กิเลสที่เกิดจากการบูชาพระธาตุ

ในห้อง 'แจกฟรี' ตั้งกระทู้โดย aunpao, 16 พฤษภาคม 2009.

  1. aunpao

    aunpao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2009
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +550
    ขออนุญาตินำข้อความของคุณ prathat ที่โพสไว้ในเว็ปวัชรธาตุเอามาลงให้ดูครับ

    เดิมทีผมไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลยครับ แต่หลังจากได้ไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่าสุนันทวนาราม กาญจนบุรี ซึ่งตอนนั้นกำลังก่อสร้างพระเจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุจากกบิลพัสด์ ผมก็เริ่มศึกษามาตั้งแต่นั้น และเริ่มศึกษาข้อมูลมากขึ้น

    ครั้งแรกที่เห็นก็รู้สึกถึงความมหัศจรรย์ที่กระดูกคน กลายเปลี่ยนเป็นสีๆได้ สวย สด ใส เลยเกิดกิเลส อยากจะครอบครอง จะขอตามเว็บ ที่เกี่ยวกับพระธาตุครั้ง 1 องค์ พอได้มาแล้ว เอ้ เราน่าจะมีองค์นั้น องค์นี้ดีมั้ยน๊า เริ่มจากพระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระธาตุพระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ และอื่นๆอีกมากมาย เจอพระบรมสารีริกธาตุองค์ไหนสันฐานสวยงาม เป็นต้องขอมาบูชาตลอด เป็นกิเลสที่ยึดติดกับ รูปนาม

    กลับมานั่งย้อนคิดคำสอนของพระพุทธเจ้าว่า ทำไมเราต้องขวนขวายสิ่งสูงค่าเรานี้มาบูชาด้วยนะ พระพุทธเจ้าก็สอนว่า อย่ายึดติด ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอนัตตา ยึดมั่นถือมั่นก็หนักอึ้งเสียเปล่า ทำไมเราไม่วางสิ่งที่เราพยายามยึดถือลงซะ

    หลังจากนั้นผมก็เลยค่อยๆทะยอย นำพระบรมธาตุไปบรรจุตามเจดีย์ต่างๆที่ทางวัดออกข่าวจะสร้างเจดีย์ เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุและพระธาตุต่างๆ จนเหลือบระบรมธาตุแค่ 40 กว่าองค์และพระธาตุ 3 องค์ คือพระสารีบุตร พระโมคคัลนาะ พระสีวลี อย่างละองค์

    รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก เหมือนสไปเดอร์แมนที่ต้องรับภาระกิจอันใหญ่ยิ่ง พอได้เป็นคนธรรมดาไม่ต้องคอยช่วยเหลือใครก็รู้สึกสบาย
    รู้สึกโล่ง สบายใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่ต้องกลัวท่านจะเพิ่ม หรือลด หรือไม่ต้องนั่งขวนขวายหารับพระบรมธาตุตามเว็บอีก

    นับจากนั้นผมก็ปฏิบัติธรรมด้วยใจเป็นสุขอย่างมาก ไม่มีกังวล ไม่คิดอยากจะได้มาเพิ่มอีก บูชาเท่าที่เราดูแลรักษาได้ ที่จริงมีแค่องค์เดียวหรือองค์ใดองค์หนึ่ง ก็เป็นสิริมงคลสูงสุดแล้ว

    สำหรับผู้ที่มีพระบรมธาตุหรือพระธาตุเยอะ เพื่อแบ่งปันไว้แจกเพื่อนๆ ก็ถือว่าได้บุญสูงสุดนะครับเป็นการทำทานอย่างนึง แต่ผมว่าทำทานโดยการนำเอาไปประดิษฐานตามวัดจะดีกว่า เพราะถ้าแจกคนทั่วไป ก็จะเป็นการก่อกิเลสให้กับผู้ขวนขวายอยากได้ เกิดความละโมบ อยากได้มากขึ้นไปอีก อยากมีไว้เพื่ออวดสร้างบารมี หรืออื่นๆอีกมากกมายตามที่ใจปรารถนา ถ้าคนๆนั้น ไม่เข้าถึงแก่นพระศาสนาก็จะเกิดโทษอย่างมหันต์

