นิทานเซ็น..อ่านเล่นก่อนนอน..

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ..กลับตัวกลับใจ.., 26 พฤษภาคม 2009.

  1. ..กลับตัวกลับใจ..

    ..กลับตัวกลับใจ.. Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +96
    "ความว่าง, คนโง่มัวแต่หลบหลีกปรากฏการณ์ต่างๆ
    ไม่หลบ จากความคิดปรุงแต่ง,
    ส่วนคนฉลาดย่อมหลบหลีกจากความคิดปรุงแต่ง
    และไม่ต้องหลบหลีกปรากฏการณ์"

    ***************************

    สัตบุรุษอัน"ทุกข์"ถูกต้อง แม้พลาดพลั้งไป
    ก็ไม่ยอมละธรรม เพราะฉันทาคติและโทสาคติฉันนั้น


    **************************
    บุคคล เป็น"คนเลว"เพราะชาติก็หาไม่
    เป็น"ผู้ประเสริฐ"เพราะชาติก็หาไม่
    แต่ เป็นคนเลวเพราะการกระทำ
    เป็นผู้ประเสริฐก็เพราะการกระทำ


    *************************

    จิต เป็นเหมือนความว่าง ซึ่งภายในย่อมไม่มีความสับสนและความไม่ดีต่างๆ
    ดังจะเห็นได้ในเมื่อดวงอาทิตย์ ผ่านไปในที่ว่างนั้น ย่อมส่องแสงไปได้ทั้งสี่มุมโลกเพราะว่าเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น และให้ความสว่างทั่วทั้งพื้นโลก ความว่างที่แท้จริงก็ไม่ได้สว่างขึ้น

    .....และเมื่อพระอาทิตย์ตก....ความว่างก็ไม่ได้มืดลง

    ปรากฏการณ์ของความสว่างและความมืดย่อมสับเปลี่ยนซึ่งกันและกัน
    แต่ธรรมชาติของความว่าง ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงอยู่นั่นเอง

    จิตของพุทธะและของสัตว์ทั้งหลาย... ก็เป็นเช่นนั้น
    ถ้าเธอมองดู พุทธะว่าเป็นผู้แสดงออกซึ่งความปรากฏของสิ่งที่บริสุทธิ์ผ่องใสและรู้แจ้ง ก็ดีหรือมองดูโลกทั้งหลาย ว่าเป็นผู้แสดงออกซึ่งความปรากฏของสิ่งโง่เง่า มืดมน และมีอาการสลบไสลก็ดี

    ความรู้สึกนึกคิดเหล่านั้น อันเป็นผลเกิดจากความยึดมั่นต่อรูปธรรมนั้น
    จะกันเธอไว้เสีย จากความรู้อันสูงสุด

    ถึงแม้ว่าเธอจะได้ปฏิบัติมาตลอดกี่กัปป์นับไม่ถ้วน ประดุจเม็ดทรายในแม่น้ำคงคาแล้วก็ตาม

    **************************

    ยึดมั่นคราใดเป็นทุกข์ครานั้น
    การปฏิบัติทุกอย่างต้องมาลงที่ความไม่ยึดมั่นถือมั่น
    สิ่งใดหรือเรื่องใดที่ปฏิบัติแล้ว
    ยิ่งทำให้เกิดยึดมั่นถือมั่นมากยิ่งขึ้น ถือว่าผิดแล้ว

    *****************************

    ถ้าเราพบความผิดในบุคคลอื่น
    เราเองก็ตกอยู่ในความผิดนั้นด้วยเหมือนกัน
    เมื่อผู้อื่นทำผิด เราไม่จำเป็นต้องเอาใจใส่
    เพราะมันจะเกิดความผิดขึ้นแก่เราเอง ในการที่จะไปรื้อหาความผิด

    ******************************

    ;38
     
  2. ..กลับตัวกลับใจ..

