ทำทานให้เป็น-ทำให้หลุดพ้น-ไม่เป็นมาร เขาทำอย่างไร?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย น้องหน่อยน่ารัก, 19 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    คนมีบุญมาก จึงได้เป็นมาร ดังนั้นมารมาจากไหน
    ก็มาจากคนทำบุญมากนั่นแหละ เมื่อมีคนทำบุญมากๆ
    ถึงจุดหนึ่งจะกระทบกระทั่ง (ภาวะทุกขัง) ถึงภพมาร
    มารจะลงมาเล่น และดลจิตดลใจให้คิดผิดไปเป็น
    มิจฉาทิฐิได้ จากนั้น ก็ค่อยๆ ชวนไปก่อกรรมกับผู้มี
    ธรรม แล้วจิตก็จะมืดหมองลง กรรมเข้าตัว แล้วจิต
    ริษยาอาฆาตจะค่อยๆ ปรากฏในภายหลัง


    นี่คือ กระบวนการเกิดมาร คือ ต้องมีบุญมากพอถึง
    สวรรค์ชั้นสูงสุด ชั้นที่หกก่อน จึงจะเป็นมารได้ ถ้า
    บุญยังไม่ถึงมารก็ไม่แยแส


    ที่จะกล่าวต่อไปนี้เพื่อเป็นเครื่องเตือนสติท่านทั้งหลายว่า
    "ทำทาน" อย่างไร ไม่ให้เป็นมาร คือ "ทำทานให้เป็น" ดังนี้
     
  2. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    ทำบุญให้พระไปเพ่งเล็งความดีชั่วของพระไป ระวังจิตมารแทรก


    เวลาจะทำบุญ ให้พิจารณาอย่างนี้ว่า "เรานี้มีกิเลส มีความยึดติดในทรัพย์สินต่างๆ
    เราขออาศัย "บุญกริยาวัตถุ 1 ใน 10 เหล่านี้" เป็นเครื่องทำให้ "หลุดพ้นไป" เสีย
    จากความยึดมั่นถือมั่น ความตระหนี่เหล่านั้น อย่า อธิษฐานขออะไรจากการทำบุญ
    เพราะการอธิษฐานขอผลตอบแทนจากการทำบุญ ทำให้ไม่เกิดการสละ การละ การ
    ปล่อยวางที่แท้จริง เป็นการ "ทำบุญหวังผลตอบแทน" เท่านั้น หรือก็คือ "การค้า"
    นั่นเอง เป็น "พุทธพานิชย์" แบบข้ามมิติ ข้ามภพชาติเท่านั้นเอง


    การทำบุญเป็นการฝึกการละความตระหนี่ทุกๆ วัน ไม่ใช่เรื่องของใคร เรื่องของเรา
    เองที่จะขจัดความตระหนี่ให้ตนเองไม่หวังผลตอบแทนใด ผลจากการทำบุญจะเป็น
    อย่างไรก็ช่างมันเถิด พระสงห์องค์เจ้าจะดีเลวอย่างไรก็ช่างเขาเถิด เราทำส่วนของ
    เราแล้ว กรรมเราพ้นแล้ว คนอื่นเขาทำกรรมดีก็ได้ดี ทำชั่วก็ได้ชั่วเอง ไม่ต้องไปดูว่า
    พระที่ฉันทำบุญให้นั้นเป็นพระแท้ไหม พระดีหรือไม่ดี ทำไปเถิด ได้แก่ตัวเราเองทั้งนั้น
    คือ ได้ฝึกจิตตัวเองให้ไม่ไปเพ่งเล็งใคร ขจัดนิสัยสันดานความตระหนี่ของตนเอง ไม่
    ใช่ไปสอนใคร ไม่เพ่งเล็งใครทั้งนั้น และไม่หวังผลย้อมสะท้อนกลับมาให้ตนเอง


    นี่เรียกว่า "ทำบุญด้วยใจบริสุทธิ์" และเมื่อปัจจัยอื่นๆ บริสุทธิ์ก็จะส่งผลตรงถึงนิพพานได้
     
  3. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เมื่อทำดี ทำทานมาก ก็เป็นเทวดาชั้น 6

    ได้อยู่เมืองกรุงเทพฯ

    [music]http://www.bhuddajak.com/soontra1/a011.wma[/music]
     
  4. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    ทำบุญให้ขอทาน เพราะรู้มากไประแวงมากไป ระวังจิตมารแทรก


