ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

อาการที่คอคุณ นวดที่ใหนก็ได้ ข้างถนนยังทำได้เลย
แต่อาการที่มดลูกและปีกมดลูกต้องมาที่คลีนิคผมอย่างเดียวไม่อาจรักษาโคนต้นมะขามได้
โทรนัดก่อนมา(เพราะอยู่ไม่เป็นที่) ตามเบอร์ที่เขียนบอกไว้

 

เรื่องของข้อเข่า มีสองอาการที่ตรงกันข้าม
๑. อาการเข่าโก่ง ออกด้านข้าง
๒. อาการเข่าเฉียงออกด้านข้าง ทั่วไปเรียกขาเป็ด/หรือขาแป
<O</O

ทั้งสองอาการ ต้นเหตุ เกิดจากข้อสะโพกเคลื่อน (แต่คนทะทิศทางกัน)
และเมื่อทำงานหนัก เดินมาก แบกน้ำหนักมาก อาการที่เคลื่อนที่สะโพกจะมากขึ้นและก็จะเริ่มปวดสะโพก และเรื่มเดินไม่ถนัด
<O</O

ร่างกายเรานั้นเยี่ยม เมื่อเกิดการเดินไม่ถนัด ร่างจะปรับตัวสู่สมดุลย์ใหม่โดยขยับข้อเข่า ชดเชยการเคลื่อนตัวของสะโพก
ทำให้ขาเริ่มโกงออก หรือแป แบบขาป็ด เพื่อให้เดินได้ถนัดเป็นไปทีละน้อยเป็นปีๆ
เมื่อเข่า ปรับตัวเข้าสมดุลย์ใหม่ อาการปวดที่สะโพกก็จะลดลง จนหายเอง
ไม่นานอาการปวดเข่าก็จะเริ่มขึ้น มีอาการแปลกๆ
เอ็นตามข้อกระดูกเริ่มโปน เริ่มเจ็บ และสุดท้ายข้อเข่าก็จะถูกทำลายจนผิดรูป
อาการเข่าโกง/ขาแป ก็เห็นได้ชัดขึ้น มากขึ้น
ร่างกายจะปรับตัวครั้งใหญ่อีกครั้ง เพื่อให้เดินได้
เวลาเดินจะมีการโยกตัวช่วย ซ้ายบ้างขวาบ้างชดเชยดุลยภาพที่เสียไปอันเกิดจากข้อเข่าผิดรูป
เมื่อโยกตัวสักพัก/หนักขึ้น กระดูกสันหลังที่เอว ก็จะเริ่มเคลื่อน อาการ ปวดหลังปวดเอวก็จะตามมา
กระดูกหลังเริ่มทับเส้นประสาท เจ็บแปร๊บปร๊าบเวลาขยับตัว
เจ็บมากขึ้น สมองเลยสั่งงาน ให้กล้ามเนือเกร็งล๊อกไม่ให้ขยับข้อต่อบริเวรนั้น
ตกลงสุดท้ายเลยเดินไม่ได้
<O</O

