ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย suwi, 25 มกราคม 2008.

  1. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    อู้ย..มานแก้ง่ายมากเลย

    พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า (เอาตามที่จำได้ก็แล้วกันนะ จำปะโยคจริงๆไม่ได้)

    ธรรมใดย่อมเกิดจากเหตุ ให้ดับเหตุนั้นเสีย ธรรมนั้นก็จะดับตาม

    อาการโรคนี้เกิดจากตามันร้อน

    ดังนั้นควรควักลูกตาไปแช่ น้ำแข็งเสีย เมื่อตาเย็นแล้วค่อนอามาใช้
    หรือถ้ายังไม่เย็น ท่านให้ใส่ในช่องฟีซซ์ค้างคืนไว้
    รับรองตาที่ควักออกมาไม่เน่าไม่เสีย
     
  2. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    มีหรือ ที่มิได้คำตอบ

    รอหายมึนก่อนแล้วถามใหม่นะ
     
  3. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168

    แหม เห็นคุณมังกรบูรพาป่วย แล้วก็เลยอยากป่วยบ้าง

    ได้พลังหนุมานมา ไม่เห็นจะแบ่งพลังกันบ้างเลย (ขอแซวข้ามกระทู้กันหน่อย)

    ไม่รู้เป็นไง มันตาร้อน ร้อนตา ยังไงชอบกล

    แบ่งๆ กันบ้างสิคะ พลังหนุมานหนะ เก็บไว้คนเดียว เดี๋ยว Overdos นะคะคุณมังกร

    อย่างนี้จะรักษายังไงดีคะ
     
  4. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    ถามคุณสุวิ

    ยาเตโช
    ยากระชายทอง
    ยาไพลทอง
    ยาทองนพคุณ

    สีตัวนี้ล้วนแต่เป็นยาร้อน????

    ดังนั้นดิฉันควรจะรับประทานอาการที่มีฤทธิ์เย็น ใช่ไหมคะ??

    เช่น ไอติม น้ำแข็งใส อ้าว!! ไม่ใช่หรอ เขียนใหม่ก็ได้

    เช่น อะไรดีหว่า...ผักใบเขียว ใบชะพลู ใบตำลึง แอปเปิ้ล ส้ม เงาะ มังคุด ฟักเขียว หัวไชเท้า ฯลฯ กินได้ใช่อะเปล่าคะ?

    ส่วน ข้าวเหนียว (พอดีช่วงนี้ หน้าบะจ่าง กำลังมา ที่บ้านข้าวเหนียวเต็มตู้เย็นเลย) และอะไรอีก ทุเรียน พริกขี้หนู ฯลฯ ไม่ควรกิน เพราะร่างกายได้ฤทธิ์ร้อนจากยา อยู่แล้วอะเปล่าคะ??
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2009
  5. Walk My Way

    Walk My Way สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +7
    เรียนท่านผู้รู้
    คือหนูมีปัญหาเกี่ยวกับอาการขณะการนั่งวิปัสสนา
    ก่อนอื่นต้องขอบอกรายละเอียดส่วนตัวก่อน
    หนูป่วยเปนมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมาสองปีกว่า
    โดยพบครั้งแรกเมื่อสองปีที่แร้ว แต่ไม่ได้รับการรักษาด้วยคีโม
    แค่เพียงตัดทิ้ง Biopsy
    ทำ CT scan พบที่ไหปลาร้า และบริเวณขั้วปอด
    และปีนี้ 2552 หนูได้ทำการตรวจซ้ำ
    พบว่าโรคที่เปนอยู่ มันไม่ได้ลามไปไหน
    ยังพบอยู่ที่บริเวณเดิม แต่มีการโตขึ้น
    จากเดิมที่ปอด สามเซน เปนสี่เซน
    พบพบก้อนเพิ่มขึ้นอีกก้อนขนาด สองเซน

    ตลอดเวลาที่ผ่านมาหนูกินยาสมุนไพร และควบคุมอาหารบ้าง
    ออกกำลังกาย ทำจิตใจให้แจ่มใส
    อยู่อย่างมีสติตลอดเวลา

    ผลการตรวจซ้ำทำให้หนูมั่นใจมากขึ้น
    ว่าการทำคีโม ไม่ใช่ทางออกสำหรับหนู
    จึงตัดสินใจไปนั่งวิปัสสนาเปนเวลา สิบวัน
    โดยวันที่สี่ หนูเริ่มมีอาการแปลกๆเกิดขึ้น
    หูตาไวเปนพิเศษ รู้สึกถึงความร้อนที่ออกมาตามร่างกายเป็นคลื่นๆ
    ขณะนอนหลับ ยังสามารถรู้สึกตัวตื่นขึ้นมานั่งตบยุงได้
    แต่ไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่าคงอุปทานไปเอง
    จนเข้าวันที่หก ขณะนั่งวิปัสสนา
    หนูเริ่มจับความรู้สึกของการเต้นของหัวใจแรงสั่สะเทือนของหัวใจเต้นและปอดได้
    จับการเต้นของชีพจรตามร่างการ จมูกเท้า ปลายนิ้ว จมุกปาก แก้ม ตา
    เริ่มรู้สึกเจบลึกๆบริเวณก้อนมะเร็งที่ไหปลาร้า และที่ปอด

    หลังการนั่งสมาธิทำให้หนูมีความสุขมาก
    อาจเปนเพราะสารเอนโดฟินที่หลั่งออกมา

    หนูปฎิบัติจนครบสิบวัน
    วันที่ออกมาโลกภายนอก
    หนูก้ไปมหาลัยตามปกติ
    แต่ก้เริ่มมีอาการแปลกๆเกิดขึ้นอีก
    เวลาที่เจอคนเยอะๆ หนูมักจะมีเวทนาเกิดขึ้นตามร่างกาย
    ยิ่งไปซื้อของแถวอนุเสาวรีย์ ปวดจมูกจี๊ดขึ้นไปถึงหัว
    เรยต้องรีบกลับบ้าน หนุไม่มีความรู้สึกอยากเจอหน้าแฟน
    ไม่อยากเข้าใกล้ ทั้งๆที่ต้องห่างกันถึงสิบวัน

    หนูเรียนวิทยาศาสตร์ จึงไม่ค่อยเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
    จึงเรียนถามคุณหมอ ว่าการนั่งสมาธิจะสามารถช่วยทำการบำบัดโรคได้จิงรึป่ว
    แร้วจะมียาขนานไหนที่พอจะช่วยให้ก้อนมะเร็งมันยุบตัวไปได้
    ตอนนี้หนูเปลี่ยนมากินยาหม้อของรพ. ศิริราชได้สี่หม้อ(จากที่กินของหมอบ้าน)

    ขอบคุณค่ะ
     
  6. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    อนุโมทนาอย่างยิ่งครับ คุณ Walk My Way

    ของดีเกิดขึ้นกับตัวเองแล้วครับ ผมไม่แน่ใจว่า อาจารย์จะเข้ามาอีกเมื่อไหร่

    อาการที่เจ็บตรงก้อนมะเร็ง และปอด ฝึกให้เจ็บไว้ครับ ก๊าก 55555555

    รออาจารย์ให้รายละเอียดครับ ผมไม่อยากเป็น หนุมานคลุกฝุ่น อ่ะจึ๋ย!
     
