บทสนทนาจอมปราชญ์ :เมื่อพระเจ้าอยู่หัวถามหลวงตามหาบัวฯ เรื่องพุทธภูมิ

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย lepus, 10 กรกฎาคม 2008.

  1. กิตติรัตน์ นพต

    กิตติรัตน์ นพต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2008
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +363
    แผ่นดินนี้ เย็นศิระเพราะพระบริบาล.....
    อยากฟังบทสนทนาของในหลวงกับหลวงตาในเหตุการณ์ดังกล่าวมานานแล้วครับ เพิ่งมีโอกาสได้ฟังจริงๆก็วันนี้เอง ขอบคุณท่านที่นำมาลงให้ได้ทราบกันด้วยนะครับ
    ขออนุโมทนาด้วยครับ
     
  2. - เงาะป่า -

    - เงาะป่า - เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +565
    สำหรับผมคิดว่า พระโพธิสัตว์ กับ พระอรหันต์ ท่านสนธนาธรรมกันครับ

    อนุโมทนาสาธุครับ
    ------------------------------------------------------------------------------------------------------
    พระคุณพ่อ
    --> http://palungjit.org/showthread.php?p=1326572#post1326572
    มาเที่ยว วัดเกตการาม จ.เชียงใหม่ วัดประจำปีจอกัน
    --> http://palungjit.org/showthread.php?t=136821
    พุทโธหาย....?
    --> http://palungjit.org/showthread.php?p=1329341#post1329341
    ปรัชญาพุทธกับคนรัก(ที่ไม่รักเรา) เอ๊า!!ใครอกหักยกมือขึ้น
    --> http://palungjit.org/showthread.php?p=1338677#post1338677
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2008
  3. อรรัชช์ฐาน์

    อรรัชช์ฐาน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +437
    โมทนาสาธุค่ะ
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE class=alt1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. ตักศิลา

    ตักศิลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    498
    ค่าพลัง:
    +440
    อนุโมทนาสาธุครับ
    ดีใจทีได้เกิดเป็นคนไทยและได้อยู่ใต้ร่มบวรพุทธศาสนา
     
  5. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    เป็นกระทู้ที่อ่านแล้วสุดปลื้มใจเหลือพรรณนาจริงๆ
    สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. สวนะ

    สวนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    465
    ค่าพลัง:
    +201
    ปีติ..ปีติค่ะ
    ขออนุโมทนากับ จขกท. ที่นำมาเผยแพร่ให้ได้อ่านกัน
     
  7. อนูดิน

    อนูดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    407
    ค่าพลัง:
    +2,012
    เท่าที่ทราบพระองค์ทรงเหลือระยะเวลาไม่เกินสามสี่ชาติ บารมีจะเต็ม
    หลังจากนั้นจะทรงไปจุติ ณ.ดุสิตเทวโลก แล้วรอคิวเพื่อไปตรัสรู้
    เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    และเท่าที่ทราบจากการเดาเอา
    คิวถัดไปจากสมเด็จองค์ปัจจุบันคือพระศรีอาริย์เมตตรัย(บารมีสามสิบทัศน์เต็มแล้ว
    ตอนนี้รออยู่ดุสิตรอเวลาให้ครบอายุ ตามธรรมเนียมพระโพธิสัตว์ที่จะมาตรัสรู้)
    คิวต่อมาคือหลวงพ่อปาน โสนันโท
    คิวของพระยาอสุรินทราหูคือองค์พ่อจตุคามรามเทพฯ
    โตไทยพรามณ์ตอนนี้ตามพุทธทำนายต้องรอให้หมดกรรมในอเวจีก่อน
    เหลือสุภพรามณ์หรือสุภมานพท่านนี้ไม่ทราบว่าตอนนี้เป็นผู้ใด
    บางตำราว่าไว้ว่า สุภมานพ หรือสุภพราหมณ์จะได้สำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณ
    ก่อนโตไทพราหมณ์ (ท่านกล่าวว่า ลูกจะสำเร็จก่อนพ่อ) เป็นองค์ที่สี่พอดี
    และองค์สุดท้ายคือท่านช้างปาลิไลยกะคือหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
    หรือพระราชกวี วัดโสมฯ ในปัจจุบัน(แต่เห็นบางท่านว่าไว้ว่าท่านลาฯแล้ว)

