เออ!...ตามมาทำไม..ถ้าไม่รักยายผีป่า?!!

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย DevilBitch, 23 มีนาคม 2005.

  1. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    หลักบำเพ็ญภาวนาทางจิต

    ขณะนั่งตั้งจิตในพระกัมมัฏฐานภาวนานั้น ถ้าเห็นว่าจิตหดหู่ ท้อถอยตกไปในฝ่ายโกสัชชะแล้ว พึงเจริญธัมมวิจยะ หรือปีติสัมโภชณงค์ อันใดอันหนึ่งก่อน เพื่อยกจิตที่หดหู่นั้นให้เฟื่องฟูขึ้น แล้วจึงเจริญกัมมัฎฐานต่อไป หลวงปู่สายท่านเปรียบไว้ว่าการปฏิบัติเช่นนี้เสมือนการนำเอามูลวัวแห้ง หญ้าแห้ง ฟืนแห้ง มาใส่แล้วเป่าลมขึ้น เพลิงนั้นก็จะติดรุ่งโรจฯ์ขึ้นอีกได้

    ขณะเมื่อจิตฟุ้งซ่านพึงเจริญ ปัสสัทธิ สมาธิอุเปกขา สัมโพชรงค์ จิตนั้นก็จะระงับลงเปรียบดังจะดับกองเพลิงที่ใหญ่ เมื่อเอามูลโคสด หญ้าสด ฟืนสด มาทุ่มเทลง เพลิงนั้นก้อจะดับไป นี่เรียกว่าการข่มจิต<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
     
  2. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    วิธีปฏิบัติธรรมแบ่งได้เป็น ๓ ขณะ(กาล)ค่ะ
    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p> </o:p>
    - ขณะปกติ
    - ขณะที่อารมณ์มากระทบ(ผัสสะ)
    - ขณะที่เบ็ญจขันธ์จะแตกดับ(หัวเลี้ยวหัวต่อ)
    <o:p> </o:p>
    ชั้นดีเลิศ ให้ผัสสะอยู่และหยุดที่ผัสสะ

    ชั้นธรรมดา หากเผลอเลยไปถึงเวทนาเบื้องต้นแล้ว ให้รีบหยุดเพียงแค่เวทนาเบื้องต้นให้ได้ (เปรียบเหมือนเบรกได้ทันท่วงที อย่าปรุงเป็นตัณหาอุปทานต่อไป(จะเข้าเขตไฟแดงอาจเจออันตรายได้เจ้าค่ะ)
     
  3. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ความต่างของจิตและสติ

    จิตเป็นแต่เพียงรู้โดยธรรมชาติ จึงไม่อาจรู้เลยไปถึงร฿้พินิจพิจารณาวินิจฉัยตัดสินอะไรได้ ไม่รู้จักชั่ว ไม่รู้จักผิดถูก(เท่าที่กล่าวมานี้อาจยืนยันได้ตามคำของพระศาสดาได้ว่า ถ้าไม่รู้จักผลที่ได้รับในปัจจุบัน จิตจะเศร้าหมอง ภพหน้าจะต้องได้รับทุคติเพราะคำกล่าวของพระองค์ ย่อมแสดงให้ชาวโลกที่เป็นพุทธศาสนิกชนฝ่ายสัมมาทิฏฐิ ย่อมเห็นพ้องต้องกันว่า วิหญัญติ จิตัตวสานนุวตังตี ผู้ประพฤติตามอำนาจจิต ย่อมลำบาก
    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p> </o:p>
    ฝ่ายตรงกันข้ามคือสติ เป็นตัวรู้อำนาจเหนือจิต รู้เท่าทันจิต และรู้เรื่องของจิตได้ดี ขณะที่ติดตามดูจิตจะรู้ทุกขณะจิตว่า จิตดี จิตไม่ดี ถ้าเอาความชั่วปกครองจิตจะทำให้สภาพของจิตต่ำทรามลง แต่ถ้าปกครองจิตด้วยความดี ความดีนั่นล่ะเป็นผลของอานุภาพจิตที่ฝึกมาดี การที่ฝึกจิตมาทางที่ดี ที่มีสติประจำก็เพราะเจ้าของฝักใฝ่สติไปในทางดีด้วย
    ฉะนั้นพระองค์จึงตรัสว่า ผู้มีสติย่อมมีความเจริญทุกเมื่อ อนึ่งผู้ที่มีสติประจำทุกเมื่อ สตินั่นเองแหล่ะเป็นคุณธรรมที่ช่วยระวังทั้งความดีและความชั่ว เมื่อคอยระวังอยู่ย่อมไม่ก่อเวรขึ้นดังที่พระองค์ตรัสไว้ในสุตตุนตปิฏก<o:p></o:p>
     
  4. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ยายต้องขอตัวก่อนนะคะ ว่าจะพิมพ์อาการต่างๆที่เกิดจากการทำสมาธิที่หลายๆท่านติด สงสัยค่ะ แต่ที่ห้องอภิญญาก็เคยมีโพสไว้ค่ะ แต่ยายจะขยายเพิ่มเพื่อจะได้เข้าใจละเอียดขึ้นค่ะ ยายต้องรีบไปรัลลูกสาวกลับจากโรงเรียนค่ะ

    รักนะเด็กโง่...อิอิ คนแก่โง่ก้อรักจ๊ะ เหอ..เหอ...เหอ...
     
  5. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,402
    ย่องมาทักทายครับ
     
  6. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,802
    ค่าพลัง:
    +18,984
    อ่ะ จึ๋ยยย

    อ่ะ จึ๊ยยย
     
  7. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
  8. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    อันที่จริงตั้งใจตอบเพื่อนธรรมท่านหนึ่งที่ต้องการทราบว่าอาการที่เกิดขึ้นขณะปฏิบัติสมาธินั้นมันเป็นเพราะอะไร แต่ยายต้องกลับบ้านก่นนะคะ พิมพ์ไม่ไหว เวปบิวซี่บ่อยนะคะ พ่อชัยทราบแล้วแก้ไขด่วยนะคร๊าบ เจ้านายยยยย...
     