เห็นได้ว่า ต้นเหตทั้งหมด มาจากข้อสะโพก
เหตุทีให้ข้อสะโพกเคลื่อน(แค่บิดตัวเล็กน้อย)มีมากมาย เช่น
มีเหตุอันเกิดจากการลี้ยงดูแต่เด็ก เช่น การอุ้มเข้าสะเอว พวกคนจีนชอบอุ้มแบบนี้ สังเกตุอากง อาม้า จะเป็นโรคนี้กันมาก(ขาโก่ง)
อีกเหตุหนึ่ง การกางขานานเกิน มากเกิน (โยคะ/กิจกรรมพิเศษ)การคลอดบุตรแบบธรรมชาติ ล้วนทำให้เกิดข้อสะโพกเคลื่อนได้
แต่โบราณ ผู้คลอดบุตรจะต้องอยู่ไฟและมีหมอนวดมานวดจัดกระดูกเชิงกรานให้เพื่อจัดให้ข้อสะโพกและกระดูกเชิงกรานเข้าที่
การอุ้มเข้าสะเอว การกางขา/อ้าขา เป็นเวลานาน จะทำให้เกิด โรคขาโก่ง
<O></O>
โรคขาแป โดยมากเกิดกับหญิง สาววัยเจริญพันธ์ขึ้นไป
เป็นเพราะค่านิยมหนึ่ง เวลาเดินขาต้องชิดติดกัน เวลายืนเข่าต้องชิดขาอ่อนต้องชิดกัน ห้ามมีร่องเด็ดขาด
จึงมีการบังคับตั้งแต่เด็ก ให้เดินปลายเท้า(นิ้วโป้ง) มาชิดกันบางคนถึงกับปลายเท้าชิด ซ่นเท้าห่าง (ซึ่งมากเกิน)
และเมื่อมากเกินเลยจุดหนึ่งเข่ามาชิดกันมากเกินร่างกายจะเดินไม่ถนัด จึงต้องปรับตัวใหม่โดยขยับข้อเข่าชดเชยทำให้ข้อเข่าแปออกไป
<O</O

การนวดปรับดุลย์ภาพ เพื่อรักษาอาการดังกล่าวจะใช้เวลานาน เป็นเดือนๆ
ขยับข้อสะโพกนิด ข้อเข่าหน่อย ทำได้ทีละนิดทีละหน่อยเท่านั้น (ถ้าขยับมากเกินจะเดินไม่ได้)
ถ้ากระดูกผิดรูปแล้ว หรือเริ่มผิดรูป การขยัยดังกล่าว จะทำให้ร่างกายรู้สึกเจ็บและเดินไม่ถนัดไปพักใหญ่
ถ้าคนไข้ไม่เข้าใจหมอจะถูกคนไข้ด่าตอนมาพอเดินได้ จัดดุลย์ภาพแล้วหายเจ็บก็จริง แต่กลับเดินไม่ได้

เลยต้องอธิบายกันมากหน่อย

 

พี่ suwi ครับ ผมเป็นโรคหอบหืดมาตั้งแต่เด็ก หายเป็นไปพักใหญ่ เมื่อสักประมาณ5-6 ปี ทีแล้วกลับมาเป็นอีก ไปหาหมอแผนปััจุบันเขาก็ให้ใช้ยาเป่าขยายหลอดลม ซึ่งผมก็ใช้เรื่อยมา
บางครั้งนอนอยู่ดีๆ ลมหายใจติดขัดเหมือนไม่ได้หายใจ ต้องลุกขึ้นมาดึงลมหายใจนานเกือบ
10 นาที จึงรู้สึกว่าปกติ แต่เป็นไม่บ่อยโดยเฉลี่ยปีละ1-2ครั้ง ความรู้สึกเหมือนคนใกล้จะตาย
ผมภาวนาพุทโธในใจตลอดเวลา ขอให้พี่โปรดวินิจฉัยโรคและแนะนำยาให้ผมด้วยเถิดครับ

 

ปกติเท่าที่พบ ผู้เป็นโรคภูมิแพ้ทุกคน จะเป็นโรคไฟธาตุพิการทั้งสิ้น
แต่พวกหอบหืดนอกจากไฟธาตุจะพิการแล้ว ยังมีปัญหาของเสมหะพิการร่วมด้วยเสมอ
โบราณเรียกมองคร่อ เกิดจากเสลดเสมหะแห้ง(มีเชื้อโรคปนด้วย)ติดในหลอดลมและปอด ทำให้เกิดภูมิแพ้เรื้อรัง
เวลามีอาการกำเริบ การรักษาแผนปัจจุบันจึงต้องมียาแก้อักเสบร่วมด้วยเสมอ

