เทวดา..พรหม..สามารถบำเพ็ญบารมีต่อได้ไหมคะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย penney, 17 กุมภาพันธ์ 2006.

  1. penney

    penney เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    322
    ค่าพลัง:
    +1,137
    เคยอ่านเจอในหนังสือหรือว่าได้ฟังมาจากไหนไม่ทราบค่ะ เขาบอกว่า
    มนุษย์เท่านั้นที่จะสามารถทำบุญสร้างกุศลได้
    เทวดาและพรหมจึงอยากมาเกิดเป็นมนุษย์


    แต่พอมาฟังหลวงพ่อฤาษีลิงดำเทศน์จากในเว็บนี้(คาดว่าจำไม่ผิดด้วย)
    เห็นท่านเทศน์ประมาณว่า หากตายไปแล้วไปเป็นเทวดาหรือพรหมก็
    สามารถจะบำเพ็ญภาวนาสร้างกุศลจนมีบารมีมากพอที่จะไปนิพพานได้


    ตกลงยังไงแน่คะ แต่หนูเชื่อหลวงพ่อฤาษีค่ะ
    แต่ก็อยากถามผู้รู้เพื่อความมั่นใจค่ะ
    [b-wai] [b-wai]
     
  2. 12punna

    12punna เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +3,198
    เมื่อเรา เกิด เป็น เทวดา ไม่ว่าจะ ชั้นไหนก็ตาม
    สามารถ ที่จะ สร้างบารมี สะสมบุญต่อได้ ขึ้นไปได้อีก
    แต่ สาเหตุ ที่ เหล่าเทวดา จะชอบ มาบำเพ็ญ ที่ โลกมนุษย์
    มากกว่า เพราะ บนสวรรค์ มันสบายเกินไป ไม่ค่อยเห็นทุกข์ หรือ
    ไม่เห็นทุกข์เลยด้วยซ้ำไป ทำให้ค้อนข้าง ที่ ยาก และ นานมาก
    กว่าจะ ทำให้เรา บรรลุสัจธรรมแห่งความเป็นจริง คือ นิพพาน
    แต่ ถ้ามาเกิดบนโลก ใบนี้ ย่อม มี เหตุ ให้เกิด แห่ง ทุกข์ เต็มไปหมด ทำให้เมื่อเรา เจริญปัญญา ย่อมเข้าใจ เหตุแห่งทุกข์ และ วิธีที่จะดับ ทุกข์ ได้ง่าย มากกว่า ที่จะอยู่บนสวรรค์ แล้ว สบาย
     
  3. penney

    penney เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    322
    ค่าพลัง:
    +1,137
    ต้องขอขอบคุณคุณ12ปันนามากๆค่ะ สำหรับคำตอบ
    ให้ความกระจ่างมากเลย

    ขอถามอีกนิดนะคะ ว่า

    ถ้าเทวดาหรือพรหมกลับมาเกิดใหม่แล้ว
    แต่ว่ากลับสร้างกรรมมากขึ้นไปอีกและไม่สามารถระลึกชาติได้
    ทำให้ไม่เชื่อในหลักพุทธศาสนาดังที่เคยได้ปฏิบัติมามีโอกาสเป็นไปได้ไหมคะ
    ทำให้ตายไปตกนรก ทุกข์หนักกว่าเป็นมนุษย์แน่ๆ
    หรือว่าถ้าเขามาเกิดใหม่จะมีเหตุที่ทำให้เขาสามารถระลึกชาติได้หรือมีอะไรชักจูงให้เขา กลับมาปฏิบัติธรรมได้ดังเดิมหรือไม่คะ
     