  9. เกจิหนุ่ม

    เกจิหนุ่ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +1,516
    สวัสดีงับทุกท่านนน คุยด้วยคนๆงับ

    ตอนนี้ผมกะลังคิด topic พรุ้งนี้ต้องออกไปสอบพูดแล้ว

    แต่ยังไม่รู้จาพูดเรื่องอารายดีเลย

    T^T
     
  10. เกจิหนุ่ม

    เกจิหนุ่ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +1,516
    อ่อ....ยายผีป่าครับ

    ขอเลขที่บัญชีสำหรับทำบุญ "บันไดนาคราชเจ็ดเศียร" ขึ้นกราบสมเด็จองค์ปฐม ด้วยครับ ผมหามะเจอ
     
  11. Jdin_buddhism

    Jdin_buddhism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    366
    ค่าพลัง:
    +10,153
    ขออนุญาติตอบแทนคุณยายน่ะครับ

    ชื่อบัญชี พระแสงชัย กนตสีโล(ข้างล่างตัว น มีจุดกลมๆนะจ๊ะ ยายพิมพ์ไม่เป็นจ้า ออกเสียงว่า กันตะสีโล)

    ธนาคารกรุงไทย บมจ.(Krung Thai Public Company Limited)

    บัญชีออมทรัพย์ สาขาทองผาภูมิ

    เลขบัญชี 718-0-02509-7


    และ

    บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด

    สาขาสะพานใหม่ ดอนเมือง

    ชื่อบัญชี นายณัฐพัชร จันทรสูตร เพื่อพระพุทธศาสนา

    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 081 - 2 - 47871 - 6


    <!-- / message --><!-- attachments --><!-- / message --><!-- sig -->
     
  12. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    อืม สำหรับตัวจุดที่อยู่ใต้ตัวอักษรนั้น อยู่ที่ปุ่มสระ อิ คับ กด Shift แล้วกดสระอิ -> อฺ
    ตัวนี้คนที่ไม่รู้ว่าที่แป้นพิมพ์มีนั้นก็ไม่แปลก เพราะว่าเป็นตัวที่ไม่ค่อยพิมพ์กัน ที่บอกไว้ก็เผื่อว่าอนาคตอาจมีใครได้พิมพ์ภาษาบาลี จะได้พิมพ์ถูก (ผมเองก็พึ่งรู้ได้ไม่นานนี้เองเหมือนกัน)
     
  13. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
  14. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    <TABLE width=600 border=0><TBODY><TR align=middle><TD>...ถ้าอยากได้ทิพย์จักขุญาณต้องทำอย่างไรครับ...</TD></TR><TR align=right><TD>ตอบคำถามเพิ่ม คลิกที่นี่</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR align=middle><TD class=row1 bgColor=#ffffff><TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>คืออยากถามว่าถ้าอยากได้ทิพย์จักขุญาณต้องทำอย่างไรครับ ต้องทำบุญอย่างไรปฏิบัติอย่างไรครับ ต้องทำบุญอย่างไรถึงจะได้ครับ ทำบุญแบบที่ ได้ในปัจจุบันชาติครับ แล้วตอนนี้กำลังฝึกจับภาพพระอยู่ครับ แต่ก็ยังมีมารมาขวางครับ คือการปรามาสครับ จิตมันคิดไปเองนะครับแก้อย่างไรดีครับ ทำให้ไม่ค่อยอยากปฏิบัติครับ เพราะกลัวปรามาสครับ

    ขอบคุณมากครับ

    </TD></TR><TR align=right><TD>จากคุณ สกุลโล เมื่อวันที่ 1/12/2548 18:33:34 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#b2e57f><TD class=row1 bgColor=#ffffff height=54><TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>
    ข้อความที่ 1​

    ทิพย์จักขุญาณ ของง่ายมาก ไม่ต้องตั้งจิต กำหนดอะไรทั้งสิ้น
    ถ้าจะได้ จะมาเอง แล้วแต่ฟ้าจะลิขิต

    </TD></TR><TR align=right><TD>จากคุณ คนน่ารัก เมื่อวันที่ 1/12/2548 20:02:51 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#b2e57f><TD class=row1 bgColor=#ffffff height=54><TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>
    ข้อความที่ 2​

    เลิกอยาก ให้ได้ก่อน

    </TD></TR><TR align=right><TD>จากคุณ 555 เมื่อวันที่ 2/12/2548 10:36:43 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#b2e57f><TD class=row1 bgColor=#ffffff height=54><TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>
    ข้อความที่ 3​

    เมื่อท่านผู้ปฏิบัติใดประสงค์ที่จะสำเร็จทิพย์จักขุญาณ เห็นนิมิตรทั้งทางวิปัสนากัมมัฏฐานและทางณาณรู้ตาเนื้อ ตาใน นี่ยายผีป่าขอให้ท่านทรงอารมณ์ผู้ที่เชื่อมั่นในพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ก่อนว่าท่านมีจริง ท่านสอนจริง คำสอนมีผลจริงดีแลต่อผู้ปฏิบัติได้ อย่างน้อยต้องมีศีลในการทรงอารมณ์ ทำจนเป็นความเคยชิน ไม่ผลุบๆโผล่ๆ อย่าอยากมีฤทธิ์เพื่ออวดอ้าง จงตั้งมั่น มีสติ ควบคุมจิตให้ได้ เพื่อม่ให้จิตนั้นมาหลอนเรา คือตามจิต ตามนิมิตรให้เป็น ตามอารมณ์กาย อารมณ์สมอง อารมณ์จิตให้เป็น

