ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิต พระเณร

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย พชร (พสภัธ), 15 ธันวาคม 2005.

  1. นักเดินทาง

    นักเดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +9,112
    เห็นมั้ย ๆๆๆ คุณโตใบ้เลข ๕ เต็มเลย
     
  2. นักเดินทาง

    นักเดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +9,112
    วันนี้ผมนอนไม่หลับ เมื่อวานไม่ค่อยสบายนอนซะ 10 ชั่วโมง ไม่รู้จะทำไรถึงจะหลับ
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    ผมจะรีบดำเนินการจัดส่งพระไปให้นะครับ ขออนุโมทนาในกุศลอีกครั้งครับ
     
  4. anko

    anko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    972
    ค่าพลัง:
    +8,252
    เช้านี้มาอ่านกระทู้นี้เป็นอันดับแรก เจอแม้วพี่โตเข้าไปหัวเราะไม่หยุดเลย สงสัยว่าจะทำให้วันนี้อารมณ์ดีได้ทั้งวัน อิอิอิ
     
  5. anko

    anko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    972
    ค่าพลัง:
    +8,252
    พูดถึงเรื่องแมว ที่บ้านที่ต่างจังหวัดก็ชอบมีแมวมาออกลูกบ่อยๆค่ะ น่ารักมากๆเลย แต่ว่าคุณอาที่บ้านเค้าไม่ชอบแมวคอยจะสั่งให้ลูกน้องจับเอาไปปล่อยอยู่เรื่อย ตัวเราก็ห้ามไม่ได้คุณอาเค้าไม่ฟัง ก็ได้แต่สงสารมัน
     
  6. anko

    anko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    972
    ค่าพลัง:
    +8,252
    ถึงว่าอยู่คุยกันซะดึกเชียว แอนหลับปุ๋ยตั้งแต่สามทุ่มกว่าแล้ว มาตามอ่านเอาตอนเช้าๆ อุอุอุ

    ว่าไปยังไม่เคยแนะนำตัวอย่างเป็นทางการกับพวกพี่ๆเลย ชื่อแอนค่ะ anko นี่เป็นชื่อเล่นตอนอยู่ญี่ปุ่นค่ะ สวัสดีอีกทีนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2006
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    ข้อแตกต่างระหว่างพระสมเด็จวัดระฆัง กับ พระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    1.เนื้อหาของสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าจะกระเดียดไปทางพระพิมพ์สมเด็จของวัดใหม่อมตรส แต่ที่เป็นชนิดเนื้อน้ำมันก็มีอยู่เป็นบางพิมพ์ บางพิมพ์ก็ห่างไกลจากวัดระฆังฯ บางพิมพ์ก็ใกล้เคียงกัน แต่มีข้อแตกต่างที่พอจะเห็นได้ชัดจากการลงรัก การตัดขอบ มวลสาร และจุดโค๊ด
    <O:p</O:p

    2.สมเด็จวัดระฆังฯทุกองค์ทุกทรงพิมพ์จะต้องมีการตัดขอบข้าง ส่วนพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่ามีทั้งพิมพ์ที่มีการตัดขอบข้างและพิมพ์ยกถอดในตัว ไม่มีการคัดขอบ<O:p</O:p

    3.ด้านหลังของพระพิมพ์สมเด็จวัดระฆังฯ จะปรากฏรอยคลื่นที่เรียกว่า
     
  8. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    ขอให้รวย ๆ จะได้มีเงินช่วยกันทำบุญ นะครับ แม้ว เอ๊ย แมวนำโชค (ติดมาจากคุณโต) ฉำฉองฮ่า คุณโตเล่า คุณโต้งใบ้ โปรดติดตาม 16 มีนา นี้นะครับ คุณ punyanut เข้าใจมา เขาเรียกว่าหาจังหวะรวยด้วยกัน
     