  4. 12punna

    12punna เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +3,198
    การที่เรา เกิดเป็น มนุษย์ เมื่อ ละสังขารจากโลกไปแล้ว ได้มีโอกาส ไปเกิด
    ใน สวรรค์ ชั้น พรหม ได้ ก็ต้องแสดงว่า ใน ใจหยั่งลึกๆๆ ของเขา ย่อม มีเมตตา หรือ พูดง่ายๆๆ มี พรหมวิหาร 4 ประจำใจ ไม่งั้นไม่มี โอกาส ได้ไปเหยียบ ดินแดน สวรรค์ชั้นพรหม ขึ้นไปแน่นอน และเมื่อเขามา เกิด ใหม่ บนโลกใบนี้แล้ว เขาก็ต้อง มีร่างใหม่หมด แต่ใจของเขาลึกๆๆ ย่อมมี พรหมวิหาร4 แน่นอน แต่ส่วนมาก น้อยนะ ที่จะไป นรก ถ้าไม่ได้ ทำบาป ที่ผิด 1ใน10 ที่บาปหนัก บุญเก่ายังมีคำประกันอยู่ ^^ หรืออีกอย่าง ถ้า เกิดเป็น พรหม แต่ มาเกิดเป็น มนุษย์ แล้ว ทำบาป ก็อย่างที่บอก ถ้าไม่ได้ บาปหนัก1ใน10 ยังไง ท่าน พญายมราช ก็ ต้องเห็น คุณงามความดี บุญเก่า ไม่มาก ก็น้อยแล้ว ละครับ แต่ ก็ ขึ้น กับการ พิจารณา ของท่านด้วย ตอบยาก ว่าจะไป นรก หรือ สวรรค์ ส่วน กรรมชั่วที่ทำไว้ ยังไงก็ต้องได้รับ แต่ไม่รู้เท่านั้นเอง ว่าจะส่งผล กรรม เมื่อไร

    ส่วน เทวดา ที่ มาเกิดเป็น มนุษย์ แล้ว ทำชั่ว ขอบอก ตกนรก ตรึม เพราะในใจ หยังลึก ไม่ค่อยมี พรหมวิหาร4 ในใจเลย (พูดถึง เทวดาเล็กๆๆนะ) แต่ยังไงก็ ขึ้นอยู่กับการ พิพากษา โดย ท่านพญายมราช หรือ ลุงพุทธ นั้นอีกละครับ
    ลุงพุทธ ท่านช่วย หาความดีของคน นั้นให้เต็มที่ ละครับ จึงตอบค่อนข้าง ยากหน่อยคำถามนี้

    ส่วนที่ ถามการ ระลึกชาติ อันนี้ก็ ตอบยากอีก เพราะ เราก็ ต้องดูว่า ชาติก่อนเขา เคย ฝึกจิต ปฏิบัติกรรมฐาน มาหรือเปล่า ? ถ้าเคย ฝึกมา ระดับไหน มาชาตินี้ นั้งแป็บเดียว ก็ ต่อ จิตสมาธิ ที่เคยฝึกชาติที่แล้วมาได้ง่ายๆๆ แต่ถ้าไม่เคยฝึกมาก่อนเลย มาชาตินี้ ก็ เป็น ศูนย์ เพราะไม่ได้ ปลูกฝังมา แล้ว ผลดอก จะออกมาได้อย่างไร

    ส่วนเรื่องการ ชักจูงให้ เราปฏิบัติธรรม อันนี้ก็ ต้องดูว่า กรรมดี จะส่งผล เราหรือเปล่า ถ้าส่งผล ก็จะทำให้เราอยากรู้สึกอยากปฎิบัติ แต่ถ้ากรรมชั่ว ยังส่งผลอยู่ ก็ จะทำให้เรา ไม่เชื่อ ไม่อยากปฎิบัติ อะไรประมาณนี้ครับ
     
  5. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,702
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,016
    เคยได้ยินมาเหมือนแบบนี้

    เทวดา..พรหม..สามารถบำเพ็ญบารมี สร้างบุญกุศลได้ต่อได้

    เทวดาและพรหมสามารถ บรรลุธรรมเป็น พระอริยเจ้าได้และเป็นพระอรหันต์ได้
    เรื่องเทวดาบรรลุธรรม ถ้าไปอ่านในพระไตรปิฏกจะมีบอก บางตอน พระพุทธเจ้าเทศน์โปรด แล้วเหล่าเทวดาพรหมนับหมื่นบรรลุธรรม

    สร้างบุญกุศล ย่อแล้วมี 3 อย่าง คือ ทาน, ศิล, ภาวนา

    ทาน
    เทวดาก็ทำทานได้ เราคงเคยได้ยินว่า เทวดาแปลงกายมาเป็นใส่บาตรพระธุดงค์

    ผมคิดว่า การบำเพ็ญบารมีด้านทานหรือการเกิดเป็นคนสามารถทำทานได้ดีกว่า ตอนเกิดเกิดเป็นเทวดา......
    เพราะว่าเมืองมนุษย์เต็มไปด้วยความทุกยากลำบากและโอกาสการทำทานก็ทำได้ง่าย มีทั้ง คน เกิด แก่ เจ็บ ตาย คนจน คนทุกข์มีปัญหา การสร้างโน่นนี่ก็มีมาก