  7. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ไม่เข้าใจ จริงๆ สองอาทิตย์นี้ มีแต่เรื่องเนื้องอกโผล่เข้ามา
    แต่ละเรื่องล้วนหนักหนาสาหัส
    บ้างเป็นเนื้องอกธรรมดา บ้างแปรไปเป็นเนื้อร้ายแล้ว

    โรคนี้ ว่าจะไม่แตะ ด้วยร้อยทั้งร้อย ล้วนมีตัวประหลาดขอย้ายสัมโนประชากรมาอยู่กะคนป่วยด้วยทุกราย
    แตะลงไปทีไรล้วนต้องทะเลาะกับพวกนี้ทุกที (เสียเปรียบมัน)

    แต่ใหนๆก็ไหนๆ ลองดูสักตั้งสองตั้ง

    อ้อ พวกที่เข้ามาร้องขอ พกบุญมามากๆด้วยนะ

    เอาเรื่องแรกก่อน
     
  8. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เศษกรรมใครว่าไม่สำคัญ

    ข้อความที่เขียนนี้เขียนจากความจำเท่าที่จะจำได้ เป็นข้อความจากพระสูตรในพระไตรปิฎก
    (ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยด้วย ใครสามารถหาข้อความตัวจริงได้ก็โปรดชี้แนะ)

    สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคได้เดินทางผ่านไปในชนบทแห่งหนึ่ง
    พระองค์กระหายน้ำ จึงให้ผูดูแล (เรียกอุปฐากมั้ง) ไปตักน้ำให้พระองค์ได้เสวย
    แต่ผู้ดูแลไม่ยอมตักให้ด้วยเห็นว่าสายน้ำบริเวณนั้นมันขุ่น ด้วยมีกองเกวียนเพิ่งผ่านไป
    จึงทูลพระองค์ไปตามเหตุเหตุดังกล่าว ทำให้พระองค์อดน้ำ
    แม้จะบอกหลายครั้งก็มิได้มีใครยอมตักน้ำที่ขุ่นนั้นถวายพระองค์
    เป็นเพราะด้วยความหวังดี ไม่ยอมให้พระองค์เสวยน้ำขุ่นนั้น

    ท้ายสุดพระผู้มีพระภาคจึงใช้แกมบังคับให้ผู้ดูแลตักน้ำมาให้แม้จะขุ่นแสนขุ่น
    ด้วยพระบารมี(ด้วยอำนาจของพระองค์นั่นแหละ) น้ำที่ขุ่นก็กลับใส
    พระองค์ก็ได้ดื่มน้ำนั้น พวกพระที่ไปด้วยก็ได้บารมีนั้นพลอยได้ดืมกินไปด้วย
    และพระองค์ก็ได้ตรัสเล่า ถึงเหตุความเป็นมาว่า

    ในสมัยหนึ่งในชาติอดีต พระองค์เป็นคนเลี้ยงโค ดูแลรักษาบริบาลอย่างดี
    วันหนึ่งได้จูงโค ไปในถนน แดดร้อนนัก โคก็ให้หิวน้ำมาก ได้พบน้ำในรอยเท้าสัตว์ใหญ่ ขุ่นข้นด้วยเศษมูล
    โคก็ตรงเข้าไปเพื่อจะดื่มน้ำนั้น แต่ผู้เลี้ยงเห็นความสกปรกในน้ำนั้น จึงบังคับไม่ให้โคกินน้ำ
    โคกระหายหนักก็ไม่ยอมจะกินให้ได้ ผู้เลี้ยงจึงโบยตี ห้ามมิให้กินน้ำ ด้วยความหวังดี
    ด้วยเหตุแห่งกรรมนี้ทำให้พระองค์ไม่ได้น้ำเสวย โดนปฏิเสธจากความหวังดี

    ด้วยแหตุแห่งวิบากเล็กๆนี้พระองค์ยังต้องเสวยกรรมนั้น
     
  9. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เศษบุญใครว่าไม่สำคัญ

    อีกเรื่องก็จำมาเหมือนกัน

    มีเณรน้อยผู้หนึ่งจะเดินทางจะไปเยี่ยมโยมที่บ้าน
    ครั้นออกมาที่หน้าวัด ก็พบหมอดูเทวดาท่านหนึ่งนั่งอยู่แถวนั้น
    แกก็ทักเณรว่า เณรมีราศีดีแต่มีกรรมบัง ขอตรวจดวงชะตาละเอียดหน่อย
    เมื่อดูแล้วก็บอกว่าเณรจะถึงเวลาสิ้นอายุไขแล้วในวันนี้ ไม่มีใครช่วยได้

    เณรก็ไม่ว่ากะไรเดินออกนอกวัด เดินไปที่ท่ารถ
    ในระหว่างทาง ให้เจ้ากรรมฝนก็ตกพร่ำๆ
    ได้พบเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังไล่จับปลาหมอกันอยู่ด้วยความสนุก ปลาก็ดิ้นหนีสุดชีวิต
    ด้วยความสงสาร เณรจึงขอไถ่ชิวิตปลานั้นไว้ ด้วยปัจจัยน้อยจึงต้องเสียเวลาต่อรองกันอยู่นานโข
    เณรก็ไม่ย่อท้อ เสียเวลานานโขจึงไถ่ชีวิตปลานั้นได้ ท่านก็นำไปปล่อยลงในน้ำ
    ให้ชีวิตใหม่แก่ปลาได้
    ครั้นเดินไปถึงท่ารถ เขาก็บอกว่ารถที่เณรจะโดยสารไปนะออกไปแล้ว เมื่อกี้นี้เองถ้าเณรมาเร็วอีกอึดใจหนึ่งก็ทัน
    ตกลงเณรต้องรอรถคันใหม่
    เมื่อโดยสารไปถึงกลางทางจึงได้รู้ว่ารถ ที่ออกก่อนหน้านั้น ประสพอุบัติเหตุคว่ำ คนตายเจ็บกันถ้วนหน้า
    เอ้อหนอ ถ้าเณรไม่เสียเวลาช่วยชีวิตปลาหมอ ก็คงได้ไปกับรถคันที่ประสพอุบัติเหตุแล้ว
    เพียงผลบุญที่ได้เสียเวลาอีกน้อยนิด ช่วยชีวิตปลาหมอไว้ ก็ช่วยให้เณรรอดชีวิตมาได้
     
  10. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ใน PM ของหมอสุวิ มีผู้ขอความช่วยเหลือมาดังนี้

