ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย พันวฤทธิ์, 29 พฤศจิกายน 2007.

  1. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    <TABLE cellSpacing=20 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>
    <TABLE class=attachtable cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD align=middle colSpan=2>
    [​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>เรื่อง...เสียงตบมือข้างเดียว

    เมื่อจิตรับอารมณ์ภายนอกแล้วไม่ยึดถือปรุงแต่งเป็นเราเป็นของเรา มีแต่สติปัญญาที่จะจัดการกับอารมณ์นั้นๆ อย่างถูกต้อง จิตก็สงัดจากอารมณ์ทั้งปวง เสมือนเสียงแห่งความเงียบของมือที่ตบข้างเดียว ที่ปราศจากมืออื่นมาตบด้วย. ความเงียบสงัดชนิดนี้จึงดังก้องอยู่ในใจ กลบเสียงของโลกแห่งการตบมือสองข้างเสียสิ้น นี่คือความระงับดับทุกข์ที่แท้จริง; และอาจประมวลมาเป็นคำกลอนดังนี้

    มือฉันตบข้างเดียวส่งเสียงลั่น
    เสียงมือฉันดังก้องทั้งโลกัย
    เสียงความว่างดังกลบเสียงความวุ่น
    เสียงสงบกลบเสียงทั้งโลกา
    เสียงของโลกดังเท่าไรไม่ได้ยิน
    เป็นเสียงซึ่งผิดเสียงอย่างสามัญ
    มือข้างเดียวตบดังฟังดูเถิด
    ไม่ยึดมั่นอารมณ์ใดไม่นำพา

    มือท่านตบสองข้างจึงดังได้
    เสียงมือท่านดังไกลไม่กี่วาฯ
    ทั้งมีคุณกว่ากันทางหรรษา
    หูของข้าได้ยินแต่เสียงนั้นฯ
    เพราะเหตุวิญญาณรับแต่เสียงนั่น
    เป็นเสียงอันดังสุดจะพรรณนาฯ
    แสนประเสริฐคือจิตไม่ใฝ่หา
    มันร้องท้าเย้ยทุกข์ทุกเมื่อเอยฯ
    </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD class=postdetails vAlign=bottom height=40>
    _________________
    ธรรมะคือธรรมชาติ</TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=17308
     
  2. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    <HR> <TABLE cellSpacing=20 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>
    ความจำเป็นตามกาลเวลา

    ในคราวคับขันต้องการคนกล้า ในคราวต้องปรึกษาต้องการคนที่ไม่พูดพล่ามเพรื้อ ในคราวมีข้าวน้ำต้องการคนอันเป็นที่รักในคราวมีเรื่องหนัก (คดี) ต้องการบัณฑิต

    ผู้ที่กล้าหาญย่อมไม่แสดงความกล้าอย่างพร่ำเพรื่อหรือก้าวร้าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ออ่นกำลังกว่า แต่ จะแสดงความกล้าให้ปรากฏเมื่อถึงคราวจำเป็น หรือ เมื่อมีอันตรายเกิดขึ้นแก่ตน แก่พวกพ้อง แก่ผู้ที่ตนรับผิดชอบ แก่สังคมหรือแก่ประเทศชาติธรรมดาก็อยู่เฉยๆ เรื่อยๆ บางคนในบางคราวมีอาการเสมือนหนึ่งว่าเป็นคนขลาดด้วยซ้ำไป แต่เมื่อถึงคราวจำเป็นที่ต้องแสดงความกล้าหาญ เขาจึงแสดงออกมา ทาวกายบ้าง ทาววาจาบ้าง ไม่กลังแม้แต่การสูญเสียชีวิต ทรัพย์ ยศ และสิ่งอันพึงหวงแหนทั้งหลายในการต่อสู้ ผู้กล้าหาญแท้จริงย่อมไม่เอาเปรียบคู่ต่อสู้เท่าๆ กับตนหรือเหนือกว่าตน

