ครั้งหนึ่งผมโทรคุยกับคนที่คล้ายมโนมยิทธิ(อาจจะของจริง) ทำให้ผมสงสัยเรื่องกรรมอย่างมาก

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ซาตานคลั่ง, 15 กรกฎาคม 2008.

  1. ซาตานคลั่ง

    ซาตานคลั่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    496
    ค่าพลัง:
    +1,449
    เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่ผมจะได้รู้จักกับคำว่า มโนมยิทธิ ก่อนนั้นผมรู้จักแต่คำว่า ตาทิพย์ ซึ่งคนที่จะมีตาทิพย์ได้ ส่วนใหญ่ ต้องเคยตายแล้วฟื้น

    ผมได้คุยกับคนๆนี้ โดยการแนะนำจากรุ่นพี่คนหนึ่งที่ให้ผมดูดวงให้(ดูตามตำรา) แล้วก็ดูเหมือนรุ่นพี่คนนี้ต้องการจะข่ม(เบี้ยวค่าดู อิๆ)เลยพูดถึงคนๆนี้ให้ผมฟัง ผมตื่นเต้นมาก ที่จะได้คุยกับคนที่มีตาทิพย์ จึงไม่รับค่าดูดวงในครั้งนั้น(ปกตก็ไม่เคยมีใครจ่ายหรอก นอกจากน้องสาวๆที่มาจีบผมอะนะ)แล้วผมก็ได้ติดต่อทางโทรศัพท์กับคนๆนี้(ท่านเป็นทหารเรือ น่าจะใกล้เกษียนแล้วนะ จะเรียกคุณลุงก็ได้มั้ง) ด้วยความเข้าใจง่ายๆ ต่อไปผมจะใช้คำแทนตัวคนๆนี้ว่า ตาทิพย์

    ผมโทรไปคุยทักทายตามมารยาทการคุยครั้งแรก แล้วอ้างถึงคนที่แนะนำผมมา
    และคำถามแรกที่ผมวิสาสะถามคือ
    "พี่ เคย ตายแล้วฟื้น หรือเปล่าครับ"
    ตาทิพย์: ครับ เคยถูกงูกัดตาย แล้วก็ฟื้นขึ้นมา
    ผม : ผมขอถามคำถามทางโลกได้มั๊ยครับ
    ตาทิพย์: ได้ครับ ยินดีครับ
    <<ช่วงนั้นผมแอบปลื้มสาวน้อยคนนึงอยู่ อิๆ>>
    ผม : ผมขอถามเรื่องน้อง....ครับ
    ตาทิพย์ : อ๋อ ได้แล้วนี่ ขึ้นอยู่กับคุณแล้ว ตอนนี้คุณจะสานต่อก็ได้เลยจะเลิกก็ได้แล้ว แต่เขาไม่ได้พิเศษอะไรกับคุณมากมายนะ เขามีคนอื่นอยู่ (มาสืบรู้ทีหลังว่าใช่อย่างนั้นเลย)
    ผม: ผมว่าจะส่งรูปถ่ายพระบรมสารีริกธาตุให้น้อง....บ้างดีมั๊ยครับพี่
    ตาทิพย์ : อย่าเลยดีกว่าคุณ บัวใต้ตมน่ะ จะเป็นการเพิ่มบาปให้เขาเปล่าๆ เด็กคนนี้ตายไปเป็นเปรตอย่างเดียวเลย ดึงไม่ขึ้นหรอก(เท่าที่ดูพฤติกรรมมาก็อาการหนักมาจริงๆ)
    ผม :พี่ครับ ผมก็อยากบวชนะครับแต่ยังไม่กล้าบวช เพราะถ้าบวชจะบวชนานๆหรือไม่ก็บวชไม่สึกเลย พี่ว่าผมจะได้บวชหรือเปล่าครับ
    ตาทิพย์ :บวชเลยๆ ดีมากเลย แต่คุณจะได้สึกอยู่นะ บวชไม่ถึงปีหรอก ห้าเดือนเอง นะ (ตอนแรกไม่เชื่อ แต่พอได้บวช จนสึก นับเวลาก็ห้าเดือนเศษจริงๆ)
    ผม : พี่ครับ ผมกับน้อง...เป็นคู่แท้กันหรือเปล่าครับ
    ตาทิพย์ : ไม่ใช่ นะ มีกรรมต่อกันเฉยๆ(ตอนนี้ถึงจะเป็นก็ไม่เอา)
    ผม : พี่ครับ ผมเจอเนื้อคู่หรือยังครับ
    ตาทิพย์ : ยัง เนื้อคู่คุณจะเป็น..........(ตรงที่ตามที่อาจารย์คนเมืองบัว แนะนำการอธิษฐานและทำนายไว้ล่วงหน้ามาก สรุปว่าหญ้าอ่อนละกัน)
    ผม :ผมควรจะทำงานอะไรดีครับ
    ตาทิพย์ : ยังไม่มีนะ ต้องชดใช้กรรมไปก่อน(ซวย จนป่านนี้จะทำอะไรก็ถูกขัดขวางจากคนที่เราขัดแย้งไม่ได้)
    ผม : ซวยเลย แล้วเมื่อไหร่ผมจะรวยครับพี่
    ตาทิพย์ : อ๋อ คุณไม่รวยหรอก เป็นกรรมของคุณเอง
    ................
    ..............
    สนทนาเรื่องอื่นขอยกไป แต่ขอหยุดที่คำถามนี้

