เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

แหะๆ ๆ ว่างซะที ทีนี้จะเล่าให้จบแบบไม่มีกั๊กเลยครับ ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนนะครับ ว่าที่ได้เที่ยว เอาของ ของหลวงปู่ท่านไป จับพลังนี่ไม่ใช่ว่า ไม่มั่นใจในของท่าน หรือคิดล่วงเกินท่านนะครับ เพราะในใจของผมเองก็เคารพ นับถือท่านหมดใจแบบเกินร้อย แต่หลวงปู่ของพวกเรานะครับ นอกจากท่านจะเก่งแบบหาตัวจับได้ยากแล้ว ท่านยังถ่อมตัวแบบยากจะหาคนสู้ด้วย เรื่องอภินิหารนี่ถ้าไม่จับได้จังๆ รับรองไม่ยอมรับ ดังนั้นถ้าจะไปถามท่านว่าในพระที่ท่านสร้างท่านเสกอะไรไว้บ้าง คงจะได้รับคำตอบเลี่ยงๆ แบบต้องมานั่งคิด บวกกับรอยยิ้มเล็กๆ ของท่านล่ะครับ แหะๆ ๆ

แบบนี้เลยต้องหาตัวช่วยครับต้องหาผู้รู้ท่านช่วยดูให้ว่าท่านเสกอะไรไว้บ้าง ก็เปรียบเหมือนหนัง ที่ต้องมีนักวิจารณ์ล่ะครับ แต่ของหลวงปู่นี่หนังฟอร์มยักษ์ เล่นเอานักวิจารณ์ อึ้งไปไหลายที พระอาจารย์ที่ผมไปหา ท่านอยู่ในกรุงเทพฯ ครับ อยู่แถวตลิ่งชัน เรื่องที่ผมเล่านี่ก็ถ่ายทอดจากคำพูดท่านมาครับ เป็นสิ่งที่ท่านใช้จิตของท่านดูแล้วเห็นดังนั้นครับ<O
ผมนำพระไปให้พระอาจารย์ท่านเมตตาดูให้หลายอย่างครับ แต่อย่างแรกที่ให้ท่านดูให้ คือ

 

เหรียญสวยทั้งคู่ ตะกรุดมีรอยจารมือ มีโค้ดวัด

แฟนพันธ์แท้วัดมอญ

 

ออ ได้ฟังแบบนี้ พอจะเดาทางออกว่า หลวงพ่อท่านเสกถึงขั้นอัญเชิญ
ญาณบารมี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ครูบาอาจารย์ มาสถิต ณ วัตถุมงคลของท่านได้เลย
เพราะผมก็เคยเอา ตะกรุดเทพรัญจวน ไปให้ลูกศิษย์สายแม่ชีทศพร นั่งทางใน
ดูให้ดอกนี้เขาถึงกับสะดุ้งเลยนะครับ เขาก็เข้าสมาธิใหม่ ก็บอกผมว่า
เป็นทางเมตตา และได้มี ดวงจิต(ท่านนั้นเรียกดวงจิต) ของครูบาอาจารย์
เจ้าของวิชาเฝ้าดูแลอยู่ และตะกรุดนี้ ทำมาตามต้นตำหรับของวิชาทุกประการ

ผมถามลักษณะของครูอาจารย์ท่านนั้น ท่านบอกว่าเป็นฆราวาส เป็นคนโบราญ
แบบมีอาคมขลัง เล่นไสยศาสตร์ ไม่ใส่เสื้อ
ผมเล่าเรื่องนี้ให้คุณเบนฟัง คุณเบนบอกว่า จริงครับ ! ผมอึ้ง!
เลยถามกันต่อประสาคนอยากรู้ คุณเบนเล่าให้ฟังว่า ในอดีตที่อ่างทอง
เคยมี หมอเปรี้ยว กับหมอฟู จอมขมังเวทย์ เล่นคุณไสย หลวงพ่อท่าน
มีความเกี่ยวข้องเป็นญาติกัน จึงได้เรียนมาแบบเต็มสูตร