    อย่างเมืองสวรรค์สบายแล้วอะไรต่างก็มีครบ อยากได้อะไรก็ใช้พลังจิตเนรมิตเอา โอกาสทำทานจึงมีไม่มากเท่าเมืองมนุษย์

    ของเมืองมนุษย์ไม่อย่างนั้นเนรมิตไม่ได้ ต้องอาศัยคนช่วยกัน เช่น สร้างโบรถวิหาร สร้างพระ ทำธรรมทาน ต่างๆ


    ศิล
    เทวดาก็ถือศิล
    เทวดาแปลว่า ผู้ประเสริฐ
    เทวดา "เป็นผู้ มีหิริโอตัปปะ" คือ ละอายต่อการทำบาป
    ** เทวดาบางพวกทำบาปก็มี เช่น พวกเทวดาที่เป็นมารต่างๆ**
    เทวดาชั้นสูงๆรักษาศิล 227 ข้อ

    ภาวนา
    เทวดาหรือพรหมก็ภาวนาได้ และสามารถภาวนาจนบรรลุธรรมได้
    ใครตอนเป็นมนุษย์ได้เป็นพระอริเจ้าขั้นอนาคตมีผล พอตายไป ก็จะไปอยู่ชั้นพรหม แล้วไม่ลงมาเกิดอีก พอไปเป็นพรหม ก็จะบรรลุอรหันต์ที่ชั้นพรหมเลย

    -----------------
    คนก็อยากเกิดเป็นเทวดาก็มีเยอะ
    เทวดาอยากเกิดมาเป็นคนเพื่อบำเพ็ญบารมีก็มีเยอะ โดยเฉพาะพุทธภูมิ

    เทวดาบางกลุ่มอยากมาลงมาเกิดบนโลกเพื่อบำเพ็ญบารมีกับพระอาริยะเจ้าก็มี
    เช่น หมาที่วัดท่าซุงก็คือเทวดามาจุติ ที่เกิดมาเป็นหมาเพราะว่าจะได้ใกล้ชิดหลวงพ่อฤาษีลิงดำและหมาโตเร็วกว่าคน และอายุน้อยกว่า บำเพ็ญบารมีแบบเร่งด่วน....
     
  6. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,702
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,016
    คำว่า "สร้างกรรมมากขึ้น"
    ถ้าบอกว่า"สร้างกรรม" คนจะเข้าใจว่าสร้างบาป เช่นเจ้าของกระทู้
    เอาไว้ในฐานนะที่เข้าใจกันนะสำหรับกระทูนี้ สร้างกรรมคือสร้างบาป

    ความหมายของ กรรมคือ การกระทำ
    ทำ กรรมดีเรียก ว่า บุญ
    ทำ กรรมชั่วเรียกว่า บาป

    จากคำถามเป็นไปได้ 2 กรณี คือเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้

    1). เป็นไปได้ ถ้าเทวดานั้นไม่ใช่ พระโสดาบัน ว่าเมื่อเทวดากลับลงมาเกิดใหม่สร้างบาปมากขึ้นแล้วตกนรก

    แต่จะประกอบด้วย 2 อย่าง คือ

    1. การกระทำ (กรรม)ในปัจจุบัน ถ้าเกิดมาแล้วทำบาปกรรมมากๆ เวลาตอนตายจิตมัว. หมองก็ทำให้ก็ลงนรกได้
    หรือถ้าทำบาปหนักๆ ฆ่าพ่อแม่ตัวเอง ตอนตายก็ดิ่งลงไปนรกเลย

    2. บุญเก่าหมดหรือบุญยังไม่ส่งผล
    เวลาตอนปัจจุบันจะทำบาปใหญ่ที่มีผลส่งให้เขาตกนรก ก็ทำไป ไม่มีอะไรมาช่วย

    แต่ถ้าเขามีบุญเก่าอยู่มากๆ เวลาจะทำกรรมหนักๆที่ทำให้ตกนรก ก็จะมีอะไรมาขัดขวางไม่ให้ทำกรรมหนักนั้น เช่น เทวดามาดลใจหรือมีคนมาช่วยชี้แนะให้ไปถูกทาง

    บุญที่ทำให้เกิดมาเจอพระพุทธศาสนา มีหลาย อย่างเช่น สร้าง วิหาร สร้างพระพุทธรูปและให้ธรรมทาน สร้างพระไตรปิฎก พอเกิดมาอีกชาติก็จะเจอพระพุทธศาสนา อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นพุทธ ทำให้รู้วาอะไรบาปอะไรบุญ