  9. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    เรื่องหนูนี่นะครับ ผมก็เคยร่วมผจญภัยกับมันมาเหมือนกัน สมัยยังเป็นเด็กวัยละอ่อนอยู่ ตามลัทธิพราหมณ์และฮินดู เขาถือว่าหนูเป็นบริวารหรือเรียกง่ายๆว่าลูกน้องของพระพิฆคเณศ ดังนั้นภาพพระพิฆคเณศ ส่วนมากจะมีหนูปรากฏให้เห็นด้วย เมื่อก่อนก็คิดหาทางกำจัดหนูอยู่หลายวิธี เช่นใช้กาวดัก ทำให้ผิวหนังหนูติดกาววิ่งไปไหนไม่ได้ เราก็เอาไปทิ้งขยะๆ(กรรมแรกที่ทำกับหนู) ทำให้เกิดโรคผิวหนังในช่วงนั้น น่ากลัวมากกว่าจะรักษาให้หายก็ใช้เวลานาน เลยเลิกวิธีใช้กาวดักหนู ทีนี้ก็มาถึงวิธีที่สอง วางยาราคูมิน อาหารอันโอชะของหนู จะไปเหลืออะไรหละ ผลของกรรมตัวนี้ ก็คือ ท้องเสียบ่อยๆ มีอาการของโรคกระเพาะแทรกเข้ามาเป็นระยะๆ จนกระทั่งทุกวันนี้ เศษของกรรมตัวนี้ยังมีผล ทำให้กระเพาะอาหารตอนบนของผมขณะนี้ไม่ปกติ ปวดแน่นขึ้นมาเวลายกของ เคยไปหาหมอที่โรงพยาบาล เขาให้กลืนกล้องลงไปเพื่อให้เห็นภาพ แล้วก็เขี่ยเนื้อเยื้อกระเพาะ เอามาตรวจว่าจะมีเชื้อมะเร็ง ไหม ผลปรากฏว่าโชคดีไม่มีเชื้อมะเร็ง แต่ผมก็ไม่วางใจ เพราะมีความรู้สึกว่า ที่ตรงนี้คือจุดอ่อนของผม จะอยู่ไปได้อีกนานเท่าไร ก็อยู่ที่จุดนี้แหละครับ ตอนนี้ผมคิดวิธีไล่หนู แบบใหม่ล่าสุดได้อีกแล้ว ไม่ต้องทำลายชีวิตเขา หนูมันกลัวกลิ่นลูกเหม็น มันเหม็นจนทั้งคนทั้งหนูต้องหนี เลยเปลี่ยนมาใช้ ก้อนดับกลิ่น เอาแบบหอมกลิ่นพฤกษา ก็ค่อยยังชั่ว พอใช้ไปใช้ไป หนูมันเคยชิน ดันชอบกินพฤกษา เลยอพยพครอบครัวมาออกลูกออกหลานเต็มไปหมด ต้องฟังเสียงลูกหนูร้องแทนเสียงเพลง หาวิธีใหม่ ใช้กรงดักหนู ดักได้เอาไปปล่อย พุดถึงดักหนู นึกถึง หลานชายผม สมัยวัยรุ่น ดักหนูได้เอาไปจุ่มในท่อน้ำหน้าบ้าน จนตาย ผลสุดท้ายพ่อหลานชายไปถ่ายรูปงานแต่งงาน แวะที่เขื่อนชัยนาท ถ่ายไปถ่ายมา ถอยตกเขื่อน เลยได้ไปอยู่ร่วมวงกับพวกหนูๆ กรรมมีจริง ไม่ต้องรอเห็นผลชาติหน้า ชาตินี้เห็นกันจะๆครับพ่อแม่พี่น้อง(บอกแล้วอย่าเกริ่นเรื่องอะไรมา ผมต่อยาวไปเลย ทนอ่านหน่อยนะครับ)
     
  10. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    ลมหายใจวิเศษปัดเป่าหินออกจากใจ

    <CENTER>ลมหายใจ...
    เป็นลมวิเศษที่ปัดเป่าหินออกจากใจ
    แล้วยังช่วยพัดพาความเย็นมาสู่ใจเรา </CENTER>

    ของที่หนักราวกับก้อนมหึมา แทบจะไม่ขยับเขยื้อนเอาเลย บางทีก็ปลิวไปได้ง่าย ๆ เพราะลมเบา ๆ

