วิญญาณ มีมวลสารและมีน้ำหนัก ใช่หรือไม่?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย NiNe, 3 กันยายน 2005.

  1. aonwit01

    aonwit01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    681
    ค่าพลัง:
    +1,025
    งะ ผมนึกว่าที่หายไปจะเปงความมืด แสง กับวิญญาณซะอีก
    ( ดิน น้ำ ลม ไฟ สร้างสสาร แต่แสง ความมืด วิญญาณ สร้างชีวิต )คิดว่างี้อ่ะนะ
     
  2. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ผมบังเอิญแวะมาอ่าน เห็นว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก จึงขอให้ข้อมูลเพิ่มดังนี้1. ขอยืนยันว่า วิญญาณ มีจริง เพาะเวลาไปงานศพ จะเห็นวิญญาณ คนตายออกมาเดินปะปนไปกับผู้คน จะมองเห็นแวบๆๆ เป็นสีม่วงจางๆ เขาจะพยายามสัมผัสกับผู้คนแต่ไม่มีใครรู้ได้ เพราะเป็นคนละมิติ เมื่อ สัมผัสไม่ได้ เขาก้จะไปพักหรือเกาะที่กรอบรูป ใหญ่หน้าหีบ ศพ บางที ถ่ายรูปหมู่ลูกหลานเขาก็จะ ออกมายืนแถวหลังโอบลูกหลาน พออัดออกมา จะมีรูปวิญญาณ ติดมาด้วย เป็นข่าว บ่อยๆ2. วิญาณมีพลังงานแน่นอน เพราะเวลาเขามาใกล้ เราจะรู้สึกเหมือนมีไฟดูด เวลาเขามา เรามีเครื่องวัดกระแสความถี่ เข็มจะขึ้นสูงมาก สังเกตุบ่อยๆ พบว่า เวลาเราไป เยี่ยม ตัววิญญาณ จะเดินตามเรา แต่แปลก ไม่ได้ลอยในอากาศ แต่จะเลาะไปตามสิ่งก่อสร้าง เช่น พนัง ฝาห้อง ตามมุมห้อง ตามเสา เวลาเราคุยกับเขา เห็นอยู่ตามเสา ตามมุมห้องทุกที3. ผมถ่ายรูปวิญญาณ ไว้มาก เวลาถ่ายก็บอกเขาให้ใช้ อำนาจพลังที่มีอยู่เพิ่มประจุให้แรงขึ้น อำนาจประจุจะดึงละอองและความชื้นในอากาศให้มารวมให้บริเวณรอบตัวเขามีความหนาแน่นขึ้น เป็นหมอกจางๆๆ พอเรากด กล้อง ดิจิตัลที่ไวๆๆ จะติดรูป เขาทุกที เราอัดแจกให้คนดูบ่อยๆ4. เพื่อสนิทเราตาย ตอน สึนามิมาที่ พังงา งานศพ เขาก็มา เราบอกให้ คนกลับไปก่อน พอไม่มีแขก เราก็ตั้งวง ล้อม คุยกับเขาได้ คุยกันที 10-15 คน เวลาวันเผา พอศพ ขึ้นแท่น พวกเรา เกือบ 20 คน ตั้งแถวหน้าเมรุเว้นช่องกลางเหมือนงานต้อนรับน้องใหม่ แต่เป็นการลา วิญญาณ เขาจะมาลา โดยลาทุกๆคน ที่ละคน โดยมี ลูกเมียเป็นคนสุดท้าย ก่อนจะลอยเข้าเ ตาเผาไป วิญญาณ เป็นธาตุลม ไม่ใช่ธาตุไฟ วิญญาณ เป็นธาตุลม จึงแสดงอาการเกี่ยวกับลมตลอด เช่น ปิดประตูปัง ผ้าม่านสะบัด กระดาษปลิว เสียงหวีดหวิว เมื่อเข้าเตาไปแล้วก็จะเป้นการสลายธาตุลมเป็นธาตุสุดท้ายก่อนที่จะไปสู่ปรโลกสรุป วิญญาณมีพลัง ในรูปความถี่ ที่เหมือนประจุไฟฟ้า ลบ เคลื่อนไหวได้ กฏของมวลสาร คือ ไม่มีการสูญหาย แปรเป็นพลังงานได้ ดังนั้นถ้าพูดว่า คนเวลาตาย น้ำหนักจะลดลง เพราะกลายเป้นพลังงานให้วิญญาณ คงอยู่อไป พลังงานคงน้อยนิด จนไม่น่าจะสังเกตุได้
     
