เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ทำไมคนเราต้องลืมเรื่องชาติที่แล้วผู้รู้ช่วยตอบที

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อหิงสะกะ, 24 มีนาคม 2006.

แท็ก: เพิ่มแท็ก

หน้า 1 ของ 4

อหิงสะกะ Active Member

วันที่สมัครสมาชิก:

16 มีนาคม 2006

โพสต์:

366

ค่าพลัง:

+82
เคยสงสัยไหมครับว่าทำไมเราต้องลืมเรื่องชาติที่แล้ว แล้วใครทำให้ลืม ถ้าไม่ลืมเราก็จะได้จำได้ว่านรก สวรรค์มีจริง โดยไม่ต้องฝึกมโนมยิทธิถ้าเราไม่ลืมก็น่าจะมีประโยชน์กว่าเราจะได้กลัวบาปกรรม ใช่ไหมทุกคน
โลกนี้ไม่มีความบังเอิญหรอก จะมีก็แต่พรหมลิขิตเท่านั้น

อหิงสะกะ, 24 มีนาคม 2006

#1
- ถูกใจ x 3
- ดูรายการ

yaring เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

28 มกราคม 2006

โพสต์:

174

ค่าพลัง:

+155

แล้วตอนเด็กๆ คุณจำอะไรได้บ้างละครับ
ไม่ต้องชาติที่แล้วหรอก ชาตินี้ก็ลืมแล้วครับ

yaring, 24 มีนาคม 2006

#2
chatyamn เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

14 มิถุนายน 2005

โพสต์:

664

ค่าพลัง:

+4,057
ลืมหนะดีแล้ว ถ้าไม่ลืมมันจะยิ่งกว่านี้อีก...ชาตินั้นใครฆ่าใคร พอมาชาตินี้ถ้าจำได้ยุ้งแน่....ใครเคยเป็นลูก เป็นเมียกัน มันคงยุ้งไปหมด....แค่เรื่องเมื่อวานทำไรบ้าง บางทีก็ยังนึกไม่ออกเลย...นี่แหละหน่า...สัญญาไม่เที่ยง.

(bb-flower สัณฐ์(bb-flower

chatyamn, 24 มีนาคม 2006

#3
- ถูกใจ x 4
- ดูรายการ
soonyata เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

6 สิงหาคม 2005

โพสต์:

326

ค่าพลัง:

+3,675
.

ขอยกตัวอย่างและตอบคำถามเป็นนัย ๆ โดยจะยกเรื่อง ๆ นึงจากประสบการณ์จริง จะเชื่อหรือไม่เชื่อแล้วแต่วิจารณญาณ

เรื่องมีอยู่ว่าได้ไปดูกรรมกับอาจารย์ท่านนึงโดยคำแนะนำจากพี่ที่รู้จักกัน ท่านจะดูแต่เรื่องกรรมโดยเฉพาะทำนองคล้าย ๆ กับแม่ชีทศพร ตอนที่ไปดูท่านถามว่าเวลาเราทำบุญเคยอุทิศให้กับกษัตริย์และวีรสตรีไทยบ้างหรือไม่ เราก็บอกว่าอุทิศให้เป็นบางพระองค์ เช่น เสด็จพ่อ ร.5 ท่านก็เลยบอกว่าต่อไปนี้ให้เราอุทิศให้ทุกพระองค์เพราะเรามีความผูกพันใกล้ชิดกับกษัตริย์และวีรสตรีไทยในอดีตมาก่อน เราก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่วิธีการดูของอาจารย์ท่านนี้ ท่านจะแนะนำว่าให้เราไปแก้กรรมอย่างไรบ้าง เช่น ไปใส่บาตรอุทิศให้คนนั้นคนนี้ ไปไหว้ที่นั่นที่นี่ แล้วขออโหสิกรรม

ส่วนของเรานั้น ท่านมีบอกมาหลายข้อ แต่ข้อที่เด่น ๆ คือให้ไปไหว้อนุเสาวรีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัยที่อยุธยาแล้วขออโหสิกรรม ด้วยความอยากรู้ของเรา เราก็เลยลองไปดู ถ้าคนที่เคยไปจะรู้ว่า อนุเสาวรีย์ท่านอยู่นอกเมืองอยุธยา (เป็นสถานที่ที่ทำยุทธหัตถีและท่านสิ้นพระชนม์ที่นั่น) สถานที่นี้จะเป็นคล้าย ๆ อุทยานกว้าง ๆ คุณเชื่อหรือไม่ เพียงแค่เราขับรถข้ามพ้นประตูไปและเห็นเพียงด้านหลังอนุเสาวรีย์ของท่านที่ขี่อยู่บนช้าง เราก็ร้องไห้ ร้องโดยไม่ทราบสาเหตุ เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจึงร้อง ร้องเหมือนเสียใจอะไรซักอย่าง พอเราก้มกราบและขออโหสิกรรมท่าน เราก็ร้องไห้อีก คราวนี้พี่อีกคนที่ไปก็ร้องด้วย