    ..กลับตัวกลับใจ.. Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +96
    อาจารย์ : จะไปไหน ?
    ศิษย์ : ไปสถานที่ปฏิบัติธรรมครับ
    อาจารย์ : สถานที่ปฏิบัติธรรม !!!!!
    ศิษย์น้อง : ที่ไหนไม่ใช่ที่ที่ปฏิบัติธรรมหรือครับ ?
    ทุกแห่งหนล้วนเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม
    อาจารย์ : แล้วอยู่สถานที่ปฏิบัติธรรม ทำไมยังขี่ลาไม่ลงมาอีกเล่า ?
    ศิษย์น้อง : ถ้าหากทุกแห่งหนเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม
    การขี่ลาหรือไม่ขี่ก็เป็นการปฏิบัติธรรมไม่ใช่หรือครับ ?

    ********************************************

    เณรน้อยกำลังเล่นวิทยุบังคับหุ่นยนต์อย่างสนุกสนาน พออาจารย์เดินเข้ามาเณรน้อยจึงถามขึ้นว่า
    ท่านอาจารย์ครับ ถ้าก้าวไปข้างหน้า 3 ก้าวจะเป็นอย่างไร อาจารย์ตอบว่า ต้องหัวชนฝาชนกำแพง พอหุ่นยนต์ชนกำแพงหงายหลังลง เณรน้อยก็พยายามใช้เครื่องบังคับเพื่อให้ลุกขึ้นมา พอหุ่นยนต์ลุกขึ้นมาได้
    เณรน้อยก็ถามอีกว่า ถ้าถอยหลัง 3 ก้าวจะเป็นอย่างไร อาจารย์ตอบว่า จะตกลงไปในหุบเหว พอหุ่นยนต์ตกลงไปในเหว ทั้งเณรน้อยและอาจารย์ต่างมองดูด้วยความตกใจ
    เณรน้อยถามอีกว่า ถ้าหากว่าไม่เดินหน้าและไม่ถอยหลังละ อาจารย์ถอนใจตอบว่า ก็เป็นซากศพที่เดินไม่ได้ เจ้าเณรน้อยฟังแล้วเกาหัวด้วยความไม่เข้าใจ

    ***********************************************

    ลูกศิษย์ 3 คนกำลังต่อตัวขึ้นไปทาสีกำแพง เจ้าเณรน้อยที่อยู่ระหว่างกลางถามขึ้นว่า ศิษย์พี่ อีกนานไหมกว่าจะเสร็จ เราเหนื่อยเหลือเกิน ศิษย์คนที่อยู่ชั้นบนกล่าวว่า พึ่งยืนแค่วันเดียวก็บ่นว่าเหนื่อยแล้ว เป็นเพราะยามปกติไม่ตั้งใจฝึกฝน ดูศิษย์พี่ใหญ่เป็นตัวอย่าง ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่รู้จักเหนื่อย เจ้าเณรน้อยก้มดูศิษย์พี่ใหญ่ที่ยืนสงบนิ่งอยู่ชั้นล่าง แล้วรำพึงว่า จะต้องฝึกฝนอย่างไรกัน ศิษย์ที่ยืนอยู่ชั้นบนสุดก็งงตอบไม่ได้ พอดีมีกลิ่นหอมของอาหารโชยมาแตะจมูกของศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์พี่ใหญ่จึงเดินขยับไปตามทิศทางของกลิ่นหอม ทำให้ศิษย์ที่ต่ออยู่ชั้นบนร่วงตกลงมากองอยู่ตรงหน้าอาจารย์ อาจารย์ถอนใจกล่าว่า เมื่อจิตใจเกิดหวั่นไหว ก็ไม่สามารถฝึกฝนอะไรให้บรรลุได้ เจ้าเณรน้อยลุกขึ้นถามว่า ถ้าจิตใจไม่หวั่นไหวละ อาจารย์ตอบว่า ก็เหมือนกับผีตายซากในป่าช้า