    สรุป เดินทางสายกลางดีที่สุดครับ ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป พอดีๆ เข้าไว้ จะดีกับตัวเอง แล้วเราก็จะไม่มีกิเลสในใจอีกต่อไป ปล่อยวาง รู้สึกสบายใจ เบาบาง เป็นสุข

    ถ้าใครอยากจะทดสอบว่าตัวเองจะละกิเลสได้มั้ยลองคิดทำบุญถวายพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุแก่วัดต่างๆ ให้เหลือติดตัวไว้บูชาเพียงองค์เดียว ดูซิว่าจะทำใจได้มั้ยนะครับ อาจะยากมากๆเลยสำหรับบางท่าน เพราะการเสียของรักของหวงมันทำใจลำบาก เหมือนเสียคนรัก คนที่เรารักมากที่สุดเลยทีเดียว แต่ถ้าทำไปแล้วจะมีความรู้สึกสบายใจทันทีครับ ใครทำไม่ได้ปราถนาจะบูชาต่อไปก็ ต้องรักษาศิลให้ดีแล้วกันครับ ระลึกถือเป็นพุทธานุสสติ

    ใครบูชาพระอรหันต์ ที่แปลว่าเป็นผู้ไกลจากกิเลส ลองดูท่านทั้งหลายเหล่านั้นเป็นแบบอย่างครับ
    ที่เล่ามาไม่ใช่ห้ามบูชาพระบรมสารีริกธาตุนะครับ แต่ให้รู้จักความพอดี ระงับความอยาก เพื่อให้กิเลสเบาบางลงนะครับ เพราะเดี๋ยวจะไปติดกับ รูป สี สัน ความสวยงามภายนอก ซะจนลืม การปฏิบัติบูชา ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงยกย่องมากกว่า อามิสบูชา ครับ

     
  2. aunpao

    aunpao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2009
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +550
    ส่วนข้อความนี้คุณ คนผ่านทางโพสเอาไว้ ซึ่งผมเห็นว่าดีจึงนำมาฝากต่อให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ได้ลองอ่านดูครับ


    คุณ prathat ครับ เคยเห็นรูปพระธาตุที่วัดป่าสุนันท...ตรงเสาข้างๆ พระองค์โตๆ ในศาลาที่พวกเรากินข้าวเช้านะครับ ... ข้างๆที่วางหนังสือ ....

    อันนั้นเป็นพระธาตุของผมเอง ที่ยกไปถวายท่านทั้งหิ้งเลยนะครับ .... ไม่ใช่เหลือไว้บ้านองค์สององค์ นะครับ แต่โละทั้งหิ้งเลย ...ไม่เหลือพระธาตุ และพระสาวก ไว้ซักองค์ที่บ้านเลยครับ ... เด็ดขาดมาก....

    แต่.... ถ้าเรามีวาสนาสัมพันธ์ กับพระธาตุจริง เราจะได้เจอพระธาตุอีก ในเวลาไม่นาน ครับ ... เหมือนผม .... ผมเองเคยได้นิมิตร ก่อนตัดใจนำพระธาตุไปวัดหมดเลย ... คือ คืนก่อนนำพระธาตุไปวัดป่าสุนันท ... ผมฝันว่า ได้เดินทางไปที่แห้งแล้งที่หนึ่ง .... และในฝันผมก็เอานิ้วหัวแม่โป้งกดบนพื้นดิน ปรากฏว่าพื้นดินบริเวณนั้นยุบลง และ ก็เป็นน้ำตกใสสะอาด ให้ทุกคนได้ใช้ประโยชน์ ดื่มกิน .... เหมือนกับน้ำตกไทรโยค นะครับ .... ผมกำลังจะไถลลงเล่นน้ำที่ผมเองได้ทำขึ้น ปรากฏว่าตื่นเสียก่อน ....

    ตอนนั้นผมเองยัง หัวเราะกับตัวเอง เลยว่า.... เราคงไม่มีวาสนากับพระธาตุหรอก ... คงมีแต่รูปถ่ายเก็บไว้ ว่าครั้งหนึ่งเราเคยมีพระธาตุบูชานะครับ ... ^_^ .... และพระธาตุนั้นเป็นของกลาง คงอยู่กับเราไม่นาน ...