    จะเห็นว่า คำถามทุกคำถามนั้น เขาบอกไว้ถูกหมดเลย ซึ่งผมต้องใช้เวลาในการพิสูจน์
    แต่มาคำถามที่ผมหยุดไว้ตรงนี้

    ที่ว่า ไม่มีทางรวย เพราะเป็นกรรมของผมเอง

    ผมสงสัยว่า ถ้าหากชาตินี้ทั้งชาติ ไม่สามารถทำงานได้ และทำงัยก็ไม่รวยเพราะมีกรรมตรงส่วนนี้อยู่
    หรือพูดภาษาธรรมะว่า ทำกรรมดีไปจนตายก็ไม่ส่งผลในชาตินี้
    แล้วจะทำกรรมดีต่อไปทำมัย ของเก่าที่เคยทำมาตั้งแต่เกิดก็ส่งผลในชาติหน้า เราไม่สามารถใช้กรรมดีชนะกรรมชั่วเพื่อเสพสุขให้สมใจในชาตินี้ได้เลยเหรอ
    มึใครจะแนะนำหรือให้คำตอบผมได้บ้างหรือไม่
    ห้าม!!! ห้ามตอบว่า คนไม่ได้มีความสุขอยู่ที่ความรวย หรือ คนรวยไม่ได้มีความสุขกันทุกคน หรือ คนรวยไม่ได้มีความสุขอย่างแท้จริง และห้ามตอบว่า ชาตินี้ไม่รวยแต่ชาติหน้าก็ต้องรวย
     
  2. เกรสคับ

    เกรสคับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    163
    ค่าพลัง:
    +174
    แล้วจะทำกรรมดีต่อไปทำมัย ของเก่าที่เคยทำมาตั้งแต่เกิดก็ส่งผลในชาติหน้า เราไม่สามารถใช้กรรมดีชนะกรรมชั่วเพื่อเสพสุขให้สมใจในชาตินี้ได้เลยเหรอ

    ทำไปให้มานรู้สึกดีเฉยๆอ่ะคับ ไม่เดือดร้อนคนอื่นด้วยนี่ จะเสพสุขชาติไหนๆ ก็เหมือนกันแหละ ซักวัน มันก็สุขจนได้ ถ้าทำกรรมดี
     
  3. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    จริง ๆ แล้ว ถ้าให้เลือกระหว่าง "รวย" กับ "พอมีพอกิน" ดิฉันเป็นคนนึงที่เลือกจะรวยเหมือนกับคุณนั่นแหละ...แต่จนแล้วจนรอดชาตินี้ก็ยังไม่รวย...

    ตอบคำถามที่ว่า "ถ้าทำดีแล้วไม่ได้ดีในชาตินี้ ก็ไม่รู้จะทำไปทำไม?" ถ้าคุณเชื่อคุณลุงคนนั้นในเรื่องของ "กรรม" ด้วยใจจริง คุณคงจะไม่ตั้งคำถามนี้หรอกค่ะ...เพราะคำตอบมันมีอยู่แล้ว

    ขึ้นชื่อว่า "กรรม" ทุกคนจะต้องชดใช้ (ไม่เหมือนหนี้ที่บางคนจะหนีกันได้) ... กรรมดีคุณก็ต้องเสวย และชดใช้...กรรมชั่วคุณก็ต้องเสวย และชดใช้เช่นกัน...แค่ชาตินี้ที่คุณจะต้องชดใช้ คุณยังรู้สึกแย่เลย...ถ้าคุณไม่ทำกรรมดีไว้เลย ต่อไปคุณก็ต้องก้มหน้าชดใช้กรรมเก่าไปเรื่อย ๆ ไม่มีวันได้สุขสบาย หรือเสวยสุข ชอบมั๊ย???...แค่ชาตินี้คุณยังทนแทบไม่ได้ ถ้าเราไม่ทำดี เราก็ไม่ได้ดีสักกะชาติค่ะ...