    *****************************************
    ขณะที่ลูกศิษย์กำลังกวาดลานวัดอยู่ เจ้าเณรน้อยถามขึ้นว่า ศิษย์พี่ ทำไมเรากวาดอยู่ทุกวัน แล้วใบไม้พวกนี้ยังกวาดไม่หมดซักที ศิษย์ผอมมองดูใบไม้ที่ร่วงลงมาตลอดเวลา แล้วกล่าวว่า เรารู้แล้ว พวกเราออกแรงโยกต้นไม้ให้ใบไม้ร่วงลงมาให้หมด เราจะได้ไม่ต้องกวาดทุกๆวัน

    เจ้าเณรน้อยก็เห็นด้วย ทั้งสองจึงช่วยกันเขย่าต้นไม้ให้ใบมันร่วงลงมา แล้วช่วยกันกวาดจนสะอาด พอรุ่งเช้าตื่นขึ้นมา ก็ยังมีใบไม้ร่วงหล่นเต็มลานวัด ขณะที่ทั้งสองกำลังตกตะลึง ก็มีเสียงดังมาจากยอดไม้ว่า เด็กโง่ ไม่ว่าวันนี้เจ้าจะออกแรงเขย่าอย่างไรก็ตาม พรุ่งนี้ใบไม้ก็ยังคงร่วงลงมาเหมือนเช่นเคย

    **************************************

    สาวน้อยนางหนึ่งยืนร้องไห้อยู่กลางตลาด เจ้าเณรน้อยมาพบเข้าจึงถามว่า สาวน้อย เป็นอะไรไปหรือ ในบรรยากาสที่สดใสเช่นนี้ท่านร้องไห้ทำไม สาวน้อยตอบว่า บิดาเราเป็นคนขายร่ม บรรยากาสดีเช่นนี้ ร่มก็ขายไม่ออกแล้ว พอดีมีฝนตกลงมา แต่สาวน้อยกลับร้องเสียงดังขึ้น เจ้าเณรน้อยจึงถามว่า เจ้าเป็นอะไรอีกล่ะ สาวน้อยตอบว่า มารดาเราขายสำลี ถ้าฝนตกก็จะทำสำลีเปียกเสียหายหมด เจ้าเณรน้อยคิดอยู่พักหนึ่งแล้วกล่าวว่า เราเสกให้ฝนตกในที่ที่บิดาท่านขายร่ม ฝนแล้งในที่ที่มารดาท่านขายสำลี อย่างนี้ดีไหมไม่ว่าฝนตกหรือฝนแล้งท่านก็ควรจะสบายใจ

    ********************************

    ขณะที่ลูกศิษย์วัดกำลังปัดกวาดอยู่ที่ลานวัด ก็มีคณะนักท่องเที่ยวเข้ามาชมวัด ไกด์ก็กล่าวแนะนำต่างๆนาๆ แล้วพานักท่องเที่ยวเดินมาจนเห็นเจ้าอาวาสก็กำลังกวาดพื้นอยู่ ไกด์ได้แนะนำถึงการบำเพ็ญเพียรอันแก่กล้าของเจ้าอาวาส ทำให้นักท่องเที่ยวเกิดสงสัยขึ้น ไกด์จึงถามเจ้าอาวาสว่า ท่านอาจารย์เป็นถึงพระชั้นผู้ใหญ่ ทำไมยังต้องมากวาดพื้นอีก เจ้าอาวาสนิ่งคิดสักครู่ก็กล่าวว่า ฝุ่นมันเยอะเกิดไป จะทำอย่างไรได้ แล้วก็กวาดต่อไป ไกด์ถามอีกว่า ในเมื่อเป็นสถานที่อันบริสุทธิ์ ทำไมยังมีฝุ่นอีก อาจารย์หันไปกวาดใส่ไกด์คนนั้นแล้วกล่าวว่า ทำไมจึงยังมีฝุ่นเข้ามาอีก

    *********************
     
  3. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เด็กโง่ ไม่ว่าวันนี้เจ้าจะออกแรงเขย่าอย่างไรก็ตาม พรุ่งนี้ใบไม้ก็ยังคงร่วงลงมาเหมือนเช่นเคย

    มันจิ๊ดดดดดดดด.... อยู่ในใจ

    rabbit_scary
     
  4. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    ปลากระป๋องสอนธรรม

    เด็กโง่ ที่กระป๋องนั้นมันไม่อร่อยเพราะปลาที่อร่อยมันยังอยู่นอกกระป๋อง
    ให้รอกระป๋องนั้นที่เซเว่นนะ ให้หยิบมาดูอันไหนมีปลาในกระป๋องแปลว่าไม่ใช่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2009
  5. ..กลับตัวกลับใจ..