    แต่ปรากฏว่า หลังจากไปวัดกลับมา เห็นหิ้งว่างแล้วใจหาย เหมือนกัน .... แต่ปรากฏว่า ประมาณ สองอาทิตย์ พอดีเจอน้องที่เค้าทำพระธาตุที่จังหวัดใกล้เคียง เลยลองไปดู ปรากฏว่า ได้พระธาตุมาเยอะ มากๆ .... เยอะกว่า ตอนที่เราสะสมไว้อีก .... เห็นแล้วอัศจรรย์ใจจริงๆ ...

    นับแต่นั้นมา ผมเอง ก็เริ่มแจกพระธาตุ ไปเรื่อยๆ ยิ่งแจกยิ่งมานะครับ .... และ ระหว่างที่นำไปถวายครูบาอาจารย์ ก็มีเหตุการณ์อัศจรรย์หลายอย่าง ที่เกิดขึ้นกับเรา ... แบบบอกไม่ถูก ต้องสัมผัสเองจึงจะรู้นะครับ ....

    แต่พอมาเจอพี่ๆ ที่ชมรมวัชรธาตุ นี้ ยิ่งได้เยอะกว่าเดิม .... คราวนี้ยิ่งแจกเยอะกว่าเดิมอีก .. และมีเหตุอัศจรรย์หลายอย่าง ที่เกิดขึ้น ...ลองดูในกระทู้ที่ผมเคยลงไว้ในตอนต้นๆ นะครับ ..

    แจกๆ ไปเถอะ .... เพราะพระธาตุ เมื่อเสด็จไปสถานที่ใด ก็จะปรับสถานที่นั้น ...ทั้งภูมิศาสตร์ทางโลกทิพย์ และ ปรับสภาพภพภูมิของเราที่อยู่เองด้วย ... ให้มีความเจริญครับ ...

    เพราะ การไปของพระธาตุแต่ละครั้ง ไม่ใช่เหตุบังเอิญนะครับ .... ขอยกตัวอย่างเช่น ก่อนที่ผมจะส่งไปให้พี่คนหนึ่ง สักประมาณหนึ่งอาทิตย์ แบบตอนแรกไม่คิดว่าจะส่งให้พี่เค้า ปรากฏว่า มีเหตุให้ส่งไปให้พี่เค้า ... พอดีพี่เค้า ก็สามารถเห็นพวกในโลกทิพย์ได้ ... เห็นตั้งแต่ก่อนพระธาตุจะไปถึงเค้าอาทิตย์หนึ่ง นะครับ ... พี่เค้าเห็นพวกโลกทิพย์ไปจองที่แถวนั้นเยอะมากๆ เหมือนกับอพยพมาจากไหนเนี่ยแระ ... พออีกวันสามสี่วัน พอรู้ว่า ผมส่งพระธาตุไปให้ก็ถึงบางอ้อ กัน .... เห็นแล้วก็แปลกดีเหมือนกันนะครับ ....


    ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้ .... ว่าใจใครคิดยังไง ก็ตาม แต่ ใจเราอย่าตกตามก็พอครับ ... เพราะ บางคนยังไม่ถึงเวลาที่จะได้รับ ก็ต้องมีอันให้คนอื่นต่อไป ... หรือ บางคนได้รับแล้ว อาจต้องใช้เวลาปรับสภาพ อีกนานครับ ..... แล้วแต่บุญกรรมสัมพันธ์นะครับ ....

    เพียงแค่เห็น สัมผัสพลังพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ เราก็เกิดปิติ แล้วล่ะครับ ....

    แล้วจะมีอะไร ที่จะมาครอบงำใจเราได้อีก ???..... มาแทนที่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ล่ะครับ ..... ถึงหมั่นให้เราดูใจตัวเอง นะครับ ..... ถ้าเกิด กิเลส , นิวรณ์5 ก็ต้องสลัดออกไป เหลือแต่กุศล ระลึกใน พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ก็เพียงพอให้จิตเกิดปิติ ได้นะครับ ...... จิตจะได้ผ่องใส กุศลอื่นๆจะได้มีโอกาสเจริญยิ่งๆ ขึ้นไปนะครับ ...

