เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ไม่ได้ ไป เยี่ยมเยียน อ.สามตา เสีย ... หลายสัปดาห์
วันนี้ นัด เจ้าแชมป์ จึงนัด ให้ไปเจอกัน ที่ บูธ อ.สามตา

ตัวกลมๆ ก็มา คุณumclenoon ก็มา คุณเห็ดหอม ขานี้ มาประจำ อยู่แล้ว
เม้าส์ กันสนั่นทุ่ง จน เกรงใจ อาจารย์ จะเสียสมาธิ ............. 55

ตอนบ่ายๆ อาจารย์ ว่าง หน่อย เห็นเดิน เข้าไปหยิบ อะไรมา ส่งให้ผมดู
นิ่มๆ อ่อนๆ อ้าว เป็นม้วนกระดาษ นี่เอง
ส่งให้ ผม ...... อ้าว ดาว จับดู ซิ...
.......... อา ไร หว่า
ทีแรก นึกว่า อ่อน นิ่มๆ ชัก ไม่ นิ่ม เสีย แล้ว

อาจารย์ ให้ถือไว้ ในมือ ทั้งสองข้าง แล้ว ทำท่า แบบ ยกน้ำหนัก...

สะบายมาก กระดาษ เบาหวิว อย่างนี้..................
พอยก เข้า จริง ๆ ........ เอ๊ะ มัน มีอะไร ประหลาดๆ ..... จะว่าหนัก ก็ไม่ใช่
แต่ ไม่ ได้ เบาๆ หรอก

ออกแรง อึ๊บ.......... ร้อน ซู่ ที่มือ เลย ...... อย่างนี้ ไม่ธรรมดา แล้วละ

ผม ยก ขึ้น ๆ ลงๆ สองสามรอบ ........ อาจารย์ บอก ให้ได้ สัก อีกสามที ก็ เก่งแล้ว
อย่างนั้น ต้อง ถอน................. ไม่ใช่ ไม่ใช่
อย่างนี้ ต้องสู้ ......... อึ๊บ 1 อึ๊บ 2 อึ๊บ 3

เฮ้อ....................... เมื่อยๆ เหมือนกัน

อาจารย์ มาเฉลย ว่า นี้ คือ ไม้เท้า หลวงปู่ดู่ นั่นเอง
แต่ เป็น ภาค จำลอง
ที่ เก็บพลัง ไว้ใน ม้วน กระดาษ ตอนที่ ไม้เท้า จริง แสดง ฤทธิ์ พลัง 3 X
ก๊อบปี้ พลัง เอาไว้

โอ้ มิน่า เล่า .........
เราไม่ ได้มา ซะ นาน ..... ตก ข่าว

ยังดี ที่ อ. เอา ของดี ดี มาให้ เรา ได้ ดู กัน ........ 55

เร็ว เท่า ความคิด
ไม่พูด ร่ำทำเพลง ........ วิ่งๆ ไป ที่ รถ
หยิบ ไม้ อะไร ที่ จำชื่อไม่ได้
แต่เป็นยา เป็นเถาวัลย์ ยาวสัก ศอก เห็นจะได้
แท่งนี้ ผม ไปได้มา จาก เขาไชยสน จังหวัดพัทลุง เมื่อสองปี ก่อน

ทีแรก เห็นคน กำลัง ทำยาดอง ตัดยา หั่นยา อยู่ เข้าไป คุย กับ เขา เห็นท่อนไม้ คล้ายท่อนพืน อยู่หลายท่อน เค้าก็ บอก เอามา ฝาน เป็นชิ้นบางๆ ไว้ผสมยา

ผม เห็นว่า ไม้ นี้ สวย มาก........ ถูกใจ จึง ขอซื้อเค้ามา

ตอนลงใต้
ไป เก็บประวัติ เรื่องราว การสร้างพระเครื่อง ของอาจารย์ ชุม ไชยคีรี
ในยุคอดีต
ตั้งแต่ ยุคต้นๆ ที่ เขาไชยสน ปี 2496 จนมาถึง ปี 2511 ที่ วัดถ้ำเขาเงิน ชุมพร
เพื่อ มาเขียนหนังสือ

ได้มาแล้ว ก็ ลืม ทิ้ง ไว้ท้าย รถ อยู่ อย่างนั้นแหละ

จนมาวันนี้ นึกได้ ............... 55
กลาย เป็น ไม้เท้า ที่ทรง อานุภาพ ไป ซะแล้ว...............

มารอ อยู่ ล่วงหน้า ตั้ง นาน 2 ปีกว่า ........
จะมาแปลงกาย เป็นไม้เท้า วิเศษ นี่เอง....55

 

แสดงว่า ไม้ของพี่ได้ถูกเตรียมการไว้ล่วงหน้าไว้ 2ปี โชคดีเลยนะคะ ไม้เลยได้ตามประสงค์
วันนี้ไม่ได้เตรียมอะไรไปมาก ไปถึงก็เห็นพี่เห็ดหอม พี่จักรพลทานข้าวก่อนที่จะเลยเวลาฉัน
เอ๊ย เดี๋ยวเลยเที่ยง อนุโมทนาบุญที่ถือศิลแปดค่ะ ได้มีโอกาสจับแว่นดูพระครั้งแรก
เลยเพิ่งรู้ว่า อันเล็กๆราคาหลายพัน แถมมีทั้งยี่ห้อ แคนอน นิคอน แบบว่าคนไม่ได้อยู่ในวงการนิ
พระแขวน ของพี่เห็ดหอม เห็นพระธาตุ 2แบบ พระองค์นึงเห็นเหมือน เป็นแท่งๆคล้ายผงชูรส
อีกองค์ส่องแล้วเหมือนหินปูนก้อนกลมเล็กๆสีขาว ยังไงๆก็ไม่ใช่ราค่ะ ขอบคุณนะคะที่เอามาให้ชม

