โลกพระวิญญาณ

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 22 มกราคม 2009.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <CENTER>[​IMG]</CENTER>




    <DD>ปกติ ในแต่ละปีจะกำหนดแต่ละวันสำคัญให้มีเพียง 1 วันเท่านั้น แม้
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    30 ปีแห่งความทรงจำ
    ฉลุยไม่น่าเชื่อ


    <CENTER>[​IMG]</CENTER>




    <DD>เมื่อพระอนุสาวรีย์สร้างเสร็จใหม่ๆ เช้าวันหนึ่งมีการบวงสรวงเสด็จพ่อ อาจารย์ธรรมนูญ อัคคพานิชผู้อำนวยการฯปรารภกับอาจารย์เพิ่มศักดิ์ วรรลยางกูร ว่าอยากอัญเชิญในหลวงเสด็จเปิดพระอนุสาวรีย์ อาจารย์เพิ่มศักดิ์นั้นคุ้นเคยอยู่กับสำนักพระราชวัง เพราะเคยพานักเรียนไปทัศนศึกษาบ่อย เช้าสายวันนั้นเขาจึงไปปรึกษากับไกด์ชื่อ เกรียงไกร ไกด์ผู้นี้เป็นคนพาอาจารย์เพิ่มศักดิ์ไปที่สำนักราชเลขาธิการ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวอย่างหนังสือมาให้ดู เขาคัดลอกตัวอย่าง แล้วกลับวิทยาลัยพิมพ์และเดินทางกลับไปยื่นที่สำนักราชเลขาธิการในบ่ายวันเดียวกัน หนึ่งเดือนครึ่งผ่านไป ทางสำนักราชเลขาธิการมีหนังสือด่วนที่สุดถึงโรงเรียนให้ส่งตัวแทนมาพบ และแจ้งว่า ทางวิทยาลัยต้องดำเนินการประสานงานกับสำนักพระราชวัง, ตำรวจท้องที่,กรมโยธาธิการ เป็น 4 หน่วยงานเพื่อจัดเตรียมความพร้อมในการรับเสด็จฯ เพิ่มเติมอีกหน่วยหนึ่งคือ เทศบาล เนื่องจากเส้นถนนด้านหน้าอนุสาวรีย์ไม่สวย



    <DD>
     
  3. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    เขาเปิดทางแล้ว อ่านลายเซ็นเลย


    <CENTER>[​IMG]</CENTER>




    <DD>โสภณ ชูวัฒน์สวัสดิ์ อาจารย์พิเศษสอนวิชา การวางแผนทางการเงินอยู่ที่มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีพระนคร วิทยาเขตพณิชยการพระนคร และทำงานอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย คนนี้แหละอาจารย์ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาด้านโหราศาสตร์ให้กับติ๊ก กลิ่นสี



    <DD>เมื่อปี 2526
     
  4. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    4 + 2 แหล่งควรแวะสักการะ



    <DD>ความจริง อนุสาวรีย์และศาลของเสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรฯนั้นมีเป็นจำนวนมาก ถึงขนาดที่พลเรือตรีกรีฑา พรรธนะแพทย์ สามารถเก็บรวบรวมเป็นหนังสือได้ 1 เล่ม เพราะครอบคลุมอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย METRO LIFE แนะนำ 5 แหล่งที่ควรแวะสักการบูชา


    <DD>สิ่งสักการะ ธูป 9 ดอก (หรือ 19 ดอก), เทียน 1 คู่ , ดอกกุหลาบสีแดง (จำนวนเดียวกับธูป)หรือพวงมาลัยที่มีกลิ่นหอม ดอกมะลิ หรือ ดอกเขี้ยวกระแต ก็ได้



    <DD>พระคาถาบูชา (นโม 3 จบ) โอม ชุมพรจุตติ อิทธิการะนัง สุโข นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ มะอะอุ


    <CENTER>[​IMG]</CENTER>
    พระอนุสาวรีย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระนคร วิทยาเขตพณิชยการพระนคร




    <DD>เมื่อปี 2513 – 2514 ร.อ. สุวิทย์ ทัดพิทักษ์กุล ศิษย์เก่าพณิชยการพระนคร (บิดาของฮาร์ท – สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล) ได้ริเริ่มหารือกับศาสตราจารย์ธรรมนูญ อัคคพานิช ผู้อำนวยการโรงเรียนพณิชยการพระนครเกี่ยวกับการสร้างอนุสาวรีย์ของพระองค์ท่าน ประดิษฐานไว้ที่หน้าวิทยาเขตเพื่อเป็นอนุสรณ์