    เอางี้นะคะ เริ่มต้นด้วยการทำสมาธิก่อน (ต้องมีศีลอย่างน้อยศีลห้านะคะ แม้จะชั่วขณะก้อยังดีกว่าไม่มีศีลเลย) ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว อย่าเกร็ง อย่าบังคับว่าฉันต้องกำหนดเวลว่าต้องสำเร็จเวลานั้นเวลานี้นะคะ และต้องนั่งตัวตรงเพื่อไม่ให้กระดูกกดทับและฐานสมดุลย์ ตรวจจับและรู้ลมหายใจเข้าออก รู้กลไกของการก่อเกิดชีวิต สร้างสติ และปัญญา วิธีปฏิบัติเริ่มต้นยายผีป่าลงไว้ที่ห้องนี้ค่ะ ต้องขออนุญาตอาจารย์ไก่ทิ้งลิ้งไว้นะคะ เพราะยายผีป่าไม่มีเวลามากค่ะที่จะโพส ตามลิ้งไปได้ค่ะถ้าสนใจที่ครูบาอาจารย์สอนไว้ http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=6698&page=53

    ถ้าทำได้ตามนี้ อานิสสงค์เกิดหลายอย่างค่ะ ท่านอาจไม่ได้หมดทุกอย่าง แต่ที่ปฏิบัติมาแบบขาดช่วงแต่ฝึกมานานอย่างยายผีป่าก้อทำให้ยายผีป่ากล้ายืนยันค่ะว่า ครูบาอาจารย์ทุกท่านท่านสอนคล้ายๆกัน เหมือนกัน เพราะท่านสอนตามที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ และสอนได้ผลแจ้งดั่งที่บอกค่ะ

    อานิสสงค์มีดังนี้ค่ะ เมื่อสมาธิตั้งมั่น มีณาณรู้ มีญาณแจ้ง เมื่อเราทรงอารมณ์นิ่งเพียงไม่ว่าอะไรจะมากระทบจิตใจเรา เราจะมีขันติมากกว่าที่เคยมี อดทนต่อสิ่งที่มายั่วยุ ไม่ยินดียินร้าย คือวางอุเบกขาได้อย่างรอบคอบ ได้ณาณ 4 แบบไม่ต้องบีบคั้นไห้มันยาก มีอภิญญาอิทธิ ฤทธิทางใจ และมีทิพย์โสตต่างๆ บางทีเราเรียกว่าลางสังหรห์ก้อได้ค่ะ อ่านจิตสัมผัสได้ (เจโตฯ) ย้อนอดีตหรือฝัน(นิมิตร) ได้อย่างแจ่มแจ้ง ตาทิพย์ก้อต้องได้ค่ะ และที่สุดคืออาสวะญาณ
    การจับลมหายใจเข้าออกตามวิธีที่บอก(อาณาปานสติกัมมัฏฐาน) ปฏิบัติได้ทุกชาติ ทุกศาสนาค่ะ

    อย่าลืมหัดฝึกบำเพ็ญภาวนาทุกขณะจิตรู้ไม่ว่าจะนั่ง ยืน นอน เดิน ทำอะไรก้อตามที รู้ตลอด ตื่นตลอด และเบิกบาน (ไม่ใช่เบิกบานร่าเริงทางอบายนะคะ)

    การทำสมาธิทุกอย่างนิมิตรอาจจะเกิดขึ้นในห้วงสำนึกอาจเห็นได้ชัดบ้างพร่บ้างหรือแค่อาจเหมือนมีคนมากระซิบ หรือจิตรู้เองแบบที่ไม่เคยคิดว่าจะรู้ได้ขนาดนี้งัยคะ ถ้าเรามีการฝึกเกาะจิตกับกสิณต่างๆตามถนัดเราก้อจะตามกสิณนั้นๆไป มันติดตาติดตจิตค่ะ ถ้าจิตไปเกาะที่ภาพใด แนวใด ภาพย่อมเกิดตามที่จิตจับค่ะส่วนมาก

    เมื่อจิตสงบนิ่งชั่วขณะประมาณ 1 นาทีแล้วเริ่มล่องลอยไปตามปกติ เมื่อได้สติก้อดึงกลับมานี่ส่วนใหญ่จะเห็นนิมิตรแบบแว่บหายๆค่ะ นิมิตรที่นานและติดตาแจ่มชัดกว่านี่ต้องเข้าถึงอุปจารสมาธิค่ะ คือจิตสงบนานกว่าประมาณ 10 นาทีได้ค่ะ หรือนานกว่าแต่ไม่ถึงทรงณาณ ถ้านิ่งได้ปานนี้เราจับนิมิตรย่อขยายได้ค่ะ ถ้าได้อัปปนาสมาธิ(จิตสงบนิ่งได้ตามต้องการ) นิมิตรนี่จะไม่เปลี่ยนค่ะ แต่จิตใจเราจะสงบ นิ่ง ไม่ส่งจิตออกนอก ไม่ใส่ใจกับประสาทสัมผัสเลยค่ะ คือไม่ว่อกแว่กแล้ว นิ่งจริงๆ (ทางจิตน่ะค่ะ)

    ถ้าเรายังไม่สามารถทำจิตให้สะอาดบริสุทธิ์ ตั้งจิตอยู่ในภวังควิญาณ (ไร้สำนึก ว่างจากผลกระทบรอบๆ) นั่นถือว่าจิตเรายังไม่สดชื่นเบิกบานบริสุทธิ์เพียงพอนะคะ เหมือนกับว่าเราคุมจิตด้วยสติไม่เป็นงัยคะ คือยังไม่รู้จักการฝึกจิตให้ระวังต่อสัมผัสต่างๆ ระวังไปหมดล่ะค่ะ ทั้งทาง ตา หู ลิ้น จมูก ตา กาย ใจ พวกจิตไร้สำนึกนี่ต้องแก้ด้วยการฝึกสมถะแลพวิปัสนา เพราะธรรมจะช่วยซะล้างสันดานเคยชินที่จะเป็นตัวขัดต่อการนำพาสุข(การหาทางหลุดพ้น) ค่ะ