คุณunclenonอยากมาเยี่ยมอาจารย์พร้อมกับได้วิชาล้างกายทิพย์ไปเสียอีก ได้ไปพร้อมกับ
ความงง ในชีวิต เพิ่งมาหัดนั่งสมาธิ มาเจอเรื่องพลังอีก มึนเลย จะไปเรียนก็ไม่มีโอกาส
ไอ้ป๋มก็ไม่เก่ง ก็งูๆปลาๆสอบถามพี่ๆเอา แต่ที่แน่ๆได้ดอกไม้สวรรค์ คราวนี้อาจารย์ปรับ
ตามกระแส ได้หลวงพ่อแช่มของพี่เห็ดหอม(พระแขวนยังมีพระธาตุเลย) พลังเพื่อรักษาโรค
โดยเฉพาะอาการไอ ภูมิแพ้ โรคหวัด2009ด้วย ทันสมัยจริงๆ อิอิ ถ้าเห็นอาจารย์
เอาผ้าพันคอไว้ทั้งที่ไม่ได้หนาวเลย ผืนนั้นอัดพลังรักษาไว้ค่ะ วันนี้เลยไม่เห็นอาจารย์ไอแค้กๆ
ตอนตรวจพลังคนอื่น สวัสดีคุณsid2นะคะยังไม่ได้กล่าวทักทายเป็นทางการ

ส่วนคุณแชมป์และพี่ดาวทะเลทราย มีอะไรมาให้ดู แถมไปลองถ่ายออร่าที่อื่นต่อเสียอีก
ง่ะ ป๋มบ่จี๊อะค่ะ รูปเดียว8ร้อย ถ่ายแล้วจะไ้ด้เล่าให้น้องๆฟังบ้าง พอดี2ท่านนี้เป็นศิษย์พี่พลังยูเรอัส
เลยต้องคอยเกาะแข้งเกาะขาเอาความรู้ 555555

 

รูปนี้มีเรื่องราวเป็นอย่างไร ขอเอาเรื่อง แม่กาเผือก พระมารดาของพระพุทธเจ้า 5พระองค์
ในภัทรกัปนี้ มาเล่าสู่กันฟังนะคะ(ปูให้อาจารย์ ตามเคยค่ะ) เล่าสั้นเดี๋ยวบางคนงง

ในสมัยต้นปฐมกัปมีพญากาเผือก ๒ตัวผัวเมีย ทำรังอยู่ที่ต้นมะเดื่อริมฝั่งแม่น้ำคงคา ในเวลา
ต่อมาพระโพธิสัตว์ได้ทรงปฏิสนธิในครรภ์ แม่พญากาเผือกพร้อมกันถึง ๕ พระองค์ เมื่อครบ
ทศมาสก็ออกไข่ในรังต้นมะเดื่อจำนวน ๕ ฟอง แม่กาเผือกคอยเฝ้าฟักดูแลรักษาไข่ ด้วยความ
ทะนุถนอมเป็นอย่างดี

อยู่มาวันหนึ่งพญากาเผือกได้ออกไปหากินถิ่นแดนไกล แม่กาเผือกได้เพลินหากินอาหาร
จนมืดค่ำ พอดีฝนตกฟ้าคะนองพายุใหญ่พัดกระหน่ำ บรรยากาศมืดครึ้มไปทั่ว ทำให้พญากาเผือก
หาหนทางออกไม่ถูก หลงในบริเวณนั้นคืนหนึ่ง พอเช้า แม่กาเผือกจึงรีบบินกลับรัง แต่กิ่งไม้
ที่ทำรังอยู่ได้ถูกพายุใหญ่ พัดหักลงไปในแม่น้ำ แม่กาเผือกตกใจ หาไข่ตนเท่าไหร่ก็ไม่พบ
ด้วยความโศกเศร้าเสียใจเป็นที่สุด เลยตรอมใจตาย

(รูปที่วัดเวียงกาหลง(สถานที่แม่กาหลงป่า) ต.เวียงกาหลง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย)

ด้วยอานิสงส์ที่มีความเมตตารักลูก กับทั้งลูกของแม่กาเผือกเป็นโพธิ์สัตว์ถึง ๕ พระองค์
จึงส่งให้แม่กาเผือกไปเกิดอยู่แดนพรหมโลกชั้นสุทธาวาส มีวิมานทองคำสดใสบริสุทธิ์งดงาม
ได้พระนามว่า “ ฆติกามหาพรหม ” (บ้างก็ว่า นวกาพรหม)

ส่วนไข่พญากาเผือกทั้ง ๕ ได้ถูกลมพัดตกน้ำไหลไปในสถานที่ต่างๆ ได้มี แม่ไก่ แม่นาค แม่เต่า
แม่โค และแม่ราชสีห์ แยกเก็บเอาไปเลี้ยง

ครั้นในกาลเวลาต่อมา พระโพธิสัตว์ ทั้ง ๕ ก็ประสูติออกจากไข่ ปรากฏเป็นมนุษย์ ไม่ได้เป็นกา
เจริญเติบโตอยู่กับแม่เลี้ยง และได้ทดแทนบุญคุณแม่เลี้ยงเป็นอย่างดี จนถึงอายุได้ ๑๒ ปี บุญเก่า
หนุนส่ง จึงได้อำลาแม่เลี้ยงออกบวชเป็นฤๅษีอยู่ในป่า

