วิญญาณนักรบ

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย Lukhgai, 13 พฤษภาคม 2009.

  1. Lukhgai

    Lukhgai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    3,000
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +8,239
    เรื่องที่จะนำมาบรรยายต่อไปนี้ได้เกิดขึ้นจริง ๆ และได้ผ่านไปนานหลายปี สาเหตุที่เป็นแรงบันดาลใจให้นำเรื่องนี้มาบรรยายสู่สายตาของทุก ๆ ท่าน เกิดจากเสียงเพลงใน หนังเรื่องบางระจัน ดังมาจาวีดีโอของน้องสาวที่นำมาเปิดดูกัน
    เลือดหลั่งชโลมดิน เลือดรินชโลมหา เหล่าวีระชนห้าวหาญ นักรบชาวไทย
    นี่แหละคือเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ดิฉันคิดถึงอดีตที่ผ่านมา หยิบปากกาขึ้นมาเขียนตัวอักษรด้วยลายมือที่ดูไม่จืด ในตอนนั้นดิฉันกับน้องสาว และหลานชายอีกสองคน คือ ตุ้ม กับ เตย ทั้งสองอายุใกล้เคียงกัน ตุ้มสิบสี่ เตยสิบสอง โดยเราทั้งหมดตั้งใจจะไปเที่ยวชม เมืองเก่าคือ อยุธยา ซึ่งเป็นสถานที่ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติไทยเรา และยังได้ความรู้อีกต่างหาก ทำให้เราที่เป็นลูกหลานคนรุ่งหลังได้จารึกคุณงามความดีของนักรบไทยตั้งแต่อดีตกาล ที่ยอมพลีชีพ พลีเลือดเนื้อรักษาแผ่นดินไทยไว้ เพื่อมิให้ตกเป็นทาสของพวกต่างชาติ และทำให้คนรุ่นหลังอย่างพวกเราได้มีแผ่นดินที่อยู่อาศัย น้องสาวดิฉันทำหน้าที่ขับรถ เราทั้งหมดแวะกินข้าวก่อนจะถึงเมืองโบราณ แล้วเดินทางต่อไปถึงจุดหมายเวลาสี่โมงเช้า เท่าที่ดิฉันจำได้ พวกเราได้ออกเดินดูไปรอบ ๆ บริเวณของเมืองโบราณ มีรอยถูกไฟไหม้มีซากอิฐที่ถูกเผา มีพระพุทธรูป ฯลฯ ต่อจากกลุ่มของพวกเรา มีกลุ่มชาวต่างชาติหลายคนที่ให้ความสนใจ หลังจากนั้นจึงออกเดินทางต่อ เพราะเราไม่รีบร้อนอะไร น้องสาวฉันได้ลาพักร้อน ส่วนหลานสองคนก็ปิดเทอมพอดี พวกเราจอดซื้อของกันตลอดทาง เราไปเที่ยวกันหลายที่ จนเกือบจะลืมเวลา มารู้ตัวเอาตอนดวงตะวันเริ่มจะคล้อยต่ำ เราทั้งหมดจึงเดินทางกลับ
    ในขณะนั้นอากาศเริ่มจะเย็นลงเพราะเป็นฤดูหนาวพอดี แค่ห้าโมงท้องฟ้าก็เริ่มจะขมุกขมัวแล้ว มองเห็นเมืองโบราณทมึนอยู่ข้างหน้า สายลมเริ่มจะแปรปรวนผิดปกติ เพราะลมพัดมารุนแรงมาก พัดพาเอาฝุ่นละอองปลิวว่อน มองดูแป็นสีแดง ท้องฟ้าก็เริ่มเป็นสีแดง ทำให้ดิฉันคิดถึงเนื้อเรื่องในหนังว่า ในวันที่ 7 เมษายน พ.ส.2310 เวลา 15.00 น. พม่าเริ่มขุดอุโมงค์ลอดใต้กำแพงเมืองแล้วสุมไปในวันนั้นตรงกับวันเนาว์สงกรานต์ (ก็คือท้อฟ้าสีแดง ฝุ่นสี่แดง น้ำก็เป็นสีแดง) ตรงกับวันเสียกรุง ไม่มีใครกล้าเล่นสงกรานต์ เพราะเป็นลางไม่ดี ดิฉันอาจจะบ้าประวัติศาสตร์เพราะทุกอย่างตรงกันกับในประวัติศาสตร์ ในขณะที่ดิฉันคิดเรื่องของเมืองโบราณ พลันรถโตโยต้ากลางเก่ากลางใหม่ หยุดกึกเอาดื้อ ๆ น่าแปลกมาหยุดอยู่ที่หน้าเมืองโบราณพอดี น้องสาวบ่นเหมือนหมีกินผึ้ง แล้วพาร่างอ้วน ๆ ลงไปดูที่หม้อน้ำรถ “น่าเบื่อ อีแก่ไม่เคยเก ทำไมวันนี้ถึงเกเรอย่างนี้” ดิฉันจึงลงมายืนอยู่ข้าง ๆ สายลมก็พัดแรงจัดขึ้นทุกขณะ ความมืดเริ่มเข้ามาครอบคลุม ดิฉันออกความคิด ตุ่มช่วนกันดันท้ายดีไหม" “ดีเหมือนกัน” ดิฉันเรียกหลานทั้งสอง แต่ยังไม่ทันที่จะทำอะไร พลันมี เหตุการณ์ที่เหนือธรรมชาติเกิดขึ้น เราทั้งหมดได้ยินเสียปะทุของไฟ พร้อมกับกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นเหนือเมืองโบราณ และเห็นพวกชาวบ้านแต่งตัวแบบโบราณ คือนุ่งโจงกระเบน วิ่งสวนกันไปมา มีเสียดังโวยวาย แต่ต่อมาก็ได้ยินเสียงดาบกระทบกัน และเสียงโห่ร้องเคล้ากับเสียงโอดโอย แสดงความเจ็บปวด ทำให้เราทั้งหมดต้องตะลึง มองดูภาพที่ปรากฎขึ้นมันเป็นแค่เพียงเงา แต่ชัดเจนเหมือนเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริง นักรบต่อสู้กัน แต่งตัวแบบโบราณ ฝ่ายตรงข้ามไม่ต้องเดาเลยว่านั่นคือพวกพม่า (เพราะเครื่องแต่งกายบ่งบอกอย่างชัดเจน) ทุกอย่างอยู่ในสายตา เหมือนกับว่าจงใจให้พวกเราได้เห็น แต่ขอบอกเลยว่า ภาพของผู้คนที่มองเห็นนั้น ตัวเล็ก ๆ ประมาณ หนึ่งฟุต มันเป็นไปได้อย่างไร แต่มันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ไม่น่าเชื่อเลย พวกเราไม่ทราบว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด และในขณะที่เราต้องตะลึงกับภาพที่ปรากฎอยู่เบื้องหน้า พลันสายลมเริ่มพัดแรงจัดขึ้นอีกครั้ง ท้องฟ้าที่เป็นสีแดงเริ่มเปลี่ยนสีพระจันทร์ดวงกลมโต ลอยเด่นอยู่เหนือเมืองโบราณ ทอแสงสีเงินยวงสุกสกาวพร้อม ๆ กับ อากาศที่หนาวเย็น ประกอบกับความหวดกลัวของพวกเราทั้งหมด ภาพของนักรบโบราณเริ่มเลือนลาง แล้วในที่สุดก็หายวับไปต่อหน้า และนั่นอะไรกันจู่ ๆ เครื่องยนต์ก็ติดขึ้นเองครางกระหึ่ม ดิฉันตกใจแทบช็อก หันไปมองหน้าทุก ๆ คน แต่ละคนมีเหงื่อไหลซึมบนใบหน้าทุกคนทั้ง ๆ ที่อากาศหนาวเย็นมาก ไม่มีใครพูดอะไรทั้งสิ้น ต่างรีบขึ้นรถ ตุ่มรีบออกเดินทาง เรากลับถึงบ้านสี่ทุ่มกว่า ต่างคนต่างวิ่งเข้าห้อง คือน้ำท่าไม่อาบกันละ เพราะอากาศหนาว ข้อสำคัญ คือ ความกลัวที่มันติดตามพวกเรามาตั้งแต่เมืองโบราณ กลัวผีนักรบจะตามมาอีก จะว่าตาฝาดก็เป็นไปไม่ได้ เพราะสายตาทุกคู่เห็นเหมือนกันหมด
    เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ.2518 ผ่านมาหลายปี มันเป็นปรากฏการณ์ที่ดินฉันคิดว่า มันน่ากลัวมาก จึงจำเหตุการณ์ในวันนั้นได้อย่างฝังใจและแม่นยำ มันน่ากลัวจริง ๆ ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เพราะที่ได้บรรยายมานี้เป็นความจริงทุกประการ
    ไม่เชื่อจะลองไปดูก็ได้ อาจจะมีคนเจอเข้าอย่างดิฉันบ้างในเวลาวันดีคืนดี (พวกชาวบ้านเขามักจะพูดกัน)