    อย่าท้อแท้ หรือประชดชะตาชีวิต...บาป-บุญกำหนดได้ด้วยตัวของเราเองค่ะ...



    :z5 ;aa24 :z5
     
  4. เด็กอนุบาล

    เด็กอนุบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +4,156
    ทุกวันนี้ พวกเราต่างว่ายอยู่ในกระแสแห่งกิเลส ที่จะพัดเราลงนรกซะอยู่เรื่อย คือพัดห่างจากความดี พัดไปใกล้ความชั่ว คนต่างทำความดีก็เพื่อว่ายทวนกระแสนี้ ให้ไปสู่สุคติภูมิ หนีจากการตกสู่ทุคติภูมิ

    ขอถามหน่อยเถิดว่า ถ้าอุปมาแบบนี้แล้ว พอนึกออกไหมว่า อะไรจะเกิดกับคนที่หยุดทำกรรมดีในชาตินี้ต่อไป ตอบง่ายๆ ก็ทำชั่วสิครับ เพราะธรรมชาติของการทำชั่วมันทำง่ายกว่า จิตมันคุ้นกับการทำชั่วมาหลายอสงไขยแล้ว หยุดดีนะ อยู่กลางๆไม่ได้หรอก จิตมันต้องฟุ้งซ่านไปทำชั่ว ก็เหมือนคนว่ายทวนกระแสทะเลนั่นแหละ หยุดว่ายเมื่อไหร่ มันก็พัดลอยถอยหลัง

    จึงอย่าเพิ่งไปคิดไกลว่า หยุดทำดีดีกว่าเพราะจะไม่ได้ผลตอบสนองในชาตินี้ ให้คิดไว้เลยว่า หยุดไม่ได้นะน้อง หยุดเป็นตกนรกอะดิ เปรียบเหมือนขี่หลังเสือแล้วนั่นแหละ ถ้าน้อยใจจะลงจากหลังเสือเพราะเสือมันไม่พาไปหาของดีๆกินในชาตินี้เมื่อไร ลงเมื่อไหร่มันกัดตายเมื่อนั้นแหละจ๊ะ

    ธรรมชาติของความดีกับความชั่วก็เหมือนกับความสว่างกับความมืดนะแหละ หยุดสว่างเมื่อไหร่มันก็มืดแน่ๆ

    สรุปคือ ทำดีต่อไปมีแต่เจ๊า(ชาตินี้)กับได้(ชาติหน้า) แต่เลิกทำดีเมื่อไร มีแต่เจ๊ง(ชาตินี้)กับเจ๊ง(ชาติหน้า)

    แต่จะว่าไป ถ้าทำความดีด้วยกำลังใจแรงกล้าจริงๆในชาติปัจจุบัน และทำให้ถูกหลักการ มันก็ได้ดีชาตินี้เลยได้เหมือนกันนะคุณ แต่ต้องอาศัยปัญญาบารมีละทิ้งมิจฉาทิฎฐิ แล้วตั้งใจทำความดีเพื่อพระนิพพานไปเรื่อยๆ ที่หมอดูตาทิพย์ท่านทายไว้ ผมว่ามันอิงกับกำลังใจในการทำความดีของคุณที่ยังไม่ค่อยเข้มนะ ในปัจจุบัน แต่ถ้าคุณเอาจริงขึ้นมา ผมว่าคุณก็เป็นคนเหนือดวงได้นะ
     