กระผมจึงถือเอาว่าหมอเปรี้ยว หมอฟู ท่านทั้งสองเป็นบูรพาจารย์
ที่ต้องระลึกถึง แต่ถึงอย่างไรผมก็ไม่ทราบได้ว่าข้างในเป็นอย่างไร
หรือวิชาสายใหนกันแน่ ผมไม่มีตาใน แต่ขอเป็นใช้ได้ ขลังจริง ก็ดีใจมากแล้ว

ส่วนเรื่องรายละเอียด ท่านหมอเปรี้ยว หมอฟูนี่ ต้องรอผู้รู้ คุณพี หรือ
คุณเบน มาช่วยเสริมรายละเอียดหน่อยน่าจะดีครับ
ผมก็อยากรู้ที่มาที่ไปของท่านเหมือนกัน ระดับเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อทรงนี่นา

ขอบคุณ คุณเมืองสมุทรที่เอามาเล่าสู่กันฟังครับ

 

เคยเล่าไปแล้วจ้า ตกอันดับแฟนพันธ์แท้แล้วน่ะคุณเทวฑูต

ระดับท่านหมอฟู กับ หมอเปรี้ยวน่ะ เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อ แต่ถ้าเจอ ปรมาจารย์หมอน้อย ที่เป็น อาจารย์ของอาจารย์อีกที น่ะครับ รู้แล้วจะหนาว หมอน้อยท่านเกิดหลังกรุงแตก ไม่กี่สิบปี คนวิเศษขนานแท้

แหวนผ้าชุบรักของท่านโยนใส่เตาไฟ ไม่ไหม้ แล้วจึงค่อยเอาไป เอาแหวนท่านแขวนไว้ที่หัวเรือ กันได้ทั้งคน ทั้งคันเรือ ส่วนไสยศาสตร์ สาขาอื่นน่ะ มีแน่นอน

ผมลืมไปว่าท่านใครเป็นลูกเขย ให้น้องเขามาบอก ผมก็แค่ฟังมาอีกที เพราะเกิดไม่ทัน แต่ระดับหมอฟู กับ หมอเปรี้ยวน่ะ นอนตอนกลางวันต้องกางมุ้งลงอาคมครับ ไม่ใช่กันแมลง แต่กันของคนส่งมาทำ พวกเครื่องราง ตะกรุด เบี้ย ตะโพน แหวน มีดหมอ ไม้ครู พระปิดตา หุ่นพยนต์ มาจากสายนี้แหละครับ จะเห็นได้ว่าจากประวัติหลวงพ่อ ท่านไม่ต้องธุดงค์ไปไหนไกลๆเพื่อไปเรียนวิชาน่ะครับ แถวๆ วิเศษฯ สุพรรณ แถวๆ แม่น้ำน้อยนี่ ก็เหลือเฟือ แค่นี้ท่านก็เหนื่อยมากแล้ว ตอนแก่ๆไม่สบายยังต้องมาโปรดคน ท่านยังบอกพระครูอุปฯ ว่าอย่าไปเรียน เดี๋ยวจะเหนื่อยเหมือนผม

ของสายนี้ เขาทำมาแล้วไม่ใช่ขายเอาตังค์ แต่ทำให้ลูกศิษย์ไปใช้ติดตัว ให้ลองได้ด้วย ถ้าไม่ดี ไม่ต้องเอาไป ....แหะๆ

คนสืบสายมา ท่านไม่คุย ไม่โม้ ใครอยากรู้ต้องลองหามาติดตัวเองครับ

 

เรื่องรายละเอียด หมอเปรี้ยว หมอฟู คงต้องให้พี่พี ท่านออกโรงเองครับ ผมแค่ผู้น้องเผลอๆอายุผมจะเป็นผู้หลานด้วยซ้ำไปครับ 55 ขอรออ่านดีกว่าครับ ..... ด้วยความเคารพครับ

