ปิดรับบริจาค เชิญร่วมทอดผ้าป่าเว็ปพลังจิตสร้างบันไดนาคเจ็ดเศียรขึ้นกราบสมเด็จองค์ปฐมกับหลวงพี่เล็ก

ในห้อง 'ในนามเว็บพลังจิต' ตั้งกระทู้โดย DevilBitch, 11 พฤศจิกายน 2005.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,328
    รูปในงานบางส่วนจากพี่ตั้มค่ะ

    [​IMG]

    ต้นผ้าป่าที่จัดทำไปถวาย

    [​IMG]


    รูปหลวงพี่แสงชัย เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ถ้ำทะลุ
    (องค์ที่ 2 นับจากทางซ้าย)


    [​IMG]

    รูปหลวงพี่เล็ก ประธานฝ่ายสงฆ์ (องค์ที่ 1
    นับจากทางซ้าย
    )​


    [​IMG]

    ชาวคณะพลังจิตกำลังนับเงินทำบุญ



    [​IMG]
    รูปยายผีป่า (คนยืนใส่แว่น เสื้อขาว ทางซ้ายมือ)
    อีกคนเสื้อขาวข้าง ๆ (ใส่แว่น) คือ คุณพี่กวางน้อย ค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00023.JPG
      DSC00023.JPG
      ขนาดไฟล์:
      138.6 KB
      เปิดดู:
      677
    • DSC00025.JPG
      DSC00025.JPG
      ขนาดไฟล์:
      135.9 KB
      เปิดดู:
      639
    • DSC00027.JPG
      DSC00027.JPG
      ขนาดไฟล์:
      143.5 KB
      เปิดดู:
      619
    • DSC00028.JPG
      DSC00028.JPG
      ขนาดไฟล์:
      156.9 KB
      เปิดดู:
      607
    • DSC00029.JPG
      DSC00029.JPG
      ขนาดไฟล์:
      149.6 KB
      เปิดดู:
      586
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ธันวาคม 2005
  2. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    อิอิ...หนุ่มที่เห็นต้นคอ กับหนุ่มที่นั่งแบบตูจะช่วยอะรัยได้หว๋า น่ะครัยกันน่ะ
     
  3. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171

    อะฮ้อย...อะฮ้อย....รับประทานลูกยอไปหลายผล อิ่มแปร้เลยเรา...ขอบคุณนะครับที่ส่งลูกยอมาให้น่ะ

    ว่าแต่ "ชมรมเกลียมัว" เนี่ย คงยังอีกนานกว่าจะได้เป็นสมาชิก ...และถึงเป็นสมาชิกก็คงไม่อาจเอื้อมแย่งชิงตำแหน่ง "ประธาน" จากพี่ติ๊กหรอกครับ ...ข้าฯ น้อยมิกล้า....(b-green)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ธันวาคม 2005
  4. kiatkiat

    kiatkiat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    665
    ค่าพลัง:
    +826
    สวัสดีทุกท่านครับ ขออนุโมทนากับทุกท่านที่ได้ร่วยบุญในครั้งนี้ด้วยนะฮะ
    ขอบคุนพี่ตั้ม คุนยาย พี่ตุ่น พี่โยโย่ และทุกๆท่านด้วยครับ มีโอกาดศคงได้เจอกันนะครับ
     
  5. GARU

    GARU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    320
    ค่าพลัง:
    +1,283
    สาธุเสียดายตื่นไม่ทัน จุ๊บๆๆๆให้ป้าผีป่าล่วย
     
  6. Chayaporn

    Chayaporn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +4,641
    อยากจะบอกว่า ไม่เคยไปทำบุญที่ไหนแล้วชุ่มชื่นใจเท่านี้มาก่อนค่ะ
     
  7. ปภา

    ปภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +320
    สวัสดีค่ะ ยายผีป่า
    ขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ คิดจะโทรไปหายาย แต่ก็อยากให้พักหายเหนื่อยก่อน ดีใจมากเลยค่ะ ที่ยอดเงินทำบุญได้สูงขนาดนี้ หากมีโอกาสโอ๋ก็จะร่วมทำบุญไปทุก ๆ งาน...ขอให้ยายสุขภาพแข็งแรง กลับสู่สภาวะปกติเร็ว ๆนะคะ จะได้เริ่ม project ใหม่ ๆ อีก...