    <DD>อัศวิน พิชญโยธิน สถาปนิกออกแบบทั่วไป


    <DD>อาจารย์สนั่น ศิลากร แห่งกรมศิลปากร ปั้นหุ่นพระรูป


    <DD>ถวิล ศรีอินทร์คำ ช่างหล่อพระรูป



    <DD>พิธีเททองพระอนุสาวรีย์ วันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515, พิธีประดิษฐานชั่วคราว ณ หน้ามุข อาคารเรียน 1 เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2516 , พิธีประดิษฐาน ณ แท่นหน้าวิทยาลัย วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2516



    <DD>พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯเป็นประธานในพิธีเปิดพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่โรงเรียนพณิชยการพระนคร เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2519 ปีนี้ 2549 ครบ 30 ปีแห่งการเสด็จพระราชดำเนินเปิดพระอนุสาวรีย์ฯแห่งนี้ ปัจจุบันได้บูรณะพื้นที่บริเวณอนุสาวรีย์จนสวยงาม และสมพระเกียรติ



    วิหารคด วัดโพธิ์



    <DD>บริเวณสะพานเทวกรรม ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของตำหนักนางเลิ้ง เคยเป็นที่ตั้งศาลแห่งหนึ่ง ศาลแห่งนี้มีนายเทียบ อุทัยเวช ผู้เป็นน้องชายของหม่อมเมี้ยนและหม่อมแจ่มเป็นผู้ดูแล เป็นศาลเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยที่เสด็จเตี่ยยังทรงพระชนมชีพอยู่ ต่อมาเมื่อมีการตัดถนนผ่าน ศาลแห่งนี้จึงย้ายมาตั้งอยู่ที่วิหารคด วัดโพธิ์ ท่าเตียน


    บางนา บางพลี ปากน้ำ



    <DD>คนย่านนี้ไม่อยากเดินทางเข้าเมือง มีพระอนุสาวรีย์เสด็จเตี่ยให้เลือกสักการะได้


    พระอนุสาวรีย์ โรงเรียนนายเรือ



    <DD>ปัจจุบันโรงเรียนนายเรือตั้งอยู่ที่ 204 ถนนสุขุมวิท ต.ปากน้ำ สมุทรปราการ สืบเนื่องจากเมื่อรศ. 112 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริว่า “การที่ต้องจ้างชาวต่างประเทศเป็นผู้บังคับการเรือและป้อมนั้นไม่เป็นที่มั่นคงที่จะรักษาประเทศได้ จะต้องมีการศึกษาและฝึกหัดให้คนไทยทำหน้าที่แทนชาวต่างประเทศได้” และโปรดเกล้าฯให้พระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ได้ศึกษาวิชาการทหารเรือ ณ ประเทศอังกฤษ นักเรียนนายร้อยทหารเรือรุ่นแรกๆเมื่อปี พ.ศ. 2411 โปรดเกล้าฯให้ใช้เรือพระที่นั่งจักรีและร.ล.มูรธาวสิตสวัสดิ์เป็นสถานที่เรียน ใช้ ร.ล.พาลีรั่งทวีปและร.ล.สุครีพครองเมืองเป็นที่พัก พ.ศ. 2443 ย้ายมาเรียนที่วังนันทอุทยาน ธนบุรี พ.ศ. 2446 จากนั้นย้ายมาที่พระตำหนักสุนันทาลัย ปากคลองตลาดและย้ายมาเรียนที่พระราชวังเดิม วันที่ 20 พฤศจิกายน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเปิดโรงเรียนนายเรืออย่างเป็นทางการ ปี พ.ศ. 2448 กรมหมื่นชุมพรเขตร์อุดมศักดิ์ รองผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานปรับปรุงหลักสูตร ปี พ.ศ. 2449 – 2454 ทรงอำนวยการการศึกษาและเป็นพระอาจารย์ พ.ศ. 2486 พระนครถูกโจมตีจากภัยทางอากาศ โรงเรียนนายเรือได้ย้ายจากพระราชวังเดิมไปอยู่ที่อ่าวเกล็ดแก้ว อ.สัตหีบ ชลบุรี ต่อมาเกิดไข้มาลาเรียระบาด ครู นักเรียนไม่สามารถสอนและเรียนได้จึงย้ายมาที่ป้อมเสือซ่อนเล็บ จ. สมุทรปราการจนถึงทุกวันนี้