    เวลาพบขอทาน คนบางคนจะรู้ว่า "ขอทานเหล่านี้ มีคนจ้างมาทำงาน"
    เขาก็จะไม่สนใจช่วยเหลือ และมองว่า "ทำผิด" คนพวกนี้หลอกลวง จริงๆ
    แล้ว เขาไม่ได้หลอกลวงเราเลย เขามีความโลภ เป็นเจ้ากรรมนายเวรของ
    คนกลุ่มใหญ่จำนวนมาก มีบุญที่จะได้เงินจากเราด้วยวิธีการของธุรกิจแบบนี้
    โดยไม่ต้องไปค้ายาเสพติด (ซึ่งก็น่าจะดีกว่านะ) ส่วนขอทานที่เขาจ้างมา
    ก็เป็นความจริงว่าเขายากจนจริงๆ ขาดแคลนจริงๆ แม้ว่าเขาจะมีเงินบ้าง มี
    สิ่งต่างๆ บ้าง เขาก็มีกรรมและบุญพอที่จะมาทำหน้าที่ "สมมุติขอทาน" ตรง
    นั้น เพื่อรอเจ้ากรรมนายเวรให้มาชดใช้กรรมกันจบสิ้นไป เป็นรายๆ ไป


    นี่คือ "สมมุติ" ที่ธรรมชาติสร้างมาให้แต่ละยุคสมัยเพื่อให้คนชำระกรรมกัน
    ไม่ต้องไประแวงสงสัยว่าจริงแท้หลอกลวงหรืออะไร ให้ใช้ "จิตกลางๆ แล้ว
    ใช้สติพิจารณา" ว่า เราพอมีไหม ทำได้เท่าไรไม่เดือดร้อนตัวเรา ถ้าเราไม่
    มาขอเรา ก็แสดงว่าไม่มีกรรมต่อกัน แต่ถ้ามาพบเจอตรงหน้าแล้วก็ทำๆ ไป
    เสีย 5 บาท 10 บาท ก็ไมได้ทำให้เราจนลง อาจทำให้สนับสนุนธุรกิจแบบ
    หลอกลวง แต่ความจน มันก็มีอยู่จริงๆ ความโลภก็มีอยู่จริง บุญกรรมที่ซ้อน
    อยู่ใต้สมมุติขอทานเหล่านั้นก็มีอยู่จริง


    ทำไปไม่ต้องคิดอะไร ทำไม่เดือดร้อนตัวเองก็ทำไป เขาทำชั่วก็เรื่องของเขา
    เราทำส่วนของเราแล้ว ปลดหนี้เวรหนี้กรรมเพาะตัวเราพ้นแล้ว เรื่องของเขา
    ไม่ใช่ตัวกูของกู ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องทำ ไม่ต้องเดือดร้อนตัวเอง ถ้าธรรมชาติจะให้
    เราทำ มันก็พร้อมมาให้เราเอง เช่น เงินมีในมือติด 5 บาท 10 บาทพอดี เป็นต้น
    เมื่อเราทำอย่างนี้แล้ว "ผู้บงการ" จะค่อยๆ เสวยผลบุญไปจนในที่สุดไม่เหลือ
    บุญอีก สุดท้ายเขาจะหมดบุญ แล้วต้องล้มเลิกการกระทำไปเอง อุปมาเหมือน
    ชูชก ที่ขอๆๆ จากพระเวสสันดร ท่านก็ให้หมดทุกอย่าง เมื่อชูชกสิ้นบุญก็กินจน
    ท้องแตกตายไปเอง ไม่ต้องไปปราบ ไปจัดการอะไรเลย ทำส่วนของเราที่เรา
    ควรทำ ควรปลดหนี้ตัวเราเองไปให้ดีก็พอ คนอื่นย่อมมีกรรมมีบุญของเขาไป
    หลอกลวงได้เพราะมีบุญพอได้เสวย เขาก็เสวยไป หมดบุญเมื่อไรเขาก้ไปเอง


    ไม่ต้องไประแวงอะไร ทำจิตให้บริสุทธิ์ โง่ๆ ซื่อๆ แต่มีสติปัญญาไว้แค่นั้นเอง
     
  5. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
  6. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ไม่มีหรอก ที่พระโพธิสัตว์จะทำบุญอย่างซื่อๆ โดยปราศจากมหาปัญญา

    เพราะท่านแจ้งอยู่ว่า ชูชกนั้นจะต้องพาลูกทั้งสองไปยังพาราเพื่อแลก
    กับเงินรางวัลอันพึงหวังได้ เพราะเป็น ชาลี เป็นหน่อเนื้อของกษัตริย์
    ผู้จะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ในลำดับถัดไป ท่านจะยกให้ไป และอาศัยชูชก
    นั้นแหละจะดูแลบุตรทั้งสองเป็นอย่างดี จนพ้นราวป่า และไปอยู่ในเมือง
    ตามความสมควร เพราะผู้เป็นพระมารดาก็ยกให้ผู้อื่นไปแล้ว ไม่มีคนดู
    แลบุตรธิดาทั้งสอง

