ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ขอบคุณค่ะ พี่ Me, myself เดี๋ยวถ้ามีอะไรสงสัยจะรบกวนถามละกันนะคะ
อ้อ..ส่วนเรื่องจะเปลี่ยนไปทำบุญ สร้างศูนย์พุทธศรัทธา เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ

 

เห็นด้วยครับตั้งใจอยากทำบุญร่วมกับทุกๆท่านอยู่แล้ว ตอนนี้ไม่มีโอกาสพบทุกท่านก็ขอให้ไปเจอกันข้างบนนะครับ อนุโมทนากับทุกๆท่านครับ

 

เห็นด้วยครับ

 

เห็นด้วยครับ

 

ขออนุญาตอัพเดทรายชื่อผู้มีจิตศรัทธาทำบุญใหญ่ร่วมกันต่อเลยนะคะ

การทำบุญในครั้งนี้เรามีวัตถุประสงค์เพื่อ
1. จัดตั้งเป็นกองบุญ ร่วมซื้อที่ดินถวายวัดท่าซุงเพื่อสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ว่าตอนนี้ทางวัดท่าซุงได้ระงับโครงการไว้ก่อนค่ะ เพราะฉะนั้นเราจะเหลือโครงการบุญเพียงโครงการเดียวคือ
2. ร่วมสร้างศูนย์พุทธศรัทธา วัดท่าซุงค่ะ

รายนามผู้ที่มีจิตศรัทธานะคะ
1. พี่me,myselfและ เจ๋วะรัฐถะ จำนวน 1,140 บาทค่ะ
2. คุณ para007 ต้นบุญคนแรก จำนวน 1,000 บาทค่ะ
3. คุณ jks จำนวน 1,000 บาทค่ะ
4. คุณไพฑูรย์ นางสุทธิชา และน.ส.จิดาภา เวชชพิพัฒน์ ขอร่วมทำบุญซื้อที่ดินและสร้าง
พระชำระหนี้สงฆ์วัดท่าซุง 1,000 บาทค่ะ
5. คุณนฤพล เสรีกิจการกุล จำนวน 1,000 บาทค่ะ อุทิศบุญให้คุณพ่อ คุณแม่ และพี่ชาย
ค่ะ ขอทุกท่านโมทนาบุญกับคุณนฤพลด้วยนะคะ
6. คุณพี่ wara43และครอบครัว จำนวน 1,040 บาทค่ะ
7. คุณ suparbtom จำนวน 1,000 บาทค่ะ
8. คุณ หวงจื้อเซวียน จำนวน 500 บาทค่ะ
9. คุณชนะ สิริไพโรจน์ ร่วมทำบุญสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ใหญ่ที่สุดในโลก จำนวน 500 บาทค่ะ
10. คุณสายลม สุขสีกี ขอร่วมทำบุญซื้อที่ดินและสร้างพระชำระหนี้สงฆ์วัดท่าซุง 1,000 บาท อุทิศให้คุณแม่ของคุณสายลมค่ะ
11. คุณแม่อาเท่ย แซ่ตั้ง จำนวน 200 บาทค่ะ
12. คุณสุภา เวชชพิพัฒน์ จำนวน 200 บาทค่ะ
13. คุณ nahathai ร่วมทำบุญเพื่อจัดตั้งเป็นกองบุญ ร่วมซื้อที่ดินถวายวัดท่าซุงเพื่อสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ใหญ่ที่สุดในโลกและร่วมสร้างศูนย์พุทธศรัทธา วัดท่าซุงค่ะจำนวน 1,000 บาทค่ะ
14. คุณ Lixalot's mummy ร่วมทำบุญเพื่อจัดตั้งเป็นกองบุญ ร่วมซื้อที่ดินถวายวัดท่าซุงเพื่อสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ใหญ่ที่สุดในโลกจำนวน 1,000 บาทค่ะ
15. คุณJenne_Lee ร่วมทำบุญเพื่อจัดตั้งเป็นกองบุญ ร่วมซื้อที่ดินถวายวัดท่าซุงเพื่อสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ใหญ่ที่สุดในโลกจำนวน 1,000 บาทค่ะ
16. คุณ Lee skl จำนวน 500 บาทค่ะ
17. คุณวิรัตน์ ฟุ้งเฟื่องเศรษฐ พร้อมครอบครัว จำนวน 1,000 บาทค่ะ
18. คุณคนข้างวัด มงคล นาคปรางค์ คุณบุญเที่ยง ชัยพิสา จำนวน 500 บาทค่ะ
19. คุณอมริศา จำนวน 500 บาทค่ะ
20. คุณรัตน์ศิริยาพร ขวานทอง พร้อมครอบครัว จำนวน 500 บาทค่ะ
21. คุณพรพิสุทธิ์ ร่วมทำบุญซื้อที่ดินและสร้างพระชำระหนี้สงฆ์วัดท่าซุง จำนวน 500 บาทค่ะ
22. คุณ akp07 ร่วมทำบุญจำนวน 200 บาทค่ะ
23. คุณสมบูรณ์ พิทาคำ และคุณพุทธรักษา ร่วมทำบุญจำนวน 500 บาทค่ะ(แจ้งผ่านอ้อยมาค่ะ)
24. คุณพี่หยาด คุณพี่ว่าน คุณพี่สาวของพี่ว่าน และน้องทราย ร่วมทำบุญจำนวน 500 บาทค่ะ (แจ้งผ่านอ้อยมาทางโทรศัพท์ค่ะ)
25. คุณอุทัย จันทเสนและคุณ suparbtom ร่วมทำบุญจำนวน 500 บาทค่ะ