    2.) ถ้าเทวดานั้นเป็นโสดาบัน จะเป็นไปไม่ได้ว่าเมื่อกลับลงมาเกิดแล้ว จะต้องตกนรกต่อไปอีก

    ( พระโสดาบันคือพระอริยเจ้าผู้บรรลุธรรมขั้นต้น )
    พระโสดาบันจะเกิดอีกไม่เกิน 7 ชาติก็จะบรรลุอรหันต์


    1. กรรมปัจจุบัน ของ พระโสดาบัน จะไม่ยอมทำผิดศิล 5 ....รักษาศิลยิ่งกว่ารักษา ชีวิต เมื่อปัจจุบันไม่ทำผิดศิล ก็ไม่เป็นเหตุให้ตกนรกอีก

    2.บุญเก่าส่งผล บุญเก่าใหญ่ๆที่มีคือ บุญของการเคยเจริญวิปัสนาจนบรรลุธรรมขั้นโสดาบัน
    ใครก็ตามที่เคยทำบาปต่างๆไว้ เช่นอดีตชาติเคยฆ่าคนตาย เมื่อได้เป็นโสดาบันแล้ว จะไม่ตกนรก ทางนรกยกเว้นให้ แต่ผลของกรรมจะมาส่งผลตอนมีชีวิตแทนการตกนรก เช่น ร่างกายจะเจ็บป่วยต่างๆ
     
  7. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,702
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,016
  8. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,702
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,016
  9. ice_jade

    ice_jade เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2005
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +311
    อ่านแล้วทำให้นึกขึ้นได้ เรื่องที่เคยสงสัยมานานคะ

    ถ้าบุคคลผู้ได้เป็นอริยเจ้าระดับใดระดับหนึ่งนั้น หากยังไม่ได้อรหันตผล เมื่อบุคคลผู้นั้นตายไป ต้องมาเกิดเป็นเทวดาหรือมนุษย์อีกโดยจำนวนชาติที่ต้องมาเกิดใหม่ขึ้นกับระดับของอริยเจ้าที่ตนบรรลุถึง โดยในชาติสุดท้ายนั้นจะมาเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อสำเร็จเป็นพระอรหันต์ (ยกเว้นพระอนาคามี ที่ไม่ต้องเกิดเป็นมนุษย์อีก) ระหว่างการเกิดในชาติต่างๆ บุคคลผู้นั้นสามารถปฏิบัติธรรมให้บรรลุอรหันตผลก่อนครบกำหนดชาติที่ต้องมาเกิดได้หรือไม่คะ เช่น ผู้ได้โสดาปัตติผลแล้วตายไป ต้องมาเกิดอีก 7 ชาติ หากชาติแรกได้มาเกิดเป็นมนุษย์ กระทำความเพียรอย่างยิ่งยวดเพื่อให้ถึงพระนิพพาน บุคคลผู้นั้นมีโอกาสที่จะได้อรหันตผลตั้งแต่ในชาติแรกที่ลงมาเกิดหรือไม่

    หรือว่าถูกกำหนดตายตัวเลยว่าต้องมาเกิดอีก 7 ชาติ จึงจะได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์คะ

    วานท่านผู้รู้ช่วยแก้ข้อสงสัยให้ด้วยคะ
     
  10. keawnum

    keawnum Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +51
    กาลามสูตร 10 พระองค์ทรงตรัสไว้ดีแล้ว
    พละ 5 นั้นพระองค์ทรงตรัวไว้ดีแล้ว

    หาทางเหนื่อยนัก นั่งหยุดพักหายเหนื่อย
     
  11. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,803
    ค่าพลัง:
    +18,983
    ให้สังเกตจาก

    เวลาเราทำบุญ หรือคิดดี ทำดีต่างๆ เทวดาจะโมทนากะเราทันที ... อันนี้เป็นข้อสังเกตแรกๆ
     
  12. penney

    penney เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    322
    ค่าพลัง:
    +1,137
    แฮ่ๆ ต้องขอขอบคุณคุณเว็บสโนว์ คุณ12ปันนา และคุณคาบอเนโต ด้วยนะคะ และสงสัยอีกได้ไหมคะ
    แบบที่คุณ ไอซ์เจด ถามอ่ะค่ะ ก็สงสัยอยู่เหมือนกัน ขอบคุณมากๆค่ะ
     
  13. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,702
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,016
    สีแดงคือคำตอบ