  5. สายลมยามเย็น

    สายลมยามเย็น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +12
    ผมยังไม่คิดว่าเขาจะจริง แต่เอาไว้ก่อนประเด็นนั้น สมมุติว่า คุณเชื่อว่าเขาจริง ประโยคที่ว่า ชาตินี้ไม่มีรวยหรอก <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ไม่รวย เพราะ นั้นคือกรรมเก่า ย้ำว่า เขาทายอย่างนี้ ด้วยปัจจัยที่คุณมีมาเดิมและกำลังจะส่งผลอย่างนี้<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    กรรมในอนาคตที่คุณกำลังจะทำตอนนี้จะส่งผลอย่างไรและเมื่อไรนั้น ที่เห็นตอบได้มีแต่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น เช่นว่า ถ้า พราหมณ์ นั้นทำทานแต่ตอนนั้นจะบรรลุธรรมตอนนี้ ถ้าทำแต่ตอนนั้น จะบรรลุธรรมอีกระดับ อย่างนี้เป็นต้น
    คือทั่วไป และตาทิพย์ทั้งหลาย จะเห็นกรรมเก่า และปัจจุบัน หรืออนาคตอันใกล้ ที่กรรมเก่าจะส่งผล
    อนาคตังสญาณที่แม่นยำ จริงๆ มีแต่ระดับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    บุญที่คุณทำอาจส่งผลเลย หรือช้า ก็ได้ แล้วแต่กำลังของบุญครับ
    อย่างน้อยตอนทำดี ก็ใจดีแหละ ใจดีแล้วอะไรอะไรก็ดี แล้วบุญอาจส่งผลก็ได้ ทำไมจะเลิกทำดีละครับ<o:p></o:p>
     
  6. มรณาติ

    มรณาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +190
    ถ้ายังตำเนินชีวิตแบบปัจจุบัน ตามกฎแห่งกรรมก็อาจจะไม่รวยค่ะ
    แต่ถ้าทำดียิ่งๆ ขึ้นไป แล้วกรรมดีก็จะส่งดอกเบี้ยมาเอง ^_^
    ได้ทั้งดอกเบี้ยบวกเงินต้นคืนเมื่อไหร่ ก็รวยเมื่อนั้น
     
  7. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    อสุโมทนาสาธุครับ ทุกท่านตอบได้ดีครับ อย่าคิดว่าทำดีไม่ได้ดีนะมันเป็นมิจฉาทิฐิซึ่งจะส่งผลกรรมต่อ ๆ ไปซึ่งเป็นกรรมที่แก้ยาก

    ทำดีต้องเพียรทำถึงยังไม่เห็นผลชัดเจนก็ต้องทำ แม้แต่ในช่วงที่ต้องรับกรรมให้ทุกข์ยากก็ต้องทำ

    อะไรไม่ทำไม่เป็นไร แต่บุญบารมีไม่ทำไม่ได้ ถ้าไม่ทำรับรองได้จะต้องถูกพัดพาลงที่ต่ำแน่นอน

    ของมันมีเหตุปัจจัย คนเขาเกิดมารวย มีพร้อมเพราะเขาสร้างของเขาไว้ ถ้าเราหยุดหรือท้อที่จะสร้างแล้วจะเอาที่ไหนมา

    อยากรวยก็ต้องให้ทาน รักษาศีล บำเพ็ญภาวนา
     
  8. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    อสุโมทนาสาธุครับ ทุกท่านตอบได้ดีครับ อย่าคิดว่าทำดีไม่ได้ดีนะมันเป็นมิจฉาทิฐิซึ่งจะส่งผลกรรมต่อ ๆ ไปซึ่งเป็นกรรมที่แก้ยาก

    ทำดีต้องเพียรทำถึงยังไม่เห็นผลชัดเจนก็ต้องทำ แม้แต่ในช่วงที่ต้องรับกรรมให้ทุกข์ยากก็ต้องทำ

    อะไรไม่ทำไม่เป็นไร แต่บุญบารมีไม่ทำไม่ได้ ถ้าไม่ทำรับรองได้จะต้องถูกพัดพาลงที่ต่ำแน่นอน

    ของมันมีเหตุปัจจัย คนเขาเกิดมารวย มีพร้อมเพราะเขาสร้างของเขาไว้ ถ้าเราหยุดหรือท้อที่จะสร้างแล้วจะเอาที่ไหนมา

    อยากรวยก็ต้องให้ทาน รักษาศีล บำเพ็ญภาวนา
     
  9. chocolatus

    chocolatus Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +58
    แล้วเค้าไม่บอกเหรอค่ะ ว่าทำกรรมอะไรไว้ จะได้แก้ให้ดีขึ้นไง