    <DD>โรงเรียนนายเรือนับว่ามีความสำคัญมาก เพราะถือว่าเป็นรากแก้วแห่งกองทัพเรือ อีกทั้งพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เป็นปูชนียบุคคลสำคัญในการผลักดันแต่แรก ดังนั้นพระอนุสาวรีย์ของโรงเรียนนายเรือถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ไม่เป็นรองที่อื่นใด เป็นที่เคารพและนับถือของเหล่าลูกประดู่และประชาชนโดยทั่วไป


    <CENTER>[​IMG]</CENTER>
    พระอนุสาวรีย์ วังนันทอุทยาน



    <DD>พระอนุสาวรีย์ฯที่แห่งนี้ องค์พระรูปยืน ทรงมาลา พระหัตถ์ทั้งสองวางบนโกร่งกระบี่ ความสูง 1.9 เท่าขององค์จริง โดยใช้ความสูงของพระองค์จริง 1.72 เมตร จะได้ความสูงของพระรูป 3,268 เมตร รวมตัวเลข 3+2+6+8 จะได้เท่ากับ 19 ตั้งอยู่บนแท่นความสูง 4 เมตร 80 เซนติเมตร วางศิลาฤกษ์เมื่อวันอังคารที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 เวลา 09.19 น. โดย พล.ร.อ.สุวัชชัย เกษมศุข ผู้บัญชาการทหารเรือเป็นประธานในพิธี พิธีลงอักขระ ระหว่างวันที่ 22-30 มิถุนายน 2541 พิธีเททอง วันที่ 3 กันยายน 2541 เวลา 15.00 น. ณ โรงหล่อพระพุทธรูปบุญชู พุทธมณฑลสาย 2



    <DD>พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงเปิดพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ณ ฐานทัพเรือกรุงเทพ วังนันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯเมื่อวันพุธที่ 19 พฤษภาคม 2542

    ศาลกรมหลวงชุมพรฯ สวนลุมไนท์บาซาร์



    <DD>สวนลุมไนท์บาซาร์ทุกวันนี้ เป็นพื้นที่เดิมของกองสัญญาณทหารเรือ และเปลี่ยนเป็นโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อโรงเรียนย้ายไปอยู่ที่นครนายก ศาลแห่งนี้มิได้โยกย้ายไปด้วย แต่มีการตั้งศาลกรมหลวงชุมพรฯใหม่ที่โรงเรียนเตรียมทหาร จังหวัดนครนายก



    <DD>ศาลเดิมเป็นเพียงศาลไม้ขนาดเล็กและมีสภาพทรุดโทรมลง ตั้งอยู่ตรงบริเวณมุมตะวันตกเฉียงใต้ของโรงเรียน ด้านถนนวิทยุตัดกับถนนพระราม 4 ปี 2529 ได้มีการบูรณะศาลแห่งนี้ใหม่ ในสมัยที่พลตรี ธีรวัฒน์ เอมะสุวรรณเป็นผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร ใช้รูปทรงเดียวกับศาลกรมหลวงชุมพรฯที่แหลมปู่เจ้า อ.สัตหีบ จ. ชลบุรี



    <DD>ประกอบพิธีหล่อพระรูป พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ขนาดเท่าพระองค์จริง เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2529 ณ วัดหนองไทร อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี วันที่ 19 ธันวาคม 2529 วันคล้ายวันประสูติของเสด็จในกรมฯได้ประกอบพิธีบวงสรวง อัญเชิญดวงวิญญาณกรมหลวงชุมพรฯเข้าสถิตในองค์พระรูป และอัญเชิญพระรูปประดิษฐานในศาล



    <DD>สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารทรงเป็นองค์ประธานเป็นศาลหลังใหม่ ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2530

