เห็นพระทำผิด...คิดอย่างไรจึงได้บุญ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 18 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,489
    [​IMG]

    เห็นพระทำผิด...คิดอย่างไรจึงได้บุญ


    ทุกวันนี้มีเสียงบ่นกันมากเกี่ยวกับปัญหาเรื่องพระประพฤติผิดพระธรรมวินัย เสียงโพนทนาว่ากล่าวเหล่านี้เราสามารถได้ยินทั่วไปทุกหนแห่ง แม้แต่ในกระดานข่าวอินเทอร์เน็ต ก็มีกระทู้บ่นถึงพระประพฤติผิดพระธรรมวินัยให้เห็นอยู่เป็นประจำ อาทิเช่น ปัญหาพระชอบเข้าไปในสถานที่ไม่เหมาะสม(เช่นห้างพันธ์ทิพย์) พระใช้อินเทอร์เน็ตไปในทางที่ไม่สมควร เป็นต้น

    มีบางท่านได้เกิดความสงสัยว่า การที่เราพบเห็นพระประพฤติผิดพระธรรมวินัยแล้ว เราคิดไม่พอใจ หรือ ขุ่นเคืองใจในตัวพระผู้ประพฤติผิดนั้น มันจะเป็นบาปหรือไม่ บางท่านก็ถามว่าเราจะควรโกรธเกลียดพระที่หลอกลวงประชาชน หรือที่เข้ามาบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาหรือไม่ เป็นต้น

    [​IMG]


    เครือข่ายชาวพุทธฯเห็นว่าปัญหานี้เป็นประเด็นที่น่าสนใจไม่น้อย สมควรที่จะนำความรู้เกี่ยวกับเรื่องวิธีปฏิบัติต่อพระที่ทำผิดพระธรรมวินัยมานำเสนอ เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อชาวพุทธทั่วไป

    ในการนี้เราได้เขียนเป็นบทสนทนา ทั้งนี้เพื่อสร้างบรรยากาศให้มีความเป็นกันเอง และ ชวนให้ผู้อ่านได้ใช้ความคิดให้มากขึ้น อันเป็นกระบวนการเรียนรู้ตามหลักพุทธศาสนา ขอเชิญท่านติดตามได้ ณ บัดนี้

    [​IMG]










    <CENTER>ถาม-ตอบ
    </CENTER>

    ถาม : ถามจริง ๆ นะ เวลาเราเจอพระทำไม่ดี แล้วเราคิดรังเกียจ สะอิดสะเอียนเนี่ย มันจะบาปมั๊ย?
    ตอบ : บาปหรือไม่บาปให้ดูตรงไปที่ ใจของเรา คือให้ดูว่าจิตใจของเรามันขุ่นมัว หรือไม่สบายใจหรือเปล่า คือ ถ้าเราเห็นพระปฏิบัติไม่ดีแล้ว จิตใจของเราหดหู่ขุ่นมัว หรือ ร้อนรุ่ม ก็แสดงว่าในขณะนั้นได้เกิดอกุศล (บาป)ขึ้นในจิตใจของเราแล้ว
    ถาม : เห็นบางคนถึงกับด่าพระด้วย อ่านเจอในอินเทอร์เน็ตบ่อย ๆ แต่พระก็ทำไม่ดีจริง ๆ นะ หลอกลวง ประชาชนก็มี ต้มตุ๋นก็มี บางกลุ่มรวมหัวกันเป็นแก๊งเลย ?
    ตอบ : กรณีนี้มันเป็นเรื่องน่าเห็นใจ เพราะเป็นปฏิกริยาของสังคมที่มีต่อบุคคลเหล่านี้ แต่ทีนี้เราต้องยอมรับว่า ลำพังการพูดบ่นหรือด่าว่าอย่างเดียว คงไม่สามารถจะแก้ไขปัญหาอะไรได้ มันก็แค่เพียงการระบายความรู้สึกอัดอั้นตันใจไปวัน ๆ เท่านั้นเอง คงไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์อะไรดีขึ้นมาได้
    ถาม : ในพระไตรปิฎกมีคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือเปล่าว่าจะควรจะคิดอย่างไรกับพระที่ทำตัวไม่ดี ?
    ตอบ : ท่านวางหลักง่าย ๆ ว่า [FONT=MS Sans Serif, Thonburi, EucrosiaUPC, FreesiaUPC, DB ThaiText]จะคิด พูด ทำอะไรกับพระก็ให้ประกอบไปด้วยเมตตา อันนี้ครอบคลุมไปหมดเลย หมายความว่าถ้าเห็นพระทำผิด ก็ให้คิดมองเห็นด้วยความเมตตากรุณา แต่ทว่าต้องคิดต่อไปถึงการแก้ไขปัญหาด้วยนะ ไม่ใช่เมตตาแบบเห็นใจแต่ไม่ยอมแก้ไขปัญหา[/FONT]