    หรือชาติที่แล้วโลภมาก (ใช้วิธีหาเงินแบบผิด ๆ) ชาตินี้ลาภก็เลยหาย (มั้งนะ)

    แม้แต่พระพุทธเจ้ายังสละราชสมบัติเพื่อออกบวชเลยค่ะ
     
  10. aries

    aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
    อุปสรรคของคุณก็คือตัวคุณเองที่ทำให้ไม่รวยครับ อุปนิสัยของคนจะเปลี่ยนได้ยากต้องอาศัยเวลาในการเรียนรู้
    และปรับตัวไปทีละเล็กละน้อย เหมือนการสะสมบารมีครับที่ต้องใช้เวลายาวนานมากกว่าจะเปลี่ยนนิสัยจนกว่าจะ
    มีปัญญาและความสามารถพอที่จะเข้าใจในธรรมและเข้าถึงมรรคผลนิพพานได้ จากที่คุณบอกมาข้างต้นแสดงถึง
    ความลังเลสงสัยในบุญกรรม ไม่เข้าใจว่าเหตุเป็นอย่างไรก็จะให้ผลเช่นนั้น ชาติที่ผ่านๆมาของคุณก็อาจคิดไม่ต่าง
    จากปัจจุบันเท่าไรนัก เพราะอุปนิสัยต่างๆจะติดตัวข้ามภพข้ามชาติมาแบบนี้ครับ ขอให้เปลี่ยนใหม่แล้วจะแก้ไขได้
    อาจต้องใช้เวลาบ้าง เพราะการเปลี่ยนอุปนิสัยเป็นของยาก ไม่ใช่ยากเล็กน้อย แต่ยากมากทีเดียวครับ คุณต้องตั้ง
    เข็มทางปัญญาใหม่ ต้องคิดดี หรือคิดในเชิงสร้างสรรค์ เชื่อมั่นในคำสอนของพระพุทธเจ้า ทำแต่ความดีที่เป็นเหตุให้
    คุณรวย ละความชั่วหรือทางเสื่อมที่จะทำให้คุณจน ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ตั้งมั่นในความดี มีสัมมาทิฐิ เป็นเบื้องต้น

    มีปัญญาความรู้ในทางประกอบอาชีพทางโลก มีความรู้ในการสั่งสมผลบุญให้ทานเพื่อเป็นเสบียงในอนาคต

    มีอิทธิบาทสี่คือ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา
    ฉันทะ - ความพอใจ
    วิริยะ - ความเพียร
    จิตตะ - ความเอาใจใส่
    วิมังสา - การไตร่ตรอง

    มีสังคหวัตถุสี่ คือ ทาน อัตถจริยา ปิยะวาจา สมานัตตตา เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจกัน
    1 ทาน การให้ปัน แบ่งเป็น อามิสทาน และธรรมทาน
    2 ปิยวาจา การพูดน่ารัก คือการพูดจริง อ่อนหวาน ประสานสามัคคี มีประโยชน์
    3 อัตถจริยา การบำเพ็ญประโยชน์
    4 สมานัตตตา การวางตนเสมต้นเสมอปลาย

    มีหัวใจเศรษฐี คือ ขยัน หมั่นรักษา คบหาคนดี มีชีวิตพอเพียง
    1 อุฏฐานสัมปทา ถึงพร้อมด้วยความขยันหมั่นเพียรในการแสวงหาความรู้ หนักเอาเบาสู้ในหน้าที่การงาน
    2 อารักขสัมปทา ถึงพร้อมด้วยการรักษาคุ้มครองทรัพย์สินเงินทองที่หามาได้ รู้จักเก็บหอมรอมริบ
    3 กัลยาณมิตตตา การมีเพื่อนเป็นคนดี ไม่คบคนชั่ว
    4 สมชีวิตา เลี้ยงชีวิตตามสมควรแก่กำลังทรัพย์ที่หามาได้