แม่เลี้ยง ทั้ง ๕ เห็นปณิธานอย่างนั้นจึงตั้งนามไว้ให้ลูก เพื่อเป็นตำนานต่อไป จนตรัสรู้เป็นพุทธเจ้า
โปรดโลก ตามลำดับพระนามดังนี้

องค์ที่ ๑ พระกกุสันโธ ..................................แม่ไก่
องค์ที่ ๒ พระโกนาคมโน(โก-นา-คะ-มะ-โน)..........แม่ นาค
องค์ที่ ๓ พระกัสสโป................................... แม่เต่า
องค์ที่ ๔ พระโคตโม....................................แม่โค
องค์ที่ ๕ พระเมตเตยะ (เม-ตะ-เต-ยะ).................แม่ราชสีห์


(นะ โม พุท ธา ยะ เป็นคาถามาจากพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์)

ฝ่ายพระโพธิสัตว์ทั้ง ๕ พระองค์ เมื่อออกบวชเป็นฤๅษีได้บำเพ็ญเพียรพระกัมมัฏฐานจนสำเร็จ
ญาณอภิญญาบัติ สามารถเหาะหาอาหารผลไม้ ด้วยฤทธิ์ทุกพระองค์ อยู่มาวันหนึ่งได้เหาะไปหา
อาหารผลไม้และบำเพ็ญเพียรธรรมที่ป่าดอยสิงกุตตระ ณ ใต้ต้นนิโครธ(ไทร) ทั้ง5จึงได้มาพบกัน
เมื่อได้สอบถามความเป็นมา จึงได้รู้ว่าแต่ละองค์ล่วนมีแต่แม่เลี้ยง ไม่มีแม่แท้ๆเหมือนกัน

ฤๅษีทั้ง ๕ จึงร่วมกัน ตั้งสัจจะอธิษฐานขอให้พบแม่บังเกิดเกล้าที่แท้จริง ด้วยอำนาจสัจจะอธิษฐาน
อันบริสุทธิ์ ทำให้คำขอดังก้องไปถึงพรหมโลก เป็นเหตุให้ ท้าวฆติกามหาพรหม ได้แปลงกายกลับไป
เป็นแม่กาเผือก และเดินทางมาเล่าความเป็นมา แต่หนหลังให้ฟัง

ฤๅษีทั้ง ๕ ได้ทราบถึงความเป็นมาทั้งหมด ก็รู้สึกสังเวชใจและสำนึกในบุญของแม่กาเผือก จึงกราบ
ขอสัญลักษณ์อนุสรณ์ของแม่กาเผือกเอาไว้บูชา แม่กาเผือกจึงประทานผ้าฝ้าย เป็นด้ายฟั่นเป็น
ตีนกา ไว้ใช้เป็นไส้ประทีป จุดบูชาทุกวันพระ และต่อมาเป็นประเพณีจุดประทีปตีนกา บูชาแม่กาเผือก
ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ เป็นตำนานลอยกระทง สืบมา


ฤๅษีโพธิสัตว์ทั้ง ๕ ต่างก็พากันตั้งหน้าบำเพ็ญเพียร รักษาศีล ภาวนาธรรมมิได้ขาด ทุกวันพระก็จุด
ประทีปตีนกาบูชาพระแม่กาเผือก ฆติกามหาพรหม ผู้เป็นแม่อยู่เสมอ เป็นเวลานานหลายปี ชีวิตฤๅษี
ทั้ง ๕ ก็ดับขันธ์ ได้ไปเกิดบนเทวโลกชั้นดุสิตพิภพ อันเป็นที่อยู่ขององค์เทพพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย
ได้เสวยทิพยสมบัติอยู่ในที่นั้น และในกาลต่อมาก็วนเวียนกิดในสังสารวัฏนี้ ทุกภพทุกชาติได้บำเพ็ญ
บารมี เมื่อบารมีเต็มเปี่ยมครบ 30ทัศ ก็เสด็จมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า

จนถึงปัจจุบันนี้ พระโพธิสัตว์ลูกแม่กาเผือก ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า โปรดโลกไปแล้วถึง ๔ พระองค์
องค์สุดท้ายของกัปนี้ คือ พระศรีอริยเมตไตรย์(พระเมตเตยะ) ที่จะต่อจากศาสนาของพระพุทธเจ้า
โคตมะโคดม องค์ปัจจุบันนั่นเอง

เล่ามาถึงตอนนี้ คนที่อ่าน ก็คงได้ทราบว่า รูปที่อยู่บนสุดเป็นรูปแทนของพระพุทธเจ้าองค์ใดบ้าง
ส่วนพระศรีอาริย์นั้น ในรูปยังทรงชุดเทวดาอยู่ รอเวลาที่จะตรัสรู้เป็นพุทธเจ้าในกาลต่อไป

ขอบคุณ เรื่องและรูป ที่มาจาก �������Ҫ��ä�ٺӹҭ �.�ҧ�� �.��§����
�Ҿʶҹ�����⾸��ѵ����5͸԰ҹ�Ե⾸ԭҳ����ѹ - �Ѵ�ط�����ѭ� (�Ѵ������ͧ��)
http://www.yimsiam.com/club/board/topicRead.asp?wbID=ystravel&id=000162.
ศูนย์พัฒนาศีลธรรมเวียงกาหลง ͧ��ø���ԡ�ѧ�����§���ŧ
www.thaigoodview.com/.../<wbr>09/GGTeam/history.html

 

