จะเริ่มฝึกสมาธิ ควรฝึกยังไงดี

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย hengsoft, 7 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. hengsoft

    hengsoft สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +6
    จะเริ่มฝึกสมาธิ ควรฝึกยังไงดี

    แล้ว กสิน ควรฝึกตอนไหน

    ผมเริ่มสนใจในด้านพวกนี้ อะครับ

    ควร รักษาศีล และ สวดมนต์ ด้วยมั้ย ครับ
     
  2. hamm

    hamm สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    130
    ค่าพลัง:
    +13
    หมั่นเพียรในการรักษาศีล แรกๆ อาจจมีว้อกแว้กบ้าง แต่ค่อยๆ ระวังไปจนกว่าจะไม่เผลอตัว
    สวดมนต์ เป็นการยึดเหนี่ยวใจอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่ดี ปฏิบัติได้ก็หมั่นปฏิบัติให้เป็นนิสัย

    กสิน ควรเลือกให้ถูกจริตกับตัวเอง คือเลือกให้ถูกนิสัยของตัว มีข้อมูลเพิ่มเติมหน้าเวป

    ทำสมาธิ อย่าให้ตรึงเกินไป แร้วก็ไม่ควรหย่อน อยู่กลางๆ
    วิธีทำสมาธิ มีมากมาย อยู่หน้าเวปอีก เช่นกัน มีตั้ง40กอง
    http://www.palungjit.org/smati/k40/

    คิดว่าจะกระทำ ก็เป็นสิ่งที่ดีมากแร้ว กระทำให้สม่ำเสมอ เป็นสิ่งที่ดียิ่งกว่า

    ที่สำคัญ การฝึกกรรมฐาน ต้องมีผู้รู้เป็นอาจารย์ดูแล ครับ

    อนุโมทนา สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2009
  3. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,459
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    ควรครับ ทั้งสวดมนต์เเละรักษาศีลอะครับ จะทําให้อานิสงฆ์ของเราเพิ่มมากขึ้น ทําสมาธิเเล้วจะสงบได้ง่ายเเละรวดเร็ว บางครั้งเเค่หลับตาปุ๊บก็สงบอย่างไม่น่าเชื่อเลย basic ที่ทํากันเเละนิยมคือ นั่งหลับตาขัดสมาธิ หายใจเข้า พุท ออกโธครับ เอาจิตจับอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก นึกว่ามีองค์พระอยู่ในตัวเราด้วยจะดีมากครับ หรือนึกว่าท่านอยู่หน้าเราก็ได้ นึกว่าท่านเป็นเเก้วใสระยิบระยับเหมือนเพชรครับ คุณมาถูกทางเเล้วครับ ขอให้ปฏิบัติต่อไป อย่าลดละ ขอให้เจริญยิ่งๆขึ้นไปครับ /\ สาธุ
     
  4. เด็กอนุบาล

    เด็กอนุบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +4,156
    ก่อนอื่น ควรสร้างความเข้าใจด้านเป้าหมายก่อนครับ ว่าการฝิกสมาธินั้น เป้าหมายในเบื้องต้นคือ เราต้องการทำเพื่อให้มีกำลังใจเรามีตบะที่เข้มแข็งที่จะให้จิตเกาะความดีอยู่เสมอ เพราะเมื่อจิตเป็นกุศลเกาะความดีอยู่เสมอแล้ว ชีวิตในปัจจุบันเราจะหาความสุขได้ง่าย เพราะจิตใจมีแต่อารมณ์เยือกเย็น เกิดปัญญาในทางโลกและทางธรรมได้ง่าย ชีวิตเราก็จะทุกข์น้อยลง ฟุ้งซ่านน้อยลง