    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ แก้วเจ็ดสี
    คุณป้าผมชื่อ xxx xxxx ป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย เจ็บปวดทรมานมาก อ่อนเพลียไม่มีแรง มือเย็นเท้าเย็น อยู่ทีโรงพยาบาลจุฬา ผู้รู้หลายท่านบอกหมดอายุ แต่อาจารย์ตาที่สามบอกรอดมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย ตอนนี้อายุ61ปีจะอยู่ถึงแปดสิบกว่า
    ขอพลังจากท่านช่วยด้วย thx1


    </TD></TR></TBODY></TABLE></B>




    <TABLE id=post class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175>suwi<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>

    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jun 2007
    อายุ: 58
    ข้อความ: 1,011
    Groans: 1
    Groaned at 3 Times in 3 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 56
    ได้รับอนุโมทนา 11,266 ครั้ง ใน 1,019 โพส
    พลังการให้คะแนน: 301 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]




    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_ class=alt1><CENTER>Re: ขอพลัง

    </CENTER>
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>หากเปรียบกับการดำรงค์ชีพในมิติปัจจุบัน
    พลังชีวิตที่ขาดหายอันเนื่องจากการป่วย
    ก็ดุจดังขาดเงินในการเลี้ยงชีพ หนทางได้มาทางการเงินล้วนถูกตัดขาด
    การให้หรือถ่ายพลัง ก็เหมือนกับการให้ยืมเงิน เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
    มันก็พอยืดอายุออกไปได้อีกพัก
    พอเงินถูกใช้หมด ก็เข้าอีหรอบเดิม

    ผู้ขาดขาดทรัพย์คือพลังชีวิต ต้องช่วนตัวเองด้วย
    เมื่อได้รับทรัพย์ที่มีผู้ให้มา ช่วนประทังแล้ว
    ต้องหาทางให้ทรัพย์นั้นงอกเงย เพื่อหล่อเลี้ยงตนเองได้ จึงจะรอดชีวิต
    หนทางนั้นมีอยู่ ฝึกฝนเพิ่มพลังชีวิตให้ตนเอง
    ทาน ศีล ภวนา เป็นตัวเร่ง และเปิดทาง

    มีสมุนไพรสกัดอยู่ชุดหนึ่ง ได้เคยใช้กับผู้ป่วยมากราย ได้ผลดี ทำให้เซลมะเร็งยุบแห้งได้
    เพียงแต่ต้องลงทุนสูงหน่อย ตกเดือนละประมาณ ๕,๐๐๐.-
    ระยะเวลาเริ่มเห็นผล อยู่ที่ ๑-๒ อาทิตย์ (เราอาจซื้อยามาลองดูก่อนได้ สัก ๒ อาทิตย์)
    ทีเคยติดตามผล ใช้เวลาประมาณ ๒-๔ เดือน ยุบแห้งหมด
    นี่เป็นอีกความหวังหนึ่ง ลองพูดคุยและตัดสินใจดู

    สุวิ
    ป.ล. ได้อธิฐาน ส่งพลังมาให้แล้ว


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ยังเหลือเวลาอยู่อีกไม่นานนัก ที่ท่านผู้นี้จะเข้าถึงยาอย่างจริงจัง
    แต่เศษกรรม จะบีบบังคับเธอ ไม่ไห้ได้ยาครบจำนวน ด้วยความหวังดี ว่าจะถูกหลอก
    แต่เศษบุญ ยังคอย เกื้อหนุนอยู่ ยืดรอเวลาอยู่ (อีกเพียงไม่ถึงอาทิตย์)

    งานนี้สุวิว่าจะวางอุเบกขาแล้ว ด้วยกลัวเปลืองตัว
    ถูกกล่าวหาว่าหลอกลวง

    ที่โพสข้อความทั้งหมดนี้ ก็เพิ่อเปิดโอกาสให้เศษบุญได้ทำงาน เพราะยังเหลือเวลาอยู่


    โรคนี้เป็นโรคที่บีบบังคับให้ผู้เป็น ทรมารทั้งกายและใจ ต้องเสียเงินเสียทองจนสินเนื้อประดาตัว

    แต่ถ้าหากคิดจริงๆแล้ว เงินที่เสียเพิ่มให้แก่ยาชุดนี้ เทียบกับเงินที่ใช้รักษากันตามโรงพยาบาล มันถูกกว่ามากนัก
     
  12. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    สรุปตอบคำถาม สองข้อนี้ก่อน
    ๑. จึงเรียนถามคุณหมอ ว่าการนั่งสมาธิจะสามารถช่วยทำการบำบัดโรคได้จิงรึป่ว
    ๒. แร้วจะมียาขนานไหนที่พอจะช่วยให้ก้อนมะเร็งมันยุบตัวไปได้

    ตอบ ข้อ ๑.
    พลังชีวิต คือปราณ อันเป็นผลพลอยได้จากการนั่งสมาธิ จะเป็นตัวรักษา โรคต่างๆได้
    ปราณ(ลมสุมนา)จะถูกบังคับได้ด้วยอำนาจจิต
    อำนาจจิตเกิดจากการฝึกสมาธิ
    ผู้ที่ฝึกสมาธิได้ดี และเข้าใจในกายานุสติกรรมฐาน อย่างถ่องแท้ ย่อมอาศัย อาณาปราณสติ เข้าควบคุมบังคับ ลมปราณ(คือลมสุมนา)ได้
    เมื่อลมปราณถูกควบคุม ปิตะ และเสมหะจะถูกควบคุมด้วย
    เมื่อปิตะวาตะแลเสมหะถูกควบคุมด้วยอำนาจจิตและถูกปรับให้สมดุลย์
    โรคร้าย จะถูกขจัด ทิ้งทั้งสิ้น

    ตอบข้อที่ ๒.
    แม้เราฝึกสามาธิได้ดี ยาก็ยังจำเป็น เป็นตัวช่วยเร่งรักษาโรคได้

    สุวิทำงานเป็นที่ปรึกษาทางด้านการแพทย์ให้บริษัท นีโอไลฟ์ ฯ
    บริษัทนี้ทำการค้าเกียวกับสมุนไพรสกัด เมื่อนำมาประกอบกันหลายตัว มันก็คือยารักษาโรคดีๆนี่เอง
    ได้นำมาใช้กับผู้ไม่สบายหลายๆเคส โดยเฉพาะพวกเนื้องอกกับมะเร็ง
    หลายๆเคสได้ผลดี(๗๐-๘๐%)

    เพียงแต่บริษัทนี้ขายสมุนไพรสกัดแบบ บริษัทขายตรง ราคาจึงค่อนข้างแพง
    ทำให้ผู้ขาดทุนทรัพย์ เข้าไม่ถึงตัวยา