    ..กลับตัวกลับใจ.. Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +96
    ครั้งหนึ่ง ท่านเว่ยหล่างไปพักค้างแรมที่บ้านหลังหนึ่ง
    ขณะที่กำลังจะนอนพักผ่อนในช่วงบ่าย ได้ยินเสียงคนกำลัง

    สวดมนต์ เลยลุกขึ้นไปถามผู้นั้นว่า

    "เจ้าเข้าใจความหมายของบทที่สวดหรือเปล่า ?"

    "บางตอนเข้าใจยากจริงๆ?"

    ท่านเว่ยหล่างเลยอธิบายให้ฟังบางตอนของบทสวดว่า

    "เมื่อเราอยู่ในโลกแห่งมายาจอมปลอมนี้จนผมหงอก
    ขาวหมดไปทั้งหัวแล้ว พวกเราต้องการอะไร?

    และเมื่อไฟแห่งชีวิตกำลังจะมอดลง ใจเต้นอ่อนลง และ
    ลมหายใจกำลังจะขาดรอนๆ อะไรคือสิ่งสุดท้ายที่เราหวัง?

    และเมื่อกายของเรากำลังเน่าเปื่อยอยู่ในสุสาน ธาตุกลับ
    คืนสู่ธาตุ ธาตุดินสู่ดิน ชีวิตกลายเป็นสิ่งไร้ความรู้สึกในความ
    ว่างเปล่าแล้ว เราอยู่ที่ไหน??"

    คนที่สวดมนต์นั้นได้ชี้คำหลายคำในคัมภีร์ที่ไม่เข้าใจ
    ความหมายแล้วถาม ท่านเว่ยหล่างยิ้มๆแล้วตอบว่า

    "ข้าพเจ้าไม่รู้หนังสือ ท่านถามมาเลยดีกว่า"

    คนๆนั้นรู้สึกแปลกใจแล้วพูดขึ้นว่า

    "ท่านอ่านหนังสือไม่ออก ท่านจะเข้าใจความหมาย เข้า
    ใจหลักธรรมได้อย่างไร??"

    ท่านเว่ยหล่างตอบว่า


    "หลักธรรมของพุทธะ กับตัวหนังสือไม่เกี่ยวกัน
    ตัวหนังสือเป็นเพียงเครื่องมือที่จะเรียนรู้
    สิ่งที่จะเข้าใจหลักธรรมคือจิต คือตัวรู้ ไม่ใช่ตัวหนังสือ"
     
  6. ..กลับตัวกลับใจ..

    ..กลับตัวกลับใจ.. Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +96
    ในช่วงที่รัชกาลที่ 3 ขึ้นครองราชย์ สมเด็จท่านยังเป็นมหาโต ก็ถือโอกาสหลบไปธุดงค์ตามป่าเขาถึง 25 ปีจนถึงรัชกาลที่ 4 เมื่อหลีกเลี่ยงไม่พ้น ท่านก็ยอมรับเป็น "สมเด็จ" และเป็นเจ้าอาวาสวัดระฆังฯ แต่ถึงยังงั้น ท่านก็ยังวางตัวเป็นปกติ เคยรับนิมนต์ชาวบ้านอย่างไรก็ยังคงปฏิบัติเหมือนเดิม

    ครั้งหนึ่งชาวบ้านแถวราษฎร์บูรณะนิมนต์ไปฉันภัตตาหารที่บ้าน ท่านก็พายเรือไปกับลูกศิษย์ ช่วงที่จะเข้าถึงบ้านเจ้าภาพเป็นลำคลองเล็กๆ ที่น้ำเริ่มตื้น เรือเข้าไม่ได้ ท่านกับลูกศิษย์ก็โดดลงจากเรือไปช่วยกันเข็น


    ชาวบ้านเห็นเข้าก็พากันตะโกนบอกต่อๆ กันว่า "สมเด็จเข็นเรือโว้ย!"