  3. natti

    natti สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +1
    ที่เขาโมทนากัน เขากดกันตรงไหน? ที่เราเขียนอยู่นี่ไม่เห็นมีให้เลย
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    การโมทนาคือการชื่นชม ยินดี กับข้อความที่เพื่อนๆ สมาชิกได้โพสเอาไว้ ก็เพียงคลิ๊กที่รูปภาพ[​IMG] ด้านล่างขวามือในข้อความที่เราชอบครับ

    สงสัยเรื่องเจไดว่าเป็นอย่างไร ก็ต้องรบกวนคุณ The Third Eyes ช่วยตอบให้คุณ natti หายสงสัยด้วยครับ
     
  5. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ผมยังไม่เห็นคำถามของคุณ natti เรื่อง ดาบเจได จึงเห็นว่าไม่ควรจะตอบ เพราะจะเป้นการเสียมารยาท ครับ
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สวัสดีครับ อาจารย์ตาที่สาม คือคุณ natti เขาสนใจเรื่องดาบเจไดว่ามีความเป็นมาอย่างไร แต่เข้าไปโพสถามไว้ในกระทู้ ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆ หรือไม่ ผมจึงขออนุญาตนำคำถามของคุณ natti มาลงไว้ในกระทู้นี้เลยดังนี้ครับ

    เราอ่านแล้วนะตั้งแต่หน้าหนึ่งถึงหน้าแปด อ่านทั้งบทความและที่คนออกความเห็นกันมาด้วย ก็เลยสมัครเข้ามาเพราะต้องการออกความเห็นด้วย ก็ขอบคุณตรงนั้นที่ให้โอกาส

    จากที่อ่านไปแปดหน้า(บ้านเราตีสามพอดี) อาจจะคิดว่าบ้านะ ไม่หลับไม่นอน แต่ยิ่งอ่านยิ่งน่าสนใจ และแปลกใจ ตัวเองเชื่อเรื่องเวรกรรมนะ แต่ว่าเรื่องแบบนี้ที่เขาทำนายไว้นี่ ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน เรื่องเจไดเช่นกัน มันเป็นลัทธิใหม่อะไรหรือเปล่า ? เป็นได้แต่ผู้ชายใช่ไหม แล้วเขาทำอะไรกันบ้างนอกจากสวดมนต์และนั่งสมาธิ ? ถามเพราะอยากรู้

    <!-- / message -->
     
  7. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ขอบคุณ "คุณเกษม" ผมชื่อ The Third eyes ครับ ไม่ใช่ "ตาที่สาม"
    เรื่องของเจได ไม่ใช่ ลัทธิอะไรแต่อย่างใด
    ดาบเจไดที่เป็นดาบเรืองแสงในมือ แล้วใช้ช่วยชีวิตคน ไม่ไช่ สังหารคน เหมือนในหนัง สตาร์วอร์ ดาบนั้นมีจริง มีคนติดดาบที่ว่า แล้วไปมากกว่า สองร้อยคน ณ ปัจจุบัน
    ดาบเจได เป็นผลจากการทำสมาธิ ชั้นสูง จนมีพลังจิตแรงที่ ตำแหน่งตาที่สาม ซึ่งอยู่ตรงหว่างคิ้วทั้งสอง
    เมื่อ เอาตาที่สามเพ่งที่ มือข้างใดข้างหนึ่ง จะมีพลังออกไปบรรรจุที่มือ จนมือแข็งและเรืองแสงสีทอง มองเห็นได้ชัดในที่มืด และมองเห็นรางๆๆ เหมือนไอแดด ร้อนเวลาขับรถ
    ดาบจะยาวตั้งแต่ 1 ฟุต จนถึง 1เมตร ขึ้นอยู่กับพลังจิตขอคนๆๆนั้น พลังนี้ เมื่อใช้กวาดไปที่ร่างกายคนป่วย เหมือนกับฟันเข้าไป พลังสีทอง จะทำลายล้างแสงสีสกปรก ที่เรียก ว้า " พลังแฝง ซึ่งเป้นสาเหตุแห่งการป่วยออกไป คนผู้นั้นก้จะหายป่วย

