พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

เป็นสัญลักษณ์ของผู้ร่วมบริจาคกับทางเวปครับ ตอนนี้หายไปแล้ว ไม่รู้ว่าเวปเกิด lag มากจนทะยอยตัดระบบออกไปเรื่อยๆเลยหรืออย่างไรไม่รู้นะครับ
ปกติตอนเย็นๆไม่ค่อยเห็นตัดออกสักเท่าไรครับ

 

ผมขอสรุปอีกครั้งนะครับ ตอนนี้กำลังมึน ว่า ส่งให้ท่านใดไปบ้างแล้ว
สำหรับกิจกรรมนี้ ผมยังไม่ได้ส่งพระพิมพ์และลูกสะกดให้
.

 

อินดียถ้าไม่มีศรัทธาพอไม่แนะนำค่ะ แต่พม่านี่ beyond expectation นะคะ คือเป็นคนไม่ชอบพม่ามาแต่ไหนแต่ไร เห็นที่แม่สายก้องั้นๆ แต่พอไปแล้ว โอ้โฮ!อลังการงานสร้าง ไปฮันนีมูนที่อินเลซีคะ น่ารักจริงๆ

 

เห็นซุ่มอยู่ในกระทู้เงียบๆคิดว่ากำลังทำอะไร ที่แท้ก็นั่งมึนอยู่หรือครับท่านปาทาน รักษาสุขภาพด้วยนะครับ

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
ผมมีกิจกรรมมาให้ร่วมทำกัน

กระทู้ พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้..... จากเว็บพลังจิต หมวดพระเครื่องและวัตถุมงคล
กระทู้ "พระวังหน้า ที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้....." จากเว็บอกาลิโก หมวด 108 โทรโข่ง
และชมรม พระวังหน้า

ผมให้สมาชิกกระทู้พระวังหน้าฯ ทั้งเว็บพลังจิต,เว็บอกาลิโกและสมาชิกชมรมพระวังหน้าทุกๆท่าน โพสธรรมะ ลงทั้งสองกระทู้และในชมรมพระวังหน้า โดยธรรมะที่โพสลงนั้น ต้องเป็นธรรมะที่ตนเองกระทำได้ โดยโพสธรรมะแล้วก็โพสต่อว่า ตนเองได้กระทำตามโพสของธรรมะที่ตนเองโพสไว้ เช่น โพสเรื่องความกตัญญูของพระสารีบุตรที่ปฎิบัติกับมารดาของพระองค์ท่านที่ป่วย และตนเองได้กระทำดีกับแม่อย่างไร เป็นต้น

การโพสธรรมะทั้งสองกระทู้และในชมรมพระวังหน้า จะต้องเป็นธรรมะที่ไม่ซ้ำกัน และไม่จำกัดจำนวนโพส จะโพสมากหรือน้อยก็ได้

เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2551 เวลา 0.01 น. สิ้นสุดการโพส วันที่ 14 พฤศจิกายน 2551 เวลา 06.00 น.

หลังจากนั้น ท่านสมาชิกพระวังหน้า(ทั้งเว็บไซด์พลังจิตและเว็บอกาลิโก) และสมาชิกชมรมพระวังหน้า โหวตท่านที่โพสธรรมะ ว่าใครประทับใจที่สุด 2 ท่าน(จากจำนวนท่านที่โพสทั้งหมด) การโหวตเริ่มต้นตั้งแต่ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2551 เวลา 06.01 น.จนถึง เวลา 19.00 น.

ส่วนผมเอง ไม่ต้องลงคะแนนโหวตให้ และผมไม่โหวตให้ท่านใดครับ

2 ท่านแรกที่มีคะแนนโหวตสูงสุด ผมมีรางวัลมอบให้ โดย
รางวัลที่ 1 ผมมีพระวังหน้ามอบให้ 1 องค์ และพระสมเด็จวัดระฆัง 1 องค์
รางวัลที่ 2 ผมมีพระสมเด็จอรหัง (เนื้อวัดระฆัง) 1 องค์

รูปจากคุณเพชร
โชคดีทุกๆท่านครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

---------------------------------------------------------


อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
ต้องโพสทั้ง 2 กระทู้และในชมรมด้วยนะครับ
กระทู้ พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้..... จากเว็บพลังจิต หมวดพระเครื่องและวัตถุมงคล
กระทู้ "พระวังหน้า ที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้....." จากเว็บอกาลิโก หมวด 108 โทรโข่ง
และชมรม พระวังหน้า

ส่วนการโหวตนั้น สามารถโหวตให้ตนเองได้หรือจะโหวตให้แต่ท่านอื่น ได้ทั้งนั้น

ผมเองจะนำกิจกรรมนี้ เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินของ "โครงการธนาคารความดี" ด้วยครับ

เนื่องจากในสิ่งที่ทำในกิจกรรมนี้ ก็เป็นความดีเช่นกัน

โมทนาสาธุครับ

.
</TD></TR></TBODY></TABLE>

---------------------------------------------------------


อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
น่าจะอ่านกันไม่ละเอียด

อ่านกันอีกครั้งนะครับ

โพสในแต่ละกระทู้ ต้องเป็นโพสไม่เหมือนกัน และการโพสธรรมะ ต้องอธิบายด้วยว่า ตนเองกระทำตามธรรมะที่โพสไว้อย่างไร

เพราะว่า หากโพสไม่ถูกต้องตามกติกา จะไม่มีการโหวตนะครับ

ผมจะมาแจ้งรายชื่อ สำหรับท่านที่มีสิทธิ์ให้สมาชิกวังหน้า และสมาชิกชมรมพระวังหน้า โหวตอีกครั้งครับ

โมทนาสาธุครับ

.
</TD></TR></TBODY></TABLE>
---------------------------------------------------------


อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร:::
พระสมเด็จอรหัง ที่มอบให้คุณ katicat ... ลองนำไปขอให้ครูอาจารย์ตรวจสอบทางสมาธินะครับว่าเป็นอย่างไร...
</TD></TR></TBODY></TABLE>
---------------------------------------------------------


อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
สำหรับกิจกรรมนี้ มีคุณหมอake7440 เข้าหลักเกณฑ์แต่เพียงท่านเดียว

ดังนั้น ขอเชิญสมาชิกชาววังหน้า และสมาชิกชมรมพระวังหน้า โหวตในบทความธรรมะที่คุณหมอake7440 ถูกใจกับสมาชิกชาววังหน้า และสมาชิกชมรมพระวังหน้าหรือไม่ หากถูกใจก็ให้ลงคะแนนโดยแจ้งใน
กระทู้ พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้..... จากเว็บพลังจิต หมวดพระเครื่องและวัตถุมงคล
หรือกระทู้ "พระวังหน้า ที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้....." จากเว็บอกาลิโก หมวด 108 โทรโข่ง
หรือชมรม พระวังหน้า

ว่า ขอลงคะแนนให้กับ คุณหมอake7440

หากว่า ไม่มีท่านใดลงคะแนนให้ ก็ถือว่า ไม่มีท่านใดที่ได้รางวัลนี้ไปครับ

การโหวตเริ่มต้นตั้งแต่ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2551 เวลา 06.01 น.จนถึง เวลา 19.00 น.

ขอบคุณครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>
---------------------------------------------------------


อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
สำหรับพระสมเด็จวังหน้า ที่ผมจะมอบให้นั้น เป็นพระสมเด็จวังหน้าที่มีสองหน้า และมีกริ่ง อีกทั้งเนื้อหาของพระพิมพ์นั้น เป็นปูนเพชร และที่สำคัญมีพระธาตุพระอรหันต์หลายๆพระองค์ ,มีทั้งขี้เหล็กไหล ,มีทั้งน้ำประสาน ฯลฯ ครับ

.
</TD></TR></TBODY></TABLE>
---------------------------------------------------------



อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
กิจกรรมที่โพสเรื่องของธรรมะ ได้หมดเวลาในวันนี้(ศุกร์ที่ 14 พ.ย.51)เวลา 06.00 น.แล้วครับ

แต่เนื่องจากรางวัลที่สอง ไม่มีท่านใดเข้าหลักเกณฑ์ แต่เนื่องจากความตั้งใจดีของคุณพรสว่าง และกิจกรรมที่ทำนั้น ถูกใจผมมาก ผมขอมอบรางวัลที่สองให้นะครับ

โมทนาสาธุครับ


</TD></TR></TBODY></TABLE>

ผมมอบพระพิมพ์ให้กับน้องหมอake7440 แล้ว แต่ท่านอื่นผมยังไม่ได้ส่งพระพิมพ์ให้ครับ

.

 

ผมยังไม่ได้ส่งพระพิมพ์ให้ทั้งสามท่าน
.

 

ไปนอนแล้วนะคะ ช่วงนี้แม่บ้านกลับบ้าน เลยงานเยอะ ล้างจานจนมือเปื่อย คือมีหมา7แมว7 ก็วุ่นวายกับการให้อาหารนี่แหละค่ะ แมวไม่ค่อยยุ่งกินแต่อาหารเม็ด แต่เจ้าหมานี่สิคะ ตัวนึงกินอาหารเม็ดสูตรใส่นมชอบโรยหน้าไก่ย่าง อีกตัวไม่ชอบกินไก่ย่างชอบกินข้าวใส่เกาเหลา อีกตัวไม่กินหมูชอบกินข้าวใส่ไก่ย่าง อีกสองตัวกินอาหารเม็ดสูตรลดความอ้วนโรยหน้าอะไรก็ได้ อีกตัวไม่ชอบอาหารเม็ดชอบกินข้าว ตัวสุดท้ายง่ายหน่อยอะไรก็ได้ ทีนี้กินวันละสองมื้ออ่ะค่ะ เช้าก็คลุกข้าว ล้างจาน หุงข้าว เย็นก็ทำอีกรอบ ของคนสบายค่ะกินนอกบ้านไม่ต้องล้างจานเลย

ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

 

ท่าทางคุณสิทธิพงศ์จะมึนจริงๆนะคะนี่ พึมพำอะไรอยู่คนเดียวคะ ที่ให้มาก็มากมายจนเกินพอแล้วค่ะ

 

วันที่ได้รับไม่ทันตั้งตัวเพราะไม่คิดว่าท่านปาทานจะนำมาด้วย ปลื้มใจมากๆเมื่อได้ชมองค์จริงครับ
ที่สำคัญได้มาพร้อมกับหนังสืออันมีค่ายิ่ง (รีบเปิดหาลายเซ็นก่อนเลย แหะๆ) เป็นอีกวันที่มีความสุขจริงๆครับ

 

กิจกรรมการโพสธรรมะ
รางวัลที่ 1 ผมมีพระวังหน้ามอบให้ 1 องค์ และพระสมเด็จวัดระฆัง 1 องค์
ได้แก่ น้องหมอake7440 ผมมอบให้แล้ว
รางวัลที่ 2 ผมมีพระสมเด็จอรหัง (เนื้อวัดระฆัง) 1 องค์
ได้แก่ พรสว่าง_2008 ผมยังไม่ได้ส่งให้



สำหรับท่านที่ร่วมโหวตทุกๆท่าน ผมมีพระสมเด็จ(สองหน้า) เนื้อปูนเพชรผสมพระธาตุ(พระอรหันต์) ให้กับทุกๆท่านที่ร่วมโหวต ท่านละ 1 องค์ครับ

1.:::เพชร::: ผมยังไม่ได้ส่งให้

2.narin96 ผมยังไม่ได้ส่งให้

3.พรสว่าง_2008 ผมยังไม่ได้ส่งให้

4.nongnooo ผมยังไม่ได้ส่งให้

5.คีตา ผมยังไม่ได้ส่งให้

6.Shinray01 ผมยังไม่ได้ส่งให้

7.ake7440 ผมยังไม่ได้ส่งให้




กิจกรรมการโพสธรรมะจากรูป
รางวัลที่ 1 พระพิมพ์หลวงปู่ บุเงิน 1 องค์ ,บุนาค 1 องค์
ได้แก่ คุณgnip ผมยังไม่ได้ส่งพระพิมพ์ให้

รางวัลที่ 2 ลูกสะกด (ลงรัก) 2 ลูก
1.คุณตั้งจิต ผมยังไม่ได้ส่งลูกสะกดให้<O</O
2.คุณake7440 ผมยังไม่ได้ส่งลูกสะกดให้<O</O<O</O
<O</O3.คุณdragonlord ผมยังไม่ได้ส่งลูกสะกดให้<O</O<O</O

ทำบุญในกระทู้ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ
บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ

พระสมเด็จ(สร้างในฤกษ์ อัศจรรย์โกลาฤกษ์) จำนวน 3 องค์

.คุณkaticatร่วมทำบุญและจอง 1 องค์ ผมยังไม่ได้ส่งพระสมเด็จให้
2.คุณสำรวจโลก ร่วมทำบุญและจอง 1 องค์ ผมยังไม่ได้ส่งพระสมเด็จให้
3.คุณdragonlord<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1659353", true); </SCRIPT>ร่วมทำบุญและจอง 1 องค์ ผมยังไม่ได้ส่งพระสมเด็จให้


และ
1.คุณdrmetta ร่วมทำบุญ 1 องค์ ผมยังไม่ได้ส่งพระสมเด็จให้


หากผิดพลาดประการใด ผมรบกวนแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ

ขอบคุณและโมทนาสาธุครับ

 

พี่ตุ่นครับ ผมเตรียมพระสมเด็จไว้ให้เรียบร้อยแล้ว พี่ปกรณ์มอบพระสมเด็จ 20 องค์ ,พี่สมพรมอบพระสมเด็จอรหัง 5 องค์ และผมมอบพระสมเด็จ 5 องค์ รายละเอียดมีดังนี้ครับ

1.พระสมเด็จ จำนวน 20 องค์(ที่พี่ปกรณ์มอบให้) ให้ร่วมทำบุญสร้างพระ ชำระหนี้สงฆ์ ทำบุญ 5,000 บาท รับพระสมเด็จ 1 องค์)

2.พระสมเด็จ จำนวน 5 องค์(ที่ผมมอบให้) ให้ร่วมทำบุญสร้างพระ ชำระหนี้สงฆ์ ทำบุญ 5,000 บาท รับพระสมเด็จ 1 องค์)

3.พระสมเด็จอรหัง จำนวน 5 องค์(ที่พี่สมพรมอบให้) ให้ร่วมทำบุญสร้างพระ ชำระหนี้สงฆ์ ทำบุญ 2,000 บาท รับพระสมเด็จอรหัง 1 องค์)

รายละเอียด ต้องสอบถามกับพี่ตุ่นอีกครั้งนะครับ
โมทนาสาธุครับ

 

อนุโมทนาสาธุ

 