    เมื่อเราคุมจิต อ่านจิต ตามจิต ล้างจิตเป็น เราก้อจะกล
    ยเป็นผู้ที่ตื่นแล้ว มีอารมณ์บริสุทธิ์ ไม่มีกิเลสครอบงำ พฤติกรรมทุกๆกรรมย่อมเจริญ น่าเชื่อถือ แจ่ม จึงไม่ยากนะคะที่เราจะสามารถกำหนดจิตให้เราได้ทิพย์จักขุ รำลึกชาติ และเห็นภาพต่างๆได้

    ขอขมาครูบาอาจารย์ทุกองค์ค่ะถ้าหากยายผีป่านำมาแนะนำบกพร่อง ผิดพลาด

    ถ้าจะให้ดี ตามพระพุทธเจ้า พระอริยะเจ้านะคะ ยายผีป่าตามถูกๆผิดๆ เขวๆบ้างค่ะ เพราะบางทีออกจะเชื่อมั่นตัวเองมากไป บางทีอาจหลอนตัวเองเช่นกันค่ะ ไม่แจ้งดีนัก ยังไม่ใช่ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบที่ควรอนุดมทนาเสมอไปเจ้าค่ะ

    </TD></TR><TR align=right><TD>จากคุณ ยายผีป่า เมื่อวันที่ 2/12/2548 11:55:13 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#b2e57f><TD class=row1 bgColor=#ffffff height=54><TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>
    ข้อความที่ 4​

    กลัวนั่งแล้วเห็น ผีป่า อย่าเห็นดีกว่า
    ทำจิตให้บริสุทธิ์ ทำใจให้สบาย
    การกำหนดทำให้เราคอยจับผิดตัวเอง ไม่ตรงตามตำรามั่ง ไม่ตามอาจารย์สอนมั่ง ทำให้เราตกใจกลัว
    นั่งตามจริตของตัวเอง สมาธิจะพาเราไปเอง แล้วก็ไม่ผิดอะไรด้วย

    </TD></TR><TR align=right><TD>จากคุณ คนน่ารัก เมื่อวันที่ 2/12/2548 14:18:00 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#b2e57f><TD class=row1 bgColor=#ffffff height=54><TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>
    ข้อความที่ 5​

    ข้อความที่ 4

    กลัวนั่งแล้วเห็น ผีป่า อย่าเห็นดีกว่า

    ++ 5555555

    ยายผีป่าเขา สุดจะน่ารัก

    </TD></TR><TR align=right><TD>จากคุณ คนน่ารักกว่า เมื่อวันที่ 2/12/2548 22:45:02 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#b2e57f><TD class=row1 bgColor=#ffffff height=54><TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>
    ข้อความที่ 6​

    อนุโมทนาบุญค่ะคุณยาย

    </TD></TR><TR align=right><TD>จากคุณ พุทธันดร เมื่อวันที่ 3/12/2548 2:50:48 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#b2e57f><TD class=row1 bgColor=#ffffff height=54><TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>
    ข้อความที่ 7​

    สวัสดีค่ะญาติธรรมที่นับถือทุกท่าน แหม...อย่าว่ายายนอกใจเวปพลังจิตเลยนะคะ เวปคนเมืองบัว กับเวปพลังจิต นี่เหมือนเวปพี่เวปน้องค่ะในความรู้สึกของยายผีป่าค่ะ เพราะหลายๆท่านเข้าทั้งสองเวปและเวปธรรมอื่นๆด้วยค่ะ อุ้ย คุณคนน่ารักเจ้าขา ขนาดคุณไม่อยากส่งกระแสจิตถึงใครๆเลย แต่ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองนะคะ ผีป่าตัวนี้เนี่ยป่วนจิตคุณคนน่ารักตลอดเวลา ทุกลมหายใจเข้าออกไม่ใช่เหรอคะ อย่าบิดเบือนสิว่ากลัวผีป่า ยายผีป่าน่ารักเจงๆเจ้าค่ะ อิอิ น่ารักขนาดคุณคนน่ารักกว่ามายืนยันตอกย้ำเจ้าค่ะ แหม..เชียร์กันเองแระ เขิลจังเรย ..ไหนๆ ก้อแวะมาแระ ขอโพสเพิ่มเติมตามการสอนของครูบาร์อาจารย์นะคะ เมื่อวานคณะของโรงเรียนเซนต์คาเบีรลไปบริจาคของช่วยโรงเรียนบ้านวังผาตาด และยายได้พาคณะ(นำโดยอาจารย์วิวรรธ) ขึ้นไปกราบนมัสการสมเด็จองค์ประฐม(ปางมนุษย์) และชมถ้ำทะลุ หลวงพี่แสงชัย เจ้าอาวาสได้นำทำสมาธิ(กึ่งมโนมยิทธิ) สักพักค่ะ เมื่อคืนก่อนหลวงพี่แสงชัยได้ไปที่บ้านยายผีป่าเพื่อชมการถ่ายทอดพระราชดำรัสเนื่องในวันพระราชสมภพแห่งองค์ในหลวง ขณะเดียวกันมีแขกจากเมืองกาญจน์มาพบยายผีป่าเพื่อให้ช่วยตรวจดวงชะตาให้ (ไม่ทราบว่าใครบอกว่ายายทำนายได้ อันนี้ยายไม่อยากทำนายให้ใคร นอกจากมาขอคำปรึกษาการครองตนค่ะ เหมือนจิตแพทย์และนักปรึกษาปัญหาอะไรดีกว่าค่ะ ไม่อยากให้ใครเรียกแม่หมอ) หลวงพี่แสงชัยถามยายว่าวิชาที่เรียนนี้เรียนอย่างไร ครูบาอาจารย์ท่านให้สอนไหม ยายเลยหัวเราะหลวงพี่ขำๆ (ไม่ใช่ปรามาสนะเจ้าคะ) แหม..หลวงพี่เจ้าคะ มีดีแล้วมองไม่เห็นดีแห่งตนที่มี มองคนอื่นมีดีกว่า นี่สำคุญนะเจ้าคะ หลวงพี่ลืมครูบาอาจารย์แล้วหรือเจ้าคะ ยายเลยทำนายไปตีชิ่งส่งหลวงพี่ไป หลวงพี่เลยต้องติดบ่วงกลลวงของยายที่ค่อยๆดึงวิชชาที่หลวงพี่มีออกมาค่ะ เมื่อคืนท่านบอกว่า ยังนึกไม่ออกว่าตอนยายส่งยาซองถวายให้ทำไมถึงเริ่มเห็นอะไรชัดเจนขึ้น คือพอพูดถึงอะไร ใครถามอะไร เมื่อก่อนท่านไม่กล้าตอบ ไม่กล้าบอกว่าเห็น แต่เมื่อวานภาพชัดเจนขึ้น อันนี้คณะของอาจารย์ที่ไปถ้ำยืนยันได้ค่ะ อย่างน้อยก้อคุณที่ขับรถปิคอัพล่ะ หลวงพี่แสงชัยบอกไม่อยากตอบ เพราะเกรงว่าจะเป็นการอวดอุตริฯ แต่ยายบอก หลวงพี่เจ้าคะ วิชชที่ท่านโปรดเมตตามอบให้เราๆนี่ เพื่อช่วยสรรพสัตว์ให้ตื่นเหมือนกันนะเจ้าคะ ยายไม่ขอเรียกว่า ตาทิพย์ โสตทิพย์นะเจ้าคะ