    [FONT=MS Sans Serif, Thonburi, EucrosiaUPC, FreesiaUPC, DB ThaiText][​IMG][/FONT]​


    [FONT=MS Sans Serif, Thonburi, EucrosiaUPC, FreesiaUPC, DB ThaiText]ถาม : ไหนลองยกตัวอย่าง สมมติว่า ไปเจอะพระเดินเรี่ยไรเงินทองญาติโยมตามบ้าน น่ารังเกียจมาก เราจะคิด อย่างไรจิตใจถึงจะเป็นกุศล (บุญ)?
    ตอบ :ให้คิดด้วยความเมตตากรุณาก่อนเลย โดยอาจจะคิดว่า " โอ้..! น่าเวทนาสงสารพระรูปนี้จัง ท่านไม่รู้วินัย จึงได้มาเที่ยวเดินเรี่ยไรเงินทองรบกวนญาติโยมเช่นนี้ ตัวท่านเองคงต้องได้รับผลจากการกระทำของท่านเอง จิตใจคงเศร้าหมองไปไม่น้อย นี่แหละหนา บวชเรียนเข้ามาแต่ไม่ได้รับการศึกษา ผลเลยออกมาเป็นเช่นนี้ "



    นี้คิดขั้นแรกให้เกิดความเมตตากรุณาเสียก่อน จากนั้นก็ให้คิดต่อเพื่อเกิดเป็นพลังสร้างสรรค์ เช่น เราอาจจะคิดต่อไปว่า " ปรากฏการณ์ที่เห็นนี้มันเป็นเครื่องส่งสัญญาณบอกเหตุเตือนเราว่า ถึงเวลาแล้วที่ชาวพุทธทั้งหลายต้องมาช่วยกันฟื้นฟูพุทธศาสนา คือต้องมาร่วมด้วยช่วยกันทำอะไรสักอย่างเพื่อให้สถาบันสงฆ์ดีขึ้น ทางพระเองท่านคงแก้ไขปัญหาฝ่ายเดียวไม่ไหวแล้ว พวกเราเหล่าฆราวาสนี้แหละที่ต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือท่าน " เห็นไหมคิดแบบนี้มันจะเกิดกำลังใจขึ้นมาทันที ไม่เห็นต้องไปท้อใจ หรือ สลดใจอะไรเลย การคิดแบบนี้ มันก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี คือทำให้เกิดการร่วมแรงร่วมใจกันแก้ไขปัญหา ถาม : บางคนเห็นพระบวชเข้ามาทำพุทธศาสนาเสื่อมแล้ว ถึงกับท้อใจอยากเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอื่นก็มี
    ตอบ : อันนี้คล้าย ๆ กับว่าเราเห็นคนมาเผาบ้านของเราแล้วแทนที่จะคิดช่วยกันจับคนเผาบ้านแล้วดับไฟ แต่นี่กลับคิดวิ่งหนีเพื่อหวังที่จะไปขออาศัยบ้านของคนอื่น อันนี้เท่ากับเป็นการฟ้องว่าตัวเองเป็นคนชอบหนีปัญหา
    ถาม : อยากจะถามว่าในยามที่เราได้พบเห็นพระทั่วๆไปตามสถานที่ต่างๆ เราควรจะคิดอย่างไรจึงจะได้บุญ
    ตอบ : เมื่อพบเห็นพระทั่ว ๆ ไป ให้คิดด้วยความเมตตากรุณา เห็นอกเห็นใจท่าน คือเราต้องยอมรับว่า ในยุคปัจจุบันสถานะของพระตกต่ำไปมาก ผิดกับในยุคสมัยอดีตที่ท่านเคยเป็นผู้นำสติปัญญาของคนทุกชนชั้นมาก่อน คือในสมัยก่อนนับตั้งแต่พระราชายันยาจก ทุกคนเป็นลูกศิษย์พระหมดเลย