สรุป ตอนนี้เราได้ยอดจากผู้มีจิตศรัทธาที่จะทำบุญร่วมกันจำนวน 17,780 บาทแล้วค่ะ ใครจะทำเท่าไหร่ก็ได้นะคะ แล้วแต่จิตศรัทธาค่ะ ^_^

ขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยนะคะ<!-- google_ad_section_end -->

 

น้องฝนคะถ้าไม่เป็นการรบกวน พี่อยากให้น้องฝนช่วยเล่าประสบการณ์ตอนที่ถือศีลแปดน่ะค่ะ น้องไปถือศีลที่วัดหรืออยู่บ้านคะ แล้วต้องทำไงบ้าง เผื่อมีคนอยากรู้หลายคนน๊า พี่กำลังนึกภาพสาวน้อยแก่นแก้วถือศีลอ่ะ คงจะน่ารักน่าดูเชียวค่ะ อิอิ

 

ขอบพระคุณทุกท่านมากๆเลยนะคะที่มาช่วยกันพายเรือธรรมลำนี้ค่ะ
ทั้งร่วมทำบุญ ร่วมแสดงความคิดเห็น และแบ่งปันประสบการณ์ค่ะ^_^
พี่สงบระงับสบายดีหรือเปล่าคะ หายไปนานคิดถึงนะคะพี่

 

ผมก็สนใจศีล 8 เหมือนกันครับ ขอความรู้จากพี่ๆ ด้วยครับ

ศีลแปด

 

ฝนเคยไปถืออยู่ทั้งที่วัดเเละที่บ้านค่ะ

ครั้งเเรกเลยไปถือที่วัดท่าซุงก็ไม่มีอะไรมากค่ะ ไม่รู้อะไรทำตามเค้าไปมากกว่า ไม่ลำบากอะไรสนุกซะมากกว่าเพราะที่นั้นจะฝึกมโนมยิทธิกันตลอด ฝนก็ไปโม้ๆตามประสาฝน

ครั้งที่สองที่วัดพระอาจารย์ ยิ่งสบายกว่าวัดท่าซุงเพราะพระอาจารย์ท่านพาเที่ยวไหว้พระบรมสารีริกธาตุที่จังหวัดหนองคายเละบริเวณใกล้เคียง พระอาจารย์ท่านสอนนั่งสมาธิให้ด้วยวิธีตามจิตฝนไปเเล้วดึงฝนออกจากมโนมยิทธิ ทำให้ฝนนั่งสมาธิเเบบสุกขวิปัสสโกเป็น พอพระอาจารย์ท่านไม่อยู่ฝนจะเเว่บๆมโนมยิทธิก็ไม่ได้เพราะพระอาจารย์ท่านบังให้มองไม่เห็นค่ะ มองไม่เห็นก็คุยไม่ได้เลยอดโม้ก็ต้องฝึกสุกขวิปัสสโก