    พระอนุสาวรีย์ วัดทุ่งเศรษฐี



    <DD>วัดทุ่งเศรษฐี ตั้งอยู่ที่หมู่ 8 บ้านทุ่งเศรษฐี ตำบลดอกไม้ ประเวศ กรุงเทพมหานคร จำง่ายๆไม่ซับซ้อนคือ รามฯ 2 หลวงพ่อเจ้าอาวาสคือ หลวงพ่อเณร เป็นผู้สืบทอดวิชาเป่ายันต์เกราะเพชรมาจากอาจารย์คือ หลวงพ่อช่อ (หลวงพ่อฤษีลิงขาว) ส่วนหลวงพ่อช่อนั้นเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อปาน วัดบางโคนมอีกทอดหนึ่ง วัดนี้ขึ้นชื่อในเรื่องพระหัตฐาธาตุพระพุทธเจ้าห้าองค์ ที่มีลักษณะคล้ายมือ ซ้อนกัน 5 ชั้นสีน้ำตาลเท่ากับมือคน มีกลิ่นมะลิหอมตลอดเวลา และมีพระธาตุเสด็จมาเกาะที่องค์พระธาตุอยู่เสมอ วัดแห่งนี้มีคนแวะเวียนไปกราบไหว้บูชาตลอด อีกทั้งวัดแห่งนี้ ยังเป็นศูนย์รวมเทพเป็นจำนวนมาก



    <DD>โดดเด่นมากคือ พระอนุสาวรีย์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์



    <DD>พิเศษกว่าที่อื่นตรงที่จุดประทัดได้ !!



    <DD>การเดินทางมาสักการะ หมอชิต -ลาดพร้าว- ศรีนครินทร์ นั่งสาย 182 (ราม2 หมอชิต2), จันทรเกษม อนุสาวรีย์ชัยฯ สุขุมวิทฯ นั่งสาย 38, อนุสาวรีย์ชัย ฯ ทางด่วน สาย139 ปอ.139, พระราม3 คลองเตย ทางด่วน สาย182, พระราม4 นั่งสาย46, สุขุมวิท สนามหลวง นั่งสาย 48, เดอะมอลล์บางกะปิ นั่งรถตู้สายมอเตอร์เวย์



    <DD>เดอะมอลล์งามวงศ์วานและสายใต้ นั่งรถตู้ทางด่วนได้เลย



    <DD>เมื่อลงที่มหาวิทยาลัยราม2 วิทยาเขตบางนา แล้วนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้าง บอกว่าไปวัดทุ่งเศรษฐี


    <CENTER>[​IMG]</CENTER>
    ทำอย่างไรไม่ให้กลัวผี !?


    <DD>“คืนวันหนึ่งพ่อเสด็จไปที่โรงเรียนนายเรือตามปกติ บรรดาครูอาจารย์ทั้งชั้นสูงชั้นต่ำเข้าเฝ้ากันอย่างพร้อมมูล พ่อสั่งให้เป่าแตรรวมพลโดยด่วนอยู่ในภาวะฉุกเฉิน นักเรียนที่อยู่ในเรือก็วิ่งกันโกลาหล ชั้นแรกนึกกันว่าเกิดเพลิงไหม้ เช่นที่เป่าแตรครั้งก่อนๆ ได้ความที่หลังว่า ขณะที่ประทับอยู่ในท้องพระโรง รับสั่งให้นักเรียนนายเรือนายหนึ่งเข้าไปนำสมุดแฟ้มของพระองค์ที่อยู่ในห้องบัญชาการออกมาถวาย นักเรียนคนนั้นกราบทูลว่า เข้าไม่ได้ พ่อรับสั่งถามว่า “ทำไม” นักเรียนคนนั้นทูลว่า “กลัวผี” ทำให้กริ้วมากเรียกประชุมนักเรียนด่วน เมื่อมาพร้อมกันแล้ว รับสั่งถามว่า นักเรียนคนไหนบ้างที่กลัวผีให้ออกมานอกแถว ๓ ก้าว ฉับพลันก็มีนักเรียนผู้ใหญ่ก้าวออกมาจากแถวหนึ่งท่าน และต่อจากนั้นนักเรียนชั้นต้นราว ๒๐ คนก็ก้าวตามออกมา ทรงกริ้วขนานใหญ่ รับสั่งว่า ถ้ากลัวผีก็เป็นทหารไม่ได้ รับสั่งให้นายทหารเวรไปเอาผ้าถุงมาให้นักเรียนนุ่งอยู่เวรและให้ดับไฟให้อยู่กันมืดๆตลอดคืน”