เซ็งช่วงนี้เป็นแต่ผู้นำสาร ได้แต่ของดีๆมา แต่ไม่ใช่ของเราซักชิ้น
ผ่านมา เดี๋ยวก็ไปอีกแล้ว.......5-5-5

 

แหม่..เป็นผู้นำสารยังดีนะพี่
จุ๊ยนี่ไม่ได้เป็นตัวที่มีประโยชน์อะไรสักอย่าง
ไร้ประโยชน์สุดๆ 5 5 5+

 

ภัยพิบัติ ล้างโลก น่าจะเกิดขึ้นในปีไหนครับ

 

สวัสดีครับ พี่ดาวทะเลทราย

เพิ่งเจอตัวจริงเสียงจริงพี่คราวนี้แหละ เฮ้อ เฮ้อ เฮ้อ ไม่รู้จะบอกยังไงดี เอาเป็นว่าครบเครื่องเลยดีกว่า (ผมว่าคำนี้เหมาะกะพี่ดาวนะครับ) ได้ยินกิตติศัพท์จากตัวกลมนานหลายเพลาแล้วไม่มีโอกาสเจอ พอได้เจอก้ออยากเจออีกคุยกันมันดีครับพี่ ฝากตัวเป็นน้องด้วยคนละกันครับ (ไม่รู้จะรับผมหรือเปล่า) ไปหาอาจารย์วันศุกร์ที่ผ่านมา แขกอาจารย์เยอะครับ ไม่ค่อยได้คุยกะอาจารย์ เลยนั่งโม้กันวงนอก เสียดายที่พี่จักรพลหนีกลับไปนอนซะก่อนโดนฤทธ์ยาลดน้ำมูกเล่นงานเลยขอกลับบ้านไปนอนก่อน นั่งคุยกันอยู่ดีๆ อาจารย์หันมามองทุกคนใหญ่เลย บอกว่า "ไหนขอดูซิใครมีวิญญาน(ใช้คำนี้ได้ไหมครับอาจารย์) เกาะมากะรองเท้าบ้าง" นั่งกันอยู่ 5-6 คน ไม่มีใครมีพอมามองดูที่รองเท้าผมบอกว่านั่นไงไหนถอดรองเท้ามาหน่อย ไอ้เราก้อเอ๋อเลย มีอะไรมาเกาะรองเท้าเรา อาจารย์บอกว่าให้ลองดันมือดูข้างที่มีวิญญานเกาะมันจะซ่าๆที่ปลายมือ ผมก็ลองดูแต่ไม่ค่อยจะจับพลังได้มากนัก อาจารย์ก็ให้ตัวกลมลองดูเห็นตัวกลมบอกว่ารู้สึก แล้วอาจารย์ก้อให้อุทิศบุญกุศลให้เขาไปอยู่ในภพภูมิที่ดีขึ้น อาจารย์บอกว่าเขาไปแล้ว เราก็โล่งอก นั่งลงคุยกับพี่ๆต่อ เอาอีกแล้ว อาจารย์บอกว่า ไหนถอดเข็มขัดมาอีก มีอีกหนึ่งที่เข็มขัด เอาอีกแล้ว รีบถอดเข็มขัดแทบไม่ทันเลยครับ เอาไปวางบนโต๊ะอาจารย์ แล้วอาจารย์ก้อให้คนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะช่วยอุทิศบุญกุศลให้ แล้วเขาก้อไปอีกหนึ่ง เราก้อเอาเข็มขัดกลับมาใส่ ใจก้อหวาดๆนะไม่รู้เขามาจากไหน เกาะเราตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมมาเกาะเรา อึ๋ยๆๆๆๆๆๆๆๆ จะมาอีกไหมนี่ แล้วเราจะรู้ได้อย่างชัดเจนได้ยังไงครับว่าเขามาเกาะเรา แล้วมันดีหรือไม่ดียังไงครับอาจารย์ รบกวนถามด้วยครับ หรือถ้าท่านผู้รู้ท่านอื่นทราบบอกผมด้วยยยย

ท่านพี่ดาวทะเลทรายก้อได้บอกน้องด้วยยยยยครับบบบบบบ

 