    ส่วนที่เหลือในอนาคตวงศ์ ได้ทราบมาว่าได้ลาพุทธภูมิเรียบร้อยหมดแล้ว

    เพราะในอนาคตวงศ์ ทั้งสิบพระองค์ ต้องเหลือเพียง หกพระองค์เท่านั้น
    หากท่านใดลาฯ ก็จะมีพระโพธิสัตว์ท่านอื่นๆที่รอคิวอยู่มารับช่วงไปครับ

    ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2008
  8. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอเธอเมื่อใด ขอให้เธอได้อนุโมทนาส่วนกุศลนี้ด้วยเถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

    <!-- / message -->
     
  9. chaiyos_d

    chaiyos_d สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +3
    อนุโมทนาบุญทุกๆท่านครับ และขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมปฏิบัติธรรม เพื่อเป็นพุทธบูชา เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา เพื่อพ่อหลวงของเรา
     
  10. parapuda

    parapuda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +250
    [​IMG]

    ดูเเล้วชื่นใจมากเลยครับ

    ขอร่วมอนุโมทนาด้วยครับ
    ------------------------------
    आपका बहुतबहुतधन्यवाद
    นิพพานนะปัจจะโยโหตุ--ขอปัจจัยทั้งปวงนำพาสรรพสัตว์ทั้งหลายให้นิพพาน สาธุ<!-- / message -->
     
  11. yotin pol

    yotin pol Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2007
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +59
    ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน สาธุ<!-- / message -->
     
  12. krisdasri

    krisdasri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2008
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +759
    ขอให้พุทธศาสนาสืบอยู่ต่อไป ให้ได้ถึง 5000 ปีด้วยเทอญ
    นำพาสัตวโลกให้เข้าสู่ พระนิพพาน ให้ได้มาก มากที่สุด
     
  13. oหนุ่มพเนจรo

    oหนุ่มพเนจรo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +55
    พระเจ้าอยู่หัวฯ ตอบหลวงตาว่า "เข้าใจแล้วหลวงปู่ แล้วนิพพานเป็นอย่างไรนะ หลวงปู่"<O:p</O:p

    หลวงตาตอบ : "อ้อ พ่อหลวงเหมือนพ่อหลวงมาวัดป่าบ้านตาดนี่แหละ รู้ไหมว่าวัดป่าบ้านตาดอยู่ตรงไหน อยุ่บนกุฏินี่เหรอ วัดป่าบ้านตาดอยู่ไหนล่ะ แต่พอพระมหากษัตริย์มาถึงนี่แล้ว บริเวณนี้ทั้งหมดคือวัดป่าบ้านตาดนี้แหละ แต่จะชี้ลงไปว่าที่กุฏิอาตมาก็ไม่ใช่ ที่กุฏิพระก็ไม่ใช่ ที่ศาลาก็ไม่ใช่ ไม่ใช่ทั้งหมด แต่เมื่อรวมกันทั้งหมดในกำแพงวัดนี้นี่แหละคือวัดป่าบ้านตาด นี่แหละพระนิพพานก็มีความหมายแบบเดียวกัน"


    คือผมไม่ค่อยเข้าใจ มีผู้รู้คนไหนพอที่จะอธิบายให้ผมหน่อยได้ไหมครับ
     
  14. Khunkik

    Khunkik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    2,150
    ค่าพลัง:
    +18,072
    ... ไม่รู้ว่าพ่อหลวงแม่หลวงของไทยทำงานปรารถนาความเป็นอะไร... ทำงานกันจนไม่มีเวลาพักผ่อน...