การรักษาแผนไทย จึงต้องปรับทั้งสามธาตุ(ปิตะ เสมหะ และวาตะ)
เริ่มจากปรับธาตุน้ำขึ้น เพื่อให้เสมหะฟู บำรุงวาตะเพื่อให้ขับเสมหะออก และเพิ่มปิตะธาตไฟ ทำลายเชื้อโรคที่ติดค้างในเสลดและเพิ่มขบวนการสร้างสุขภาพให้สูงขึ้น
จะเห็นว่าการทำเสมหะให้ฟูขึ้น จะทำให้อาการหืดหอบมากขึ้น ช่วงนี้ต้องควบคุมให้ดี(มียาแก้อักเสบร่วมด้วย) แล้วให้ขับเสมหะออกมากๆ
บางตำรับยา คนไข้ทั้งไอทั้จามทั้งอวกเพื่อขับเสมหะเหนียวๆข้นๆสีเขียวๆออดมาจากปอด(ช่วงนี้ทรมารมาก)

จะเห็นว่าหลักการของแผนปัจจุบัน คือกดโรคไว้ไม่ให้แสดงอาการออก ร่างกายก็จะอยู่ได้สบายๆ แต่ต้องกินยาคุมตลอด
แต่แผนไทยใช้วิธีไล่/ขับโรคออกจากตัว

ยาปลูกไฟธาตที่ให้ไว้ ไม่พอเพียงที่จะใช้รักษาโรคนี้ เดี๋ยวจะมาบอกยาให้ภายหลัง
ขอไปนอนฝันสักพัก จะหาวิธีการให้

 

อ้อ..ยังมีโรคอีกชนิดหนึ่ง คนชักเป็นกันมาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และหรือผู้มีพลังจิตสูงที่ชอบเข้าฌานแบบนิ่งๆ
อาการนั้นคือ อาการหยุดหายใจ (เป็นมาก ไหลตายเอาดื้อๆ)

อาการนี้ สุวิเองก็เป็น หากนั่งสมาธิลึกๆก่อนนอน หรือฝึกติดต่อกัน ก็เป็นทุกที เป็นโรคไม่อยากหายใจ

เคยถามท่านผู้เฒ่า ถึงเรื่องนี้ ท่านหัวเราะ และตอบว่า คนเราถ้าไม่หายใจมันก็ตาย ถ้าไม่อยากตายให้หายใจเข้าไว้
และหัวเราะเสียงดัง และกล่าวว่าจำไว้

"ไม่อยากตายให้หายใจเข้าไว้ รับรองว่า ตราบใดหายใจอยู่ ไม่ตายเด็จขาด"

เคยงงๆกับเรื่องนี้ และมาเข้าใจภายหลัง นี่คือเคล็ดวิชา "อาณาปราณสติ" นั่นเอง

และสุดท้ายวิชานี้ ก็นำเข้าสู่กายานุสติกรรมฐาน (ฯ)
และแตกเป็นของเล่นมากมายเช่นการฝึกปราณแบบต่างๆ การใช้พลัง ดนตรีบำบัด ฯลฯ

 

ขอบคุณท่านปรมาจารย์ทั้ง 2 ท่าน ( อ.สุวิ, อ. สามตา) มากค่ะ

ขอรบกวน อ.สุวิ เรื่องคุณพ่ออีกหน่อยนะคะ
ท่านเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย + เบาหวาน (ตอนนี้น้ำตาลปกติ)+ ความดันสูง + ภูมิแพ้ (มีน้ำมูกตลอด) ประวัติเคยสูบบุหรี่ค่ะ ท่านเคยนอนแล้วหยุดหายใจ เป็นห่วงมากเลยค่ะ รบกวนขอคำชี้แนะด้วยค่ะ

 

ง่ายๆ ใจเย็นๆ ทำยาอายุวัฒนะพระนารายณ์ให้กิน มีใบบัวบกผสมด้วย

ตัวยามีส่วนประกอบ
ทิ้งท่อง ตะโกนา แห้วหมู บอระเพ็ด เมล็ดข่อย พริกไทยล่อน กระชายเหลือง ใบบัวบก ผิวมะกรูด