    โอ๋ (หทัยทิพย์) และ พี่รุ่ง

    ** สมัครสมาชิกกองทัพฯแล้วเด้อค่ะ
     
  8. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    มาเล่าต่อจากคราวที่แล้วครับ....

    คณะของเราไปถึงสำนักสงฆ์ประมาณ 12.30 น. พอไปถึงก็เห็นหลวงพี่เล็กท่านนั่งเป็นประธานสงฆ์ และมีคณะสงฆ์นั่งเรียงลำดับอยู่ประมาณ 12 รูป มองเห็นคณะของพี่ติ๊กกำลังรับพระและสีผึ้ง (มหาเสน่ห์...อันนี้ผมต่อให้เอง) จากหลวงพี่เล็กอยู่ ผมและเพื่อนๆ ที่เดินทางร่วมกันก็นำต้นผ้าป่ามาตั้งและนำซองผ้าป่ามาแกะซองนับเงินเพื่อเตรียมถวายต่อไป ขณะเดียวกัน ก็รออีก 2 ขบวนที่กำลังเดินทางมาด้วยใจตุ๋มๆ ต่อมๆ ว่าจะมาทันหรือไม่ เพราะหลวงพี่เล็กท่านชอบทำอะไรตรงเวลา ได้ยินเสียงท่านบอกเวลาว่าเหลืออีก 6 นาที เราก็ลุ้นใหญ่ว่าอีก 2 ขบวนจะมาทันมั้ย ปรากฏว่ามาทันเวลาแบบฉิวเฉียด แต่ในที่สุดก็เลยเวลาทำพิธีไปนิดหน่อย เนื่องจากเครื่องเสียงที่นำมาใช้ เสียงไม่ค่อยดัง กว่าจะแก้ไขได้ก็กินเวลาไป 4 - 5 นาที


    เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว หลวงพี่เล็กก็กล่าวสัมโมทนียกถาว่า การทำบุญทอดผ้าป่าครั้งนี้ เป็นการทำบุญถึงขั้นตัดชีวิต เพราะระยะทางที่ไกล ระหว่างเดินทางอาจเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ แต่ทุกคนก็ดั้นด้นมาด้วยความตั้งใจ การทำบุญสร้างบันไดนาคราชครั้งนี้เปรียบเสมือนการสร้างบันไดไปพระนิพพานเพื่อกราบนมัสการสมเด็จองค์ปฐม ถือเป็นมหากุศลยิ่งนัก ...ฯลฯ (จำไม่ได้แล้วครับ...) หลังจากนั้นท่านก็ให้ศีล และนำกล่าวถวายผ้าป่า โดยมีหลวงพี่แสงชัย เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ถ้ำทะลุ เป็นผู้รับผ้าป่า


    พอเสร็จพิธี หลวงพี่เล็กก็กลับทันทีเนื่องจากมีกิจธุระอีกที่หนึ่ง ส่วนชาวคณะก็ใจจดใจจ่อรอฟังยอดทำบุญว่าจะได้สักเท่าไร ในที่สุด... ก็ทราบจำนวนในครั้งแรกว่าได้ 254,843 บาท ทีนี้ละ...เกิดมหกรรมทำบุญแบบ "ระห่ำ" (ขอยืมศัพท์มาจากน้องคนหนึ่งในคณะของพี่ติ๊ก) มหกรรมที่ว่านี้เป็นยังไงน่ะเหรอ... ลองติดตามดูสิครับ...


    หลายๆ ท่านคงจะเคยได้ยินเรื่องการถวายทานด้วยรวงผึ้งของพระสิวลีมาบ้างไม่มากก็น้อย การถวายทานครั้งนั้น เป็นการถวายทานเป็นคนสุดท้าย และเป็นสิ่งที่เขาต้องการ จึงทำให้ได้อานิสงส์มาก มีโชคลาภมาก ....นี่เองจึงเป็นที่มาของการทำบุญแบบระห่ำในครั้งนี้ พวกเราชาวคณะทอดผ้าป่า ต่างมะรุมมะตุ้มแย่งกันขอทำบุญปิดยอดเป็นคนสุดท้าย ปิดแล้วปิดอีก ปิดไม่ลงเสียที เพราะพอมีคนทำบุญปิดท้ายเมื่อไร ก็จะมีอีกคนเกปิดทับอีกที ยอดก็เพิ่มสูงขึ้นทีละนิดๆ จนคุณปูเป้..หัวเรือใหญ่คณะของพี่ติ๊ก ใช้ไม้เด็ด ประกาศว่า ถ้าแน่จริง อยากทำบุญปิดยอดให้ทำมาเลยหลักหมื่น หลักแสน ... คำประกาศของคุณปูเป้ ทำให้ชาวคณะอึ้งและชงักไปเล็กน้อย...ขอบอก ..เล็กน้อยจริงๆ เพราะต่อจากนั้นก็ยังมีการเกปิดทับกันไปเรื่อยๆ เป็นที่สนุกสนานงานบุญกันอย่างยิ่ง พี่ติ๊กคงอดทนดูน้องๆ ได้บุญเยอะๆ กันไม่ได้ ก็เลยขอเกปิดทับมั่ง พูดเสียงดังฟังชัด ขอทำบุญ 500 บาท ครับ 500 บาท....พร้อมกับควักแบงค์ 1,000 บาท ออกมาดังหนึบ ผมเองต้องรีบเข้าไปรับพร้อมกับโมทนาบุญด้วยความยินดียิ่ง