    <DD>“เสด็จพ่อไม่โปรดคนขี้ขลาดตาขาว พอลูกๆโตขึ้น อายุราว ๑๐ ขวบ ก็ทรงหัดไม่ให้กลัวผี…คืนหนึ่งทรงหัดลูกๆไม่ให้กลัวผี แจกกระดาษคนละ ๔ แผ่น ทุกคนจะต้องเขียนชื่อของตัวเองไว้ทั้ง ๔ แผ่น เสวยอาหารค่ำก็เริ่มพิธีออกเดินทีละคน แต่ละคนจะมีนกหวีดคล้องคอไปด้วย แต่ห้ามเป่าเล่นเด็ดขาด หากกลัวจริงหรือมีเหตุการณ์อันตรายอะไรเกิดขึ้นก็ให้เป่าได้ จะได้มีคนไปช่วย ใครอายุมากออกไปก่อน ไปที่ศาลาดำ จะมีกะลาคว่ำอยู่กลางศาลา จะต้องยกกะลาขึ้นครอบกระดาษใบที่ ๑ เซ็นชื่อแล้วเดินต่อไป ทำดังนี้อีกไป ณ ศาลาที่ ๒ ต่อไปถึงศาลาที่ ๓ แล้วเดินต่อไปวนกลับมาศาลาที่ ๔ แล้วกลับมารายงานเป็นการเสร็จการ ทุกศาลาจุดไฟไว้ริบหรี่ให้น่ากลัวเล่นอย่างนั้นแหละ ข้าพเจ้าเป็นคนที่ ๒ (ต่อจากท่านขรัว) ถึงเวรก็ออกเดิน กำนกหวีดมือหนึ่ง กระดาษมือหนึ่ง ใจเต้นอย่างกับตีกลอง ศาลาแรกก็ร้าย เพราะรู้อยู่ว่าเคยตั้งศพ ผ่านศาลาที่ ๒ ยังดี ถึงศาลาที่ 3 ต้องยกหัวกะโหลกมือสั่น กลัวหัวกะโหลกจะงับมือ เสร็จแล้วออกเดินไปที่ศาลาที่ ๔ ยกกะลาครอบกระดาษเสร็จ ออกเดินแน่บอย่างเร็ว ไม่เหลียวหลัง เกรงจะเห็นใครเดินตามมา จะวิ่งก็กลัวหกล้ม หัวใจหยุดแน่ รวมระยะทางที่ต้องเดินทั้งหมดยาว ๔๐๐ เมตรเศษ เสด็จพ่อรับสั่งถามว่า ทำไมมาเร็วนักล่ะ ครบ ๔ ศาลาหรือเปล่า เหนื่อยจนพูดไม่ออก พอคนที่ ๓ ที่ ๔ ครบแล้ว เสด็จออกตรวจเองได้กระดาษทั้ง ๔ ใบทุกแห่ง ทรงพอพระทัย ซึ่งความจริงแล้วในตอนเด็กนั้น ข้าพเจ้ากลัวผีมาก แต่ก็กลัวเสด็จพ่อมากกว่า รุ่งขึ้นพาไปเที่ยวหาซื้อขนมปังช็อกโกแลตเป็นรางวัล”



    หน้าผากแม่นาคพระโขนง


    <DD>หลวงพ่อพริ้ง วัดบางประกอก ไปมาหาสู่ระหว่างวัดกับวังนางเลิ้งเสมอ โอรสเสด็จในกรมฯพระองค์หนึ่งคือ หม่อมเจ้าคำแดงฤทธิ์ เคยประชวรหนัก รักษาทั้งยาฝรั่ง ยาไทย เวทมนตร์คาถาก็ไม่หาย เสด็จในกรมฯเลยรับสั่งให้บนบวช 10 วัน ปรากฏว่าได้ผล หายประชวร ทั้งครอบครัวเลยต้องไปจำศีลอยู่ที่วัดบางประกอกเกือบเดือน



    <DD>หน้าผากแม่นาคพระโขนงนั้นตกทอดเป็นลำดับจากสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) มาถึงหม่อมเจ้าพระพุทธปาธปิลันทร์ และหลวงพ่อพริ้ง