สถานการณ์เอดส์ระบาดหนัก ป่วยเพิ่มนาทีละ 5 คน

http://hilight.kapook.com/view/31277

​

โจ๋หญิงไทยน่าห่วงติดเชื้อสูงกว่าชาย 2 เท่า​

นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในงานแถลงข่าว การรณรงค์วันเอดส์โลก ซึ่งตรงกับวันที่ 1 ธันวาคมของทุกปี ในปีนี้องค์การอนามัยโลกและโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ ได้กำหนดคำขวัญในการรณรงค์โรคเอดส์ว่า "เอดส์หยุดได้ ร่วมใจรักษาสัญญา" (Stop AIDS. Keep the Promise.) ให้ผู้นำแต่ละประเทศเร่งขยายเป้าหมายการป้องกัน และให้ผู้ป่วยโรคเอดส์เข้าถึงการดูแล รักษา และการหนุนเสริมอย่างมีประสิทธิภาพให้ครอบคลุมและทั่วถึง ภายใน พ.ศ.2553 ​

นายวิชาญ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคเอดส์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยล่าสุดปี 2550 ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อเอชไอวี ประมาณ 33.2 ล้านคน ในจำนวนนี้ร้อยละ 93 เป็นผู้ใหญ่ประมาณ 30.8 ล้านคน ที่เหลืออีก 2 ล้านกว่าคนเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และมีผู้เสียชีวิตประมาณ 2.1 ล้านคน คาดว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 2.5 ล้านคน เฉลี่ยวันละมากกว่า 6,800 คนหรือนาทีละ 5 คน โดยกว่าร้อยละ 40 เป็นเด็กวัยรุ่นอายุ 15 - 24 ปี พบผู้ติดเชื้อมากที่สุดในทวีปแอฟริกาประมาณ 25 ล้านคน รองลงมาอยู่ในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 8 ล้านคน ​

นายวิชาญ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทย ตั้งแต่ พ.ศ. 2527 ถึงปัจจุบัน คาดว่ามีผู้ใหญ่ติดเชื้อเอชไอวีประมาณ 1.1 ล้านคน ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้วประมาณ 585,830 คน ยังเหลือผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ที่มีชีวิตประมาณ 532,522 คน และมีผู้ใหญ่ติดเชื้อรายใหม่ประมาณ 12,787 คน โดยรายงานผู้ป่วยเอดส์ที่มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเฉพาะปีนี้ พบว่า สาเหตุหลักร้อยละ 84 มาจากการมีเพศสัมพันธ์ ที่น่าห่วงคือในกลุ่มวัยรุ่นอายุ 15​

 

เบรก!ประกันสุขภาพหักภาษี ดีเดย์1ม.ค.9ล้านคนแห้ว-วงการระส่ำ
http://www.matichon.co.th/prachacha...g=02p0101241151&day=2008-11-24&sectionid=0201
สรรพากรเล่นบทเข้ม บี้บริษัทประกันชีวิตออกใบรับรองเบี้ยประกันไปหักลดหย่อนภาษีให้ถูกต้อง ดีเดย์ 1 ม.ค. 2552 ห้ามนำเบี้ยประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุมาหักลดหย่อน เผยจะไม่ตรวจสอบย้อนหลัง แต่หวั่นถูกศาลปกครองเช็กบิลฐานละเว้นปฏิบัติไม่เรียกภาษีผู้ถือกรมธรรม์คืน คาดปีหน้าลูกค้าประกันชีวิต 8-9 ล้านคนกระเป๋าแฟบหักลดหย่อนภาษีได้น้อยลง ส่วนธุรกิจประกันโอดขายประกันยากขึ้นแถมลูกค้าโวยแน่



นายสาธิต รังคสิริ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี เปิดเผยถึงกรณีที่มีบริษัทประกันชีวิตหลายแห่งออกหนังสือรับรองให้ลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์นำเบี้ยประกันไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่ถูกต้องว่า ภายหลังจากการหารือร่วมกับคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และตัวแทนบริษัทประกันชีวิต ได้ข้อสรุปว่า คปภ.จะออกหนังสือเวียนถึงบริษัทประกันชีวิตทุกแห่ง โดยขอความร่วมมือให้ช่วยแยกค่าเบี้ยประกันหลักและเบี้ยประกันเสริมออกจากกัน และให้ช่วยชี้แจงกับลูกค้าว่าการนำเบี้ยประกันชีวิตไปหักลดหย่อนภาษีในปีหน้า (1 ม.ค.-31 มี.ค.2552) สามารถนำไปหักได้เฉพาะในส่วนที่เป็นค่าเบี้ยประกันหลักเท่านั้น ส่วนค่าเบี้ยประกันเสริม อาทิ เบี้ยประกันสุขภาพเพื่อการรักษาในโรงพยาบาล และประกันอุบัติเหตุ ไม่สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ เพราะถือเป็นเบี้ยสูญที่จ่ายเบี้ยประกันปีต่อปี และไม่ถือว่าเป็นเงินออมระยะยาวตามประมวลรัษฎากรกำหนดไว้

กรณีที่มีบริษัทประกันชีวิตออกกรมธรรม์เน้นสิทธิประโยชน์การใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในวงเงิน 100,000 บาทต่อปีนั้น โดยลูกค้าจ่ายค่าเบี้ยประกันปีละ 100,000 บาท แต่ลูกค้าได้รับเงินปันผลคืน 80,000 บาททุกปี เท่ากับผู้ซื้อกรมธรรม์จ่ายเงินแค่ 20,000 บาท แต่นำไปหักภาษีได้ 100,000 บาท ในประเด็นนี้ได้ข้อสรุปว่า คปภ.จะออกประกาศให้ชัดเจนว่าการออกแบบกรมธรรม์จะจ่ายเงินปันผลให้กับลูกค้าได้ไม่เกิน 20% ของเบี้ยประกันหลักเท่านั้น

แหล่งข่าวจากกรมสรรพากร เปิดเผยถึงสาเหตุที่กรมสรรพากรต้องเข้มงวดในกรณีของการนำเบี้ยประกันชีวิตมาหักลดหย่อนภาษีว่า ในอดีตกรมสรรพากรให้ผู้เสียภาษีนำค่าเบี้ยประกันชีวิตมาหักลดหย่อนภาษีในวงเงิน 20,000 บาท เพิ่มมาเป็น 50,000 บาท และล่าสุดขยายวงเงินขึ้นมาเป็น 100,000 บาท ทำให้มีบริษัทประกันบางแห่งเห็นช่องโหว่ของกฎหมายออกกรมธรรม์ที่ชูจุดขายสิทธิประโยชน์ในการนำไปหักลดหย่อนเพื่อขอคืนภาษีมาขายประชาชน ซึ่งในขณะนี้ถูก คปภ.สั่งให้ระงับไปแล้ว

ส่วนอีกประเด็นที่เป็นปัญหาคือ กรณีที่บริษัทประกันชีวิตบางแห่งออกใบรับรอง ค่าเบี้ยประกันให้ลูกค้านำไปหักลดหย่อนภาษีอย่างไม่ถูกต้อง โดยเอาเบี้ยประกันเสริม อาทิ ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ เข้าไปรวมอยู่กับเบี้ยประกันหลักแล้วออกใบรับรองให้ลูกค้านำไปหักลดหย่อนภาษีกับกรมสรรพากรโดยไม่อธิบายให้ลูกค้าทราบ ทำให้ลูกค้าเข้าใจผิดนำไปหักคืนภาษีไปอย่างไม่ถูกต้อง และหลังจากที่รัฐบาลขยายวงเงินลดหย่อนภาษีขึ้นเป็น 100,000 บาท จึงจำเป็นที่จะต้องปิดช่องโหว่ในส่วนนี้