    เมื่อเข้าใจเป้าหมายแล้ว คราวนี้ก็มาถึงเรื่องวิธีการทำสมาธิ ที่เป็นเรื่องเทคนิคเฉพาะตัวของแต่ละคนว่า ใช้กุศโลบายใดจึงจะตะล่อมให้จิตของตนทรงอยู่ในอารมณ์ความดีได้ยาวนาน ต่อเนื่อง แต่ในด้านพื้นฐานสมาธิแล้ว ต้องมาจากความตั้งใจและตบะในการรักษาศีล5 ให้ได้ก่อน เพราะถ้าในชีวิตประจำวันยังทำผิดศีลที่เป็นการคุมกายให้ดีซึ่งเป็นของหยาบไม่ได้ อย่าเพิ่งไปฝันว่าจะทำสมาธิได้ผล เพราะของหยาบกว่าเช่นการรักษาศีลเราทำไม่ได้ ก็ต้องถือว่าเรายังมีกำลังใจไม่ดีพอที่จะไปรักษาอารมณ์สมาธิที่เป็นของที่ละเอียดกว่าได้

    เมื่อฝึกรักษาศีลในชีวิตประจำวันได้ดีแล้ว เท่ากับว่าเรามีกำลังใจสมาธิส่วนหนึ่งเป็นฐานแล้ว การทำสมาธิให้ดียิ่งขึ้น ต่อยอดไปจากฐานที่มีก็ถือว่าเป็นเรื่องง่ายแล้ว ให้สังเกตจริตตัวเองว่า เราทำอะไรแล้วจิตใจสงบได้ง่าย ก็ให้ฝึกทำอย่างนั้นเป็นกิจวัตรประจำวันให้ชิน จนวันไหนไม่ทำก็จะรู้สึกไม่สบายใจ ให้สร้างความเคยชินให้จิตทรงอารมณ์ความดีจากตรงนี้ก่อน เช่น

    -- บางคนสวดมนต์แล้วใจสงบง่าย ก็ให้ตั้งใจสวดมนต์เป็นกิจวัตร 5 นาทีก่อนนอนทุกวัน
    -- บางคนชอบตามรู้ลมหายใจเข้าออก+คำภาวนา เพราะทำแล้วใจสบายก็ให้ทำซัก 5 นาทีเป็นกิจวัตรทุกวัน
    -- บางคนชอบหยอดกระปุก เพื่อเก็บไว้เงินไปทำบุญทำทาน เพราะทำแล้วสบายใจ ก็ให้หยอดทุกวันเป็นกิจวัตร ทุกครั้งที่หยอดก็ให้ตั้งใจถวายกุศลเป็นพุทธบูชา ธัมมบูชา สังฆบูชา เพื่อตอบแทนพระคุณพระรัตนตรัย เสร็จแล้วก็แผ่เมตตา อุทิศกุศล
    -- บางคนชอบด้านกสิณภาพพระ หรือกสิณดวงแก้วแสงสว่าง เพราะนึกถึงพระ นึกถึงดวงแก้วแล้วทำแล้วใจชุ่มชืนสบาย ก็ให้กำหนดรู้ภาพกสิณไว้ตามฐานของร่างกายที่เราถนัด ทำซัก 5 นาทีเป็นกิจวัตรทุกวัน

    ในการเริ่มต้นทำสมาธิ ให้ทำแบบนี้ไปก่อนครับ คือสร้างวินัยให้จิตชินกับความดี
     
  5. krit59

    krit59 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    219
    ค่าพลัง:
    +346
    รักษาศีล 5 ให้ได้ซะก่อน แล้วค่อยว่าเรื่องสมาธิ
    เมื่อรักษาศีล 5 คือความปกติได้แล้ว
    มันก็จะอยากทำของมันเอง