    ถ้าจิตถูกนิวรณ์5 ครอบงำแล้ว จะจับอันไหน บูชาอันไหน ก็เศร้าหมองเหมือนกันหมด ไม่เกี่ยวกับพระธาตุ เลยนะครับ .... อย่าไปจับผิดอันนะครับ .... เดี๋ยวจิตเราเสียหมดครับ ...

    ที่เขียนมา เขียนจากประสบการณ์ที่ได้เจอมานะครับ ... หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ครอบครองอยู่ หรือ ผู้ที่สนใจอยากได้สักการะบูชานะครับ ..... จะได้แยกให้ออกว่าอันไหนเป็นอันไหน ... ตอนนี้จิตเราถูกอะไรครอบงำอยู่ หรือ ระลึกในพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ หรือเปล่า หรือ คุณธรรมอื่นๆเจริญขึ้น อยู่ ณ จิตใจเรา ณ ขณะนี้ครับ ....
     
  3. aunpao

    aunpao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2009
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +550
    แล้วผมจะโพสบอกบทสรุปของตัวผมเองเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ฟังอีกครั้งครับ
     
  4. บรม

    บรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,163
    ค่าพลัง:
    +3,926
    ขออนุโมทนาสาธุ จขกท ที่นำบทความดีๆ ของคุณพระธาตุมาให้อ่านเพื่อเป็นอนุสติ หากมีโอกาศได้ร่วมบุญผมก็มีความคิดเห็นเหมือนท่านผู้เขียนครับ ปัจจุบันที่มีบูชาบางส่วนไว้ก็คิดไว้ว่าจะนำส่วนใหญ่ไปถวายวัดเพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้เคารพ กราบไหว้
     
  5. natspdo

    natspdo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +1,505
    เป็นเรื่องนานาจิตตัง... การบูชาพระธาตุเป็นผลดีกับตนอยู่แล้วแต่ก็ไม่ควรมากจนเกินไป แบ่งให้คนอื่นบ้างก็ได้ ให้ผมนึกถึงพระเครื่อง บางคนเก็บสะสมก็เป็นความสุขของเขาคงไปก้าวก่ายไม่ได้ คนที่ชอบและรัก ก็จะศึกษาก็ถือได้ว่าสืบสารพระพุทธศาสนาทางอ้อม เพราะท่านเหล่านั้นจะรู้ประวัติดี พระธาตุก็เช่นกัน รู้จักพระอรหันต์ รู้จักพระสงฆ์ที่ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ ที่จะเป็นแนวทางปฎิบัติของเรา
    แต่ไม่เกี่ยวกับบารมีหรืออภิหารนะ ว่ายิ่งมีมากยิ่งดี ไม่เป็นจริงนะครับ บางคนเขาไม่มีพระธาตุสักองค์เดียว มีแต่ธรรมะชีวิตก็รุ่งเรืองดี หากท่านเก็บสะสมไปเรื่อย ๆ โดยไม่ปฎิบัติธรม จะมีอยู่วันหนึ่งที่ท่านคิดว่าชีวิตของท่านก็ยังเหมือนเดิม การเสด็จมาหรือไม่เสด็จมาของพระธาตุไม่ใช่สาระสำคัญ สำคัญอยู่ที่ท่านได้ปฎิบัติตามแนวทางพระพุทธองค์หรือเปล่า ที่สามารถมองเห็นปัญหาและมีความสามารถแก้ปัญหาในชีวิตของท่านได้ นี่สิเป็นสิ่งมหัศจรรย์ยิ่งกว่าพระธาตุเสด็จมาเสียอีก เพราะท่านได้ปัญญา...
     