    ที่พูดนี้ไม่ได้หมายถึงลมสลาตัน หรือเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ลมที่ว่าอยู่ใกล้ตัวเรายิ่งกว่านั้นอีก ก็ลมหายใจไงล่ะ

    <DD><DD>ลมหายใจเข้าออกนี้แหละ สามารถพัดพาของหนักออกไปได้ ของหนักที่ว่าไม่ได้อยู่ที่ไหน หากอยู่ในใจเรานั่นเอง ความเครียด ความโกรธ ความวิตกกังวล เกิดขึ้นกับเราเมื่อใด ใจก็จะหนักราวกับมีหินก้อนใหญ่ถ่วงอยู่ข้างใน

    หินที่หนักเกินกำลัง เพียงแค่เราปล่อยมือ มันก็ตกลงพื้นแล้ว แต่หินในใจนั้น แม้อยากปล่อย ก็ไม่ยอมไปจากเราง่าย ๆ

    [FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed,Tahoma]ถ้าทำเท่าไหร่มันก็ไม่ยอมไป ลองใช้ลมหายใจของเราดีไหม วิธีการก็ง่าย ๆ แค่หายใจเข้าลึก ๆ หายใจออกยาว ๆ ลืมตาหรือปิดตาก็ได้ทั้งนั้น ตอนทำใหม่ อย่าปล่อยให้ลมหายใจเดินทางเข้าออกร่างกายของเรา อย่างโดดเดี่ยว ให้ส่งใจไปเป็นเพื่อนร่วมทางกับลมหายใจด้วย การน้อมใจให้จดจ่อ อยู่กับลมที่เคลื่อนเข้าเคลื่อนออก อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ลมหายใจของเรามีพลังมากขึ้น มันเข้มแข็งมั่นคงขึ้น เพราะมีใจเป็นเพื่อนนั่นเอง

    ลองทำแบบนี้อย่างช้า ๆ ไม่เร่งรีบ ติดต่อกันสัก ๑๐ ครั้งหินที่กองสุมจะค่อย ๆ หล่นไปจากใจทีละก้อน ๒ ก้อน แรก ๆ อาจเป็นแค่ก้อนเล็ก ๆ แต่ถ้าเราทำนานขึ้นและต่อเนื่อง ใจไม่วอกแวกหรือละจากลมหายใจ แอบไปโลดแล่นที่อื่น ทีนี้หินก้อนใหญ่ ๆ ก็ถึงคราวต้องไปบ้าง

    <DD><DD>ใจกับลมหายใจนั้น เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันอย่างแน่นแฟ้น เวลาเราเครียดหรือโกรธ ลมหายใจของเราจะปั่นป่วน แรง ตื้นและถี่ แต่ถ้าเราดูแลลมหายใจของเราให้ดี ๆ อย่างที่ว่ามา ใจของเราจะเริ่มเบาและคลาย

    ลมหายใจ นอกจากจะเป็นลมวิเศษที่สามารถปัดเป่าหินออกจากใจแล้ว ยังช่วยพัดพาความเย็นมาสู่ใจเรา เวลาเกิดโทสะ ถ้าไม่อยากทรมานเพราะไฟโทสะ ก็ลองใช้ลมหายใจของเราระงับดับความร้อนรุ่มดูบ้าง ถ้าทำได้บ่อย ๆ จะรู้ว่าลมหายใจนี้เป็นเพื่อนที่แสนวิเศษ เพราะไม่เพียงแต่จะเก่งในการปลอบใจให้เย็นลง ยังช่วยเตือนไม่ให้ลุแก่โทสะ จนเผลอทำสิ่งที่ไม่ควรทำ

    <DD><DD>เพราะฉะนั้น เวลาโกรธใคร ก่อนจะตอบโต้ ขอให้หายใจลึก ๆ สัก ๑๐ ครั้ง แล้วจึงค่อยพูดหรือทำ คนที่เปิดโอกาสให้ลมหายใจได้เตือนสติตนเองในยามเช่นนั้น มักไม่ค่อยเสียใจภายหลังจากที่ทำอะไรลงไป แต่ปัญหาก็คือ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าลมหายใจเป็นเพื่อนที่ประเสริฐ แต่เราก็มักลืมเพื่อนคนนี้เสมอเวลามีปัญหา