 

มาเล่าต่อครับ พระที่เป็นพิมพ์ พระกริ่ง ของหลวงปู่พระอาจารย์ท่านบอกว่า พลังแรงครับ พลังจะพุ่งขึ้นบนศรีษะ แล้วนิมิตเป็นองค์พระตั้งอยู่กลางศรีษะแผ่พลังคุ้มครองทั้งตัวเลยครับ วันนั้นที่ผมนำไปให้ท่านดูเป็นพระกริ่งบาเก็ง และพระกริ่งหน้าอินเดียครับ สองพิมพ์นี้ศูนย์สร้างนะครับ

รูปเหมือนปั้มรุ่นแรก ท่านบอกว่า ดีมาก คุ้มครองป้องกันดีมาก มีเมตตาด้วย ท่านบอกว่า พอเข้าสมาธิปั๊บเห็นเป็นพญาปลามาดูแลรักษาอยู่ ท่านย้ำว่าไม่ใช่ปลาธรรมดานะครับ เป็นระดับ<O</Oพญาปลา รูปเหมือนปั้มนี่ก็ศูนย์สร้างนะครับ ของผมได้มาจากที่วัด
<O

มาถึงองค์นี้เด็ดครับ เหรียญหล่อมหาเศรษฐี พระอาจารย์ท่านยังชอบเลยครับท่านบอกเหรียญนี้ แรงดีทุกด้าน ครบหมด แต่เน้นมาให้เด่นด้านโภคทรัพย์ ท่านบอกว่าเหรียญนี้พอเข้าสมาธิแล้ว นิมิตเห็นหลวงปู่ท่านมาเต็มองค์เลยครับ เหรียญหล่อเศรษฐีนี่ก็ศูนย์สร้างนะครับ องค์นี้หลวงปู่ท่านจารให้ด้วยครับ
<O</O

ดูมาถึงขนาดนี้พระอาจารย์ท่านถึงกับออกปากว่า หลวงปู่ทรง ท่านเก่งจริงๆ เสกพระได้หลากหลายมากๆ ตอนแรกที่ท่านดูพระของหลวงปู่ท่านบอก ว่าหลวงปู่ใช้พุทธคุณเสกล้วนๆ พอดูไปดูมา บ้างองค์ก็เชิญครูมา บางองค์ก็มีฤษี และยังเรียกจิตทิพย์ต่างๆ มาดูแลรักษาได้ด้วย คือเรียกได้ว่าหลวงปู่ท่านเก่งทุกแบบ เสกได้ทุกอย่างครับ ท่านบอกว่า พระของหลวงปู่ไม่ว่าจะแบบไหนเสกอย่างไร เป็นของเย็นหมด คือท่านดูพระของหลวงปู่ไปเรื่อย ๆ ท่านบอกท่านเย็น สบายกาย สบายใจ ท่านยังบอกอีกว่าเสียดายท่านวาสนาไม่ถึงถ้าท่านรู้จักหลวงปู่ ก่อนท่านจะละสังขาร ท่านจะไปกราบหลวงปู่แน่นอน
<O