    แต่ปัจจุบันนี้พระกลับกลายเป็นตัวแทนของผู้ไร้การศึกษา หรือ ผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา ใครพบเห็นก็อดที่จะรู้สึกดูหมิ่นดูแคลนไม่ได้ (พระไม่ต้องถึงกับทำผิด ฆราวาสก็นึกดูหมิ่นในใจอยู่แล้ว)
    ดังนั้นเวลาเราพบเห็นพระที่ไหน ให้เราคิดเมตตากรุณาเห็นอกเห็นใจท่านก่อนเลย เช่นอาจจะคิดว่า " โถ.. ท่านเคยเป็นผู้นำของสังคมมาก่อน แต่มาบัดนี้สังคมได้ทอดทิ้งท่านให้กลายเป็น ส่วนเกินของสังคมไปแล้วหรือนี่ "

    เมื่อคิดด้วยเมตตาแล้ว ก็ควรจะคิดปลุกใจของตนเองต่อไปว่า " ทำอย่างไรหนอ..จึงจะช่วยสนับสนุนให้ท่านได้รับการศึกษาที่เป็นเลิศ เพื่อให้ท่านได้กลับมาเป็นผู้นำทางสติปัญญาของสังคมอีกครั้งหนึ่ง สังคมไทยของเราจะได้ไปรอด ฯลฯ " ถาม : คิดทุกครั้งที่ได้พบเห็นพระใช่หรือเปล่า? ไม่คิดไม่ได้หรือ?
    ตอบ : ถ้าไม่คิด ความเข้าใจเก่า ๆ จะทำให้เรามองท่านผิดไป ทำให้เราไม่สบายใจเมื่อพบเห็นท่าน ..แต่ถ้าคิดอย่างที่แนะนำนี้ จิตจะเกิดบุญกุศลทุกขั้นตอน ลองลำดับดูนะ คิดขั้นที่หนึ่ง เมตตากรุณามาก่อนเลย คิดขั้นที่สอง คิดให้เกิดความตื่นตัวรับผิดชอบ (ไม่ประมาท) เกิดธรรมฉันทะ (ใฝ่ดี) เกิดวิริยะ (ความเพียรสู้) เกิดปัญญา (คิดหาหนทางแก้ไข) จะเห็นได้ว่าสภาพจิตแต่ละขณะเป็นกุศลทั้งนั้นเลย การคิดเช่นนี้นอกจากจะเป็น คุณต่อตัวผู้คิดเองแล้ว ยังเป็นคุณต่อพระพุทธศาสนาอีกด้วย
    ถาม : แล้วอย่างในกรณีพระที่ประพฤติผิดเลวทรามถึงขั้นทำลายพระพุทธศาสนา เราจะคิดอย่างไรกับพระเหล่านี้ พวกนี้แย่มากนะ มันอดโกรธไม่ไหวเหมือนกัน
    ตอบ : ก็ยังคงถือหลักที่พระพุทธองค์วางไว้ให้นั้นเอง คือตราบใดที่บุคคลนั้นยังครองผ้ากาสาวพัสตร์ ก็ควรมีสติคิด ให้เกิดเป็นความเมตตากรุณาให้ได้ ไม่ว่าเขาจะมีความร้ายกาจสักเพียงใดก็ตาม เช่นเราอาจจะคิดเวทนาสงสาร ที่เขาทำตัวประดุจโจรร้ายเที่ยวหลอกลวงมหาชน คติภายหน้าคงไม่พ้นอบายภูมิเป็นแน่ ถึงแม้ปัจจุบัน ชีวิตของเขาแม้ดูอย่างผิวเผินอาจจะเสมือนว่ามีความสุขจากทรัพย์สินเงินทองที่หลอกลวงมาได้ แต่ทว่าความเป็นจริงแล้วภายในจิตใจของเขามีแต่ความร้อนรุ่ม กินแหนงแคลงใจตัวเองไปตลอดทิวาราตรี