  6. pisut168

    pisut168 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2009
    โพสต์:
    914
    ค่าพลัง:
    +1,961
    อ่านแล้ว ดีใจครับที่ได้เคยมอบพระธาตุให้กับคุณหลายพระนาม คิดว่าคงให้คนไม่ผิดครับ
    สิ่งศ้กดิ์สิทธิ์คงบันดาลให้ท่านได้รับไปดูแลสักการะต่อ จักเกิดประโยชน์มากกว่าผม
    ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
     
  7. เมตตาวิหารี

    เมตตาวิหารี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    671
    ค่าพลัง:
    +437
    ขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งกับท่าน จขกท ครับเนื่องจากเป็นบทความที่เตือนสติ ได้เป็นอย่างดีครับ " พระธาตุมีไว้มากก้อมิใช่จะเป็นเครื่องแสดงว่าเป็นผู้มีบารมีมาก เหตุเพราะพระธาตุไม่ใช่ของสะสม " เกลือจิ้มเกลือ กิเลสละกิเลส ขึ้นอยู่ว่าใครจะมีสติปัญญาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่ท้ายที่สุดอยู่ที่ " ใจ "

    ผมเองก้อมีภาระกิจสำคัญ ที่จะจัดการกับพระธาตุทั้งหลายทั้งมวลที่ผมเก็บไว้ครอบครองอยู่ แม้แต่พระเครื่อง วัตถุมงคลต่าง ๆ ที่ได้รับจากในเวปนี้ จะเป็นเหตุปัจจัยที่สำคัญส่งผลให้ ผมทำนุบำรุง และต่ออายุพระศาสน์ ต่อไปตราบนานเท่านาน ฯ

    ขออนุโมทนาสาธุการครับ

    เมตตาวิหารี
     
  8. Dragon_king

    Dragon_king เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2009
    โพสต์:
    730
    ค่าพลัง:
    +1,388
    ดีครับ ได้ความรู้ดีครับ

    ขออนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ

    อะหัง วันทามิ ทูระโต
    อะหัง วันทามิ ธาตุโย
    อะหัง วันทามิ สัพพะโส
     
  9. Reliquiae

    Reliquiae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,184
    ค่าพลัง:
    +2,639
    โมทนาครับ


    <DIR>วันนี้วันอัฏฐมีบูชา (วันแรม ๘ ค่ำ เดือน ๖)</DIR><DIR>วันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระของพระผู้มีพระภาคเจ้า

    </DIR>ขอท่านทั้งหลายทำความดี ถวายเป็น พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 9991.jpg
      9991.jpg
      ขนาดไฟล์:
      98.8 KB
      เปิดดู:
      151
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 พฤษภาคม 2009
  10. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    สวัสดีค่ะ

    ได้อ่านที่พี่ ๆ แต่ละคนเขียนมาแล้วซึ้งเลยค่ะ ยกนิ้วให้ค่ะ

    ขอบคุณค่ะ
     
  11. ซาตานคลั่ง

    ซาตานคลั่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    496
    ค่าพลัง:
    +1,449
    อืม แปลกดี อันที่จริงเคยอ่านเคยฟังแต่เรื่อง

    อานิสงการบูชาพระธาตุ

    และก็

    โทษของการห้ามหรือขัดขวางไม่ให้ผู้อื่นบูชาพระธาตุ

    เลยไม่เคยสนใจเรื่องกิเลศตรงนี้เลย
     
  12. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    เมื่อเธอละธรรมภายนอกได้แล้ว

    เธอก็ความละ"สักกายทิฏฐิ" หมายถึง ละความยึดถือว่า กาย<WBR>กับใจนี้เป็นของตน เมื่อมีความรู้สึกเบาสบาย เธอก็บงภาระหนักเสียได้


    ภารา หะเว ปัญจักขันธา ขันธ์ ๕ เป็นภาระหนัก
     
  13. nutagul

    nutagul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    179
    ค่าพลัง:
    +159
    ผมมีความคิดนะครับ ถ้าผมมีพระธาตุผมจะนำไปประดิษฐานที่วัดในหมู่บ้านผม เพื่อที่จะให้ชาวบ้านมีโอกาสได้สักการะบูชาครับ เพราะวัดบ้านผมเป็นวัดชนบทบ้านนอกต่างจังหวัด
     
  14. ธรรมสนองแผ่นดิน

    ธรรมสนองแผ่นดิน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +41
    การยึดติด

    การยึดติด คือการไม่หลุดพ้น
     
  15. พระครูวินัยธรสุพิน

    พระครูวินัยธรสุพิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,016
    ค่าพลัง:
    +12,307
    ขุททกนิกาย เปตวัตถุ
    ๑๐. ธาตุวิวัณณเปตวัตถุ
    ว่าด้วยบุพกรรมของธาตุวิวัณณเปรต