    อะฮ้า....พี่ติ๊กที่เคารพ...อ้อยเข้าปากช้างแล้ว ย่อมยากที่จะดึงกลับคืนมา ฉันใดก็ฉันนั้น คุณปูเป้เธอรีบประกาศทันทีทันใดว่า "ไม่มีการทอนค่ะ" พี่ติ๊กผู้ซึ่งมีใจใฝ่ทำบุญทำกุศลอยู่แล้วก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง เอ้า..1,000 ก็ 1,000 เล่นเอาชาวคณะได้เฮกันลั่น ต่างก็โมทนาบุญกับพี่ติ๊กกันยกใหญ่ การเกทับทำบุญปิดยอดยังคงดำเนินไปจาก 254,843 บาท ขยับมาเป็น 258,500 บาท ...259,500 บาท ....และ 260,620 บาท จนในที่สุดก็สามารถปิดยอดได้ลงตัวที่จำนวนเงิน 262,500 บาท


    หลังจากมหกรรมทำบุญแบบระห่ำผ่านพ้นไป คราวนี้รายการสนทนากับหลวงพี่แสงชัยและท่านเณร หลวงพี่แสงชัยได้กรุณาเล่าเรื่องต่างๆ มากมาย จนมาถึงช่วงหนึ่งได้มีการพูดกันถึง "ไม้เพื่อนต้น" (รายละเอียดคงต้องขอให้ท่านที่ได้ยินได้ฟังอย่างชัดเจนมาเล่าให้ฟังอีกทีหนึ่งครับ) และท่านเณรก็ได้กลับไปยังสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี เพื่อนำ "ไม้เพื่อนต้น" มาให้พวกเราชาวคณะได้ชมและขอบารมีกัน


    ระหว่างที่รอชม "ไม้เพื่อนต้น" หลวงพี่แสงชัยได้นำชาวคณะพลังจิต เดินขึ้นไปกราบนมัสการสมเด็จองค์ปฐมบนถ้ำทะลุ และได้เล่าเรื่องราวความเป็นมาต่างๆ ของการสร้างสมเด็จองค์ปฐมปางกายมนุษย์และการนำสมเด็จองค์ปฐมขึ้นประดิษฐานบนถ้ำ และชี้ให้ดูจุดที่ควรสร้างบันไดนาคราช เพื่อไม่ให้ใช้งบประมาณในการก่อสร้างมากเกินไป


    การเดินขึ้นถ้ำนี้ ตอนแรกก็ดูว่าไม่น่าจะยากลำบากอะไร เป็นทางเรียบๆ ค่อยๆ ลาดชันขึ้นทีละน้อยๆ ไต่ระดับความสูงขึ้นไปทีละหน่อยๆ จนใกล้ถึงปากทางขึ้นถ้ำ ทีนี้ละ เริ่มชันมากขึ้น พื้นดินก็ลื่นๆ นี่ขนาดว่าไม่ใช่น่าฝนนะ เดินแล้วยังเกรงว่าจะไหลหล่นกลิ้งลงไปกองอยู่ข้างล่าง ต้องคอยจับคอยเกาะต้นไม้ ต้นไผ่ ที่ขึ้นริมทางกันไม่ให้พลาดหล่นลงไป ตอนนี้ ชาวคณะเริ่มเหนื่อยกันแล้ว แม้ระยะทางจากข้างล่างถึงปากถ้ำจะไม่มากนัก แค่ระยะทางประมาณ 200 เมตรกว่าๆ ก็ทำเอาพวกเราหอบกันไปเหมือนกัน จากที่เดินเรียงแถวเกาะกลุ่มกันดีๆ เริ่มทิ้งช่วงห่างกันออกไปตามกำลังวังชาของแต่ละคนที่มีอยู่ ... เริ่มเห็นแล้วว่า "สังขารไม่เที่ยงจริงๆ" เมื่อ 4-5 ปี ก่อน เดินขึ้นภูกระดึงได้อย่างสบายมาก พอมาปีนี้ เดินแค่นี้ชักเหนื่อยแฮะ... แต่หลวงพี่แสงชัยของเรานี่สิ ก่อนขึ้นถ้ำมา ท่านเพิ่งบอกว่า สุขภาพร่างกายของท่านไม่ค่อยดี มีโรคประจำตัว กลับเดินนำหน้าลิ่วเลย เห็นอย่างนั้น เลยทำให้ต้องรีบจ้ำตามท่านขึ้นไปติดๆ