    คิดให้ได้แบบนี้ จิตใจก็จะเกิดความรู้สึกกรุณา ไม่ได้โกรธ หรือ เกลียดชังอะไร จากนั้นจึงค่อยคิด หนทางช่วยกันแก้ไขปัญหาต่อไปดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น

    [​IMG]

    ถาม : อยากให้สรุปวิธีคิดที่ถูกต้องเกี่ยวกับพระอีกครั้ง
    ตอบ :
    ๑. พบเห็นพระทั่วไปให้คิดเห็นอกเห็นใจที่ท่านด้อยโอกาส แล้วคิดช่วยเหลือท่านให้ได้รับการศึกษาที่ดี
    ๒.พบเห็นพระทำผิดให้คิดสงสารที่ท่านไม่ได้รับการศึกษา ผลจึงออกมาเป็นเช่นนี้ แล้วคิดช่วยกันแก้ไข
    ๓.ได้ทราบข่าวพระหลอกลวงประชาชน จาบจ้วงพระธรรมวินัย ให้คิดเวทนาสงสารที่บุคคลเหล่านี้
    ว่าต้องตกอยู่ในความร้อนรุ่ม อยู่ไม่เป็นสุขไปตลอดกาลนาน แล้วคิดช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนา


    [​IMG]

    [FONT=MS Sans Serif, Thonburi, EucrosiaUPC, FreesiaUPC, DB ThaiText]สรุปคือ คิดให้เกิดความเมตตากรุณา และ คิดรับผิดชอบแก้ไขปัญหา นี้คือวิธีคิดของชาวพุทธรุ่นใหม่ยุคไอทีที่ควรมีต่อพระภิกษุสงฆ์ในยุคปัจจุบัน หากเราทำได้พุทธศาสนาของเราก็จะได้พระภิกษุสงฆ์กลับเป็นผู้นำทางสติปัญญาเช่นเดิม พุทธศาสนาก็จะดำรงอยู่สืบต่อไปด้วยความร่วมแรงร่วมใจของพวกเราฆราวาสชาวพุทธนี่เอง [/FONT]



    [​IMG]

    ---------
    ที่มา:วัดธรรมประทีป วอชิงตัน ดีซี
    http://www.tummaprateip.iirt.net/06_4_Q&As.htm
    รูปภาพประกอบกระทู้จากอินเตอร์เนต
    [/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 134.gif
      134.gif
      ขนาดไฟล์:
      35.8 KB
      เปิดดู:
      3,506
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 ตุลาคม 2010
  2. natspdo

    natspdo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +1,505
    เห็นพระทำผิดคิดอย่างไรจึงได้บุญ
    ความคิดว่าผิด ผิดวินัยหรือเรามีอัคติหรือว่าเราไม่รู้ข้อเท็จจริง เช่นการเรี่ยไรปัจจัยให้คิดว่าไม่ต้องเดินทางไปไกลบุญมาถึงที่แล้วทำบุญนิดหน่อยไม่เห็นเป็นอะไรเลย เห็นพระไปเดินซื้อของก็ยกมือไหว้ท่าน ท่องอินเตอร์เน็ตถือว่าลดภาวะโลกร้อน (ไม่ต้องเดินทาง,ไม่ต้องไปซื้อตำรา) หากเห็นการกระทำไม่เหมาะสม ก็เตือนท่านบ้างด้วยความหวังดี
     