สององค์ต่อมาเป็นพระผงจันทร์ลอย กับพระขุนแผนครับ พระผงจันทร์ลอยนี่ก็ไม่ธรรมดา นะครับ ผมเอาไปให้ท่านดูสองครั้งครับ ครั้งแรกท่านดูท่านบอกว่าดีมากๆ แขวนเดี่ยวเลยก็ได้ ท่านว่าแค่วางพระลงบนมือ ตัว นะโภคทรัพย์ก็ลอยเด่น ออกมาให้เห็นเลยครับ ท่านบอกว่าพระนี่ทำไว้ดีหมดแล้ว พระผงจันทร์ลอย นี่เอาให้ท่านดูครั้งที่สอง ท่านถึงได้ยอมบอกว่า หลวงปู่ท่านเชิญพระพรหมไว้ เพราะพอเข้าสมาธิก็เห็นพระพรหมเลยครับ คือพระอาจารย์ท่านไม่ได้ ชอบมาเล่าว่าพระองค์ไหนเป็นยังไงหรอกนะครับ ท่านบอกว่าคนคุ้นเคยกันถึงได้บอก ดังนั้นบางครั้งท่านดูแล้วอาจะเห็นอะไรหลายอย่าง แต่ท่านก็ไม่ได้บอกผมหมด หรอกครับ บางทีต้องแกล้งถามหลายครั้ง ถึงยอมบอก แหะๆ ๆ
<O
ส่วนพระขุนแผนนี่ท่านบอกเมตตาดี ท่านบอกว่าพระนี่ที่เรียกขุนแผนเพราะต้องการสื่อถึงความเมตตา ที่จริงพระนี่ไม่ใช่พระขุนแผนหรอก ท่านยังทิ้งท้ายอีกว่าคนสร้างเขาก็รู้ดี ( หมายถึงศิษย์คณะระยอง )
<O

ท่านบอกกับผมว่า พระของหลวงปู่นี้ไม่ได้เสกด้วยคาถาหรอกถ้าเห็นท่องบ้าง ก็แค่เป็นพิธี ท่านเสกด้วยจิต ท่านเข้าฌาณแล้วท่านก็อธิษฐานพระให้เป็นไปตามใจท่าน คนเอาไปใช้ให้หมั่นระลึกถึงท่าน แล้วก็อธิษฐานเอาได้เลย

 

พระขุนแผนครับ


ยังเหลือพระผงอีกสามพิมพ์ครับ รับรองว่า สุดยอดครับ

 

ขอบคุณพี่เมืองสมุทร มากๆครับ ที่มาช่วยเล่าสู่กันฟัง พระอาจารย์ท่านที่ดูพระหลวงพ่อท่านสุดยอดจริงๆ ท่านบอกตรงมาหมดเท่าที่ผมทราบ และเคยถามหลวงพ่อ อย่างเช่นอันนี้ชัดเจนมากครับผมเคยถามหลวงพ่อท่านว่า หลวงพ่อครับเสกพระยากไหมครับ ท่านบอกไม่ยากทำใจให้นิ่งๆและนึกเอาครับ อย่างที่พระที่พี่เมืองสมุทรบอกว่าท่านใช้อฐิษฐานจิตใช้จิตล้วนๆครับ ท่านถึงได้บอกว่าพระท่านไม่เสื่อม ทำสำเร็จแล้ว อฐิษฐานเอาเอง เพราะท่านไม่ได้ใช้เสกแบบคุณไสย แต่เสกโดยใช้จิตแบบคุณพระ สุดยอดครับ

 

รูปเหมือนปั้มรุ่นแรก ท่านบอกว่า ดีมาก คุ้มครองป้องกันดีมาก มีเมตตาด้วย ท่านบอกว่า พอเข้าสมาธิปั๊บเห็นเป็นพญาปลามาดูแลรักษาอยู่ ท่านย้ำว่าไม่ใช่ปลาธรรมดานะครับ เป็นระดับ<O</Oพญาปลา รูปเหมือนปั้มนี่ก็ศูนย์สร้างนะครับ ของผมได้มาจากที่วัด

****************************
แหม ลงช้าอีกนิด ผมออกไปแล้วแน่เลย ยังงี้เก็บไม่ปล่อยครับ........ดีที่ได้มาไม่แพง

ดีนะยังจองเก็บพระกริ่งบาเก็งเนื้อชนวนมีจาร ไว้อีกองค์.....อันนี้ก็ไม่แพง เก็บไม่ปล่อยอีกเช่นเคยครับ

แต่อยากได้พระที่ นะโภคทรัพย์ แรง ๆ อย่างพระผงจันทร์ลอยบ้างจัง แบบธรรมดา ๆ ก็ได้ ใครมีบอกบ้างเด้อครับ