    ส่วนการพูดพล่ามเพรื้อเป็นลักษณะของคนอ่อนแอไม่รู้จักกาลเทศะและชุมชน

    ในคราวปรึกษาหารือย่อมต้องการคนพูดที่เป็นกิจลักษณะไม่ให้เสียเวลามาก เข้าประเด็น ไม่พูดให้เฉออกนอกทาง ที่ปรึกษาหารือกันอยู่ บางคนชอบพูดเล่นตลกคะนองเสียงเรื่อยไป ในการประชุมต้องการกฏเกณฑ์ของการประชุม ไม่ ใช่มีคนพูดแต่ไม่มีคนฟัง หรือใครอยากพูดอะไรก็พูดโดยไม่ต้องขอขอนุญาติ หรือได้รับการอนุญาติจากประธานในที่ประชุมเสียก่อน ถ้าเป็นเช่นนั้นวาระการประชุมก็ไม่มีระเบียบไม่เป็นที่ศรีสง่าแก่ที่ประชุม กลายเป็นการพูดเล่นของเด็กๆ แย่งกันพูดเสียงขรมไปหมด ในที่ประชุมหลายแห่งหลายกลุ่มบุคคลเป็นเช่นนี้

    ใน คราวมีข้าวน้ำต้องการคนอันเป็นที่รัก ข้อนี้เป็นธรรมดาของจิตใจคนที่มีของอันต้องใจ ก็ย่อมจะระลึกถึงคนอันเป็นที่พอใจ เป็นเหมือนๆ กันทุกคน ถ้าให้ได้ให้เผื่อแผ่คนอันเป็นที่รัก ตังผู้ให้ก็พอใจ ผู้รับ ถ้าใจตรงกันก็พอใจ

    ในคราวมีเรื่องหนักย่อมต้องการบัณฑิต บัณฑิตคือผู้มีปัญญา ดำเนินชีวิตด้วยปัญญา เมื่อ หนักใจไปหาท่านย่อมปลดเปลื้องความหนักใจให้ช่วยชี้แนวทางในการดำเนินชีวิต ให้ ช่วยตัดสินใจในสิ่งที่เราลังเล ช่วยให้เราได้พบช่องทาง ซึ่งเรามองไม่เห็นก่อน คนทั้งหลายเมื่อมีปัญหาย่อมต้องการผู้รู้ ผู้ฉลาด

    ขอขอบคุณ

    ข้อมูลที่มีคุณภาพ
    จาก หนังสือคติชีวิต
    แต่งโดยวศิน อิทสระ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=17905
     
  3. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="90%" align=center border=0><TBODY><TR><TD align=right width="70%"></TD><TD align=right></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=maintitle vAlign=top> ธรรมะเป็นอาวุธสำคัญที่กิเลสหวั่นไหวเกรงกลัว (หลวงตามหาบัว)</TD><TD class=gensmall vAlign=bottom align=right></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD noWrap></TD><TD class=nav width="100%"></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ธรรมะเป็นอาวุธสำคัญที่กิเลสหวั่นไหวเกรงกลัว
    เพราะรู้ทันกลอุบายของมัน
    ผู้ปฏิบัติจะมีความอิ่มแห่งธรรมเหมือนอิ่มอาหาร
    จะเข้าใจกันเอง ไม่ต้องถาม เพราะธรรมเป็นของอิ่มพอ
    แต่กิเลสมันไม่เคยมีความอิ่ม มันหิวกระหายอยู่เป็นนิจ

    คนเราถ้ามีกิเลสเต็มตัวแล้ว มันก็เหมือนหมูเราดีๆ นี่เอง
    กินแล้วนอนๆ จนอ้วนพีเขาก็นำไปขึ้นเขียงสับบั่นเท่านั้น
    ฉะนั้นผู้ปฏิบัติธรรมเขาจึงไม่เลี้ยงกิเลส เขาทำลายกิเลสทั้งนั้น

    พระอริยเจ้าทั้งหลายในอดีตที่ผ่านมา ท่านรู้ทันกิเลส
    เมื่อกิเลสโผนมา ธรรมะโผนไป
    กิเลสโหดร้าย ธรรมะโหดดี
    อยากรบต้องออกแนวรบ
    นักปฏิบัติคือนักรบ เป็นต้องเป็น ตายต้องตาย จึงจะเอากิเลสอยู่
    กิเลสมีเท่าไหร่ ธรรมต้องมีเท่านั้น
     
  4. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524
    เนื่องจากเดือนนี้มีวันพ่อ วันเกิดหนู วันเกิดของทุนนิธิฯ ขอร่วมบุญอีก 2222.22 บาทเพื่อช่วยค่าใช้จ่ายเดือนธันวาคมนี้นะคะ โอนแล้วเวลา 17.13 น.ค่ะ
     
  5. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    <TABLE cellSpacing=20 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>
    [​IMG]