ขอบคุณ คุณ ตัวกลมๆๆ
ที่เอาประวัติ ภูมิหลังของ พระพุทธํองค์ ทั้ง 5 มาเกริ่นให้ฟัง
ก่อนที่ ตาท่สาม จะมาเล่ารายละเอียดต่อ
อย่างน้อยต้องจำให้ได้ ว่า แต่ละพระองค์
ในภาพลักษณ์ ที่เป็นสัตว์ นั้น เป็นตัวอะไร
ตรัสรู้ อยู่ใต้ต้นอะไร
.....................................................
อย่างน้อยก็สรุปได้ ว่า องค์พุทธ แต่ละองค์
เมื่อ ลงมาโปรดสัตว์ เป็นมนุษย์..จะต้องผ่านการตรัสรู้ มาก่อน
ไม่ใช่ มาเกิด แล้วมีฤทธิ์เดช อย่างที่เข้าใจกันว่า
............................................................
พระศรีอาริย์ ที่ จะมาเป็น องค์ ที่ 5
จะมาแบบเทวดา เหาะมา ในพระหัตถ์ มีฤทธิ์ เสก เปรี้ยงๆๆ
ให้แผ่นดิน มีความสุข ไร้ทุกข์..ไม่มีขโมย ขโจร
ทุกคนถูกเสกให้มีความสุข แบบที่เรียก สุข แบบ ยุคพระศรีอาริย์
...................................................................
ความคิดนั้น อย่างนั้น....ไม่ใช่
กรรมใคร..กรรมมัน..ความสุขอยู่ที่ตัวใครจะต้องการ
........................................................................
พระศรีอาริย์ จะทรงลงมาเกิด..หลังจากมีการชำระล้าง
มวลมุษย์ ตามกรรม..โดยพลังแห่งธรรมชาติ
แผ่นดินไหว /แผ่นดินยุบ/ น้ำท่วม/ ไฟไหม้/โรคระบาด
/สงครามเคมี/สงครามนิวเคลียร์..ที่มนุษย์แย่งกันเป็นใหญ่
ทำลายล้าง .ซึ่งกันและกัน
มีผู้คน ล้มตายมากมาย เกือบ 30 %ของมวลรวม
..................................................................
การเห็นผู้คนล้มตายกันมากมาย คณานับ.จากเหตุที่ บอก
ทำให้ ผู้คนเริ่มเข้าใจ..ในเรื่อง กรรม
กรรมที่สะสมไว้ ทำให้ เกิด การล้างโลก
ผู้คน จะเริ่ม เข้าใจ และ กลัว ตาย/ กลัวกรรม อย่างสุดๆๆ
...............................................................
เมื่อ พระศรีอาริย์ ลงมา
ก็พอดี ที่คนเริ่มเข้าใจใน หลัก ธรรม และ การเวียนว่ายตายเกิด
จึงเปลี่ยน นิสัย เป็นคนดี /เอื้อเฟื้อ ซึ่งกันและกัน
ไม่ทำร้าย/ไม่คิดร้าย ต่อ กัน/ถือ ศีลเคร่งขึ้น
..................................................................
พระศรีอาริย์..จะทรง เน้น ศีล ปฏิบัติใหม่
ที่ในที่สุด ทำให้ 2500 ปี กึ่งพุทธกาลหลัง
ทุกคนมีความสุข ตามที่ได้ หวังไว้
.....................................................

 

มีหลายคนที่มาที่บู๊ธ..แล้วจะถูกตาที่สาม
หรือ สมาชิก ชมรมตาทิพย์ คนอื่นช่วยตรวจ
ว่า มี โอปาติกะ/ลมพัดลมเพ พัดมาติดตัวหรือ ไม่
เพราะ จะเป็นภาระ ในการเดิน /การเคลื่อนที่
.......................................................
ถ้าเกาะที่ รองเท้า..จะทำให้ เดินหนัก..เหนื่อยเร้ว
ถ้าเกาะที่ รองเท้า ข้างเดียว ....ก็จะทำให้ เดิน เป๋
.......................................................
บางคน ลมพัดลมเพ จะมาเกาะที่ เข็มขัด
บางคนก็จะมาเกาะที่ เสื้อ ตัวเก่ง...ที่ใส่บ่อยๆๆ
พอเอามาบ้าน แขวนในตู้..
ตู้นั่นก็จะสั่น..แปลกๆๆ เหมือนบ้านมีผีหลอก
......................................................
สิ่งที่เป็น ลมพัดลมเพ /หรือ โอปาติกะ ที่ ลอยอยู่ตามถนน หนทาง
/เกาะมากับรถ..และมักจะแหกโค้งที่ แยก
ผู้ที่รู้ ก็จะเอา ใยแมงมุม/ เสือ คาบดาบ/กระจกหกด้าน
มาแปะกันที่กำแพง.. ทางแยก เพื่อ ไม่ให้ ของเหล่า นั้น..
ถ้าเข้าไป ถือ ว่า..อัปมงคล
..................................................................
บนทางด่วน เราจะเห็น ซุ้ม เก็บเงิน..เรียงราย
ลางที 8-9 ตู้..บางแห่ง เล็ก ก็ 1-2 ตู้ ก็บางเบาไป
แต่ละซุ้มเก็บเงินทางด่วน. จะมีรถผ่าน หลัก พัน ถึงหลักหมื่นคัน
พอมาถึงซุ้ม ก็ต้องเบรค
ตอนที่เบรค..สิ่งที่เกาะรถมา..จะกระเด็นมาแปะ ที่ ซุ้ม
.................................................................

 

การที่มีโอปาติกะ มาแปะรวมๆๆกันที่ซุ้ม เก็น เงิน ทางด่วน
จะมีผล สอง อย่าง
แปะเข้าที่ พนักงาน เก็บเงิน...
ใคร..ไม่แขวนพระหรือ สิ่งศักดิ์ สิทธิ์..ไว้ ก็เสี่ยงหน่อย
.................................................................
แปะมากๆๆเข้า ก็ แออัด..ก็จะกระโดด เกาะรถที่มาเข้าแถวจ่ายเงิน
รถคันไหน ดวงไม่ดี..ไม่มีสิ่งศักดิสิทธิ์ คุ้มกันก็ รับไป
......................................................................
ผมเอง..เวลา ขึ้นท่างด่วน
พอเข้าใกล้ด่านเก็บเงิน..ก็เพ่งแต่ไกล
ว่า ช่องไหน..ไม่มีโอปาติกะ หรือ ผี เกาะ มาก
ก็จะเข้า ช่อง นั้น...เรียกว่า ปลอดภัยไว้ก่อน
......................................................
โดยปกติ โอปาติกะ หรือ ลมพัดลมเพ..จะมีพลังไม่มากนัก
ถ้า เจอ คนที่แขวนพระ ไว้...เขาก็จะไม่เข้าตัว
แต่จะเกาะโตงเตงอยู่กับ รองเท้า /เข็ม ขัด/เสื้อ/กางเกง
...............................................................
เขาเกาะมาเพื่อ ขอ บุญ
คนที่เข้าใจ..ในวันพระที่ ว่าง ก็จะสัมผัส
ที่ รอง เท้า /-เข็มขัดว่า มีอะไรใหม
ถ้ามี เขาก็จะ กำหนดจิต แผ่เมตตา แผ่กุศล ให้ เขา..เขาก็จะไป
.....................................................................
พระพุทธองค์ ทรงกำหนดให้ พระสงฆ์ ต้องเดินบิณฑบาตร
เดินเท้าเปล่า..เพื่อให้ ติดดิน
พอเดินไป ตามถนน หนทาง ยาวๆๆ
จะมีโอปาติกะ ต่างๆๆ หมา/แมวที่ ตาย/ มองเห็น
เกาะชายผ้าเหลือง เข้าวัด
.............................................................
พอฉันเช้าเสร็จ..พระทั้งหมด จะต้อง กรวดน้ำ แผ่กุศล
วิญญาณ เหล่า นั้นก็จะได้ รับ...วิญญาณ จะ สบายขึ้น.
.หรือ ถ้ามากพอ..ก็จะไปเกิด ใหม่
..............................................................