    โห...พอขึ้นไปถึงบนถ้ำ ...เหนื่อยจนพูดไม่ออก หายใจหายคอแทบไม่ทัน ต้องนั่งพักตากลมสักครู่หนึ่ง หลวงพี่พูดอะไร เราก็ได้แต่ "ครับ...ครับ" พูดมากกว่านั้นไม่ได้ ปากคอแห้งไปหมด เมื่อหลวงพี่แสงชัยเห็นว่า คณะของเราขึ้นมากันหมดแล้ว (มีบางคนขึ้นไม่ไหว เดินกลับลงไปก่อนบ้างแล้ว) ท่านก็นำพวกเรานั่งสมาธิกันชั่วระยะเวลาหนึ่ง เสร็จแล้วก็เดินกลับลงมาข้างล่าง ตอนลงนี่ หลายคนคงนึกว่าสบาย แต่ที่ไหนได้ ด้วยความที่ทางเดินเป็นทางลาดชัน ทำให้การเดินลงตรงๆ ทำได้ลำบาก ต้องเดินเบี่ยงๆ หรือตะแคงตัวเดินลงมา เพื่อกันไม่ให้ลื่นไถลลงมาเร็วกว่าที่ควร

    ทราบในภายหลังว่า มีหลายคนที่ไม่มีโอกาสได้ขึ้นไปกราบนมัสการสมเด็จองค์ปฐมบนถ้ำ ขึ้นไม่ไหวเพราะกำลังตั้งครรภ์บ้าง ขึ้นไปแล้วครึ่งทางแต่เห็นท่าไม่ไหวจึงกลับลงมาบ้าง สุขภาพไม่เอื้ออำนวยบ้าง ก็รู้สึกเสียดายแทน...


    ยิ่งไปได้เห็น ไปสัมผัส ทางเดินขึ้นถ้ำว่า มีความลำบากยากเข็ญประการใด ทั้งๆ ที่ไม่ใช่หน้าฝน ยิ่งทำให้นึกถึงว่า ถ้าเป็นหน้าฝน หนทางขึ้นไปบนถ้ำคงมีความยากลำบากมากกว่านี้หลายเท่า ยิ่งนึกก็ยิ่งมีกำลังใจมุ่งมั่นที่จะสร้างบันไดนาคราชนี้ให้สำเร็จให้ได้โดยเร็ว เพื่อให้ผู้ที่จะขึ้นไปกราบสมเด็จองค์ปฐมสามารถเดินขึ้นไปได้อย่างสะดวกสบาย ....


    พอกลับลงมาข้างล่าง ปรากฏว่าท่านเณรได้กลับมาพร้อมกับ "ไม้เพื่อนต้น" แล้ว และท่านก็ได้เมตตาให้ชาวคณะเข้าไปขอพรได้คนละ 3 ข้อ ผมก็ไม่พลาดที่จะเข้าไปขอพรเหมือนกัน แถมยังมีแถมรอบที่ 2 เมื่อท่านเณรท่านบอกว่า "ใครต้องการให้การเจริญพระกรรมฐานดี ให้มาขอพรได้" ผมก็ไม่รอช้าทันที สอบถามจากเพื่อนๆ ว่า ขอพรอะไรกันบ้าง ก็ได้ความว่า ส่วนใหญ่ขอเหมือนๆ กัน (ก็ลูกหลานหลวงพ่อด้วยกันนี่นา) บ้างก็ขอพระโพธิญาณ บ้างก็ขอพระนิพพาน เป็นข้อแรก ส่วนข้อต่อไปก็ขอให้รวย ๆ ๆ .... เหมือนกันเด๊ะเลย ส่วนข้อที่ 3 นี่ ก็แตกต่างกันไปแล้วแต่ความต้องการของแต่ละคน