สรุปเเล้วที่ไปที่วัดก็ไม่ได้อะไรค่ะ เหมือนจะไปเล่นไปโม้ซะมากกว่าที่จะไปเอาดี ตอนนั้นยังไม่รู้ค่ะว่าเค้าถือศีลเเปดกันทำไมทำตามๆเค้าไป เเต่รู้สึกว่าไม่เห็นจะยากอะไรตรงไหนเลย

ก่อนจะกลับมาต่างประเทศพระอาจารย์ท่านโยนซีดีของหลวงปู่เหรียญซึ่งท่านเป็นพระอุปัชชาย์ของพระอาจารย์ให้ฝนเอามาฟัง เวลาฝนเดินไปไหนก็จะเสียบหูฟังเทศน์หลวงปู่เหรียญ ฟังไปฟังมาจนกระทั่งหูไปกระเเทกกับคำเทศน์สอนประมาณว่า คนเราถ้าเคยถืออุโบสถศีลได้เเสดงว่าคนๆนั้นเคยปฏิบัติมาก่อนเเล้วในอดีตชาติ

เท่านั้นล่ะค่ะฝนเลยออกอาการอยากถือศีลอุโบสถกับเค้าขึ้นมาซะอย่างนั้น อยากทำฟอร์มเหมือนเรามีบุญกับเค้าเหมือนกันนะ ทั้งๆที่อดีตนั้นเคยทำหรือเปล่าก็ไม่รู้ เเต่ทำเหมือนว่าเราเคยนะเพราะชาตินี้เราทำได้ พูดง่ายๆอยากเป็นคนมีบุญเก่าขึ้นมากับเค้าบ้าง ฝนเลยตัดสินใจโทรไปถามพระองค์น้องท่านว่าอุโบสถศีลเค้าทำกันยังไง ท่านก็เมตตาอธิบายให้ฟังว่าต่างจากศีลเเปดตรงที่ ศีลเเปดสามารถอธิษฐานเป็นช่วงเวลาได้ เเต่อุโบสถศีลต้องหนึ่งวันกับหนึ่งคืน

ฝนคิดตัดสินใจว่าจะเลือกเเบบไหน ถ้าจะทำอะไรต้องทำที่ยากๆค่ะ เลือกอุโบสถศีล ชุดขาวเอามาจากเมืองไทยด้วย สวดสมาทานศีล สมาทานบวชชีพราหมณ์เอง ที่ต้องทำเองเพราะพระอาจารย์ท่านสั่งไว้ "ให้สมาทานด้วยตัวเองถ้าพระตายกันไปหมดเเล้วใครจะสมาทานศีลให้"

ทำเองไม่ยากนะคะ เริ่มต้นให้คิดว่าเรานั้นมีบุญเก่าไม่งั้นเราคงไม่คิดอยากจะปฏิบัติ ตั้งนาฬิกาปลุกตื่นซักเก้าโมงเช้า ตื่นมาสวดมนต์เช้า กินเข้าเที่ยง เเล้วก็ฟังธรรมบ้าง นั่งสมาธิบ้าง พยายามหาเป้าหมายในทางธรรมว่าเราต้องการจะปฏิบัติอะไรให้ได้เพื่อความก้าวหน้าในทางธรรม อย่างฝนอยากปฏิบัติให้ได้ฌานสี่ เอาสิ่งที่มุ่งมั่นจะทำให้ได้เป็นตัวหลักในการตั้งใจบำเพ็ญเพียรค่ะ จนบัดนี้ฝนก็ยังปฏิบัติไปได้ไม่ถึงไหนเลยค่ะ เเต่จิตที่ยังมุ่งมั่นยังมีอยู่

พอเราเริ่มได้เเล้วต่อๆไปก็ไม่ยากเเล้วล่ะค่ะ ทำมาได้เดือนกว่าเเล้วยังไม่มีปัญหาอะไรค่ะ ทำไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเมื่อวานค่ะที่โม้ให้ฟังว่าสมเด็จท่านขอให้ฝนเข้าศีลเเปดจนออกพรรษา ตอนเเรกฝนขอเกี่ยงเป็นหลังจากละครเรื่องบ่วงหงส์อวสานก่อน ท่านบอกว่าไม่มีใครเค้าถือศีลหลังจากละครจบจนออกพรรษามีเเต่เข้าพรรษาจนออกพรรษา ท่านขอว่าให้ถือศีลเพื่อทดเเทนบุญคุณท่าน พระอาจารย์เเละพ่อเเม่ ฝนเลยตกลง