    ต้องมาเกิดเป็นเทวดาหรือมนุษย์อีกโดยจำนวนชาติที่ต้องมาเกิดใหม่ขึ้นกับระดับของอริยเจ้าที่ตนบรรลุถึง = ไม่ใช่... ไม่ได้กำหนดไว้แบบนั้น แต่กำหนดว่า ไม่เกิน xx ชาติจึงบรรลุอรหันต์
    พระโสดาบันจะเกิดอีกไม่เกิน 7 ชาติก็จะบรรลุอรหันต์ ไม่ใช่เกิด อีก 7 ชาติ



    โดยในชาติสุดท้ายนั้นจะมาเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อสำเร็จเป็นพระอรหันต์ (ยกเว้นพระอนาคามี ที่ไม่ต้องเกิดเป็นมนุษย์อีก) = ไม่ใช่.... ก่อนจะบรรลุอรหันต์ชาติสุดท้ายไม่ได้กำหนดว่าจะต้องมาเป็นมนุษย์เสมอไป
    จะเกิดป็นอะไรก่อนบรรลุขึ้นอยู่กับกรรม ว่าจะพาไปเกิดที่ไหน
    ชาติสุดท้ายก่อนบรรลุอรหันต์ เป็นเกิดเป็นเทวดา และพรหม ก็มี

    ระหว่างการเกิดในชาติต่างๆ บุคคลผู้นั้นสามารถปฏิบัติธรรมให้บรรลุอรหันตผลก่อนครบกำหนดชาติที่ต้องมาเกิดได้หรือไม่คะ เช่น ผู้ได้โสดาปัตติผลแล้วตายไป ต้องมาเกิดอีก 7 ชาติ หากชาติแรกได้มาเกิดเป็นมนุษย์ กระทำความเพียรอย่างยิ่งยวดเพื่อให้ถึงพระนิพพาน บุคคลผู้นั้นมีโอกาสที่จะได้อรหันตผลตั้งแต่ในชาติแรกที่ลงมาเกิดหรือไม่

    หรือว่าถูกกำหนดตายตัวเลยว่าต้องมาเกิดอีก 7 ชาติ จึงจะได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์คะ

    = สามารถบรรลุได้ ชาติเดียวก็บรรลุได้รวดเดียว
    เช่น ชาติที่แล้วไม่ได้บรรลุโสดาบันเลย เกิดมาเป็นมนุษย์ชาตินี้ แล้วนั่งสมาธิไป 7 วันแรก บรรลุโสดาบัน แล้วนั่งต่อไปอีก 7 เดือนก็บรรลุอรหันต์ก็ได้

    เช่น พระอานนท์ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่าน บรรลุภายในชาติเดียว
     
  14. Akara1pong

    Akara1pong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2005
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +214
    แม้จะเป็นพรหม เป็นเทพแต่ก็ใช่ว่าจะพ้นทุกข์เพราะยังต้องเวียนว่าย
    จึงต้องมาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อปฏิบัติกิจต่างๆเพื่อให้เข้าถึงนิพพานซึ่งหลุดพ้นจากการเวียนว่าย ผมเข้าใจเช่นนี้ไม่รู้ว่าถูกหรือไม่ แต่ผมเช้าใจว่าบรมีบางอย่างที่เทพและพรหมไม่มีก็มีจึงต้องลงมาเกิดเป็นมนุษย์ทั้งแบ่งภาคลงมาและลงมสจุติเป็นมนุษย์โดยตรง มนุษย์บางคนเทวดาก็ขอมาเกิดร่วมด้วยก็มีมาร่วมบุญด้วยกันหรือเป็นเจ้ากรรมนายเวรก็มีเรื่องนี้มันซับซ้อนมากๆ แต่สำหรับผมตอนนี้ทำอย่างไรก็ได้ให้ใจทุกข์น้อยที่สุด ประมาทน้อยที่สุด อดทนให้มากที่สุดเพื่อชาติหนึ่งได้หลุดพ้นก็พอ เพราะการเวียนว่ายยังไงก็ต้องเจอความทุกข์ สุขเกินไปก็ทำให้ประมาท ไม่สุขไม่ทุกข์คือว่างดีที่สุด

    "อันสิ่งใดๆที่มีเสน่ห์น่ารักน่าใคร่น่าปราถนา ก็เปรียบเช่นพืชที่กินแมลง"
     
