เพศที่สาม สำเร็จฌานได้ไหมคะ

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย สัจจวาจา, 20 มีนาคม 2009.

  1. สัจจวาจา

    สัจจวาจา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +55
    อยากทราบว่าเพศที่ 3 ปฎิบัติธรรมสามารถบรรลุฌาน ญาณได้ไหมคะ
     
  2. GROLY

    GROLY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    2,019
    ค่าพลัง:
    +8,001
    ได้ครับ
     
  3. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    ทุกคนถ้าละอุปาทานได้ จะไม่มีเพศ จะเป็นแต่จิต ที่อาศัยกายอยู่
    (ส่วนคนโง่ บอกละอุปาทาน มันไปเข้าใจว่าฆ่าตัวตายก็มีนะ ระวังอย่าโง่)
     
  4. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
  5. สุภิญโญ

    สุภิญโญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +325
    ได้ครับผม
     
  6. โนอาร์

    โนอาร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +82
    รู้สึกว่าพระพุทธองค์ ไม่ได้บัญญัติไว้ แม้แต่สัตว์ ผี คนป่า ถ้าตั้้้งใจทำสมาธิ ก็สามารถหลุดพ้นและเข้าถึงฌานได้
     
  7. center-in-center

    center-in-center เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2009
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,717
    คุณ เจ้าของกระทู้
    คุณได้คำตอบในตัวเองอยู่แล้ว ก็คุณใช้ชื่อ "สัจจวาจา"
    ก็เพราะ สัจจะ นี่แหละ ที่จะทำให้สำเร็จ
    ถ้าท่านดำริ ในใจ หรือ ในวาจาก็ตาม แล้วทำให้ได้ดังที่พูดไว้ ท่านย่อมได้รับผลอันนั้น
    นั่นหมายความว่า การที่ท่านจะทำในสิ่งที่ท่านได้ให้สัจจะไว้ ท่านต้องอาศัยกำลังหลายอย่าง อาทิเช่น ความเพียร ขันติ อุเบกขา ฯลฯ
    เมื่อท่านทำสำเร็จท่านย่อมได้รับผลอันนั้น

    ทุกลมหายใจและทุกขณะจิตนี้ ล้วนเป็นพระรรมโดยทั้งสิ้น ท่านเริ่มจากตรงไหนก้ได้ ย่อมเข้าถึงที่สุดแห่งธรรมได้เช่นกัน

    ท่านไม่ต้องแสวงหา หรือ ร้อนรน หรือ เปรียบเทียบกับผู้อื่นให้เสียเวลา
    เพราะถ้าท่านทำอย่างนั้น แสดงว่า "อัตตา" ย่อมมีอยู่
    "อัตตา" นี้ ทำให้มีการเพ่งโทษ ทำให้ มีการเปรียบ เทียบเรา-เขา
    "อัตตา" นี้ แม้สละซึ่งกายหยาบได้ แต่ยังมี "เรา" อยู่ จิตนั้นย่อมวนเวียนในสามภพไม่สิ้นสุด
    จงไม่ยึดกาย (กายหยาบ-กายทิพย์-กายธรรม-กายพรหม-กายอรหันต์) ไม่ยึดเวทนา ไม่ยึดจิต ไม่ยึดภาวะธรรม หรือ ฌาณสมาบัติ ใดๆ
    ก็จะหลุดพ้นจาก เหตุ-ปัจจัย กฎแห่งกรรม และ ไตรลักษณ์
    เพราะเมื่อหลุดพ้นแล้วย่อมไม่มีสิ่งใดครอบงำ ไม่มีคำใดในสามภพจะใช้แทน สิ่งที่หลุดพ้นได้ เพราะกบในกะลา ย่อมไม่รู้แจ้ง ในสิ่งนอกกะลา จึงนึกคิดต่างๆนาๆ ว่านอกกะลาเป็นอย่างไร มัวคิด ๆ พูดๆ จึงไม่มีเวลาใช้ปัญญาหาทางออกนอกกะลา

    รีบปฎิบัติ รีบใช้ปัญญากันเสียแต่ตอนนี้ จะพิจาณาอะไรก็ได้ เพราะทุกอย่างเป็น "ธรรม" อยู่แล้ว
    ทำที่สุดแห่งธรรม นั้นๆ ก็จะหลุดพ้น
    ถ้าสิ่งนั้นเป็นทุกข์ จนทำทุกข์ให้แจ้ง ใช้ปัญญาให้ถึงที่สุด
    ถ้าสิ่งนั้นเป็นกุศล จนทำกุศลให้แจ้ง ใช้ปัญญาให้ถึงที่สุด
    ถ้าสิ่งนั้นเป็นอกุศล จนทำอกุศลให้แจ้ง ใช้ปัญญาให้ถึงที่สุด
    ถ้าสิ่งนั้นเป็นอัพพยากฤต ก็จงทำให้แจ้ง ใช้ปัญญาให้ถึงที่สุด
    ถ้าสิ่งนั้นเป็นกาย ก็จงพิจารณากายในกาย ให้ถึงที่สุด
    ฯลฯ
    เมื่อถึงที่สุดแห่งธรรมนั้นๆ ก็จะหลุดพ้น

    สาธุ..
     