ตอนหลังท่านก็บอกฝนว่าจริงๆเเล้วถ้าปฏิบัติได้ผลบุญก็จะเกิดกับฝนเอง คนเราเมื่อปฏิบัติได้ขั้นหนึ่งเเล้วก็ต้องปฏิบัติขั้นต่อๆไปไม่ใช่หยุดอยู่กับที่

---------------------------------------------------------

ฝนขอรวบรวมข้อปฏิบัติที่สมเด็จองค์ปฐมท่านสอนฝนเป็นขั้นเป็นตอนตั้งเเต่ฝนได้มโนมยิทธินะคะ ถ้าใครสงสัยอะไรตรงไหนถามพี่ Me,Myself ได้ค่ะ อิอิ ฝนโม้เป็นอย่างเดียว อธิบายใครเค้าไม่เป็น

ครั้งเเรก ท่านสอนให้ท่องจำว่า

1. จำไว้ว่าคนเราเกิดมาทุกคนต้องตายไม่มีใครหนีความตายไปได้พ้น เเต่พ่อจะสอนให้เจ้าจำไว้ว่า " ร่างกายไม่ใช่ของเรา เราไม่ใช่ของร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา เราไม่มีในร่างกาย"

2. นับถือพระพุทธ พระธรรม เเละพระสงฆ์ เป็นสรณะโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ

3. มีศีลห้าที่บริสุทธิ์

4. ตายเเล้วให้ไปหาพ่อที่พระนิพพาน อย่าเถลไถลไปที่อื่น

ท่านสอนจนคิดว่าฝนทำได้เเล้ว ท่านก็เพิ่ม "พรหมวิหาร 4"

ปฏิบัติเเค่นี้ค่ะมาได้ครึ่งปี จนเมื่อ 4-5 วันที่ผ่านมา ท่านสั่งให้เพิ่ม " กรรมบท 10" ด้วยเหตุผลที่ว่าศีลห้าได้เเล้วไม่ควรอยู่ทีเดิม

วันต่อมาท่านก็สอนให้อ่านเพิ่มเติมเรื่อง "อริยสัจ 4"

จนกระทั่งเมื่อวานให้เพิ่มเป็นศีลเเปดจนออกพรรษา ท่านว่าเมื่อทำได้เเล้วก็จะไม่อยากถอยเป็นศีลห้าเเล้ว

ฝนก็ลองโม้เรื่องนี้ให้พี่ Me, Myself ฟังเหมือนกัน พี่เค้าได้รับคำสอนเเละขั้นตอนของการปฏิบัติมาเหมือนฝนเด๊ะเลย ต่างกันเเค่พระพุทธเจ้าคนละองค์เท่านั้นเอง เลยทำให้ฝนเชื่อว่าบางทีเผื่อมีใครอ่านเจออยากจะเริ่มปฏิบัติเเต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงก็ลองพิจารณาดูตามขั้นตอนที่ฝนได้รับคำสอนมาก็เเล้วกันนะคะ

เป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบนะคะ ตัวฝนเองไม่ค่อยมีสาระอะไรมาเเนะนำอ่ะค่ะ ได้อย่างเดียวคือโม้เก่งค่ะ

ขอบคุณค่ะ

;aa27;aa27;20;20;20

 

คุณอ้อย - ร่วมบริจาคเงินทำบุญด้วยนะคะ คุณทวีศักดิ์ -สุทธิวรรณ วิญญชมภูนาท จำนวน 2,000 บาทค่ะ

แหม...ในเมื่อหัวเรือกับหางเสือว่าจะไปทางไหนแล้ว ลูกสมุนอย่างเราก็แจวกันเต็มทีเลยหล่ะคะงานนี้ ฮิฮิฮิ

 