    คณะของเราอยู่สนทนาต่อกับหลวงพี่แสงชัยและท่านเณรได้อีกครู่ก็อำลากลับ เพราะสี่โมงเย็นกว่าแล้ว ขากลับต้องใช้เวลาอีกหลายชั่วโมง และก็เริ่มหิวข้าวกันแล้วด้วย เนื่องจากตอนเที่ยงไม่ค่อยได้ทานอะไรกันสักเท่าไร พอถึงบริเวณน้ำตกไทรโยคน้อย คณะของเราก็แวะพักรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน และแวะซื้อขนมของขบเคี้ยวติดไม้ติดมือไปฝากคนที่บ้านกันตามสมควร


    กลับถึง กทม. ประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง ก็แยกย้ายกันกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ ... เป็นอันจบภาระกิจร่วมทำบุญทอดผ้าป่ากันแต่เพียงเท่านี้....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2005
  9. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,328
    [​IMG]

    พี่มีชักภาพบรรยากาศร่มรื่นบนถ้ำมาอวดด้วย
    ทำเอาคนพลาดงานนี้ใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ เลยค่ะ
     
  10. kungit

    kungit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +766
    ก่อนอื่น อยากจะขอสารภาพผิด เคยคิดว่า พี่เอื้อมเดือน หรือ ยายผีบ้า...สมัยก่อนอ่านอย่างนี้จิง..นะ...(YAI PEE BA..ไม่แน่ใจว่าเขียนอย่างนี้หรือเปล่า) นี่เป็นคนยังไงนะ ชอบตั้งกระทู้ให้คนอื่นเข้ามาด่าตัวเอง เช่น เออ!...ตามมาทำไม..ถ้าไม่รักยายผีป่า?!! (แสดงว่ามีคนไม่รักเยอะนะเนี่ย..คิดเอาเองค่ะ) ตั้งแต่เข้าเวปนี้มาขอบอกว่า ไม่เคยเข้าไปอ่านกระทู้ของคุณยายเลยจริงๆนะ...จนมาร่วมคณะของพี่ตั้ม ก็ยังไม่ได้สังเกตว่าคุณยายเป็นหัวหลักหักตอของงานนี้ล่ะ....ขออำภัยไว้ ณ ที่นี้นะเจ้าคะ

    ตอนอยู่ในรถ เห็นพี่ตั้มบรรยายสรรพคุณถึงคุณเอื้อมเดือน เราก็..เอ๊ะ..ใครน่ะ แล้วก็เพิ่งมาถึงบางอ้อก็ในรถนี่แหล่ะ

    ตัวจริงของคุณยายผอมมม....ซะจน ดูไม่ออกว่าซีดเซียวหรือเปล่า...(เข้มจนมองไม่ชัดเจ้าค่ะ)

    แต่ขอโทษ....ใจไม่ดำอย่างตัวนะจะบอกหั้ย.....

    คุณยายใจดีมั๊ก...มั๊ก...ก็ทั้งตอนอยู่ที่บ้านและที่สำนักฯ...คุณยายมีอะไรเล่นยกให้ทุกอย่างเลย....แถมฮาซะไม่มีอ่ะ...

    รู้สึกดีใจมากเลยที่ได้ไปร่วมทริปนี้ด้วย....(แต่มีผู้โดยสาร 5 คนเกือบตกรถ ก็จำได้ว่านัดกันไว้หน้า โรงเรียนหอวัง..BUT..คุณพี่ตั้ม..ดั๊นให้รถจอดรอไว้ที่รั้วโรงเรียน แถมมีรถคันอื่นจอดบังอยู่ข้างหน้าอีก...กว่าจะเจอกัน..ผู้โดยสารทั้งห้าก็ยืนท้าลมหนาวอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง..แถม ท่านรปภ. ก็ออกมาพูดว่าอย่าเดินเพ่นพ่านเข้ามาใน ร.ร.สิ)
    สนุกมากเลยค่ะ ตั้งแต่นั่งลุ้นคุณลุงคนขับรถว่าจะสะสมรถที่ขับมาตามหลังได้กี่คัน และ....(ตามที่ผู้ร่วมคณะทั้งหลายได้เล่ามาล่ะค่า)