    สุวิได้พยายามใช้ความสามารถพิเศษที่มีหาตัวยาต่างๆเข้าทดแทนสมุนไพรสกัดเหล่านั้น เพื่อให้ราคาถูกลง
    สุวิหายาแทนได้หลายตัวอยู่
    มีเพียงสองตัวที่สุวิยังไม่สามารถหายาแทนที่มีคุณภาพเสมอเหมือนได้
    ตัวแรกคือ กระดูกอ่อนปลาฉลาม (แก้พวกเนื้องอกและเนื้อร้ายให้ยุบแห้ง)
    ตัวที่สองคือ เห็ดหลินจือสกัด (บำรุงอวัยะวะภายในทั้งปวงให้ฟื้นสภาพ)
    และสองตัวนี้เป็นยาหลักสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง
    และยังต้องมียาช่วยอีก สองสามตัว

    เวลาที่ใช้ในการรักษา ใช้เวลาประมาณ ๒-๔ เดือน แล้วแต่กรณี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2009
  13. Walk My Way

    Walk My Way สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +7
    กรรมบังจิงๆ
    ถึงมองไม่เหนจุดประสงค์ของการทำวิปัสสนา
    ขอบพระคุณอาจารย์เปนอย่างยิ่ง
    ขอให้อาจารย์พบแต่ความเจริญยิ่งๆขึ้นไป...สาธุๆๆๆๆ

    ก่อนหน้านี้หนูยังลังเลว่าจะทำอารายต่อดี
    เพราะเพิ่งเปนบัณฑิตจบใหม่
    อยากทำงาน อยากเรียนต่อเหมือนเพื่อนบ้าง
    แต่ตอนนี้เริ่มเข้าใจแร้วว่าต้องทำอะไร
    เค้าเปิดโอกาสให้ทำความดีใช้กรรมแร้ว....



    หนุจะติดต่อไปทางเมลล์อาจารย์ เพื่อขอซื้อยา

    ขอบพระคุณค่ะ
     
  14. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    สาธุครับ...ท่านอาจารย์

    สาธุครับ...คุณ Walk My Way

    คำตอบทั้ง 2 ข้อ ต่างถ้อยอาศัยซึ่งกันและกัน

    เห็นชอบแล้วล่ะครับ...


    ป.ล. ถึงอาจารย์ นึกแล้วไม่ผิด ผมเห็นและพอมีความรู้แค่ข้อ 1

    สำหรับข้อสอง 555555 เป็นหนุมานคลุกฝุ่น เหมือนเคยงิ จาร์ย
     
  15. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ได้เขียนเรื่องของวิบากกรรมไว้ในกระทู้อื่น
    จึงขอนำมาไว้ที่นี้ด้วย เดี๋ยวหาไม่เจอ

    <TABLE id=post2099799 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->suwi<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2099799", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jun 2007
    อายุ: 58
    ข้อความ: 1,014
    Groans: 1
    Groaned at 3 Times in 3 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 56
    ได้รับอนุโมทนา 11,280 ครั้ง ใน 1,023 โพส
    พลังการให้คะแนน: 301 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]








    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2099799 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->เล่ามั่งๆ

    ในเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา ไปที่พิษณุโลก
    ตอนเช้าตรูได้ไปเดินอยู่ในวัดใหญ่แห่งหนึ่ง เหลือบเห็น ผู้พิการท่านหนึ่ง
    แขนขาแม้จะลีบเล็กไปบ้าง แต่ก็ยังสมส่วน ดูแล้วน่าจะเกิดภายหลัง
    แกแต่งตัวดูดีพอควร ปูผ้าพลาสติดนั่งอยูหน้าทางเข้าวิหาร ร้องเชิญชวนให้ผู้เข้าไปกราบพระ มีพวงมาลัย ดอกไม้ไว้ให้
    จะว่าแกขายของก็ไม่ใช่ ขอทานก็ไม่เชิง แก่จะเล่าแนะนำว่าควรไหว้ตรงใหน ไหว้อย่างไร เล่าประวัติความเป็นมาของวัดบ้าง ของพระบ้าง ฯลฯ
    ค่าดอกไม้ธูปเทียน ก็แล้วแต่สัทธา
    มีคนเมตตาให้เงินแก วันๆมากโขอยู่

    เรามองดูอยู่ ให้รู้สึก อาการที่แกเป็นอยู่เรื่องกระดูกเส้นเอ็นนี้น่ารักษาได้
    เพียงนึก ท่าทางการจัดกระดูกเส้นเอ็นก็ปรากฏขึ้นให้เห็นชัด
    คนไข้รายนี้ ต้องทำอย่างนี้ ขยับกระดูกท่อนนี้ บิดเอ็นอย่างนี้ ฯลฯ
    อาการที่พิการอยู่จะหายทันที

    จึงลองกำหนดจิตทำตามภาพที่ปรากฏ
    เอ้อแฮะ...มันหายวุ้ย
    โห้...มันมากราบปะหลกๆ ขอบอกขอบใจเป็นการใหญ่

    อีกหลายวัน เราปรากฏตัวในที่เดิม ได้พบคนผู้นี้อีก
    เรายิ้มให้
    แต่คราวนี้พวกพอเห็นหน้า กลับยืนเท้าเอว ด่าเราเละเลย พ่อแม่ปู่ย่าตายายที่ท่านนอนสบายๆ ต้องเดือดร้อนไปหมด
    ไอ้เราก็เป็นงง ยืนเฉยฟังอยู่ โห้...มาเป็นชุดๆ
    พอจับความได้ว่า
    แต่เดิม แม้กายจะพิการ เคลื่อไหวไม่ถนัด แต่เพราะอัธยาศัยดี อยู่ใกล้พระใกล้เจ้า ได้ปฏิบัติธรรมบ้าง ชวนคนเข้าวัดบ้าง
    ทำให้แกพอมีรายได้เลี้ยงตัว ทำให้แกมีความคล่องตัวในความเป็นอยู่ และการบุญ

    แต่เมื่อ เราเห็นแกพิการได้ช่วยแก้ความพิการนั้นให้ ด้วยรู้สึกว่าเจ้ากรรมนายเวรยอมปล่อยแกแล้ว
    ที่ยอมปล่อยก็เพราะคุณความดีที่แกทำ และทนทุกข์มานานจนสะใจเกินพอแล้ว

    เมื่อแกหายพิการ รายได้อันเกิดจากความเมตตาของชนทั่วไปที่แกเคยได้รับอยู่ก็หดหาย
    ทุกวันนี้แกต้องเอาแรงกายเข้าแรก อาบเหงื่อต่างน้ำ ก็ยังไม่พอจะกิน
    ซ้ำร่างกายก็ยังมีร่องรอยของความพิการติดค้างอยู่ ยังไม่คืนดีดังเดิม จึงทำงานไม่ได้มาก
    จะขอทาน หรือทำมาหากินแบบเดิมหรือ คนก็ไม่ค่อยจะเมตตาซะแล้ว(ด้วยร่างกายเป็นคนปกติ)
    ซ้ำยังโดนข้อนขอดเอาว่าไม่ยอมทำมาหากิน เอาแต่ขอ ทำความช้ำใจให้แกมาก
    พอแกเห็นเรา จึงยืนด่าเราเป็นชุดใหญ่ ที่ทำความลำบากให้แก