  15. Akara1pong

    Akara1pong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2005
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +214
    แม้จะเป็นพรหม เป็นเทพแต่ก็ใช่ว่าจะพ้นทุกข์เพราะยังต้องเวียนว่าย
    จึงต้องมาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อปฏิบัติกิจต่างๆเพื่อให้เข้าถึงนิพพานซึ่งหลุดพ้นจากการเวียนว่าย ผมเข้าใจเช่นนี้ไม่รู้ว่าถูกหรือไม่ แต่ผมเช้าใจว่าบรมีบางอย่างที่เทพและพรหมไม่มีก็มีจึงต้องลงมาเกิดเป็นมนุษย์ทั้งแบ่งภาคลงมาและลงมสจุติเป็นมนุษย์โดยตรง มนุษย์บางคนเทวดาก็ขอมาเกิดร่วมด้วยก็มีมาร่วมบุญด้วยกันหรือเป็นเจ้ากรรมนายเวรก็มีเรื่องนี้มันซับซ้อนมากๆ แต่สำหรับผมตอนนี้ทำอย่างไรก็ได้ให้ใจทุกข์น้อยที่สุด ประมาทน้อยที่สุด อดทนให้มากที่สุดเพื่อชาติหนึ่งได้หลุดพ้นก็พอ เพราะการเวียนว่ายยังไงก็ต้องเจอความทุกข์ สุขเกินไปก็ทำให้ประมาท ไม่สุขไม่ทุกข์คือว่างดีที่สุด

    "อันสิ่งใดๆที่มีเสน่ห์น่ารักน่าใคร่น่าปราถนา ก็เปรียบเช่นพืชที่กินแมลง"
     
  16. Mr.tom

    Mr.tom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2005
    โพสต์:
    269
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,185
    ผมเคยอ่านเจอที่ไหนไม่แน่ใจนะว่า สมัยหลวงพ่อฤาษีลิงดำกับคณะ ตอนที่ท่านยังร่ำเรียนอยู่กับหลวงพ่อปาน ท่านไปธุดงค์อยู่ที่ป่าศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ตอนเช้าท่านออกบิณฑบาตรก็มีเทวดามาใส่บาตรให้ (เพราะบริเวณป่าศรีประจันต์ ในสมัยนั้นเป็นป่าดง ยังไม่มีผู้คนมาอาศัยในแถบนั้น)
     
  17. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,790
    ค่าพลัง:
    +7,482
    ถูกต้องแล้ว มนุษย์เท่านั้นที่จะสะสมบารมีได้

    ชั้นที่เหนือมนุษย์ --> อาศัยบุญกุศล ที่สร้างขึ้นเเมื่อสมัยเป็นมนุษย์
    ชั้นที่ต่ำกว่ามนุษย์ --> อาศัยอกุศลกรรม ที่สร้างขึ้นเมื่อสมัยเป็นมนุษย์

    ข้อพิสูจน์ --> เมื่อหมดบุญ หมดกรรม ย่อมเกิดมาเป็นมนุษย์เพื่อ ........(คิดเอาเอง).....หลักของกาลามสูตรสิบข้อ มีอยู่แล้ว

    สรุป คือ เกิดเป็นมนุษย์นี่ประเสริฐสุดแล้ว ว่าแต่ว่าคุณจะเชื่อใคร?
     
  18. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    หากจะพูดเรื่องนี้ โดยสรุป....
    (ตามความเข้าใจของกระผมเอง อย่าพึงเชื่อ นะครับ.. พึงใคร่ครวญเสียก่อน)

    ก็อยู่ที่ภูมิธรรม และบุญบารมี ในกฎแห่งกรรมของแต่ละคน นั่นเอง....

    คนที่บำเพ็ญความดี ยังไม่สามารถก้าวถึงพระนิพพาน ก็คือ บุญบารมียังไม่ถึงพร้อม...
    ก็เป็นได้เพียงเสวยผลของกรรมดี ด้วยการเป็นพรหม เทวดา หรือนางฟ้าไปก่อน....

    ที่ถามว่า หากเป็นเทวดาแล้ว เมื่อมาเกิดเป็นคนจะตกนรก อีกหรือไม่....

    ก็ขึ้นอยู่กับภูมิธรรม และบุญบารมี....
    ภูมิธรรม ก็คือ สามารถก้าวล่วงเป็นพระอริยะ หรือไม่.. หรือยัง....

    หากเป็นพระอนาคามี ก็ต้องไปเกิดในชั้นพรหมสุทธาวาส เท่านั้น....
    และสามารถต่อบุญบารมีเข้าพระนิพพานไปได้เลย โดยไม่ต้องมาเกิดอีก....