ตัวยาอย่างละ ๑ ส่วน ตากแห้งบดผง ผสมกับน้ำผึ้ง ปั้นเป็นลูกกลอนกิน ขนาด ๑ เม็ดพุทราไทย วันละ ๑ ครั้งก่อนนอน
ใช้น้ำมะกรูด น้ำผลไม้รสออกเปรี้ยว หรือน้ำสุกเป็นกระสายยา

ให้คงการกินยาแผนปัจจุบัน ห้ามงด
ให้กินยาไทยดังกล่าวเสริม สัปดาห์แรกกิน ๑/๒ เม็ดพุทราไทยก่อน หลังจากนั้น กิน ๑ เม็ดพุทราไทยตลอด
ไปหาหมอแผนปัจจุบันตามนัด แล้วหมอจะเริ่มลดยาลงเองในเดือนที่ ๒ (เพราะร่างกายจะค่อยๆดีขึ้นจนสามารถลดยาแผนปัจจุบันลงได้)

ใจเย็นๆ จะค่อยๆเห็นผลใน ๑ เดือนขึ้นไป

หมายเหตุ ยาอายุวัฒนะพระนารายณ์ จัดเป็นยาบำรุงไฟธาตุชนิดหนึ่ง

 

รบกวนด้วยครับ เป็นโรคไอเวลาพูดอ่าครับ เป็นมาสักพักแล้ว ช่วยแนะนำด้วยครับ

 

กราบขอบคุณอาจารย์สุวิ มาก ๆ ค่ะ สำหรับทุกคำตอบและความห่วงใย ตัวอุ๋ยเองอยู่นครปฐมค่ะ สำหรับตัวยาสมุนไพรถ้าเราไปซื้อตามร้านขายยาสมุนไพรเค้าจะมีทุกตัวใช่รึเปล่าคะ

 

-ขอเรียนถามครับในสูตรโจ๊กข้าวเหนียวดำ เขียนว่า เกาขี่ มันเป็นอะไรแน่ครับ ขอบคุณครับ
-และขอเรียนถาม ภรรยาและลูกสาวเป็นคนหน้ามันมาเป็นสิวอักเสบมากรักษาไม่หายสักทีอาจารย์ SUWI ช่วยแนะนำยาสมุนไพรที่ใช้รักษาด้วยครับ ขอบคุณครับ

 

อาจารย์สุวีครับ คือว่า

---ตาผมเวลามองมันแปลกๆอะครับแบบว่า มองเห็นเหมือนภาพของทีวี ตอนเวลามันเสียอะครับ ที่ภาพของทีวีมันจะมี ภาพ ขาว/ดำ ระยิบระยับแล้วมีเสียงซ่าๆ แต่ความรู้สึกของภาพที่ผมเห็นมันเหมือนเป็นภาพค้าง ไม่มีระยิบระยับ ส่วนถ้าให้อธิบายว่ามันสีอะไรผมคิดว่ามันคงไม่ใช้สีดำ/ขาวอะคับเพราะว่าเวลามองในที่มืดหรือหลับตาก็เห็น ( เป็นเพราะว่าผมเล่นคอม/ดูทีวีมากไปหรือปล่าวครับ ถ้าใช่แล้วลดเวลาเล่นคอม/ดูทีวี จะหายไหมครับ