    พอเราประมวลเหตุการณ์ทั้งหมดและรับรู้ความเป็นไปแล้ว
    ใจลึกๆได้แต่หัวเราะ หึๆๆๆ

    แป้นๆๆๆๆๆ..... เฮ้ยยืนทำอะไรวะ หลับเรอะไง ไอ้เซ่อ โอ้ ค...
    เหลียวไปดู อ้อ รถเขาจะเลี้ยวเข้าลานจอด เราไปยืยขวางเขาไว้

    เออะ..เมื่อกี้ยืนหลับไปหรอไง
    เรื่องทั้งหมดที่รับรู้เมื่อกี้ ฝันไปเหรอ

    เอ้อ ...ยืนฝันกลางวันก็ได้วุ้ย



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE id=post2099804 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->suwi<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2099804", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jun 2007
    อายุ: 58
    ข้อความ: 1,014
    Groans: 1
    Groaned at 3 Times in 3 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 56
    ได้รับอนุโมทนา 11,280 ครั้ง ใน 1,023 โพส
    พลังการให้คะแนน: 301 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2099804 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->เรื่องของกรรม ที่ต้องชดใช้
    เรื่องของวิบาก ที่เป็นผลพวง

    เป็นเรื่องยากคาดเดาจริงๆ
    เฮ้อ.....<!-- google_ad_section_end -->





    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE id=post2099875 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->suwi<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2099875", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jun 2007
    อายุ: 58
    ข้อความ: 1,014
    Groans: 1
    Groaned at 3 Times in 3 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 56
    ได้รับอนุโมทนา 11,280 ครั้ง ใน 1,023 โพส
    พลังการให้คะแนน: 301 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]





    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2099875 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->ตอนสายๆเข้าไปที่คีลนิค รอตรวจคนไข้อยู
    มีคนไข้เก่ามาหา ท่าทางจะเอาเรื่องหมอ
    และว่า ยาที่หมอจ่ายให้กิน ทำเอาคนไข้เห่อไปทั้งตัว ซ้ำผมยังร่วงเป็นกระจุกๆ

    ค่อยๆสอบถามดู ปรากฏว่าพี่สาวของผู้ที่มาหาเป็นโรค ที่แผนปัจจุบันเรียกว่าสะเก็ดเงิน
    เอายาชุดแรกไปกินแล้ว อาการดีขึ้น แผลและผื่นยุบแห้งหมด ยาหมดแล้วไม่ได้มาเอาไปกินต่อ
    ประมาท ไปกินเหล้า เบียร ในงานเลี้ยงหนึ่ง
    รุ่งขึ้นอาการประทุขึ้นอีก คราวนี้ทั้งตัว
    อีกหลายวันกลับมาเอายาอีก
    คราวนี้ให้ยาตัวเดิม และเพิ่มยาขจัดเชื้อภายในอีกขนาน

    กินแล้วยาขับอาการโรคให้ปะทุออกมาภายนอกมากขึ้น เห่อทั้งตัวแถมผมยังร่วงอีก
    ไอ้เราก็สงสัย เกิดอะไรขึ้น ทดลองเช็คตัวยากับอาการโรค ด้วยวิทยายุทธที่มี
    เออะมันก็ใช้ได้นี่หว่า

    แต่เอะ..อาการโรคมันเพิ่มขึ้นนิดหนึ่ง แล้วค่อยๆลดลง
    เอ..ตอนอาการโรคเพิ่มขึ้นนี่ นานแค่ใหนหว่า
    ปรากฏว่าตรวเช็ค ระยะเวลาไม่ได้แน่นอนว่านานแค่ใหน ทำไมเป็นเช่นนั้น
    เรื่องนี้คงไม่ใช่การป่วยธรรมดาแล้ว
    ลองเอาบุญใส่เข้าไปพร้อมยา อ้อดีขึ้นทันทีวุ้ย

    งานนี้เลยให้เขาไปทำบุญร่วมด้วย แล้วกินยาชุดเดิมไปเรื่อยๆ

    ใจลึกๆให้สงสัย การสร้างบุญมี ๓ รูปแบบ ทาน ศีล ภวนา
    งานนี้ต้องทำบุญแบบใหนหว่า



    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE id=post2099953 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->suwi<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2099953", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jun 2007
    อายุ: 58
    ข้อความ: 1,014
    Groans: 1
    Groaned at 3 Times in 3 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 56
    ได้รับอนุโมทนา 11,280 ครั้ง ใน 1,023 โพส
    พลังการให้คะแนน: 301 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]




    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2099953 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->ในอดีตที่ผ่านมา (แม้ในปัจจุบันก็เป็นเช่นนี้) ชาวบ้านทั่วไปไล่จับหนูนา มาทำเป็นอาหาร
    บ้างก็ไล่ล่า ด้วยความโกรธแค้นที่มันมากัดทำลายต้นข้าวในนา
    การกำจัดก็มีหลายรูปแบบ แล้วแต่จะนึกได้
    บ้างกดน้ำ
    บ้างทุบหัวทีเดียว
    บ้างขังตากแดด บ้างฯลฯ
    แต่วิธีการที่เห็นชัด
    จับหนูเป็นๆ ทิ้งเข้ากองฟางที่ลุกโชน บางตัวที่โดดหนีออกมา ก็ถูกโยนกลับเข้าไปอีก
    บางตัวคลานออกมาเนื้อตัวสั่นดิกๆ ถูกเขี่นเล่นอยู่พักหนึ่งแล้วก็ถูกจับขึ้นมาถอนขน จนเกลี้ยง ชุบเหล้าโรง แล้วเอาเข้าย่างไฟอีกครั้ง เป็นอาหารแกล้มเหล้า

    ผิวที่ถูกถลกขนออกแดงเรื่อ มีร่องรอยถูกไฟใหม้กระดำกระด่างเป็นจ้ำๆ
    ดุจดังผิวผู้เป็นโรคสะเก็ดเงิน และสะเก็ดหลุดร่อนไปแล้ว
    ผมที่เคยดกดำก็หลุดล่วงดังหนูถูกถอนขนเป็นกระจุกๆ

    เฮ้อ...งานนี้มันจะยอมความกันง่ายๆเรอะ ทรมารเขาด้วยความสนุกและสะใจจนปานนี้
    ตอนนี้ พวกเขาก็สนุกและสะใจกับผลงานอยู่

    เอ..ตอนนุษย์ สนุกและสะใจกับผลงานที่ทำ เขาทำกันอย่างไรหว่า จึงจะสำนึกได้ในสิ่งที่ควรทำ กับไม่ควรทำ
    เอ...จะทำอย่างไรหว่าเขาถึงจะหยุด และปล่อยวางสิ่งที่ทำอยู่..
    ......