    หากเป็นพระโสดาบัน นี่ มีกฎที่ตายตัว อย่างชัดเจนว่า....

    หากก้าวล่วงถึง พระโสดาบันขั้นหยาบ เรียกว่า “สัตตักขัตตุง”
    ต้องบำเพ็ญบารมี โดยเกิดเป็นพรหม หรือเทวดา สลับกับมนุษย์ อีก 7 ชาติ….
    และจะเกิดไม่ต่ำกว่าการเป็นคน เพราะว่าศีลบริสุทธิ์ยิ่งแล้ว….

    หากก้าวล่วงถึง พระโสดาบันขั้นกลาง เรียกว่า “โกลังโกละ”
    ต้องบำเพ็ญบารมี โดยเกิดเป็นพรหม หรือเทวดา สลับกับมนุษย์ อีก 3 ชาติ….

    หากก้าวล่วงถึง พระโสดาบันขั้นละเอียด เรียกว่า “เอกพิชี” (ก้าวล่วงสู่พระสกิทาคามี)
    ต้องบำเพ็ญบารมี โดยเป็นมนุษย์ อีกเพียง 1 ชาติ….

    ส่วนที่องค์หลวงพ่อฯ บอกว่า องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัส ว่า....
    เมื่อผู้ใดก้าวเข้าถึงความเป็น “พระโสดาบัน” แล้ว
    จะสามารถจับอารมณ์เบื้องปลายในวิปัสสนาญาณ ตัดตรงเข้าสู่พระนิพพาน ได้เลย....

    หากบุญบารมีดี มีความเพียรในอิทธิบาท 4 อย่างยิ่ง....
    อย่างสูงสุด ก็จะสามารถบรรลุถึงอรหัตผล ภายใน 7 วัน
    อย่างกลาง ก็จะสามารถบรรลุถึงอรหัตผล ภายใน 7 เดือน
    อย่างช้าที่สุด ก็จะสามารถบรรลุถึงอรหัตผล ภายใน 7 ปี

    นี่ ต้องบุญบารมีถึงพร้อม นะครับ....
    หมายถึงว่า ทำกันมาจนเต็มเปี่ยมแล้ว มันเกินกันมานาน เกินมามากแล้ว
    เรียกกันว่าบารมีเต็ม กำลังใจเต็ม สามารถตัดชีวิต สละชีวิต
    เพื่อพระนิพพาน ได้อย่างเด็ดขาด จริง ๆ

    ลูกหลานองค์หลวงพ่อฯ ที่ตามนับเนื่องกันมา 16 อสงไขยบ้าง 10 บ้าง, 8 บ้าง,
    4 บ้าง....ถึงจะเพียง 2 อสงไขย ก็พ้นระยะของ สาวกภูมิ....

    สาวกภูมิ ต้องบำเพ็ญ อย่างน้อย 1 อสงไขย กำไรแสนกัป

    ดังนั้น จึงสามารถเร่งรัดบารมีกันได้ง่าย....

    ส่วนท่านที่บำเพ็ญความดี เพียงพอที่จะสามารถเกิดเป็นพรหม เทวดา หรือนางฟ้า….
    แต่ยังไม่ก้าวล่วงถึงความเป็นพระอริยะ ก็เป็นไปตามวาระแห่งกรรม….

    เทวดา ก็มี สัมมาทิฐิ และมิจฉาทิฐิ

    บังเอิญทำบุญแต่ก็โมโห หรือโกรธ ก็ไปเป็นเทวดา “ยักษ์”
    เทวดา ที่เป็นมิจฉาทิฐิ ก็จะลืมตัว ลืมตน ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องจุติ(ตาย)
    (ก็เหมือนกับคนที่ลุ่มหลงในกองกิเลส โลภ โกรธ และ หลง ไม่คิดว่า วันนี้เราอาจจะตาย ก็ได้)

    ครั้น เมื่อเทวดามิจฉาทิฐิ หมดบุญบารมีของกรรมดี ก็ต้อง ป๋อม ลงนรกไปรับผลแห่งกรรมเลว

    แล้วก็ต้องมาเกิดเป็นเปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน ตามกฎแห่งกรรมที่สร้างไว้ในอดีต….

    บุญบารมีดี มาเกิดเป็นคนอีก ก็สร้างกรรมดี กรรมชั่ว วนเวียนอยู่อย่างนี้ ไม่สิ้นสุด….