    พระมหากัสสปเถระถามเปรตตนหนึ่งว่า

    [๑๒๐] ท่านยืนอยู่ในอากาศ มีกลิ่นเน่าเหม็นฟุ้งไปและหมู่หนอนพากันบ่อน
    ฟอนกินปาก อันมีกลิ่นเหม็นเน่าของท่าน เมื่อก่อนท่านทำกรรมอะไร
    ไว้ เพราะการฟุ้งไปแห่งกลิ่นเหม็นนั้น
    นายนิรยบาลถือเอาศาตรามาเฉือน
    ปากของท่านเนืองๆ รดท่านด้วยน้ำแสบแล้วเชื่อดเนื้อไปพลาง ท่านทำ
    กรรมชั่วอะไรไว้ด้วยกาย วาจา ใจหรือ เพราะวิบากแห่งกรรมอะไร
    ท่านจึงได้ประสบความทุกข์อย่างนี้?




    เปรตนั้นตอบว่า

    ข้าแต่ท่านผู้นิรทุกข์ เมื่อก่อน กระผมเป็นอิสรชนอยู่ที่ภูเขาวงกตอัน
    เป็นที่รื่นรมย์ ใกล้กรุงราชคฤห์ เป็นผู้มั่งคั่งด้วยทรัพย์และข้าวเปลือก
    มากมาย

    แต่กระผมได้ห้ามปรามภรรยาธิดา และลูกสะใภ้ของกระผม
    ซึ่งพากันนำพวงมาลาดอกอุบลและเครื่องลูบไล้อันหาค่าม ิได้ ไปสู่สถูป
    เพื่อบูชา

    บาปนั้นกระผมได้ทำไว้แล้ว จึงได้เสวยทุกขเวทนาเห็นประจักษ์
    และจักหมกไหม้อยู่ในนรกอันหยาบช้า
    ทารุณ ๘๖,๐๐๐ ปี เพราะติเตียน
    การบูชาพระสถูป


    ก็เมื่อการบูชาและการฉลองพระสถูปของพระอรหันต
    สัมมาสัมพุทธเจ้า อันมหาชนให้เป็นไปอยู่ ชนเหล่าใดมาประกาศโทษ
    แห่งการบูชาพระสถูปนั้น เหมือนกระผม ชนเหล่านั้นพึงห่างเหินจากบุญ

    ขอท่านจงดู ชนทั้งหลายซึ่งทัดทรงดอกไม้ตบแต่งร่างกายเหาะมาทาง
    อากาศเหล่านี้เป็นผู้มีศรัทธาเลื่อมใส เป็นผู้มั่งคั่งมียศเสวยอยู่ซึ่งวิบาก
    แห่งการบูชาด้วยดอกไม้ ชนทั้งหลายผู้มีปัญญา ได้เห็นผลอันน่าอัศจรรย์
    น่าขนพองสยองเกล้าอันไม่เคยมีนั้นแล้ว ย่อมทำการนอบน้อมวันทาพระ
    มหามุนีนั้น

    กระผมไปจากเปตโลกนี้แล้ว ได้กำเนิดเป็นมนุษย์จักเป็นผู้
    ไม่ประมาท ทำการบูชาพระสถูปเนืองๆ เป็นแน่แท้.



    จบ ธาตุวิวัณณเปตวัตถุที่ ๑๐.


    http://84000.org/tipitaka/pitaka_ite...22&pagebreak=0

    http://www.pantip.com

    <!-- google_ad_section_end -->
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  16. aunpao