    คนที่จะติดดาบเจไดได้ จะต้อง ทำสมาธิจน ที่จุดหว่างคิ้ว เต้น ตุ๊บๆๆ อย่างแรงก้จะมาติดดาบที่ผมได้
     
  8. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    516
    ค่าพลัง:
    +494
    จะว่าผมเป็นคน(หรือเด็กชาย)บ้าก็ได้นะครับ...
    เนื่องจากกระทู้นี้>ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่ ที่คุณนาคามุระโพสต์จึงสนใจมาโพสต์ถามบ้างครับ

    หนึ่ง.ที่สงสัยว่าวิญญาณเป็นธาตุลมนั้นจะหายไปแต่ทำไมความจำยังเหลืออยู่ละครับ(แบบไม่ได้สลายไปแต่ไปเกิดหรือเปล่า?)
    สอง.เวลาที่เครียดส่วนมากจะทำให้น้ำหนักลดหรือเปล่าครับ(แบบมะเร็ง) หรือสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่เหนี่ยวนำเกิดลดลง(พลังชีวิต)

    ปล.ผมนึกว่าถึงไม่ใช่ตาที่3ก็เพ่งได้ซะอีก(คือจำเป็นต้องมีตาที่3ด้วยหรือครับ อยากจะทราบน่ะครับ)
    วิญญาณไม่มีความถี่ถ้าวิญญาณสามารถรู้เรื่องในอนาคตได้?(คนละมิติกัน...)>เดาสุ่มๆ
    *อยากมีตาที่สามโดยไม่ต้องนั่งสมาธิอ่า
    *อยากดังแต่ไม่มีความสามารถ...(สงสัยสินะครับว่าเขียนทำไม(อยากเด่นอ่า))
    *ปัญญาอยู่เหนือเหตุผล(เนื่องจากถ้าไม่เข้าใจเหตุก็จะไม่เข้าใจผล ไม่เข้าใจผลก็จะไม่เข้าใจเหตุ)
     
  9. ^ ^

    ^ ^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +1,279
    นี่ๆ จริงๆ แล้วมันต้อง เอาน้ำหนักของคนตายที่หายไปมาแทนค่า m
    ตามสมการ E=mc^2 ตะหาก เพื่อจะวัดค่าพลังงานของจิตออกมา
    เป็นตัวเลขไงครับ

    น้ำหนักที่หายไปไม่ได้หมายความว่าวิณญาณจะต้องมีน้ำหนักซักกะหน่อยอ่ะนะ
     
  10. หนูมาลี

    หนูมาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2005
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +1,148
    มี
     
  11. พานทองแดง

    พานทองแดง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +5
    น่าจะ

    ผมว่าน้ำหนักที่หายไป อาจเป็นลมปราณตามหลักโยคี ซึ่งคือลมหายใจ และกำลังของเส้นประสาท ซึ่งช่วยคุมให้เซลในร่างกายรวมกันเป็นหนึ่งเดียว

    ความเป็นมนุษย์ ตามหลักโยคี

    กล่าวไว้ว่าประกอบด้วย 7 ส่วน เรียงตามลำดับความหยาบ

    เริ่มจาก 1 ร่างกาย 2เจตภูติ (ตัวนี่แหละที่เราเห็นเป็นผี)3ปราณ4สัญญา(ความทรงจำในอดีตอันไกลโพ้น)5ปัญญา 6 ดวงจิต(ตัวกำกับเจตนาซึ่งมีผลต่อกรรม) 7 วิญญาณ(ส่วนที่ละเอียดสุด)
     
  12. pedora

    pedora สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +23
    งงมากครับ สงสัยคับวิญญาณมันไม่มีตัวตนมะช่ายหรอคับแบบว่าจับต้องไม่ได้อ่ะ วิญญาณคือธาตุรู้หนิคับ เกิดดับอ่ะ คล้ายๆว่าสัญญามีตัวตนป่าว??
    กุมารทองที่มาหรืออะไรที่เจอคือรูป(ไม่ใช่วิญญาณอ่ะ)ที่จับต้องได้แต่เค้าละเอียดป่าวคับ??
    ผิดถูกอย่างไรกรุณาบอกด้วยนะครับ
     