"ทั้งนี้ป้องกันเพื่อไม่ให้ระบบภาษีเกิดการบิดเบือน กล่าวคือ เจตนารมณ์ของการออกกฎหมายต้องการสนับสนุนให้เกิดการออมเงินในระยะยาว แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้โดยไม่แก้ไขให้ถูกต้องจะทำให้บริษัทประกันชีวิตที่ทำถูกต้อง อาจจะเอาอย่างบริษัทที่ทำไม่ถูกต้อง เพราะถ้าไม่ทำตามยอดขายก็จะตก ลูกค้าจะหันไปซื้อประกันกับบริษัทที่หักภาษีได้มาก ผลที่ตามมาคือเงินออมในอนาคต (กรมธรรม์หลัก) ก็จะลดลง ถ้าทุกบริษัทหันไปเน้นขายกรมธรรม์เสริมแล้วให้ลูกค้านำไปหักภาษี" แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวจากกรมสรรพากรกล่าวต่อว่า กรณีที่มีการนำค่าเบี้ยประกันชีวิตมาหักลดหย่อนภาษีอย่างไม่ถูกต้องในอดีตคงจะไม่ไปตรวจสอบย้อนหลัง แล้วก็แล้วกันไป ต่อไปเริ่มต้นให้ถูกต้อง แต่ก็อดเป็นห่วง ไม่ได้ เกรงว่าจะมีผู้ไปร้องเรียนศาลปกครองว่ากรมสรรพากรละเว้นปฏิบัติ (ม.157) ทั้งๆ ที่ทราบว่ามีการหักลดหย่อนภาษีไม่ถูกต้อง แต่ไม่ไปทวงคืนกลับมา อาจจะทำให้รัฐเสียหาย ซึ่งกรมสรรพากร ไม่อยากทำ เพราะการไปทวงเงินคืนจะทำให้ผู้ทำประกันเดือดร้อน ส่วนใหญ่จะใช้จ่ายเงินไปหมดแล้ว ดังนั้นการเข้าไปตรวจสอบและเรียกภาษีคืนจะเปรียบเสมือนการเพิ่มงานทางด้านคดีให้กับเจ้าหน้าที่ แถมยังไม่ได้เงินภาษีเข้ารัฐอีก แต่ได้หนี้ภาษีอากรเข้ามาอีกก้อนหนึ่งแทน แต่ถ้าไม่ทำอาจจะถูกฟ้องว่าละเว้นปฏิบัติ

ย้ำจุดขาย "คุ้มครอง-ออมเงิน"

แหล่งข่าวจากบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่ง กล่าวว่า สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจก็คือ สิทธิประโยชน์ทางภาษีไม่ได้ถูกยกเลิกไป เพียงแค่มีเงื่อนไขในการขอใช้สิทธิจะต้อง เป็นกรมธรรม์ที่มีอายุกรมธรรม์เกิน 10 ปีขึ้นไป และใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้เฉพาะเบี้ยจากสัญญาหลักเท่านั้น ส่วนเบี้ยจากสัญญาเสริม เช่น ประกันสุขภาพ, ประกันอุบัติเหตุ และประกันเพิ่มเติมในลักษณะที่เป็นวินาศภัยจะไม่ได้สิทธิดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม การเข้มงวดของกรมสรรพากร ทำให้การขายกรมธรรม์ประกันชีวิตกระทบบ้าง เพราะผู้บริโภคจะรู้สึกว่าตนได้ประโยชน์ไม่เท่าเดิม ซึ่งภาคธุรกิจก็ต้องมุ่งเน้นจุดขายด้านอื่นๆ มากขึ้น โดยเฉพาะประโยชน์หลักของประกันชีวิตก็คือ ความคุ้มครองและการออมเงินระยะยาว พร้อมกับต้องชี้แจงกับผู้มุ่งหวังให้เข้าใจอย่างชัดเจนถึงลักษณะของการประกันชีวิตและการได้รับสิทธิหักลดหย่อนภาษีซึ่งเป็นส่วนเสริม

"เชื่อว่าเงื่อนไขนี้ต้องมีผลต่อการตัดสินใจซื้อประกันชีวิตอยู่แล้ว และอาจทำให้บริษัทประกันชีวิตทำตลาดได้ยากขึ้น เพราะวันนี้ตลาดเป็นของผู้บริโภคที่มีสิทธิจะเลือกได้ตามความต้องการ ซึ่งประกันชีวิตถือเป็นหนึ่งในทางเลือกการออมและลงทุน แต่ขณะเดียวกัน ประกันชีวิตถือเป็นช่องทางเดียวที่ให้ความคุ้มครองชีวิตของ ผู้ถือกรมธรรม์ได้ รวมถึงมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นส่วนเสริมเข้ามาในระดับหนึ่งด้วย จึงเชื่อว่าประกันชีวิตเองก็มีจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ และไม่มีธุรกรรมอื่นๆ ทดแทนได้เช่นกัน" แหล่งข่าวกล่าว

หวั่นผู้ถือกรมธรรม์โวย

สำหรับกรณีที่กรมสรรพากรจะประกาศเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การหักลดหย่อนภาษีรูปแบบใหม่ในเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อให้ทันสำหรับใช้ประกอบการยื่นเสียภาษีช่วงต้นปีหน้า (1 ม.ค.-31 มี.ค.2552) แหล่งข่าวจากบริษัทประกันชีวิตอีกรายกล่าวว่า คงเป็นเรื่องยุ่งยากมาก เพราะปัจจุบันอยู่ในช่วงปลายปีแล้ว ลูกค้าที่จ่ายเบี้ยซื้อกรมธรรม์ใหม่หรือจ่ายเบี้ยต่ออายุ บริษัทได้ออกใบเสร็จให้ไปเกือบหมดแล้ว การจะมาไล่ออกใบเสร็จใหม่ให้กับผู้เอาประกัน ย่อมจะทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้นในการจัดทำเอกสารใหม่ รวมถึงบางบริษัทอาจต้องเปลี่ยนระบบ การออกเอกสารการรับเงินใหม่ด้วย

นอกจากนี้ แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า แม้ในทางปฏิบัติจะออกเอกสารการรับเงินฉบับใหม่ให้แก่ผู้ถือกรมธรรม์ที่ชำระเบี้ยได้ แต่ยังกังวลว่าผู้ถือกรมธรรม์จะเข้าใจเหตุผลในเรื่องนี้ได้ดีเพียงใด เพราะตัวแทนก็สามารถเข้าถึงผู้เอาประกันและอธิบายให้เข้าใจได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ทั้งยังเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เพราะผู้เอาประกันอาจเกิดความรู้สึกว่าตนได้รับสิทธิน้อยลงจากเดิม ทั้งนี้ ปัจจุบันสัดส่วนคนไทยที่มีกรมธรรม์คิดเป็น 22-23% ของประชากรทั้งประเทศ หรือประมาณ 14 ล้านคน โดยประเมินคร่าวๆ ว่า 60% ของจำนวนนี้ใช้สิทธิในการหักลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันชีวิต หรือคิดเป็น 8-9 ล้านคน เพราะการขายประกันชีวิตในปัจจุบัน เกือบทุกกรมธรรม์จะมีสัญญาเสริมควบคู่เข้าไปด้วยอยู่แล้ว

 

ยอดเลย์ออฟภาคการเงินพุ่งกระฉูด"เอเชีย"หนีไม่พ้นชะตากรรม "ฮ่องกง-โตเกียว"โดนก่อน
http://www.matichon.co.th/prachachat/news_detail.php?id=2282&catid=2