    จากหนังสือ “โลกลี้ลับ” ปีที่ ๒๐ ฉบับที่ ๒๒๐ เดือนเมษายน ๒๕๔๖
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2009
  2. นักรบเเห่งสยาม

    นักรบเเห่งสยาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    882
    ค่าพลัง:
    +607
    เป็นภาพความทรงจำเก่าของเมือนนะครับ
     
  3. ตักศิลา

    ตักศิลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    498
    ค่าพลัง:
    +440
    ก็อยากรู้เหมือนกันว่าในอดีตเราเคยเป็นหนึ่งในทหารหรือเปล่า

    อนุโมทนาสาธุ
    ขอกราบเหล่าบรรพบุรุษ ที่ปกบ้านป้องเมืองให้ พวกเราอยู่ยืนได้จนถึงทุกวันนี้
    ผมรัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย และครอบครัว
     
  4. yeepun

    yeepun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +425
  5. FCM

    FCM Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2008
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +34
    เค้าอย่างให้เรารู้มั้งค่ะว่ากว่าเราจะมีแผ่นดินอยู่บรรพบุรุษไทยต้องทำยังไง

    สาธุ สาธุ สาธุ ให้ความรักชาติและเสียสละของพวกเค้าค่ะ
     
  6. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,223
    ค่าพลัง:
    +15,632
    คนที่เป็นทหารในปัจจุบัน ในอดีตชาติหลายคนอาจจะเคยเป็นทหาร แต่สัญญาเก่ายังมีอยู่ ผมเคยเห็นตัวเองเป็นทหารบกน่าช่วงสงครามอินโดจีน แล้วถูกยิงตายระหว่างการสู้รบและทหารสมัยอยุธยา พลรบเดินดินถือดาบมือเดียวซุ่มโจมตีทหารพม่า โดยมีแม่ทัพสวมหมวกมาลาสีดำ ขี่ม้านำทัพเข้าโจมตีทหารพม่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...