    หมอๆๆๆ ตื่นเถอะ คนไข้มารอกันเพียบเลย

    อ้าว ฝันไปอีกแล้วเรอะนี่
    ว้า...หมู่นี้เผลองีบบ่อยวุ้ย


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ในเดือนสองเดือนที่ผ่านมาพบโรคประหลาดๆ อยู่มาก
    พวกปวดๆในกล้ามเนื้อ ข้อกระดูก มาหา
    พอเราจับๆนวดๆ ไอ้เจ้าความเจ็บปวดมันก็เปลี่ยนที่ จากแขนไปที่บ่า
    พอเราจับมันทั้งบ่าทั้งแขน พวกก็หนีไปที่หลังบ้าง ตะโพกบ้าง ฯลฯ
    เล่นเอาเถิดเจ้าล่อกันพักใหญ่

    อีกอย่าง พวกมีอาการหนึ่งมาหา เอายาไปกินแก้อาการที่เป็น
    พอกินยาได้ไม่ถึงวัน อาการเก่าหาย มีอาการอื่นโผล่ขึ้นมาแทน
    แก้อย่างหนึ่ง ก็มีอีกอาการโผล่ขึ้นมา และเปลี่ยนหนีไปเรื่อยๆทุกวัน

    มันจะเอายังไงกันวะ ชักเคืองแฮะ ไอ้พวกนี้...มันให้เราวิ่งตาม
    แก่แล้ววิ่งตามไม่ค่อยไหว หวะ

    นั่งคิดนอนนึกอยู่นานแสนนนนนานนนน หาทางออกไม่เจอ
    นึกถามครูผู้เฒ่าอยู่ ก็ไม่ยัก มีคำตอบ

    วันที่เพื่อนมาหา มาตั้งยารักษาโรคไต กัน
    ท่านอ.ใหญ่ ท่านผู้เฒ่า ก็เมตตาแวะมาแจมด้วย ชั่วครู่ (แบบแวบๆผ่านมา และผ่านไป)
    บอกยา แก้ลมเพลมพัดให้
    ณ. วันนี้ยาตัวนี้ สมบูรณ์แล้ว(ในระดับหนึ่ง) และเริ่มทำยาจริงแล้ว

    ตั้งชื่อยาว่า

    "ยามิรู้อยู่"
    สรรพคุณ
    แก้อาการ ให้เล่าร้อน นอนนั่ง ไม่รู้อยู่
    แก้ โรคอันหาเหตุมิได้
    แก้ ลมเพลมพัดทั้งปวง

    และได้เขียนข้อความนี้ไว้ในกระทู้อื่น เกี่ยวกับยาตัวนี้
    ขอนำมาแปะไว้ด้วย กลัวหาไม่เจอ
    <TABLE id=post2152849 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->suwi<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2152849", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jun 2007
    อายุ: 58
    ข้อความ: 1,016
    Groans: 1
    Groaned at 3 Times in 3 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 56
    ได้รับอนุโมทนา 11,330 ครั้ง ใน 1,026 โพส
    พลังการให้คะแนน: 301 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]







    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2152849 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ดาวทะเลทราย [​IMG]
    อ.สามตา ก็ยังไม่มา เฉย เรื่องกะทะ จะ ตี ลงตรงไหน..............

    คุณชยา ก็ เล่า เรื่อง คำทำนายของอ.วิรุฬร์ กับทิฐิมานะ ของเพื่อน

    จบไปอีกเรื่อง แล้ว

    นั่งรออ่าน ยังไม่มาซักที.............. 55


    วันศุกร์ เมื่อวาน นี้ แวะไปที่ บูธ อ.สามตา
    จังหวะ ดี อ.สุวิ เดินเข้ามาพอดี

    เป็นครั้งแรก ที่ได้ พบตัวเป็นๆ......อ.สุวิ ...
    ที่ผ่านมา ก็ ได้แค่ คุยกัน แซวกันใน เวป เท่านั้น อย่างมาก ก็ แค่คิดถึง ในใจ

    พอเห็น ก็ รู้ได้ทันที ว่าเป็น อ.สุวิ
    ยกมือไหว้ งามๆ..... สวัสดี ครับ อ.....สุวิ

    ก็ ลักษณะ อย่างนี้ จะเป็นใครไป ได้ ละ
    ชาย ชรา ใบหน้า ทารก ผิวพรรณผ่องใส เสีย ขนาดนี้

    เดิน แบก กระเป๋า ใบใหญ่ เข้ามา ที่บูธ
    แล้ว ก็หยิบ ถุงยา ขึ้นมา ให้ อ.สามตา ช่วย กันตรวจ คุณภาพ คุณสมบัติ
    ในการ รักษา
    ตรวจดูไปถึง อาการ ข้าง เคียง ผลกระทบ ที่ มีต่อคนไข้ เสียด้วย
    ขนาด การ รับประทาน วันละ แค่ไหน ดี กิน กี่วัน ดี
    ตรวจ กัน ไป
    มียา อยู่หลาย ตัว น่าสนใจ
    ยา แก้ โรคลมเพ ลมพัด ขับคุณไสย โดนกระทำ

    มี ด้วยหรือ ยาอย่างนี้ ปกติ เค้าใช้ วิชา อาคม ขับ ออก

    อ.สุวิ หยิบออกมา ให้ ผม หา คนไข้ มาตรวจดู
    นึกได้คน หนึ่ง ...... เอาละ ดึงจิต เค้ามา เลย
    วางไว้ บนโต๊ะ แล้ว ให้ กินยา เช้าสองเม็ด

    อาการ ดี ขึ้น ทันที...... ได้ ผล นี่
    เย็น อีกสองเม็ด ...... ไม่มีอะไร เปลี่ยนแปลง
    วันรุ่งขึ้น เช้า อีกสองเม็ด...... ทำกันไป อย่างนี้

    ปรากฏว่า ลมเพลมพัด มันหลุดไป เกือบหมด ตั้งแต่ กินยาครั้งแรก แล้ว

    โอ้ เยี่ยม ๆ ๆ จริงๆ

    นั่งทดสอบ ยากัน จนเย็น .... ผม พอยได้ ซ้อม ฝีมือไปด้วย

    มีอย่าง นะ อ.สุวิ คนนี้ แม้น เพิ่งเจอ เป็นครั้งแรก

    ต้อง ขอบอก ..... อย่างแรง ...ๆ .... ๆ ไม่ธรรมดาจริงๆ
    ตอน อ. เอามือ มาใกล้ๆ มือผม ไฟฟ้า ซีอต.... เลย แรงๆๆ จริง

    ยังโชคดี นะ นี ที่เป็น อ. สุวิ......