วิกฤตปัญหาเลิกจ้างภาคการเงินลามเข้าเอเชีย คาด"ฮ่องกง-โตเกียว"โดนก่อน รวมถึงอินเดีย เพราะเป็นศูนย์กลางการเงินในภูมิภาค และบริษัทแม่ในสหรัฐฯต้องการลดต้นทุน เผยหลายแห่งทยอยเลิกจ้างทั้งมอร์แกน สแตนเลย์, โกลด์แมน แซกส์, เอชเอสบีซี, ซิตี้กรุ๊ป

นับตั้งแต่สึนามิการเงินกระหน่ำไปทั่วโลก สถาบันการเงินหลายแห่งก็ล้มหายตายจากไปกับคลื่นยักษ์ ส่วนที่เหลือรอดก็ยังออกอาการลูกผีลูกคน ต้องปรับตัวกันอลหม่านเพื่อความอยู่รอด บ้างก็เตรียมควบรวมกิจการ บ้างก็ตัดขายสินทรัพย์
แต่ที่ดูจะเป็นสูตรสำเร็จในการลดต้นทุนของบรรดาสถาบันการเงินและบริษัททั้งหลายในช่วงนี้ คือ การปลดพนักงาน
วอลล์สตรีต เจอร์นัล รายงานว่า จนถึงขณะนี้ภาคการเงินได้เลย์ออฟพนักงานไปแล้วจำนวนมาก และเทรนด์นี้ได้ส่งผลมายังภาคการเงินในเอเชีย โดยเฉพาะ "ฮ่องกง" และ "โตเกียว" ในฐานะศูนย์กลางการเงินของภูมิภาค <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=2 align=right border=0><TBODY><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>​

ก่อนหน้านี้ เอเชียได้รับผลกระทบไม่มากนักจากกระแสเลย์ออฟที่เกิดขึ้น เพราะต้นตอของปัญหาอยู่ที่สหรัฐ แต่เอเชียก็มีความเสี่ยงที่จะถูกเลย์ออฟมากขึ้นจากการที่บริษัทแม่รัดเข็มขัดและมีแผนเลย์ออฟเพิ่มขึ้น เพื่อลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด
สัปดาห์ที่ผ่านมา "มอร์แกน สแตนเลย์" ก็เข้าร่วมในกระแสเลย์ออฟ โดยบริษัทมีแผนปลดพนักงานในฮ่องกงราว 100 คน จากทั้งหมด 1,700 คน โดยนี่เป็นการเลย์ออฟระลอก 2 ตามแผนลดพนักงานทั่วโลกของบริษัท
นอกจากนี้ มอร์แกน สแตนเลย์ ยังมีแผนจะปรับกลยุทธ์ในเอเชีย หลังผู้บริหารระดับสูงหลายรายต่างลาออกไล่เลี่ยกัน ทั้ง "เคิร์ต เบเกอร์" หัวหน้าฝ่ายโบรกเกอร์ในเอเชีย รวมถึง "ฟรานซิส เตย์" ผู้บริหารฝ่ายกลยุทธ์การเงินในเอเชีย และ "เคลวิน วู" หัวหน้าฝ่ายตราสารหนี้ในตลาดเกิดใหม่
"คอล์ม เคลเลเฮอร์" ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของมอร์แกน สแตนเลย์ กล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า บริษัทเตรียมจะลดพนักงานราว 10% ในแผนกหลักทรัพย์สำหรับนักลงทุนสถาบัน และอีก 9% ในแผนกบริหารสินทรัพย์
ทั้งนี้ การลดพนักงานใน 2 แผนกจะคิดเป็นสัดส่วน 5-7% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดทั่วโลกของบริษัท และเมื่อเดือนที่แล้วบริษัทเพิ่งลดพนักงานในญี่ปุ่นเป็นรอบที่ 3 ซึ่งทำให้ตัวเลขเลย์ออฟในญี่ปุ่นอยู่ที่ 150 คน
ส่วน "โกลด์แมน แซกส์" ก็เพิ่งประกาศเลย์ออฟพนักงาน 10% จาก 32,500 คนทั่วโลก และประกาศปลดพนักงานในฮ่องกง 100 คน
"เอชเอสบีซี" แบงก์อังกฤษรายใหญ่ ก็ร่วมเทรนด์นี้เช่นกัน เพราะเพิ่งสั่งเลย์ออฟพนักงานในฮ่องกงทุกแผนกรวม 450 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งใหญ่อีกครั้ง หลังจากในเดือนกันยายน บริษัทได้ส่งโละพนักงานฝ่ายแบงกิ้งและการตลาดในฮ่องกง 100 คน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนลดพนักงานทั่วโลก 1,100 ตำแหน่งในตอนนั้น
ขณะที่ "ซิตี้กรุ๊ป" เพิ่งสร้างความฮือฮา เมื่อตัดสินใจโละพนักงาน 52,000 คนทั่วโลก และเตรียมลดรายจ่ายให้ได้ 20% ซึ่งแน่นอนว่า พนักงานในเอเชียก็ย่อมได้รับผลกระทบด้วย รวมถึงในอินเดีย ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะต้องเลย์ออฟพนักงานราว 1,000 คน
แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับแผนปรับลดต้นทุนของซิตี้กรุ๊ป ระบุว่า การปรับลดพนักงานส่วนใหญ่ในอินเดียจะมาจากแผนกสินเชื่อ แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาในขั้นสุดท้าย แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่แผนกวาณิชธนกิจและการเงินสำหรับองค์กรจะโดนหางเลขจากงานนี้ด้วย
"โนมูระ โฮลดิ้งส์" สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ซึ่งกำลังจะเข้าซื้อกิจการในเอเชียและยุโรปของ "เลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้งส์" อดีตวาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ของสหรัฐที่ล่มสลายไปแล้ว ก็มีแผนจะปลดพนักงานหลายสิบตำแหน่งที่ทำงานในเลห์แมนฯ ซึ่งก็รวมถึงพนักงาน 30 คนในแผนกตราสารหนี้ในญี่ปุ่นด้วย
โดยการปรับลดพนักงานครั้งนี้จะโฟกัสไปที่แผนกที่มีปัญหา อาทิ แผนกจัดหาเงินกู้ แผนกตราสารหนี้ แผนกโบรกเกอร์ผู้ให้บริการ (prime brokerage) แผนกลงทุนเพื่อเป็นทรัพย์สินของบริษัทจัดการ (proprietary trading) แผนกค้าหลักทรัพย์และคอมโมดิตี้ส์ รวมถึงแผนกขายหุ้นไอพีโอในจีน
เช่นเดียวกับ "เมอร์ริล ลินช์" ที่มีแผนลดพนักงานในเอเชีย 100 คน โดยเป็นการลดพนักงานในส่วนแผนกตราสารหนี้และหลักทรัพย์ในฮ่องกง ซึ่งประกาศออกมาเมื่อเดือนที่แล้ว โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนลดพนักงานทั่วโลกรวม 500 ตำแหน่ง และบริษัทยังอาจจะต้องเลย์ออฟเพิ่มเติมอีกในแผนกตราสารหนี้ เพื่อไม่ให้มีตำแหน่งงานซ้ำซ้อนเกินไปหลังจากที่ขายกิจการให้แก่ "แบงก์ ออฟ อเมริกา"

 

สิ่งที่ชาววังหน้า ได้เตือนกันมานานพอสมควร เริ่มเห็นเด่นชัดขึ้นมาแล้ว และยังเด่นชัดขึ้นไปเรื่อยๆ

ดำเนินชีวิตตามเศรษฐกิจพอเพียงขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกันครับ

.