1. ปาณาติปาตา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการฆ่าสัตว์
2. อทินฺนา ทานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการลักสิ่งของที่ผู้อื่นมิได้ให้
3. อพฺรหฺมจริยา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการประพฤติผิดพรหมจรรย์
4. มุสาวาทา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการพูดปด พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ
5. สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการดื่มสุราเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
6. วิกาลโภชนา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการบริโภคอาหารในยามวิกาล (หลังเที่ยงถึงวันใหม่)
7. นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา มาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺฐานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการฟ้อนรำขับร้อง ประโคมดนตรี และประดับร่างกายด้วยดอกไม้ของหอม เครื่องประดับ เครื่องทา เครื่องย้อม
8. อุจฺจาสยนมหาสยนา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการนั่งนอนเหนือเตียงตั่ง ที่เท้าสูงเกิน ภายในมีนุ่นหรือสำลี

ขอบคุณมากนะค่ะ คุณnaruphos ที่แนะนำเว็บเข้าไปดูศีล 8 กำลังอยากทราบอยู่พอดีเลยค่ะ

 

สาธุ...ขออนุโมทนาบุญกับคุณฝน
และพี่ชนะด้วยครับ

 

ขอบคุณครับ
ผมก็อยากรักษาศิลแป็ดบ้าง แต่ยังทำไม่ได้ ได้แต่คิดว่าอยากทำ เพราะติดอยู่สองข้อนี้ล่ะครับ รบกวนผู้รู้แนะนำอีกที ครับ

7. 1. "เว้นจากการฟ้อนรำขับร้อง" ผมยังห้ามใจไม่ให้ร้องเพลงยังไม่ได้ครับ ปากไม่ร้องแต่ใจมันนึกและร้องเอง บางทีมันผมก็รำคาญ ด่าตัวเองว่าจะร้องไปทำไมเนี่ยแต่สักพัก มันก้ร้องอีก ยิ่งเวลา เดินเล่นกับหมาที่บ้านตามส่วนสาธารณะ

7.2 เว้นจากการ "เครื่องประดับ เครื่องทา เครื่องย้อม" อันนี้มันรวมกับ สร้อยคล้องคอที่เป็นพระ ของขลังไหมครับ. ส่วนเครื่องทานี้พวกครีมทาหน้า ทาผิว ลิปสติกมันเอาไว้ทาปาก ยังล่ะไม่ได้ครับ เพราะอากาศมันหนาว. เครื่องย้อม รวมกับเสื้อผ้าปกติที่เราๆใส่กันหรือเปล่าครับ พวกกางเกงยีนต์ เสื้อยืด อะไรต่างๆพวกนี้ .

8.1 "เว้นจากการนั่งนอนเหนือเตียงตั่ง ที่เท้าสูงเกิน ภายในมีนุ่นหรือสำลี " ปกติผมนอนกันแฟนเป็นเตียงเดียวกัน ก็ยังกลัวว่าเขาจะว่าเรา แยกตัวออกห่างหรือ พอมีทางออกแบบไหนบ้างครับ


รบกวนผู้รู้ให้คำแนะนำด้วยครับ อยากทำจริงๆ เืผื่อจะบรรลุเร็วขึ้น

สายลม

 

save ไว้แล้วครับ (พยายามให้เป็นปัจจุบันที่สุดที่เข้ามาอ่านครับ)
อนุโมทนาทุกๆ คนเลยครับที่ช่วยกันส่งเสริมการปฏิบัติครับ

 

เหมือนดิฉันเลย ทำยากเพราะอยู่คอนโดกับลูกชาย แล้วเขาเรียนดนตรีด้วย ถ้าอยู่ละก็ เพลงทั้งวันทั้งคืน บางทีต้องบอกเงียบๆหน่อย แม่จะนั่งสมาธิ เขาก็จะเอาหูฟังมาใส่ ดูเหมือนจะดีนะคะ แต่ยิ่งใส่หูฟัง ยิ่งไม่ได้ยินเสียงข้างนอก เลยพูดกับเพื่อนเสียงดังกว่าเดิมอีก กรรม

ส่วนที่นอนยิ่งแย่ใหญ่เพราะห้องมันเล็ก ของเต็มไปหมด ที่ว่างไม่ค่อยจะมี ฮาฮา คงต้องรอให้ย้ายไปอยู่ที่ๆมันกว้างกว่านี้ก่อน ตอนนี้เลยได้แต่ถือศีลห้าควบคู่ไปกับกรรมบท 10