    จนกว่าที่บุญบารมีที่ทำไว้ สะสมไว้ สะสมเกิน 1 อสงไขยกำไรแสนกัป ของสากภูมิ.. จึงจะสามารถเข้าถึงธรรม อยากฟังธรรม หาทางพ้นทุกข์ ที่ไม่ต้องเวียนว่าย ตาย เกิด อีกต่อไป.

    ส่วนเทวดาสัมมาทิฐิ นี่…. ก็แสดงว่า บุญบารมีมีมากพอ....
    เทวดากลุ่มนี้ จะฉลาด กว่า รู้ตัวว่าตัวเองจะต้องจุติ(ตาย) เมื่อหมดบุญบารมี....

    ดังนั้น เขาจะไม่ยอมเสวยผลของกรรมดี จนหมดขอบเขตของบุญบารมีที่สร้างไว้....
    จะรีบเร่ง บำเพ็ญเพียร โดยต้องมาเกิดที่เมืองมนุษย์(ก่อนหมดบุญบนสวรรค์)....

    ทำไมต้องมาเกิดที่เมืองมนุษย์.... ทำไมไม่ต่อบุญบารมีข้างบน เลย

    ก็มีผู้วิสัชนา ไว้แล้ว ก็ขอโมทนายิ่ง....

    องค์สมเด็จพระประทีปแก้วสัมมาสัมพุทธองค์ ทรงตรัสว่า....
    ผู้ใด เห็นทุกข์ ผู้นั้นเห็นธรรมะ ผู้ใดเห็นธรรมะ ผู้นั้นเห็นตถาคต

    ก็เมื่อเกิดเป็นพรหม เป็นเทวดา นี่ มันเสวยสุขล้วน ๆ จะเห็นทุกข์ที่ตรงไหนกัน....
    ตัวใสแจ๋ว ตับ ไต ไส้ ปอด ก็ไม่มี ไม่ต้องขี้ ไม่ต้องเยี่ยว มีแต่สบายฝ่ายเดียว....
    เพียงแต่ ความสบายนี่ มีห้วงเวลา ไม่ได้สบายถาวร เหมือนพระนิพพาน....

    ดังนั้น เทวดาสัมมาทิฐิ เขาจะสามารถเลือกเกิดได้….
    เพราะว่า ยังไม่หมดบุญบารมีที่จะเสวยผลในกรรมดี….
    โดยส่วนใหญ่ เขาไม่สนใจว่า จะมาเกิดเป็นคนรวย คนจน หรือสัตว์เดรัจฉาน….

    เนื่องจาก ความเป็นทิพย์ ของเทวดา….

    เขาจะดูผลเบื้องปลายว่า หากเกิดเป็นคนรวย คนจน หรือสัตว์เดรัจฉาน ก็ตาม….
    (มาเกิดเพื่อฝ่าทะเลทุกข์ สะสมปัญญาให้เห็นทุกข์ วางทุกข์ ให้ได้)
    หากตายแล้วเขาจะสามารถขึ้นมาเป็นพรหม เทวดา ต่อไปอีก….
    หรือสามารถก้าวล่วงถึงความเป็นอริยะ ก็ยิ่งดีใหญ่….

    นี่หากบุญบารมี ไม่มีเพียงพอ ก็ยังไม่เป็นสัมมาทิฐิ….

    ก็เป็นไปตามกรรม และการเร่งรัดบำเพ็ญเพียร ของใครของมัน....
    เทวดา หรือ พรหม ก็ไม่สามารถก้าวล่วงให้พ้นกรรม....

    หากยังไม่ถึงซึ่ง พระนิพพาน....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2006
  19. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,790
    ค่าพลัง:
    +7,482
    เกิดมาเป็นฅนไม่ใช่คน ก็เพื่อบำเพ็ญบุญบารมี และสร้างกุศลกรรม พร้อมทั้งใช้หนี้อกุศลกรรม ที่เคยทำมา ต่างหาก

    หลักกาลามสูตรทั้งสิบข้อของพระพุทธเจ้าดีที่สุด (ใครมีข้อมูล เอามาโพสท์บอกเพื่อนๆ ทีซิ) ใช่มั๊ย?

    แล้วจะเชื่อใครหล่ะ?
     
  20. ศิษย์น้อย

    ศิษย์น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    427
    ค่าพลัง:
    +3,047
    แปลกจริงหนอ....

    ช่วงนี้ คุณวีระชัย นำธรรมะ ... ออกมาเผยแผ่สู่ บอร์ด มากขึ้น...


    น่าสงสัย...


    โมทนาอย่างสูงครับ...

     

แชร์หน้านี้

Loading...