 

ต้องรุ่นหลานสิครับคุณเบน คุณพีนี่ท่านอายุมากกว่าพ่อผมหลายปี
แต่ไม่กล้าเรียกลุงครับ จะได้ดูหนุ่มไปนานๆ เกรงใจท่าน

ออ ฮ่ะะๆๆ ครับคุณพี ก็ได้ยินว่าอาจารย์ทั้งสองนั้น ทำเสน่ห์ยาแฝดด้วย
ก็เดาๆเอาว่า วิชาทางเสน่ห์ของหลวงพ่อน่าจะมาจากสายนี้
และถ้าเป็นเช่นนั้น คนโบราญที่เขาเห็น ผมเดาเอาว่า น่าจะเป็น
หมอน้อย ฆราวาสจอมขมังเวทย์ท่านนี้นี่เอง

น่าจะเป็นอย่างที่คุณพีเคยพูดไว้ว่า
หลวงพ่อท่านทำได้ต่อวิชาได้ถึงครูบาอาจารย์
วิชาท่าน ท่านเสกท่านสร้างได้
ไม่ให้อายครูบาอาจารย์จริงๆ

คนอ่างทองนี่ มียอดคน ยอดวิชาชุมนุมกันอยู่เยอะจริงๆ
และผู้สืบทอดวิชาอย่างหลวงพ่อนี่ ไม่ทำให้ครูบาอาจารย์
และเหล่าลูกศิษย์ลูกหาผู้ศรัทธาท่านได้ผิดหวังเลย



ขอคาราวะหลวงพ่อ และเหล่าบูรพาจารย์ ครับ

 

ขอบคุณคุณเมืองสมุทรมากครับที่ได้เล่าเรื่องพระของหลวงพ่อให้พวกเราลูกศิษย์หลวงพ่อได้รับทราบกันครับ ผมก็แขวนเดี่ยวพระกริ่งบาเก็งเลี่ยมทองที่หลวงพ่อจารให้อยู่องค์เดียวครับ สวดมนต์ระลึกถึงหลวงพ่อก่อนนอนและตอนเช้าก่อนไปทำงานทุกวันเลยครับ

 

เมื่อวานตอนกลับจากทำงาน เจอป้าที่เป็นแม่บ้าน ที่ผมเคยเล่าให้ฟังว่า
ให้ป้าแกยืมตะโพนไปใช้ เพราะตอนนั้นเห็นแกเป็นทุกข์มาก ผมสงสาร
เรื่องคดีที่ขึ้นโรงขึ้นศาลอยู่ ชนะคดีครับ และได้เงิน มีเงินเหลือไปถอย
รถมอเตอร์ไซค์มาให้ผัวแกได้เอาใช้วิ่งวินมอเตอร์ไซค์หารายได้
ดูหน้าตาแกดีขึ้นมามาก หมดเรื่องคดีความและมีเงินแล้ว
ผมคิดไว้ในใจตั้งแต่แรกแล้วว่า บารมีของหลวงพ่อคงช่วยเขาได้
เพราะเขามีทุกข์จริงๆตามประสาคนจน ผมก็ถามเขาว่า "เป็นไงบ้างป้า
ตะโพนใช้ดีมั้ย" เขาบอกว่าเขาก็อธิฐานเรื่องคดีความ ให้ท่านช่วย
ให้ชนะคดี ผมเห็นชีวิตเขาดีขึ้นผมก็ดีใจครับ และปลื้มเรื่องหลวงพ่อด้วย




ไม่เกินกรรม ต้องทำได้

 

มาเรื่อยๆน่ะครับ ประสบการณ์พระของหลวงพ่อ มีคนโทรมาหาผม เล่าให้ฟัง ผมขอให้เขียนมาลงบ้าง