 

น้อง assume ส่งหลังไมค์มาพูดคุยเรื่องการปฏิบัติ เห็นว่าน่าจะเอาโพสในกระทู้เพื่อให้ท่านกัลยาณมิตรได้ศึกษาด้วย ได้รับอนุญาตจากน้องเขาแล้วนะคะ ถึงได้เอามาโพสค่ะ อนุโมทนากับน้อง assume ด้วยค่ะ

-----------------------------------------------------------------------------------

สวัสดีครับพี่ Me, myself
หยุดหลายวันนี้ไปเที่ยวที่ไหนบ้างมั้ยครับ ผมไปเยี่ยมญาติๆ ที่ จ.กระบี่กับพังงามาครับ ไม่ได้ทำบุญเลยครับแต่อาศัยปฏิบัติกรรมฐานแล้วอุทิศส่วนกุศลเอาครับ

ขอเล่าเรื่องการปฏิบัติในช่วงตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. ให้ฟังนะครับ <LINK href="file:///C:/DOCUME%7E1/Dream/LOCALS%7E1/Temp/msoclip1/01/clip_filelist.xml" rel=File-List><STYLE>@font-face { font-family: Angsana New;}@font-face { font-family: Cordia New;}@page Section1 {margin: 72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; size: 612.0pt 792.0pt; mso-header-margin: 36.0pt; mso-footer-margin: 36.0pt; mso-paper-source: 0; }P.MsoNormal { FONT-SIZE: 14pt; MARGIN: 0cm 0cm 0pt; FONT-FAMILY: "Angsana New"; mso-style-parent: ""; mso-pagination: widow-orphan; mso-fareast-font-family: "Times New Roman"}LI.MsoNormal { FONT-SIZE: 14pt; MARGIN: 0cm 0cm 0pt; FONT-FAMILY: "Angsana New"; mso-style-parent: ""; mso-pagination: widow-orphan; mso-fareast-font-family: "Times New Roman"}DIV.MsoNormal { FONT-SIZE: 14pt; MARGIN: 0cm 0cm 0pt; FONT-FAMILY: "Angsana New"; mso-style-parent: ""; mso-pagination: widow-orphan; mso-fareast-font-family: "Times New Roman"}DIV.Section1 { page: Section1}</STYLE>[FONT=&quot]ทุกๆ เรื่องที่ผมเล่าพี่ หากพี่เห็นว่าเป็นการสมควรที่จะนำเสนอในกระทู้ที่พี่ตั้งขึ้น พี่ก๊อปปี้ไปโพสต์ได้เลยนะครับ