 

ชี้ “นอกใจ” เหตุความรุนแรงในครอบครัว
http://www.thairath.co.th/news.php?section=education&content=112730


เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มีการเสวนา “สถานการณ์ ความรุนแรง : ความเพิกเฉยของคนไทยต่อสถานการณ์ความรุนแรง” โดย ดร.นพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ ม.อัสสัมชัญ กล่าวว่า เอแบคโพลล์ร่วมกับ สสส. ทำการสำรวจ เรื่อง “สภาวะความรุนแรงในครอบครัว” โดย สำรวจจากกลุ่มตัวอย่างอายุ 20 ปีขึ้นไปในเขต กทม. รวม 1,021 ตัวอย่าง เป็นผู้หญิงร้อยละ 58.5 เป็นผู้ชายร้อยละ 41.5 สำรวจเมื่อวันที่ 16 ต.ค.-3 พ.ย. พบว่าร้อยละ 60.7 ระบุว่าในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา เคยพบเห็นการกระทำรุนแรง โดยเป็นการกระทำต่อร่างกายสูงที่สุดคือ ร้อยละ 37.2 ซึ่งส่วนใหญ่ระบุว่าจะเห็นการกระทำรุนแรงในละแวกบ้านที่พักอาศัย เมื่อถามว่า เคยพบเห็นการกระทำความรุนแรงในครอบครัวในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาหรือไม่ พบว่าร้อยละ 40.1 เคยเห็น และในจำนวนนี้มีอาชีพเป็นข้าราชการ รัฐวิสาหกิจมากที่สุด รองลงมาคือนักเรียน นักศึกษา และหากเป็นความรุนแรงในครอบครัวของตัวเองพบว่ากลุ่มนักเรียน นักศึกษา เป็นกลุ่มที่พบเห็นมากที่สุด
ดร.นพดลกล่าวต่อว่า เมื่อดูลักษณะความรุนแรง พบว่าความรุนแรงเกี่ยวกับการทอดทิ้ง เช่น นอกใจ ไม่ รับผิดชอบต่อคนในครอบครัว มากที่สุดถึงร้อยละ 22.2 ขณะที่ร้อยละ 18.5 ระบุว่าเป็นการกระทำความรุนแรงทางร่างกาย โดยพบว่าสามีจะเป็นผู้ที่กระทำความรุนแรงในครอบครัวมากที่สุด ส่งผลให้พบว่าการกระทำรุนแรงโดยสามีกระทำต่อภรรยามีมากที่สุดเช่นกัน ขณะที่สาเหตุของการเกิดความรุนแรงในครอบครัวส่วนใหญ่มาจากการที่สามี หรือภรรยานอกใจ และยังพบด้วยว่าเมื่อเกิดปัญหาความรุนแรงในครอบครัวกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่จะใช้การพูดคุยเพื่อแก้ปัญหา แต่เป็นที่น่าสังเกตว่ากลุ่มตัวอย่างถึงร้อยละ 62 จะนิ่งเฉยหากพบเหตุการณ์ความรุนแรง เพราะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเอง และเมื่อถามว่า ทราบหรือไม่ว่ามี พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว พบว่ามีเพียงร้อยละ 43.2 เท่านั้นที่ทราบ
ด้าน น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า กลุ่มที่ร้องเรียนมายังมูลนิธิมากที่สุดคือ กลุ่มข้าราชการ และรัฐวิสาหกิจ ขณะเดียวกันเป็นที่น่าสังเกตว่ากลุ่มที่สร้างความรุนแรงในครอบครัวจะมีวุฒิการศึกษาสูงขึ้นถึงระดับปริญญาเอก.

 

ยังอยู่-ยังดุ-ยังอันตราย 'ไข้หวัดนก' เผลอเมื่อไหร่เสร็จมัน!
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=66239&NewsType=2&Template=1

กลายเป็นอีกหนึ่งโรคประจำถิ่น-เป็นอีกหนึ่งภัยประจำฤดูกาล โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย และรวมถึงในประเทศไทยไปแล้ว สำหรับ “ไข้หวัดนก” ซึ่งในไทยในช่วงรอยต่อฤดู ช่วงปลายฝนต้นหนาวปี 2551 มันก็อุบัติขึ้นให้ต้องระมัดระวังกันอย่างจงหนักอีกครั้ง หลังจากมีการตรวจพบในบางจังหวัด เช่น อุทัยธานี, สุโขทัย

มิใช่จะกระพือให้ตกใจ...แต่ “หวัดนก” ยังวางใจไม่ได้

คนไทยยังต้องใส่ใจ “ป้องกัน” ทั้งการป่วย-ระบาด !!!

ในต่างประเทศ ในปีนี้ ช่วงตั้งแต่ 1 ม.ค.-4 พ.ย. มีรายงานการพบโรคไข้หวัดนกในสัตว์ปีกใน 26 ประเทศ เช่น อิสราเอล, อิหร่าน, จีน (รวมฮ่องกง), อินเดีย, เวียดนาม, ซาอุดีอาระเบีย, ลาว, พม่า, ปากีสถาน, บังกลาเทศ, เกาหลี, ญี่ปุ่น, กัมพูชา เป็นต้น ขณะที่ในเมืองไทยนั้น ช่วงตั้งแต่เดือน ม.ค. ถึงต้นเดือน พ.ย. ก็มีการพบใน 3 ตำบล ของ 3 อำเภอ 3 จังหวัด โดยจากข้อมูลของกรมปศุสัตว์ ณ วันที่ 13 พ.ย. ที่ จ.สุโขทัย ยืนยันการพบเชื้อโรคไข้หวัดนกเมื่อวันที่ 9 พ.ย. ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ต.ทุ่ง เสลี่ยม อ.ทุ่งเสลี่ยม จากตัวอย่างซากไก่พื้นเมือง โดยเกษตรกรเลี้ยง 17 ตัว ป่วยตายรวม 5 ตัว และที่ จ.อุทัยธานี ยืนยันการพบเชื้อโรคไข้หวัดนกเมื่อวันที่ 13 พ.ย. ในพื้นที่ อ.หนองฉาง ต.ทุ่งโพ จากตัวอย่างซากไก่พื้นเมือง โดยมีสัตว์ปีกป่วย 83 ตัว ตาย 25 ตัว

นี่เป็นสถานการณ์หวัดนกในไทยในช่วงก่อนหน้านี้

ที่ทั้งฝ่ายปศุสัตว์-สาธารณสุขก็คุมเข้มกันเต็มที่ !!!