    และเมื่อส่งบุตรจนถึงมือพระราชา ก็จบเหตุไปแล้ว เรื่องท้องแตกตายนั้น
    เป็นกรรมต่างวาระ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการนำส่ง หรือ มหาทานอะไรใน
    พระเวสสันดรอีก
     
  7. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    ทำบุญให้ผู้วิเศษ เกิดความศรัทธายึดมั่นถือมั่น ระวังจิตมารแทรก


    เวลาพบผู้วิเศษ ผู้มีฤทธิ์ ดูดวงเข้าทรง ทำนายทายทัก ฯลฯ เรามักมีศรัทธาแล้ว
    ทำบุญให้มากน้อยตามกำลังศรัทธานั้นๆ การทำบุญตรงนี้ ไม่ควรทำบุญด้วยจิต
    ที่คิดว่า "เขามีฤทธิ์ เขาเก่ง เขามีบารมี เขา ฯลฯ " ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย ไม่
    ใช่ตัวกูของกู เรื่องของตัวเขา เขาจะมีฤทธิ์มีเดชมีบารมีก็เรื่องของเขา เรามีหน้าที่
    ปลดเปลื้องชำระกรรมของตัวเราเองให้หลุดพ้นก็พอ ถ้าเรามีกรรมต่อเขาต้องไป
    เอาเงินไปให้เขาก็ให้ไป จะได้หมดๆ หนี้บุญคุณกันไป อย่าได้ไปยึดติดผู้วิเศษเหล่า
    นั้น ทำด้วยจิตที่คิดว่า "ขอให้หลุดพ้นไปๆๆ" จากทุกๆ อย่างทั้งมวล ไม่ยึดติดผู้
    วิเศษ ไม่ต้องไปว่าเขา ไม่ต้องไปต่อต้าน ทำทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติด้วย
    จิตที่ปรารถนาความหลุดพ้นไปเรื่อยๆ จิตจะค่อยๆ นำพาเราให้หลุดพ้นออกมาเอง


    ผู้วิเศษเหล่านี้มีบุญกรรมต่อคนจำนวนมาก มาทำหน้าที่รอ "ชำระกรรมต่อเรา"
    อยู่ ดังนั้น ไม่ต้องไปต่อต้าน ไปส่งเสริม ศรัทธายึดมั่น ไปทำลายหรืออะไรทั้งสิ้น
    ปลดตัวเอง เราเป็นเพียงผู้น้อย ไม่มีหน้าที่สร้างหรือทำลายอะไร เอาตัวเราให้พ้น
    ให้หลุด ให้รอดไปจากด่านต่างๆ ที่เข้ามาในปัจจุบันขณะของชีวิตไป เท่านั้นเป็นพอ
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    การทำบุญกับขอทาน ที่มีแนวโน้มมีการจัดตั้ง ก็ไม่ใช่การทำบุญ
    เพื่อให้เขาไม่อด ให้เขามีทรัพย์ เพราะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

    เขามีทรัพย์มากมายล้นพ้น เขาก็ยังมาขอทาน เพราะมันเป็นเรื่อง
    ของการจัดตั้ง

    หากจะทำบุญกับคนเหล่านี้ ก็พึงหวังแค่ว่า เพื่อให้เขาได้มีทุนทรัพย์
    พอยังกิจกับบุคคลที่เพลี่ยงพล้ำถลำตัวไปแล้ว จะโดยตั้งใจ หรือไม่
    ตั้งใจก็ดี ให้เขาได้มีเงินทุนที่จะซื้ออาหารให้บรรดาคนอื่นๆที่อยู่ใน
    องค์กรเดียวกัน ซึ่งเขาก็ได้กินอยู่แล้ว ไม่ว่าวันนั้นจะขอทานได้หรือ
    ไม่ได้ เพราะชูชกย่อมต้องดูแลถังข้าวสารของตัวเองเป็นอย่างดี พอ
    แก่ฐานะ

    ส่วนเรื่องการจัดตั้งนั่นมีที่มาไม่ชอบ มีการทารุณกรรมเพื่อตัดโอกาส
    อันนั้นก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เจ้าเมืองจะทำหน้าที่ตนหรือไม่
     