    ท่านได้ยินก็ตะโกนกลับไปว่า "ฉันไม่ใช่สมเด็จจ้ะ ฉันชื่อขรัวโต สมเด็จท่านอยู่ในเรือนั่นต่างหาก" ว่าพลางก็ชี้ไปที่พัดยศที่วางอยู่บนเรือ




    **************************************************


    ท่านอิคคิวถือกำเนิดขึ้นในเมืองซางะ เมืองชนบทที่ห่างไกลจากเกียวโต ท่านเป็นโอรสนอกสมรสของจักรพรรดิโคมัทซึ ท่านจึงถูกเลี้ยงโดยคนรับใช้ ก่อนจะถูกแยกออกไป ไว้ที่วัดเมื่ออายุเพียง 5 ขวบ เพื่อให้ลูกนอกสมรสคนนี้ไม่มีความปรารถนาทางการเมืองอีกต่อไป และที่สำคัญจะได้ไม่ถูกสังหารเพราะการแย่งชิงอำนาจทางการเมืองในยุคนั้น

    ท่านอิคคิวเป็นเณรที่ฉลาดลึกล้ำ เหมือนกับที่ผู้คนได้รับรู้ในเวลาต่อมาเมื่อนำประวัติมาดัดแปลงเป็นนวนิยายและการ์ตูน "อิคคิวซัง เณรน้อยเจ้าปัญญา" เสมือนเป็นการชดเชยชีวิตของโอรสนอกสมรสของจักรพรรดิญี่ปุ่นที่อาภัพที่สุดในประวัติศาสตร์


    ฤทธิ์เดชของท่านอิคคิวเริ่มฉายแววตั้งแต่ยังเป็นเณร เจ้าอาวาสกำลังจะออกไปธุระข้างนอก แต่กลัวเณรอิคคิวจะขโมยขนมที่เจ้าอาวาสโปรดมากในโหลที่ซ่อนไว้บนหลังตู้เก็บของ เลยสั่งว่า "ขนมในโหลนี่กินได้เฉพาะผู้ใหญ่เท่านั้น เด็กๆ อย่างเธอแตะเข้าไปก็ถึงตายเลยนะ พิษมันร้ายมาก"

    เณรอิคคิวรับคำบัญชามาเป็นอย่างดี พอลับตาเจ้าอาวาส อิคคิวก็พาทั้งเณรและเด็กวัดปีนขึ้นไปเอาขนมในโหลมาแบ่งกันกินจนหมด ก่อนจะทุบขวดให้แตก เมื่อเจ้าอาวาสกลับมาเห็นเณรอิคคิวนั่งร้องไห้รอสารภาพอยู่แล้วโดยบอกว่า "ผมขึ้นไปทำความสะอาดบนหลังตู้แล้วเผอิญทำขวดโหลตกลงมาแตก ก็ตกใจกลัวรีบกินขนมในนั้นเพื่อฆ่าตัวตายให้สมกับความผิด แต่ก็ยังไม่ตาย ท่านบอกว่า มันมีพิษร้ายมาก แต่มันก็ไม่เห็นเป็นอะไร เลยคิดว่ามันคงกินน้อยไป จึงพยายามกินจนหมดเพื่อให้ตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่มันก็ยังไม่เป็นอะไรอยู่ดี"

    เจ้าอาวาสฟังแล้วทั้งแค้นทั้งขัน แต่ท่านนึกไม่ถึงเลยว่า เณรน้อยเจ้าปัญญาผู้นี้จะกลายเป็นพระเซนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นไปได้ยังไง!
     
  7. ..กลับตัวกลับใจ..