    เป็นสาวๆ ไฟแรงสูง มาช๊อต ใส่ผม

    คง เป็น เรื่อง........................... 5 5






    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>จากข้อความนี้

    มียา อยู่หลาย ตัว น่าสนใจ
    ยา แก้ โรคลมเพ ลมพัด ขับคุณไสย โดนกระทำ

    มี ด้วยหรือ ยาอย่างนี้ ปกติ เค้าใช้ วิชา อาคม ขับ ออก

    อ.สุวิ หยิบออกมา ให้ ผม หา คนไข้ มาตรวจดู
    นึกได้คน หนึ่ง ...... เอาละ ดึงจิต เค้ามา เลย
    วางไว้ บนโต๊ะ แล้ว ให้ กินยา เช้าสองเม็ด

    อาการ ดี ขึ้น ทันที...... ได้ ผล นี่
    เย็น อีกสองเม็ด ...... ไม่มีอะไร เปลี่ยนแปลง
    วันรุ่งขึ้น เช้า อีกสองเม็ด...... ทำกันไป อย่างนี้

    ปรากฏว่า ลมเพลมพัด มันหลุดไป เกือบหมด ตั้งแต่ กินยาครั้งแรก แล้ว





    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ข้อความที่ ดาวทะเลทราย กล่าวไว้
    ในวันนั้น ยาจริงยังไม่ได้ทำ (ด้วยรูสึกว่า สูตรยังไม่สมบูรณ์ ยังต้องแก้ไขเพิ่มเติมอีก)
    ใช้เพียงตั้งสูตรยาขึ้นมา แล้วดึงพลังยามาใช้เท่านั้น

    ได้ใช้เวลาอีกเกือบสองอาทิตย์ ปรับสูตรยาอีกหลายครั้ง ทดลองอีกหลายรูปแบบ
    วันนี้ยาเริ่มลงตัวแล้ว และเริ่มทำยาจริงขึ้นมาใช้

    ประกาศ หาหนูตัวเป็นๆ ทดลองยา
    หลังจากได้ใช้วิธี เสี่ยงทายและดึงจิต ดึงกายทิพย์ มาลองยาหลายๆๆๆๆหน

    ปล. บูชาครูค่ายา ๑๓๘.-





    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. ตัวกลมๆ

    ตัวกลมๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +5,941
    ยาเรียบร้อยเมื่อไหร่ ได้คนป่วยแบบพิเศษ ซึ่งเป็นเพื่อนกับคุณแม่เพื่อน
    ที่เหล่าชมรมคนตาทิพย์เคยช่วยไล่แมงป่องกับพยาธิให้ค่ะ ดีได้พักใหญ่ๆ
    ก็มาเป็นอีก เข้าใจว่าเขาส่งมาเรื่อยๆ แล้วก็เผื่ออีกซองเอาไว้ ไว้เป็นยา
    ไม่สามัญประจำบ้านค่ะ

    ส่วนโรคเนื้องอก มะเร็งรังไข่ มะเร็งมดลูก มักเกิดจากวิบากกรรม ต้องยอมรับ
    ก่อนว่า เราต้องเคยทำให้ใครเจ็บ ถึงได้มาเจ็บแบบนี้ จริงๆแล้วที่เราเป็น
    อาจจะน้อยกว่าที่เราเคยทำกับเขาไว้ด้วยซ้ำ ฉะนั้นรีบกระหน่ำบุญเสียทันที
    ทั้งทาน ศิล สมาธิอย่างที่อ.สุวิแนะนำ ตอนตัวกลมเป็นโชคไม่ดียังไม่เจอ
    อ.สุวิ แต่โชคดีที่ไม่เจ็บเพราะอาการมะเร็งเลย คีโมก็ไม่แพ้ แต่เจ็บแผล
    ผ่าตัดค่ะ รังไข่เท่าลูกมะพร้าว เฉาะออกน้ำนองถาดเลย จะเอารูปมาลง
    ก็เกรงใจเพื่อนๆ
     
  18. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    อยากให้รู้ว่าเห็นใจ และเป็นกำลังใจให้คนตัวกลมๆ ที่เคยผ่านความยากลำบาก
    และผู้ที่กำลังป่วยด้วยโรคนี้ และผู้ที่เคยป่วยแล้วคะ แค่ฟังก็น่ากลัวแล้ว เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ
     
  19. ตัวกลมๆ

    ตัวกลมๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +5,941
    ขอบคุณค่ะคุณatidtarn มะเร็งรังไข่ เป็นโรคกรรมของตัวกลมๆ ในช่วงก่อนหน้านั้น
    สุขจากการใช้บุญเก่า บุญใหม่ไม่ขยันทำ ประมาทในศิล พอเราเผลอ นายเวรรุมสกรัมเต็มๆ
    เคยคุยกับอาจารย์สุวิว่า ถ้าอาจารย์นำโรคแปลก โรคเนื้องอก มดลูก มาเล่าจะเอารูปมาลงค่ะ
    ใครที่กลัวเลือด ข้ามกระทู้นี้นะคะ

    ก่อนผ่าตัด หลังสวดมนต์ในคืนวันหนึ่ง ได้ขอทราบเหตุของโรคที่จะต้องตัดมดลูกทิ้ง
    (ตอนนั้นยังไม่ได้ระบุว่าเป็นเนื้องอก หรือมะเร็ง ต้องเอาชิ้นเนื้อไปตรวจก่อน) ช่วงรอ
    ผ่าตัดแค่เดือนเดียวมันก็ป่องเอาๆ จากกลมๆก็ดันจนฐานมันใหญ่ กินอะไรเข้าไป
    มันก็กินไปด้วย เลยได้ใส่ชุดคลุมท้อง รูปล่างเป็นรูปก่อนผ่า ใส่ชุดรพ.สีหวาน หุๆ
    [​IMG]
    คืนนั้น ในความฝันเป็นเรื่องราวในสมัยเด็ก ที่ได้ลืมไปหมดแล้ว ในบางครั้งก็ไปกับ
    เพื่อนๆ บางครั้งก็ไปคนเดียว เพื่อไปหาปูตัวใหญ่ โดยเฉพาะเวลาน้ำท่วม ดินแฉะ
    จะหาปูได้ง่ายๆ เมื่อได้แล้ว ก็จัดการง้างหน้าท้องมัน ในความคิดตอนนั้นคือ
    สงสารลูกปูที่อัดกันแน่นในท้องแม่ กลัวมันอึดอัด พอเปิดหน้าท้อง พวกลูกปูเป็นพันๆ
    ก็เดินเป็นสายยาวดำๆไปเป็นทาง ความรู้สึกที่ได้คือภาคภูมิใจ ไม่ได้คิดเลยว่า
    แม่ปูจะเจ็บ หรือลูกมันจะเล็กเกินไป จะลำบากอย่างไรไม่ได้คิด บางตัวไม่มีลูก
    หน้าท้อง โชคดีหน่อยแค่เจ็บ ฝาหน้าท้องยังปิดกลับได้ แต่ตัวที่โชคร้ายฝาหน้าท้อง
    ก็ห้อย ถูกลากพื้นไปตอนเดิน พอนึกภาพเลวร้ายออกมั้ยคะ นี่เฉพาะกรรมที่เกิดในชาตินี้
    นายเวรก็คงอยากให้รู้เหมือนกัน เปิดโอกาสให้เราได้ขอขมา แต่นั่นแหละ ไม่ใช่เจ้าเดียว
    ที่มาทวงในการผ่าตัดครั้งนี้