    กุ้ง-ไอที
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ธันวาคม 2005
  11. พงศ์

    พงศ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +845
    ได้อ่านเรื่องที่ไปทอดผ้าป่า แล้วชื่นใจ
    (ไว้มีโอกาสผมคงได้ไป)

    "ไม้เพื่อนต้น" มีลักษณะเป็นอย่างไรครับ มีรูปให้ดูไหมครับ
     
  12. first

    first เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +4,990
    555**1

    (bb-flower
    ไม้เพื่อนต้น...มีลักษณะเหมือนคทาหัวและปลายหุ้มทองเหลือง...มีพระปรมาภิไทยจารึกพระนามจปร....มีอานุภาพ คูณสองคือเป็นบารมีของพระใหญ่และรัชกาลที่5 จะ.....ใช้ได้ทั้ง2ด้านโดยเฉพาะด้านปลายจะเป็นมหาลาภใหญ่....เอาแค่นี้พอนะ
     
  13. พงศ์

    พงศ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +845
    "ไม้เพื่อนต้น" เป็นสิ่งของที่รัชกาลที่ 5 พระราชทานแก่ผู้ที่พระองค์พบ และได้ให้ความช่วยเหลือ(อย่างเช่นให้ที่พัก) ในคราวเสด็จประภาสต้น และผุ้ที่ได้รับพระราชทานสิ่งของดังกล่าว พระองค์ก็จะเรียกว่า เพื่อนต้น (หมายความว่า เพื่อน ตอนเสด็จประภาสต้น)

    ผมไม่แน่ใจนะครับว่าผมเข้าใจถูกหรือเปล่า

    คุณ first ครับ เขาเล่าว่ามีลูกสาวพญานาคไปหา หรือครับ โชคดีจังครับ
    ขอบคุณครับที่ให้ความรู้
     
  14. พงศ์

    พงศ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +845
    เพื่อนต้น-ประพาสต้น
    "ประพาสต้น"หมายถึงการเสด็จเยือนราษฎรเป็นการส่วนพระองค์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงกระทำอย่างเงียบๆ ไม่กระโตกกระตากให้รู้ว่าพวกเขากำลังเข้าเฝ้าเจ้าชีวิต เพื่อจะได้ทรงสนทนาปราศรัยทำความคุ้นเคย และล่วงรู้ทุกข์สุขของราษฎรได้โดยตรง ไม่ผ่านข้าราชการปกครอง บางครั้งเมื่อทรงทราบถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านก็มีพระบรมราชโองการให้เจ้าเมืองรับไปจัดการ หรือแม้แต่ทรงเปลี่ยนตัวข้าราชการปกครองเสียเองก็มี ส่วนชาวบ้านเหล่านั้นก็มิได้ทรงละเลยในภายหลัง ทรงขนามนามพวกเขาว่า "เพื่อนต้น" และพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณอย่างสม่ำเสมอจนตลอดรัชกาล

    "ประพาสต้น" เริ่มต้นเมื่อ ร.ศ. ๑๒๓ (พ.ศ. ๒๔๔๘) เมื่อพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรด้วยทรงคร่ำเคร่งเหน็ดเหนื่อยกับพระราชภารกิจมากไป แพทย์ทูลให้ทรงพักผ่อนเปลี่ยนอากาศบ้างก็ทรงเห็นด้วย แต่มิได้เสด็จแปรพระราชฐานไปที่บางปะอินเฉยๆ หากทรงใช้เวลานี้ลงเรือเสด็จตามแม่น้ำลำคลองเข้าไปตามหมู่บ้านไม่ให้ชาวบ้านรู้ว่าเป็นใคร ปล่อยให้เข้าใจว่าเป็นเรือขุนนางมหาดเล็กตามเสด็จ ต่อจากนั้นก็ทรงใช้วิธีนี้เสด็จไปตามหัวเมืองต่างๆ แวะเยี่ยมเยียนราษฎรจนถึงที่อยู่เป็นประจำ