---ตรงข้อศอกด้านขวาของผมเวลา งอแล้วยืดให้ตรง มันมีเสียง กรึกๆเหมือนกับว่า กระดูกหรือเส้นเอ็นมันไม่ตรงล๊อคอะครับ
แล้วเวลา ยื่นแขนขวาไปข้างหน้าแล้วพับมือให้นิ้วก้อยมาอยู่ติดกับหน้าหรือหู แล้ว เอานิ้วโป้งซ้ายมากดในจุดสีแดงตามรูปแล้วนวดไปมา แล้วมันรู้สึกเสียวๆปวดๆแล้วลามมาถึงนิ้วก้อยอะครับ มันปกติรึปล่าวครับ ข้างซ้ายก็เป็นแต่ปวดน้อยกว่า
(ไม่ใช่แขนผมนะครับ ส่วนตัวเลขไม่เกี่ยวนะครับไปหารูปจากเวปมาครับ)

---ตอนเวลานอนที่พื้นราบแล้ว เอาแขนวางข้างลำตัว เอาผ่ามือคล่ำลงกับพื้น แล้วผ่อนคลายตามสบาย นิ้วโป้งด้านขวามือมันจะไม่ติดกับพื้น ถ้าเอาใกล้ลำตัวมากขึ้นนิ้วก็มันยกขึ้นเหมือนกันอะคับ แต่มือซ้ายนิ้วโป้งติดพื้นตลอด

---ตรงคอผม มันมีก้อนเม็ดๆอะไรก็ไม่รู้อะคับ เป็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว เมื่อก่อนตอนเด็กๆมันก็ ใหญ่ๆเล็กๆ ไปมา บางทีก็ มีเพิ่ม 1-3 เม็ดของแต่ละข้าง ซ้าย/ขวา แต่ตอนนี้คอด้านขวามีเม็ดเดียวขนาดของเม็ดก็ไม่เปรี่ยนแปลงแล้วตอนนี้ ส่วนด้านซ้ายก็เหมือนเป็นแผ่นราบๆ แต่นูนขึ้นนิดหน่อย ตอนเด็กๆถ้างอคอไปด้านซ้ายก็จะเห็นเม็ดตรงคอด้านขวาชัดเลยครับ แต่ตอนนี้ถ้าไม่สังเกตุดีๆก็ไม่เห็นครับ อยากรู้ว่ามันคืออะไรหรอครับ (มันเป็นสาเหตุให้ผมปวดหัวบ่อยรึปล่าวอะคับ เพราะตอนเด็กปวดหัวเกือบทุกวันเลยครับ หรือเป็นเพราะผมไม่ค่อยกินข้าว ตอนเด็กไม่ชอบกินข้าวอะครับแหะๆ แต่ปัจจุบันนี้ก็กินข้าวปกติและก็ไม่ปวดมากเหมือนตอนเด็กหรือปวดจนชินแล้วก็ไม่รู้นะครับ)

---ผมมีความรู้สึกว่าร่างกายผมไม่สมส่วนอะครับ คือว่าตรงช่วงแขน/ข้อมือ แล้วก็ขา/ข้อเท้า มันจะผอมอะครับ ตรงข้อมือไม่มีเนื้อเลย ถ้าดูจากรูปด้านบนตรงหมายเลข 3 ผมเอานิ้วกลางกับนิ้วโป้งมาลัดข้อมือ นิ้วก็แตะกันได้เลยอะคับ ส่วนถ้าเอานิ้วชี้กับนิ้วโป้งมาแตะกันก็ได้แต่มันตะแน่นหน่อย ละผมมีพุงนิดหน่อย น้ำหนัก 70กิโล สูงประมาณ 178 ผมสังเกตุเห็นบางคนก็สูงพอๆกับผมแล้วเขาดูมีเนื้อตรงแขนมากกว่าละก็ดูอ้วนกว่า แต่ทำไมน้ำหนักเขาน้อยกว่าผมอีกอะครับ

ขอโทษที่รบกวนด้วยน่ะครับ ปัญหาผมเยอะเลย Y_Y
ละขอบคุณมากๆเลยครับ

 

อาการไอ/จาม/น้ำมูกไหล เป็นสิ่งที่ร่างกายแสดงออกอย่างอัตโนมัติ เพื่อขับส่งแปลกปลอมที่หลงพลัดเข้าสู้ระบบหายใจ