    มีจักรธรรม 4 คือธรรมอันเป็นล้อที่ทำให้ผู้มีธรรมนี้หมุนไปสู่ความเจริญ ความไพบูลย์ ในโภคะทั้งหลาย 4 ประการ (250
    1 ปฏิรูปเทสวาสะ การอยู่ในประเทศอันควร หรืออยู่ในทำเลที่เหมาะกับการประกอบอาชีพของตน
    2 สัปปุริสูปัสสยะ การคบสัตบุรุษ การได้คบมิตรดีก็เจริญเร็ว แต่ถ้าได้คบมิตรชั่วก็เสื่อมเร็ว
    3 อัตตสัมมาปณิธิ การตั้งตนไว้ชอบ คือตั้งจิตไว้ชอบ ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ไม่นอกลู่นอกทาง
    4 ปุพเพภตปุญญา ความเป็นผู้ทำบุญไว้มาก ผลของบุญจะทำให้ทำอะไรก็เจริญ มีอุปสรรคน้อย รักษาทรัพย์ไว้ได้
    ไม่วิบัติด้วยภัยต่างๆ แต่ถ้ามีบุญน้อยมีหนี้กรรมมาก ก็ลำบาก ทำอะไรก็มีอุปสรรค ล้มเหลว วิบัติไปด้วยภัยต่างๆ
    ต้องเหนื่อยยากในการดำรงชีวิต

    กรรมอาจลิขิตชีวิตเราได้ส่วนหนึ่ง แต่เราก็สามารถที่จะเปลี่ยนลิขิตของกรรมได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงตัวเราใหม่
    ให้ดีขึ้นกว่าเดิม เมื่อเหตุเปลี่ยนผลก็จะเปลี่ยนตามครับ ส่วนจะช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับเหตุและปัจจัยที่ทำในปัจจุบัน
    มากพอไหมที่จะแก้หรือบรรเทาผลกรรมในอดีตของคุณเอง
     
  11. ซาตานคลั่ง

    ซาตานคลั่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    496
    ค่าพลัง:
    +1,449
    ขอบคุณสำหรับทุกๆคำตอบครับ
     
  12. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,459
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    เขาว่าอย่างไรช่างเขา ทําดีเอาไว้เเล้วกันครับ ผมเชื่อว่าคนเราลองถ้าทําความดีด้วยความเต็มใจเเล้ว ยังไงสวรรค์ต้องประทานพรมาให้บ้าง ช้าหรือเร็วเเค่นั้นครับ ขึ้นอยูที่เราว่าจะเเน่วไหนเเค่ไหน อย่าหวั่นไหวก็พอ ไหวได้ ท้อได้ เเต่อย่าหยุดปฏิบัติความดี อย่างน้อยการเป็นคนดีของเราก็ส่งผลให้เรามีความสุขเเน่นอน ผมไม่เชื่อหรอกครับว่า จะมีคนทําชั่วได้ดีเเล้วจะมีความสุข ยังไงความชั่วที่เขากระทําไปนั้น มันย่อมตามหลอกหลอนจิตของเขาไม่ให้สงบอย่างเเน่นอน คนเราชนะดวงของตัวเองได้ครับ ผมเชื่ออย่างนั้น
     
  13. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,632
    รวยของคุณกับรวยของคนอื่นไม่เท่ากันครับ และในโลกนี้ไม่มีใครรวยเท่ากันสักคน รวยของชาวบ้านธรรมดาคือมีอยู่มีกินไม่เดือดร้อน ชาวบ้านก็ว่าตัวเองจนเพราะไปเทียบกับคนที่รวยกว่าตนเอง แต่ทำไมเขาไม่คิดว่าเขาก็ยังรวยกว่าขอทานที่ไม่มีจะกินหรือแม้แต่บ้านที่จะซุกหัวนอน รวยของคนธรรมดาก็ยังไม่เท่ากับรวยของเศรษฐีพ่อค้านายวานิชย์ทั้งหลายที่พรั่งพร้อมไปด้วยเครื่องอุปโภคบริโภคที่เกินจำเป็นและไม่ได้นำมาใช้หรือใช้ไม่คุ้มค่าเช่นมีรถหลายๆคันแต่ใช้ประจำอยู่คันเดียวเป็นต้น เพราะไม่รู้จักพอจึงไม่รวย เศรษฐีบางคนมีสมบัติเป็นหมื่ล้านก็ยังไม่พอใจคิดว่าตนยังจนอยู่ก็ยิ่งหาสมบัติเพิ่มแม้กระทั่งใช้วิธีฉ้อฉลคดโกงก็ทำ