    <DD>เล่ากันสืบมาว่า สมัยนั้นแม่นาคอาละวาดผู้คน ชาวบ้าน พระ เณรแถบย่านคุ้งน้ำพระโขนงจนได้รับความเดือดร้อน สมเด็จโตจึงต้องเดินทางไปปราบด้วยพุทธคุณ เจาะกะโหลกแม่นาค ขนาดความกว้างประมาณ นิ้วครึ่ง – 2 นิ้ว ยาว 4 นิ้ว (โดยประมาณ) มาขัดมัน ลงอักขระ ปิดทองและติดย่ามไปไหนด้วยเสมอ แม้ว่าแม่นาคจะซาบซึ้งในรสธรรม แต่ก็ยังคงมีนิสัยชอบหยอกล้อสามเณรอยู่เหมือนเดิม ม.ร.ว.เจริญ อิศรางกูร ณ อยุธยา เมื่อครั้นที่มาบวชเป็นสามเณรที่วัดระฆัง ก็โดนการหยอกล้อจนสมเด็จโตต้องล้วงกะโหลกแม่นาคออกจากย่ามแล้วบอกว่า โยมนาค อย่าไปกวนสามเณรเลย เมื่อกะโหลกแม่นาคตกทอดมาถึงพระพุทธปาธปิลันทร์ก็มีการกล่าวตักเตือนกันอีก หลังจากที่หลวงพ่อพริ้งส่งมอบกะโหลกแม่นาคให้กรมหลวงชุมพรฯ พระองค์ท่านทรงเอามาเจาะรูทำเป็นปั้นเหน่งรัดบั้นพระองค์ติดตัวไปด้วยเสมอ เมื่อประทับอยู่ในตำหนักจะใส่พานวางไว้ที่ห้องพระ และทรงบอกเล่าให้หม่อมทุกคนได้ฟังเพื่อให้รับรู้ถึงความสำคัญ กระนั้นแม่นาคก็เคยปรากฏกลิ่นถึง 2 ครั้งที่ตำหนักนางเลิ้ง



    <DD>หม่อมแจ่ม หรือหม่อมองค์น้อยนั้นเป็นคนกล้าหาญ ไม่ค่อยเกรงกลัวใคร นอกเหนือจากเสด็จในกรมฯเท่านั้น วันหนึ่งเพื่อนๆของหม่อมได้แวะมาเยี่ยมเยือน การสนทนาวันนั้นได้วกเข้าหาเรื่องแม่นาค จนเกิดการท้ากันว่า หากหม่อมไม่กลัวก็ให้เดินเข้าห้องพระ เมื่อหม่อมแจ่มเดินเข้าห้องพระ ปรากฏว่ามีกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปหมดจนต้องเผ่นหนีออกมาจากห้องพระ



    <DD>เสด็จในกรมฯตรัสว่า คนที่แม่นาคไม่พอใจจะเห็นร่างของแม่นาคในแบบที่น่ากลัว มีกลิ่นเหม็น ดังนั้นจึงไม่ควรไปท้าเขา กลัวหรือไม่กลัวก็เฉยๆ ซะ ส่วนคนที่แม่นาคพอใจจะมาหยอกล้อด้วยแบบที่สวยงาม กลิ่นหอมชื่นใจ



    <DD>อีกคราวหนึ่ง ขณะกำลังเสวยพระกระยาหารอยู่นั้น พระองค์ได้ตรัสกับบรรดาหม่อมทั้งหลายว่า ใครอยากจะคุยกับแม่นาคก็ได้ หม่อมแจ่มอีกนั่นแหละที่ขอทดสอบ เสด็จในกรมฯจึงส่งหน้าผากแม่นาคให้ เมื่อถึงเวลาเข้านอน หม่อมแจ่มได้อธิษฐานขอให้แม่นาคมาอย่างงดงาม สักครู่ใหญ่ๆจึงได้กลิ่นเหม็นไหม้ ยิ่งนานก็ยิ่งอบอวลหนักขึ้น หม่อมแจ่มจึงรีบนำเอากะโหลกหน้าผากแม่นากไปคืนเสด็จฯทันที พร้อมกับทูลถึงเรื่องที่เจอมา พระองค์ทรงพระสรวลและตรัสว่า รออีกสักประเดี๋ยวก็เห็นแล้ว หลังจากนั้นไม่มีใครกล้าลองของอีก



    <DD>กระทั่งวันหนึ่ง ระหว่างอยู่ที่โต๊ะเสวย เสด็จเตี่ยได้ตรัสว่า แม่นาคเขาลาไปเกิดแล้ว



    <DD>เมื่อสิ้นเสด็จในกรมฯ สมบัติชิ้นนี้ได้ตกทอดอยู่ในการดูแลของนายเทียบ อุทัยเวช น้องชายของหม่อมแจ่ม ซึ่งเป็นมหาดเล็กคู่พระทัย ในตำแหน่งพลทหารเรือ ฝ่ายเสนารักษ์ หลังออกจากราชการ ได้ทำหน้าที่ดูแลศาลเสด็จเตี่ยเชิงสะพานเทวกรรม นางเลิ้ง ซึ่งอยู่ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของตำหนัก ปั้นเหน่งแม่นากเคยเก็บไว้ที่ศาลแห่งนี้ จนเมื่อมีการตัดถนนจึงได้โยกย้ายศาลดังกล่าวไปที่วัดโพธิ์ ปรากฏต่อมาว่า ของชิ้นนี้สูญหายไป