    รูปข้างล่างเป็นรังไข่ที่ผิดปกติ เนื้อนั้นหุ้มน้ำเอาไว้ค่ะไม่ใช่ก้อนเนื้อล้วนๆ (ขอบคุณ
    คุณหมอ ที่พิมพ์ภาพสีมาให้ตามคำขอคนป่วย)รูปมดลูกถูกหั่นก็มีแต่ว่ากลัวเป็นลมกัน อิอิ

    [​IMG] [​IMG]
    นี่แหละกรรมเปิดหน้าท้องปู ตัวเองเลยต้องโดนเปิดหน้าท้องยาว แถมหมอผู้ผ่า
    ต้องลำบากผ่าหลบสะดือ แผลก็เป็นคีลอยด์(แผลนูนๆ )แสดงเครื่องหมาย
    คำถามไว้จนบัดนี้ (เดี๋ยวนี้บางที่เจาะหน้าท้อง 3จุด แล้วเอามีดไปหั่นๆภายใน
    แบบสไลด์เนื้อ แล้วเอาเศษเนื้องอกออกมา แผลจึงไม่น่ากลัว แต่ว่าแผลยิ่งเล็กยิ่งช้ำ)

    แล้วชาติก่อนๆที่ลูกสาวคุณศศิเคยดูให้ บอกว่า เคยรีดไข่รีดไส้ปลาเป็นเข่งๆ บางตัว
    ยังไม่ทันตายเลย สงสัย จะมีอาชีพทำปลา แม่ครัว แม่ค้ามั้งคะ ชาตินี้เลยโดนเขา
    หั่นท้อง หมดพันธุ์ไปเลย สมนะน่าตัวเองนัก อาศัยว่าทำบุญปล่อยปลา ทำสังฆทาน
    พยายามไม่ทำบาปเพิ่ม เลยไม่เกิดอาการเจ็บ แม้ก้อนจะอ้วนป่องก็ตาม คีโม 4ครั้ง
    ก็ไม่มีอาการแพ้ ค่าใช้จ่าย รวมแล้วก็ประมาณ 2 แสน ก็ได้ประกันของบริษัทและ
    ประกันสังคม อันหลังนี่ช่วยได้เยอะมาก ดีใจที่เขาบังคับให้ทำประกันสังคมตอนนี้แหละ

    แล้วใครที่มักบอกว่า เกิดมาไม่เคยทำอะไรผิดเลย ทำไมต้องมาเจ็บตัว ก็ต้องคิดว่า
    เราไม่ได้มีแค่ชาตินี้ชาติเดียว ชาติก่อนๆๆๆล่ะ จำได้ไม่ได้ ไม่เกี่ยว นายเวรมีความจำ
    เยี่ยมยอด อดทน กี่พุทธันดรก็รอได้ หากโจทก์มาพร้อมกัน ยิ่งเจ็บหนัก ใครเคย
    บกพร่องศิล ข้อ 1 ก็จะเจ็บป่วย ทำกรรมหนัก ชาติต่อไปอายุสั้น แถมอาจตาย
    ในท้องก่อนคลอด(เพื่อนคนหนึ่งในชาตินี้ ได้รับรู้ว่าตัวเองเคยตายในท้องถึง 3 ชาติต่อกัน )

    อ้อ หลวงพ่อเคยบอกว่า การพ่นยาฆ่าแมลง แมลงสาป นายเวรพวกนี้ ทำให้มีปัญหา
    มดลูก ได้เหมือนกัน เขาเพ่งโทษว่า เราทำให้เขาเขาตาย เขาแพร่พันธุ์ไม่ได้
    สมควรที่ต้อง หยุดลูกหลานเราคืนบ้าง

    ขออนุญาตเขียนไว้ที่นี่ เพื่อให้รู้จักกฏแห่งกรรม และประกอบเรื่องของอาจารย์สุวิค่ะ
    รักษาความดีเอาไว้นะคะ เอาใจเขามาใส่ใจเรา เขาก็หนึ่งชีวิต เขาเจ็บเป็น แค้นเป็น
    ทำบุญแล้ว อุทิศให้นายเวร ขอโทษเขาอย่างจริงใจ.... และอโหสิให้เขาด้วยค่ะ

    อ่านแล้วถ้าไม่ลำบากก็อุทิศบุญให้นายเวรก้อนมะเร็งของตัวกลมๆนะคะ เพราะเอาเรื่อง
    เขามาเป็นอุทาหรณ์ให้ได้อ่านกัน กุศลทั้งหลายขอให้เขาได้เจริญขึ้น ขอบคุณค่ะ
     
  20. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    โรคที่ยากรักษา คือโรคอันเกิดจากวิบากกรรม ที่เราได้ระทำเอาไว้
    ส่วนหนึ่งมีเจ้ากรรมนายเวรคอยติดตามทวงคืน
    อีกส่วนหนึ่งมันฝังอยู่ในจิตสำนึก ตัวเองอย่างลึกๆ ทำให้เกิดสันดานติดตัว ชอบทำอะไรพิลึกชาวบ้าน
    เกิดความชอบ ไม่ชอบที่จะทำอะไรบางอย่าง ซ้ำๆซาก ไม่มีผู้ใดเตือนได้
    สิ่งที่เป็นนิสัยติดตัวนี้ จะเป็นตัว ชักนำ/ก่อ โรคให้แก่ร่างกาย
    เช่นชอบกินอาหารมันๆหวานๆ ใครห้ามก็ไม่ได้ ทายได้ว่า โรคเบาหวาน/โรคไขมันอุดตัน จะถามหา
    เช่น ชอบนอนเอกขเนก บิดๆตัว ไม่นาน กระดูดสันหลังก็เคลื่อน ก่อโรคยากรักษามากมาย
    ฯลฯ

    และผลของวิบากนี้ จะเป็นตัวชักนำให้ได้พบให้ได้ปะ โรคแปลกๆ อันเกิดจากลมเพลมพัดได้ง่ายๆ

    ยามิรู้อยู่ ของหมดสุวิจะช่วยได้ระดับหนึ่งเท่านั้น
    หากมีเจ้ากรรมนายเวรคอยทวงคืน ก็ต้องตั้งทนาย เจรจากัน (สุวิเรียนมาเป็นหมอรักษาคนนะ ไม่ใช่หมอความ)

    และนี่คืออีกวิธีสำรับการแก้ โรคแปลกๆยากรักษา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...