 

ช่วง สัปดาห์ที่ผ่านมา..เป็นยุคของ หลวงปู้ดู่แห่งวัดสะแก
มีวัตถุมงคล ของที่หลวงปู่ สร้างไว้เข้ามามากมาย
มาเป็น หลายสิบชิ้น ทั้งเล็ก.. และใหญ่ ขนาด พระบูชา
สามตาก็ได้ ดู และสัมผัส ตรวจทุกชิ้น
...........................................................
ก็เลยเจอ ของ แปลก ของ ดี ที่เราต้องการพอดี
.............................................................
มี ไม้เท้าหลวงปู่เข้ามา สามอัน..แรงๆๆทั้งนั้น
เจ้าของเขาเอาไม้เท้า แท้ๆๆ..กลับไป
เหลือ แต่กระดาษ หนังสือ พิมพ์ หุ้ม ที่ ยาวตลอด
ของจริงไปแล้ว.
แต่ แฮะๆๆ..กระดาษ มีพลังแรงเหมือน ไม้เท้า จริงๆๆ
ผู้คนก็เลย พากัน หากิ่งไม้/ ท่อนไม้/ ไม้เท้า ธรรมดา
มาก๊อปปี้ พลัง..ก็ได้ เหมือน ต้น แบบ
...........................................................
ผ้ายันต์ ของ หลวงปู่ แรงดีจริงๆๆ
ค่อนข้างสกปรก ด้วยความเก่า
ผู้ที่ มาเช่า ซื้อต่อ ก็เอามาซักให้ สะอาด
..............................................................
ไม่รู้จะตากแห้ง ตรงไหน...
ก็เอามาพาดที่ ถังน้ำคูลเล่อร์ ขนาดใหญ่
................................................................
ก็ไม่ได้ สังเกตุกัน...จนมีคนมารอง เอาน้ำเย็น ไป กิน
กินเข้าไป แล้ว มีอาการสั่นๆๆ
ก็เลยต้องเช็คกันดู ด้วยสมาชิกคนตาทิพย์..ที่มุงๆๆกันอยู่
..............................................................
จ๊าก!!!! น้ำมันแรง เป็น น้ำมนต์ อย่างขลัง..ไล่ผี ปรับสุขถฃภาพได้
นี่ขนาด เอามาแปะตาก แห้ง นะ..
อิทธิฤทธิ์ ของ หลวงปู่ อัดพลังลงในน้ำ เฉยเลย
ทั้งๆๆที่หลวงปู่ ละสังขารไปนานแล้ว
...................................................................
เจออีกอัน..พลังแรงดี..แก้โรคตอเจ็บ คอไอ ได้ ดี
ก็เลยอัดลงผ้าพันคอ..พันคอไว้..หลังจากนั้นที่เคยไอ มาตลอด
ที่ไอ เพราะ แพ้พลัง พระเครื่อง ที่แรงเกิน 20 เมตร
พอ เอามาพันคอ...ตั้งแต่นั้นมา..ก็หยุดไอ...โดยไม่ต้องใช้ยา
.......................................................................
พอดี คน ข้างบ้าน บ่นว่า ไอ..ไปหาหมอ โรงพยาบาลมา 3 ครั้งแล้ว
เสียเงินเยอะแยะ..ก็ไม่หาย...เราก็เลยต้องแวะ ที่ ร้าน 7-11
ซื้อ ผ้าเย็นที่ ใช้เช็ดหน้า.ผืนละ 23 บาท 2 ผืน สำหรับสองคน
แล้วอัดลังแก้ไอ..ให้เขาไป เมื่อ เช้านี้ ที่ 1 สค 52
คิดว่า น่าจะรักษาเขาได้ เพราะ ก่อนให้ เขาไป.
.เช็คพลังดูแล้ว ว่า มีพลัง และแรงตามที่คิด
...................................................................