    </DD>เนื่องจากเสด็จในกรมฯมีพระอาจารย์หลายท่าน ดังนั้นจึงเชื่อกันว่า วิชาของท่านที่ร่ำเรียนมานั้นน่าจะมากกว่านี้ นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องราวทางไสยเวทของกรมหลวงชุมพรฯที่มีการบันทึกไว้เป็นเกร็ดโดย หม่อมเจ้าเริงจิตรแจรง พระธิดาของเสด็จในกรมฯ เท่านั้น




    ข้อมูลจาก....

    http://www.palungdham.com/t862.html
     
  5. karatekung

    karatekung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,624
    ค่าพลัง:
    +2,195
    เนื้อหาดีมากๆเลยครับ
     
  6. กริด99

    กริด99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    754
    ค่าพลัง:
    +558
    อนุโมทนาด้วยครับ
    ผมนับถือเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรฯเป็นอย่างยิ่งเลยครับ
     
  7. Mettigo

    Mettigo ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +690
    อนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ครับ ขอบารมีของพระองค์ท่านคุ้มครองประเทศชาติและประชาชนชาวไทยทุกคนครับ
     
  8. yolk04

    yolk04 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +33
    เนื้อหาน่าสนใจมากๆเลยครับ
     
  9. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    ขอบคุณ จขกท.เนื้อหายาวมากแต่อ่านเพลินเลยค่ะ
     
  10. kanin_nin

    kanin_nin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2009
    โพสต์:
    864
    ค่าพลัง:
    +3,755
    ขอบคุณ สำหรับ เนื้อหาที่นำมาลงครับ ขออนุโมทนาบุญกับการเผยแพร่ข้อมูลดี ๆ ในครั้งนี้ด้วยครับ
     
  11. janpim

    janpim Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +88
    ขอเล่าประสบการณ์ของตัวเองน่ะค่ะ ดิฉันไปเที่ยวจ.ชุมพรกับเพื่อนและไปเที่ยวที่หาดทรายรี ซึ่งมีศาลเสด็จเตี่ยฯ ตั้งอยู่ที่ชาดหาดค่ะ และได้เช่าล็อกเกตเล็ก ๆ รูปเสด็จเตี่ยฯ
    มา 1 เหรียญ เป็นทองคำ 300 บาท เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ระหว่างขับรถมอเตอร์ไซค์กลับบ้านพักเพื่อน โดยเพื่อนเป็นคนขับไปกัน 4 คน 2 คัน เพื่อนดิฉันขับรถตกถนนสูงเป็นเมตรและเป็นดินลูกรังสีแดงลงไปข้างทางแล้วรถคว่ำ แต่ดิฉันกับเพื่อนไม่เป็นอะไรเลย รถก็ไม่เสียหายอะไร เราก็ปัดฝุ่นกางเกงกันไม่ได้บาดเจ็บอะไรเลยซึ่งมันแปลกมาก เพื่อนดิฉันอีกคันหนึ่งยังนึกว่าต้องเจ็บกันแน่นอน ซึ่งดิฉันคิดว่าเพราะล็อกเกตเสด็จเตี่ยช่วยคุ้มครองดิฉันแน่นอนค่ะ ไม่งั้นคงบาดเจ็บแน่ ๆ สาธุค่ะ ดิฉันนับถือพระองค์ท่านจริง ๆ
     
  12. แก้วแกมกาญจน์

    แก้วแกมกาญจน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2008
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +441
    กราบโมทนาบุญกับสมเด็จเตี่ยด้วยความเคารพ
    และขอโมทนาบุญกับเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ
     
  13. ประเสริฐ2522

    ประเสริฐ2522 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    658
    ค่าพลัง:
    +409
    ศักดิ์สิทธิ์จิงๆๆครับ.....เด็กดอกประดู่
     
  14. ตั้มศรีวิชัย

    ตั้มศรีวิชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    597
    ค่าพลัง:
    +1,847
  15. โป๊ยเซียนสาว

    โป๊ยเซียนสาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,543
    ค่าพลัง:
    +2,279
    ขอบคุณค่ะ ครั้งแรกที่เห็นพระรูปท่านเมื่อครั้งที่ตัวเองเป็นเด็กก็ไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร จนได้ทราบพระประวัติยิ่งศรัทธาท่านเหลือเกิน
     