หลังจากนั้นพี่คนนั้นเค้าก็บอกว่าให้พวกเรารีบไปกันที่ด่านเจดีย์สามองค์ที่กาญจนบุรีเพราะมีคนรอเราอยู่ที่นั่น คือ พี่คนนั้นเค้ามีองค์แล้วเราเองก็มีด้วย แต่พี่เค้าจะเห็นและได้ยินเสียงด้วย เค้าบอกว่าองค์เค้าบอกให้รีบไป เราก็บอกว่าทำไมต้องไปวันนี้เพราะมันไกลกันมาก ตอนนั้นก็บ่ายสองแล้ว พี่เค้าก็บอกว่าต้องไปวันนี้เพราะเค้ารอพวกเรามานานแล้ว

...เราคือกองทัพเทพ ลงมาเพื่อปราบมารและช่วยเหลือมนุษย์...

พระเถระกุมารกัสสปะตรัสตอบพระเจ้าประยาสิผู้มีมิจฉาทิฐิว่า "คนตาบอดแต่กำเนิดคนหนึ่ง มองอะไรไม่เห็นเลย จึงได้กล่าวว่าสีดำ สีขาว สีเหลือง เป็นต้น ไม่มี คนที่เห็นสีเช่นนั้น ก็ไม่มี ดวงดาว ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ ก็ไม่มี ผู้ที่เห็นดวงดาวเป็นต้นนั้น ไม่มี เพราะข้าพเจ้าไม่รู้ไม่เห็นจึงไม่มี" ผู้นั้นจะชื่อว่ากล่าวถูกหรือกล่าวชอบหรือไม่ พระราชาตรัสตอบว่า กล่าวไม่ชอบ

พระเถระถวายพระพรว่า พระองค์ทรงปฎิเสธเรื่องเทพชั้นดาวดึงส์ก็เช่นกัน เพราะที่คนที่เห็นก็มีอยู่ เพราะสมณพราหมณ์บางพวกที่อยู่ในป่าอันเงียบสงัด ไม่ประมาท ทำความเพียรฝึกจิตของตนจนได้ทิพยจักษุหรือตาทิพย์ สามารถมองเห็นโลกอื่นและสัตว์โลกจำพวกโอปปาติกะ ด้วยจักษุที่เป็นทิพย์เหนือจักษุของมนุษย์ก็มีอยู่ เรื่องของโลกหน้าพึงเห็นได้ด้วยวิธีอย่างนี้ จึงไม่ควรเข้าใจว่าจะเห็นได้ด้วยตาเนื้อเลย

soonyata, 24 มีนาคม 2006

#4
- ถูกใจ x 8
- ดูรายการ
soonyata เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

6 สิงหาคม 2005

โพสต์:

326

ค่าพลัง:

+3,675
.

เราก็เลยคิดว่าไปก็ไป เราเลยต้องขับรถจากอยุธยาไปด่านเจดีย์สามองค์ซึ่งเป็นสุดเขตชายแดนไทยกับพม่า ระยะทางประมาณ 300-400 ก.ม แล้วทางไปที่นั่นก็เป็นภูเขาเลี้ยวลดคดเคี้ยวประมาณ 100 ก.ม กว่าเราจะไปถึงนั่นก็หกโมงกว่าแล้ว พอไปถึงก็ไม่มีอะไรมาก มีแค่เจดีย์เล็ก ๆ สามองค์ แต่ตามประวัติแล้ว เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เพราะเป็นสุดเขตชายแดนกั้นระหว่างไทยกับพม่า แล้วก็เคยมีการยกทัพผ่านมาทางนี้หลายครั้งมาก เช่น สงครามเก้าทัพที่บุเรงนองยกมา หรือแม้แต่สงครามที่พระศรีสุริโยทัยทำยุทธหัตถี พม่าก็ยกทัพมาประมาณ 3 แสนผ่านทางนี้