[/FONT]<LINK href="file:///C:/DOCUME%7E1/Dream/LOCALS%7E1/Temp/msoclip1/01/clip_filelist.xml" rel=File-List><STYLE>@font-face { font-family: Wingdings;}@font-face { font-family: Angsana New;}@font-face { font-family: Cordia New;}@page Section1 {margin: 72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; size: 612.0pt 792.0pt; mso-header-margin: 36.0pt; mso-footer-margin: 36.0pt; mso-paper-source: 0; }P.MsoNormal { FONT-SIZE: 14pt; MARGIN: 0cm 0cm 0pt; FONT-FAMILY: "Angsana New"; mso-style-parent: ""; mso-pagination: widow-orphan; mso-fareast-font-family: "Times New Roman"}LI.MsoNormal { FONT-SIZE: 14pt; MARGIN: 0cm 0cm 0pt; FONT-FAMILY: "Angsana New"; mso-style-parent: ""; mso-pagination: widow-orphan; mso-fareast-font-family: "Times New Roman"}DIV.MsoNormal { FONT-SIZE: 14pt; MARGIN: 0cm 0cm 0pt; FONT-FAMILY: "Angsana New"; mso-style-parent: ""; mso-pagination: widow-orphan; mso-fareast-font-family: "Times New Roman"}DIV.Section1 { page: Section1}</STYLE>[FONT=&quot]ระยะหลังนี้เวลาท่องนะมะ พะทะ มักจะปรากฏใบหน้าหลวงพ่อฤๅษีลิงดำท่านบ่อยครั้งมากครับ (ปกติแล้วผมจะนึกภาพสมเด็จองค์ปฐมครับ ผมรู้สึกเอาเองครับว่าหลวงพ่อท่านเฝ้าดูอยู่ ดังนั้นเมื่อเริ่มทำก็จะปรากฏใบหน้าท่านแวบขึ้นมาทันที ทั้งๆ ที่ผมพยายามกำหนดภาพสมเด็จองค์ปฐมครับ) บางครั้งหลวงพ่อท่านก็ยิ้ม บางครั้งก็ได้ยินเสียงท่านบ้าง (แต่ท่านก็ไม่ได้พูดอะไรมาก) บางครั้งเห็นหน้าพระพุทธรูปชัดเจนมาก พระพักตร์ท่านจะยิ้มตลอด เห็นแล้วผมเองก็สบายใจ วันนี้ ([FONT=&quot]7 ก.ค. 52) มาเปิดคอมฯ ดูใน folder ของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ถึงกับอึ้งครับเพราะพระพักตร์ของพระพุทธรูปนั้นคล้ายคลึงกับองค์พระศาสดาพระองค์ปัจจุบันที่วัดท่าซุงมากๆ เลยครับ ท่านเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย (เข้าใจว่าน่าจะเป็นแบบเดียวกับที่พี่บอกว่า ปางสะดุ้งมาร - ท่านนั่งขัดสมาธิขาขวาทับซ้าย มือขวาจะวางประมาณที่เข่าขวา มือซ้ายวางลักษณะการทำสมาธิบนฝ่าเท้าขวา ทำนองพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมที่วัดท่าซุงครับ)<O></O>[/FONT][/FONT]
[FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]เช้าวันนี้ (7 ก.ค. 52) ทำสมาธิที่บ้านญาติ คือผมไปเยี่ยมญาติที่พังงาครับ กำลังท่องนะมะ พะทะอยู่ จู่ๆ ก็มีภาพท้องฟ้าสลัวๆ จากนั้นก็เห็นผู้หญิงแต่งชุดขาว ที่ศีรษะท่านมีรัศมีด้วยครับ คล้ายๆ กับรุ้ง รัศมีเป็นวงกลม ใบหน้าท่านอิ่มเอิบ มีเมตตา ในจิตบอกว่าท่านคือ เจ้าแม่กวนอิมครับ (โดยปกติแล้วเวลาผมฝึกทำมโนมยิทธิจะนึกถึงแต่สมเด็จองค์ปฐมซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่วัดท่าซุงเพื่อกำหนดเป็นนิมิตกสิณครับ) สำหรับเจ้าแม่กวนอิมผมไม่ได้นึกถึงท่านเลย แต่ศรัทธาท่านในคำสอนเนื่องจากเคยอ่านประวัติของท่านครั้งที่ท่านเป็นพระโพธิสัตว์อวโลติเกศวรครับ ผมเห็นในมือซ้ายท่านมีสิ่งคล้ายๆ แจกันอยู่ด้วย ผมไหว้ท่านแล้วขอพรให้ผมฝึกมโนฯ สำเร็จ J[FONT=&quot] ท่านใช้มือขวานำสิ่งคล้ายๆ กิ่งไผ่ (แต่ในจิตบอกว่าเป็นกิ่งหลิวครับ) เอาน้ำในแจกันนั้นรดให้ผมหลายครั้งครับ<O></O>[/FONT][/FONT]
[FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]เมื่อตอนวันศุกร์ (3 ก.ค. 52) ที่ผ่านมา ตอนผมฟังเทศน์หลวงพ่อฤๅษีลิงดำแล้วจิตใจสบายเป็นสมาธิรวมเข้ามาก็ปรากฏภาพ สมเด็จองค์ปฐมมาในชุดพระจักรพรรดิ (ปกติท่านทรงเครื่องชุดนี้ใช่มั้ยครับ แล้วพระพุทธเจ้าองค์อื่นๆ ท่านทรงชุดแบบเดียวกันกับสมเด็จองค์ปฐมมั้ยครับ ที่ผมเห็นพระศาสดาผมจะเห็นท่านแบบพระสงฆ์แต่ลักษณะท่านที่แสดงออกมาจิตผมจะทราบว่าไม่ใช่พระอรหันต์สาวกแต่เป็นพระพุทธเจ้าครับ) เมื่อเห็นสมเด็จองค์ปฐมแล้ว ก็ได้สนทนากับท่านด้วย (โดยที่ผมไม่ได้บังคับจิตแต่ประการใดประหนึ่งการพูดคุยกับคนปกติทั่วไป งงตัวเองมากเหมือนกันครับ) การสนทนากันเมื่อตอนวันศุกร์เป็นดังนี้ครับ<O></O>