  13. ลี้คิมฮวง

    ลี้คิมฮวง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +298
    มีคนทดลองเกี่ยวกับเรื่องวิญญาณ โดยการชั่งน้ำหนักคนตอนก่อนตายกับตอนตายแล้วมาเปรียบเทียบกัน จากการทดลองของ ดร.แดนแคน แมกโดกัล ทันทีที่สิ้นลมน้ำหนัก .... จะลดลง 21 กรัม ซึ่งเขาบอกว่าคงเป็นเพราะดวงวิญญาณออกจากร่างไปนั่นเอง
    http://www.thaniyo.net
    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2006
  14. กายในกาย

    กายในกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +1,265
    ผมสนับสนุน กับความคิดของคุณ ผู้ใฝ่รู้ และ คุณ the third eyes เป็นอย่างมากครับ และผมนับคือคุณ the third eyes มาก ถึงผมไม่รู้จักมาก่อน แต่ตัวผมบังเกิดความนับถือจากใจจริง ผมว่า คุณ the third eyes ปฏิบัติได้จริง ๆ เห็นจริง ๆ ผมอยากรบกวน คุณ the third eyes แนะนำวิธีฝึกตาที่สามด้วยครับ ผมมีจุดประสงค์ที่แนวแน่ ในการฝึก ตาที่สาม อย่างไร รบกวนคุณ the third eyes ด้วยครับ
    ส่วนเรื่องน้ำหนักของวิญญาณที่ได้ทำการทดลองนั้น เป็นเรื่องที่ผมได้อ่านมานานมากแล้ว เป็นข้อมูลที่จริงครับ ผมขอยืนยัน
    ส่วนเรื่องวิญญาณนั้น ผมเป็นคนที่ประสบมาตั้งแต่เด็ก ๆ จนถึงตอนนี้ เช่นเดียวกับคุณ ผู้ใฝ่รู้ เจอมาหลายอย่าง ไม่มากครับ แต่พออธิบายได้บ้างว่า วิญญาณนั้น มีพลังงานครับ คล้าย ๆ กับที่คุณ the third eyes พูดนะครับ วิญญาณ มีพลังงาน แล้วสามารถนำพลังงานนี้ ไปใช้แก่คนได้นะ อย่างเช่น คนที่สามารถรับรู้ หรือสื่อ หรือมีสัมผัสรู้สึกได้นั้น และคนที่วิญญาณปรากฎให้เห็น ย่อมรู้ดีกว่า เมื่อวิญญาณปรากฎตัว จะมีพลังงานอะไรบางอย่าง ต่อตัวเรา ข้อสังเกตนะครับ เวลาที่วิญญาณปรากฎตัวนั้น บริเวณนั้น จะเริ่มวังเวง มีความกดดันอะไรบางอย่าง บีบ กดดันเรา ให้ตื่นกลัว ตื่นตะหนก นั้นล่ะ คือ พลังงานในรูปแบบหนึ่งนะ วิญญาณมีจริงครับ บางครั้งก็เป็นเงา บางครั้ง ก็เป็นรูปเป็นร่างแบบคนเรานี้เลย บางครั้ง เป็นเพียงความรู้สึกที่กดดัน แบบมองไม่เห็น
     
  15. A~MING

    A~MING เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,734
    ค่าพลัง:
    +1,730
    อ้อ ขอถามนอกเรื่องนิดหน่อยนะคะ

    ลม - หลายคนคงว่านไม่มีมวลสารแน่ๆ แต่ทำไมเวลาลมมันพัด เราถึงรู้สึกได้ พริ้วไหวได้ล่ะคะ?

    มันอาจอยู่นอกเหนือคำว่ามวลสารที่เรารู้กันอยู่หรือเปล่าคะ?
     