    ถ้าถามว่ายายฝึกอย่างไร อันที่จริงแล้วท่านอื่นๆก้อมีดีเหมือนกันค่ะ แต่ไม่แน่ใจตัวเองใช่ไหมคะ วิชชานี้เป็นวิชชาที่ครูใหญ่เบื้องบนท่านสอนไว้ค่ะ ติดตามอ่านเลยค่ะ อ่านแล้วเอามาปฏิบัตินะคะ ตามจริตค่ะ เอามาผสมผสานกันตามจริตเข้าใจไหมคะ อย่าฝืน อย่าเกร็ง

    </TD></TR><TR align=right><TD>จากคุณ ยายผีป่า เมื่อวันที่ 6/12/2548 9:50:01 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#b2e57f><TD class=row1 bgColor=#ffffff height=54><TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>
    ข้อความที่ 8​

    ถ้าท่านใดเคยติดตามอ่านที่เวปพลังจิต ที่ห้องตามหาคุณยายที่รักมาตลอด ยายผีป่าเคยถามท่านคนเก่าถึงชื่อหลวงปู่สุก ที่ยายเห็นในนิมิตรที่ท่านและนักรบจีนผสมไทยมีหางเปียมาเตือนและช่วยยายผีป่าไว้ปีก่อน และเมื่อยี่สิบปีเห็นจะได้ หลวงปู่หลายองค์ได้มาโปรดยายผีป่าทางนิมิตรและหนึ่งในนิมิตรท่านบอกยายว่า จำไว้นะลูก เราชื่อสุก ตอนนั้นยายยังไม่รู้จักวิชชามโนมยิทธิค่ะ แต่ฝึกวิชชาจากคนเฒ่าคนแก่ ที่สั่งสอนมา ปนเปกับการเรียนแบบครูพักลักจำจากการปฏิบัติของพระดีหลายองค์จากอิสาณใต้ค่ะ

    ยายผีป่าจำได้คร่าวๆว่าท่านสอนในนิมิตรว่าให้สำรวมจิตค่ะ ไม่ต้องจำกัดท่าทาง ไม่ต้องจำกัดเวลา แต่ถ้าต้องการสมาธิเร็วและทรงตัวเบื้องต้นต้องนั่งตัวตรง ตามที่ยายโพสเบื้องต้น (ตำราหลวงปู่สาย) แต่แตกต่างตรงที่ท่านหลวงปู่สุกนั้นสอนให้เจริญธาตุให้เป็น ก้อมีธาตุ 7 ธาตุค่ะ คือใช้อาณาฯรวมธาตุอุทิศขันธ์ห้าของตนให้ตั้งเป็นสถูปเจดีย์ทิพย์ อาราธนาธาตุทั้ง 7 อันมี ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ วิญญาณ จิต ในองค์พระทิพยมาณกายแห่งองค์พระพุทธฯ คือขอบารมีจากพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ทรงโปรดแผ่รัศมีบารมีจากอทิสมาณกายของท่านเพื่อดลบันดาลให้ธาตุที่เราตั้งไว้ทั้ง 7 มีอิทธิ ฤทธิ มีมงคล อายุวรรโณ สุขัง พลัง และสามารถมีฤทธิ์ทางใจเพื่อช่วยสงเคราะห์สรรพสัตว์และเพื่อนๆร่วมโลกที่ต้องการๆช่วยเหลือจากฤทธิ์ของการปฏิบัติจากเราได้ตามบารมีค่ะ (จิตขลัง หรือฤทธิ์ทางจิต นี่ยายเพิ่งทราบว่า คือหนึ่งในอภิญญา 6 คือมโนมยิทธิค่ะ)