ทีนี้พวกเราก็ลงไปไหว้กัน พี่คนที่ไปด้วยเค้าก็ร้องไห้ เค้าบอกว่าเค้าเห็นภาพเค้าโดนแทงตายตรงนี้แหละ เค้าก็ถามว่าเราไม่รู้สึกอะไรเหรอ เราบอกว่าป่าวนิ พอพวกเราไหว้กันเสร็จก็กลับ ทีนี้เราก็ขับรถมาได้หน่อยนึง ยังไม่ทันพ้นเขตด่านเลย เราก็รู้สึกว่ามีพลังอะไรซักอย่างมันวูบขึ้นมาแล้วเราก็ตัวสั่นและก็ตะโกนร้องออกมาดังมาก พี่เค้าบอกว่าจอดรถ ๆ เราก็จอดรถไปข้างทาง หลังจากนั้นเราก็ร้องไห้ และก็ชี้มือด่ากราดวิญญาณพม่าว่า
"พวกสูเจ้าแย่งแผ่นดินของเรา เราไม่เคยเบียดเบียนใคร แต่เพราะความละโมบโลภมากของพวกเจ้าคิดแย่งแผ่นดินของเรา" การกระทำทุกขณะเรารู้ตัวแต่ควบคุมไม่ได้ เราไม่รู้ว่าพูดแบบนั้นออกมาได้ยังงัยและเราก็คงไม่ใช้คำพูดแบบนั้นแน่
รู้แต่ว่าอารมณ์ตอนนั้นคือ เราโกรธพวกพม่ามาก ๆ ที่มาแย่งแผ่นดินของเรา โกรธและแค้นมาก พี่เค้าก็บอกว่าให้อโหสิให้เค้าซะ เค้ารอพวกเรามาปลดปล่อยหลายร้อยปีแล้ว เราก็พูดอย่างเดียวว่าไม่ ๆๆ เพราะเราโกรธมันมาก ๆ คิดดูสิผ่านมาตั้งหลายร้อยปี เราเกิดมาตั้งไม่รู้กี่ชาติแล้ว ยังไม่หายโกรธมันเลย จนสุดท้ายเราก็รวบรวมสติอยู่นาน แล้วก็พูดว่า เราอโหสิให้และขอให้เค้าอโหสิให้เราด้วย ให้หมดเวรหมดกรรมต่อกันแต่เพียงเท่านี้
...เราคือกองทัพเทพ ลงมาเพื่อปราบมารและช่วยเหลือมนุษย์...

พระเถระกุมารกัสสปะตรัสตอบพระเจ้าประยาสิผู้มีมิจฉาทิฐิว่า "คนตาบอดแต่กำเนิดคนหนึ่ง มองอะไรไม่เห็นเลย จึงได้กล่าวว่าสีดำ สีขาว สีเหลือง เป็นต้น ไม่มี คนที่เห็นสีเช่นนั้น ก็ไม่มี ดวงดาว ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ ก็ไม่มี ผู้ที่เห็นดวงดาวเป็นต้นนั้น ไม่มี เพราะข้าพเจ้าไม่รู้ไม่เห็นจึงไม่มี" ผู้นั้นจะชื่อว่ากล่าวถูกหรือกล่าวชอบหรือไม่ พระราชาตรัสตอบว่า กล่าวไม่ชอบ

พระเถระถวายพระพรว่า พระองค์ทรงปฎิเสธเรื่องเทพชั้นดาวดึงส์ก็เช่นกัน เพราะที่คนที่เห็นก็มีอยู่ เพราะสมณพราหมณ์บางพวกที่อยู่ในป่าอันเงียบสงัด ไม่ประมาท ทำความเพียรฝึกจิตของตนจนได้ทิพยจักษุหรือตาทิพย์ สามารถมองเห็นโลกอื่นและสัตว์โลกจำพวกโอปปาติกะ ด้วยจักษุที่เป็นทิพย์เหนือจักษุของมนุษย์ก็มีอยู่ เรื่องของโลกหน้าพึงเห็นได้ด้วยวิธีอย่างนี้ จึงไม่ควรเข้าใจว่าจะเห็นได้ด้วยตาเนื้อเลย

soonyata, 24 มีนาคม 2006

#5
- ถูกใจ x 8
- ดูรายการ
soonyata เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

6 สิงหาคม 2005

โพสต์:

326

ค่าพลัง:

+3,675
หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น พวกเราก็เลยรู้ว่าที่เค้าให้เรารีบมาที่นี่เพื่อให้มาอโหสิกรรมและขออโหสิกรรมกับพวกวิญญาณทหารพม่าที่มาตายบนแผ่นดินไทยของเรา เพื่อที่เค้าจะได้ไปผุดไปเกิด เราก็ไม่รู้ว่าในสมัยนั้นเราเคยเป็นใคร รู้แต่ว่าเราโกรธมาก ๆ ที่พม่ามาบุกเรา เรารู้สึกว่าเราเคยแช่งพวกพม่าที่มาบุกเอาไว้ เค้าเลยไปเกิดกันไม่ได้ เหตุผลอีกอย่างที่พี่เค้าบอก คือ พวกเราต้องพาวิญญาณทหารพม่าที่ไปตายที่อยุธยากลับมาส่งบ้านเค้า เพราะตอนที่เราสองคนนั่งมา พวกเรารู้สึกว่าเค้ามาเกาะเต็มตัวไปหมด ตัวเราหนักและปวดมาก ๆ พอตอนที่ไปถึงชายแดนพวกเราก็โล่ง พี่เค้าเลยบอกว่าให้บอกพวกเค้าว่าเราพามาส่งบ้านแล้วนะ ไม่ต้องตามเรากลับมาแล้ว
ที่เล่ามาซะยืดยาวเนี่ย ก็เพื่อจะแสดงให้เห็นผลเสียของการที่เราจำอดีตชาติได้ มีอีกตอนนึงที่เราอ่านหนังสือประวัติของพระศรีสุริโยทัย เราร้องไห้เหมือนคนเป็นบ้า แล้วเราก็เสียวคอแปล๊บ รู้สึกว่าเราโดนตัดคอจากข้างหลัง เราจะเป็นใครก็ไม่รู้แต่ว่าเราคงเคยร่วมรบในสงครามนี้ด้วย แล้วเราก็เป็นคนนึงที่ถูกทหารพม่าตัดหัวจากด้านหลัง มิน่าเล่าพอเราเข้าไปที่สถานที่ตรงนั้น เราก็เลยร้องไห้ อาจจะด้วยจิตผูกพันกับวิญญาณเพื่อนร่วมชาติที่ยังอยู่ที่นั่นด้วยและก็เสียใจด้วยที่ตัวเองต้องมาตายในสนามรบ
ก็เป็นอย่างนี้งัย เค้าถึงให้เราลืมอดีตชาติซะ ไม่งั้นเกิดมาเราก็จำได้ว่าใครฆ่าเรา เราเคยฆ่าใครมาบ้าง เจอหน้ากันก็ต้องแก้แค้น ชีวิตจมอยู่กับอดีตก็คงไม่มีความสุข สวรรค์เค้าคงให้เราไปคลำหากันเองว่าเราจะเลือกทางเดินชีวิตอย่างไร จะยึดมั่นในศีลธรรมหรือจะหลงระเริงไปกับสิ่งชั่วร้ายรอบ ๆ ตัว

...เราคือกองทัพเทพ ลงมาเพื่อปราบมารและช่วยเหลือมนุษย์...

พระเถระกุมารกัสสปะตรัสตอบพระเจ้าประยาสิผู้มีมิจฉาทิฐิว่า "คนตาบอดแต่กำเนิดคนหนึ่ง มองอะไรไม่เห็นเลย จึงได้กล่าวว่าสีดำ สีขาว สีเหลือง เป็นต้น ไม่มี คนที่เห็นสีเช่นนั้น ก็ไม่มี ดวงดาว ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ ก็ไม่มี ผู้ที่เห็นดวงดาวเป็นต้นนั้น ไม่มี เพราะข้าพเจ้าไม่รู้ไม่เห็นจึงไม่มี" ผู้นั้นจะชื่อว่ากล่าวถูกหรือกล่าวชอบหรือไม่ พระราชาตรัสตอบว่า กล่าวไม่ชอบ

พระเถระถวายพระพรว่า พระองค์ทรงปฎิเสธเรื่องเทพชั้นดาวดึงส์ก็เช่นกัน เพราะที่คนที่เห็นก็มีอยู่ เพราะสมณพราหมณ์บางพวกที่อยู่ในป่าอันเงียบสงัด ไม่ประมาท ทำความเพียรฝึกจิตของตนจนได้ทิพยจักษุหรือตาทิพย์ สามารถมองเห็นโลกอื่นและสัตว์โลกจำพวกโอปปาติกะ ด้วยจักษุที่เป็นทิพย์เหนือจักษุของมนุษย์ก็มีอยู่ เรื่องของโลกหน้าพึงเห็นได้ด้วยวิธีอย่างนี้ จึงไม่ควรเข้าใจว่าจะเห็นได้ด้วยตาเนื้อเลย

soonyata, 24 มีนาคม 2006

#6
- ถูกใจ x 12
- ดูรายการ
Snow เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

27 พฤศจิกายน 2005

โพสต์:

704

ค่าพลัง:

+2,381

คุณ soonyata คะ

ดิฉันอ่านกระทู้ที่เล่าเกี่ยวกับสิ่งน่าอัศจรรย์ที่คุณได้ประสบพบมาแล้วดิฉันรู้สึกสนใจมากเลย อยากทราบว่าท่านอาจาร์ที่ดูเกี่ยวกับกรรมเก่าให้คุณนั้นอยู่ที่ไหนคะ คุณจะพอกรุณาบอกบุญให้กับเราหน่อยได้ไหมคะ เพราะเรามีเรื่องสงสัยเกี่ยวกับอดีตชาติของคนในครอบครัวบางเรื่องที่อยากจะเรียนถามท่านอาจารย์ พร้อมทั้งวิธีแก้กรรมที่ถูกต้องด้วยค่ะ เพราะที่ผ่านมารู้สึกเหมือนยังมีอะไรบางอย่างที่ดิฉันกับครอบครัวยังทำไม่ถูกและแก้กรรมไม่ตรงจุดนัก [b-wai] ถ้าจะกรุณาช่วยมาตอบให้ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ

Snow, 24 มีนาคม 2006

#7
NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

4 มกราคม 2005

โพสต์:

4,790

ค่าพลัง:

+7,482

เอ้า ... ก็ตอนก่อนที่เราจะมาเกิด เราต้องกินลูกลืม (ลูกอึ๊ด) ทุกคนนี่นา

พวกคุณจำไม่ได้หรือไง ตอนที่เข้าแถวเรียงหนึ่ง แล้วผู้ควบคุมวิญญาณ และบอกว่า ทุกๆ คนต้องกินลูกลืมนี้ และกลืนเข้าไปในท้อง ก่อนที่จะไปเกิดใหม่ หากไม่กินลูกลืมอันนี้มันจะยุ่งไปกันใหญ่ ลูกที่เกิดอาจจะบอกว่าเคยเป็นพ่อ คนที่เป็นเมียอาจจะบอกว่าเคยเป็นผัว คนที่เป็นใหญ่อาจจะบอกว่าเคยเป็นขอทาน และบางทีคนที่เป็นขอทานวันนี้ ก็จะบอกว่า "กูคือผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินนี้ กูไม่ทำงานกูก็มีกินมีใช้" ... เยี่ยงนี้ ... ยุ่งหนอ ยุ่งจริงๆ .... เพราะฉะนั้นทุกชีวิตที่เกิดมาต้องลืมอดีตภพให้หมด มิเช่นนั้นในโลกแห่งความเป็นจริงจะยุ่งยาก มากมาย

วิธีพิสูจน์ว่า ได้กลืนลูกลืมเข้าไปในท้อง ก็ตอนที่ผู้คุมเขาตบท้องเราเบาๆ จะได้ยินเสียง "อึ๊ด อึ๊ด" ต่อจากนั้นผู้คุมก็ได้ส่งวิญญาณ เขาเรามาเกิดใหม่

แล้วเราก็จะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อมาบำเพ็ญเพียร สร้างบุญสร้างกรรม ต่อไป หากสร้างกรรมดีเยอะๆ ก็จะได้ไปอยู่ในภพที่สูง หากสร้างกรรมชั่วเยอะๆ ก็คงไม่แคล้วได้ไปอยู่ที่ต่ำ

แหม๋ ... แค่นี้เอง จำไม่ได้จริงๆ เหรอ?

ข้าฯ จะโบยบินไปสู่เสรีภาพ อันไร้พรมแดน... แห่งนิรันดร์กาล

NiNe, 24 มีนาคม 2006

#8
yaring เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

28 มกราคม 2006

โพสต์:

174

ค่าพลัง:

+155

###อ่อน### said:

เอ้า ... ก็ตอนก่อนที่เราจะมาเกิด เราต้องกินลูกลืม (ลูกอึ๊ด) ทุกคนนี่นา

พวกคุณจำไม่ได้หรือไง ตอนที่เข้าแถวเรียงหนึ่ง แล้วผู้ควบคุมวิญญาณ และบอกว่า ทุกๆ คนต้องกินลูกลืมนี้ และกลืนเข้าไปในท้อง ก่อนที่จะไปเกิดใหม่ หากไม่กินลูกลืมอันนี้มันจะยุ่งไปกันใหญ่ ลูกที่เกิดอาจจะบอกว่าเคยเป็นพ่อ คนที่เป็นเมียอาจจะบอกว่าเคยเป็นผัว คนที่เป็นใหญ่อาจจะบอกว่าเคยเป็นขอทาน และบางทีคนที่เป็นขอทานวันนี้ ก็จะบอกว่า "กูคือผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินนี้ กูไม่ทำงานกูก็มีกินมีใช้" ... เยี่ยงนี้ ... ยุ่งหนอ ยุ่งจริงๆ .... เพราะฉะนั้นทุกชีวิตที่เกิดมาต้องลืมอดีตภพให้หมด มิเช่นนั้นในโลกแห่งความเป็นจริงจะยุ่งยาก มากมาย

วิธีพิสูจน์ว่า ได้กลืนลูกลืมเข้าไปในท้อง ก็ตอนที่ผู้คุมเขาตบท้องเราเบาๆ จะได้ยินเสียง "อึ๊ด อึ๊ด" ต่อจากนั้นผู้คุมก็ได้ส่งวิญญาณ เขาเรามาเกิดใหม่

แล้วเราก็จะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อมาบำเพ็ญเพียร สร้างบุญสร้างกรรม ต่อไป หากสร้างกรรมดีเยอะๆ ก็จะได้ไปอยู่ในภพที่สูง หากสร้างกรรมชั่วเยอะๆ ก็คงไม่แคล้วได้ไปอยู่ที่ต่ำ

แหม๋ ... แค่นี้เอง จำไม่ได้จริงๆ เหรอ?
Click to expand...