ขณะที่หากจะย้อนดูไปไกลกว่านี้ ว่ากันเฉพาะในช่วงเดือน ม.ค. 2547-เดือน ส.ค. 2549 ในส่วนที่มีผู้ติดเชื้อ ป่วย-ตาย ในช่วงเวลาดัง กล่าวนี้มีคนไทยป่วย 25 ราย ตายไป 17 ราย โดยผู้ที่อายุน้อยกว่า 5 ปี ป่วย 3 ราย ตาย 1 ราย, ผู้ที่อายุ 5-14 ปี ป่วย 8 ราย ตาย 7 ราย, ผู้ที่อายุ 15 ปีขึ้นไป ป่วย 14 ราย ตาย 9 ราย โดยที่ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ติดเชื้อโรคไข้หวัดนก หรือเชื้อ “เอชไฟว์เอ็นวัน (H5N1)” ที่มีอัตราสูงสุดคือการสัมผัสกับสัตว์ปีก ไก่ เป็ด ที่ป่วยตายจากไข้หวัดนก รองลงมาคืออาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีไก่ เป็ด ตายอย่างผิดปกติ

ทั้งนี้ เมื่อไข้หวัดนกยังคงเป็นหนึ่งในโรคอันตรายที่ต้องกลัว ก็น่าจะได้ทบทวนถึง “สาเหตุการติดเชื้อ” โดยคนที่ติดเชื้อนั้นก็มีทั้งได้รับเชื้อโดยตรง เช่น จับต้องสัตว์ปีกหรือซากสัตว์ที่ป่วย-ตาย เชื้อจะติดมากับมือ และเข้าสู่ร่างกายทางปาก จากการกินอาหาร แคะฟัน หรือเข้าทางเยื่อบุจมูกจากการแคะจมูก หรือเข้าทางตาจากการขยี้ตา บางรายก็ติดเพราะดูดเสลดให้ไก่ชน และอาจติดเชื้อทางอ้อม เช่น สัมผัสแหล่งน้ำหรือพื้นดินบริเวณที่มีสัตว์ปีกป่วย-ตาย สัมผัสมูลสัตว์ปีกที่ป่วย-ตาย ซึ่งจะเห็นว่า “มือนี่แหละ... สำคัญ-ต้องระวัง !!”

และเรื่องของมือกับไข้หวัดนกนี้ หลายหน่วยงาน หลายองค์กร ทั้งภาครัฐ-เอกชน ก็ให้ความสำคัญ ซึ่งกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ, องค์การ เพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID), สถาบันคีนันแห่งเอเชีย และบริษัทเอกชน ก็ได้ร่วมกันจัดโครงการ “มือสะอาดปราศจากไข้หวัดนก” รณรงค์กับเด็กนักเรียนและประชาชน

“โครงการนี้จะเป็นการให้ความรู้ในการรักษาสุขอนามัยขั้นพื้นฐานในส่วนต่าง ๆ และการล้างมือให้สะอาดถูกสุขลักษณะ 7 ขั้นตอน ซึ่งมีประโยชน์ในการป้องกันไข้หวัดนก และโรคติดต่อชนิดต่าง ๆ ด้วย” ...เป็นการระบุของ แคร์โรไลน์ คอมเบอมาล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์โพรเทคส์ ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่ให้การสนับสนุนโครงการดังกล่าวนี้

นี่ก็เป็นอีกแนวทาง “ต้านไข้หวัดนก” ที่ควรปฏิบัติ

มือสะอาดปราศจากไข้หวัดนก กับ “การล้างมือให้สะอาดถูกสุข ลักษณะ 7 ขั้นตอน” ที่ว่า ก็ทำได้โดยการล้างมือบ่อยครั้ง-ยับยั้งเชื้อโรค โดย 7 ขั้นตอนของการล้างมืออย่างถูกวิธีนั้น ประกอบด้วย... 1. ใช้ฝ่ามือถูกัน, 2. ฝ่ามือถูหลังมือและซอกนิ้วมือ, 3. ใช้ฝ่ามือถูฝ่ามือ และนิ้วถูซอกนิ้ว, 4. หลังนิ้วมือถูฝ่ามือ, 5. ถูนิ้วหัวแม่มือโดยรอบด้วยฝ่ามือ, 6. ปลายนิ้วมือถูขวางฝ่ามือ, 7. ถูรอบข้อมือ โดยโครงการนี้มีการจัดกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งกับโรงเรียน 24,000 แห่งทั่วประเทศ และชุมชนต่าง ๆ

อย่างไรก็ดี นอกจากเรื่องของ “มือ” ที่สำคัญต่อการป้องกันการ ติดเชื้อไข้หวัดนก หรือโรคติดต่อต่าง ๆ เป็นรายบุคคลแล้ว กับกฎเหล็กที่ จะสามารถป้องกันการติดเชื้อ-การแพร่ระบาดของไข้หวัดนกในภาพรวม ก็ จำเป็นต้องมีการทำควบคู่กันไปด้วย ทั้งในส่วนของหน่วยงานรัฐ และภาคเอกชน ภาคประชาชน

ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงสัตว์ปีกในระบบปิด ป้องกันสัตว์ปีกที่เลี้ยงไม่ให้สัมผัสสัตว์นำโรค โดยเฉพาะนก, หากพบสัตว์ปีกป่วย-ตายผิดสังเกต รีบแจ้งเจ้าหน้าที่รัฐเข้าตรวจสอบ-ควบคุม, ไม่ทิ้งสัตว์ปีกที่ป่วย-ตายเรี่ยราด ต้องเผา หรือฝังให้ลึกมากพอแล้วโรยปูนขาวกลบทับดินให้แน่น, ไม่นำสัตว์ปีกที่ป่วย-ตายผิดสังเกตมาชำแหละทำอาหาร จำหน่าย หรือนำไปเลี้ยงสัตว์ทุกชนิด ทั้งนี้ “ต้องเคร่งครัดกับกฎระเบียบในการควบคุมการระบาดของไข้หวัดนก” ไม่หลบเลี่ยง พร้อม ๆ ไปกับการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล ที่รวมถึงการ “ล้างมือ”

“หวัดนก” มันยังร้าย-ยังอันตราย...ต้องช่วยกันระวัง

อย่าละเลยจนมันแพร่ระบาดมาก...เหมือนที่เคยเกิด

ตอนนี้เมืองไทยก็มีเรื่องทุกข์-เรื่องวุ่นมากอยู่แล้ว !!!.

 