  16. อินทรียสงวร

    อินทรียสงวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    327
    ค่าพลัง:
    +610
    เคยอ่านเจอในหนังสืมเล่มนึงนานมากแล้ว ศรัทธาพระองค์ท่านมาจนทุกวันนี้ ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งเค้าได้รับเหรียญรูปพระองค์ท่านมา แล้วเค้าก็วางไว้หน้ารถจนลืม เหรียญก็หลุดลงไปอยู่ใต้พรมหน้ารถ จนวันหนึ่งเค้าเดินทางไปต่างจังหวัดกับพ่อ และพี่ชาย ขณะเดินทาง บนถนนมีรถทำน้ำมันหกไว้ รถที่วิ่งมาพอถึงบริเวณที่น้ำมันหก ก็หมุนไปคนละทิศคนละทาง เพราะวิ่งมาด้วยความเร็วค่อนข้างสูงกัน รถเค้าก็เช่นกัน แต่ขณะที่รถหมุนอยู่นั้น อยู่ ๆ รถก็หยุดนิ่ง เหมือนมีใครมาจับไว้ให้หยุด พวกเค้าจึงปลอดภัย และเดินทางต่อ พี่ชาย และพ่อต่างก็คุยทับกัน พี่ชายก็ว่าตัวเองขับรถเก่ง พ่อก็ว่าตัวเองแนะนำเก่ง จนผ่านไป1-2วัน(ไม่แน่ใจ) พ่อก็มาถามลูกสาวว่า มีอะไรที่เกี่ยวกับ"เสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพร"มั๊ย ลูกสาวจึงนึกได้ว่าเคยได้เหรียญพระองค์ท่านมา เก็บอยู่ในรถ พ่อจึงเล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนครึ่งหลับครึ่งตื่น ได้ฝันว่า มีผู้ชายรูปร่างสูงสง่างามเข้ามาหาแล้วพูดว่า "กู กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่พวกมึงปลอดภัยกันวันนี้น่ะ ไม่ใช่เพราะใครเก่ง แต่กูช่วยพวกมึงไว้เอง" แล้วพ่อเค้าก็ตกใจตื่น พอได้คุยกับลูกสาวแล้ว หลังจากนั้น เหรียญของเสด็จเตี่ยองค์นั้น ก็เป็นอันมาอยู่บนคอของคุณพ่อเค้า จนทุกวันนี้
    แล้วที่ประสบกับครอบครัวตัวเองก็คือ น้าชายสอบข้อเขียนปลัดอำเภอได้ แต่ต้องมีสอบปฏิบัติคือวิ่ง 800 เมตร แต่น้าชายอายุมากกว่าคนอื่น และไม่ค่อยได้ออกกำลัง เกรงว่าจะไม่ผ่าน วันสอบคุณแม่ของดิฉัน(พี่สาวของน้าชาย) จึงไปอธิษฐานกับพระบรมรูปของเสด็จเตี่ยที่อยู่ใกล้ ๆ ที่สอบ ว่าขออย่าให้มีแดด ปรากฎว่า พอถึงตอนน้าชายต้องวิ่ง ก็มีเมฆก้อนใหญ่มาก มาบังพระอาทิตย์ไว้จนร่ม พอน้าชายวิ่งเสร็จ แดดก็ออกเหมือนเดิม ซึ่งช่วยน้าชายได้มากเพราะไม่ร้อน เลยสอบผ่านมาได้ แต่ก็แทบแย่ เพราะพอวิ่งเสร็จก็ล้มเลยต้องให้ออกซิเจนปฐมพยาบาลกัน นี่ถ้าแดดร้อนด้วยคงวิ่งไม่ครบ 800 เมตร แน่ ๆ ศรัทธาในพระองค์ท่านจริง ๆ
     
  17. chumpron

    chumpron Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +46
    เรื่องราวเขียนดีมาก ขอขอบคุณท่านมาก
     
  18. sirisanon

    sirisanon สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2009
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +1
    ขอบคุณครับ
     
  19. เล่งอ๋อง

    เล่งอ๋อง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    236
    ค่าพลัง:
    +147
    เคารพและนับถือเสด็จเตี่ยมากๆ..ค้าบ
     
  20. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524
    กราบโมทนาบุญสมเด็จเตี่ยด้วยความเคารพรักสูงสุด และขอขอบพระคุณเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ สำหรับเรื่องราวดีๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...