จะเห็นได้ว่า ของๆหลวงพ่อ มีดีไม่แยกค่ายน่ะครับ แบบที่เล่าให้ฟังว่า ท่านเมตตาเขาไปทั่ว ทั้งของศูนย์ ของคณะศรัทธา พระที่ดู ท่านไม่ได้บอกเลยว่า อันไหนดีกว่าอันไหน เพียงสรรพคุณแตกต่างไปตามที่อธิฐานจิต หลวงพ่อทรงท่านก็ไม่เคยพูดน่ะครับ ว่ารุ่นไหนดีที่สุด หรือ รุ่นไหนดีกว่ารุ่นไหน เพียงแต่ท่านบอกว่า ของดีมั่ง ของเขาดีมั่ง ให้เอาไว้ติดตัวบ้าง แจกให้มาบอกว่าดีๆ เท่านั้นเอง

เรื่องการอธิฐานจิตนี้ หลวงปู่อาจารย์ผมบอกว่า

ถ้าเป็นรูปพระ พระพุทธ หรือ พระสงฆ์ อธิฐานเสกอย่างครับ


แต่ถ้าเป็นเครื่องราง อันนี้รวมพวกเทพด้วย อธิฐานเสกอีกอย่างครับ

แต่การเอามาเสก ไม่ต้องแยกมา รวมกันมาก็ได้ บอกท่านหน่อยก็ได้ว่ามีอะไรอยู่บ้าง แต่พอรวมกันมาบ่อยๆ ไม่ต้องบอกก็ได้ ท่านแยกจิตเสกได้ครับ

เมื่อกำหนดจิต เดินไปตามญานด้วยวสีอันชำนาญอย่างรวดเร็ว เมื่อถอยหลังจิตออกมาอยู่ที่จิตสงบพอใช้งานได้ ก็อธิฐานจิตได้เลยครับ

เมื่อเป็นรูปพระก็อธิฐานเชิญบารมี พระพุทธคุณ ( พุทโธ อัปปมาโน ประมาณมิได้ ) พระอรหันต์สาวก และครูบาอาจารย์ ที่มีศีลบริสุทธิ์ มาสถิตย์ อำนวยพรให้ของเหล่านั้น มีมงคล การทำนี้ ท่านที่ชำนาญวสี ทำได้เพียงแค่เสี้ยว วินาที อย่างท่านอาจารย์ใหญ่ หลวงพ่อจง กำหนดจิต เป่าพ้วงเดียว ใช้ได้ ของที่เป็นพระพุทธคุณนี้ จะเย็นๆ เย็นกายเย็นใจ ไม่ร้อนรุ่ม ของไม่ขึ้น ให้งุ่นง่าน ปกป้องคุ้มครองผู้เสื่อมใสได้แบบสบายๆ

แต่ถ้าเป็นรูปเทพ หรือ เครื่องราง อธิฐานเสกอีกอย่าง อาจจะเชิญ เทพ ครูบาอาจาร์สายนั้น มารับรู้ มา สถิตย์ ที่วัตถุมงคล ครูบาอาจารย์สายนั้น อาจจะไม่ใช่พระน่ะครับ มีศีลตามแบบรูปแบบท่าน อาจจะไม่เคร่ง ๒๒๗ ข้อ เหมือนพระ แต่มีสัจจะ ของแบบนี้อาจจะแรงมากๆได้ครับ เช่นแนวเสน่ห์ เมตตา แม้จะเป็นแนวเย็นๆ แต่เฉียบขาด...แหะๆ

ส่วนพวกของร้อนๆ ผมไม่เคยเจอในของๆอาจารย์ผมกับหลวงพ่อทรงน่ะครับ แต่เคยเจอในสิงห์สัมฤทธิ์ ที่เขาฝังกรุที่สิงห์บุรี ผมได้ตัวที่ฝาไหมา ชุดนี้แสบมาก จะเล่าให้ฟังทีหลัง ( ถ้าอยากเล่า ) เจอในตะกรุดบางอาจารย์ และเจอในของเครื่องรางอาถรรพ์บางอย่าง เช่นรูปหนุมาณ ผ้ายันต์บางชนิด ของแบบนี้มีเก็บเหมือนกันแต่ไม่ชอบเท่าไหร่ มาอยู่กับผมจะเงียบเป็นส่วนใหญ่