    อุกกัฏฐกุศล คือ กุศลชั้นสูง

    หมายความว่า ในการกระทำกุศลใดๆ ก็ตามย่อมมีความตั้งใจในการกระทำเสมอ

    เจตนา อาจแบ่งออกได้เป็น ๓ ระยะ คือ

    บุพเจตนา ได้แก่ ความตั้งใจก่อนทำ
    มุญจเจตนา ได้แก่ ความตั้งใจขณะกระทำ
    อปรเจตนา ได้แก่ ความตั้งใจเมื่อได้กระทำแล้ว


    ถ้ากุศลมีความบริสุทธิ์อยู่ตลอดเวลา ไม่มีอกุศลเข้าเจือปนจัดว่าเป็น อุกกัฏฐกุศล

    คือกุศลชั้นสูง จะเป็นติเหตุกกุศล หรือทวิเหตุกกุศล ก็ตาม ก็จัดเป็นกุศลชนิด อุกกัฏฐะ

    ===========================================

    โอมกกุศล คือ กุศลชั้นต่ำ ได้แก่การกระทำกุศลที่มีอกุศลเจือปน เช่น

    ก่อนลงมือกระทำ มีความตั้งใจและเต็มใจกระทำ หากแต่ว่ากระทำไปด้วยความจำเป็นบังคับ หรือทำแข่งกันกับเขา หรือทำเพื่อหวังผลประโยชน์ เช่น ก่อนทำ คือบุพเจตนา เป็นไปโดยไม่บริสุทธิ์

    เมื่อทำไปแล้ว ก็ไม่เกิดโสมนัสใด กลับกลุ้มใจคิดเสียดายทรัพย์ หรือคิดถึงความต้องเหนื่อยยากลำบากต่างๆ ไม่ว่าทาน ศีล ภาวนา จะเป็นติเหตุกกุศล ก็ตาม หรือ ทวิเหตุกกุศล ก็ตาม ล้วนจัดเป็นกุศลชั้นต่ำ ชนิด โอมกะ

    ===========================================

    ตามเหตุผล จะเห็นว่า สำคัญอยู่ที่เจตนาในการกระทำ ๒ ประการ คือ

    บุพเจตนา และอปรเจตนา จะเป็นเครื่องวินิจฉัยว่ากุศลนั้นๆ จัดเป็น อุกกัฏฐกุศล หรือโอมกกุศล และในเจตนาทั้ง ๒ ประการนี้ อปรเจตนา มีความสำคัญมากกว่า เพราะอปรเจตนา เป็นเจตนาที่เกิดภายหลังการกระทำกุศล อาจเกิดได้เป็นเวลานาน

    * อปรเจตนานี้ ยังจำแนกออกไปเป็น อปราปรเจตนา ได้อีก หมายความว่าเมื่อทำกุศลเสร็จใหม่ๆ จัดเป็นอปรเจตนา แหละแม้การกระทำล่วงมาเป็นเวลานานหลายเดือน หรือหลายปี ก็ยังปีติโสมนัสอยู่ เช่นนี้ อปราปรเจตนา เป็นกุศล ชนิด อุกกัฏฐ


    http://www.abhidhamonline.org/boss_files/sangaha/104.htm
    </TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097

    มาแล้ว "แมวนางฟ้า" คนมีครูอาจารย์ดี ก็ย่อมมีกุศลชั้นสูง คอยประโลมใจ แม้ทุกข์ภัย ก็ยากจะแผ้วพาน ขอโมทนาและสาธุบุญกับ "แมวนางฟ้า" อีกครั้ง

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ns904.gif
      ns904.gif
      ขนาดไฟล์:
      6.5 KB
      เปิดดู:
      252
  7. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840


    ขอตอบแทนคณะกรรมการทุกท่านนะครับ
    สามารถโอนเข้าบัญชีร่วมบุญได้ครับ
    งานบุญเพื่อสงเคราะห์พระสงฆ์อาพาธนี้จะทำต่อไปเรื่อย ๆ ไม่สิ้นสุดครับ
    และทางทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร จะมีการทำบุญทุก ๆ เดือนครับ
    หากอยู่ใกล้ๆ ขอเชิญมาร่วมทำบุญด้วยตนเองก็ได้ครับที่โรงพยาบาลสงฆ์
    ในเดือนนี้ก็จะครบรอบ 1 ปี ของทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร
    ซึ่งจะร่วมทำบุญกันในวัน อาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม 2551