 

นั่งคุยกันอยู่ดีๆ อาจารย์หันมามองทุกคนใหญ่เลย บอกว่า "ไหนขอดูซิใครมีวิญญาน(ใช้คำนี้ได้ไหมครับอาจารย์) เกาะมากะรองเท้าบ้าง" นั่งกันอยู่ 5-6 คน ไม่มีใครมีพอมามองดูที่รองเท้าผมบอกว่านั่นไงไหนถอดรองเท้ามาหน่อย ไอ้เราก้อเอ๋อเลย มีอะไรมาเกาะรองเท้าเรา อาจารย์บอกว่าให้ลองดันมือดูข้างที่มีวิญญานเกาะมันจะซ่าๆที่ปลายมือ ผมก็ลองดูแต่ไม่ค่อยจะจับพลังได้มากนัก อาจารย์ก็ให้ตัวกลมลองดูเห็นตัวกลมบอกว่ารู้สึก แล้วอาจารย์ก้อให้อุทิศบุญกุศลให้เขาไปอยู่ในภพภูมิที่ดีขึ้น อาจารย์บอกว่าเขาไปแล้ว เราก็โล่งอก นั่งลงคุยกับพี่ๆต่อ เอาอีกแล้ว อาจารย์บอกว่า ไหนถอดเข็มขัดมาอีก มีอีกหนึ่งที่เข็มขัด เอาอีกแล้ว รีบถอดเข็มขัดแทบไม่ทันเลยครับ เอาไปวางบนโต๊ะอาจารย์ แล้วอาจารย์ก้อให้คนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะช่วยอุทิศบุญกุศลให้ แล้วเขาก้อไปอีกหนึ่ง เราก้อเอาเข็มขัดกลับมาใส่ ใจก้อหวาดๆนะไม่รู้เขามาจากไหน เกาะเราตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมมาเกาะเรา อึ๋ยๆๆๆๆๆๆๆๆ จะมาอีกไหมนี่ แล้วเราจะรู้ได้อย่างชัดเจนได้ยังไงครับว่าเขามาเกาะเรา แล้วมันดีหรือไม่ดียังไงครับอาจารย์ รบกวนถามด้วยครับ หรือถ้าท่านผู้รู้ท่านอื่นทราบบอกผมด้วยยยย

ท่านพี่ดาวทะเลทรายก้อได้บอกน้องด้วยยยยยครับบบบบบบ[/quote]


ก็คนมีบุญนี่ครับคุณunclenon สัมปะเวสี โอปาติกะ วิญญาณเร่ร่อน

ก็มาขอส่วนบุญนะครับเพราะเขาเห็นบุญจากที่ตัวเราเรืองแสง แล้วจะรู้ได้

อย่างไรหรือครับก็พยายามล้างรองเท้าบ่อยๆซิครับแล้วก็เวลาทำบุญ นั่งปฎิบัติ

สมาธิก่อนออกจากสมาธิก็แผ่เมตตาอุทิศส่วนบุญกุศลให้พ่อแม่ ครูบาอาจารย์

เทวดารักษาตัวเจ้ากรรมนานเวรเสร็จแล้วก็แผ่เมตตาอุทิศส่วนบุญกุศลให้กับ

สัมปะเวสีที่ต้องการบุญจากเราให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีขึ้น ก็เท่านั้นละครับ ไม่เช่น

นั้นก็เป็นอย่างที่เจอมานั่นแหละครับ555555 อ้อยางรถยนต์ก็มีนะครับอย่า

มองข้ามละคราบบบบบบบ เดียวจะหาไม่เตือนนนนน

 

ก็คนมีบุญนี่ครับคุณunclenon สัมปะเวสี โอปาติกะ วิญญาณเร่ร่อน

ก็มาขอส่วนบุญนะครับเพราะเขาเห็นบุญจากที่ตัวเราเรืองแสง แล้วจะรู้ได้

อย่างไรหรือครับก็พยายามล้างรองเท้าบ่อยๆซิครับแล้วก็เวลาทำบุญ นั่งปฎิบัติ

สมาธิก่อนออกจากสมาธิก็แผ่เมตตาอุทิศส่วนบุญกุศลให้พ่อแม่ ครูบาอาจารย์

เทวดารักษาตัวเจ้ากรรมนานเวรเสร็จแล้วก็แผ่เมตตาอุทิศส่วนบุญกุศลให้กับ

สัมปะเวสีที่ต้องการบุญจากเราให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีขึ้น ก็เท่านั้นละครับ ไม่เช่น

นั้นก็เป็นอย่างที่เจอมานั่นแหละครับ555555 อ้อยางรถยนต์ก็มีนะครับอย่า

มองข้ามละคราบบบบบบบ เดียวจะหาไม่เตือนนนนน[/quote]

 

ภัยพิบัติและการเตรียมการ - PaLungJit.com
คุณnut_20036 ไปตามลิงค์นี้นะคะ ห้องภัยพิบัติมีเรื่องให้อ่านมากมาาย แถมวิธีเตรียมตัวด้วยค่ะ
เน้นว่าทำบุญสู้นะคะ ไม่เน้นให้สิ้นหวัง ต๊อแต๊ ยังไงมันก็ต้องทุกข์ แต่ถ้าฝึกจิตไว้ให้รู้เท่าทัน
มันก็จะผ่านไปได้ค่ะ (ปลอบใจตัวเองด้วย เหะๆ)

ขอบพระคุณค่ะอาจารย์สามตา ว่าไปแล้วเมื่อคืนพอได้โพสรูป 5พุทธองค์ทำให้รู้สึกอบอุ่น
เพราะความเมตตาอันล้นเหลือของพระองค์ แถมได้ความรู้อีกมากมาย(ถ้าอาจารย์ไม่สั่ง ก็คงไม่ได้ความรู้ใหม่)