  16. tidpanya

    tidpanya Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +51
    เอาจากประสบการณ์มาเล่า..........
    เวลาถอดกายทิพย์ ร่างที่ออกไปลอยขึ้นไปแล้วต้องค่อยๆเอาเท้าลงมาในท่ายืน ซึ่งสามารถคิดได้ว่าโดนแรงดึงดูดของโลกเช่นสะสารทั่วไป(แม้จะมีความละเอียดมากก็ตาม) นอกจากนั้นเวลากลับเข้าร่าง มีความรู้สึกชัดเจนเวลา 2 ร่างจะแนบกัน จะรู้สึกเหมือนกายสัมผัสกับความเย็นเหมือนกับเราอยู่ในชุดเกราะเหล็กแล้วเนื้อไปโดนเกราะเหล็ก ก็คิดได้ว่าเป็นร่าง 2 ร่างที่มาสัมผัสกัน กายทิพย์จึงน่าจะต้องมีน้ำหนัก
    ทิด
     
  17. tidpanya

    tidpanya Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +51
    ต่อ....
    วิญญาน=กายทิพย์ กายทิพย์ = วิญญาน เป็นพลังงาน
    จากประสบการณ์ ช่วงที่ฝึก กายทิพย์ยังไม่ออกจากร่าง เท้าทั้งสองลอยสูงขึ้น
    เมื่อจะเลิกหรือจิตตก เท้าก็จะลอยลงมาแนบร่างเนื้อ
    การลอยขึ้นตกลงของร่างทิพย์นั้น ถือว่ามีมวลสาร/น้ำหนัก
    เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในเรื่องนี้
    ทิด
     
  18. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    เรื่องความพยายามชั่งน้ำหนักวิญญาณเคยมีมาแล้วในพระไตรปิฎก(ดูเรื่อง ปายาสิราชัญญสูตร พระไตรปิฎกเล่ม 10) แต่ผลตรงข้ามเพราะตายแล้วหนักขึ้น ซึ่งพระเจ้าปายาสิได้สงสัยและทดลองดู พระอรหันต์คือพระกุมารกัสสปได้วิสัชชนาแก้ปัญหาไว้ดังนี้

    ดูกรท่านกัสสป บุรุษของข้าพเจ้าในที่นี้ จับโจรผู้ประพฤติชั่วหยาบมา แสดงแก่ข้าพเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ โจรผู้นี้ประพฤติชั่วหยาบต่อพระองค์ พระองค์ ทรงปรารถนาจะลงอาชญาอย่างใดแก่โจรผู้นี้ ขอได้ตรัสบอกอาชญานั้นเถิด
    ข้าพเจ้า บอกบุรุษพวกนั้นอย่างนี้ว่า ถ้าเช่นนั้นพวกท่านจงเอาตาชั่ง ชั่งบุรุษนี้ผู้ยังมีชีวิตอยู่ แล้วเอาเชือกรัดให้ขาดใจตาย แล้วเอาตาชั่ง ชั่งอีกครั้งหนึ่ง บุรุษพวกนั้นรับคำ ข้าพเจ้าแล้ว เอาตาชั่ง ชั่งบุรุษนั้นผู้ยังมีชีวิตอยู่ แล้วเอาเชือก
    รัดให้ขาดใจตาย แล้วเอาตาชั่ง ชั่งอีกครั้งหนึ่ง เมื่อบุรุษนั้นยังมีชีวิตอยู่ย่อมเบากว่า อ่อนกว่าและควรแก่การงานกว่า แต่เมื่อเขาทำกาละแล้ว ย่อมหนักกว่า กระด้างกว่า และ ไม่ควรแก่การงานกว่า ดูกรท่านกัสสป ปริยายแม้นี้แล เป็นเหตุให้ข้าพเจ้ายังคงมี ความเห็นอยู่อย่างนี้ว่า แม้เพราะเหตุนี้ โลกหน้าไม่มี เหล่าสัตว์ผู้ผุดเกิดขึ้นไม่มี ผลวิบากของกรรมที่สัตว์ทำดีทำชั่วไม่มี ฯ
    [๓๑๓] ดูกรบพิตร ถ้าเช่นนั้น อาตมภาพจักยกอุปมาถวายบพิตร บุรุษ ผู้เป็นวิญญูชนในโลกนี้ บางพวกย่อมทราบเนื้อความของคำพูดด้วยอุปมา ดูกร บพิตร เปรียบเหมือนบุรุษเอาตาชั่ง ชั่งก้อนเหล็กที่เผาไว้วันยังค่ำ ไฟติดทั่ว ลุก โพลงแล้ว ต่อมา เอาตาชั่ง ชั่งเหล็กนั้นซึ่งเย็นสนิทแล้ว เมื่อไรหนอ ก้อนเหล็ก นั้นจะเบากว่า อ่อนกว่า หรือควรแก่การงานกว่า คือว่าเมื่อไฟติดทั่ว ลุกโพลง อยู่แล้ว หรือว่าเมื่อเย็นสนิทแล้ว ฯ
    ดูกรท่านกัสสป เมื่อใดก้อนเหล็กนั้น ประกอบด้วยไฟ ประกอบด้วยลม ไฟติดทั่ว
    ลุกโพลงแล้ว เมื่อนั้น จึงจะเบากว่า อ่อนกว่า และควรแก่การงานกว่า แต่เมื่อใดก้อนเหล็กนั้นไม่ประกอบด้วยไฟ และไม่ประกอบด้วยลม เย็นสนิทแล้ว เมื่อนั้น จึงจะหนักกว่า กระด้างกว่า และไม่ควรแก่การงานกว่า ฯ
    ฉันนั้นแหละบพิตร เมื่อใด กายนี้ประกอบด้วยอายุ ไออุ่นและวิญญาณ เมื่อนั้น
    ย่อมเบากว่า อ่อนกว่า ควรแก่การงานกว่า แต่ว่า เมื่อใด กายนี้ ไม่ประกอบด้วยอายุ ไออุ่นและวิญญาณ เมื่อนั้น ย่อมหนักกว่า กระด้างกว่า ไม่ควรแก่การงานกว่า ดูกรบพิตร โดยปริยายของบพิตรนี้แล ต้องเป็นอย่างนี้ว่า แม้เพราะเหตุนี้ โลกหน้ามีอยู่ เหล่าสัตว์ผู้ผุดเกิดขึ้นมีอยู่ผลวิบากของกรรม ที่สัตว์ทำดีทำชั่วมีอยู่ ฯ