เด็กที่เกิดมาแล้ว เขาระลึกชาติได้ แสดงว่าเขาไม่ได้กินลูกลืมนะสิ ?

yaring, 24 มีนาคม 2006

#9
bkgolf_th Active Member

วันที่สมัครสมาชิก:

4 มีนาคม 2005

โพสต์:

56

ค่าพลัง:

+78
เดือนที่แล้วยังจำไม่ได้เลยครับ ชาติที่แล้วจะจำได้ไง...

มันเป็นสิ่งที่ดีแล้วไม่ใช่เหรอครับ ที่เราจำไม่ได้... ไม่งั้นวุ่นวายกันหมด
ถ้าเราจำได้ เราก็จะไม่อยู่กับปัจจุบัน เหมือนในกรณีที่เด็กจำได้ว่าเราเคยเป็นครู
แล้วคนนั้นเป็นลูกเรา ทั้งๆ ที่เราก็เพิ่งเกิดใหม่เป็นเด็ก แล้วลูกเราก็อายุมากละ
เราจะดูแลลูกเราได้ยังไงหละครับ... เราก็จะไม่อยู่กับปัจจุบัน
จะนั่งคิดเกี่ยวกับอดีตอยู่นั่นแหละ... จริงมั้ยครับ...

ดีละครับ ที่จำไม่ได้... แต่เราก็สามารถไปรื้อดูได้ เพราะอะไรก็ตามที่เราทำคิดและพูด ก็จะถูกบันทึกไว้ในดวงวิญญาณหมด...

bkgolf_th, 24 มีนาคม 2006

#10
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

4 มกราคม 2005

โพสต์:

4,790

ค่าพลัง:

+7,482

yaring said:

เด็กที่เกิดมาแล้ว เขาระลึกชาติได้ แสดงว่าเขาไม่ได้กินลูกลืมนะสิ ?
Click to expand...

มีบางคนที่ไม่ได้กิน พอผู้คุมมาทุบเบาๆ ที่ท้อง ก็แกล้งกลั้นหายใจ แล้วทำเสียง "อึ๊ด อึ๊ด" ... อันนี้เป็นเทคนิคเฉพาะตัว ต้องทำให้คล้ายของจริงด้วยนะเอ้อ

วิธีการไม่ยาก ให้สังเกตคนที่กลืนเข้าไปเต็มๆ ... อันนี้ต้องเสี่ยงนิดนึงนะ เพราะหากไม่แนบเนียน โดนผู้คุมจับได้เมื่อไหร่ รับรองโดนกลืนเข้าไปเป็นสองลูกสามลูกแหน่ะ ... ตายไปกี่ชาติต่อกี่ชาติก็จำไม่ได้สักชาติ

ที่สำคัญคือ เวลากลืนลูกลืมนี้ ต้องกลืนไปทั้งอัน มันเป็นลูกกลมๆ เล็กๆ เหมือนเม็ดพุทรา กลืนได้ไม่ยากนัก ลื่นไหลลงคอ พอตกไปถึงท้อง มันก็ร้องดัง "อึ๊ด อึ๊ด"

ปล. จำได้แค่นี้แหล่ะ เพราะ ###อ่อน### ก็ได้กลืนลูกอึ๊ดเข้าไปแล้ว เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน สำหรับอดีตที่ผ่านมาอย่าไปสนใจมันเลย เนื่องจากว่าเราแก้ไขอดีตไม่ได้ ... แต่อนาคตนี่สิสำคัญกว่า เราเปลี่ยนอนาคตได้ ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมา

ข้าฯ จะโบยบินไปสู่เสรีภาพ อันไร้พรมแดน... แห่งนิรันดร์กาล

NiNe, 24 มีนาคม 2006

#11
๙๙๙๙๙๙๙๙๙ เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

30 กรกฎาคม 2005

โพสต์:

1,752

ค่าพลัง:

+2,808

กลัวกินไปแล้วติดคอตายอะ อิอิ ไม่รุ้ว่าลูกมันใหญ่อะเปร่า

๙๙๙๙๙๙๙๙๙, 25 มีนาคม 2006

#12
Forest_Sa เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

3 พฤศจิกายน 2005

โพสต์:

723

ค่าพลัง:

+1,444

ลูกลืม ยังงั้นเลยเหรอ

ภูเขาน้ำแข็งที่มีความเยือกเย็น ก็ไม่เย็นเท่าความสงบเยือกเย็นของจิตใจ

Forest_Sa, 25 มีนาคม 2006

#13
The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

18 มีนาคม 2005

โพสต์:

2,790

ค่าพลัง:

+51,007
คำอมตะหนึ่งคำ คือ
"ชีวิต คือการแสดงละคร"
ทุกอย่างเป็น มายาหมด ไม่มีอะไรจริง สักอย่าง

ยกตัวอย่างเช่น
ดาราแสดงละครในชีวิตจริง เช่น
คุณ ดวงดาว จารุจินดา คุณ เขตต์ คุณ นุ่น ฯลฯ
เวลาเล่นละคร บทบาทจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆๆ
เป็นบทดีบ้าง ตัวโกงบ้าง ฯลฯ
ก็เป็นบทฉะเพาะกาล
พอเลิกแสดงก็ลงมา เป็นตัวเอง

ไม่จำเป้นที่จะต้องรู้ว่า เราเป็นอะไร
เพราะเป้นอะไร ก็ได้
ชาติที่แล้ว เป็น พ่อ เขา ชาตินี้ เกิดมาเป็นลูกเขา ก็เช่นกัน
การเปลี่ยนบทแสดง คือ ชีวิตที่ผ่านมา
แต่ตัวแสดงคือ ตัวจริง

ทำตัวจริง ให้ดีจริง คือ เรื่อง สำคัญ
บทแสดง แค่ให้เกิดการเรียนรู้ เกิดทัศนคติ
โดยเฉพาะ การรู้ และเข้าใจในเรื่อง ทุกข์
และการ ปลดทุกข์ ตามแบบ ของ พระพุทธองค์

โดยใช้ ศีล สมาธิ ปัญญา
โดยมีมรรค เป็นเครื่อง นำทาง
เพื่อ ความหลุดพ้นของ ตัวจริง

The Third Eyes, 26 มีนาคม 2006

#14
- ถูกใจ x 5
- ดูรายการ
hexidecimal เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

28 กันยายน 2005

โพสต์:

1,026

ค่าพลัง:

+1,637

"อึ๊ด อึ๊ด"

hexidecimal, 26 มีนาคม 2006

#15
อหิงสะกะ Active Member

วันที่สมัครสมาชิก:

16 มีนาคม 2006

โพสต์:

366

ค่าพลัง:

+82

ขอบคุณทุกท่าน

[b-wai] ขอบคุณครับที่ช่วยแก้ข้อสงสัยผม ทำให้รู้ว่าคนเราลืมเพราะ ลูกลืม "อิ๊ด อิ๊ด"

โลกนี้ไม่มีความบังเอิญหรอก จะมีก็แต่พรหมลิขิตเท่านั้น

อหิงสะกะ, 26 มีนาคม 2006

#16
Chakra6 สมาชิก

วันที่สมัครสมาชิก:

28 กุมภาพันธ์ 2006

โพสต์:

6

ค่าพลัง:

+6

แล้วแปลวาอะไร สัมมาทิฐิสูตร

ศุกร์ said:

ความหมายของสัมมาทิฏฐิ
ปัญหา
ข้อที่ว่าสัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบนั้นหมายถึงอะไร

พระสารีบุตรตอบ
"...ดูก่อนท่านผู้มีอายุ เมื่อใดอริยสาวก รู้ชัดซึ่งอกุศลและรากเง่าของอกุศล รู้ชัดซึ่งกุศลและรากเง่าของกุศล... รู้ชัดซึ่งอาหาร (4 ประการคือ อาหารคือคำข้าว อาหารคือผัสสะ อาหารคือความจงใจ และอาหารคือความรู้แจ้งทางทวาร 6) เหตุเกิดแห่งอาหาร (ตัณหา) ความดับอาหาร และทางที่จะให้ถึงความดับอาหาร (มรรคมีองค์ 8 ) รู้ชัดซึ่งทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ความดับทุกข์ และทางให้ถึงความดับทุกข์... รู้ชัดซึ่งชราและมรณะ เหตุเกิดแห่งชราและมรณะ ความดับชราและมรณะและทางที่จะให้ถึงความดับชราและมรณะ... รู้ชัดซึ่งชาติ...ภพ..อุปทาน..ตัณหา..เวทนา..ผัสสะ..อายตนะ 6...นามรูป...วิญญาน...สังขาร...อวิชชา...อาสวะ เหตุเกิดแห่งอาสวะ และความดับแห่งอาสวะ และทางปฏิบัติเพื่อถึงความดับอาสวะ แม้ด้วยเหตุเพียงเท่านี้อริยสาวกชื่อว่าเป็นสัมมาทิฐิ

(สัมมาทิฐิสูตร มูลปัณณาสก์ มัชฌมนิกาย พระสุตตันตปิฏิก เล่ม 4)
Click to expand...