    ขอโมทนาบุญกับจิตที่เป็นกุศลของคุณ ms-bluemoon ครับ
    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  8. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524
    นิทานเรื่อง 'ตะเกียงวิเศษ'
    โดยดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา

    กาลครั้งหนึ่งมีชายหนุ่มคนหนึ่งขุดพบตะเกียงเก่าแก่อันหนึ่งในขณะที่เขากำลังทำสวนอยู่ พอเขาเอามือถูตะเกียง ก็ปรากฏว่ามีควันออกมาจากตะเกียงแล้วกลายเป็นยักษ์ตัวใหญ่ ยักษ์ตนนั้นพูดกับชายหนุ่มว่า

    '
    ขอบใจที่ได้ช่วยให้ฉันเป็นอิสระฉันจะตอบแทนท่านโดยรับใช้ท่าน ท่านจะใช้อะไรฉันก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่าเมื่อไรที่ท่านหยุดใช้ฉัน ฉันก็จะกินท่าน[FONT=MS
    Sans Serif]' [/FONT]


    ชายหนุ่มก็ตกลงเพราะเขาเห็นว่าการมีคนรับใช้เป็นเรื่องที่ดีและเขาก็มั่นใจว่า เขาจะใช้ยักษ์ตนนี้ให้ยุ่งอยู่ตลอดเวลาได้ ดังนั้นเขาจึงตอบตกลงยักษ์นั้นจึงถามว่า 'นายต้องการให้ฉันรับใช้เรื่องใดบ้างแต่อย่าลืมนะถ้านายหยุดใช้ฉันเมื่อใด ฉันก็จะกินนาย'ชายหนุ่มคนนั้นตอบว่า'ฉันต้องการวังหลังหนึ่งเพื่อฉันจะได้เข้าไปอยู่'

    ทันใดนั้นยักษ์ก็เนรมิตวังหลังหนึ่งได้ ชายหนุ่มตกใจเพราะเขานึกว่ายักษ์คงใช้เวลาสักปีกว่าจะสร้างวังเสร็จทีนี้เขาต้องคิดอย่างรวดเร็วว่าจะขอให้ยักษ์ทำอะไรต่อไปดี เขาบอกยักษ์ให้ 'สร้างถนนกว้างๆ ไปถึงหน้าวัง[FONT=MS Sans
    Serif]' [/FONT]ทันใดนั้นถนนก็ปรากฏอยู่ต่อสายตาเขา 'ฉันต้องการสวนล้อมรอบวัง' เขาสั่งต่อไป

    ทันทีความต้องการของเขาก็ปรากฏต่อหน้าเขา'ฉันต้องการ.....'เขาก็ขอไปเรื่อยๆแต่เขาเริ่มต้นวิตกว่าอีกไม่ช้าเขาก็จะขอจนหมดแล้วและอีกอย่างเขาคงเข้าไปอยู่ในวังอย่างผาสุกไม่ได้เพราะเขาต้องคอยมานั่งสั่งยักษ์ให้ทำงานตลอดเวลา

    ในที่สุดเขาก็คิดหาทางออกได้ เขาขอให้ยักษ์สร้างเสาต้นหนึ่งให้สูงสุดซึ่งยักษ์ก็เนรมิตให้ทันทีทันใด เขาขอให้ยักษ์ปีนเสาต้นนี้ช้าๆไปถึงยอดแล้วให้ปีนลงมาช้าๆ เช่นกัน พอถึงพื้นก็ให้ปีนขึ้นไปบนยอดใหม่อีกครั้งแล้วให้ปีนขึ้นปีนลงเช่นนี้ตลอดเวลาไม่ให้หยุดเลย

    ยักษ์ตนนั้นก็เลยต้องปีนขึ้นปีนลงตลอดเวลาตามคำสั่งของนาย

    ชายหนุ่มจึงเริ่มหายใจได้ทั่วท้อง ขณะนี้เขาปลอดภัยแล้วชายหนุ่มมีเวลาที่จะเข้าไปอยู่ในวังอย ่างมีความสุขตั้งแต่นั้นมา

    ยักษ์ตนนี้เปรียบเสมือนความคิดและจิตใจของเราถ้าเรารู้จักใช้ความคิดของเรา และควบคุมความคิดของเราให้ดีเราจะได้รับผลดีจากความคิ ดของเรา