    f6e3b4736b.jpg
     
  15. ปัทมินทร์

    ปัทมินทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +1,393
    ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น ของในหลวง และศรัทธาในองค์หลวงตามหาบัวอย่างมากครับ สาธุ บุคคลผู้ควรค่าแห่งการบูชายิ่งนัก โชคดีที่เกิดมาทันได้พบ สาธุๆ
     
  16. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,667
    ค่าพลัง:
    +9,239
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
    ขอกราบบูชาพ่อแม่ครูบาอาจารย์ เจ้าค่ะ
     
  17. สปาต้า

    สปาต้า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +46
    หลวงตาตอบไม่ตรงกับคำถาม แต่ที่หลวงตาตอบหมายถึงส่วนต่างๆที่ประกอบกันขึ้น อ่านใน<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" border=0><TBODY><TR><FONT face="Ms Sans Serif, Geneva, Helvetica, Arial" color=black size=3><CENTER>[COLOR=darkgold,direction=-35);]มิลินทปัญา วรรคที่ ๑[/COLOR]</TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" border=0><TBODY><TR>[FONT=Ms Sans Serif, Geneva, Helvetica, Arial]<CENTER>[COLOR=darkgold,direction=-35);]ถามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย </CENTER></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" border=0></CENTER>[/COLOR][/FONT]</TR></TBODY></TABLE>
    พระนาคเสนตอบว่า
     