    คนเราทำบุญมักอธิษฐานว่าขอให้รวยแต่หวังรวยทางลัดคือถูกหวยพอไม่ได้ดั่งใจก็โทษสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต้องใช้ปัญญาพิจารณาให้ดี คนเรารวยได้แต่ต้องถึงพร้อมด้วยกุศล รวยทรัพย์ภายนอกไม่สามารถนำเอาไปได้สู้อริยทรัพย์ไม่ได้ หมั่นหาขยันเก็บไม่สุรุ่ยสุร่ายรวยแนนอน แต่จะให้รวยแบบถูกหวยรางวัลพิเศษคงหายากถ้าเป็นอย่างนี้คงรวยกันทั้งประเทศพระและเทวดาคงจะจัดสรรให้ไม่ทัน
     
  14. Khunkik

    Khunkik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    2,150
    ค่าพลัง:
    +18,072
    ถ้าบุญช่วยมาตั้งแต่เกิดแล้วจ้า โอกาสที่จะได้เกินเป็นคน มีอาการครบ 32 และพบพระพุทธศาสนา น่ะไม่ใช่ง่ายน่ะ ดีใจซะเถิดที่มีโอกาสเกิดเป็นคนในพุทธศาสนา ได้มีโอกาสทำความดี สั่งสมความดีให้มากๆ การทำทาน ทำความดี ทำเพื่อละกิเลส ไม่ได้ทำเพื่อสะสมกิเลส ตัณหา และความอยาก
     
  15. ป.วิเศษ

    ป.วิเศษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    329
    ค่าพลัง:
    +411
    ตอนนี้กำลัง ของความปราถนา ก็อีกอย่างหนึ่ง ส่วนมาก เรื่อง คู่รัก เงิน งาน

    พออายุ สัก ๓๕ ก็จะมีบ้าน มีรถ ก็ต้องถามอีกอ่ะว่าเมื่อไหร่จะมีบ้าน มีรถ

    พออายุ ๔๕ ก็อยากรู้ว่าลูก หรือชีวิตบั้นปลายจะสบายไหม คือ เริ่มป่วยเสาะแสะ งัย

    พออายุ ๕๕ ก็อยากรู้ว่า ชีวิตหลังเกษียณอายุจะไปเที่ยวไกลเท่าไหร่ อ่ะ เพราะ ไม่มีเงินเดือนแล้ว เหลือแค่รายจ่ายค่ายา ค่ารถ ค่าทำฟัน (ที่หักแล้ว) ซ่อมรถที่ผ่อนเสร็จ เริ่มซ่อมบ้านที่ผ่อน ๒๐ กว่าปี เงิน ใช้ ออก ทุก วัน

    พออายุ ๖๕ ก็เริ่มถามวนเวียนกับตัวเอง เมื่อไหร่ จะหายป่วย หรือ เมื่อไหร่จะตาย ผื่อจะดีกว่าที่เป็นอยู่อ่ะ

    วัฏจักร ก็วนเวียน อย่างนี้แหละ ถ้าอยู่กับคนแก่ มาก ๆ กับเด็ก แบเบาะมากๆ จนซึ่งจะเห็นขบวนการวนเวียน มันเป็นคล้าย ๆ อย่างนี้แหละ
     
  16. ลุงชาลี

    ลุงชาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,958
    ค่าพลัง:
    +4,763
    โมทนาสาธุครับ ผมกำลังเป็นแบบนี้อยู่ จริงๆไม่อยากว่างงาน แต่ไม่มีใครจ้าง
    คงต้องทุกข์อีกต่อไป กำลังหาช่องทางแก้ไขอยู่ บุญคงจะช่วยได้บ้าง สาธุ
     
  17. Ball ^_^

    Ball ^_^ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2008
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +49
    อยากรู้ว่าทำบุญไปทำไม คุณก็บำเพ็ญให้ได้ตาทิพย์เหมือนหมอดูท่านนั้นซิครับ แล้วก็ไปดูทุกสิ่งที่สงสัย นรก สวรรค์ บาป บุญ มีจริงไหม ส่งผลอย่างไร วิธีการฝึกก็มีอยู่แล้ว พระพุทธเจ้าท่านประทานให้ในกรรมฐาน 40 อยู่แล้ว ไม่มีใครตอบได้ดีเท่ากับประสบการณ์จริงที่พบเองหรอกครับ

    อย่ารอให้ตายจริงๆแล้วค่อยรู้เลย มันจะสายเกินไป แก้ไขอะไรไม่ทันแล้ว เกิดมาพบพระพุทธศาสนาทั้งทีเก็บเกี่ยวให้เต็มที่ดีกว่าครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...