การไอ จะขับสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ระบบหลอดลม ตั้งแต่คอหอยถึงในปอด

สิ่งแปลกปลอมที่ว่านี้ อาจเป็นสิ่งของ เช่น เชื้อโรค ฝุน ควัน เศษอาหาร ฯลฯ
บางครั้งสิ่งแปลกปลอมดังกล่าว อาจเป็นตุ่มเม็ด (ดุจดังผด/ผื่น/เม็ดยอด)
ผุดขึ้นในลำคอ อันเกิดจากความผิดปกติในร่างกาย(เช่นอาการของไข้บางชนิด ภูมิแพ้)

สิ่งเหล่านี่ จะทำให้เยื่อบุหลอดลม เกิดการระคายเคือง จึงไอเพื่อขับสิ่งแปลกปลอมออกมา

อาการไอที่คุณเป็น ดังที่กล่าวไว้ว่า ไอเวลาพูด
เวลาเราเริ่มพูด อ้าปาก จะดูดลมเข้าไปในหลอดลมก่อน แล้วเริ่มพูด
ตอนดูดลมเข้า ฝุ่นควันรอบๆตัวก็จะเข้าไปสัมผัสกับเยื่อบุหลอดลม
แล้วเกิดอาการแพ้ รางกายจึงไอเพื่อขับสิ่งแปลกปลอมออก

จำนวนสิ่งแปลกปลอมที่ร่างกายคุณรับเข้าไปตอนพูด น้อยนิดมากจึงแสดงว่า
คุณเริ่มเป็นภูมิแพ้อย่างมาก ให้รีบแก้ไขเสีย

ยาที่คุณจะต้องใช้มียาแก้ภูมิแพ้ และยาแก้ไอ
อ้อ...รับรู้ไว้อย่าง
ยาปัจจุบัน ใช้วิธีกด ไม่ให้อาการภูมิแพ้แสดงออก
แต่ยาไทย ใช้วิธีขับออก และทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้น เมื่อกินยาไทย ตอนแรกเหมือนจะเป็นมากขึ้นให้ทน และกินยาแก้ไอช่วย

ยาแก้ภูมิแพ้ง่ายๆ แต่ได้ผล และเป็นยาอายุวัฒนะด้วย
๑.เหงือกปลาหมอ ๒ ส่วน
๒.ฟ้าทะลายโจร ๑ ส่วน
๓.พริกไทยร่อน ๑ ส่วน
๔.ขิงแห้ง ๑ ส่วน

ตากแห้งบดผง กินครั้งละ ๑-๒ ช้อนชา หรือผสมน้ำผึ้งปั้นลูกกลอนกิน วันละ ๒-๓ ครั้งก่อนอาหาร
กระสายยาใช้น้ำมะกรูด/น้ำมะนาว หรือน้ำสุก

ส่วนยาแก้ไอ แผนไทยที่ดีมากๆ มีสองตำรับคือ
๑.ยาประสะมะแว้ง (ไอต้นไข้)
๒.ยาอัมฤควาที (ไอปลายไข้)
ทั้งสองตัวเป็นยาสามัญ ร้านขายาไทย มักจะทำไว้ขายอยู่แล้ว

สำหรับคุณควรใช้ อัมฤควาที (แก้ไอ คันคอดังมีตัวพยาธิไต่ ใช้น้ำมะนาวเป็นกระสาย)
แต่ถ้าหาไม่ได้ใช้ ยาแก้ไอมะแว้งก็ได้ มีขายตามร้านขายยาทั่วไป

 

ที่ลานพระปฐมเจดีย์ ด้านหน้าขวามือ(หันหน้าเข้าองค์พระฯ)
มีสมาคมแพทย์แผนไทยอยู่ ลองไปถามหาดู(หวังว่าคงยังอยู่ไม่ย้ายไปไหน) และคงให้คำตอบที่ดี
เขามีสอนด้วย