รอให้คุณunclenonมาเล่าเอง ตื่นเต้นล่ะซี้ มีอะไรแปลกๆกะเขามั่ง แต่อย่างที่อาจารย์สามตา
และพี่เห็ดหอมว่า เขาเห็นแสงเรืองๆของคนทำบุญก็มาเกาะ ส่วนเกาะเพราะเวรกรรมที่มีต่อกันก็อีกแบบ
ส่วนของตัวกลม ชอบเปลี่ยนรองเท้าเรื่อย(ไม่ได้ทิ้งหนา) ไอ้คู่ที่ใส่ไปวันนั้นเพิ่งเปลี่ยนเอง
ไม่งั้นคงได้มีให้เห็นเหมียนกัน เพราะที่ทำงาน ต้องผ่านเข้าโรงพยาบาลบ่อยๆ แต่ผ่านทีก็ส่งบุญให้บ้าง
ตอนนี้พัฒนา ขอฟิลเตอร์ทิพย์ไปเลย กลัวพิษหวัด2009เหมือนกันนี่คะ ที่พี่เห็ดหอม
เล่าเรื่องติดล้อรถยนต์ มิน่าขับรถอยู่ดีๆ หมาก็วิ่งไปเห่าไปตามรถซะเฉย ยังนึกว่ามันเหม็นฉี่หมาตัวอื่นซะอีก

แต่หมาขี้โมโหก็มีนะคะ เผอิญมีน้ำขังข้างทาง ไอ้ล้อรถเราก็รีดน้ำใส่เจ้าหมาเต็มๆ
มันวิ่งไล่เห่าเลยค่ะ ไอ้เราก็หัวเราะ ขำที่มันมาอยู่แถวนั้นน่ะแหละ โดนแบบนี้ มันก็น่ายั่วะคนอะเนาะ
ขอโทษนะเจ้าหมา ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ555555

อ้อ ติดล้อติดรถอีกอย่าง สมัยเด็กๆ เขาเอาขนมไข้ขี้เจี้ยม(ขนมไข่จิ้งจก ข้างในเป็นถั่ว
หุ้มด้วยแป้งหวานแข็งๆ) แล้วก็ถัง ไปแลกหมา สมัยก่อนเราไม่รู้ว่าเขาเอาไปทำอะไร
พอรถพวกนี้มาปุ๊บ หมามันก็กรูกันไปหารถนั้น ทั้งเห่าทั้งหอน รุมคนจับหมา กัดได้กัด
บางตัวก็ไปงับ แย่งถุงกระสอบ สัตว์ก็รักชีวิตแถมมีเซ็นส์ ไม่ต้องแนะนำว่าใครทำอะไร
และคงได้กลิ่น ได้เห็นอะไรๆ ที่ติดมากับรถแลกหมาแหล่ะค่ะ คนนี่นิสัยเอาเปรียบสัตว์อื่นจริงๆ

 

วันนี้โอกาสดีได้สัมผัสพลังพระศรีอาริย์ เปรียบเทียบจากองค์พระและจากภาพ เย็นถึงใจจริงๆ
ได้เห็นไม้เท้าหลวงปู่ดู่เป็นบุญตา จารอักษรงดงามยิ่งนัก สมาชิกชมรมฯก็ได้ออกกำลังดูสนุกสนานดี ขนาดแค่นึกถึงไม้เท้าพลังก็มาแล้ว

หลังจากออกจากบูธเวลาทุ่มกว่าๆ เพิ่งนึกขึ้นได้ว่า
วันนี้ยังไม่ได้กินข้าวเลยนี่นา
สงสัยว่าทำไมวันนี้ถึงไม่มีอาการปวดท้อง ดังเช่นเคย
แล้วคำตอบก็มา...
เพราะได้ดื่มน้ำเปล่าจากตู้อาจารย์นี่เอง
...ของเค้าดีจริง
ขอบคุณมากๆครับ

 

สวัสดีครับคุณ deep listening ยินดีต้อนรับครับ เข้ามาเขียนบ่อยๆ

นะครับอย่าพึ่งหนีไปธุดงค์ก่อนนะครับ5555555

 

ปุจฉา ...ยันต์ฝรั่ง(รูปแทนตัว )ของคุณdeep listening อ่านว่าอันใดคะ
?????.....is every step

อาจารย์คะ คุณdeep listeningบอกว่าน้ำที่ได้พลังจากยันต์หลวงปู่ยอดเยี่ยม
สงสัยครานี้งานเข้า ต้องหาคนกรอกน้ำ ยกน้ำให้บ่อยๆแล้วมั้งคะ

คุณvisnuเอารูปของอะไรมาลงหน้าที่แล้วคะ รออ่านอยู่ค่ะ กดปุ่มอนุโมทนา
แต่ยังไม่เข้าใจ อาศัยว่ายินดีด้วย ที่ใจดีส่งให้ผู้อื่นต่อ

 

กรี๊ดดๆๆๆๆๆ เห็นพี่ชยามาในกระทู้ หลังจากไม่เจอเลย พี่ชยาสบายดีมั้ยเจ้าคะ ซินแวะมาทักทายจ้า ^^ ดีใจมากมาย จะได้อ่านเรื่องแปลกๆอีกรึเปล่าคะเนี่ย (คิคิ)

 

ตังก้า(Thankas) ภาพวาดบนผืนผ้า งานฝีมือเหล่านี้เกิดจากฝีมือช่าง บรรจงวาดด้วยพรสวรรค์และสมาธิ แต่ละภาพใช้เวลาวาดนานหลายเดือน ความพิเศษคือวัสดุที่ใช้แมลง มด ปลวก ไม่ชอบกิน จึงสามารถเก็บไว้ได้นานนับพันปี นำมาใส่กรอบหรือใส่เฟรมผ้า แขวนไว้บูชาในห้องพระเป็นสิริมงคล

 

ภาพสวยมากค่ะ พี่บาส ^^