    ธรรมเนียมนี้กลายมาเป็นชื่อว่า" ประพาสต้น" แต่คำนี้มาจากอะไรไม่สามารถชี้ชัดได้ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงเล่าถึงที่มาว่า "...ไปจนถึงวัดเพลงจึงซื้อเรือมาดประทุน ๔ แจวได้ลำ ๑ พระราชทานชื่อเรือว่า เรือต้น ได้ยินรับสั่งถามให้แปลกันว่า เรือต้น แปลว่าอะไร บางท่านแปลว่าเรือเครื่องต้น บางท่านแปลว่าเรือทรง อย่างในเห่เรือว่า ' ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย' ดังนี้ แต่บางท่านที่แปลเอาตื้นๆว่าหลวงนายศักดิ์เป็นคนคุมเครื่องมหาดเล็กตามเสด็จ หลวงนายศักดิ์ชื่ออ้น รับสั่งเรียกว่าตาอ้น ตาอ้น เสมอ คำว่า เรือต้นนี้ก็จะแปลว่าเรือตาอ้นนั้นเอง แปลชื่อเรือต้นเป็นหลายอย่างดังนี้ อย่างไรจะถูกฉันก็ไม่ทราบแน่ แต่วันนี้กว่าจะเสด็จกลับมาถึงเมืองราชบุรีเกือบยาม๑ ด้วยต้องทวนน้ำเชี่ยวมาก เหนื่อยบอบมาตามกัน เริ่มเรียกการประพาสวันนี้ว่าประพาสต้น เลยเป็นมูลเหตุที่เรียกการประพาสไปรเวตในวันหลังๆว่าประพาสต้นต่อมา" จดหมายเหตุของสมเด็จกรมพระยาดำรงฯ เล่าเรื่องเหล่านี้ไว้น่าสนุก ทรงเล่าถึงหลายบ้านที่เสด็จไปเยี่ยมโดยเจ้าของบ้านก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร ประทับเสวยร่วมวงกับเจ้าของบ้านอย่างกันเอง เจ้านายที่ตามเสด็จอย่างกรมหมื่นสรรพสาตรศุภกิจ เคยถูกเมียเจ้าของบ้านเอ็ดเพราะทรงใช้จวักตักแกงขึ้นมาชิมโดยไม่ทรงทราบธรรมเนียมว่าเขาถือกัน สมเด็จเจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมาเสด็จพลาดตกท้องร่องสวนวัดบางสามฟกช้ำดำเขียว เจ้าพระยาสุรวงศ์วัฒนศักดิ์ถูกหมาเฝ้าสวนริมคลองสองพี่น้องกัดเอา

    ระหว่างเสด็จประพาส เจ้านายและขุนนางตามเสด็จก็ช่วยกันทำครัวเองไปตามมีตามเกิด หากมื้อไหนไม่ได้แวะบ้านใคร สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพกับกรมพระสมมติอมรพันธุ์ทรงทำหน้าที่คนล้างถ้วยชาม เช่นเดียวกับกับสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ (พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว)และกรมหลวงนครราชสีมา ทุกพระองค์ทรงใช้ชีวิตกันอย่างสามัญชนทั่วไปเวลาเสด็จประพาสต้น

    เจ้าของบ้านที่เสด็จไปเยือนนี้บางบ้านก็ไม่รู้จักพระเจ้าแผ่นดิน บางบ้านก็จำได้ อย่างบ้านยายผึ้งที่หลักหกใกล้คลองดำเนินสะดวก ตัวยายผึ้งไม่รู้ว่าใคร เห็นเรือก็เข้าใจว่าเป็นเรือขุนนางจึงร้องเชิญให้แวะพัก แล้วเลยมีน้ำใจหาข้าวปลามาเลี้ยง แต่นายฮวดลูกชายวัยหนุ่มของยายผึ้งจำได้จากพระบรมฉายาลักษณ์ที่ตั้งไว้บูชาก็เลยลงกราบ เป็นอันว่าความแตก จึงพระราชทานเงินเป็นค่าตอบแทนให้หลายเท่าของราคากับข้าว ส่วนนายฮวดภายหลังเรียกกันว่า "นายฮวดมหาดเล็ก" ได้ชื่อว่าเป็นคนหนุ่มเฉลียวฉลาดได้เข้าเฝ้าในพระนครอีกหลายครั้ง และได้เป็นผู้ใหญ่บ้านในละแวกนั้นต่อมา

