ทัดดอกไม้ ทาหน้า เจิมหน้าในลักษณะต่างๆ อันเป็นสิ่งจะก่อให้เกิดความรักสวยรักงาม และหลงตัวเองว่าเราสวยอย่างนี้ เรามีความงามอย่างนั้นไป และจะก่อให้เกิดความหลงรูปกายของตัวเอง และจะทำให้ไปหลงรูปกายของคนอื่นด้วย

แต่ถ้าหากมีกิจในสังคม ที่จะต้องไปร่วมกับเขา ก็ให้รู้ว่า ปริสัญญู ในสังคมเขาแต่งตัวอย่างไร เราก็แต่งตัวไปตามนั้น เราไม่ได้ติดใจในการแต่งตัวของเรา แต่เราทำเพื่อสังคมบางครั้งบางคราวเท่านั้น การทำลักษณะอย่างนี้ศีลไม่ขาด



<!-- google_ad_section_end -->

 

วรยุทธ์การดูหนังดูละคร-ดูข่าว
๑ ต้องเห็นทุกข์เกิดอาริยญาณ (ให้เห็นว่ากรรมที่ตัวละครทำจะก่อให้เกิดผลบุญ,บาปอย่างไร)
๒ ต้องทำการปฏิบัติ (ควบคุมอารมภ์ ความคิดตัวเองไม่ให้สุข,ทุกข์ไปตามตัวละคร)
๓ อัดพลังกุศล (เห็นในความดี, ชั่วในเรื่อง แล้วตั้งใจปฏิบัติ "ดี" ที่เรายังขาดอยู่
หรือละชั่วที่เรายังมีอยู่)
๔ ฝึกฝนโลกวิทู เพิ่มพหูสูต (เพิ่มพูนความรู้ในสิ่งดีๆที่เรายังไม่รู้)

รายละเอียดต้องเปิดCD ฟังที่ท่านเทศน์

 

รักษาศีล

ถามว่าผิดไหม..อันนี้ต้องดูจิตใจ
ว่าเราทำไปเพื่ออะไร..อยากมีผิวพรรณดี..อยากหน้าตาดี
อยากดูดี..หรืออยากอื่นๆอีกมากมาย มีความอยากถือว่ายังผิดอยู่
คือทำไปด้วยตัณหา..แต่ถ้าเราพิจารณาดีๆ
ว่าใช้เป็นยารักษา..อันเนื่องมาจากสิว ฝ้าหรืออื่นๆอีกมากมาย
เพราะมันเจ็บมันปวดอันนี้ก็ว่าไป
ก่อนอื่นช่วงคิดจะรักษาศีล..ขอให้ตั้งสติให้ได้ตลอด
คิดก่อนทำใช้สติคุม..ถึงอาจพลาดบ้างเป็นเรื่องธรรมดา
อย่าพึ่งคิดว่าจะขาดไม่ขาด..มันอยู่ที่เจตนา..ถึงเราพลาดแต่เจตนาเรา
ไม่คิดล่วงละเมิด..ศีลก็ยังอยู่กับเรา..ใช้สตินำจะไม่มีผิด

ถ้าให้ดีจริงๆช่วงนั้นอย่าเพิ่งใช้จะดีที่สุด..เพราะคนปกติชอบเผลอขาดสติ

ทำอย่างไรจึงมีสติตลอด..
ลมหายใจครับ..วิธีง่ายที่สุด..ระลึกถึงลมบ่อยๆสติไม่มีขาด

สิ่งสำคัญอย่ากังวลมากไป..เมื่อรู้ว่าผิด..ขอให้นึกในใจ
ว่าเราจะตั้งใจไม่ให้ผิดซ้ำ..

 

จุดประสงค์หลักๆของศีล8 คือ
การงดจากการเสพซึ่งกามคุณทั้งหลาย
เป็นการประพฤติเยี่ยงพรหม

ยึดหลักไว้ครับ
ส่วนใหม่ๆจะเผลอทำไรไปบ้างอย่าไปกังวนมาก ทำใจให้ผ่องใสไว้ครับ

ปลาเคยอยู่ในน้ำ ถ้ามันถูกโยนขึ้นบกมันก็ต้องดิ้นเป็นธรรมดา

ธรรมะไม่ได้สอนให้เราไม่อาบน้ำ ทำตัวเหม็น ทำตัวสกปรก ทำหัวยุ่งอยู่ตลอดเวลา เสื้อผ้าไม่รีด

แต่ธรรมะสอนให้เราทำสิ่งที่ควรทำ เว้นสิ่งที่ควรเว้น เป็นสิ่งที่ควรเป็น และให้มีจิตใจที่ผ่องใสตลอดเวลา