  18. สปาต้า

    สปาต้า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +46
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" border=0><TBODY><TR><FONT face="Ms Sans Serif, Geneva, Helvetica, Arial" color=black size=3><CENTER>[COLOR=darkgold,direction=-35);]พระนาคเสน กล่าวแก้ด้วยราชรถ [/COLOR]</CENTER>
    เมื่อพระเจ้ามิลินท์ตรัสอย่างนี้แล้ว พระนาคเสนองค์อรหันต์ ผู้สำเร็จปฏิสัมภิทาญาณ ผู้ได้อบรมเมตตามาแล้ว จึงนิ่งพิจารณาซึ่งวาระจิตของพระเจ้ามิลินท์อยู่สักครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าวขึ้นว่า
    “มหาบพิตรเป็นผู้มีความสุขมาแต่กำเนิดมหาบพิตรได้เสด็จออกจากพระนครในเวลาร้อนเที่ยงวันอย่างนี้ มาหาอาตมภาพได้เสด็จมาด้วยพระบาท ก้อนกรวดเห็นจะถูกพระบาทให้ทรงเจ็บปวด
    พระกายของพระองค์เห็นจะทรงลำบากพระหฤทัยของพระองค์เห็นจะเร่าร้อน ความรู้สึกทางพระวรกายของพระองค์ เห็นจะประกอบกับทุกข์เป็นแน่ เพราะเหตุไร อาตมภาพจึงว่าอย่างนี้
    เพราะเหตุว่า มหาบพิตรมีพระหฤทัยดุร้าย ได้ตรัสพระวาจาดุร้าย มหาบพิตรคงได้เสวยทุกขเวทนาแรงกล้า อาตมาจึงขอถามว่า มหาบพิตรเสด็จมาด้วยพระบาท หรือด้วยราชพาหนะอย่างไร”
    พระเจ้ามิลินท์จึงตรัสตอบว่า
    “ข้าแต่พระนาคเสน โยมไม่ได้มาด้วยเท้า โยมมาด้วยรถต่างหาก”
    พระนาคเสนเถระจึงกล่าวประกาศขึ้นว่า
    “ขอพวกโยกนกทั้ง ๕๐๐ กับพระภิกษุ ๘ หมื่นองค์นี้ จงฟังถ้อยคำของข้าพเจ้า คือพระเจ้ามิลินท์นี้ได้ตรัสบอกว่า เสด็จมาด้วยรถข้าพเจ้าจะขอถามพระเจ้ามิลินท์ต่อไป”
    กล่าวดังนี้แล้ว จึงถามว่า
    “มหาบพิตรตรัสว่า เสด็จมาด้วยรถจริงหรือ”
    พระเจ้ามิลินท์ตรัสตอบว่า
    “เอ...ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า โยมว่ามาด้วยรถจริง”
    พระเถระจึงซักถามต่อไปว่า
    “ถ้ามหาบพิตรเสด็จมาด้วยรถจริงแล้ว ขอจงตรัสบอกอาตมภาพเถิดว่า งอนรถหรือ...เป็นรถ”
    “ไม่ใช่ พระผู้เป็นเจ้า”
    “ถ้าอย่างนั้น เพลารถหรือ ...เป็นรถ”
    “ไม่ใช่”
    “ถ้าอย่างนั้น รถมีอยู่ในเพลาหรือ”
    “ไม่ใช่”
    “ถ้าอย่างนั้น ล้อรถหรือ...เป็นรถ”
    “ไม่ใช่”
    “ถ้าอย่างนั้น รถมีอยู่ในล้อรถหรือ”
    “ไม่ใช่”
    “ถ้าอย่างนั้น ไม้ค้ำรถหรือ...เป็นรถ”
    “ไม่ใช่”
    “ถ้าอย่างนั้น กงรถหรือ...เป็นรถ”
    “ไม่ใช่”
    “ถ้าอย่างนั้น เชือกหรือ....เป็นรถ”
    “ไม่ใช่”
    “ถ้าอย่างนั้น รถมีอยู่ในเชือกหรือ”
    “ไม่ใช่”
    “ถ้าอย่างนั้น คันปฏักหรือ...เป็นรถ”
    “ไม่ใช่”
    “ถ้าอย่างนั้น รถมีอยู่ในคันปฏักหรือ”
    “ไม่ใช่”
    “ถ้าอย่างนั้นแอกรถหรือ....เป็นรถ”
    “ไม่ใช่”
    “ถ้าอย่างนั้น รถมีอยู่ในแอกหรือ”
    “ไม่ใช่”
    “ขอถวายพระพร อาตมภาพไม่เล็งเห็นว่า สิ่งใดเป็นรถเลย เป็นอันว่ารถไม่มี เป็นอันว่ามหาบพิตรตรัสเหลาะแหละเหลวไหล มหาบพิตรเป็นพระราชาผู้เลิศในชมพูทวีปนี้ เหตุไรมหาบพิตรจึงตรัสเหลาแหละเหลวไหลอย่างนี้”
    เมื่อพระเถระกล่าวอย่างนี้แล้ว พวกโยนข้าราชบริพารทั้ง ๕๐๐ นั้น ก็พากันเปล่งเสียงสาธุการขึ้นแก่พระนาคเสนเถระแล้ว กราบทูลพระเจ้ามิลินท์ขึ้นว่า
    “ขอมหาราชเจ้าจงทรงแก้ไขไปเถิดพระเจ้าข้า”
    พระเจ้ามิลินท์จึงตรัสขึ้นว่า
    “ข้าแต่พระนาคเสน โยมไม่ได้พูดเหลาะแหละเหลวไหล การที่เรียกว่ารถนี้ เพราะอาศัยเครื่องประกอบรถทั้งปวง คืองอนรถ เพลารถ ล้อรถ ไม้ค้ำรถ กงรถ เชือกขับรถ เหล็กปฏัก ตลอดถึงแอกรถ มีอยู่พร้อม จึงเรียกว่ารถได้”
    พระเถระจึงกล่าวว่า
    “ถูกแล้ว มหาบพิตร ข้อที่อาตมภาพได้ชื่อว่า “นาคเสน” ก็เพราะอาศัยเครื่องประกอบด้วยอวัยวะทุกอย่าง คือ อาการ ๓๒ มีผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เป็นต้น อันจำแนกแจกออกไปเป็นขันธ์ ธาตุอายตนะทั้งปวง
    ข้อนี้ถูกตามถ้อยคำของ นางปฏาจาราภิกษุณี ผู้เป็นพระอรหันต์ กล่าวขึ้นในที่เฉพาะพระพักตร์ของสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
    “อันที่เรียกว่ารถ เพราะประกอบด้วยเครื่องรถทั้งปวงฉันใด เมื่อขันธ์ทั้งหลายมีอยู่ก็สมมุติเรียกกันว่า เป็นสัตว์ บุคคล ตัวตนเราเขาฉันนั้น” ดังนี้ขอถวายพระพร” พระเจ้ามิลินท์ทรงฟังแก้ปัญหาจบลง น้ำพระทัยของพระบาทท้าวเธอปรีดาปราโมทย์ ออกพระโอษฐ์ตรัสซ้องสาธุการว่า “สาธุ...พระผู้เป็นเจ้าช่างแก้ปัญหาได้อย่างน่าอัศจรรย์ กล่าวปัญหาเปรียบเทียบอุปมาด้วยปฏิภาณอันวิจิตรยิ่ง ให้คนทั้งหลายคิดเห็นกระจ่างแจ้งถูกต้องดีแท้ ถ้าพระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ ก็จะต้องทรงสาธุการ
    </TR></TBODY></TABLE>
     