    บางคนไม่คิดอยากจะรักษาศีล แต่อยากจะได้สมาธิเลย มันเลยมั่วกันไปใหญ่
    พอคิดว่าตัวเองได้สมาธิ แต่ยังไปถามคนโน้นคนนี้ อธิบายอาการต่างๆให้กันฟัง
    (คนรู้แจ้งแล้วจะไม่เกิดอาการสงสัย เพราะรู้ชัดขึ้นมาจากใจตนเองนี่แหละเค้าเรียกปัจจัตตัง
    รู้ได้เฉพาะตนไม่เหมือนกัน ทุกวันนี้มีแต่มโนภาพตามพระพุทธเจ้า คือรู้แบบนึกภาพตามเอาเอง คือรู้เกิด แก่ เจ็บ ตาย แต่มิเคยรู้ชัด ที่เกิดขึ้นจากใจจริงๆ ถ้ารู้จริงๆแล้ว จะไม่เกิดคำถามขึ้นมาจากใจเลย เพราะรู้ชัดแล้ว ) กรรมฐานที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้มีบอกในพระไตรปิฏก มีอย่างถูกต้อง เริ่มจากพื้นฐานคือศีล แต่ทุกวันนี้อาจารย์ที่สอนกรรมฐานไม่ได้ดู
    สภาวะของลูกศิษย์ พากันทำเลย เพราะท่านเอาตัวเองเป็นตัวอย่าง ลูกศิษย์ทั้งหลายจะอาจหาญ กล้าสละ เอาเป็นเอาตายอย่างท่านก็หายาก
    ที่พูดมาทั้งหมดอยากจะบอกว่า ให้เรียนวิธีทำกรรมฐานแบบถูกต้องจากพระไตรปิฏก และก่อนทำกรรมฐานให้รักษาศีล บากบั่นที่จะรักษาให้ได้ แล้วพิจารณาให้ท่องแท้ ตัดกระแสให้ขาด แค่นั้นเอง
     
  6. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    เข้าไปศึกษาได้ที่นี่นะครับ...ผมจะยกจากหนังสือ วิธีฝึกกรรมฐานด้วยตัวเองแบบง่ายๆ ของหลวงพ่อนะครับ.....ในนี้จะมีตั่งแต่เริ่มต้นจนถึงที่สุดเลยครับ....แม้สถาวะต่างๆที่เกิดขึ้นในขณะฝึกกรรมฐานจะบอกไว้ในที่นี้ทั้งหมด.....เหมาะกับผู้ที่จะเริ่มฝึกใหม่...และผู้ที่ข้องใจในสถาวะที่ปฏิบัติอยู่นะครับ......เข้าไปศึกษาให้จบสัก 1 รอบ....แล้วปฏิบัติตามได้เลยครับด้วยตนเอง......

    <TABLE width="53%" align=center border=1><TBODY><TR><TD>
    วิธีฝึกกรรมฐานด้วยตนเองแบบง่าย ๆ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    มีท่านพุทธศาสนิกชนมากท่านได้มีจดหมายมาขอวิธีปฏิบัติกรรมฐานแบบง่ายๆ เพื่อฝึก
    ด้วยตนเอง อาตมาจึงเขียนวิธีฝึกกรรมฐานด้วยตนเองขึ้นเป็นแบบฝึกในหมวด สุกขวิปัสสโก
    คือฝึกแบบง่ายๆ ขอให้ท่านผู้สนใจปฏิบัติตามนี้
    <TABLE width="16%" align=center border=1><TBODY><TR><TD>
    สมาธิ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อันดับแรก ขอให้ท่านผู้สนใจจงเข้าใจคำว่าสมาธิก่อนสมาธิ แปลว่า ตั้งใจมั่น หมายถึง
    การตั้งใจแบบเอาจริงเอาจังนั่นเอง ตามภาษาพูดเรียกว่า เอาจริงเอาจัง คือ ตั้งใจว่าจะทำอย่างไร
    ก็ทำอย่างนั้นอย่างเคร่งครัด ไม่เลิกล้มความตั้งใจ