    ถ้าเราต้องการจะทำอะไรให้ดีให้ถูกต้องเราต้องควบคุมจิตใจของเราให้สงบเหมือนกับชายหนุ่มในนิทานที่สามารถควบคุมยักษ์ตนนั้นได้และสามารถทำให้ความต้องการของเขาลุล่วงสำเร็จได้

    ถ้าเราควบคุมความคิดของเราไม่ได้ มันจะสร้างปัญหาให้กับเราเราจะเริ่มต้นนั่งคิดว่าจะไปซื้ออะไร จะไปกินอะไรดี หรือจะไปเที่ยวไหนดี ฯลฯความต้องการจะครอบคลุมจิตใจของเรา ครอบคลุมอารมณ์ของเรา เราจะหวั่นไหวต่อความโลภความโกรธและความอิจฉา เป็นต้นสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นถ้าเราไม่รู้จักควบคุมความคิดของเราเช่นเดียวกับยักษ์ตนนั้นที่ข่มขู่ชายหนุ่มตลอดเวลา

    เราต้องควบคุมความคิดของเราตลอดเวลาชายหนุ่มคนนี้ใช้ให้ยักษ์ปีนขึ้นลงที่เสาสูงต้นนั้นเราก็สามารถใช้ลมหายใจเข้าออกของเราซึ่งอยู่กับเราตลอดเวลานั้นเป็นเสาสูงแทน


    หมายเหตุ :: นิทานเรื่องตะเกียงวิเศษนี้คัดมาจากหนังสือวิทยาศาสตร์ของการฝึกจิตของ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา

     
  9. atha

    atha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    644
    ค่าพลัง:
    +2,664
    ร่วมสมทบทุนมูลนิธิเดือนธันวาคม จำนวน 300 บาทครับ โอนเมื่อเวลา 09.37 น.
     
  10. ชิน9

    ชิน9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +247
    สวัสดีครับทุกท่าน ผมได้โอนเงินบริจาคจำนวน 2,000.-บาท

    4/12/2551 14.39.18น 1702 1462a


    ด้วยบุญอุทิศนี้ให้อาม่า,ป๋า,แม่,อาโกว,ชิน9,น้องๆ,หลานๆ,เพื่อนๆ,บริวาร,ผู้มีพระคุณ,ครู,อาจารย์,คนไทยทุกคน,ลูกค้าทุกคน

    ขอเชิญเพื่อนๆมาร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกันนะครับ
     
  11. nathaphat

    nathaphat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +750
    เมื่อวาน 8/12/51 16.16น. TMB T002B157
    โอนเงินร่วมทำบุญ 200 บาทครับ

    อนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ
     
  12. ไชยชุมพล

    ไชยชุมพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +1,873
    วันนี้คุณแม่ร่วมฝากเงินเข้าบัญชีทุนนิธิฯ จำนวน 500 บาทประจำเดือนนี้แล้วครับ ขอบคุณครับ
     
  13. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    วันนี้เวลา 18.26น.ผมได้โอนเงินจำนวน 400บาทเข้าบัญชี bay 3481232459 pratom f.เพื่อร่วมทำบุญสงฆ์อาพาธประจำเดือนธันวาคม51ครับ
     
  14. Wat Pa Gothenburg

    Wat Pa Gothenburg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    920
    ค่าพลัง:
    +260
    บุญกุศลใดหากเกิดขึ้นแล้วมีขึ้นแล้ว...ขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลายที่ร่วม เกิด แก่ เจ็บ ตาย อยู่ในวัฎสงสารนี้
    จงเป็นผู้มีส่วนแห่งบุญกุศลนี้ด้วย หากตกทุกข์ก็ขอให้พ้นจากทุกข์ ..หากถึงสุขแล้วก็ขอให้สุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป ​
     
  15. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    วันนี้(10/12/51)

    ผมและญาติ ๆ ได้ร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ จำนวนเงิน 3,000 บาท

    โดยได้โอนเงินทางอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้ง เวลา 13:37 น. แล้วครับ

    .อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่า ไม่รู้ ไม่มี ไม่สำเร็จ จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด <!-- / message --><!-- sig -->
     