  3. virot05

    virot05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +1,679
    สุดแล้วความคิดของแต่ละบุคคลขอรับ
     
  4. unigodx

    unigodx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    449
    ค่าพลัง:
    +607
    รอกระทู้เนื้อหาแบบนี้มานานแล้วครับ
    ผมเชื่อว่า ท่านจะทำไม่ดีอย่างไร อย่างน้อยที่สุด ท่านก็ยังรักษาข้อศีลมากกว่าเรา
    ไม่ควรปรามาส หรือต่อว่า หากเราไม่ได้มีศีลเสมอกับท่าน

    ขออนุโมทนาครับ
     
  5. jiwcrop

    jiwcrop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +792
    ส่วนตัวผมเห็นว่าให้วางอุเบกขาเป็นหลักเลยนะครับ คือรู้แล้วก็ปล่อยวางไม่ต้องปรุงแต่งเพิ่ม
    กฏแห่งกรรมพวกเราที่ยังเวียนว่ายตายเกิดก็โดนกันถ้วนหน้า เป็นเหตุเป็นปัจจัยที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป เป็นเรื่องธรรมดาของโลก
    ก็ให้คิดว่าอันไหนเรื่องไหนเราช่วยได้ก็ช่วยกันไป เรื่องไหนเราไม่สามารถช่วยได้เกินกำลังเราก็ปล่อยวางเสีัย
     
  6. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    พระดีก็ยังมีอยู่เยอะ แต่พวกเลวที่เข้ามาหากินกับพระก็มีมาก
    ก่อนทำบุญก็ต้องคิด และใช้ปัญญาก่อนทำบุญครับ
     
  7. bridge

    bridge เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,252
    ค่าพลัง:
    +1,814
    สุดยอด อย่างงี้สิที่หามานาน
     
  8. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,048
    ขอบคุณครับ
     
  9. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    โน้มมาดูที่ใจเราแล้วก็ดับไฟในใจ

    ปล่อยให้เจ้ากรรมนายเวรเค้าจัดการกันเอง

    อาทิ พญามารพระพุทธเจ้าไม่ปราบพยศ
    แต่ทำนายไว้จะมีพระอีกรูปมาจัดการพญามาร

    ให้ละทิฐิ แล้วกลับใจใหม่ขอถึงซึ่งพุทธภูมิ

    พระที่ละพยศพญามาร ก็คือพระอุปคุต

    http://larndham.net/index.php?showtopic=16485&st=4
    ดีไม่ดีไม่แน่นักหลวงปู่โลกอุดรอาจจะเป็นองค์เดียวกับพระอุปคุตก็ได้นะครับเพราะสองท่านนี้มีอะไรแปลกๆไปในแนวทางเดียวกัน เช่นรับคำสัญญาอะไรบางอย่างเพื่อรักษาพระพุทธศาสนาเป็นต้น<O:p
     
  10. dangcarry

    dangcarry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +4,306
    ถ้าเห็นพระภิกษุสงฆ์ กระทำไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม ไม่ดีงาม ต้องแจ้งไปที่ใด
    แจกฟรีหนังสือสวดมนต์ " มีสุข "
    http://palungjit.org/showthread.php?t=154932
     
  11. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,166
    รูปใหนกันหนอ....