    <TABLE width="35%" align=center border=1><TBODY><TR><TD>
    ความประสงค์ที่เจริญสมาธิ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ความประสงค์ที่เจริญสมาธิก็คือ ต้องการให้อารมณ์สงัดและเยือกเย็น ไม่มีความ
    วุ่นวายต่ออารมณ์ที่ไม่ต้องการ
    และความประสงค์ที่สำคัญกว่านั้นก็คืออยากให้พ้นอบายภูมิ
    คือ ไม่เกิดเป็นสัตว์นรก เปรต อสุรกายสัตว์เดียรัจฉาน อย่างต่ำถ้าเกิดใหม่ขอเกิดเป็นมนุษย์และ
    ต้องการเป็นมนุษย์ชั้นดี คือ
    ๑. เป็นมนุษย์ ที่มีรูปสวยไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน ไม่มีอายุสั้นพลันตาย
    ๒. เป็นมนุษย์ ที่มีความสมบูรณ์ด้วยทรัพย์ ทรัพย์สินไม่เสียหายด้วยไฟไหม้, โจรเบียด-
    เบียน, น้ำท่วม หรือลมพัดทำลายให้เสียหาย
    ๓. เป็นมนุษย์ ที่มีคนในปกครองอยู่ในโอวาทไม่ดื้อด้านดันทุรัง ให้มีทุกข์เสียทรัพย์สิน
    และเสียชื่อเสียง
    ๔. เป็นมนุษย์ ที่มีวาจาไพเราะ เมื่อพูดออกไปเป็นที่พอใจของผู้รับฟัง
    ๕. เป็นมนุษย์ ที่ไม่มีอาการปวดประสาท คือปวดศีรษะมากเกินไป ไม่เป็นโรคประสาท
    ไม่เป็นบ้าคลั่งเสียสติ
    รวมความว่าโดยย่อก็คือ ต้องการเป็นมนุษย์ที่มีความสงบสุขทุกประการ เป็นมนุษย์ที่มี
    ความอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สินทุกประการ ทรัพย์ไม่มีอะไรเสียหายจากภัย ๔ ประการคือ ไฟไหม้
    ลมพัด โจรรบกวน น้ำท่วม และเป็นมนุษย์ที่มีความสงบสุข ไม่เดือดร้อนด้วยเหตุทุกประการ ฯลฯ

    ศึกษาได้เพิ่มเติมที่นี่นะครับ.... http://www.palungjit.org/smati/books/index.php?cat=148
     
  7. ภาชนะเปล่า

    ภาชนะเปล่า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2009
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +25
    ดีใจที่มีคนชอบปฏิบัติธรรมเพิ่มขึ้นอีก.....

    ศีล เป็นสิ่งจำเป็นมากครับ...เพราะช่วยให้สมาธิเจริญเร็ว

    หากศีลเรายังดีบ้าง ไม่ดีบ้าง...สมาธิจะนิ่งบ้าง ไม่นิ่งบ้างเช่นกัน

    ส่วนวิธีการ...เลือกแบบง่ายๆลองดูก็ได้ครับ เช่น หายใจเข้า ภาวนาว่า พุทธ...

    หายใจออก ภาวนาว่า โธ...แล้วใชสติระรึกตามประคองไว้ให้นิ่งที่สุด


    เมื่อได้รับความสงบแบบง่ายๆแล้ว...มีพื้นฐาน คือ ความสงบแล้ว...

    เรื่องกีฬาสมาธิ อันได้แก่ กสิน และอนุสติแบบต่างๆค่อยไปฝึกกันภายหลัง เมื่อเกิดความสนใจจริงๆ
     
  8. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,459
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    ครับพี่ hengsoft เมื่อคิดเเล้วควรปฏิบัติไปเลยครับ ส่วนเรื่องศึลห้านั้น พยายามทําให้ได้เเล้วกัน ถ้าัยังบกพร่องอยู่บางข้อ ยังไงก็ปฏิบัติไปครับ อย่าละครับ อย่าประมาทกับชีวิตนะครับ ถ้าจะรอให้ศึลครบเเล้วมานั่งทํา เผลอๆมัจจุราชอาจพรากเราไปก่อน เเล้วจะไม่มีโอกาสได้ทํานะครับ ทําไปให้ดีที่สุดเเล้วกันครับ เอาใจช่วยนะครับ อนุโมทนาครับพี่ /\
     

แชร์หน้านี้

Loading...