ผมมารายงานตัวแล้วนะครับที่ไม่ได้มาหลายวันเพราะคอมเสียเอาไปซ่อมมาแล้วครับ
วันที่ 20
1.สวดมนต์ไหว้<O></O>
2.ภาวนาทำสมาธิ<O></O>
3.รักษาศีลสมาทานศีล<O></O>
4.รับงับความโกรธกับความโลภอันเป็นกิเลส<O></O>
5.ช่วยแม่จัดของให้เป็นที่เป็นทาง<O></O>
6.ยินดีในบุญของผู้อื่น<O></O>
7.ทำบุญอธิฐานใส่บาตรกับแม่<O></O>
8.ศึกษาธรรมะต่างๆ<O></O>
9.เพียรที่ปิดกั้นระวังความชั่วต่างๆมิให้เกิด<O></O>
10.เพียรที่กำจัดบาปและอกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว<O></O>
11.เพียรที่จะสร้างความดี<O></O>
12.เพียรรักษาความดี รักษาความดีอย่างตั้งมั่น<O></O>
13.แผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย<O></O>
14.เชื่อฟังพ่อแม่<O></O>
15.มีความรับผิดชอบในหน้าที่ที่สัญญากับเพื่อน<O></O>
16.เจริญพรหมวิหาร 4<O></O>
17.ใช้อิทธิบาท4เข้าช่วยในการเรียน<O></O>
18.ขยันทำงานอ่านหนังสือตั้งใจเรียนทดแทนคุณพ่อแม่<O></O>
19.ช่วยพ่อแม่ขายของเฝ้าร้าน
20.หมั่นระลึกและเคารพคุณพระรัตนตรัยพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่เคารพเวลามีปัญหาให้เกิดความกำลังใจและมีแรงหรือเวลากลัวต่างๆให้มีความกล้าระลึกเป็นกำลังใจว่าท่านคอยคุ้มครองช่วยเหลือเรา
21.อภัยทานแก่คนที่มาแกล้งหรือทำร้ายเราคิดมิดีกับเรา
<O></O>
วันที่ 21<O></O>
1.สวดมนต์ไหว้<O></O>
2.ภาวนาทำสมาธิ<O></O>
3.รักษาศีลสมาทานศีล<O></O>
4.รับงับความโกรธกับความโลภอันเป็นกิเลส<O></O>
5.ช่วยแม่จัดของให้เป็นที่เป็นทาง<O></O>
6.ยินดีในบุญของผู้อื่น<O></O>
7.ทำบุญอธิฐานใส่บาตรกับแม่<O></O>
8.ศึกษาธรรมะต่างๆ<O></O>
9.เพียรที่ปิดกั้นระวังความชั่วต่างๆมิให้เกิด<O></O>
10.ขยันทำงานอ่านหนังสือตั้งใจเรียนทดแทนคุณพ่อแม่<O></O>
11.เพียรที่กำจัดบาปและอกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว<O></O>
12.เพียรที่จะสร้างความดี<O></O>
13.เพียรรักษาความดี รักษาความดีอย่างตั้งมั่น<O></O>
14.แผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย<O></O>
15.เชื่อฟังพ่อแม่<O></O>
16.มีความรับผิดชอบในหน้าที่ที่สัญญากับเพื่อน<O></O>
17.เจริญพรหมวิหาร 4<O></O>
18.ใช้อิทธิบาท4เข้าช่วยในการเรียน<O></O>
19.ช่วยพ่อแม่ขายของเฝ้าร้าน
20.หมั่นระลึกและเคารพคุณพระรัตนตรัยพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่เคารพเวลามีปัญหาให้เกิดความกำลังใจและมีแรงหรือเวลากลัวต่างๆให้มีความกล้าระลึกเป็นกำลังใจว่าท่านคอยคุ้มครองช่วยเหลือเรา
21.อภัยทานแก่คนที่มาแกล้งหรือทำร้ายเราคิดมิดีกับเรา
วันที่ 22
1.สวดมนต์ไหว้<O></O>
2.ภาวนาทำสมาธิ<O></O>
3.รักษาศีลสมาทานศีล<O></O>
4.รับงับความโกรธกับความโลภอันเป็นกิเลส<O></O>
5.ช่วยแม่จัดของให้เป็นที่เป็นทาง<O></O>
6.ยินดีในบุญของผู้อื่น<O></O>
7.ทำบุญอธิฐานใส่บาตรกับแม่<O></O>
8.ศึกษาธรรมะต่างๆ<O></O>
9.เพียรที่ปิดกั้นระวังความชั่วต่างๆมิให้เกิด<O></O>
10.ขยันทำงานอ่านหนังสือตั้งใจเรียนทดแทนคุณพ่อแม่<O></O>
11.เพียรที่กำจัดบาปและอกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว<O></O>
12.เพียรที่จะสร้างความดี<O></O>
13.เพียรรักษาความดี รักษาความดีอย่างตั้งมั่น<O></O>
14.แผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย<O></O>
15.เชื่อฟังพ่อแม่<O></O>
16.มีความรับผิดชอบในหน้าที่ที่สัญญากับเพื่อน<O></O>
17.เจริญพรหมวิหาร 4<O></O>
18.ใช้อิทธิบาท4เข้าช่วยในการเรียน<O></O>
19.ช่วยพ่อแม่ขายของเฝ้าร้าน
20.หมั่นระลึกและเคารพคุณพระรัตนตรัยพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่เคารพเวลามีปัญหาให้เกิดความกำลังใจและมีแรงหรือเวลากลัวต่างๆให้มีความกล้าระลึกเป็นกำลังใจว่าท่านคอยคุ้มครองช่วยเหลือเรา
21.อภัยทานแก่คนที่มาแกล้งหรือทำร้ายเราคิดมิดีกับเรา<O></O>
<O>วันที่ 23
1.สวดมนต์ไหว้<O></O>
2.ภาวนาทำสมาธิ<O></O>
3.รักษาศีลสมาทานศีล<O></O>
4.รับงับความโกรธกับความโลภอันเป็นกิเลส<O></O>
5.ช่วยแม่จัดของให้เป็นที่เป็นทาง<O></O>
6.ยินดีในบุญของผู้อื่น<O></O>
7.ทำบุญอธิฐานใส่บาตรกับแม่<O></O>
8.ศึกษาธรรมะต่างๆ<O></O>
9.เพียรที่ปิดกั้นระวังความชั่วต่างๆมิให้เกิด<O></O>
10.ขยันทำงานอ่านหนังสือตั้งใจเรียนทดแทนคุณพ่อแม่<O></O>
11.เพียรที่กำจัดบาปและอกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว<O></O>
12.เพียรที่จะสร้างความดี<O></O>
13.เพียรรักษาความดี รักษาความดีอย่างตั้งมั่น<O></O>
14.แผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย<O></O>
15.เชื่อฟังพ่อแม่<O></O>
16.มีความรับผิดชอบในหน้าที่ที่สัญญากับเพื่อน<O></O>
17.เจริญพรหมวิหาร 4<O></O>
18.ใช้อิทธิบาท4เข้าช่วยในการเรียน<O></O>
19.ช่วยพ่อแม่ขายของเฝ้าร้าน
20.หมั่นระลึกและเคารพคุณพระรัตนตรัยพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่เคารพเวลามีปัญหาให้เกิดความกำลังใจและมีแรงหรือเวลากลัวต่างๆให้มีความกล้าระลึกเป็นกำลังใจว่าท่านคอยคุ้มครองช่วยเหลือเรา
21.อภัยทานแก่คนที่มาแกล้งหรือทำร้ายเราคิดมิดีกับเรา
วันที่ 24
1.สวดมนต์ไหว้<O></O>
2.ภาวนาทำสมาธิ<O></O>
3.รักษาศีลสมาทานศีล<O></O>
4.รับงับความโกรธกับความโลภอันเป็นกิเลส<O></O>
5.ช่วยแม่จัดของให้เป็นที่เป็นทาง<O></O>
6.ยินดีในบุญของผู้อื่น<O></O>
7.ทำบุญอธิฐานใส่บาตรกับแม่<O></O>
8.ศึกษาธรรมะต่างๆ<O></O>
9.เพียรที่ปิดกั้นระวังความชั่วต่างๆมิให้เกิด<O></O>
10.ขยันทำงานอ่านหนังสือตั้งใจเรียนทดแทนคุณพ่อแม่<O></O>
11.เพียรที่กำจัดบาปและอกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว<O></O>
12.เพียรที่จะสร้างความดี<O></O>
13.เพียรรักษาความดี รักษาความดีอย่างตั้งมั่น<O></O>
14.แผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย<O></O>
15.เชื่อฟังพ่อแม่<O></O>
16.มีความรับผิดชอบในหน้าที่ที่สัญญากับเพื่อน<O></O>
17.เจริญพรหมวิหาร 4<O></O>
18.ใช้อิทธิบาท4เข้าช่วยในการเรียน<O></O>
19.ช่วยพ่อแม่ขายของเฝ้าร้าน
20.หมั่นระลึกและเคารพคุณพระรัตนตรัยพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่เคารพเวลามีปัญหาให้เกิดความกำลังใจและมีแรงหรือเวลากลัวต่างๆให้มีความกล้าระลึกเป็นกำลังใจว่าท่านคอยคุ้มครองช่วยเหลือเรา
21.อภัยทานแก่คนที่มาแกล้งหรือทำร้ายเราคิดมิดีกับเรา<O></O>
<O></O></O>

 

สวัสดีตอยบ่ายนะครับวันนี้ผมไม่มีเพราะม.1-3มีการสอบธรรมศึกษาครับเขาเลยใช้ห้องเรียนผมเป็นห้องสอบเลยได้หยุดเรียน *-*