รอให้เรื่องเหล่านี้ มาจนครบผมจะสรุปแนวคิดให้ฟังน่ะครับ

 

แล้วคุณป้า แกเอาตะโพน มาคืนหรือปล่าวครับ ...แหะๆ

 

มาถึงพระผงสามองค์องค์สุดท้าย สามพิมพ์นี้ ทุกท่านคงรู้จักกันดีครับ คือ พระผงพิมพ์รูปเหมือนหลวงปู่ พระสมเด็จแหวกม่านพิมพ์วัด และพระนักธรรมพิมพ์วัดครับ พระสามองค์นี้ตอนนำออกมาให้พระอาจารย์ท่านดู ท่านถูกใจพิมพ์รูปเหมือนมากๆ หยิบขึ้นมาวางบนมือ มองดูแล้วบอกว่า พระนี้แค่วางบนมือพลังก็แผ่ออกมาไม่หยุด แล้วท่านก็นำไปวางไว้ข้างหน้าท่านครับยังไม่ดู ท่านไปดูอีกสององค์ที่เหลือก่อน ผมเลยส่งพระแหวกม่านให้ท่านดู แล้วบอกท่านว่าหลวงปู่ท่านบอกว่า พระนี่แหวกอุปสรรค์ได้ครับ ท่านรับไปแล้วเข้าสมาธิ พอลืมตา ท่านบอกว่าข้างในมีองค์พระเปล่งรัศมีสว่างไสว ผมเลยถามท่านต่อว่า แล้วแบบนี้แหวกอุปสรรค์ได้ไหมครับ ท่านบอกได้สิ สว่างขนาดนี้ และข้างในยังมีมือที่มองไม่เห็นอยู่ด้วย ( ท่านบอกอย่างนี้เลยนะครับ ) ท่านบอกมือนี้คอยโอบอุ้ม ค้ำชูอยู่ พร้อมที่จะช่วย มีปัญหาอะไรก็อธิษฐานบอกเอาได้เลย

 

แหะๆ ๆ ๆ

 

ยังครับ ผมจะขอคืนตอนที่ผมจะย้ายที่ทำงานครับ
น่าจะช่วงปีใหม่ครับ แหม๋ ถ้าแกฮุบของผมนี่
ผมพูดไม่ออกเลย เพราะมีอยู่ลูกเดียว เป็นของทางนาฏศิลป์
ดนตรีไทย ผมต้องเก็บไว้ให้รุ่นลูกๆหลานๆไว้ดู
ต่อไป ไม่ได้แค่ดูเล่นๆ ผมจะบอกเขาว่า ขลังดีด้วยนะ ลูกหลานเอ้ย!

 

จากพระแหวกม่านก็มาถึงพระนักธรรมครับ ตอนผมส่งให้ท่านดูผมบอกว่า พระนี้หลวงปู่แจกให้เด็กๆ เอาไปใช้แล้วเรียนเก่งครับ พระอาจารย์ท่านยังบอกว่าเพิ่งเคยเห็นพระที่ใช้แล้วเรียนเก่ง เอามาดูซิเป็นยังไง ท่านเข้าสมาธิดูไม่ถึงนาที ท่านลืมตาแล้วบอกว่า

 

ชอบๆ ครับแบบนี้ พระนักธรรมนี่ติดคอไปทำงานประจำ

พระแหวกม่านจากประสบการณ์เคยใช้ ผมจะอาราธนาขึ้นคอ
ตอนช่วงเจอปัญหา คิดหาแก้ไขไม่ออก

ยังไม่เคยมีครั้งใหนที่ทำให้ผมจะผิดหวังเลย