 

เอาเรื่องดุลย์ภาพของร่างกายก่อน
คุณเล่ามาละเอียดดี ทำให้ผมไม่ต้องยกเอาเมฆมานั่งดูเหมือนรายอื่นๆ

อาการที่คุณเล่ามาเกิดจากเส้นเอ็น กระดูกคอ บิดตัว(เคลื่อน)ตัวเล็กน้อย
ทำให้เลือดลมเดินไม่สะดวก จึงตั้งขึ้นเป็นลิ่มเป็นก้อนที่คอคุณ
เมื่อเป็นมากขึ้น จะเกิดอาการปวดหัว ปวดกระบอกตา ตาพร่มัว เป็นๆหายๆ
และลามมาลงที่แขนด้วย
ไม่อาจจัดยาได้ ต้องนวดจัดดุลย์ภายอย่างเดียว

ส่วนเรื่องการมองเห็นของคุณแยกได้เป็นสองกรณี

๑.เป็ภาพติดตาอันเกิดจากการมองสิ่งใดนานๆ
อาการนี้จะหายไป เมื่อเปลี่ยนอริยาบถอื่นๆสักพัก

๒.เกิดขึ้นบ่อยๆ เพียงกระพริบตา ใจนิ่งๆ ใจนึกถึง ภาพก็ปรากฏ
ลองตั้งใจ แล้วหมุนช่องสถานีให้ตรง(อยู่ที่ตั้งความปรารถนา)
คุณอาจได้ดู สถานีโทรทัศน์ ช่องพิเศษ

สำหรับคุณพลังดีอย่างนี้น่าจะเป็นกรณีที่สอง
อ่าน กระทู้ที่อยู่ติดกัน การเปิดตาที่สาม จะทำให้เข้าใจเรื่องได้ดี
ตาที่สามเป็นเรียลไทม์
แต่โทรทัศน์ที่คุณดู อาจจะถายทอดสดก็ได้ ถ่ายทำเก็บไว้นานแล้วก็ได้
หรืออาจเป็นเรื่องอนาคตก็ได้ อยู่ที่การจูนช่อง(การตั้งความปรารถนา)
อ้อ..การดู ถ้าดูไม่ชัดหรือสงสัย ขอเปลี่ยนมุมกล้องได้

 

เกาขี น่าจะเป็นเกากี้ครั้บ บางคนเขียน เก้าขี่ เก้าคี้
เป็นยาจีน เม็ดสีแดงๆ ใช้กับสูตรตุ๋นอาหาร

เรื่องของยาแก้สิว

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ผู้หญิงธรรมดา
เป็นสิวและจุดด่างดำ ทำไงหายค่ะ


</TD></TR></TBODY></TABLE>

แยกเป็นสองกรณี

กรณีที่ ๑ เรื่องของสิว
สิว ที่เป็นๆ หายๆ และมีแนวโน้มว่าหัวสิวจะโต และหายยาก
ทั้งหมดเกิดจากภูมิแพ้ชนิดหนึ่ง ให้ตั้งยากินดังนี

๑. เหงือกปลาหมอ ๒ ส่วน (หรือหนัก ๕ บาท)
๒. ฟ้าทลายโจร ๒ ส่วน(หรือหนัก ๕ บาท)
๓. ใบบัวบก ๒ ส่วน(หรือหนัก ๕ บาท)
๔. พริกไทยร่อน ๑ ส่วน(หรือหนัก ๒.๕๐ บาท)
๕. ดีปลี ๑ ส่วน (หรือหนัก ๒.๕๐ บาท)

ทั้งหมด ตากแห้งบดเป็นผง ปั้นกับน้ำผึ้งเป็นลูกกลอน ขนาดเท่าเม็ดในมะยม
กินครั้งละ ๕-๗ เม็ด วันละ ๓-๔ ครั้ง ก่อนอาหารและก่อนนอน (ใช้น้ำมะนาว/น้ำมะกรูด นำสุก เป็นกระสายยา)
งานนี้ต้องกินติดต่อกัน นานนับเดือน(2-3 เดือน) จึงจะหายขาด