    </DD>
    [/FONT]</DD>
     
  11. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    [FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed,Tahoma]เพื่อไม่ให้ลืมง่าย เราจึงควรระลึกนึกถึง ลมหายใจของเราอยู่เสมอ ด้วยการน้อมใจจดจ่ออยู่กับลมหายใจเข้าและออกทุกครั้งที่มีโอกาส แม้จะมีเวลาประเดี๋ยวเดียวก็ไม่เป็นไร เริ่มแรกทำตอนว่าง ๆ เช่น เวลานั่งรถ รอไฟแดง ฟังวิทยุ ดูโทรทัศน์ พักโฆษณา ตอนล้างมือหรือเข้าห้องน้ำก็เป็นโอกาสวิเศษ ที่เราจะได้ทำความคุ้นเคยกับลมหายใจของเราด้วยเช่นกัน

    ต่อไปก็ลองฝึกระหว่างทำงาน เช่น ระหว่างประชุม หรือขณะกำลังครุ่นคิดเรื่องงานการ ตอนที่กำลังเหนื่อยหรือเครียดนั่นแหละ เหมาะดีนัก พักสมองสักครู่ แล้วลองทำดูสักหน่อย ให้รู้สึกสบาย ๆ เหมือนกับว่าทำเล่น ๆ ใจจะวอกแวก ฟุ้งซ่านไปบ้างก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้หายใจเข้าออกติดต่อกันอย่างน้อย ๑๐ ครั้ง ถ้าไม่ได้ ลดเหลือ ๕ ครั้งก็ยังดี…เอ้า ต่อเหลือ ๓ ครั้งก็ได้

    เมื่อใจเริ่มแนบแน่นสนิทสนมกับลมหายใจแล้ว ก็ทำให้นานขึ้น เพิ่มเป็น ๕ นาที ๑๐ นาที ๒๐ นาทีก็ยิ่งดี คราวนี้อาจทำตอนก่อนนอนหรือตื่นนอน

    นอกจากนั้นเรายังอาจยักเยื้องวิธีการให้มีสีสันขึ้น เช่น ระหว่างหายใจเข้าหายใจออก ก็ปิดตานึกภาพดอกไม้กำลังบานสายน้ำฉ่ำเย็น หรือม่านหมอกลอยขึ้นฟ้า ไม่ช้าไม่นานใจเราก็จะกลายเป็นดอกไม้งาม น้ำฉ่ำเย็น หรือหมอกบางเบาตามไปด้วย

    <DD><DD>วันแล้ววันเล่าที่เราหายใจรดทิ้งไปเปล่า ๆ ทั้ง ๆ ที่ลมหายใจออกของเรา สามารถระบายความหม่นหมอง ออกจากใจได้เป็นอย่างดี ส่วนลมหายใจเข้าก็เช่นกัน มันไม่เพียงแต่นำออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายเราเท่านั้น หากยังสามารถพาความสงบมาสู่หัวใจเราด้วย

    <CENTER>ใช้น้ำ ไฟ ให้มีประสิทธิภาพแล้ว
    อย่าลืมใช้ลมหายใจของเราให้คุ้มค่าด้วย
    คัดลอกมาจากที่นี้ครับhttp://www.khonnaruk.com/html/verandah/happy/happy_17.htmlอย่าลืมใช้ลมหายใจของเราให้คุ้มค่าด้วย
    </CENTER></DD><DD><CENTER> </CENTER></DD>
    [/FONT]
     
  12. anko

    anko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    972
    ค่าพลัง:
    +8,252
    อ่านอยู่ค่าาาา เรื่องของพี่เม้าสนุกออก อ่านไปได้ความรู้ไป ฝึกจิตไป ดีจะตาย จริงมั้ยพี่โตพี่โต้ง
     
  13. นักเดินทาง

    นักเดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +9,112
    ใช่ ๆ น้อง anko ฟังคุณเม้าเล่าเพลินดี โดยเฉพาะเรื่องหนู
    ถ้าผมปล่อยให้แมวมันจัดการ ผมจะบาปด้วยรึเปล่าไม่รู้
     