    [​IMG]

    ขอให้เห็นแก่พระพุทธศาสนาและสถาบันสงฆ์โดยส่วนรวมเถิด
    ทุกอย่างให้เป็นไปตามวิบากกรรมของ แต่ละปัจเจกบุคคลเขา
    อย่าเอาแต่ส่วนตัวกันเลย จะทำอะไรก็ให้คิดหน้าคิดหลัง
    คิดถึงส่วนรวมมาก่อนส่วนตัวเขาจะดีหรือไม่ดี ยกไว้ก่อน
    การวิจารย์ผู้บริสุทธิ ในทางไม่ดี ผลกรรมตกที่ผู้วิจารย์
    การวิจารย์ผู้ไม่บริสุทธิ ในทางไม่ดี ผลกรรมก็ต้องตกลงที่ผู้วิจารย์
    เพราะในขณะที่วิจารย์ จิตเป็น อกุศลจิต
     
  12. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ทุกรูปนั่นเหละที่ถือตนถือตัว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2009
  13. โบ๊ต

    โบ๊ต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +847
    เขาทำนายว่า2500ปีเเรกพระสงฆ์เผยแพร่ธรรมศาสนา

    เห็นได้จากพระเกจิอาจารย์หลายคน

    หลังจาก2500ปีไปแล้ว พุธศาสนิกชนเองที่จะดำรงพระพุทธศาสนา

    ทุกสิ่งย่อมเสื่อมไปตามกาลเวลา

    แม้แต่คำสอนอันหาค่ามิได้ของพระสมเด็จพระสัมาพระพุทธเจ้าก็จะสูญหายไปหลังจาก

    5000ปี

    เราโชคดีขนาดในที่เกิดมาในพระพุทธศาสนาในช่วงเวลานี้ช่วงที่คำสั่งสอนยังไม่ถูกบิดเบือนมากนัก
     
  14. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,461
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    ครับ ผมเ้ลือกที่จะไม่ปรามาสท่านครับ ไม่ว่าประการใดๆทั้งสิ้น กระทู้นี้ดีมากๆครับ ผมเชื่อว่า ต้องได้ปักหมุดเเน่นอน อนุโมทนาครับ
     
  15. pa6986

    pa6986 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +800
    เราไม่มีหน้าที่ไปตำหนิผู้อื่นนะ โดยเฉพาะพระสงฆ์
    เดี๋ยวจะเป็นการปรามาส

    เห็นใครทำดีเรายินดี
    ทำไม่ดีเราอุเบกขา
     
  16. cinderella2517

    cinderella2517 Mindset Coach และ นักพยากรณ์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +1,404
    จากที่ฟังมาจาก แม่ชีใหญ่ แม่ชีทศพร ท่านบอกว่า ถึงแม้เราจะเห็นพระทำผิด หรือแม้ไม่ผิด แต่เราไปคิดว่าท่านผิด หรือเกิดความสงสัยในภิกษุสงฆ์ ไม่ว่าจะสงสัยอย่างไร เช่น เห็นพระยืนรอบิณฑบาต แต่เราเกิดสงสัยในองค์ภิกษุสงฆ์นั้นว่า พระปลอมหรือปล่าวหว่า ก็เป็นบาป สรุปคือ ไม่ว่าพระท่านจะทำอะไร ให้เราวางเฉย ห้ามคิด ห้ามสงสัยในพระสงฆ์ ห้ามตำหนิ ห้ามกระทำการใด ไม่ว่าจะเป็นการคิดว่า พระรูปนี้ไม่ดีอย่าง ห้ามพูดว่า สงฆ์รูปนั้นไม่ดีอย่างนี้ ห้ามกระทำการที่เป็นกรรมต่อภิกษุสงฆ์ แล้วเราจะไม่ติดกรรม หากเราคิดและสงสัยในภิกษุแล้ว ถือว่าล่วงเกิน 1 ในรัตนตรัย ติดกรรม ทำให้ไม่มีความเจริญในชีวิต