แล้วแปลวาอะไร สัมมาทิฐิสูตร

Chakra6, 28 มีนาคม 2006

#17
animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

27 กรกฎาคม 2005

โพสต์:

520

ค่าพลัง:

+494

มาตอบเล่นๆให้คนไม่เข้ากระทู้...(รู้สินะครับหมายความว่ายังไง)
*โปรดใช้ "วิจารณ"ญาณ"" ในการอ่าน ใครไม่มีผมไม่รับรู้ด้วยละครับ...
นึกว่าต้องมีอะไรที่คนเค้าไม่ชอบทำไมต้องลืม งั้นก็เบื่อแย่สิ...(ตอนเกิดมาตอนแรกก็แค่เพื่อดำรงชีวิต การกินเหมือนการกลายพันธุ์(เห็นกระทู้ที่คนไม่กินสัตว์แล้วที่บอกว่าอาหารเป็นพิษเพราะกินเนื้อ) ความจริงสัตว์เล็กๆที่เกิดมาไม่ต้องกินสัตว์อื่นแต่ด้วยเหตุผลอะไรไม่ทราบถึงได้กินสัตว์อื่น)<<<เหตุผลละ...(คิดไม่ออก...)
ถ้าเรากินเค้า เค้าก็กินเรา...(you get!) เราไม่กินเข้าเราไม่ยุ่งกับเขา เขาไม่ยุ่งกับเรา เรามีตัวตนเขามีตัวตนทั้ง2คนต่างมีตัวตน แต่ตัวตนของเราไม่ได้อยู่ที่เดียวกับเขา(Goodbye! I don't want to stay with you then I will go to peace place(aka.something that good to living alone...))
รูปฌาน อรูปฌาน<<<อย่ายึดว่าเทพมีรูปลักษณ์(ละมั้ง...พอดีผมไม่รู้...)

animejanai, 29 มีนาคม 2006

#18
Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

วันที่สมัครสมาชิก:

3 สิงหาคม 2005

โพสต์:

6,408

ค่าพลัง:

+50,772
ในแง่ที่กล่าวกันมาแล้วนี่ ก็แปลว่าไม่รู้อดีตก็จะดี จะได้ไม่ต้องวุ่นวายกับมันมาก แต่ผมก็ยังติดใจอยู่อีกแง่หนึ่งคือ คนทำผิด ทำชั่วต้องลงนรกเพื่อเป็นการชำระโทษให้สำนึก แต่พอชำระเสร็จแล้วกลับมาเกิดใหม่ก็ต้องลืมเรื่องเดิมอยู่ดี แล้วงี้จะสำนึกได้ไงครับว่าถ้าทำชั่วแล้วจะต้องได้รับโทษแบบที่เคยได้รับมาแล้ว...ว่าไปแล้วก็น่าแปลกนะ..ทำไมต้องลืม..อีกอย่างไอ้ที่เคยรู้มาแล้วก็ต้องกลับมาเริ่มต้นรื้อฟื้นกันใหม่ชาติแล้วชาติเล่า แบบนี้มันก็บรรลุได้ช้าสิครับ

#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat) สร้อยข้อมือ, สร้อยคอ, กำไลข้อมือ, แหวน (เครื่องประดับ), ต่างหู, หินแท้, หิน, คริสตัล, หยก, อัญมณี, ประคำ, ไข่มุก, เขี้ยวหนุมาน, แซฟไฟร์, ทับทิม (อัญมณี), มุกดา, หินออบซิเดี้ยน, โอปอล, ควอตซ์, อำพัน, มรกต, หินตาเสือ, ไคยาไนต์, โกเมน, อะซูไรต์, เบริล, ทัวร์มาลีน, Earing, Pendant, Bangle, Topaz, Jewellery Store

Chayutt, 29 มีนาคม 2006

#19
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
L-Knight Active Member

วันที่สมัครสมาชิก:

2 กุมภาพันธ์ 2006

โพสต์:

39

ค่าพลัง:

+88

ว้าวสนุกดี จริงๆขอแค่ ไปแก้กรรมที่ทำไว้ก็พอ ไม่ต้องจำอะไรมากหรอก

ความมุ่งมั่นเท่านั้นที่จะทำให้สำเร็จ

L-Knight !

L-Knight, 29 มีนาคม 2006

#20

(คุณต้องเข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน เพื่อที่จะโพสต์)

หน้า 1 ของ 4

แชร์หน้านี้

Loading...