  14. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    หวัดดีทุกๆคน พึ่งกลับรถติดร้อนก็ร้อน เมืองไทยหน้าจะมีหิมะ55555555 เมื่อตอนเช้านี้ได้รับพระที่คุณโต้งส่งมาให้ สวยจริงๆนั่งดูพระกับแม่ชอบมากๆ คุณแม่ยึดไปอีกตามเคย55555คุณนายเค้าชอบส่องพระแกชอบจริงๆแกว่า"พระมาโปรดถึงบ้าน"ต้องขอขอบคุณ คุณsithipongและคุณโต้งมากๆจริงๆที่เมตตา
    มีเรื่องจะมาเล่าให้ฟังและโมทนากัน คือว่าถ้าไครได้มีโอกาศไป"เชียวใหม่"และได้มีโอกาศไปไหว้พระคู่บ้านคู่เมื่องของเชียงใหม่คือ"พระแก้วขาว"พระเศตังคะมนี"ที่วัดเชียงมั่น จะเห็นว่าพระแก้วขาวองค์นี้จะถูกปกป้องอย่างแน่นหนา ถึง3ชั้น พระแก้วขาวองค์นี้จะมีสายสังวาลสวยๆ ท่านทราบใหม่ว่าสายสังวาลนั้นเป็นของไคร???555555 เป็นสร้อยของโตเอง เมื่อหลายปีก่อนตอนที่ทำทองและไปหาลูกค้าที่ช.ม ได้ไปกราบไหว้ท่านเห็นว่าองค์ท่านสวยมากๆฉัตรที่หัวท่านก็เป็นทองฝังเพชรเม็ดโตๆ พระเกตุเป็นทอง ฐานเป็นทอง แต่ไม่มีสังวาล ถ้าได้สายสังวาลจะสวยมากๆ พอดีเราใส่สายสร้อยลายสวยสลับเพชรมาเชียงใหม่เพื่อแต่งตัวตอนไปหาลูกค้า เลยถอดออกไปหาท่านเจ้าอาวาด บอกจะถวายสร้อยเราให้เป็นสายสังวาลพระแก้วขาว ท่านเจ้าอาวาดบอกต้องประชุมกรรมการก่อนเพราะเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของเชียงใหม่ ถ้าจะเปิดที่เก็บพระแก้วขาวต้องมีกรรมการของวัดและของทางการมารวมกันจึงจะเปิดได้ ตอนนั้นโตจะต้องขึ้นเครื่องอีก2-3ชั่วโมง แต่ด้วยเพราะอนุภาพของเทวดาหลือพระแก้วข้าวก็ไม่ทราบ กรรมการอยู่แถวๆนั้นพอดีเลยอนุมัต เค้าไล่คนออกไปให้หมดเหลือโตกับกรรมการและปิดประตูหน้าต่างวิหารทั้งหมด แล้วเปิดที่ประดิศฐานทีละชั้นๆ ตอนนั้นหัวใจแทบหยุดแต้น เส็ดแล้วท่านเจ้าอาวาดให้โตขึ้นไปคร้องสายสังวาลกับเมือ ตอนนั้นตัวสั้นไปหมด เส็ดแล้วก็อธิฐานขอพร ขนลุกไปหมด ท่านเจ้าอาวาดบอกคนที่ได้จับพระแก้วขาวมีไม่กี่คนที่ได้ขึ้นมาเพราะพระองค์นี้เป็นสมบัตของคนเชียงใหม่เป็นพระประจำของพระนางจามเทวีและตอนหลังพยาเม็งรายไปเอามาเป็นพระประจำพระองค์สืบมาทุกวันนี้ ปีที่แล้วสายสร้อยไม่อยู่ทำให้โตปวดใจมากๆแต่เมื่อไม่กี่วันก่อนเห็นTVออกและได้เห็นสายสังวาลคร้องอยู่เหมือนเดิมเลยให้เพื่อนที่อยู่เชียงใหม่ไปดู ประกดว่าสายสังวาลยังอยู่เหมือนเดิม สืบทราบมาว่าที่เค้าเก็บขึ้นเพราะเค้าอันเชิญลงมาสรงน้ำกลัวว่าสายสังวาลจะหายเลยเก็บขึ้น ตอนนี้อยู่ที่เดิมแล้ว.....เมื่อคืนนอนหลับด้วยหัวใจพองโตจิตใจฟูมากๆหลังจากได้รับโทรศัพของเพื่อนที่เชียงใหม่...ว่าสังวาลของโตยังสวยสดงดงามเป็นสายสังวาลถวายเป็นพุทธบูชาตรอดการนาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2006
  15. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    เวลาเราปล่อยแมว ให้เกิดสมดุลตามธรรมชาติ นะคุณโต้ง ก็ให้นึกบอกว่า เจ้าหนูเอ๋ย ถ้ายังไม่ถึงฆาต ก็จงหนีเอาตัวรอดเถิด แต่ถ้าตัวใดถึงฆาตชะตาขาด ก็ขอจงเป็นอาหารของคุณแม้ว เอ้ย คุณแมวนะ คุณโต นี่ทำให้ผมติด แมว เป็นแม้ว ซะแหล่ว (นายกจะว่าอะไรมั๊ยเนี่ย) สำหรับคุณโต้งก็รอดตัวไป ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยว ให้ถือว่าเป็นเรื่องของ Tom and Jerry จะได้สบายใจ
     