    ถ้าท่านจะทำบุญหรือใส่บาตรต่อพระสงฆ์ ให้ทำด้วยจิตบริสุทธิ์ระลึกเสมอว่า เราทำบุญกับสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า โดยไม่คิดไม่สงสัยอะไร เราจะได้บุญแบบเต็มบุญ ถึงแม้ว่าคน ๆ นั้นอาจจะศีลไม่ครบ หรือเป็นพระปลอมโดยที่เราไม่รู้ เราไม่เห็น เราไม่รับรู้ กรรมที่บุคคลนั้นใช้ผ้าเหลืองในการทำมาหากินโดยไม่สุจริต จะทำให้เขาติดหนี้สงฆ์ เขาตกนรกเองค่ะ

    หากรุ้สึกไม่สบายใจจากการที่ อยากจะทำบุญ แต่เห็นภิกษุที่ท่านเห็น ท่านมองแล้วจิตเกิดลังเลสงสัย ก็ควรหลีกเลี่ยงเสีย รีบย้อนเตือนตัวเองว่า เราต้องไม่สงสัยในพระสงฆ์ และเมื่อไม่แน่ใจก็หลีกเลี่ยงเลือกทำบุญเฉพาะภิกษุสงฆ์ที่เรารู้สึกว่าเลื่อมใส แต่ต้องอย่าลืมไปสวดมนต์ขอขมากรรมต่อภิกษุสงฆ์ที่เราคิดสงสัยนั้นด้วย ไม่งั้นติดกรรมนะคะ

    ถ้าเห็นพระทำผิด ให้นิ่งเสีย ทำใจไม่ให้คิด ทำใจไม่ให้ต่อว่า เพราะใครทำกรรมนั้นย่อมได้รับผลกรรมนั้นเอง
     
  17. cinderella2517

    cinderella2517 Mindset Coach และ นักพยากรณ์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +1,404
    แต่ถ้าจะให้ดี คือต้องไม่คิดแม้แต่ตำหนิ และสงสัยในภิกษุสงฆ์ค่ะ ใครทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น เกิดเราเอาจิตไปปรุงแต่ง มองแล้วเกิดอคติ แล้วสงสัยในจิตว่า เดินเรี่ยไรเงินแบบนี้ สงสัยพระปลอม แค่คิดเท่านี้คุณก็บาปแล้ว ในข้อหาล่วงเกินในพระรัตนตรัย ลองไปในหมวดเสียงธรรม ลองหาฟังที่แม่ชีใหญ่ แม่ชีทศพร ท่านเทศไว้นะคะ แล้วคุณจะรู้ว่าควรจะทำอย่างไร และคิดอย่างไรกับภิกษุสงฆ์ เราไม่ต้องไปตัดสินใจแทนว่า พระรูปนี้ใช่หรือไม่ กฎแห่งกรรมตัดสินเองค่ะ

    ถ้าจะให้ดี ในเมื่อต้องการช่วยลดปัญหาผู้ที่อาศัยผ้าเหลืองในทางมิชอบ เมื่อเจอในสิ่งที่คุณทำท่าจะสงสัย ให้วางเฉย แล้วอนุโมทนากับท่านไป แล้วรีบระลึกในใจว่า ขออนุโมทนากับพระคุณเจ้าท่านที่มาโปรด แต่ก็ไม่ต้องให้เงินบริจาคก็หมดเรื่อง แต่ต้องไม่คิดสงสัย ถ้าเริ่มคิดสงสัย คุณต้องขอขมาต่อรัตนตรัยทันที