  8. bboyman11

    bboyman11 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +2
    เค้าบอกว่า สัตว์ ทุกชนิดมีสติสัมปัญชํญญะ ไม่เท่าเทียมกับมนุษย์แบบ ว่าต่างสุดขั้วเลยไม่ไช่หรอครับ จึงไม่สามารถเจริญสติได้ น่าจะเปนงี้มากกว่านะ


    ขอโทดนะ ที่พาดพิง อาจจะผิดพลาดก้อได้แต่อย่าว่าละกันนะ
     
  9. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    สัตว์หรือคนก็คือหนึ่งชีวิต การเกิดและตาย ย่อมเป็นของธรรมดา
    เมื่อถึงวาระจะต้องเกิดเป็นคน ก็ได้เกิด เมื่อคนตายไปตามกรรมนั้นย่อมมีสิทธิ์มาเกิดเป็นสัตว์
    กงกรรม กงเกวียน ไม่รู้จักจบจักสิ้นเสียที..

    แต่เมื่อพอมาเกิดเป็นคนแล้ว ยังจะทำบาปทำกรรมกันอีกหรือ ?
     
  10. แสงมณีจินดา

    แสงมณีจินดา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2009
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +0
    เพศที่สามสามรถสำเร็จชาญได้ แต่ ไม่สามารถเข้า มรรคผลนิพพานได้ในชาตินี้
    แต่สามารถปฏิบัตตาม คำสอน ของ พระผู้มีพระภาคเจ้าได้เหมือนคนปกติทั้วไปได้เช่นกันครับ
    สามารถเข้าถึงพระนิพพานได้ในชาติที่ ไม่เป็น บุคคลชั้นสุดท้าย หรือ ไม่รู้ว่าตัวเป็นหญิงหรือชาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2009
  11. jake009

    jake009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +285
    ถ้าปฏิบัติเจริญขึ้นเรื่อย ๆ จะไม่เหลือ เพศที่3อยู่
     
  12. โชเต

    โชเต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    285
    ค่าพลัง:
    +331
    เรื่องนี้เคยได้ยินมาเหมือนกันครับ
    แต่ว่าในการแบ่งเพศบางอย่างเนี่ย

    ก็ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นเพศ...นั้นเพศนี้นะที่จะปฏิบัติธรรม

    ถ้าคุณทำได้มันก็จะดี นั้นก็คือ บาปกับบุญ เดินคู่กันไปเสมอ

    แต่ที่คุณเกิดมาเป็นเพศที่คุณว่าเนี่ย

    คุณก็จะต้องใช้เวรใช้กรรมของคุณ ควบคู่กันไปครับ

    แล้วคุณก็จะต้องเลิก ลด ละ การกระทำใด ๆ ที่เป็นบาปโดยสิ้นเชิง

    บาปและบุญที่ผมบอกไว้เนี่ย เปรียบเทียบง่ายๆ ว่า
    "ดำคู่ขาว สั้นคู่ยาว ต่ำคู่สูง จะทอดกายไป ณ เเห่งหนใดก็ตามแต่
    แสงสว่างย่อมจะคู่กับความมืดมิด ไปตลอด ดั่งเงาที่ตามตัวเราอยู่ทุก ๆวัน"

    ในความเป็นจริง ณ สิ่งนี้ ไม่มีใคร หนีมันพ้น แม้กระทั่งความตายมาเยือน
     
  13. พลรัฐ

    พลรัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    610
    ค่าพลัง:
    +1,111
    .....ใจ เป็น ประธาน....

    ....สำเร็จที่ใจ...
     
  14. cap5123

    cap5123 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +85
    ถ้ามีความแน่วแน่สมาธิการบรรลุย่อมบังเกิด
     
  15. Dragon_Fly

    Dragon_Fly สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +13
    ถ้ามีความหมั่นเพียรพยายามก็ย่อมสามารถบรรลุมรรคผลนิพพานได้ ถ้าหากมีความมุ่งมั่น
     
  16. White Plumeria

    White Plumeria สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +17
    ร่างกายคือสิ่งสมมติ สมมติว่าเป็นหญิง สมมติว่าเป็นชาย สมมติว่าเป็นตุ๊ดแต๋ว กะเทย แต่แท้จริงแล้วจิตทุกดวงเป็นจิตพุทธประภัสสร จงค้นหาความบริสุทธิ์ของจิตในตนนั้น ด้วยการมี ศีล สมาธิ ปัญญา... ปล่อยวางสิ่งสมมติทุกสิ่งบนสามโลก ละความมีตัวตนคือร่างกายได้ ต่อให้เป็นเพศใดก็ไปนิพพานได้หมด...ทุกอย่างอยู่ที่ใจ
     
