อายุขัย กับ เวลาทำความดี โดยเฉลี่ยทั้งชีวิตกับการใช้ชีวิตแบบชาวพุทธ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย พระศุภกิจ ปภัสสโร, 1 พฤษภาคม 2009.

  1. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,166
    [​IMG]



    ผลสำรวจการดำเนินชีวิตคนไทย

    [​IMG]ใช้เวลานอน โดยเฉลี่ยทั้งชีวิตนอน 23 ปี

    [​IMG]ร่ำเรียน-ทำงานประกอบอาชีพทั้งชีวิต เฉลี่ย 19 ปี

    [​IMG]ทานอาหาร ขับถ่าย ทำภาระกิจส่วนตัวทั้งชีวิต เฉลี่ย 12 ปี

    [​IMG]พักผ่อน ท่องเที่ยว เจ็บป่วย รักษาตัว ทั้งชีวิต 10 ปี

    [​IMG]การเดินทาง ไปทำธุระ ไปทำงาน ทั้งชีวิต 7 ปี

    [​IMG]อาบน้ำแต่งตัว โดยเฉลี่ยทั้งชีวิต 4 ปี

    [​IMG]มีเวลาประกอบกรรมดีโดยเฉลี่ยทั้งชีวิต[​IMG] 6 เดือน

    สรุปมีโอกาสทำความดีไม่ถึง 2 % ควรตระหนักเรื่องนี้ให้มาก

    มนุษย์เรามีเวลาสั่งสม บุญหรือบาป เพียง 1,800 สัปดาห์เท่านั้นอายุโดยเฉลี่ยของมนุษย์ในยุคปัจจุบันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 จนถึงวันนี้ พ.ศ. 2548 คือ 75 ปี ตั้งแต่เกิดจนตาย ถ้านับเวลาเป็นวันคือ 27,375 วัน ถ้านับเป็นสัปดาห์คือ 3,600 สัปดาห์ ถ้านับเป็นเดือนคือ 900 เดือน ถ้านับเป็นชั่วโมงคือ 657,000 ชั่วโมง ถ้านับเป็นนาทีคือ 39,420,000 นาที ถ้านับเป็นวินาทีคือ 2,365,200,000 วินาที เท่ากับว่าถ้าเรานับ 1 ถึง 2,365,200,000 ก็จะแก่ตายพอดี สมการคือ(60 วินาที x 60 นาที x 24 ชั่วโมง x 365 วัน x 75 ปี = 2,365,200,000) วันหนึ่งๆมี 24 ชั่วโมง มนุษย์เราจะเสียเวลานอนเฉลี่ย 8-12 ชั่วโมง / วัน




    [​IMG]


    เพราะหากคิด "เดี๋ยวรอให้แก่ก่อนแล้วค่อยทำบุญ" โถ...แล้วเรารู้ได้อย่างไร ว่าจะอยู่ถึงแก่ อดีตชาติของเราอาจจะเคยก่อกรรมทำเข็ญบางอย่างมา จนกรรมนั้นตามมาทันในชาตินี้ หรือ เดี๋ยวนี้ ซึ่งเราอาจจะเสียชีวิต อาจจะหัวใจวายตาย อาจจะเส้นเลือดตีบ หรือตายด้วยสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง ภายหลังจากอ่านบทความนี้จบก็เป็นได้ กรรมมันจัดสรรมาแล้ว เพราะโอกาสที่จะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกนั้นยากเต็มที
    ..อุปมาเหมือนเต่าตาบอดตัวหนึ่งอยู่ในมหาสมุทร ในมหาสมุทรมีห่วงพอสวมหัวเตาได้อยู่ 1 ห่วง ในเวลา 100 ปี เต่าตาบอดตัวนี้ จะขึ้นมาหายใจ 1 ครั้ง แล้วให้คอเต่าตัวนี้ ลอดห่วงพอดี ซึ่งยากมากหรือแทบเป็นไปไม่ได้ (โอกาสเป็นไปได้ไม่ถึง 0.00000001 %)


    การเกิดเป็นมนุษย์นั้นยากกว่าการอุปมานี้เสียอีก เพราะต้องอาศัยผลบุญในอดีตชาติ เช่น การให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ที่สั่งสมมาจำนวนมากๆ เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์ได้ แล้วก็จะพบกับความยากอีก 4 อย่างตามมาอีก ซึ่งความยากที่สุด 4 อย่างตามที่พระพุทธเจ้าท่านแสดงไว้คือ

    1)การได้เกิดเป็นมนุษย์ ในชมพูทวีป (ที่มีอาการครบ 32)

    2)การเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้าในกัปป์นั้นๆ (ยุคปัจจุบันเรียกว่า "ภัทรกัปป์" หมายถึงกัปป์ที่จะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ 5 พระองค์ ได้แก่ พระกกุสัณธะ, พระโกนาคมนะ, พระกัสสะปะ, พระโคโตมะ, และพระศรีอริยะ)