[/FONT][FONT=&quot]สมเด็จ – เป็นไงบ้าง<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]กระผม – ดีขึ้นแล้วครับ<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]สมเด็จ – อืม... ปฏิบัติไปเรื่อยๆ นะ<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]กระผม – ครับ (ในจิตผมรู้สึกว่าเวลาได้พบท่านผมจะประนมมือเสมอครับ) <O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]แล้วจู่ๆ ภาพก็เปลี่ยนมาเป็นหลวงพ่อฤๅษีลิงดำครับ ท่านพูดกับผม (แบบยิ้ม ๆ) ว่า [FONT=&quot]“ไงหละ” ผมก็ได้แต่ยิ้มกับท่านด้วยความปีติยินดี ปลาบปลื้มใจครับ<O></O>[/FONT][/FONT]
[FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]ปัจจุบันนี้ผมพยายามนึกภาพพระสมเด็จองค์ปฐม พร้อมท่องนะมะ พะทะ บ่อยๆ เท่าที่ทำได้ไม่เลือกเวลา ไม่เลือกสถานที่ครับ ซึ่งจะมีภาพอื่นๆ แทรกเข้ามาโดยที่ผมไม่ได้ตั้งใจนึกคิดเอาเอง แบบที่เล่าให้พี่ฟังในตอนต้นล่ะครับ (ลูกกราบขอขมาในความไม่รู้ของลูก ขอให้ความสงสัยเหล่านี้อย่าได้เป็นกรรมใดๆ กับลูกเลย - คือ ผมสงสัยแบบโง่ๆ ว่านิมิตที่มาแทรกแบบนี้เป็นเพราะกำลังสมาธิของผมไม่ดีหรือเปล่า? หรือว่าการทำมโนฯ จะเป็นคนละเรื่องกันกับนิมิตในการฝึกกสิณเรื่องนี้ผมสงสัยมากๆ เลยครับโปรดแนะนำผมด้วยครับ) ตอนนี้ยังไม่สามารถกำหนดจิตถามปัญหาท่านครับ แต่จะเป็นนิมิตท่านมาพูดคุยด้วยเท่านั้นครับ
[/FONT]

 

ขอตอบน้อง assume นะคะ

เรื่องสมเด็จท่านปกติที่พี่เห็นท่านก็จะทรงชุดกษัตริย์ค่ะ เคยเห็นที่ทรงจีวรเป็นพระหนเดียว ส่วนพระศาสดาพี่จะเห็นทรงจีวรเป็นพระค่ะ อันนี้น้องไม่ต้องสงสัยในการเห็น จะเห็นเหมือนคนอื่นหรือไม่เหมือนก็ไม่ต้องเอามาคิดมาก ให้เรารับรู้ก็แล้วกันว่าเห็น แล้วจิตเรารู้ด้วยตัวเองได้ว่าท่านคือใครเท่านั้นก็พอค่ะ

การสนทนาพูดคุย ถ้าทำได้คล่องๆ ก็เหมือนเราพูดคุยสนทนากันแบบปกติแหละค่ะ ไม่ต้องกังวลค่ะ แล้วก็การที่ไม่ได้นึกคิดอยากเห็นภาพนั่นก็เป็นการถูกต้องแล้วค่ะ ให้มันรู้เห็นเองดีกว่า พยายามต่อไปเรื่อยๆนะคะ อนุโมทนาด้วยค่ะ

 

อนุโมทนาด้วยนะคะน้องฝน

หากท่านกัลยาณมิตรท่านใดมีข้อสงสัย ก็มาถามได้นะคะ

 

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ขอให้มีบารมี ยิ่ง ยิ่ง ขึ้นไป