  16. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097

    ผมมองดูเฮียปอมานานแล้ว เฮียเป็นยอดคนจริงคนหนึ่งเชียวครับ โมทนาและสาธุบุญด้วยครับ รักษาความกล้าแข็งเด็ดเดี่ยวแห่งจิตที่ตั้งมั่นในบุญนี้ไว้น๊ะครับตั้งใจขอให้เอาบุญนี้หนุนส่งให้สำเร็จในชาตินี้ให้ได้ครับ
     
  17. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="90%" align=center border=0><TBODY><TR><TD align=right width="70%"></TD><TD align=right></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=maintitle vAlign=top> เป็นคน.... อย่าเป็นคนดี (หลวงพ่อชา สุภัทโท)


    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​

    พุทธศาสนาเป็นเรื่องของการ
     
  18. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    วันนี้ยังทำงานอยู่ระยองแต่ตอนเช้าแวบหาความสงบเลยไปกราบพระมา 2 องค์ ๆ แรก ท่านอาจารย์เราที่วัดมาบจันทร์ เพื่อไปเอาพระพิมพ์ที่ฝากเสกจากอินเดีย สำหรับจะมอบให้ผู้ที่ทำบุญผ้าห่มหนาว ได้มาเกือบ 20 องค์แตกไป 1 องค์ ปลอดคนเพราะเหลือเราคนเดียว เลยถามว่าพระอาจารย์เสกยังไง ท่านบอกวางไว้ใต้ต้นศรีมหาโพธิ์เฉยๆ ตั้งจิตอธิษฐานขอพรให้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ และพระสมณโคดมเป็นที่สุด เท่านั้นละลงมาเป็นสายๆๆๆลงมาไม่หยุดเรืองรองไปหมด ใครทำผ้าห่มหนาวไว้รอรับแล้วกัน เหลือ 18 องค์ ผมเอาไว้องค์หนึ่ง ที่เหลือแจกให้ผู้ทำบุญผ้าห่ม พร้อมชายผ้าอังสะ รูป และพระสมเด็จปัญสิริครับ

    เสร็จแล้วตรงดิ่งไปหาท่านหลวงพ่อ สพพฤกษ์ ปภัสสโร วัดสมเด็จองค์ปฐม ที่แกลง เข้าวัดกราบพระประธานสมเด็จองค์ปฐม ขนตั้งชี้เลยเรา พอท่านเจอหน้าเรา ร้องทัก ..อ้อ ท่านองค์ปฐมพามา แถมบอกว่าชีวิตเราน๊ะอยู่ได้ด้วยท่านกุกกุธสันโธน๊ะ บุญที่ช่วยสงฆ์อาพาธน๊ะช่วยไว้ไม่งั้นไปแล้ว ท่านบอกดีแล้วให้ทำต่อไป ช่วยชีวิตพระสงฆ์ป่วยน๊ะ ต่อชีวิตได้อีกน๊ะ ท่านให้พรพร้อมเทศนาอีกราว ครึ่งชั่วโมง ขากลับท่านเดินมาส่งเราถึงรถพร้อมผ้าขาวและแม่ชีอีก 2 คน ยืนจ้องและยิ้มให้เรา เรามองกระจกหลัง ขนาดขับมาไกล ท่านยังยืนจ้องอยู่อีก ฉุกใจ คิดได้ว่า ทะเบียนรถประจำตัวเราที่ขับมา 5270 อยากจะลองดูสักทีเผื่อขลัง ถ้าไม่ใช่อย่าว่ากันนา...ลองดูครับ ของงี้บุญใครบุญมัน คำเทศนาของท่านนั้น ท่านให้ยึดมั่นในศีล 5 เป็นหลัก และขอให้ทางทุนนิธิฯ ได้ทำบญกับนาที่ดีคือพระอริยะเจ้าตั้งแต่โสดาบันขึ้นไป และกำชับด้วยว่า ขอให้เอานิพพานเป็นอารมณ์สถานเดียว เทวดา อินทร์ พรหม ไม่ต้องสนใจ ขอไม่มาเกิดอีกแล้วพอกันทีเรื่องภพ เรื่องชาติ ครับ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2008
  19. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524
    พรุ่งนี้ถึงวันที่14 จะไปทำบุญ บวงสรวงที่เชียงแสนและดอยตุง กลับมาจะมาเล่าให้ฟังนะคะ
     
  20. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    ร่วมบุญทุนนิธิฯ 500.00 บาทค่ะ (โอนเงินเข้าบัญชีแล้ว เมื่อเวลา 8.15 น.ค่ะ)

    โมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยค่ะ


    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...