กรณีที่ ๒. เรื่องรอยด่างดำอันเกิดจากรอยแผล(มีมูลจากปิตะกำเริบ) ให้ทำยากินดังนี้

๑ ใบบัวบกสด ตำ/ปั่น คั้นน้ำ ๑ แก้ว
๒ น้ำตาลทรายแดง ๑ช้อน (ถ้าชอบหวาน และไม่เป็นเบาหวาน ก็สัก ช้อนโต๊ะ ถ้าไม่ชอบหวานก็สักช้อนชา)
๓.มะนาวคั้นน้ำ ๑/๒ - ๑ ลูก

ทั้งหมดผสมกัน (อาจใส่เกลือป่นสักนิด ปรุงดีๆสูตรนี้อร่อยอย่าบอกใคร)
ทำดื่มบ่อยๆ อย่างน้อยวันละ ๑ ครั้ง(สูงสุดไม่เกินวันละ๒-๓แก้ว)
สักอาทิตย์หนึ่งก็จะเริ่มเห็นผล
กินติดต่อกันสัก ๒-๓ อาทิตย์ แล้วหยุด (กินมากร่างกายจะเย็นเกิน แก้ด้วยการดื่มน้ำขิงก่อนนอน)

หมายเหตุ
ยาในกรณีที่๑ แม้มีใบบัวบกผสมอยู่ แต่ปริมาณไม่พอแก้อาการในกรณีที่๒
แต่กินไปนานๆก็พอช่วยได้บ้าง

ตัวยาหาซื้อได้ที่ร้านเจ้ากรมเป๋อ หรือที่ เวชพงษ์โอสถ ร้านอยู่ใกล้ๆกัน
หรือร้านขายยาไทยทั้วทุกหัวระแหง

 

ขอบคุณมากนะคับอาจารย์สุวิ
-ถ้านวดนี้ต้องทำยังไงบ้างหรอครับ
-แล้วอาจารย์รู้ได้ยังไงอ่าคับว่าผมพลังดีอะคับ ผมไม่ค่อยจารู้สึกอาไรมากเลยอะคับ
ส่วน กระทู้เปิดตาที่ 3 ผมก็ติดตามดูอยู่ครับ *-*

 

กระทู้ เปิดตาที่สาม และกระทู้ เกมอ่านจิต
อ่านตั้งแต่เริ่มต้น แล้วจะเข้าใจเอง

 

ผมปวดที่บริเวณเข้าซ้าย ก้นด้านซ้าย ร้าวมาถึงไหล่ซ้าย
มือชาด้านซ้ายทำงัยดีครับจารย์

 

หกล้มมาหรือเปล่าครับนี่

ต้องนวดจัดดุลย์ภาพอย่างเดียวเลยครับ

 

ไม่ได้หกล้มครับ
ชอบหักคอแบบเสียงดังกรึบ

แต่ตอนนี้เริ่มรู้สาเหตุแล้วครับ
เพื่อนเคยแนะนำศาสตร์มณีเวชน่ะครับ
มีท่านึง คือพอผมยกมือขึ้นทั้งสองข้างแนบหู
หันฝ่ามือออกด้านนอก
แล้วก็หมุนแขนจากหน้ามาหลัง
ทำให้เส้นสายยืดดี และเลือดหมุนเวียน
แต่ข้างซ้ายปรากฏว่า มันยังชาๆ อยู่นะครับ
อาจจะต้องเลิกทำสักช่วงกระมัง??

เมื่อวานลองใช้จิตไปกำหนดที่บริเวณที่ปวด
ผนึกกำลังจักรวาลที่ได้รับเมตตาจากพี่สาม
อาการทุเลาลงมากแล้วครับ
(||)