    aunpao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2009
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +550
    จะขออนุญาตเริ่มเล่าเรื่องเลยนะครับ พอดีผมไปได้อ่านข้อความของคุณพระธาตุที่เว็ปวัชรธาตุเมื่ออ่านจบแล้วความรู้สึกแรกของผมก็คือ เออใช่จริง ๆอ่านจบตอนประมาณห้าทุ่มกว่า ๆ หลังจากอ่านจบครับปิดคอมโทรหาพระอาจารย์ของผมที่เชียงรายด่วนเลยครับในตอนนั้น แล้วก็เล่าให้พระอาจรย์ฟัง อารมณ์แบบเดียวกับคุณพระธาตุเลยครับ เราแสวงหาพระบรม ฯ และพระอรหันต์ธาตุไว้เพื่ออะไร คิดหาคำตอบในใจตั้งนานจนได้คำตอบว่าแท้ที่จริงในพระไตรปิฏกไม่ได้กล่าวไว้เลยว่าจะต้องให้ทุกคนหาพระบรม ฯ และพระอรหันต์ธาตุมาบูชาไว้ทุกคน ปล่าวเลยครับไม่มีกล่าวไว้เลยครับในพระไตรปิฏก (หรือหากว่ามีแล้วผมหาไม่เจอผู้รู้ท่านใดแจ้งให้ผมทราบด้วยครับ) แท้ที่จริงการที่เรามีไว้บูชานั้นเป็นเสมือนสิ่งที่ยึดเหนียวทางจิตใที่สูงที่สุดในชีวิต บูชาแล้วได้บุญกุศลจากการบูชา แต่พระพุทธองค์ได้กล่าวไว้ว่าผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา เห็นธรรมในที่นี่คือการเห็นธรรมจากการปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ หลังจากที่คิดได้เท่านี้นะครับ ผมตัดสินใจถวายทั้งหมดเลยครับเรียกว่าเทหมดหน้าตัก ไหน ๆ ก็เป็นผู้รับมามากแล้วขอเป็นผู้ให้ โดยเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ ผมจึงถวายวัดที่หมด 3 วัดด้วยกัน เออเว้ยมีความสุขชะมัดยากเลยครับ สุขแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เฮ้ออออออออ หน้าที่เราคงหมดแล้วขอตั้งหน้าตั้งตาปฏิับัติตนให้สมกับเป็นลูกพระองค์ดีกว่า ขอจบแบบดื้อๆ เลยนะครับ

    ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้อ่านนะครับ
     
  17. pikarzo

    pikarzo ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +821
    ขอบคุณและขออนุโมทนากับคุณ aunpao ที่ได้นำบทความดีๆ มาให้อ่านครับ
    รวมทั้งข้อความของเพื่อนสมาชิก ด้วยครับ
    อ่านแล้ว ได้สติและแง่คิดดีๆ ที่จะนำไปปฏิบัติต่อไป
     
  18. ส.เชียงใหม่

    ส.เชียงใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2008
    โพสต์:
    214
    ค่าพลัง:
    +145
    ขออนุโมทนาในความเพียรครับ....ขอให้ทุกท่านมีความสุข

    ไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นนอกจากทุกข์ และไม่มีอะไรที่ดับไปนอกจากทุกข์
     
  19. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    คุณวิเศษอยู่ในตนเอง

    ใยไปเที่ยงวิ่งหาพระรัตนไตรนอกตัว จะพบก็แต่วัตถุภายนอกเป็นเพียงเปลือก หาใช่แก่นแท้ของทุกศาสนาในโลกกว้าง

    ซึ่งเป็นแต่ของภายนอกยังห่างพระรัตนไตร

    คุณธรรมมีหลายระดับ

    การยึดติด คือการไม่หลุดพ้น<!-- google_ad_section_end --> จากสังสารวัฏ
    การปล่อยคือการหลุดพ้น จากวัฏสังสาร

    พญามัจจุราชผู้มีเสนาใหญ่ ย่องหาดวงจิตไม่พบ
     
  20. ตรีทศบดี

    ตรีทศบดี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2009
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +30
    ร่มมีคุณเพราะกางกั้นกันแดดฝน
    ธรรมมีผลเพราะประพฤติจึงสุขสันต์
    รสธรรมเลิศประเสริฐล้ำรสอื่นพัน
    แสงธรรมนั้นเลิศที่รู้ดูด้วยตน
    .............................
    อนุโมทนา สาธุ กับการประกอบกุศลทั้งหลายนี้ด้วยครับผม
    ขอให้กุศลนั้นนำพาไปสู่ธรรมอันเจริญยิ่งๆขึ้นไปครับ

    อ่านแล้วทำให้ก่อเกิดสตินึกคิด และเป็นแบบอย่างในการนำมาปฏิบัติครับ
    ขอบคุณครับผม
     

แชร์หน้านี้

Loading...