    ไม่ใช่ว่าทุกบ้านจำพระเจ้าอยู่หัวได้ อย่างบ้านของนายช้างและอำแดงพลับ เป็นคหบดีมีหน้ามีตาอยู่ที่บางหลวงอ้ายเอียง เจ้าของบ้านต้อนรับแข็งขันแสดงอัธยาศัยดี มานั่งเคียงพระเจ้าอยู่หัวด้วยเข้าใจว่าเป็นข้าราชการคนหนึ่งจากเมืองหลวง จนเสด็จกลับไปแล้วถึงมารู้ในภายหลัง รีบหอบลูกเมียเครือญาติทั้งหมดมาตามหาถึงในพระนคร เพื่อขอขมาเจ้านายทั้งหมดที่เคยล่วงเกินโดยไม่รู้ความจริง หนึ่งร้อยกว่าปีให้หลัง บ้านของนายช้างและอำแดงพลับก็ยังตั้งอยู่ที่เดิม ลูกหลานยังจดจำเรื่องราวในอดีตได้จนทุกวันนี้

    บรรดา "เพื่อนต้น" ที่ได้เข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัว ได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้เข้าเฝ้าได้อีกหลายครั้ง ณ เรือนต้นใกล้พระที่นั่งวิมานเมฆ เป็นเรือนไทยบรรยากาศสบายๆ ไร้พิธีรีตอง แบบเดียวกับชีวิตที่พวกเขาคุ้นเคย เมื่อเสด็จกลับจากยุโรปใน ร.ศ. ๑๒๖ ก็ทรงมีไม้เท้าของนอกเป็นของฝากพระราชทานให้ทั่วทุกคน พวก " เพื่อนต้น" จึงมีไม้เท้าพระราชทานเป็นดังเครื่องยศสำหรับถือเมื่อเข้าเฝ้าในกรุงเทพฯ และเฝ้าตามหัวเมืองเวลาเสด็จประพาสไม่ว่าที่ใด

    เมื่อสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯเสด็จสวรรคตใน พ.ศ. ๒๔๕๓ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พวกเพื่อนต้นเข้ามาทำบุญให้ทานในงานพระบรมศพ และเข้าถวายพระเพลิงเช่นเดียวกับข้าราชการอื่นๆ นอกจากนี้ พระราชทานเครื่องประดับไม้เท้าสลักพระนาม จ.ป.ร. ให้ติดไว้เป็นที่ระลึก ทั้งพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เข้าเฝ้าได้ต่อไป เช่นเดียวกับเมื่อครั้งแผ่นดินก่อนทุกประการ
     
  15. chainarong14

    chainarong14 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +64
    ได้รับพระสมเด็จสัมพุทเธ ที่จัดส่งไปให้แล้วนะครับ
    ขอบพระคุณอย่างสูง ขอโมทนากุสลทุกอย่างด้วย
    ชัยณรงค์
    เชียงใหม่
     
  16. first

    first เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +4,990
    .....พี่พงศ์ครับ..เขาเล่าเฉยๆครับ.....อีกอย่างไม้เพื่อนต้นผู้ที่จะใช้ได้ก็คงเป็นผู้ร่วมสืบสายกันมา...ส่วนคาถาที่ใช้ก็จะมี....คาถาสำเร็จ...คาถาสะเดาะเคราห์...เท่าที่เห็นก็คงมีแต่คุณยายสุดสวยของเราคนเดียวที่มีโอกาส....ยายจ๋าอย่าดุกันนะจะ(bb-flower
     
  17. first

    first เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +4,990
    โอกาสที่ว่านี้ก็คือได้สะเดาะเคราะห์จะ...........โมทนากับพี่ตั้มด้วยนะจ๋ะ...
     
  18. Chayaporn

    Chayaporn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +4,641
    พี่ถ่ายรูปไม้เพื่อนไว้ แต่ไมค่อยดีนักค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF0008.JPG
      DSCF0008.JPG
      ขนาดไฟล์:
      609.6 KB
      เปิดดู:
      91
  19. Kermit

    Kermit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +2,111
    คุณตุ่นครับ วันนั้นท่านเณรได้ให้คาถาบทหนึ่ง ไม่ทราบว่า ใช้เพื่ออะไรหรือครับ และคาถานั้นว่าอย่างไร ผมไม่ได้จดเอาไว้นะครับ
     
  20. ghostlinux

    ghostlinux เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    667
    ค่าพลัง:
    +3,496
    คาถาหลวงพ่อซ่วนเป็นคาถามหาลาถ(ขอลาภ) ต้องกลั้นใจว่าคาถาในใจ ๙ จบรวด
    "ฮัดนิ กุดกัด กากา กิกู สูจิ"
    คงบอกเป็นสาธารณะได้เพราะมีในหนังสือกระโถนข้างธรรมมาสน์ครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...