    ลองไปหาของแม่ชีทศพรฟังนะคะ อนุโมทนาค่ะ
     
  18. สังวรคุณ

    สังวรคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +765
    อ่านเจอในพระไตรปิฏก พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า
    สตรี ๑. สมณะ ๑. พระราชา ๑. วิ่งไม่งาม
    แต่มาคิดดูว่าถ้า สตรีแต่งชุดกีฬา วิ่งออกกำลังกาย หรือวิ่งเล่นกีฬา พระมหากษัตริย์ทรงฉลองพระองค์ในชุดทรงกีฬา จะวิ่งหรือทรงอยู่ในอิริยาบทใดๆในการทรงกีฬาประเภทนั้น คำว่าดูไม่งามก็ไม่ปรากฏ
    สมณหรือนักบวช ถ้าจะให้คำว่าดูไม่งามไม่ปรากฏ ก็ต้องเปลี่ยนเครื่องแต่กายเช่นกัน แต่นั่นก็หมายถึงต้องสึกออกไปสถานเดียว เป็นไปไม่ได้ที่ท่านแต่งกายเป็นนักบวชแล้วจะทำอะไรก็ได้โดยที่จะไม่ให้มีคำว่า ดูไม่งามปรากฏแก่สายตาของประชาชนทั่วไป
    ผู้เที่ประพฤติดี ประพฤติชอบ ก็ดูงามเหลือเกิน น่าเลื่อมใสศรัทธาเป็นที่สุด หน้ากราบ หน้าไหว้ น่าบูชา ได้เห็นก็เป็นบุญตา ได้นึกถึงก็เป็นบุญใจ
    จริงๆแล้วการที่มีผู้ประพฤติผิด ใช่ว่าเขาไม่มีความรู้อย่างเดียวก็หาไม่ แท้จริงแล้วบางท่านก็มีความรู้มาก แต่ไม่สามารถรักษาศีลได้ ไม่สามารถสงบสำรวมได้ ไม่สามารถประพฤติกาย วาจาและใจในทางที่ชอบ ตามระบอบที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ได้ เพราะฉะนั้น การแก้ปัญหานี้ นอกจากจะสนับสนุนให้ท่านมีความรู้พระธรรมวินัยแล้ว ควรจะหาวิธีให้ท่านที่รู้หมดแต่อดที่จะทำความชั่วไม่ได้ ให้สึกออกไปจากขอบเขตพระพุทธศาสนา ก็หมดเรื่อง อย่าให้กระบวนการในการให้สึกจากความเป็นพระมันซับซ้อนมากนัก ก็จะดี แต่การเข้ามาบวชให้มันละเอียดถี่ถ้วน ตามกฏที่พระพุทธองค์ว่าวางไว้หน่อยก็แล้วกัน
    สรุป เมื่อเราทุกคนต่างก็มีอุปาทานในสมมุติบัญญัติ ว่า เป็นตัว เป็นตน เป็นบุคคล เรา เขา เป็น โยม เป็นพระ เป็นนั่นเป็นนี่อยู่ ปัญหาก็มีมีอยู่ตลอดไป ถ้าแต่ละสถานะภาพ ไม่ปฏิบัติให้สมควรแก่ฐานะของตน ถ้าถามว่าจะแก้ปัญหาที่ใจจะทำอย่างไร คำตอบคือก็ต้องต้องปฏิบัติธรรมถึงขั้นปล่อยวางซึ่งอุปาทานได้นั่นแหละคือทีสุดแห่งทุกข์ ที่สุดแห่งปัญหาทั้งหลายทั้งปวง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กุมภาพันธ์ 2009
  19. 1redstar

    1redstar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +1,366
    เห็นนักการเมืองทำผิด ควรจะอยู่เฉยๆปล่อยให้เป็นไปตามกฏแห่งกรรม หรือจะเร่งรีบจัดการด้วยมาตรการใดๆให้บ้านเมืองดำรงค์ความถูกต้องโดยด่วน?
     
  20. ขันติธรรม

    ขันติธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    545
    ค่าพลัง:
    +372
    อนุโมทนา สาธุ
    ขอให้พระที่ทำผิดวินัยสำนึกรู้ตนว่าได้ทำผิดไปแล้ว และตั้งตนเป็นคนดีช่วยเหลือสังคมประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองสงบร่มเย็น โดยไม่ทำผิดอีกต่อไป
     

แชร์หน้านี้

Loading...