    เมื่อจิตเราเป็นสมาธิ มีความขลัง จนสามารถเกิดณานตามลำดับขั้นการทรงอารมณ์และได้มโนมยิทธิ มีฤทธิ์ทางจิต มีปาฏิหารย์สืบเนื่องต่างๆได้ การที่ผู้ได้ฤทธิ์ทางจิตนี่จะช่วยให้การขอพร ขอบารมีได้เลิศกว่าค่ะ อันนี้ขึ้นกับบารมีของผู้ปฏิบัติและผู้มาขอให้ช่วยด้วยนะคะ คนจิตบอดต่อให้คนมีบารมีสูงเพียงไรมาช่วย ก้อช่วยปลดบาปได้ยากค่ะ เหมือนพวกตกนรกขั้นต่ำสุดๆนี่ แผ่อย่างไรก้อไม่ได้รับค่ะ จะให้จะช่วย กรรมบาปมันปิดจนผีนรกมันมาด่าคนที่จะช่วยค่ะว่าอย่ามายุ่งกับมัน เราก้ออย่ายุ่งกับเปรตนรกที่จิตบอดถาวรเลยดีกว่า ดปรดไป ช่วยไป ก้ออาจพาลกับเรา ใช่ไหมเจ้าคะ
    หลายครั้งค่ะที่ยายบำเพ็ญอารมณ์ณานในทุกๆอริยาบท (ตัวจริงยายเปรี้ยวมากค่ะ ก๋ากั๋น ไม่เรียบร้อยนะคะ หลายคนบ่นว่ายายปฏิบัติธรรมตอนไหนว่ะ) ยายผีป่าก้อปฏิบัติตลอดเมื่อจิตรำลึกรู้สิคะ จะกิน จะนอน จะดูโทรทัศน์ ยายผีป่าแยกแยะจิตสำนึกออกจากกันค่ะ ระหว่างทางโลกกับทางปฏิบัติจิต หลายครั้งที่ทรงอารมณ์คุมจิต ตรวจจิต สั่งสอนจิต จนหลับไป แหม มันหลับโล่งดีจริงๆเจ้าค่ะ ไร้กังวล สบายกายสบายใจขอยืนยันค่ะ ดังนั้นถ้าเรานั่งสมาธิไม่ว่าท่าใดๆก้อตามถ้าล้า ถ้าง่วง อย่าฝืนนะคะ เราอย่าทรมานสังขารเราสิคะ ยกเว้นว่าอยากดับ ละขันธ์ไปเลย ไม่กลัวตายแล้ว ไม่เสียดาย การเวียน ว่าย ตาย เกิด ไม่หลง รูป รส กลิ่น เสียง ไม่หลอนจิตว่าตนบรรลุแจ้งแล้ว คือไปอย่างว่างเปล่าแต่ไปดีงัยคะ


    </TD></TR><TR align=right><TD>จากคุณ ยายผีป่า เมื่อวันที่ 6/12/2548 10:24:15 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#b2e57f><TD class=row1 bgColor=#ffffff height=54><TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>
    ข้อความที่ 9​

    เมื่อวานต้องขออภัยด้วยเจ้าค่ะ ที่ยายผีป่าตอบไม่เสร็จ คือทิ้งคาไว้ เนื่องด้วยคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนไม่ค่อยสมประกอบเจ้าค่ะ

    การที่เรารวมธาตุทั้ง 7 นี่นะคะ รวมเพื่อนำเอาธาตุแต่ละอย่างมาพิจารณาให้กระจ่างแล้วตัดออกทีละธาตุ จนเหลือแค่จิต ขณะที่พิจารณาธาตุนั้นให้ใช้กสินที่ถนัดที่ชอบเข้าไปด้วย อย่างยายนี่นั่งเพ่งดวงอาทิตย์ค่ะ บางทีนั่งกลางทางฝายน้ำล้นแล้วหันหน้าสู้แสงเช้า และโพล้เล้ค่ะ อ๊วกแตกอ๊วกแตน ตอนนั้นอยากมีฤทธิ์มากค่ะตามประสาคนเพี้ยนงัยจ๊ะ มันไม่ได้ผลตอนทรมานตนหรอกนะ เพราะมันตึงไป พอคลายความอยากไป แบบบ่นกับตัวเองว่า อีจ๋อยนี่ถ้าขืนมึงทรมานตัวเองเพราะอยากได้อยากเด่นเกินมนุษย์มะนามึงนั่นหล่ะจะตาย เลยมองอะไรๆที่เป็นกลาง แล้วที่นี้มันผลุบมาเอง แต่ถ่าจิตตกนี่ไม่ฝึกทรงอารมณ์ให้ดีพอมันก้อไม่เกิดหรอกนะ ดันทุรังสร้างนิมิตรมันก้อยิ่งไม่เกิด ใครมีของเก่านี่ดีนะคะ แค่จิตนึกก้อได้แระ




    </TD></TR><TR align=right><TD>จากคุณ ยายผีป่า เมื่อวันที่ 8/12/2548 11:50:37 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  15. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    แหะๆ หลวงพี่แสงชัยต่อว่ายายสอนโหดไป คือสอนให้พิจารณาธาตุทั้ง 7 คนหลายคนคงงง และเกรงว่าทำไม่เป็นจะเพี้ยนได้ค่ะ เพี้นนี่ไม่ใช่บ้านะคะ หมายถึงไปนั่งพิจารณา ดิน นำ ลม ไฟ อากาศ จริงๆ คือ ธาตูทุกธาตุที่จะนำมาพิจารณานี่มันรวมเป็น ร่างกาย เลือด เนื้อ ระบบต่างๆของร่างกายและจิต วิญญาณค่ะ พิจารณาขันธุธาตุนั่นล่ะ ตัดนิวรณืไปทีละอย่าง

    หลวงพี่บอกแหมไอ้คนที่โดนสอนแบบโหดๆมานี่มันดีตอนปลายจริงๆนะ แต่คนเริ่มต้นจะรากแตกได้ ท่านบอกว่า อาณาปานุสสติผสมกับกสินกองใดกองหนึ่งได้นะ ที่จริงไม่ต่างกันเลยค่ะ ฝึกไปตามกำลังเราค่ะ อย่าฝืน อย่าอยากได้
     