    3)การเกิดในประเทศที่มีพระพุทธศาสนาประดิษฐานอยู่

    4)การได้ศึกษาพระพุทธศาสนา (แก่นคือ การเจริญภาวนา สติปัฏฐาน4 โดยพิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม เป็นอารมณ์ทุกขณะจิตในชีวิตประจำวัน)พวกเราในปัจจุบันนั้นได้มาครบทั้ง 4 อย่างแล้ว เป็นความยาก 4 อย่างที่มาบรรจบกัน ซึ่งเกิดขึ้นได้ยากที่สุด เราจะปล่อยให้โอกาสดีๆแบบนี้ผ่านไปเฉยๆเหรอ ผู้มีปัญญาควรรีบทำบุญทำกุศลให้มากที่สุด และการได้มาซึ่งบุญตามพระไตรปิฏกมี 10 ประการดังนี้ (เรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ 10)

    1)ทานมัย บุญที่สำเร็จด้วยการบริจากทาน

    2)สีลมัย บุญที่สำเร็จด้วยการรักษาศีล

    3)ภาวนามัย บุญที่สำเร็จด้วยการเจริญภาวนา ( สติปัฏฐาน 4)

    4)อปจายนมัย บุญที่สำเร็จด้วยการแสดงตนเป็นคนอ่อนน้อม

    5)ไวยยาวัจจมัย บุญที่สำเร็จด้วยการขวานขวายช่วยในกิจการที่ชอบ

    6)ปัตติทานมัย บุญที่สำเร็จด้วยการให้ส่วนบุญ

    7)ปัตตานุโมทนามัย บุญที่สำเร็จด้วยการอนุโมทนาส่วนบุญธัมมสวน
    มัย บุญที่สำเร็จด้วยการฟังพระสัทธรรม

    9)ธัมมเทสนามัย บุญที่สำเร็จด้วยการแสดงพระธรรมเทศนา

    10)ทิฏฐุชุกรรม การกระทำความรู้ความเห็นแห่งตนให้ตรง (เชื่อว่า บาป-บุญมี ,นรก-สวรรค์มี ,ชาตินี้-ชาติหน้ามี)อย่าปล่อยให้เวลาแต่ละวันสูญเปล่าแบบตามืดบอด โลกมนุษย์ใบนี้ไม่ใช่ที่ที่มนุษย์จะมาตั้งรกรากอยู่กันแบบถาวร แต่เป็นเพียงสนามสอบเท่านั้น ใช้ผลบุญ-ผลบาป เป็นตัววัดว่าสอบได้หรือสอบตก

    ...ถ้าต้องการแสวงหาความสุขที่แท้จริงและค่อนข้างยั่งยืน ต้องทำข้อสอบให้ได้คะแนนมากๆ (คะแนนคือบุญกุศล) แล้วจะได้ไปเกิดยัง "เทวโลก" ซึ่งเป็นโลกแห่งความสุขแท้ และมีอายุขัยยาวนานเกินคณานับ

    ...แต่ถ้าต้องการความสงบทางจิตแบบเหนือชั้น ต้องทำข้อสอบให้ได้คะแนนมากกว่านั้นขึ้นไปอีก (คะแนน คือ "ฌาณสมาบัติ" หรือ สมาธิขั้นสูงระดับ "ปฐมฌาณ" ขึ้นไป) จะได้ไปเกิดยัง "พรหมโลก"
    ...ในโลกมนุษย์ซึ่งมีแต่ความทุกข์ และอายุน้อยนิดทรัพย์สมบัติในโลกใบสละออกกลายเป็นบุญ ยึดมั่นตระหนี่หวงแหนเป็นบาปต้องทิ้งลาภยศทรัพย์ไว้ในโลกเอาไปไม่ได้หาก แต่เราเอาไปได้อย่างเดียวคือ บุญ-บาป เท่านั้นเป็นอริยทรัพย์ สามารถนำติดตัวไปได้ทุกภพทุกชาติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 พฤษภาคม 2009
  2. seoulman

    seoulman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +9
    ขอบคุณครับ

    เท่าที่อ่านดู ก้อน่าจะเป็นอย่างนั้น

    มีชีวิตที่ขาดทุน แย่จัง
     
  3. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,458
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    เห็นด้วยครับ ให้คิดว่าทุกวันเป็นวันสุดท้ายของเรา ทําทุกวันให้ดีที่สุด เเล้วโรคขี้เกียจจะไม่ถามหาครับ ผมยึดข้อนี้ในใจเสมอเพราะเเต่ก่อน ผมเป็นคนขึ้เกียจมาก พอยึดหลักนี้ เดี๋ยวนี้กลัวการอยู่เฉยๆมากครับ อนุโมทนาครับ
     
  4. yupanatuk

    yupanatuk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +418
    อนุโมทนา สาธุ ช่วยเตือนสติทุกคน ให้สร้างบุญกิริยาวัตถุ 10 และบำเพ็ญเพียรภาวนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤษภาคม 2009
  5. seedgogo

    seedgogo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,177
    ค่าพลัง:
    +4,020
    อนุโมทนาคับ เวลาน้อยจริงๆ ต้องรีบทำคะแนนให้ได้มากๆแล้ว
     
  6. ส.เชียงใหม่

    ส.เชียงใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2008
    โพสต์:
    214
    ค่าพลัง:
    +145
    เห็นภาพของชีวิตเลยครับ..ขออนุโมทนาครับ..ขอให้ทุกท่านมีความสุขครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...