  16. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    <CENTER>[SIZE=+1]ตำนาน
    พระเสตังคมณี(พระแก้วขาว)
    [/SIZE]</CENTER>
    <DD>พระแก้วขาว หรือพระเสตังคมณี เป็นพระพุทธรูปที่นับถือกันว่ามีความศักดิ์สิทธ์ สามารถคุ้มครองป้องกันอันตรายและอำนวยความสุขสวัสดิ์มงคลแก่ผู้ที่เคารพสักการะได้และปรากฏว่า ในอดีตกาลเป็นพระพุทธรูปสำหรับบูชา ประจำพระองค์ของพระนางจามเทวีปฐมกษัตริย์ผู้ครองนครหริภุญชัย และพระเจ้าเม็งรายมหาราช(หรือพระเจ้ามังราย) ปฐมวงศ์เมงราย ผู้สถาปนอาณาจักรลานนาไทย และกษัตริย์ผู้ครองหริภุญชัย และนครเชียงใหม่ ในยุคต่อๆ มา ก็นับถือเป็นพระพุทธรูปบูชาประจำพระองค์ทั้งสิ้น
    <DD>พระพุทธรูปองค์นี้ ในตำนานได้กล่าวถึงการสร้างใว้ว่า เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานล่วงแล้ว ๗๐๐ ปี ในวันเพ็ญเดือน ๗ พระสุเทวฤาษีได้เอาดอกจำปา ๕ ดอก ขึ้นไปบูชาพระจุฬามณียังดาวดึงษ์สวรรค์ ได้พบปะสนทนาด้วยพระอินทร์ๆ ก็บอกกล่าวแก่สุเทวฤาษีว่า ปีนี้ในเดือนวิสาขะเพ็ญ ที่ลวะรัฏฐะจะสร้างพระพุทธรูปปฏิมากรด้วยแก้วขาว ครั้งสุเทวฤาษีกลับจากดาวดึงษ์เทวโลกแล้ว จึงไปสู่เมืองละโว้ ขณะนั้น พระยารามราชเจ้าเมืองละโว้กับพระกัสสปเถระเจ้าปรารถการที่จะสร้างพระแก้ว ซึ่งพระอรหันต์ไปได้แก้วขาวบริสุทธิ์บุษยรัตน์มาจากจันทเทวบุตร แล้วขอพระวิศนุกรรมมาเนรมิต สำเร็จรูปเป็นองค์พระพุทธปฎิมากรสุเทวฤาษีและฤาษีอื่นๆ ก็ได้มาประชุมช่วยในการสร้างพระด้วย ครั้งสำเร็จแล้วก็บรรจุพระบรมธาตุ ๔ องค์ ไว้ในพระโมลี(กระหม่อม) ๑ พระนลาต(หน้าผาก)1 พระอุระ(หน้าอก)1 พระโอษฐ์(ปาก) ๑ รวม ๔ แห่ง
    <DD>เมื่อสร้างเสร็จแล้ว พระแก้วขาวก็ได้ประดิษฐานอยู่ที่เมืองละโว้สืบมาเป็นเวลานาน มาถึงสมัยเมื่อพระฤาษีสร้างนครหริภุญชัยขึ้นแล้ว ใช้ให้ควิยะอำมาตย์ ไปเชิญพระนางจามเทวี ซึ่งเป็นราชธิดาของพระเจ้ากรุงละโว้ มาครองเมืองหริภุญชัย พระนางจึงขออนุญาตจากพระราชบิดา นิมนต์พระภิกษุสงฆ์สามเณร และพระเสตังคมณี(พระแก้วขาว) มาเป็นพระพุทธรูปประจำพระองค์ พระแก้วขาวจึงได้ประดิษฐาน ณ นครลำพูน แต่นั้นมาเป็นเวลานานหลายร้อยปี บรรดากษัตริย์ครองเมืองหริภัญชัย(ลำพูน) ทั้งวงศ์เดียวกับพระนางจามเทวีและต่างวงศ์ ต่างก็ได้เคารพบูชาเป็นประจำองศ์มาทุกวงศ์ และได้สร้างหอพระปริดิษฐ์ไว้ในพระราชวัง