  16. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    พระคาถาในการน้อมจิตก่อนการบำเพ็ญพิจารณาธาตุ(ลป.สุก)

    เมื่อจิตเราคลายจากนิวรณ์ได้ชั่วขณะก็ดีหรือทรงตัวก็ดี ให้น้อมจิตตั้งนะโมสามจบ พร้อมตั้งจิตน้อมรำลึกถึงพระพุทธคุณ

    นะโมตัสสา ระหันตัสสะ ภะคะวันตัสสะตาทิโน
    สัมมา สามัง วะ พุทธัสสะ ธัมเมภิภัชชะวาทิโน

    ข้าพเจ้าขอน้อมนำพระพุทธคุณอันยิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ์เหนือคุณานุภาพใดๆในจักรวานของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ จงโปรดแผ่พระอาทิสมานยกายเสด็จเข้ามาสถิตย์เป็นสถานที่ที่พึ่งอันสูงสุดในชีวิตของข้าฯ โปรดปกปักษ์รักษาชีวิตของข้าฯ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานเทอญฯ

    แล้วภาวนา

    อิติปิโส ภะคะวา อะระหังสัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อนุตตะโร ปุริสะธัมมะสาระถิ สัตถาเทวะ มะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติฯ
    พุทธังภะคะวันตัง อะภิวาเทมิฯ

    แล้วขอพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์โปรดแผ่พระบารมีให้จิตของเราจรรณโลงพร้อมศีลบำเพ็ญฯ ด้วยการภาวนาบท

    พุทธัสสานัง นิยาเทมิ สะรีรัญชีวิตัญจิทัง
    วันทันโต หัง จะริสสามิ พุทธัสเสวะ สุโพธิตัง
    นัตถิเม สะระณัง อัญญัง พุทโธ เม สะระณะ วะรัง
    เอเตนะ สัจจะ วัชเชนะ
    วัฑเฒยยัง สัตถุ สาสะเน
    พุทธัง เม วันทะมาเนนะ ยังปุญญัง ปะสุตัง อิทะ
    สัพเพปิ อันตะรายาเม มะเหสุง ตัสสะ เตชะสาฯ

    แล้วน้อมจิตสำรวมเชื่อมั่นในพระธรรมคุณ ด้วยบทภานานี้ค่ะ

    สาธุ

    นะโมตัสสะ ธัมมัสสะ นิยากัสสะ วัตตะโต
    ปะเภทานะวะ วีตัสสะ สุอักขา ตัสสะ สัจจะโต

    แล้วขอพระธรรมานุภาพอันศักดิ์สิทธิ์สถิตย์ปกปักรักษา และอุปถัมภ์ชีวิตข้าฯตลอดกาลนานเทอญฯ ตามด้วยบทภาวนา

    สะวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอ หิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญู หีติฯ
    ธัมมัง นะมัสสามิฯ

    ธัมมัสสาหัง นิยาเทมิ สะรีรัญชีวิตัญจิทัง
    วันทันโตหัง จะริส สามิ ธัมมัสเส วะ สุโพธิตัง
    นัตถิเม สะระณัง อัญญัง ธัมโม เม สะระณัง วะรัง
    เอเตนะ สัจจะ วัชเชนะ วัฑเฒยยัง สัตถุ สาสะเน
    ธัมมัง เม วันทะมาเนนะ ยังปุญญัง ปะสุตัง
    สัพเพปิ อันตะรายาเม มะเหสุง ตัสสะ เตชะสา

    แล้วน้อมจิตต่อพระสังฆคุณอีกเช่นกันค่ะ

    สาธุ
    นะโม อิริยะ สังฆัสสะ สัญจิภู ตัสสะ สัตถุโน
    กิเล สานุสะเย สัพเพ ปาหานะ ปะฏิ ปัตติยาฯ

    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน
    ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    ญายะ ปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ
    อัฎฐะปุริสะปุคคะลา
    เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลี กะละณีโย อะนุตตะรัง ปุญญัก เขตตัง โลกัสสาติฯ
    ตังสังฆัง อะภิวาเทมิ

    สังฆัสสาหัง นิยาเทมิ
    สะรี รัฐชีวิตัญจิทัง
    วันทันโต จะริสสามิ
    สังฆัสโส ปะฏิปันนะตัง
    นัตถิเม สะระณัง อัญญัง
    สังโฆ เม สะระณัง วะรัง
    เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
    ยังปุญญัง ปะสุตัง อิธะ
    สัพเพปิ อันตะรายาเม
    มะเหสุง ตัสสะ เตชะสาฯ

    หมายเหตุ ทุกคราที่จบบทภาวนาแด่ พระพุทธ พระธรรม พระสงค์ ให้จบมือขึ้นท่วมหัวแล้วเป่าลงมาทั่วกาย นึกถึงการสวมครอบมงคลงัยจ๊ะ มโนเอาว่าสวมมงคลทิพย์ให้ครอบทั่วหัว ร่าง

    แล้วรวมภาวนาบูชาพระรัตนตรัยอีกค่ะ

    สาธุ

    นะโม อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ มเหสิโน
    นะโม อุตตะมะ ธัมมัสสะ สะวากขาตัสเสวะ เต นิธะ
    นะโม มะหาสังฆัสสาปิ วิสุทธะ สีละทิฏฐิโน
    นะโม โอมาตะยะรัทธัสสะ รัตตะนัตยัสสะ สาธุกัง
    นะโม โอมะ กาตีตัสสะ ตัสสะ วัตถุตถะ ยัสสะปิ
    นะโม การัปปะภาเวนะ วิคัจฉันตุ อุปัททะวา
    นะโม การุนุภาเวนะ สุวัตถิ โหตุ สัพพะทา
    นะโม การัสสะ เตเชนะ วิธิมหิ โหมิ เตเชวะ