  19. สปาต้า

    สปาต้า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +46
    มิลินทปัญหา
    วรรคที่๔

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" border=0><FONT face="Ms Sans Serif, Geneva, Helvetica, Arial" color=black size=3><CENTER>[COLOR=darkgold,direction=-35);]ปัญหาที่ ๘ [/COLOR]</CENTER><CENTER>[COLOR=darkgold,direction=-35);]ถามเรื่องนิโรธนิพพาน [/COLOR]</CENTER>
    “ข้าแต่พระนาคเสน นิโรธ คือ นิพพาน หรือ?”
    “ถูกแล้ว มหาบพิตร”
    “ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า อย่างไรจึงว่า นิโรธ คือ นิพพาน?”
    "ขอถวายพระพร อันว่าพาลปุถุชนทั้งหลาย ย่อมเพลิดเพลินยินดีใน อาตนะภายในภายนอก (ยินดีในรูป เสียง กลิ่น รส สักผัส) จึงถูกกระแสตัณหาพัดไป จึงไม่พ้นจากการเกิด แก่ ตาย โศกร่ำไร ไม่สบายกาย ไม่สบายใจ และคับแค้นใจ
    ส่วนอริยสาวกผู้ได้สดับคำสอนของพระพุทธเจ้า ย่อมไม้เพลิดเพลินยินดีใน อายตนะภายในภายนอก
    เมื่อไม่เพลิดเพลินยินดี ตัณหาก็ดับไป เมื่อตัณหาดับ อุปาทานดับ ภพดับ เมื่อภพดับ ชาติก็ดับ เมื่อชาติ คือ การเกิดดับ ความโศก ความร่ำไร ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ และความคับแค้นใจก็ดับ เป็นอันว่า ความดับแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้ อย่างนี้แหละมหาบพิตร จึงว่า นิโรธ คือ นิพพาน ” “ถูกต้องดีแล้ว พระผู้เป็นเจ้า”
    <TBODY></TBODY></TABLE>
     
  20. สปาต้า

    สปาต้า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +46
    เมณฑกปัญหา
    วรรคที่ ๗

    [COLOR=darkgold,direction=-35);]ปัญหาที่ ๘ [/COLOR]
    <CENTER>[COLOR=darkgold,direction=-35);]ถามถึงความ
    มีอยู่แห่งพระนิพพาน
    [/COLOR]
    </CENTER>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="85%" border=0>[FONT=Ms Sans Serif, Geneva, Helvetica, Arial]
    พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...