    <DD>พระเสตังคมณีประดิษฐานอยู่ ณ เมืองลำพูนตลอดมาจนกระทั่งถึง รัชสมัยของพระยายีบาเป็นกษัตริย์ครองเมือง ในครั้งนั้นพระเจ้าเมงรายซึ่งเป็นเจ้าครองนครเงินยวง(เชียงแสน) ได้ยกกองทัพไปปราบบ้านเล็กเมืองน้อยต่างๆ ที่ยังแข็งเมืองอยู่ให้เข้ารวมอยู่ไปอำนาจของพระองค์จนหมดสิ้นแล้ว แต่นครหริภุญชัยนครั้งนั้นมีกำลังเข็มแข็งมาก พระองค์จึงคิดอุบายให้ขุนอายฟ้าเห็นราชวัลลภคนสนิท ไปทำการจารกรรมนานถึง ๗ ปี ขุนอ้าว จึงส่งข่าวไปให้พระเจ้าเมงรายให้ยกกองทัพมาตีภุญชัย พ.ศ. ๑๘๒๔ ชาวเมืองที่ไม่ยอมทิ้งเมืองทำการต่อสู้เมงรายต้องใช้ธนูเพลิงยิงเข้าไป ทำให้เกิดเพลิงไหม้ทั้งเมือง ในที่สุดก็พ่ายแพ้แก่กองทัพแก่กองทัพพระเจ้าเมงราย
    <DD>เมื่อยกเข้าเมืองได้แล้ว พระเจ้าเมงรายจึงเสด็จออกตรวจดูความเสียหาย สี่งที่ทำให้พระองค์ทรงประหลาดพระทัยที่สุดคือ หอพระซึ่งอยู่ในบริเวณพระราชวังของพระยายีบาหาได้ถูกเพลิงไหม้ไม่ แต่บริเวณรอบๆ นั้นถูกเพลิงเผาผลาญพินาศฟมด พระองค์จึงเข้าไปทอดพระเนตรดู เห็นพระแก้วขาวสถิตอยู่ ณ ที่นั้น ก็เกิดมีพระราชศรัทธาปสาทะเป็นอันมากจึงอัญเชิญองค์พระแก้วขาวมาประดิษฐาน ณ ที่ประทับของพระองค์ ทรงเคารพสักการะบูชาเป็นพระพุทธรูปประจำพระองค์แต่นั้นมา </DD>
     
  17. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    [​IMG]
     
  18. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    มีโอนมาอีก 100-1169-300-500-1000บาท สาธุ สาธุ สาธุ
     
  19. anko

    anko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    972
    ค่าพลัง:
    +8,252
    55555 พี่เม้าทำให้หัวเราะอีกแล้ว
     
  20. anko

    anko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    972
    ค่าพลัง:
    +8,252
    พี่โตขาาาา ที่แอนส่งไปถึงหรือเปล่าคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...