    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ สังฆัง สาระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิพุทธัง สาระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

    ถ้าท่านผู้บำเพ็ญสามารถสวดได้ครบบทที่ให้มา เรียกว่าสวดไตรสรณาคมค่ะ มีพระที่พระพุทธเจ้าทรงบวชให้ เพียงแค่ภาวนาว่า พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ด้วยจิตน้อมนำและสักการะ พระรูปนั้นบรรลุอรหันต์ทรงอภิญญา และปฏิสัมภิทาต่างๆได้ค่ะ

    การบำเพ็ญมโนมยิทธิแบบนี้เน้นการเดินธาตุ พิจารณาธาตุ เราสามารถได้ฤทธิ์ทางใจ สามารถนำไปใช้ในการอธิศฐานจิตขอบารมี ปลุกเสกพุทธอาคมได้เร็วและดีค่ะ และถ้าควบคุ๋กับการเพ่งบริกรรมกสินที่ถนัดด้วย ยิ่งจะช่วยให้มีตาทิพย์ และอภิญญามากมายค่ะ
    (bb-flower
     
  17. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ธาตุทั้ง 7 เขียนตามลำดับการพิจารณาธาตุ(เดินธาตุ) เพื่อให้เกิดมโนมยิทธิ ตามแนวของหลวงปู่สุก



    ให้หายใจเข้าลึกๆแต่อย่าเกร็ง พร้อมเดินธาตุตามลมหายใจ อย่าลืมพิจารณาด้วย

    ติ (น้ำ)
    นัง (ไฟ)
    หัง (ดิน)
    ถิ (ลม)
    จะ (อากาศ)
    โร (วิญญาณ)
    โต (จิต)

    แล้วพอหายใจออกลึกๆ เดินธาตุย้อนกลับมาค่ะ แต่ โต (จิต) จะไม่ย้อน จะคงตำแหน่งเดิมค่ะ

    ดังนี้ค่ะ
    โร ถิ นัง ติ หัง จะ โต

    ถ้าไม่สามารถจำได้ ให้เยนเป็นวงกลมหรือกรอบ ไว้ตามลำดับ ติดหน้าฝาผนัง หรีตามองหากจำไม่ได้ พยายามจำให้คล่อง หรี่ตาบ่อยๆไม่ไหวนะเจ้าคะ

    แล้วตัดธาตุครั้งต่อไปเหลือ 6 ธาตุ ดังนี้ค่ะ

    หายใจเข้า

    นัง หัง ถิ จะโร โต

    หายใจออก

    ถิ นัง ติ หัง จะ โต

    หมายเหตุ ลืมบอกไปเจ้าค่ะ แต่ละบทนี้ให้บริกรรมอย่างน้อย 10 นาทีนะคะ เพื่อให้ทรงอารมณ์นั้นๆ ก่อนที่จะตัดธาตุลงมาค่ะ งงไหมล่ะคะ

    ทีนี้ตัดเหลือ 5 เหลือ 4 เหลือ 3 เหลือ 2 แล้วที่นี้จะเหลือ โต คือจิตตัวเดียว ทีนี้พิจารณาแต่โตไปเรื่อยๆค่ะ จนได้ณาณขั้นใดขั้นหนึ่งค่ะ บางคนจิตนิ่ง ทรงอารมณ์เป็นกลางตัดนิวรณ์ได้ชั่วขณะที่บำเพ็ญได้ อาจได้มโนฯ ทันทีค่ะ แล้วแต่บารมีใครที่สั่งสมมาด้วยค่ะ จะบำเพ็ญนานแค่ไหนก้อขึ้นกับกำลังเราค่ะว่าพร้อมแค่ไหน


    เมื่อได้มโนมยิทธิแล้ว (อาจใช้เวลาหลายวัน หลายเดือน นะขอบอกก่อน แต่อย่าท้อ อย่าตำหนิตัวเองนะเจ้าคะ ) จะสร้างบารมีต่อไปเป็นวิปัสนายาณขั้นสูงขึ้นไปต่อๆไปได้ค่ะ เพียงน้อมจิตให้ดำเนินไป
     
  18. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ว๊า...ม่ายมีใครมาทักทายเรย น้อยใจ ไปแระ...แง้...
     
  19. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ถ้าอยากได้ทิพย์จักขุ นี่เลยค่ะ หลวงปู่สุกท่านสอนให้เน้นบริกรรมพิจารณาธาตุกลุ่มนี้ค่ะ เริ่มด้วย

    หายใจเข้า อิ สา ระ ระ ชา ตะ คะ
    หายใจออก ตะ ระ สา อิ ระ ชา คะ

    ปัดเป่าพิษไข้ และพิษต่างๆได้ชะงัดแลค่ะ

    คะ นี่คือ จิต เช่นเดียวกับ โต ค่ะ แต่เพื่อใช้บำเพ็ญเพื่อให้ได้ตาทิพย์นี่เปลี่ยนจากโต เป็น คะ
     
  20. watt

    watt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +151
    ถามเรื่องกลิ่นครับ

    เรียน คุณยาย...

    ผมได้รับพระชุดหลวงปู่ใหญ่จากคุณยาย ปรากฎว่าจนบัดนี้ซองบรรจุยังมีกลิ่นหอมอยู่เลยครับ แต่หอมเฉพาะนอกซองนะครับ ข้างในปกติ แล้วพระหลวงปู่ ฯผมไปเลี่ยมห้อยคอปรากฎว่ามีกลิ่นหอมออกมาด้วยครับ ทั้ง ๆที่เลี่ยมอย่างดีแล้วครับ จึงอยากเรียนถามปรากฎการณ์นี้กับทางคุณยายครับ ช่วยตอบประดับความรู้กับบุรุษที่โง่เขลาอย่างผมด้วยครับ

    นับถือครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...