  9. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    การทำบุญ


    1. ให้พระ
    2. ให้ขอทาน
    3. ให้ผู้วิเศษ



    ไม่ต้องไปสนใจว่าจะเป็นใคร เรามีเจ้ากรรมนายเวรหลากหลายรูปแบบ
    อย่ายึดมั่นถือมั่นว่าต้องให้แก่ใครคนใดคนหนึ่ง ใครก้ได้ที่เป็นเจ้ากรรม
    นายเวรเรา ถึงวาระเราต้องสละก็ "ปล่อยวางความยึดมั่นในทรัพย์เสีย"
    แล้วก็ทำหน้าที่ให้ไปเท่าที่พอมีไม่กระทบ ไม่เดือดร้อนตัวเรา ให้เราได้
    พ้นๆ ไปก็พอ ไม่ว่าเขาจะมาหน้าไหน รูปแบบไหนก็ตาม ใช้จิตเป็นกลางๆ
    ทำไปเพื่อให้หลุด ให้พ้น ให้หมดซึ่งกรรมไปเท่านั้นเป็นพอ
     
  10. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975

    อืม "กิจใครกิจมัน"


    ไม่ใช่กิจของเรา เราละเว้น ... เรียกว่า ศีล
    เป็นกิจของเรา เราปลดเปลื้องไป... เรียกว่า ทาน
    ตั้งจิตไว้เพื่อการหลุดพ้นทุกกิจทุกกรรม ... เรียกว่า ภาวนา
     
  11. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    สำหรับผู้มิฤทธิ์ ดูดวงเข้าทรง ทำนายทายทัก ฯลฯ ที่ไม่เคยแนะนำ
    ทางเข้าสู่นิพพานเลย มีแต่ชี้ไปทางอื่น พวกนี้ต้องประหารให้สิ้น

    แต่ก็ไม่ใช่ไปประหารตัดรอนชีวิตอะไร บัณฑิต หรือ โพธิสัตว์ที่ฉลาด
    เท่านั้นที่จะรู้การประหารด้วย ทิฏฐิ โพธิสัตว์ที่ไม่ฉลาด เอาแต่เห็น
    ว่าป่าช้าคือสิ่งสูงสุดที่เป็นเกีรยติของตนอันคนอื่นกระทำได้ยาก อุปทาน
    ยกขึ้นเป็นดั่งยศอันผู้อื่นไม่อาจมาเสมอเหมือน ก็จะคิดไม่ตก ปลดไม่ออก
    ว่า การประหารด้วย ทิฏฐิ นั้นทำอย่างไร

    อะไร คือ สัมมาทิฏฐิ ที่ใช้ประหารผู้มิฤทธิ์ ดูดวงเข้าทรง ทำนายทายทัก ฯลฯ
     
  12. haha4959

    haha4959 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +85
    คริคริ กรั่กกรั่ก

    มีคนต้องการ เราให้สิ่งที่เขาต้องการ เป็นการทำทานมั๊ย

    แล้วถ้าคนเราตั้งใจว่าใครขออะไรก็จะให้ล่ะ เป็น ถึงชั้นกษัตริย์ด้วยนะจะคืนคำได้หรือ

    การทำดั่งที่ตั้งใจเอาไว้แล้วนั่นแล จนถึงที่สุด
     
  13. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975

    บางท่านมี "กิจต้องมาเป็นผู้วิเศษ"
    เพราะเวไนยสัตว์ไม่ได้นิพพานได้หมด
    น้อยคนจะได้ เฉพาะผู้มีปัญญาถึงจะได้
    ยังต้องเวียนว่ายตายเกิด เกาะกันเป็นกลุ่มไป
    ได้ชื่อว่า "มนุษย์เป็นสัตว์สังคม" ที่มีหัวหน้าฉะนั้น


    ดังนั้น ต้องปล่อยเขาทำกิจของเขาไป ไม่ใช่กิจเรา
    เลี่ยงเสีย อนึ่ง พระพุทธเจ้าในอดีตก้ไม่ได้ยุ่งกับเจ้าลัทธิต่างๆ
    ก็ปล่อยไป ท่านสุภัททะทูลถาม ท่านก็ไม่ว่าอะไร ใครสอนถึง
    มีมรรคมีองค์แปดก็ทำไป (แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เข้าข่ายที่จะทำ)
     
  14. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ใครสอนถึง
    มีมรรคมีองค์แปดก็ทำไป (แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เข้าข่ายที่จะทำ) ...

    แต่ถ้าสอนแล้วอ้างอิงพระธรรมคำสั่งสอนพระพุทธเจ้ามาร่วมด้วยล่ะ<!-- / message -->
     
  15. kirikoujung

    kirikoujung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +158
  16. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    โปรดอ่านดีๆ ไม่ได้ห้ามการทำทานเลย
    บอกแต่ให้ทำแบบให้เป็น ทำให้ถูกวิธี


    มีอะไรมาแทรกๆ ในจิตบ้างไหม?
    เช่น ฉันจะทำบุญมาว่าฉันทำไม
    เธอน่ะแหละมาร มาขวางฉันทำบุญ?


    มีความคิดแบบนี้แทรกบ้างไหม?
     

แชร์หน้านี้

Loading...