     
  19. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    จากหลักฐานในพระพุทธศาสนาตายแล้วน้ำหนักจะเพิ่มขึ้น อธิบายได้ว่าวิญญาณมีน้ำหนักติดลบ ท่านอาจสงสัยว่ามีสิ่งที่น้ำหนักติดลบได้หรือไม่ ถ้าตอบตามฟิสิกซ์ ไอน์สไตน์ก็เคยพยายามคิดหาคำอธิบายต้นกำเนิดของจักรวาลแต่ทำไม่สำเร็จ ทำให้ไอน์สไตน์ตั้งสมมติฐานว่ามีสิ่งที่มีมวลติดลบอยู่เพื่อมาอธิบายสมการของตน จึงเป็นไปได้ทางฟิสิกซ์ที่จะมีสิ่งที่มีมวลติดลบในจักรวาล
    การที่วัตถุมีมวลติดลบ สามารถอธิบายปรากฏการณ์ของวิญญาณได้ว่าทำไมวิญญาณสามารถเดินทางได้เร็วกว่าแสง สามารถทะลุมิติแห่งอวกาศไปปรากฏยังสถานที่ต่างๆโดยไม่ต้องใช้เวลาเดินทาง เหมือนเดินทางทะลุหลุมดำ พลังวิญญาณจึงเป็นค่าที่หายไปในสมการของไอน์สไตน์ สังเกตได้ว่าในที่ที่มีปรากฏการณ์ผีๆ อากาศจะเย็นผิดปกติ
     
  20. landends

    landends เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2006
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +477
    ไม่รู้สิครับ ..แต่ส่วนตัวผมคิดว่า ถ้ามีก็คงเป็นมวลที่มีน้ำหนักน้อยมาก ๆ ..และการที่ร่างกายเบาขึ้นหลังจากตายไปแล้ว ผมว่า เป็นปริมาณอ๊อกซิเจนในร่างกาย หรือว่าอากาศในปอดมันหายไปหรือเปล่า (สันนิษฐานเดียวกับคุณ Didy) ผมคิดเช่นนั้นนะ เพราะทุกวันนี้ถึงแม้จะมีการศึกษา แต่ก็ไม่มีอะไรมายืนยันได้ว่าจริง
     

แชร์หน้านี้

Loading...