    ..กลับตัวกลับใจ.. Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +96
    พระอาจารย์ผู้มีตะบะแก่กล้า กำลังทำสมาธิอยู่บนยอดไม้ เห็นเณรเด็กกำลังรังแกเต่า ก็กระโดดลงมาดึงหู
    แล้วถามว่า " เจ้ารู้ไหมว่า อะไรคือหัวใจของพระธรรม ??? " เณรตอบไม่ได้
    อาจารย์จึงบอกว่า " ประกอบคุณความดี ละเว้นความชั่ว "
    เณรตอบว่า " เรื่องนี้เด็ก 3 ขวบก็รู้แล้ว "
    อาจารย์ตอบว่า " แต่คนอายุ 80 ปีก็ไม่แน่ว่าจะปฏิบัติได้ "

    พอดีเต่าที่เณรเล่นเกิดพลิกตัวได้ แล้วไต่ขึ้นมาตามขาของอาจารย์ จนมางับมืออาจารย์
    อาจารย์ร้องลั่นแล้วสบัดมือ พอเต่าหลุดมืออาจารย์ก็เตะจนเต่ากระเด็นกระทบพื้นตาย .....
     
  8. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ชิซึกะ เห็นด้วยอย่างยิ่ง เจ้าค่ะ
     
  10. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    55555 สะท้อนใจดี
     
  11. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ชินเนม่อนซัง ไปไหน
     
  12. ..กลับตัวกลับใจ..

    ..กลับตัวกลับใจ.. Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +96
    <CENTER><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top bgColor=#000000 rowSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD width=10>[SIZE=-3] [/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD align=left bgColor=#000000 colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD width=10>[SIZE=-3] [/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

    *************************************************



    [​IMG]
     
  13. ..กลับตัวกลับใจ..

    ..กลับตัวกลับใจ.. Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +96
    ณ สวนโมกข์ ของท่านพุทธทาส
    จะมีภาพงูตัวใหญ่ หงอนชัน อ้าปากกว้าง ปรากฏรูปพระทำสมาธิเข้าฌาน อยู่ในปากงู

    ปริศนาธรรมที่ ซ่อนซุกอยู่ในภาพนี้คือ..
    การใช้ชีวิตอยู่ในสังคม อย่างไม่ถูกต้องกับความชั่วร้ายทั้งหมด
    ไม่ห่างไกลแต่ไม่ปนเปื้อน และไม่บาดเจ็บ ไม่ถูกทำร้าย ไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน

    เปรียบดั่ง ลิ้นงู อยู่ชิดกันกับเขี้ยวงู
    แม้เขี้ยวงูจะมีพิษร้าย ถึงตาย แต่ลิ้นงูก็หาได้ถูกพิษไปด้วยไม่

    จงอยู่ร่วมกันกับ"สิ่งชั่วร้าย"ให้เหมือนลิ้นงูในปากงู ที่ไม่มีวันต้องพิษงู
    พิษงูหรือนั้นเปรียบเหมื่อน "มายาปรากฏ" การได้ และเสีย 8 ประการ โลกธรรม 8
    การได้ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ
    การเสื่อมลาภ ยศ ทุกข์ นินทา


    หากได้ทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งแล้ว การอยู่อย่างฉลาด ง่ายดายนัก
    ไม่ถือมั่น ไม่ยึดมั่น ไม่หวั่นไหว และไม่ต้องหนีไปไหน
     
  14. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    ความฉลาดที่เป็นพิษ..สุดยอด
    โดยเฉพาะคำที่ว่า..ความฉลาดบางชนิดสู้ไม่ฉลาดไม่ได้
     
  15. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    อิ...อิ
     
  16. ..กลับตัวกลับใจ..

    ..กลับตัวกลับใจ.. Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +96
    [​IMG]


    ...ภู..บ่สูง..

    ...แต่ว่าห้วยมันลึก..

    ... ภู..บ่ลึก..

    ...แต่ว่าเมืองมันไกล..

    ...ภู..บ่เล็ก..

    ...แต่ว่าฟ้ามันใหญ่..

    ...นกเขาไฟ บินร่ายเริงลม..



    ...พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ..
     

แชร์หน้านี้

Loading...