  17. vidar_boyzai

    vidar_boyzai Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2008
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +36
    ความรูเพียบเลย
     
  18. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เป็นคำตอบที่ดีมากเลยครับ
    ประทับใจกับคำตอบนี้มากเลย
    ขอส่งต่อให้คนอื่นๆได้อ่านด้วยนะครับ

    สาธุครับ
     
  19. หมอพล

    หมอพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +4,175
    ธรรมะ......ไม่มี เพศ หรอก.......



    จะทำได้ หรือ ไม่ได้ ก็ต้องให้กำลังใจกัน ครับ.......คนทุกคน ก็ มีเวรมีกรรม กันมากอยู่แล้ว.......ขอให้ลองทำดู จนสุดความสามารถ ย่อมรู้ประจักษ์แจ้ง ด้วยตนเอง.......จริงๆ แล้ว ต้องเป็น "ติเหตุกบุคคล" เท่านั้นครับ....จึงจะสามารถ บรรลุธรรม ได้....คือ ขณะที่ จิต ปฏิสนธิในครรภ์มารดา นั้น ต้องปราศจากกิเลสอนุสัยมาปิดบัง สภาวจิต ณ ขณะนั้น......ซึ่งหาได้ยากยิ่งนัก ต้องสั่งสมมหากุศลภายใน จิต ไว้มากจริงๆ เท่านั้น.......ย่อมไม่เป็นของทั่วไปแก่คนธรรมดาเลย

    แต่ การบำเพ็ญกุศลต่างๆ นั้น ย่อมเป็นการดี อยู่แล้ว......เป็นสิ่งที่ดี แน่นอน.....เป็นการ สั่งสมบารมีไปในตัวอยู่แล้ว ทุกขณะ นั้นเอง......


    ส่วน พระวินัย ย่อมมีปรากฏ ข้อห้ามต่างๆ อยู่แล้ว ตามเหตุและผลแห่งธรรม สำหรับ เพศที่ 3 นั้นเอง........


    ขอเรียนว่า... หาก อกุศล และ อนุสัยกิเลส ไม่หนาแน่นจนเกินไปแล้ว.......ย่อมสามารถ บรรลุธรรม บรรลุฌาน และ ญาณต่างๆ กันได้ ทุกคน นั้นเอง...


    มัคคาวรณ์ สัคคาวรณ์ คือ ห้ามสวรรค์ และ ห้าม มรรค ผล นิพพาน นั้น........ย่อมเกิดจาก เหตุในอดีต เช่น เรื่องของ เถรใบลานเปล่า เป็นต้น......และ เกิดจากเหตุในปัจจุบัน ได้แก่ มี "มิจฉาทิฏฐิ" หรือ อาสวะหนาแน่น หรือ การปรามาสในพระอริยบุคคล หรือ การมี "จิตวิปลาส" คือ มีความเห็นคลาดเคลื่อนจากพระธรรม เป็นต้น....


    อนึ่ง อนันตริยกรรม 5......คือ ฆ่าบิดา ฆ่ามารดา ฆ่าพระอรหันต์ ทำพระพุทธเจ้าให้ห้อพระโลหิต และ ยุยงพระสงฆ์ ให้แตกแยกกัน นั้น........ย่อม ห้ามสวรรค์ และ มรรค ผล นิพพาน แน่นอนที่สุด.......ย่อมไปสู่ มหานรก แน่นอน....เช่น พระเทวทัต ไปอยู่ อเวจีมหานรก.....พระเจ้าอชาตศัตรู ไปอยู่ โลหะกุมภีมหานรก.......เป็นต้น (แม้จะได้บวช และ ทำบุญมามาก ก็ตาม แต่ บุญเหล่านั้น ก็ช่วยอะไร ไม่ได้เลย เพราะ กรรมทั้ง 5 จัดเป็น "ครุกรรม" คือ เป็น กรรมที่หนักมาก แม้พระพุทธเจ้าเอง ก็ทรงช่วยไม่ได้)




    ธรรมะสวัสดี......
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2009
  20. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    แต่ไม่มีโอกาสบรรลุธรรมขั้นโลกุตระ
    พิสูจน์ได้จากพระวินัย
    ถ้ามีการผ่าตัดแปลงเพศจะไม่อนุญาตให้บวช
    เพราะถือว่า..เป็นโฆฆะบุรุษ ที่ไม่มีโอกาสบรรลุธรรมขั้นโลกุตระ
     

แชร์หน้านี้

Loading...